ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 5 -50%
หลังจากชีคมุซตาฮ์ซานบังคับให้หญิงสาวดื่มนมจนหมดแก้ว เขาจึงพาเธอไปส่งที่บ้าน สี่ทุ่มตรงรถมาเซราตีก็จอดเทียบรั้วไม้หน้าบ้านพอดิบพอดี
“คุณแม่เธอคงไม่ว่า เพราะนี่ก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่”
“ค่ะ ท่านไม่น่าจะว่า” หญิงสาวมองกลับเข้าไปในบ้าน เห็นปิดไฟเงียบ เดาว่ามารดาเลี้ยงยังไม่ได้เข้านอน แต่คงไปจับกลุ่มกับเพื่อนฝูงของท่านเช่นทุกครั้งนั่นเอง
“ความจริงฉันอยากพบคุณแม่ของเธอ ไม่อยากให้ท่านคิดว่าฉันไปหลอกหรือล่อลวงเธอ อยากบอกกับท่านด้วยตัวเองว่าฉันบริสุทธิ์ใจที่จะคบหาอย่างเปิดเผย ไม่มีเจตนาหลบซ่อนให้เกิดความเสื่อมเสีย”
เขาพูดด้วยนัยน์ตามั่นคงพร้อมๆ กับน้ำเสียงหนักแน่นที่ทำเอาคนฟังหัวใจพองโต หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง
“เพชรคิดว่าเราน่าจะลองคบกันสักพักก่อน แล้วเพชรจะเรียนคุณแม่ให้ทราบค่ะ” หญิงสาวบ่ายเบี่ยง นั่นก็เพราะว่าเธออายุแค่สิบแปดปี มารดาเลี้ยงต้องไม่เห็นด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเธออายุสิบเก้าก็จะดูโตขึ้นมาอีกสักหน่อย
เธอลอบถอนหายใจ ความรักทำให้หญิงสาวกลายเป็นเด็กแก่แดดช่างโกหกไปเสียแล้ว แต่เพราะเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังจัดการกับชีวิตหรือตัดสินใจอะไรด้วยตนเองไม่ได้ เธอจึงต้องรอ อีกสองปีเท่านั้นเธอก็จะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
“ได้สิเพชรไพลิน ฉันรอเธอได้เสมอ” เขาเดินลงมาส่งหญิงสาวที่หน้าประตู
“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจเพชร วันนี้ขอบคุณมากนะคะ”
“ราตรีสวัสดิ์นะเพชรไพลิน” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อหญิงสาวก้าวเดินเข้าไปภายในรั้วบ้าน
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะท่านชีค” เพชรไพลินยิ้มก่อนจะทำในสิ่งที่ทั้งเธอและเขาไม่คาดคิด หญิงสาวเขย่งปลายเท้าแล้วหอมแก้มชายหนุ่มฟอดใหญ่ อาศัยจังหวะที่ชีคหนุ่มยังคงยืนอึ้ง รีบสาวเท้าหนีกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“ถึงกับแข็งเป็นหินไปเลยหรือครับท่านชีค” เสียงทุ้มค่อนไปทางแหบเอ่ยสัพยอกขึ้น ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นองครักษ์คู่ใจหาใช่ใครอื่น
“ดาอี นายไปแอบอยู่ตรงไหน แล้วเห็นอะไรบ้าง” เขายังคงมองตามร่างบางเข้าไปในบ้าน มองดูไฟบนบ้านทรงไทยส่องสว่างขึ้นบางจุด
“เพิ่งเดินมาครับ เห็นแค่ตอนคุณเพชรไพลินหอมแก้มท่านชีค” ดาอีรายงานตามตรง ทว่าในเนื้อหาที่รายงานนั้นฉายชัดว่าเย้าแหย่ผู้เป็นนาย
ดูเหมือนชีคหนุ่มจะรู้ แต่ไม่ได้โต้ตอบอย่างทุกครั้ง
“คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นๆ ฉันไม่อยากให้เพชรไพลินเสียหาย ผู้หญิงไทยถือเรื่องพวกนี้มาก” พูดจบเขาก็เดินไปขึ้นรถ
