+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ

แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์

นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!

ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้

นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้



+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +

เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา

โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก

ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว

แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ

สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน

ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D


ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ

สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ

ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน

ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555

Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน

ตอน: ตอนที่ 19

แสงแดดจัดจ้าในเช้าวันที่อากาศสดชื่นทำให้สาวัชอารมณ์ดีกว่าปกติ การถูก ‘คุณนายใหญ่’ เรียกพบก่อนไปทำงาน ซึ่งเคยเป็นหมัดเด็ดของคนตึกใหญ่ที่สามารถฆ่าความรู้สึกทำให้เขาจิตตกได้เป็นสัปดาห์ มาวันนี้ก็ยังไม่สามารถเปลี่ยนอารมณ์ผ่องใสของเขาให้เจือจางลงเลย

ชายหนุ่มเข้าไปในห้องรับแขก ทำความเคารพภรรยาตามกฎหมายของบิดาซึ่งนั่งอยู่ที่โซฟาหันหน้ามาทางประตูราวกับจดจ่อรอคอยการมาถึงของเขา

“เห็นว่าเตี่ยถือหางอยู่เหรอ นึกจะไปทำงานกี่โมงก็ได้” วาจาของดารณีพุ่งตรงไปยังจุดอ่อนของคู่สนทนาเสมอ

“ขอโทษครับคุณนายใหญ่ บริษัทเข้างานแปดโมงครึ่ง ผมเห็นว่าออกจากบ้านตอนนี้ ยังไงก็ไปถึงสำนักงานทันเวลาเข้างานอยู่แล้วครับ”

“ดีนี่ ให้พ่อให้พี่ไปทำงานเช้า ๆ ตัวเองไปสายตะวันโด่ง หรือถือว่าเป็นผู้บริหารคนต่อไปจะทำอะไรก็ได้”

“ผมคิดว่าคุณนายใหญ่น่าจะพอใจมากกว่าที่ผมไม่ไปทำงานพร้อมเตี่ย คุณหยงและคุณฮก จะได้ไม่ต้องเข้าบริษัทพร้อมกันให้เอิกเกริก ผมเจียมตัวเสมอว่าที่มีทุกวันนี้ได้ก็เพราะบุญคุณของคุณนายใหญ่และสกุลปรเมศวร์ ไม่เคยคิดโอ้อวดหรือพยายามตีเสมอเลยสักนิด” เขาอธิบายอย่างที่ทำมาแล้วนับร้อยนับพันครั้ง

“ถ้าไม่อยากตีเสมอ งั้นก็โอนหุ้นที่เฮียยกให้เธอคืนมาให้ฉันสิ”

“ถ้าผมทำแบบนั้น คุณนายใหญ่จะสบายใจขึ้น แล้วจะเลิกกระแนะกระแหน พูดจาดูถูกแม่ผมด้วยใช่ไหมครับ”

“ฉันไม่เคยกระแนะกระแหนแม่ของเธอนะสาวัช ฉันแค่พูดความจริง”

“นั่นแหละครับ จะความจริงหรือเท็จก็ตาม คุณนายใหญ่จะเลิกใช้คำพูดพวกนั้นกับแม่ผมได้หรือเปล่า”

“นี่ฉันกำลังออกคำสั่งนะ ไม่ใช่ให้เธอมาต่อรอง” ดารณีเสียงเขียว

สาวัชกลืนกลั้นความหงุดหงิด จะมีอีกกี่คน อีกกี่คำสั่งที่เขาต้องปฏิบัติตาม แล้วตลอดทั้งชีวิตนี้เขาจะมีวันหนีพ้นวัฏจักรอันน่าสมเพชนี้หรือเปล่า...

“ผมพร้อมเสมอ คุณนายใหญ่ให้ทนายจัดการเรื่องเอกสารโอนหุ้นมาได้เลย ผมไปได้หรือยังครับ” เขาตอบตกลงอย่างไม่ไยดี สำหรับสาวัชแล้ว ความสุขของเขาไม่ใช่ตัวเลขในบัญชี หรือรายการทรัพย์สินที่ครอบครอง

“ฉันเชื่อคำพูดของเธอได้ใช่ไหม”

“เพื่อความสบายใจของคุณนายใหญ่ นอกจากโอนหุ้นให้แล้ว ผมจะออกจากบ้านหลังนี้ด้วย ดีไหมครับ”

