+ * + * + พยศดอกฟ้า (ผู้ช่วยกามเทพ รีโพสต์) + * + * +
นี่มันไม่ใช่แค่พระศุกร์เข้า พระเสาร์แทรก หรือราหูอมธรรมดาละ
แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์
นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้
นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา
โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก
ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว
แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ
สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D
ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ
ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน
ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555
แค่ดื้อกับแม่หน่อยเดียว อิงอรุณ เทียมสุบรรณ ถึงกับต้องโดนตัดเบี้ยเลี้ยงเลยเรอะ! แถมทางเดียวที่จะพ้นจากสถานการณ์ถังแตกได้ก็คือต้องขอความช่วยเหลือจากผู้ชายเย็นชา ไร้หัวใจ อย่างสาวัช ปรเมศวร์
นับจากวินาทีแรกที่เจอกัน ชีวิตของสาวัชก็ไม่เหลือความสงบสุขอีกเลย เมื่อผู้หญิงเอาแต่ใจใช้ทุกวิถีทางบังคับให้เขาทำตามที่เธอต้องการ ทั้งข่มขู่ แบล็กเมล์ และรวบหัวรวบหาง!
ถ้าไม่ใช่เพราะมีเป้าหมายอยู่ในใจ เขาคงไม่ยอมเดินเข้าไปในกับดักที่หญิงสาววางล่อไว้ง่ายๆ เช่นนี้
นายพรานสาวจอมเอาแต่ใจจะถูกเสือซ่อนลายปราบพยศได้หรือไม่ มหากาพย์เรื่องนี้ต้องดูกันยาวๆ เพราะที่เห็นถือไพ่เหนือกว่ามาตลอด เสือซุ่มอาจรอจังหวะตลบหลังกินรวบดอกฟ้าจอมยุ่งอยู่ก็ได้
+ + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + + +
เพื่อนๆ นักอ่านค้าาาาาา
เก๊ากลับมาแล้ว มาพร้อมกับข่าวดีที่หลายคนรอคอยด้วย
ม่ายยยย ไม่ใช่สิริณจะสละโสด
แต่ข่าวดีที่ว่าก็คือ ใครที่รอผู้ช่วยกามเทพอยู่
กำลังจะได้อ่านแบบเป็นเล่มกันแล้วนะค้าาาาา
โดยเรื่องนี้สิริณจะพิมพ์เองเลยจ้า เห็นเขาฮิตทำมือกัน เลยอยากทำมั่ง
เย้ยยย ม่ายช่าย เนื่องจากส่งสำนักพิมพ์ผ่านแล้ว
แต่สำนักพิมพ์เปลี่ยนไปแนวจีนแทน (รู้กันอยู่เนอว่า สนพ.ไหน 555)
ทำให้ถูกดองต้นฉบับอยู่เป็นปีต่างหาก
ตอนนี้ถอนต้นฉบับออกมาละ
ไม่ส่ง สนพ. อื่นด้วย เกรงจะต้องรออีกนาน
ตอนนี้สิริณรีไรท์จบแล้ว พร้อมพิมพ์แล้ววววววว
แต่จะเปลี่ยนชื่อเรื่องตอนตีพิมพ์นะคะ
โดย ชื่อเดิม : ผู้ช่วยกามเทพ
ชื่อใหม่ : พยศดอกฟ้า
ตั้งใจว่าจะเขียนเป็นซีรีส์ ดอกดอก 55555
สนิมดอกรัก -> พยศดอกฟ้า -> วิวาห์ดอกกระดาษ
สำหรับพยศดอกฟ้านี้
สิริณจะรีโพสต์ให้อ่านกันวันละหนึ่งตอน
โดยมีจำนวนตอนทั้งหมด 60 ตอน
จะลงให้อ่านจนจบ ไม่ทิ้งกันแน่นอน
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
จะมีเฉพาะในฉบับหนังสือและอีบุ๊กเท่านั้น
บอกเลยว่าเขียนเอง ยังเขินเอง
คนอ่านจะฟินขนาดไหน ไม่ต้องเดาเนอะ :D
ตอนนี้ปกเสร็จแล้ว เหลือเก็บงานอีกนิดหน่อย
ก็จะพร้อมเปิดให้จองกันแล้ว
อาทิตย์หน้าจะนำปกมาอวดกันนะคะ
สำหรับใครที่สงสัยว่าสิริณหายไปไหนมา
ไปแต่งงานหรือเปล่า (ใช่เรอะ! 5555)
ก็ขอตอบตรงนี้เลยว่าไปทำงานค่ะ
สิริณกลับไปเป็นสาวออฟฟิศได้เกือบสองปีแล้ว
โดยทำงานในบริษัทเครื่องสำอางระดับมหาชน
ตำแหน่งที่มาพร้อมความรับผิดชอบ
ทำให้แทบไม่มีเวลาพักเลย กลับดึกตลอด
จนเกือบลืมวิธีเขียนนิยายไปแระ
ตอนนี้สิริณพักร่างช่วงใหญ่
กำลังจะเปลี่ยนงาน
ก็เลยรีบมาทำภารกิจที่ติดค้างในใจให้จบก่อน
ใครยังไม่ได้กดไลค์เพจ รีบไปกดไว้นะคะ
www.facebook.com/SirinFC
สิริณใช้สิทธิ์พนักงานซื้อเครื่องสำอางไว้แจกเพียบบบบบ 555
Tags: สิริณ, อิงอรุณ, ผู้ชายเย็นชา, พระเอกซึน
ตอน: ตอนที่ 27
เพียงสามวันถัดมา ริสาก็ติดต่อครอบครัวเศรษฐ์สถาพรสำเร็จ เธอเชิญธนามาร่วมการประชุมผ่านวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ด้วย หลังการต่อรองอยู่เกือบสองชั่วโมง การเจรจาก็จบลง ทั้งสองฝ่ายลงนามในเอกสารและส่งอีเมลล์ให้คู่สัญญาเพื่อยืนยันการตัดสินใจ จากนั้นผู้เกี่ยวข้องที่เหลือก็ค้อมศีรษะออกจากห้องอย่างรู้หน้าที่
ครั้นอยู่กันลำพัง ธนาจึงยกนิ้วโป้งให้ลูกสาว “ลื้อตัดสินใจได้ดีมาก อาหยง! ”
“เป็นเพราะเตี่ยต่างหากที่กล่อมสองแม่ลูกขายหุ้นให้เราได้”
“ลื้อโทร.เรียกอาฮกกับสาวัชกลับไปกินข้าวที่บ้านด้วย เตี่ยจะฉลองให้ลื้อเอง”
“รอโอนหุ้นเรียบร้อยแล้วค่อยฉลองดีกว่าค่ะ อีกแค่ไม่กี่วันเอง หยงรอได้”
“ตกลง! ว่าแต่ลื้อไปเอาเงินตั้งเกือบพันล้านจากไหนมาซื้อหุ้น”
ริสาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อรวบรวมความกล้า “หยงเอาตำแหน่งของตัวเองในปรเมศวร์เทรดดิ้งไปค้ำประกันค่ะ”
ธนาขมวดคิ้วหยั่งเชิงด้วยสายตา “ตำแหน่งอะไร”
“ซีอีโอค่ะ”
“นั่นมันตำแหน่งของเตี่ยไม่ใช่เหรอ”
หญิงสาวพยักหน้ารับเคร่งขรึม “นี่แหละค่ะเรื่องที่หยงอยากขอร้อง เตี่ยเลื่อนตำแหน่ง แต่งตั้งหยงให้ขึ้นเป็นซีอีโอแทนเตี่ยได้ไหมคะ”
“ใครปล่อยเงินกู้ก้อนนี้ให้ลื้อ” สีหน้าและน้ำเสียงนั้นเรียบเฉยจนยากคาดเดา
“ณัฐภัทรคอร์ปอเรชันค่ะ”
ธนายกตวัดตามองมาอย่างรู้ทัน “ถ้าเตี่ยไม่ตกลง ณัฐภัทรคอร์ปฯ คงระงับวงเงินที่จะสั่งจ่ายให้สองแม่ลูกนั่นใช่ไหม”
ริสาสบตาบิดานิ่ง ๆ ไม่ตอบสักคำ...วัดใจกัน!