ดาอีหันไปทำสัญญาณให้ทหารอารักขาอีกสองนายขับรถตามมา ส่วนตัวเขาเองเปลี่ยนมาทำหน้าที่พลขับให้กับเจ้านายหนุ่มเสียเอง
ผู้หญิงไทย จะทำให้เสื่อมเสียไม่ได้...คิดแล้วมันช่างไม่ยุติธรรมเสียเหลือเกิน ก่อนหน้านี้หญิงไทยไม่รู้กี่คนต่อกี่คนที่ถูกทำให้เสื่อมเสีย แต่นั่นเพราะเจ้าหล่อนยอมที่จะเสื่อมเสียโดยการทอดกายให้ชีคหนุ่มผู้ร่ำรวย กี่ครั้งที่เงินตราทำให้พวกหล่อนหายไปจากชีวิต และเรียกพวกหล่อนเข้าหาราวกับล่อหลอกแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
“คุณเพชรไพลินเธอน่ารักนะครับ” เขาชวนคุยระหว่างขับรถแล่นออกไปจากซอยบ้านของนางรำสาวแสนสวย
“ใช่ เธอน่ารักแตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่ฉันรู้จัก เธออ่อนหวานและไร้เดียงสา บางทีรัฐรามานอาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีชีคคา”
เอี๊ยด!
รถเบรกกะทันหัน ทำให้รถคันหลังที่ขับตามมาบีบแตรไล่เสียงดังสนั่น เมื่อองครักษ์ดาอีได้สติจึงรีบขับรถต่อไป ชีคมุซตาฮ์ซานขมวดคิ้วอย่างตำหนิ
“ชีคคาหรือครับท่านชีค” ดาอีเอ่ยถามอีกครั้งราวกับไม่เชื่อหู รัฐรามานต้องการชีคคามาหลายปีแล้ว นับจากชีคมุซตาฮ์ซานรับตำแหน่งชีคต่อจากบิดา ทว่าเขากลับหวงแหนความโสดจนไม่มีใครกล้าแย้มพรายเรื่องนี้อีก แต่แล้วชีคหนุ่มกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเสียเอง
“ดาอี นายหูตึงงั้นหรือ”
ชีคหนุ่มย้อนถามอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
องครักษ์หนุ่มสงบปากสงบคำแล้วนิ่งเสีย ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มดื่มด่ำกับแสงสีและผู้คนสองข้างทาง อันที่จริงเขาค่อนข้างมั่นใจว่าท่านชีคคงไม่ได้ชมวิวทิวทัศน์แต่อย่างใด แต่คงคิดถึงนางรจนาหน้าแฉล้มผู้ที่เข้ามากุมหัวใจชีคหนุ่มได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
***************
ร่างเล็กสวมเสื้อยืดแขนกุดรองเท้าผ้าใบ รวบผมเป็นหางม้าแล้วสวมหมวกแก๊ปกันแดด แหงนหน้าขึ้นมองคนตัวโต เขาแต่งกายไม่ต่างไปจากเธอ ชีคหนุ่มหยิบแว่นขึ้นมาสวมปิดบังใบหน้าเอาไว้
“ท่านชีคแต่งแบบนี้หล่อไปอีกแบบ” เพชรไพลินสำรวจชายหนุ่มแล้วยิ้มกว้างสดใส
ชีคมุซตาฮ์ซานหัวเราะในลำคอแล้วจับศีรษะของเธอโยกไปมาอย่างหยอกเย้าด้วยความเอ็นดู
“ไปหัดปากหวานแบบนี้มาจากที่ไหน” เขาทอดเสียงนุ่มเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
เพชรไพลินใช้มือข้างหนึ่งปิดตาตัวเอง แล้วชี้มืออีกข้างไปทางชีคมุซตาฮ์ซาน ชายหนุ่มถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นท่าทางทะเล้นขี้เล่นของหญิงสาวเช่นนั้น