ดารณีมีสีหน้าประหลาดใจแวบหนึ่ง ก่อนแปรเป็นยิ้มหยัน “เธอฉลาดเสมอนะสาวัช หลายครั้งจริง ๆ ที่ฉันอยากให้ลูกตัวเองฉลาดได้สักครึ่งนึงของเธอ เธอจะเปิดประเด็นให้เฮียมาเพ้ยฉัน หาว่าบีบให้เธอออกจากบ้านล่ะสิ เฮียจะได้เอาสมบัติไปทูนหัวให้แม่เธอเป็นการปลอบใจ เดินเกมฉลาดทุกตาเชียวนะ”

แม้เป็นวันอารมณ์ดีแห่งชาติ แต่ทุกอย่างย่อมมีขีดสุดของความอดทน สาวัชถอนใจด้วยความรำคาญ “แล้วคุณนายใหญ่อยากให้ผมทำยังไงถึงจะพอใจครับ อยู่บ้านก็รกหูรกตา จะย้ายออกก็เป็นแผนเรียกร้องความสนใจอีก” เขาหรี่ตา ส่ายหน้าระอา “เรียนตามตรงว่าผมเอาใจไม่ถูก”

ดารณีมองเขานิ่ง ๆ พลันดวงตากร้าวค่อย ๆ ราแสง ไหล่ที่ตั้งตรงลู่ลงทีละน้อย เมื่อนางเอ่ยประโยคถัดไป “เธอไม่ต้องมาเอาใจฉันหรอกสาวัช คิดว่าฉันไม่รู้เหรอว่าเธอพยายามชดใช้ให้ฉันกับลูก อย่าทำอีกเลย ไม่มีประโยชน์หรอก เพราะสิ่งที่แม่เธอทำไว้ มันหนักหนากว่านั้นเยอะ ใช้กันถึงชาติหน้าก็ยังไม่พอ! ”

นางพิงพนักเก้าอี้ หลับตาลง แล้วโบกมือ “ออกไปซะ จะไปทำงานไม่ใช่เหรอ”

ชายหนุ่มยืนนิ่งมองสตรีผู้ถูกรินรดด้วยความพ่ายแพ้ตลอดทั้งชีวิตสมรสด้วยสายตาเห็นใจ เขาเลื่อนสายตาไปหยุดที่ชุดน้ำชาบนโต๊ะรับแขก สาวัชเห็นกาน้ำร้อนต้มวางอยู่ จึงก้มลงรินน้ำชาจากเหยือกพักชาใส่แก้วบางใสใบจิ๋ว ดึงผ้าเช็ดหน้าจากกระเป๋าเสื้อสูทมาวางเคียงข้าง แล้วออกจากห้องไปเงียบ ๆ

ดารณีคอยจนได้ยินเสียงงับประตูเข้าด้วยกัน แล้วจึงลืมตาขึ้นอีกครั้ง น้ำชาร้อนซึ่งรินรอไว้ค่อนแก้วถูกต้องตรงตามธรรมเนียมทำให้ใจอ่อนลง พลันที่หางตาเห็นผ้าเช็ดหน้า อารมณ์ต่าง ๆ ก็ประดังเข้ามาในใจ

ไอ้ลูกเมียน้อยมันรู้ว่านางต้องร้องไห้ทุกวัน มันถึงวางผ้าเช็ดหน้าไว้เยาะเย้ย!

สตรีอาวุโสถลันลุกขึ้นยืน คว้าชุดน้ำชาทั้งถาดขว้างอัดประตูเสียงดังเปรื่องระบายความเจ็บแค้นในใจ ตามด้วยการคว้าหมอนและข้าวของใกล้มือเขวี้ยงตามเป็นระวิง จนเหนื่อยจึงหยุดยืนหอบหายใจหนักหน่วง

นางหยิบผ้าเช็ดหน้าของสาวัชโยนลงพื้นแล้วบรรจงใช้เท้าขยี้จนยับเยิน จากนั้นทิ้งตัวลงบนเก้าอี้ ร้องไห้โฮอย่างหมดท่า ไร้สง่าภรรยาตีทะเบียนโดยสิ้นเชิง!



ปัญหานั้นเป็นของแปลก ยิ่งขบคิดแล้วหาทางออกไม่ได้ก็ยิ่งเครียดยิ่งวนเวียนอยู่ในสมอง แต่เมื่อปล่อยวางได้ ก็จะพบว่ามันไม่ใช่ปัญหาอีกต่อไป สาวัชออกจากบ้านด้วยความรู้สึกปลอดโปร่งเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่กลับจากอเมริกา ทว่าเขาไม่กล้าหาคำตอบว่าเหตุผลเป็นเพราะตัดสินใจยกหุ้นคืนให้ดารณี หรือเพราะอะไรกันแน่ ชายหนุ่มรู้แค่ว่าโลกของเขาไม่เป็นสีเหงา ๆ เช่นที่ผ่านมา เขาไม่รู้หรอกว่ามันเปลี่ยนเป็นสีอะไร แต่อย่างน้อยมันดีกว่าโลกสีเทาเก่า ๆ ที่เขาเคยอาศัยอยู่มาตลอดหลายสิบปี