อึดใจใหญ่ที่ความเงียบครอบคลุมในบรรยากาศ สุดท้ายธนาจึงหัวเราะหึ ๆ ผงกศีรษะพอใจ “ลื้อชนะอาหยง ให้นิติกรร่างหนังสือแต่งตั้งขึ้นมา เตี่ยจะเซ็นอนุมัติให้ลื้อเป็นซีอีโอจนกว่าสาวัชจะพร้อม ถึงตอนนั้นลื้อก็แต่งงานออกไปแล้ว ค่อยให้สาวัชขึ้นนั่งแทนเก้าอี้ลื้อก็แล้วกัน”
แม้ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขนี้ แต่ริสาก็ไม่ท้วง เธอจะค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปรวบอำนาจบริหารทีละเซนติเมตร วันนี้ได้ตำแหน่งซีอีโอก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันวันหน้า
หญิงสาวคุกเข่ากราบตักบิดา “หยงกราบขอบคุณความเมตตาของเตี่ยค่ะ”
ธนาลูบศีรษะเธอเบา ๆ น้ำเสียงทอดอ่อนดุจเปี่ยมด้วยความปรานี “อย่าทำให้เตี่ยผิดหวังละ เพราะเตี่ยไม่เคยให้โอกาสใครเป็นครั้งที่สอง”
มีเพียงริสาที่รู้ดีว่ามันเป็นทั้งคำสั่งและคำขู่แทรกปนอยู่ด้วยในเวลาเดียวกัน!
เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่อินทุอรวีเข้ามาสังเกตการณ์ที่คิวปิดแอสซิสแทนซ์ เมื่อได้ข้อมูลเบื้องต้นเพียงพอแล้ว เธอจึงเชิญแพรวเพชรและอิงอรุณเข้าประชุมร่วมกันเพื่อแก้แบบร่างแผนธุรกิจสำหรับยื่นขอเงินกู้
นับตั้งแต่อิงอรุณแนะนำให้รู้จักราชนิกุลสาว แพรวเพชรก็ชอบอีกฝ่ายทันที อินทุอรวีสวยเฉียบ ทันสมัย การศึกษาดี ฐานะและชาติตระกูลเพียบพร้อม ทั้งยังเก่งในเชิงอาชีพอย่างหาตัวจับยาก ช่างสมบูรณ์แบบชนิดที่ทำให้ ‘คุณหนูอิงอรุณ’ กลายเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบอันดับสองได้สบาย ๆ
ก่อนเริ่มประชุม อิงอรุณเปรยว่าอยากเชิญสาวัชเข้าฟังด้วย แพรวเพชรลังเล ครั้นขอความเห็นจากอินทุอรวี หม่อมราชวงศ์หญิงเห็นพ้องกับอิงอรุณด้วยเหตุผล
“พี่เคยคุยกับคุณสาวัชหลายครั้ง มุมมองด้านธุรกิจของเขาน่าสนใจค่ะ ถ้าคุณเพชรกับคุณอิงไว้ใจเขาให้ทราบสถานการณ์บริษัทได้ พี่ว่าการเชิญเขามาช่วยระดมความคิดก็จัดเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ”
ตลอดการประชุมแพรวเพชรแทบไม่สบโอกาสแสดงความคิดเห็น เพราะไม่ว่าอินทุอรวีจะวิเคราะห์ปัจจัยทางการเงินใดก็ตาม สาวัชมักออกเสียงพูดแทนสิ่งที่เธอคิดเป็นคนแรก! ดูก็รู้ว่าชายหนุ่มกำลังปกป้องคิวปิดแอสซิสแทนซ์อยู่!
ผู้ช่วยกามเทพทั้งคู่จดคำแนะนำใส่สมุดยิก ๆ ทั้งยังสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในจุดที่สงสัย ครั้นการประชุมจบลง อิงอรุณก็กระตือรือร้นชักชวนทุกคน
“วันนี้อิงอยากกินสุกี้ค่ะ พวกเราไปร้านสุกี้เรือนเพชรกันไหมคะ”
“เรานัดหนูกานกับพี่เผ่าไว้แล้วว่าจะไปกินพิซซ่ากัน ขอโทษด้วยนะอิง”
“งั้นคุณสาวัชกับพี่หญิงไปกับอิงนะคะ” คนชวนออดเหมือนเด็กเล็ก ๆ
แพรวเพชรกำลังจับตามองฉากเหตุการณ์ตรงหน้า จึงหลบไม่ทันเมื่อสาวัชเหลียวมาสำรวจปฏิกิริยาของเธอ
ชายหนุ่มชะงัก งันไปชั่วครู่ แล้วหันไปตอบอิงอรุณขรึม ๆ “ผมมีนัดแล้ว”
อิงอรุณหน้าม่อย “พี่หญิงล่ะคะ”
“พี่ว่างค่ะ ดีเหมือนกัน ได้ยินชื่อเสียงสุกี้ร้านนี้มานานแล้ว”
แพรวเพชรสบโอกาส จึงรีบแนะนำ “เทพไง อิงโทร.ไปชวนเทพสิ”
“โอ๊ย! รายนั้นน่ะ ตั้งแต่ย้ายงานก็แทบจะอุทิศตัวเป็นทาสของบริษัทฯ ไปละ โทร.ไปเมื่อเช้าแล้ว ขนาดวันอาทิตย์ยังบอกไม่ว่างเลย” อิงอรุณกระฟัดกระเฟียด
“อ้าว เขาตั้งใจทำงานก็ดีแล้วนี่ สยามดริ๊งค์ฯ มีกำไรเยอะ ๆ อิงจะได้เอาเงินปันผลมาช็อปปิ้งไง” แพรวเพชรพบว่าสาวัชไม่สะดุ้งสะเทือน หรือมีปฏิกิริยาใด ทั้งสิ้นยามอิงอรุณเอ่ยถึงว่าที่คู่หมั้น หรือเธอจะกังวลมากไป เขาอาจไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนรักของเธอ เป็นแค่คนรู้จักกันตามปกติ
“ไปกันเฉพาะผู้หญิงสองคน ระวังตัวด้วยละ” สาวัชติง หน้าบึ้งระดับปกติ
แพรวเพชรเขม้นมอง ครั้นเห็นความห่วงใยในตาเขา หญิงสาวก็ลอบถอนใจ เธอดูผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลยจริงจริ๊ง!
“ถ้ามีปัญหา อิงจะส่งสัญญาณเอสโอเอสขอความช่วยเหลือด่วนเลย”
สาวัชเหลียวมามองเธอทันควัน ครั้นเห็นว่ายังคงถูกจับตาอยู่ก็เสตีหน้าขรึม ทำเสียงดุ “อย่ามีปัญหาอะไรเลยดีกว่า”
ชายหนุ่มพูดจบก็ลุกขึ้นก้มศีรษะเป็นเชิงลา
“เดี๋ยวอิงไปส่งคุณสาวัชก่อนนะ” คนตัวเล็กกระวีกระวาดลุกตามไปทันที
แพรวเพชรเอนพิงพนักเก้าอี้เหลือบดูอินทุอรวี เห็นฝ่ายนั้นมองตามสองหนุ่มสาวไปทางประตูด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม นักจับคู่สาวขมวดคิ้ว อินทุอรวีก็จับตาดูสองคนนั้นอยู่ หรือว่าราชนิกุลสาวก็ ‘รู้สึก’ เช่นกันว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
ว่าที่คุณแม่คอยอินทุอรวีขอตัวกลับไปแล้ว จึงโทร.หาใครบางคน เพียงได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอก็เปรยล้อเลียน
“วันอาทิตย์ทั้งทีก็ยังเอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีเวลามากินข้าวกับแฟนอย่างนี้ ระวังว่าที่เจ้าสาวจะเปลี่ยนใจ ไม่แต่งงานด้วยนะเทพ! ”
ภัตตาคารสุกี้โบราณบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ค่อนข้างคลาคล่ำ อิงอรุณเลือกโต๊ะและสั่งอาหารคล่องแคล่วสมกับเป็นเจ้าถิ่น ระหว่างรอพนักงานมาเสิร์ฟหญิงสาวก็เย้าผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไหนตอนชวนทีแรก เห็นยืนกรานเสียงแข็งว่าติดธุระ อ้อนวอนยังไงก็มาไม่ได้ ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนใจล่ะคะ” เธอลากเสียงยาวล้อเลียน
“กลัวไม่มีใครห้ามคุณ เกิดกินสุกี้เขาหมดร้านจะทำยังไง” เขาย้อนหน้าตาย
“แรงอะ” หญิงสาวกระเง้ากระงอด “ตกลงติดธุระจริงหรือเปล่าคะ หรือมาเพราะเสียไม่ได้ที่ถูกคะยั้นคะยอ”
“มาเพราะตัดรำคาญ”
อิงอรุณตาโต “พูดจาทำร้ายจิตใจขนาดนี้ งั้นผู้ชายคนเดียวในโต๊ะคงต้องเลี้ยงสาว ๆ หน่อยแล้วละ”
“คุณกินเยอะอย่างนี้ ผมเลี้ยงไม่ไหวหรอก”
แม้เขาจะตอกกลับแรง ๆ แต่อิงอรุณกลับไม่ถือสา “เหอะ! อิงไม่เห็นอยากให้เลี้ยงเลย กินสุกี้โบราณอย่างนี้ไม่คุ้ม ต้องรอไปกินโต๊ะจีน แล้วค่อยหาเจ้ามือดีกว่า”
บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น เมื่ออิงอรุณผูกขาดการสนทนา โดยมีอินทุอรวีรับมุก ส่วนผู้ชายหน้านิ่งฝั่งตรงข้ามนั้นคอยตักอาหารใส่จานให้สองสาวเท่าเทียมกัน
“สุกี้อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ คุณอิงมาทานบ่อยหรือคะ” อินทุอรวีชวนคุย
“อิงมาไม่บ่อยหรอกค่ะ ปกติมักติดสอยห้อยตามเพื่อนมามากกว่า”
“ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” อินทุอรวีทำเสียงล้อเลียน
“อืม...จะเรียกว่าเพื่อนหรือแฟนก็ได้ค่ะ” อิงอรุณไม่รู้ตัวสักนิดว่าใครคนหนึ่งรามือชะงักค้างมองมาทางเธอเขม็ง
“เพื่อนหรือแฟน เอาให้แน่สักอย่างสิ” สาวัชดุ หน้าบึ้ง!