ครั้นมาถึงคฤหาสน์เทียมสุบรรณ เขาก็ต้องแปลกใจเมื่อเห็นภาพหญิงสาวสวมเดรสลูกไม้ฉลุสีขาวยาวเหนือเข่าเล็กน้อย คาดทับด้วยเข็มขัดเส้นโตสีน้ำตาลยืนอยู่หน้ามุข ชายหนุ่มเขม้นตามองอีกครั้งเพื่อให้แน่ใจว่ามิได้ตาฝาด กระเป๋าแอร์เมสสีชมพูอ่อนและรองเท้าผ้าใบสีเดียวกันทำให้เขายิ่งประหลาดใจจนต้องจอดรถแล้วมุ่งหน้าเข้าไปหาสตรีที่กำลังทำหน้ากระเง้ากระงอดผิดกับสีชุดหวานฉ่ำ

“อิงโทร.หาเป็นสิบรอบแล้ว คุณไม่รับสายอิงเลย อิงกระวนกระวายนะเนี่ย ไม่รู้ว่าคุณจะลืมแวะมารับอิงก่อนไปทำงานหรือเปล่า”

“ผมขับรถอยู่”

“แหม...ก็รับสักครั้ง แล้วบอกว่ากำลังขับรถสักหน่อย ไม่ได้เลยหรือไงคะ”

สาวัชไม่ตอบ คนมองก็ยิ่งฮึดฮัด

“รู้ละ!” หญิงสาวโพล่งลอย ๆ หยิบโทรศัพท์จากกระเป๋าถือออกมากดยุกยิกอยู่ชั่วขณะ ไม่กี่วินาทีถัดมาก็ทำหน้าบู้ “โธ่...คุณสาวัชไม่ได้ใช้ไลน์ [1] หรือคะ”

“ไลน์” เขาทวนคำเสียงต่ำ “ผมไม่ใช้ของพวกนั้นหรอก ไร้สาระ เสียเวลา”

ย่ะ พ่อคนสาระเยอะ เชอะ! อิงอรุณเบ้หน้าเขม่นในใจ ครั้นนึกได้จึงปั้นยิ้ม

“อุ๊ย อิงก็มัวแต่ชวนคุย ลืมถามเลยว่าคุณสาวัชทานอาหารเช้ามาหรือยัง”

“เรียบร้อยแล้ว” เขามองเธอตั้งแต่ศีรษะจรดปลายเท้า “ฉีดยาเมื่อวานทำให้ไข้ขึ้นหรือไง วันนี้คุณแต่งตัวแปลก ๆ นะ”

“หมอห้ามใส่ส้นสูง อิงก็เลยสวมรองเท้าผ้าใบแทนไงคะ”

“รองเท้าผ้าใบเสริมส้นน่ะสิ” เขาแย้งรู้ทัน “สูงเท่าปกติเชียวนะ”

อิงอรุณยิ้มแหยเสจับผมทัดหู เหมือนเด็กถูกจับได้ว่ากินขนมในห้องเรียน

เขาเผลอมองตามกิริยานั้นโดยไม่ตั้งใจ ครั้นเห็นหญิงสาวกำลังมองมาก็รู้สึกเก้อ ๆ จึงรีบเปรยสิ่งแรกที่นึกออก “คุณเหมาะกับโฆรุ่มมากกว่าพาเนราย หน้าปัดแพมโฟร์ตี้ไนน์ใหญ่เกินข้อมือคุณ สวมแล้วเทอะทะ”

หญิงสาวดูนาฬิกาหน้าปัดใหญ่สายหนังสีชมพู “มีนาฬิกายี่ห้อไหนรุ่นไหนที่คุณสาวัชไม่รู้จักบ้างไหมเนี่ย เห็นปุ๊บก็ดูออกเลยว่าอิงสวมแพมโฟร์ตี้ไนน์ น่าทึ่งจัง”

“เสียดายที่รุ่นนี้เลิกผลิตไปแล้ว” น้ำเสียงเขาเสียดายจริงจัง

“งั้นอิงขายต่อให้คุณเอาไหมคะ ท่าจะโก่งราคาได้เยอะดี” อิงอรุณถามกลับ สายตาคล้ายกำลังคอยฟังคำตอบด้วยใจจดจ่อ