หัวใจอิงอรุณโลดเป็นจังหวะประหลาดจนมือไม้ไม่มีแรงดื้อ ๆ เธอรีบวางช้อน หัวเราะกลบเกลื่อน “เขาเป็นคนที่อิงกำลังจะแต่งงานด้วยน่ะค่ะ”
“เอาเรื่องนี้มาพูดเล่นมันเหมาะแล้วหรือ” สาวัชทำหน้าดุจคุณครูจอมโหดเงื้อไม้เรียวเตรียมหวดนักเรียนหัวดื้อ
“อิงไม่ได้เอาเรื่องแบบนี้มาอ้างเล่น ๆ หรอกค่ะ” ทั้งที่พูดความจริงทุกคำ แต่ทำไมเธอรู้สึกผิดก็ไม่รู้! คนพูดเสียงอ่อยโดยไม่ตั้งใจ “อิงกำลังจะแต่งงานจริง ๆ ”
“แล้วไหนละเจ้าบ่าวของคุณ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงปล่อยให้คุณมากินสุกี้กับผมและคุณหญิงรวีอย่างนี้ นี่มันเย็นวันอาทิตย์นะ”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าแฟนอิงไม่ว่าง” ใครก็ได้ช่วยที โลกอันแสนสงบสุขของเธอกำลังถูกผู้ชายคนนี้บุกรุก
สาวัชยกข้อมือขึ้นดูเวลา “ถ้าเขาเป็นคนไทยและอยู่เมืองไทย งั้นวันนี้ก็น่าจะเป็นวันหยุด โทร.เชิญมาร่วมวงกับเราสิ จะได้แนะนำให้ผมกับคุณหญิงรวีรู้จักด้วย”
อิงอรุณเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สาวัชดูจะมั่นใจเต็มร้อยว่าเธออุปโลกข์แฟนขึ้นมาเพื่อไม่ให้เสียหน้า
หญิงสาวเรียกไปยังเลขหมายของพันเทพ นิ้วเคาะบนโต๊ะเป็นจังหวะ แต่สุดท้ายเธอก็หน้าม่อย จำต้องวางโทรศัพท์คืนที่ ถอนใจเบา ๆ “เขาติดสายอยู่ค่ะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าสาวัชบ่งบอกถึงชัยชนะ
“อิงไม่ได้โกหกนะคะ เขาติดสายอื่นอยู่จริง ๆ ” เธอแทบจะลิ้นพันกัน รีบเรียกไปยังเลขหมายเดิม แล้วเปิดลำโพงให้เสียงสัญญาณสายไม่ว่างดังลอดออกมา
สาวัชโน้มตัวยื่นหน้ามาดูหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแล้วพยักหน้าหงึก ๆ “ปานเทพเหรอ น่าสนใจจริง ๆ ผมคิดว่ากามเทพอย่างคุณน่าจะบันทึกชื่อคนรักให้หวานแหววกว่านั้นซะอีก ใช้ภาษาอังกฤษห้วน ๆ แบบนี้ สู้หวานใจ พ่อพายน้อย ขนมถ้วยฟูที่รัก หรืออะไรแนว ๆ นี้ก็ไม่ได้ นี่ออกแนวสิ่งเคารพบูชามากกว่า แถมรูปประจำตัวก็ไม่ใส่ ห่างเหินกับแฟนจัง”
“นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของอิงนะคะ อิงจะเมมชื่อใครยังไง ใส่รูปหรือเปล่า ก็เป็นสิทธิ์ของอิง” เพราะเธอลิงค์สมุดโทรศัพท์กับอีเมล รูปประจำตัวพันเทพจึงเป็นรูปที่เขาตั้งเอง ซึ่งเพื่อนรักอาร์ตตัวพ่อก็เลือกใช้ป้ายพื้นเขียวข้อความขาวเขียนว่า ‘ทางออก’ โดยมีรูปคนวิ่งที่เหมือนป้ายชี้บอกทางหนีไฟ แต่ไรมาอิงอรุณไม่เคยคิดว่ามันจะมีนัยสำคัญ จึงไม่เคยคิดว่าจะต้องเปลี่ยนรูปของเขาให้เป็นรูปแทนตัวจริง ๆ !
“ผมก็แค่...ตั้งข้อสังเกต”
สีหน้าเหมือนทองไม่รู้ร้อนของเขาทำให้อิงอรุณเม้มปากแน่นเพื่อระงับอารมณ์ ไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอกำลังเสียศูนย์
“ทานกันต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวสุกี้เย็นแล้วจะไม่อร่อย” อินทุอรวีขัดจังหวะ
สาวัชใช้ด้ามตะเกียบคีบเป็ดย่างให้เธอและอินทุอรวี ขณะกระแนะกระแหน “คุณสั่งกับข้าวเยอะเกินไปนะ มีสุกี้แล้วยังจะสั่งเป็ดย่าง ทอดมันกุ้ง แล้วก็ยำคะน้ากุ้งสดอีก กินเก่งอย่างนี้แฟนคุณจะเลี้ยงไหวเหรอ”
เอสโอเอส! นี่เธอจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปที่ไหนดี แพรวเพชรก็กำลังอยู่กับครอบครัว พันเทพก็ติดต่อไม่ได้ ถ้าขอความเมตตาจากกรรมดีที่เคยทำ กุศลผลบุญจะติดจรวดส่งตัวช่วยมาให้ในยามที่เธอต้องการไหมเนี่ย!
เงามืดที่บังแสงไฟจากเบื้องหลัง ทำให้อิงอรุณเหลียวไปมองด้วยความฉงน
“เรามาทันหรือเปล่า” พันเทพยืนอยู่ตรงนั้น กำลังก้มลงมาสบตาเธอ พระเจ้าตอบรับคำขอของเธอด้วย ไชโย!
“มาได้ยังไงเนี่ย” อิงอรุณดึงเขานั่งลงข้าง ๆ “นั่งเลย ๆ ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม แนะนำให้รู้จักกันก่อน เทพจ๋า นี่พี่หญิง หม่อมราชวงศ์อินทุอรวี ชยาธร”
ครั้นอินทุอรวีพยักหน้ารับไว้ เธอจึงผายมือไปทางสาวัชต่อ “ส่วนนี่ก็...”
“เอ๊ะ! พี่วัชใช่ไหมครับ” พันเทพชิงทักทาย “ผมพันเทพครับ จำผมได้ไหมพี่”
สาวัชกะพริบตา แล้วหันมาทางอิงอรุณ ดวงหน้าเขามีร่องรอยประหลาดที่อธิบายไม่ได้ “เนี่ยเหรอแฟนคุณ”
“อิงบอกพี่วัชด้วยเหรอครับ” พันเทพแปลกใจ “ปกติอิงไม่ค่อยบอกใครหรอกฮะ ต้องโดนคาดคั้นหนัก ๆ ถึงจะตัดรำคาญแบบนั้น”
“อ้อ...ตัดรำคาญ” สาวัชทวนคำพยักหน้าหงึก ๆ
อิงอรุณนึกรู้ว่าเขาเหน็บแนมเธอ จึงเสหันไปทางพันเทพ “เทพมาได้ไงเนี่ย ไหนบอกว่าติดงานไง”
“ก็เปลี่ยนใจแล้วไง ว่าแต่นี่แค่กินข้าวตามปกติ หรือฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรือเปล่า”
เพราะอิงอรุณง่วนกับการสั่งอาหารเพิ่ม อินทุอรวีจึงตอบแทน “ไม่ได้ฉลองอะไรค่ะ พอดีประชุมเสร็จแล้วคุณอิงชวน ก็เลยยกขบวนมาชิมตามที่เจ้าถิ่นแนะนำ”
“คุณหญิงรวีเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของณัฐภัทรคอร์ปฯ ใช่ไหมครับ” พันเทพชวนสนทนา ครั้นให้ความสนใจราชนิกุลสาวพอแล้ว เขาจึงหันไปชวนสาวัชเจรจาบ้าง “ทราบมาว่าพี่วัชกลับไปเป็นผู้บริหารที่ปรเมศวร์เทรดดิ้งแล้วใช่ไหมฮะ”
“ไม่ใช่ผู้บริหาร แค่ผู้จัดการฝึกหัด” สาวัชแก้ตำแหน่งก่อน “ได้ยินจากคุณอิงว่านายย้ายไปอยู่สยามดริ๊งค์ฯ”
“เทพมาช่วยงานคุณพ่ออิงไงคะ” อิงอรุณส่งยิ้มหวานให้พันเทพ พูดแทรกทั้งที่ปกติแก่มารยาทเป็นที่สุด “อิงก็บอกแล้วว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน”
“เฮ้ย! ปกติใครถามก็ปิดปากเงียบ วันนี้กินยาผิดซองหรือเปล่าเนี่ยคุณหนู ถึงยอมประกาศให้โลกรู้ขนาดนี้”
“คุณอิงคงกลัวคนฟังไม่เชื่อ” เขาพยักพเยิดกับอินทุอรวี “ว่าไหมครับ”
“คุณอิงอาจอยากประกาศให้โลกรู้ว่ากำลังมีความสุข” อินทุอรวีเข้าข้างเธอ
สายตาสาวัชเป็นประกายขณะมองพันเทพ มุมปากยกนิด ๆ ดุจจงใจล้อเลียน
อิงอรุณอึดอัดกับสายตาคู่นั้น จึงเสหันไปตีมือพันเทพเบา ๆ “เทพเพิ่งมาจากออฟฟิศใช่ไหม ไปล้างมือก่อนเลย”
พันเทพตะเบ๊ะล้อเลียน แล้วก้มศีรษะให้ทุกคนในโต๊ะ “ขอตัวสักครู่นะครับ”
อิงอรุณนึกว่าบรรยากาศจะคืนสู่สภาพปกติ แต่เธอกลับพบว่า...ตัวเองคิดผิด!
“พันเทพ เทพวรสิงห์” สาวัชมองตามรุ่นน้องไปจนลับตาพลางพึมพำ ความทรงจำฉายชัดถึงภาพชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ามแดด มีรอยยิ้มติดหน้าเป็นนิจ
พันเทพเป็นเด็กแกรด [1] คนไทยไม่กี่คนที่เขาคบยามอยู่ต่างแดน ชายหนุ่มชะงักเมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาเคยรู้จักพันเทพ ถึงขั้นนับถือเป็นพี่เป็นน้องกันเลยด้วยซ้ำ
“เทพเคยเล่าว่าเป็นรุ่นน้องคุณสาวัชที่เยล ไม่ต้องแนะนำอะไรมากเนอะ”
“ใช่ ไม่ต้องแนะนำมากเลย” เขายกมุมปากอีกครั้ง รอยระยับพราวในดวงตา เนี่ยเหรอคนรักของอิงอรุณ เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอแม้แต่นิดเดียว มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กไทยในเมืองนิวฮาเว่นรู้กันทั่วก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ความลับจนไม่มีใครรู้!
วันนั้นเขาถูกพันเทพคะยั้นคะยอให้บไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเด็กไทยกลุ่มใหม่ ชายหนุ่มจึงตัดรำคาญด้วยการไปดื่มสักแก้วตามมารยาทแล้วกลับเหมือนทุกครั้ง! ขณะทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ในห้องรับแขก เขาก็บอกลาเจ้าบ้านแยกกลับก่อน
สาวัชออกจากบ้านด้วยความโล่งใจ แต่เสียงสวบสาบที่พุ่มไม้ริมตัวบ้านทำให้กังวลเรื่องขโมยขโจร เขาโหย่งเท้าไปสำรวจที่มาของเสียงผิดปกติ ซึ่งทำให้เขาจำต้องเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์อันไม่น่าพึงใจสักนิด
สาวัชหมุนกายกลับไปตามทางเดิมอย่างเงียบเชียบ และหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเด็กไทย ‘บางคน’ จนถึงกับเลิกสมาคมกันไปโดยปริยาย เพราะเขาวางหน้าวางตัวไม่ถูกจริง ๆ หากต้องพบกับพันเทพและใครอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยกัน
จนมาพบกันวันนี้ น่าขัน..อิงอรุณจะให้เขาเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่าพันเทพรักผู้ชาย พันเทพเป็นเกย์!
“ผมขอโทษละกันที่ไม่เชื่อคำพูดคุณ” สาวัชเอนพิงเก้าอี้ มองเธอนิ่ง ๆ คล้ายผู้ใหญ่ดูเด็กดื้อแสดงฤทธิ์เดช
“จัดงานเมื่อไหร่อย่าลืมชวนพี่นะคะ” อินทุอรวีคลายบรรยากาศ
อิงอรุณเอนตัวไปอิงบ่าสาวรุ่นพี่ ลูบแขนอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน “สัญญาเลยค่ะว่าอิงต้องเชิญพี่หญิงด้วยแน่ ๆ ”
“อ้าว! แล้วผมล่ะ ไม่เชิญผมด้วยเหรอ” สาวัชเลิกคิ้วล้อเลียน
อิงอรุณตวัดค้อน “เชิญแล้วต้องไปจริง ๆ นะคะ”
“เดี๋ยวเหมาสุกี้เรือนเพชรไปออกร้านให้ด้วยเลยเอ้า! ” เขาย้อนอย่างใจป้ำ
เมื่อพันเทพกลับมาที่โต๊ะ ก็ชวนทุกคนพูดคุยต่ออย่างสนุกสนาน
หลังมื้ออาหารจบลง อิงอรุณเสนอตัวเป็นเจ้ามือโดยอ้างว่าจะเบิกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัท จากนั้นเจ้าหล่อนก็ชิ่งหนีกลับบ้านด้วยการให้พันเทพไปส่งแทน
สาวัชมองสองหนุ่มสาวเดินเคียงกันไปที่รถ น่าขันที่อิงอรุณเลือกพันเทพมาเล่นเป็นคนรักหลอก ๆ ฝ่ายชายก็รับสมอ้างอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่คงประกาศตัวเป็นคู่รักเพื่อตัดรำคาญมานักต่อนักแล้ว ถึงเล่นละครได้แนบเนียนคล่องแคล่วเช่นนี้
กระนั้นสาวัชก็จำต้องยอมรับว่าเขาอดเกลียดสายตาที่พันเทพมองอิงอรุณไม่ได้ มันไม่มีความปรารถนาเสน่หา เป็นแค่ความรักใคร่ห่วงใยฉันเพื่อนก็จริง แต่
เขาไม่ชอบใจอยู่ดีที่เห็นอิงอรุณถูกใครมองอย่างนั้น ให้ตายเถอะ!