จู่ ๆ สาวัชก็นึกถึงบทสนทนาที่เขาลอบได้ยินอิงอรุณพูดทางโทรศัพท์วันที่ออกจากโรงพยาบาล เมื่อรวมกับเอกสารที่คิวปิดฯ ยื่นขอสินเชื่อกับณัฐภัทรคอร์ปฯ ดูเหมือนจะสรุปได้เพียงประการเดียวว่าสถานการณ์ทางการเงินส่วนตัวของอิงอรุณคงไม่ค่อยดีนัก เจ้าหล่อนจึงคิดเอาสมบัติส่วนตัวมาเร่ขายเช่นนี้

“ไปขายคนอื่นเถอะ เรียกเท่าไหร่ก็มีคนซื้อ เพราะมันหายาก” สาวัชย้ำกับตัวเองว่าอย่าเก็บเรื่องของผู้หญิงคนนี้มาใส่ใจให้มากนัก

หญิงสาวยู่หน้า “ถ้าอิงประกาศขายสองเท่าของราคาที่ซื้อมา คุณสาวัชว่าจะมีคนยอมจ่ายไหมคะ”

“ถ้ามีคนอยากได้มาก ๆ เขาอาจจะยอมทุ่มก็ได้”

“ถ้าได้จริงก็คงดีเนอะ จะว่าไปสะสมนาฬิกานี่มันก็ดีเหมือนกันนะคะ ของใช้แล้วแท้ ๆ แต่กลับขายได้ราคามากกว่าตอนซื้อมาใหม่ ๆ ซะอีก นี่ถ้าเป็นรุ่นธรรมดา ใส่แล้วราคาตก ขายต่อเปลี่ยนมือก็ยาก”

ชายหนุ่มเกือบปล่อยข้อความนั้นผ่านไปแล้ว พลันความคิดบางอย่างกลับวาบขึ้นในใจ ของที่ใคร ๆ ต้องการ ราคาย่อมสูงเป็นเงาตามตัว แต่ถ้าไม่มีใครต้องการ ราคาก็ตกต่ำ และของที่ราคาต่ำเปลี่ยนมือยากย่อมไม่ต่างกับขยะ!

“คุณสาวัชกำลังคิดอะไรคะ อยู่ดี ๆ ทำไมยิ้มคนเดียว”

“ไม่มีอะไรหรอก” ที่จริงเขารู้แล้วว่าจะแก้ปัญหาหุ้นของพีอาร์เอ็มยังไง!

“เวลาคนพูดว่าไม่มีอะไร จริง ๆ แล้วมีทุกรายเลยนะคะ” หญิงสาวกระเซ้า

“จะไปทำงานหรือยัง” เขาทำสีหน้ามึนตึง

“ค่ะ ๆ ไปแล้วก็ได้ค่ะ” อิงอรุณโขยกเขยกไปที่รถ โดยมีสาวัชก้าวตามไปทางเบื้องหลัง ไม่เข้าไปช่วยประคอง เพราะไม่ได้ ‘สนิทกัน’ ขนาดนั้น!

เมื่อออกรถอิงอรุณก็ก่อกวนสมาธิของเขาอย่างที่ทำเสมอ! สาวัชฟังเสียงพูดแจ้ว ๆ ผ่านหูด้วยสีหน้าเคร่งขรึม ชายหนุ่มส่งคนเจ็บที่ลานจอดหน้าสำนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ แล้วจึงเคลื่อนรถไปยังอาคารโภไคยทาวเวอร์ที่อยู่ติดกัน

เพียงจอดรถดับเครื่องเสร็จ โทรศัพท์มือถือของเขาก็มีสายเรียกเข้า สาวัชกดรับสายเมื่อเห็นว่าผู้โทร.มาคือเจ้าหน้าที่ของมหาวิทยาลัย

“อาจารย์สาวัช ดิฉันมีเรื่องรบกวนหน่อยค่ะ เดือนหน้าอาจารย์จากเบิร์กเลย์จะมาเมืองไทย มีรูปถ่ายโบราณสถานหลายแห่งแนบมาพร้อมกับกำกับว่าอยากไปชม รบกวนอาจารย์ช่วยดูหน่อยว่ามันเป็นที่ไหนบ้าง จะได้เตรียมรถพาชมได้ถูก”

“ฟอร์วาร์ดเมลมาให้ผมละกัน เดี๋ยวผมดูให้”

“รูปมาเป็นฮาร์ดก๊อปปี้พร้อมหนังสือตอบรับคำเชิญค่ะ ดิฉันถ่ายรูปส่งให้ดูทางโปรแกรมแชทแทนได้ไหมคะ อาจารย์ถนัดใช้แอพไหนคะ”

“เอ้อ...” ชายหนุ่มอึกอัก “ส่งมาทางไลน์ละกัน”