[1] ในสหรัฐอเมริกานิยมเรียกนักศึกษาระดับปริญญาโทว่า แกรด ย่อมาจากแกรดูเอท (Graduate) ส่วนนักศึกษาระดับปริญญาตรี จะเรียกอันเดอร์แกรด (Undergraduate)
-----------------------------------------------------------
ประกาศ
เรื่องนี้จะลงให้อ่านฟรีจนจบ
หลังลงครบทุกตอน
จะลบ 5/6 ของเล่มนะคะ
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
มีเฉพาะในฉบับตีพิมพ์และอีบุ๊คเท่านั้นค่ะ
ตามไปจิกหมอน+ฟินกันในเล่มได้เลย
sds
หนังสือและอีบุ๊คพร้อมจำหน่ายแล้วนะคะ
สั่งซื้อฉบับหนังสือ https://goo.gl/HA1QWz
100 คนแรก จัดส่งฟรี + รับที่คั่นนกฟลามิงโกเพิ่มพิเศษ
หรือซื้อฉบับหนังสือจากร้านออนไลน์ชื่อดัง
ร้านนิยายรัก https://goo.gl/uPTdCs
E-Book
mebmarket >>https://goo.gl/o9FXn6
ookbee >>https://goo.gl/rf274b
Hytexts >>https://goo.gl/KcekzB
โหลดอีบุ๊คพยศดอกฟ้าภายใน 31 พ.ค.61
รับที่คั่นลายนกฟลามิงโกจัดส่งถึงบ้าน
อีก 100 รางวัลจ้ะ จัดกันไปเน้นๆ
บอกให้รู้ว่าจะซื้อเล่มหรืออีบุ๊ก ก็รักเท่ากันนะจ๊ะ
วิธีการรับของรางวัล อ่านกันดีๆ ค่ะ
1. ถ้าซื้อจาก Meb ไปที่ My Account -> My privilege แล้วรับสิทธิ์เลย
2. ถ้าซื้อจาก ookbee หรือ hytexts แคปหน้าจอการสั่งซื้อ ระบุอีเมลที่ใช้ login ส่งมาที่กล่องข้อความของเพจสิริณ
สิริณจะยืนยันกลับเฉพาะท่านที่ได้รับสิทธิ์นะคะ
เฉพาะอีบุ๊ก แจก 100 ชิ้นค่ะ ครบเมื่อไหร่ ปิดการแจกทันที
สะดวกช่องทางไหนสั่งซื้อเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ยังรักและเมตตากันเสมอนะคะ
ครั้นอยู่กันลำพัง ธนาจึงยกนิ้วโป้งให้ลูกสาว “ลื้อตัดสินใจได้ดีมาก อาหยง! ”
“เป็นเพราะเตี่ยต่างหากที่กล่อมสองแม่ลูกขายหุ้นให้เราได้”
“ลื้อโทร.เรียกอาฮกกับสาวัชกลับไปกินข้าวที่บ้านด้วย เตี่ยจะฉลองให้ลื้อเอง”
“รอโอนหุ้นเรียบร้อยแล้วค่อยฉลองดีกว่าค่ะ อีกแค่ไม่กี่วันเอง หยงรอได้”
“ตกลง! ว่าแต่ลื้อไปเอาเงินตั้งเกือบพันล้านจากไหนมาซื้อหุ้น”
ริสาสูดหายใจเข้าลึกเพื่อรวบรวมความกล้า “หยงเอาตำแหน่งของตัวเองในปรเมศวร์เทรดดิ้งไปค้ำประกันค่ะ”
ธนาขมวดคิ้วหยั่งเชิงด้วยสายตา “ตำแหน่งอะไร”
“ซีอีโอค่ะ”
“นั่นมันตำแหน่งของเตี่ยไม่ใช่เหรอ”
หญิงสาวพยักหน้ารับเคร่งขรึม “นี่แหละค่ะเรื่องที่หยงอยากขอร้อง เตี่ยเลื่อนตำแหน่ง แต่งตั้งหยงให้ขึ้นเป็นซีอีโอแทนเตี่ยได้ไหมคะ”
“ใครปล่อยเงินกู้ก้อนนี้ให้ลื้อ” สีหน้าและน้ำเสียงนั้นเรียบเฉยจนยากคาดเดา
“ณัฐภัทรคอร์ปอเรชันค่ะ”
ธนายกตวัดตามองมาอย่างรู้ทัน “ถ้าเตี่ยไม่ตกลง ณัฐภัทรคอร์ปฯ คงระงับวงเงินที่จะสั่งจ่ายให้สองแม่ลูกนั่นใช่ไหม”
ริสาสบตาบิดานิ่ง ๆ ไม่ตอบสักคำ...วัดใจกัน!
อึดใจใหญ่ที่ความเงียบครอบคลุมในบรรยากาศ สุดท้ายธนาจึงหัวเราะหึ ๆ ผงกศีรษะพอใจ “ลื้อชนะอาหยง ให้นิติกรร่างหนังสือแต่งตั้งขึ้นมา เตี่ยจะเซ็นอนุมัติให้ลื้อเป็นซีอีโอจนกว่าสาวัชจะพร้อม ถึงตอนนั้นลื้อก็แต่งงานออกไปแล้ว ค่อยให้สาวัชขึ้นนั่งแทนเก้าอี้ลื้อก็แล้วกัน”
แม้ไม่เห็นด้วยกับเงื่อนไขนี้ แต่ริสาก็ไม่ท้วง เธอจะค่อย ๆ รุกคืบเข้าไปรวบอำนาจบริหารทีละเซนติเมตร วันนี้ได้ตำแหน่งซีอีโอก่อน เรื่องอื่นค่อยว่ากันวันหน้า
หญิงสาวคุกเข่ากราบตักบิดา “หยงกราบขอบคุณความเมตตาของเตี่ยค่ะ”
ธนาลูบศีรษะเธอเบา ๆ น้ำเสียงทอดอ่อนดุจเปี่ยมด้วยความปรานี “อย่าทำให้เตี่ยผิดหวังละ เพราะเตี่ยไม่เคยให้โอกาสใครเป็นครั้งที่สอง”
มีเพียงริสาที่รู้ดีว่ามันเป็นทั้งคำสั่งและคำขู่แทรกปนอยู่ด้วยในเวลาเดียวกัน!
เกือบหนึ่งสัปดาห์ที่อินทุอรวีเข้ามาสังเกตการณ์ที่คิวปิดแอสซิสแทนซ์ เมื่อได้ข้อมูลเบื้องต้นเพียงพอแล้ว เธอจึงเชิญแพรวเพชรและอิงอรุณเข้าประชุมร่วมกันเพื่อแก้แบบร่างแผนธุรกิจสำหรับยื่นขอเงินกู้
นับตั้งแต่อิงอรุณแนะนำให้รู้จักราชนิกุลสาว แพรวเพชรก็ชอบอีกฝ่ายทันที อินทุอรวีสวยเฉียบ ทันสมัย การศึกษาดี ฐานะและชาติตระกูลเพียบพร้อม ทั้งยังเก่งในเชิงอาชีพอย่างหาตัวจับยาก ช่างสมบูรณ์แบบชนิดที่ทำให้ ‘คุณหนูอิงอรุณ’ กลายเป็นผู้หญิงสมบูรณ์แบบอันดับสองได้สบาย ๆ
ก่อนเริ่มประชุม อิงอรุณเปรยว่าอยากเชิญสาวัชเข้าฟังด้วย แพรวเพชรลังเล ครั้นขอความเห็นจากอินทุอรวี หม่อมราชวงศ์หญิงเห็นพ้องกับอิงอรุณด้วยเหตุผล
“พี่เคยคุยกับคุณสาวัชหลายครั้ง มุมมองด้านธุรกิจของเขาน่าสนใจค่ะ ถ้าคุณเพชรกับคุณอิงไว้ใจเขาให้ทราบสถานการณ์บริษัทได้ พี่ว่าการเชิญเขามาช่วยระดมความคิดก็จัดเป็นไอเดียที่ดีมาก ๆ เลยค่ะ”
ตลอดการประชุมแพรวเพชรแทบไม่สบโอกาสแสดงความคิดเห็น เพราะไม่ว่าอินทุอรวีจะวิเคราะห์ปัจจัยทางการเงินใดก็ตาม สาวัชมักออกเสียงพูดแทนสิ่งที่เธอคิดเป็นคนแรก! ดูก็รู้ว่าชายหนุ่มกำลังปกป้องคิวปิดแอสซิสแทนซ์อยู่!