“เอ๊ะ! อาจารย์ใช้ไลน์ด้วยหรือคะ ทำไมดิฉันไม่เคยเห็นชื่ออาจารย์ในลิสต์เพื่อนเลยล่ะ” อีกฝ่ายทำเสียงประหลาดใจ

สาวัชอ้อมแอ้มตอบ “ไม่เคยใช้หรอก แต่ในเมื่อมันจำเป็นเพราะคุณต้องส่งรูปทางนั้น เดี๋ยวผมจะลองโหลดมาหัดใช้ละกัน! ”



ณ ห้องประธานบริหารสยามดริ๊งค์คอร์ปอเรชั่น พันเทพทำความเคารพสุพจน์แล้วไปนั่งยังชุดโซฟารับแขกตามที่เจ้าถิ่นพยักพเยิดสั่ง

“ทำไมไม่พักอีกสักหน่อย ยังเดินกะเผลกอยู่เลยนี่”

“ดีขึ้นมากแล้วครับ”

สุพจน์หยิบแฟ้มมานั่งเก้าอี้ข้าง ๆ “พ่ออยากให้เทพมาเริ่มงานที่สยามดริ๊งค์ฯ วันจันทร์นี้เลย เดี๋ยวพ่อจะให้เลขาฯ จัดการเรื่องทำบัตรเครดิต นามบัตร และงานเอกสารอื่น ๆ รอไว้ ตอนเทพมาเริ่มงานจะได้ไม่ฉุกละหุก” ท่านคอยจนพันเทพเงยขึ้นสบตา แล้วจึงยิ้มปรานี “เอาละเรื่องงานจบแล้ว มาคุยเรื่องสำคัญกันบ้าง”

ชายหนุ่มมองท่านด้วยสายตาแสดงความสงสัย

“ก็เรื่องพิธีหมั้นหมายของเทพกับอิงไง พ่อไม่ใช่คนถือฤกษ์ยามอะไร เพราะฉะนั้นวันหมั้นพ่อก็ขอใช้ฤกษ์สะดวกละกัน พ่ออยากจัดงานที่บ้านเทียม-สุบรรณเป็นการภายใน เชิญแขกเฉพาะที่สนิท ๆ ปลายเดือนหน้าตารางนัดของพ่อยังว่าง เทพลองไปปรึกษาท่านนายพลดูละกันว่าเลือกวันไหน รายละเอียดของงาน อิงกับเทพจัดการตามที่ต้องการได้เลย พ่อเป็นเจ้าภาพให้เอง

“ส่วนงานแต่งก็ใช้ฤกษ์ที่คุณหญิงแม้นมาศบอกมา พ่อไม่ขัดข้อง ซึ่งแขกของพ่อคงเยอะพอควร เพราะฉะนั้นพ่อขอรับหน้าเสื่อดูแลค่าใช้จ่ายทั้งหมดเหมือนกัน”

สุพจน์เห็นแววละอายจากดวงตาของพันเทพชัดเจน ท่านวางหน้านิ่ง ๆ ไม่แสดงความรู้สึก ขณะเลื่อนแฟ้มเอกสารไปตรงหน้าชายหนุ่ม “ที่เทพขอร้องพ่อไว้ตอนพ่อออกจากโรงพยาบาล พ่อจัดการให้เรียบร้อยแล้ว แต่ด้วยเงื่อนไขของพ่อ ไม่ใช่ของเทพ พ่อหวังว่าเทพจะเข้าใจนะ”

พันเทพเปิดเอกสารอ่านและทำความเข้าใจอยู่ครู่ใหญ่

“นี่เป็นหนังสือข้อตกลงก่อนแต่งงาน [2] ว่าเทพจะไม่ยุ่งเกี่ยวกับทรัพย์สมบัติทั้งหมดของน้องอิงไม่ว่าจะได้มาก่อนหรือหลังแต่งงาน และหากน้องอิงเสียชีวิตไม่ว่าด้วยสาเหตุใดก็ตาม ทรัพย์สินในส่วนของอิงอรุณจะคืนกลับมาเป็นของกองทุนเทียมสุบรรณ ด้วยวิธีนี้ท่านนายพลจะไม่ได้ประโยชน์จากการทำร้ายลูกสาวของพ่อ หวังว่าเทพจะเข้าใจนะ”

“ผมเข้าใจครับ เพราะแค่ที่ได้บารมีของบ้านเทียมสุบรรณคุ้มครองชีวิตไว้ ก็เป็นพระคุณมากแล้วครับ ผมไม่ต้องการทรัพย์สมบัติของอิงแม้แต่บาทเดียว”

สุพจน์ตบบ่าชายหนุ่ม “พ่อไม่เอาเปรียบเทพขนาดนั้นหรอก นอกจากเงินเดือนซีเอ็มโอแล้ว พ่อจะให้กองทุนฯ ซึ่งดูแลทรัพย์สินและผลประโยชน์ทั้งหมดของบ้านเทียมสุบรรณ จัดสรรเงินให้เทพใช้อีกส่วนนึง ซึ่งเงินจากกองทุนนั่นจะเริ่มโอนเข้าบัญชีเทพทุกเดือนเดือนละสองแสนบาทหลังการแต่งงาน! ”



เจ้าหน้าที่ประสานงานของงานว็อตช์เฟสติวัลโทร.หาอิงอรุณตอนช่วงสายขอนัดเข้ามาพบหญิงสาวที่สำนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ อิงอรุณจำต้องรับนัดทั้งที่ยังหาทางออกไม่ได้ว่าจะหาเงินที่ไหนมาจ่ายค่านาฬิกาเรือนละล้านสาม

“ขอโทษนะคะที่ต้องมารบกวนคุณอิงอรุณ” อีกฝ่ายออกตัวสีหน้ารู้สึกผิด

หญิงสาวนั่งหลังตรงใช้มาดคุณหนูอิงอรุณข่ม หลังทักทายกันตามมารยาท อิงอรุณก็วางเช็คเงินสดที่กรอกตัวเลขเท่ามูลค่านาฬิกาลงบนโต๊ะ “อิงขอจ่ายเป็นเช็คละกันนะคะ ไม่สะดวกเข้าไปรูดบัตรที่ห้างจริง ๆ ”

เธอใช้เช็คลงวันที่ล่วงหน้า กะว่าถ้าสุดวิสัยจริง ๆ คงต้องขอยืมเงินพี่ชายมาเข้าธนาคาร เพราะอิงอรุณมั่นใจว่าไม่มีใครยอมปล่อยให้เช็คของเธอเด้ง [3] เด็ดขาด!

พนักงานของห้างเลื่อนเช็คคืนมาตรงหน้า สีหน้าลำบากใจ “คือว่า...วันนี้ดิฉันไม่ได้มารับเงินค่านาฬิกาหรอกค่ะ แต่จะเอ่อ...ไม่ทราบว่าถ้าจะขอรับนาฬิกาคืนไปแทน คุณอิงจะว่าอะไรไหมคะ ที่คุณอิงแจ้งว่าไม่ได้จะซื้อนาฬิกา ทางห้างก็เลยประชาสัมพันธ์ถึงลูกค้าระดับเอลิสต์โดยตรง แล้วก็มีคนติดต่อมาขอซื้อนาฬิกาเรือนนี้น่ะค่ะ”

“จริงเหรอคะ” อิงอรุณดีใจ ครั้นได้สติก็รีบเก็บอาการ “เสียดายจัง ทีแรกกะว่าจะซื้อไว้ใส่เองนะเนี่ย แต่ถ้ามีคนชอบมากขนาดนั้น งั้นอิงจะยอมถอยให้ก็ได้ค่ะ”

หญิงสาวพับเช็คสอดเก็บใส่กระเป๋ากระโปรง “งั้นคุณฝ้ายรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวอิงไปหยิบกล่องนาฬิกามาให้ค่ะ”

อิงอรุณฮัมเพลงออกจากห้องด้วยความสบายใจ ไชโย! มีคนยอมซื้อนาฬิกาเรือนนี้แล้ว กราบขอบคุณสิ่งศักดิ์สิทธิ์ทุก ๆ พระองค์เจ้าค่ะที่เมตตาช่วยให้อิงผ่านวิกฤตครั้งนี้มาได้แบบสวย ๆ จากนี้ไปอิงจะตั้งใจสวดมนต์ทุกคืน แล้วก็จะทำบุญเยอะ ๆ ด้วยเจ้าค่ะ อิงสัญญา!



สำนักงานของคิวปิดแอสซิสแทนซ์ในช่วงเย็นคลาคล่ำด้วยลูกค้าที่มาเข้าคอร์สหลังเลิกงาน ซึ่งกิจกรรมวันนี้เป็นการทำเทียนเจลและเทียนแฟนซี แต่เพราะแพรวเพชรยังคงพักฟื้นที่โรงพยาบาล อิงอรุณจึงรับหน้าที่ควบคุมความเรียบร้อยแทน

หนุ่มโสดสาวโสดทุกคนต้องแขวนป้ายชื่อระบุหมายเลขสมาชิก หลังจับสลากจับคู่แล้ว ทุกโต๊ะจะช่วยกันทำเทียนตามที่วิทยากรสอน กิจกรรมอันต้องใช้ทั้งความคิดสร้างสรรค์และความประณีตช่วยให้หนุ่มสาวใกล้ชิดและเรียนรู้กันง่ายขึ้น