ผู้ช่วยกามเทพทั้งคู่จดคำแนะนำใส่สมุดยิก ๆ ทั้งยังสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมในจุดที่สงสัย ครั้นการประชุมจบลง อิงอรุณก็กระตือรือร้นชักชวนทุกคน
“วันนี้อิงอยากกินสุกี้ค่ะ พวกเราไปร้านสุกี้เรือนเพชรกันไหมคะ”
“เรานัดหนูกานกับพี่เผ่าไว้แล้วว่าจะไปกินพิซซ่ากัน ขอโทษด้วยนะอิง”
“งั้นคุณสาวัชกับพี่หญิงไปกับอิงนะคะ” คนชวนออดเหมือนเด็กเล็ก ๆ
แพรวเพชรกำลังจับตามองฉากเหตุการณ์ตรงหน้า จึงหลบไม่ทันเมื่อสาวัชเหลียวมาสำรวจปฏิกิริยาของเธอ
ชายหนุ่มชะงัก งันไปชั่วครู่ แล้วหันไปตอบอิงอรุณขรึม ๆ “ผมมีนัดแล้ว”
อิงอรุณหน้าม่อย “พี่หญิงล่ะคะ”
“พี่ว่างค่ะ ดีเหมือนกัน ได้ยินชื่อเสียงสุกี้ร้านนี้มานานแล้ว”
แพรวเพชรสบโอกาส จึงรีบแนะนำ “เทพไง อิงโทร.ไปชวนเทพสิ”
“โอ๊ย! รายนั้นน่ะ ตั้งแต่ย้ายงานก็แทบจะอุทิศตัวเป็นทาสของบริษัทฯ ไปละ โทร.ไปเมื่อเช้าแล้ว ขนาดวันอาทิตย์ยังบอกไม่ว่างเลย” อิงอรุณกระฟัดกระเฟียด
“อ้าว เขาตั้งใจทำงานก็ดีแล้วนี่ สยามดริ๊งค์ฯ มีกำไรเยอะ ๆ อิงจะได้เอาเงินปันผลมาช็อปปิ้งไง” แพรวเพชรพบว่าสาวัชไม่สะดุ้งสะเทือน หรือมีปฏิกิริยาใด ทั้งสิ้นยามอิงอรุณเอ่ยถึงว่าที่คู่หมั้น หรือเธอจะกังวลมากไป เขาอาจไม่ได้คิดอะไรกับเพื่อนรักของเธอ เป็นแค่คนรู้จักกันตามปกติ
“ไปกันเฉพาะผู้หญิงสองคน ระวังตัวด้วยละ” สาวัชติง หน้าบึ้งระดับปกติ
แพรวเพชรเขม้นมอง ครั้นเห็นความห่วงใยในตาเขา หญิงสาวก็ลอบถอนใจ เธอดูผู้ชายคนนี้ไม่ออกเลยจริงจริ๊ง!
“ถ้ามีปัญหา อิงจะส่งสัญญาณเอสโอเอสขอความช่วยเหลือด่วนเลย”
สาวัชเหลียวมามองเธอทันควัน ครั้นเห็นว่ายังคงถูกจับตาอยู่ก็เสตีหน้าขรึม ทำเสียงดุ “อย่ามีปัญหาอะไรเลยดีกว่า”
ชายหนุ่มพูดจบก็ลุกขึ้นก้มศีรษะเป็นเชิงลา
“เดี๋ยวอิงไปส่งคุณสาวัชก่อนนะ” คนตัวเล็กกระวีกระวาดลุกตามไปทันที
แพรวเพชรเอนพิงพนักเก้าอี้เหลือบดูอินทุอรวี เห็นฝ่ายนั้นมองตามสองหนุ่มสาวไปทางประตูด้วยใบหน้าเปื้อนยิ้ม นักจับคู่สาวขมวดคิ้ว อินทุอรวีก็จับตาดูสองคนนั้นอยู่ หรือว่าราชนิกุลสาวก็ ‘รู้สึก’ เช่นกันว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
ว่าที่คุณแม่คอยอินทุอรวีขอตัวกลับไปแล้ว จึงโทร.หาใครบางคน เพียงได้ยินเสียงจากปลายสาย เธอก็เปรยล้อเลียน
“วันอาทิตย์ทั้งทีก็ยังเอาแต่ทำงานหามรุ่งหามค่ำ ไม่มีเวลามากินข้าวกับแฟนอย่างนี้ ระวังว่าที่เจ้าสาวจะเปลี่ยนใจ ไม่แต่งงานด้วยนะเทพ! ”
ภัตตาคารสุกี้โบราณบนถนนเพชรบุรีตัดใหม่ค่อนข้างคลาคล่ำ อิงอรุณเลือกโต๊ะและสั่งอาหารคล่องแคล่วสมกับเป็นเจ้าถิ่น ระหว่างรอพนักงานมาเสิร์ฟหญิงสาวก็เย้าผู้ชายที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้าม
“ไหนตอนชวนทีแรก เห็นยืนกรานเสียงแข็งว่าติดธุระ อ้อนวอนยังไงก็มาไม่ได้ ทำไมจู่ ๆ ถึงเปลี่ยนใจล่ะคะ” เธอลากเสียงยาวล้อเลียน
“กลัวไม่มีใครห้ามคุณ เกิดกินสุกี้เขาหมดร้านจะทำยังไง” เขาย้อนหน้าตาย
“แรงอะ” หญิงสาวกระเง้ากระงอด “ตกลงติดธุระจริงหรือเปล่าคะ หรือมาเพราะเสียไม่ได้ที่ถูกคะยั้นคะยอ”
“มาเพราะตัดรำคาญ”
อิงอรุณตาโต “พูดจาทำร้ายจิตใจขนาดนี้ งั้นผู้ชายคนเดียวในโต๊ะคงต้องเลี้ยงสาว ๆ หน่อยแล้วละ”
“คุณกินเยอะอย่างนี้ ผมเลี้ยงไม่ไหวหรอก”
แม้เขาจะตอกกลับแรง ๆ แต่อิงอรุณกลับไม่ถือสา “เหอะ! อิงไม่เห็นอยากให้เลี้ยงเลย กินสุกี้โบราณอย่างนี้ไม่คุ้ม ต้องรอไปกินโต๊ะจีน แล้วค่อยหาเจ้ามือดีกว่า”
บรรยากาศเป็นไปอย่างชื่นมื่น เมื่ออิงอรุณผูกขาดการสนทนา โดยมีอินทุอรวีรับมุก ส่วนผู้ชายหน้านิ่งฝั่งตรงข้ามนั้นคอยตักอาหารใส่จานให้สองสาวเท่าเทียมกัน
“สุกี้อร่อยสมคำร่ำลือจริง ๆ คุณอิงมาทานบ่อยหรือคะ” อินทุอรวีชวนคุย
“อิงมาไม่บ่อยหรอกค่ะ ปกติมักติดสอยห้อยตามเพื่อนมามากกว่า”
“ผู้หญิงหรือผู้ชายคะ” อินทุอรวีทำเสียงล้อเลียน
“อืม...จะเรียกว่าเพื่อนหรือแฟนก็ได้ค่ะ” อิงอรุณไม่รู้ตัวสักนิดว่าใครคนหนึ่งรามือชะงักค้างมองมาทางเธอเขม็ง
“เพื่อนหรือแฟน เอาให้แน่สักอย่างสิ” สาวัชดุ หน้าบึ้ง!