ทุกอย่างผ่านพ้นไปด้วยดีจนมาถึงช่วงท้าย ขณะทุกคนกำลังชื่นชมผลงานที่ทำเสร็จแล้ว อิงอรุณก็ถือไมโครโฟนเข้ามายืนหน้าห้องเวิร์คช็อปประกาศ

“อิงมีใครบางคนอยากแนะนำให้ทุกคนรู้จักค่ะ” เธอผายมือไปทางประตู แล้วหนุ่มสาวคู่หนึ่งก็ก้าวเข้ามายืนเคียงข้าง “สมาชิก F๑๑๒ และ M๓๐๘ ค่ะ”

เสียงปรบมือดังก้องขณะฝ่ายหญิงรับไมโครโฟนไปถือ

“นาตอนงค์ค่ะ ยินดีที่ได้รู้จักนะคะ” คนพูดเป็นหญิงสาวรูปร่างสูง ค่อนข้างอวบ ผิวขาวผ่อง โปรยยิ้มจนตาหยีพร้อมกับทักทายเสียงสั่นนิด ๆ เธอเล่าประวัติส่วนตัวพอสังเขป “ครั้งแรกนาตได้ยินชื่อบริษัทคิวปิดแอสซิสแทนซ์จากข่าวสังคมค่ะ บอกตามตรงว่าตอนนั้นนาตขำ มั่นใจมากว่าชีวิตนี้ไม่มีวันใช้บริการจำพวกนี้เด็ดขาด แต่อาอี๊...คุณน้าของนาตน่ะค่ะ ท่านแอบมาสมัครใช้บริการพร้อมทั้งจ่ายเงินให้ล่วงหน้า พอนาตรู้ก็มาขอเงินคืนค่ะ ทายสิคะว่านาตได้เงินคืนไหม”

คนฟังส่ายหน้ากันเป็นแถว

“เห็นอิงกับเพชรหน้าเงินขนาดนั้นเลยเหรอค้า” อิงอรุณโอดครวญ เรียกเสียงหัวเราะกราวใหญ่

“ผิดค่ะ คุณอิงกับเพชรยินดีคืนเงินให้นาตเต็มจำนวน โดยมีข้อแม้ให้นาตไปร่วมกิจกรรมกับบริษัทหนึ่งครั้ง นาตรีบรับเลย ข้อตกลงอะไรก็ไม่รู้มีแต่ได้เปรียบ! ”

เสียงปรบมือดังเกรียวกราว นาตอนงค์จึงเอ่ยต่อ “นั่นแหละค่ะ จุดเริ่มต้นที่ทำให้นาตได้เจอผู้ชายคนนี้” เธอดึงมือคนข้างตัวมาใกล้ ๆ “จากเข้าคอร์สฟรีหนึ่งครั้ง นาตเริ่มติดใจ เลยใช้สิทธิ์ที่น้าซื้อให้มาเข้าคอร์สเดือนละหน ปรากฏว่าเราเจอกันทุกคอร์สเลย! ยิ่งเจอกันแต่ละครั้งก็ยิ่งรู้ว่าพี่เขาชอบทุกอย่างเหมือนนาต คุณเพชรเลยเสนอให้เราเปิดประวัติให้อีกฝ่ายดูแล้วแนะนำชื่อจริงให้กัน จากนั้นก็ให้ผู้ช่วยกามเทพจัดเดตกับเขา แล้วก็นี่ล่ะค่ะ...” หญิงสาวยกมือซ้ายที่สวมแหวนเพชรขึ้นอวดทุกคน “นาตกำลังจะแต่งงานค่ะ”

เสียงเฮดังลั่นห้อง ทุกสีหน้ามีแต่รอยยิ้มดุจวาดหวังว่าในอีกไม่นานจะมีเรื่องราวดี ๆ เช่นนี้เกิดกับตัวเองบ้าง

“ขอบคุณผู้ช่วยกามเทพที่ทำให้นาตมีวันนี้ นาตเชื่อแล้วค่ะ ที่คุณเพชรกับคุณอิงบอกว่าในความรักเราไม่ต้องการจิ๊กซอว์ที่ต่อกันได้สนิทเสมอไป อาจมีเหลื่อมบ้างขาดบ้าง ขอแค่เราอยู่ด้วยกันได้โดยไม่อึดอัดและมีความสุขก็พอแล้ว ขนาดเราเองยังไม่สมบูรณ์แบบ เราคงคาดหวังให้ความรักของเราสมบูรณ์แบบไม่ได้เช่นกัน”