หัวใจอิงอรุณโลดเป็นจังหวะประหลาดจนมือไม้ไม่มีแรงดื้อ ๆ เธอรีบวางช้อน หัวเราะกลบเกลื่อน “เขาเป็นคนที่อิงกำลังจะแต่งงานด้วยน่ะค่ะ”
“เอาเรื่องนี้มาพูดเล่นมันเหมาะแล้วหรือ” สาวัชทำหน้าดุจคุณครูจอมโหดเงื้อไม้เรียวเตรียมหวดนักเรียนหัวดื้อ
“อิงไม่ได้เอาเรื่องแบบนี้มาอ้างเล่น ๆ หรอกค่ะ” ทั้งที่พูดความจริงทุกคำ แต่ทำไมเธอรู้สึกผิดก็ไม่รู้! คนพูดเสียงอ่อยโดยไม่ตั้งใจ “อิงกำลังจะแต่งงานจริง ๆ ”
“แล้วไหนละเจ้าบ่าวของคุณ ทำไมผู้ชายคนนั้นถึงปล่อยให้คุณมากินสุกี้กับผมและคุณหญิงรวีอย่างนี้ นี่มันเย็นวันอาทิตย์นะ”
“ก็บอกแล้วไงคะว่าแฟนอิงไม่ว่าง” ใครก็ได้ช่วยที โลกอันแสนสงบสุขของเธอกำลังถูกผู้ชายคนนี้บุกรุก
สาวัชยกข้อมือขึ้นดูเวลา “ถ้าเขาเป็นคนไทยและอยู่เมืองไทย งั้นวันนี้ก็น่าจะเป็นวันหยุด โทร.เชิญมาร่วมวงกับเราสิ จะได้แนะนำให้ผมกับคุณหญิงรวีรู้จักด้วย”
อิงอรุณเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน สาวัชดูจะมั่นใจเต็มร้อยว่าเธออุปโลกข์แฟนขึ้นมาเพื่อไม่ให้เสียหน้า
หญิงสาวเรียกไปยังเลขหมายของพันเทพ นิ้วเคาะบนโต๊ะเป็นจังหวะ แต่สุดท้ายเธอก็หน้าม่อย จำต้องวางโทรศัพท์คืนที่ ถอนใจเบา ๆ “เขาติดสายอยู่ค่ะ”
รอยยิ้มบนใบหน้าสาวัชบ่งบอกถึงชัยชนะ
“อิงไม่ได้โกหกนะคะ เขาติดสายอื่นอยู่จริง ๆ ” เธอแทบจะลิ้นพันกัน รีบเรียกไปยังเลขหมายเดิม แล้วเปิดลำโพงให้เสียงสัญญาณสายไม่ว่างดังลอดออกมา
สาวัชโน้มตัวยื่นหน้ามาดูหน้าจอโทรศัพท์ของเธอแล้วพยักหน้าหงึก ๆ “ปานเทพเหรอ น่าสนใจจริง ๆ ผมคิดว่ากามเทพอย่างคุณน่าจะบันทึกชื่อคนรักให้หวานแหววกว่านั้นซะอีก ใช้ภาษาอังกฤษห้วน ๆ แบบนี้ สู้หวานใจ พ่อพายน้อย ขนมถ้วยฟูที่รัก หรืออะไรแนว ๆ นี้ก็ไม่ได้ นี่ออกแนวสิ่งเคารพบูชามากกว่า แถมรูปประจำตัวก็ไม่ใส่ ห่างเหินกับแฟนจัง”
“นี่มันเป็นเรื่องส่วนตัวของอิงนะคะ อิงจะเมมชื่อใครยังไง ใส่รูปหรือเปล่า ก็เป็นสิทธิ์ของอิง” เพราะเธอลิงค์สมุดโทรศัพท์กับอีเมล รูปประจำตัวพันเทพจึงเป็นรูปที่เขาตั้งเอง ซึ่งเพื่อนรักอาร์ตตัวพ่อก็เลือกใช้ป้ายพื้นเขียวข้อความขาวเขียนว่า ‘ทางออก’ โดยมีรูปคนวิ่งที่เหมือนป้ายชี้บอกทางหนีไฟ แต่ไรมาอิงอรุณไม่เคยคิดว่ามันจะมีนัยสำคัญ จึงไม่เคยคิดว่าจะต้องเปลี่ยนรูปของเขาให้เป็นรูปแทนตัวจริง ๆ !
“ผมก็แค่...ตั้งข้อสังเกต”
สีหน้าเหมือนทองไม่รู้ร้อนของเขาทำให้อิงอรุณเม้มปากแน่นเพื่อระงับอารมณ์ ไม่อยากยอมรับเลยว่าเธอกำลังเสียศูนย์
“ทานกันต่อเถอะค่ะ เดี๋ยวสุกี้เย็นแล้วจะไม่อร่อย” อินทุอรวีขัดจังหวะ
สาวัชใช้ด้ามตะเกียบคีบเป็ดย่างให้เธอและอินทุอรวี ขณะกระแนะกระแหน “คุณสั่งกับข้าวเยอะเกินไปนะ มีสุกี้แล้วยังจะสั่งเป็ดย่าง ทอดมันกุ้ง แล้วก็ยำคะน้ากุ้งสดอีก กินเก่งอย่างนี้แฟนคุณจะเลี้ยงไหวเหรอ”
เอสโอเอส! นี่เธอจะส่งสัญญาณขอความช่วยเหลือไปที่ไหนดี แพรวเพชรก็กำลังอยู่กับครอบครัว พันเทพก็ติดต่อไม่ได้ ถ้าขอความเมตตาจากกรรมดีที่เคยทำ กุศลผลบุญจะติดจรวดส่งตัวช่วยมาให้ในยามที่เธอต้องการไหมเนี่ย!
เงามืดที่บังแสงไฟจากเบื้องหลัง ทำให้อิงอรุณเหลียวไปมองด้วยความฉงน
“เรามาทันหรือเปล่า” พันเทพยืนอยู่ตรงนั้น กำลังก้มลงมาสบตาเธอ พระเจ้าตอบรับคำขอของเธอด้วย ไชโย!
“มาได้ยังไงเนี่ย” อิงอรุณดึงเขานั่งลงข้าง ๆ “นั่งเลย ๆ ยังไม่ได้กินอะไรมาใช่ไหม แนะนำให้รู้จักกันก่อน เทพจ๋า นี่พี่หญิง หม่อมราชวงศ์อินทุอรวี ชยาธร”
ครั้นอินทุอรวีพยักหน้ารับไว้ เธอจึงผายมือไปทางสาวัชต่อ “ส่วนนี่ก็...”
“เอ๊ะ! พี่วัชใช่ไหมครับ” พันเทพชิงทักทาย “ผมพันเทพครับ จำผมได้ไหมพี่”
สาวัชกะพริบตา แล้วหันมาทางอิงอรุณ ดวงหน้าเขามีร่องรอยประหลาดที่อธิบายไม่ได้ “เนี่ยเหรอแฟนคุณ”
“อิงบอกพี่วัชด้วยเหรอครับ” พันเทพแปลกใจ “ปกติอิงไม่ค่อยบอกใครหรอกฮะ ต้องโดนคาดคั้นหนัก ๆ ถึงจะตัดรำคาญแบบนั้น”
“อ้อ...ตัดรำคาญ” สาวัชทวนคำพยักหน้าหงึก ๆ
อิงอรุณนึกรู้ว่าเขาเหน็บแนมเธอ จึงเสหันไปทางพันเทพ “เทพมาได้ไงเนี่ย ไหนบอกว่าติดงานไง”
“ก็เปลี่ยนใจแล้วไง ว่าแต่นี่แค่กินข้าวตามปกติ หรือฉลองเนื่องในโอกาสพิเศษอะไรหรือเปล่า”
เพราะอิงอรุณง่วนกับการสั่งอาหารเพิ่ม อินทุอรวีจึงตอบแทน “ไม่ได้ฉลองอะไรค่ะ พอดีประชุมเสร็จแล้วคุณอิงชวน ก็เลยยกขบวนมาชิมตามที่เจ้าถิ่นแนะนำ”
“คุณหญิงรวีเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของณัฐภัทรคอร์ปฯ ใช่ไหมครับ” พันเทพชวนสนทนา ครั้นให้ความสนใจราชนิกุลสาวพอแล้ว เขาจึงหันไปชวนสาวัชเจรจาบ้าง “ทราบมาว่าพี่วัชกลับไปเป็นผู้บริหารที่ปรเมศวร์เทรดดิ้งแล้วใช่ไหมฮะ”
“ไม่ใช่ผู้บริหาร แค่ผู้จัดการฝึกหัด” สาวัชแก้ตำแหน่งก่อน “ได้ยินจากคุณอิงว่านายย้ายไปอยู่สยามดริ๊งค์ฯ”
“เทพมาช่วยงานคุณพ่ออิงไงคะ” อิงอรุณส่งยิ้มหวานให้พันเทพ พูดแทรกทั้งที่ปกติแก่มารยาทเป็นที่สุด “อิงก็บอกแล้วว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน”
“เฮ้ย! ปกติใครถามก็ปิดปากเงียบ วันนี้กินยาผิดซองหรือเปล่าเนี่ยคุณหนู ถึงยอมประกาศให้โลกรู้ขนาดนี้”
“คุณอิงคงกลัวคนฟังไม่เชื่อ” เขาพยักพเยิดกับอินทุอรวี “ว่าไหมครับ”
“คุณอิงอาจอยากประกาศให้โลกรู้ว่ากำลังมีความสุข” อินทุอรวีเข้าข้างเธอ
สายตาสาวัชเป็นประกายขณะมองพันเทพ มุมปากยกนิด ๆ ดุจจงใจล้อเลียน
อิงอรุณอึดอัดกับสายตาคู่นั้น จึงเสหันไปตีมือพันเทพเบา ๆ “เทพเพิ่งมาจากออฟฟิศใช่ไหม ไปล้างมือก่อนเลย”
พันเทพตะเบ๊ะล้อเลียน แล้วก้มศีรษะให้ทุกคนในโต๊ะ “ขอตัวสักครู่นะครับ”
อิงอรุณนึกว่าบรรยากาศจะคืนสู่สภาพปกติ แต่เธอกลับพบว่า...ตัวเองคิดผิด!
“พันเทพ เทพวรสิงห์” สาวัชมองตามรุ่นน้องไปจนลับตาพลางพึมพำ ความทรงจำฉายชัดถึงภาพชายหนุ่มร่างสูงผิวคล้ามแดด มีรอยยิ้มติดหน้าเป็นนิจ
พันเทพเป็นเด็กแกรด [1] คนไทยไม่กี่คนที่เขาคบยามอยู่ต่างแดน ชายหนุ่มชะงักเมื่อนึกมาถึงตรงนี้ เขาเคยรู้จักพันเทพ ถึงขั้นนับถือเป็นพี่เป็นน้องกันเลยด้วยซ้ำ
“เทพเคยเล่าว่าเป็นรุ่นน้องคุณสาวัชที่เยล ไม่ต้องแนะนำอะไรมากเนอะ”
“ใช่ ไม่ต้องแนะนำมากเลย” เขายกมุมปากอีกครั้ง รอยระยับพราวในดวงตา เนี่ยเหรอคนรักของอิงอรุณ เขาไม่เชื่อคำพูดของเธอแม้แต่นิดเดียว มันไม่ใช่เรื่องที่เด็กไทยในเมืองนิวฮาเว่นรู้กันทั่วก็จริง แต่ก็ไม่ใช่ความลับจนไม่มีใครรู้!
วันนั้นเขาถูกพันเทพคะยั้นคะยอให้บไปร่วมงานเลี้ยงต้อนรับเด็กไทยกลุ่มใหม่ ชายหนุ่มจึงตัดรำคาญด้วยการไปดื่มสักแก้วตามมารยาทแล้วกลับเหมือนทุกครั้ง! ขณะทุกคนกำลังสนุกสนานอยู่ในห้องรับแขก เขาก็บอกลาเจ้าบ้านแยกกลับก่อน
สาวัชออกจากบ้านด้วยความโล่งใจ แต่เสียงสวบสาบที่พุ่มไม้ริมตัวบ้านทำให้กังวลเรื่องขโมยขโจร เขาโหย่งเท้าไปสำรวจที่มาของเสียงผิดปกติ ซึ่งทำให้เขาจำต้องเป็นประจักษ์พยานในเหตุการณ์อันไม่น่าพึงใจสักนิด
สาวัชหมุนกายกลับไปตามทางเดิมอย่างเงียบเชียบ และหลบเลี่ยงการเผชิญหน้ากับเด็กไทย ‘บางคน’ จนถึงกับเลิกสมาคมกันไปโดยปริยาย เพราะเขาวางหน้าวางตัวไม่ถูกจริง ๆ หากต้องพบกับพันเทพและใครอีกคนหนึ่งอยู่ด้วยกัน
จนมาพบกันวันนี้ น่าขัน..อิงอรุณจะให้เขาเชื่อจริง ๆ เหรอว่าเธอกำลังจะแต่งงานกับผู้ชายคนนั้น ในเมื่อเขารู้อยู่เต็มอกว่าพันเทพรักผู้ชาย พันเทพเป็นเกย์!
“ผมขอโทษละกันที่ไม่เชื่อคำพูดคุณ” สาวัชเอนพิงเก้าอี้ มองเธอนิ่ง ๆ คล้ายผู้ใหญ่ดูเด็กดื้อแสดงฤทธิ์เดช
“จัดงานเมื่อไหร่อย่าลืมชวนพี่นะคะ” อินทุอรวีคลายบรรยากาศ
อิงอรุณเอนตัวไปอิงบ่าสาวรุ่นพี่ ลูบแขนอีกฝ่ายอย่างออดอ้อน “สัญญาเลยค่ะว่าอิงต้องเชิญพี่หญิงด้วยแน่ ๆ ”
“อ้าว! แล้วผมล่ะ ไม่เชิญผมด้วยเหรอ” สาวัชเลิกคิ้วล้อเลียน
อิงอรุณตวัดค้อน “เชิญแล้วต้องไปจริง ๆ นะคะ”
“เดี๋ยวเหมาสุกี้เรือนเพชรไปออกร้านให้ด้วยเลยเอ้า! ” เขาย้อนอย่างใจป้ำ
เมื่อพันเทพกลับมาที่โต๊ะ ก็ชวนทุกคนพูดคุยต่ออย่างสนุกสนาน
หลังมื้ออาหารจบลง อิงอรุณเสนอตัวเป็นเจ้ามือโดยอ้างว่าจะเบิกเป็นค่าใช้จ่ายบริษัท จากนั้นเจ้าหล่อนก็ชิ่งหนีกลับบ้านด้วยการให้พันเทพไปส่งแทน
สาวัชมองสองหนุ่มสาวเดินเคียงกันไปที่รถ น่าขันที่อิงอรุณเลือกพันเทพมาเล่นเป็นคนรักหลอก ๆ ฝ่ายชายก็รับสมอ้างอย่างรวดเร็ว ทั้งคู่คงประกาศตัวเป็นคู่รักเพื่อตัดรำคาญมานักต่อนักแล้ว ถึงเล่นละครได้แนบเนียนคล่องแคล่วเช่นนี้
กระนั้นสาวัชก็จำต้องยอมรับว่าเขาอดเกลียดสายตาที่พันเทพมองอิงอรุณไม่ได้ มันไม่มีความปรารถนาเสน่หา เป็นแค่ความรักใคร่ห่วงใยฉันเพื่อนก็จริง แต่
เขาไม่ชอบใจอยู่ดีที่เห็นอิงอรุณถูกใครมองอย่างนั้น ให้ตายเถอะ!
[1] ในสหรัฐอเมริกานิยมเรียกนักศึกษาระดับปริญญาโทว่า แกรด ย่อมาจากแกรดูเอท (Graduate) ส่วนนักศึกษาระดับปริญญาตรี จะเรียกอันเดอร์แกรด (Undergraduate)
-----------------------------------------------------------
ประกาศ
เรื่องนี้จะลงให้อ่านฟรีจนจบ
หลังลงครบทุกตอน
จะลบ 5/6 ของเล่มนะคะ
ส่วนตอนพิเศษอีก 100 กว่าหน้า
มีเฉพาะในฉบับตีพิมพ์และอีบุ๊คเท่านั้นค่ะ
ตามไปจิกหมอน+ฟินกันในเล่มได้เลย
sds
หนังสือและอีบุ๊คพร้อมจำหน่ายแล้วนะคะ
สั่งซื้อฉบับหนังสือ https://goo.gl/HA1QWz
100 คนแรก จัดส่งฟรี + รับที่คั่นนกฟลามิงโกเพิ่มพิเศษ
หรือซื้อฉบับหนังสือจากร้านออนไลน์ชื่อดัง
ร้านนิยายรัก https://goo.gl/uPTdCs
E-Book
mebmarket >>https://goo.gl/o9FXn6
ookbee >>https://goo.gl/rf274b
Hytexts >>https://goo.gl/KcekzB
โหลดอีบุ๊คพยศดอกฟ้าภายใน 31 พ.ค.61
รับที่คั่นลายนกฟลามิงโกจัดส่งถึงบ้าน
อีก 100 รางวัลจ้ะ จัดกันไปเน้นๆ
บอกให้รู้ว่าจะซื้อเล่มหรืออีบุ๊ก ก็รักเท่ากันนะจ๊ะ
วิธีการรับของรางวัล อ่านกันดีๆ ค่ะ
1. ถ้าซื้อจาก Meb ไปที่ My Account -> My privilege แล้วรับสิทธิ์เลย
2. ถ้าซื้อจาก ookbee หรือ hytexts แคปหน้าจอการสั่งซื้อ ระบุอีเมลที่ใช้ login ส่งมาที่กล่องข้อความของเพจสิริณ
สิริณจะยืนยันกลับเฉพาะท่านที่ได้รับสิทธิ์นะคะ
เฉพาะอีบุ๊ก แจก 100 ชิ้นค่ะ ครบเมื่อไหร่ ปิดการแจกทันที
สะดวกช่องทางไหนสั่งซื้อเลยค่ะ
ขอบคุณทุกคนที่ยังรักและเมตตากันเสมอนะคะ
สิริณ
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 พ.ค. 2561, 22:20:34 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 พ.ค. 2561, 22:20:34 น.
จำนวนการเข้าชม : 756
<< ตอนที่ 26 | ตอนที่ 28 >> |