หญิงสาวส่งไมโครโฟนให้คนรัก ชายหนุ่มรับมาเอ่ยด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล

“ลับฟ้าครับ สมาชิกหมายเลขเอ็มสามศูนย์แปด ผมก็เป็นคนนึงที่ไม่เคยเชื่อเรื่องบริษัทจัดหาคู่นี่เลย บอกตัวเองเสมอว่าผมไม่ได้สิ้นหวังขนาดนั้น มาครั้งแรกก็เพราะเพื่อนผมอยากมาสมัครสมาชิก เลยลากผมมาด้วย คุณอิงกับคุณเพชรคงมีสาลิกาลิ้นทองดี ฟังที่คุณอิงคุณเพชรอธิบายเกี่ยวกับบริษัทจบปุ๊บ ผมก็สมัครเป็นสมาชิกทันทีแบบไม่ต้องหยุดคิด” เขายิ้มโปรยเสน่ห์ เหลียวมาสบตาคนข้างกายด้วยดวงตากรุ้มกริ่ม เรียกเสียงวี้ดว้ายจากสาว ๆ ได้อีกคำรบ

ลับฟ้าหัวเราะเบา ๆ “ยิ่งได้รู้จักและใช้บริการที่คิวปิดแอสซิสแทนซ์นานเท่าไหร่ ผมก็ยิ่งรู้ว่าถ้าเรามัวแต่ก้มหน้าลงด้วยอคติของตัวเอง โลกทั้งใบก็จะหมุนผ่านเราไป และเราอาจจะพลาดสิ่งที่ตัวเองรอคอยมาทั้งชีวิตก็ได้ ขอบคุณคิวปิด-แอสซิสแทนซ์ครับที่สอนให้ผมเข้าใจว่าการเปิดโอกาสให้ตัวเอง สำคัญมากแค่ไหน”

นาตอนงค์รับไมโครโฟนจากคู่หมั้น “งานแต่งนาตจัดปลายปีค่ะ ถ้าเพื่อน ๆ มีคนควงไปงานด้วยแล้วละก็ นาตขอเชิญด้วยนะคะ ขอบคุณค่ะ”

เสียงปรบมือ เป่าปาก ล้อเลียนดังระงม เพียงนาตอนงค์วางไมโครโฟน สมาชิกในห้องก็ทยอยลุกขึ้นมาร่วมแสดงความยินดีกันเป็นการใหญ่

อิงอรุณยิ้มกริ่มภาคภูมิใจ กวาดสายตาไปรอบ ๆ แล้วก็สะดุดกึก เมื่อพบว่าด้านหลังสุดตรงใกล้ ๆ ประตู มีใครคนหนึ่งยืนหน้านิ่งขรึม ดวงตาคมปลาบมองตรงมาที่เธอ คงเป็นอุปาทานที่ทำให้หญิงสาวคิดว่าสาวัชกำลัง...ยิ้ม

หญิงสาวกะพริบตางุนงง และก่อนจะทันรู้ตัว อิงอรุณก็ส่งยิ้มคืนกลับไป อ่อนหวาน...นุ่มนวลปานเดียวกัน


[1] Line โปรแกรมสนทนาชนิดหนึ่ง

[2] Pre-Nuptial Agreement บ้างก็เรียกพรีนัพ

[3] พระราชบัญญัติว่าด้วยความผิดอันเกิดจากการใช้เช็ค พ.ศ. ๒๕๓๔ มาตรา ๔ บัญญัติไว้ว่า ผู้ใดออกเช็คเพื่อชำระหนี้ที่มีอยู่จริงและบังคับได้ตามกฎหมาย โดยในขณะที่ออกเช็คนั้นไม่มีเงินอยู่ในบัญชีอันจะพึงให้ใช้เงินได้ ผู้ออกเช็คมีความผิดต้องระวางโทษปรับไม่เกินหกหมื่นบาท หรือจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือทั้งจำทั้งปรับ





********************************************************


หนังสือ และที่คั่นมาแล้วนะคะ ของจริงงามตระการตามว้ากกกกก

ใครยังไม่สั่ง รีบออเดอร์ด่วนค่ะ 

หนังสือหนา 600 หน้า ราคา 450 บาท จัดส่งฟรี

100 คนแรก แถมที่คั่นพิงค์โกลด์ลายนกฟลามิงโกสุดหรู

https://goo.gl/HA1QWz





สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ค. 2561, 20:07:40 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 พ.ค. 2561, 20:12:45 น.

จำนวนการเข้าชม : 588





<< ตอนที่ 18   ตอนที่ 20 >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account