“เธอโทษฉันงั้นหรือ รู้หรือเปล่าว่าของแบบนี้มันติดกันไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ” เขาโน้มตัวลงมาใกล้ๆ แล้วกระซิบให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“ยังไงคะเพชรไม่เข้าใจ” หญิงสาวติดกับดักชีคเจ้าเล่ห์เข้าให้จนได้
“ถ้าอยากปากหวานเหมือนฉันก็ต้องจูบ แบบนั้นสิเธอถึงจะได้ความหวานจากปากของฉันไป” สายตากรุ้มกริ่มและถ้อยคำเชิญชวนมากเล่ห์ ทำให้หัวใจของคนตัวเล็กกระตุกไหว ใบหน้าเห่อร้อนเมื่อคิดถึงรสจูบที่ริมฝีปาก แม้ครั้งก่อนเขาจะแค่สัมผัสที่ริมฝีปาก กระนั้นเธอกลับรู้สึกหลอมละลายดั่งน้ำตาเทียน
“ไม่เป็นการพูดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยหรือคะ” เธอส่งตาค้อนให้เขาทั้งที่หัวใจเต้นโครมคราม
“มันเป็นวิธีการพิสูจน์ต่างหากล่ะเพชร อีกอย่างฉันแค่อยากให้เธอได้ลิ้มรสว่าปากของฉันหวานจริงอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า” เขาเชยคางมนให้เชิดขึ้นอย่างอ่อนโยนแล้วโน้มตัวลงไปใกล้...ใกล้เข้าไปอีกนิด...อีกนิด...จนเพชรไพลินรู้สึกได้ถึงลมหายใจผ่าวร้อนที่เป่าลดลงบนแก้มของเธอ ปลายจมูกชิดติดกับปลายจมูกเล็กรั้น หญิงสาวปิดเปลือกตาช้าๆ แต่แล้วชีคหนุ่มกลับผละออกจากหญิงสาว
“รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวรถจะติดเสียก่อน”
ชีคมุซตาฮ์ซานเดินไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเธอแดงก่ำจนเขานึกกลัวว่าแก้มนวลจะปริแตกเสียก่อน เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วรีบสาวเท้าเดินผ่านเขาเข้าไปนั่งในรถ
เขาปิดประตูให้หญิงสาว อมยิ้มระหว่างเดินอ้อมตัวรถกลับไปประจำตำแหน่งคนขับ ความจริงแม้การแกล้งหญิงสาวจะเป็นการทรมานตัวเอง แต่พอเห็นอาการเขินอายของเธอคราใด เขากลับรู้สึกชอบใจที่ได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของเธอทุกที
รถยนต์แล่นออกไปได้สักพักแล้ว ทว่าหัวใจของเพชรไพลินกลับยังเต้นรัวเร็วไม่หยุด นึกโกรธตัวเองที่เคลิ้มไปกับเล่ห์กลของชีคมุซตาฮ์ซาน และที่น่าโกรธที่สุดก็คือ เธอต้องการจูบจากเขา แก่แดดเสียจริง หญิงสาวตำหนิตนเองในใจ
ดูเหมือนว่าการมาเดินดูสินค้าที่ตลาดนัดจตุจักรจะไม่ใช่การมาเดทที่น่าอภิรมย์นัก ด้วยอากาศที่ร้อนและผู้คนที่แออัดทำให้เหงื่อไคลของชีคมุซตาฮ์ซานไหลจนแผ่นหลังเปียกชุ่ม ในขณะที่เพชรไพลินมีเหงื่อออกแค่ตรงปลายจมูกกับไรผม
“ไหวหรือเปล่าคะท่านชีค” เธออดที่จะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเสยผมไปยังด้านหลัง จังหวะนั้นมีผู้ที่มาจับจ่ายซื้อของเดินแทรกกลางทำให้ทั้งสองคนต้องเดินแยกจากกัน ฝูงชนที่เดินเบียดเสียดกันอย่างเนืองแน่นทำให้ค่อนข้างลำบากกว่าที่ทั้งสองจะเดินกลับมาหากันอีกครั้งได้
“คงเพราะเป็นวันอาทิตย์มั้งคะ คนเลยเยอะมาก”
“ถ้าอย่างนั้นจับมือกันไว้ดีกว่า เดี๋ยวเกิดพลัดหลงจะหากันลำบาก”
ชีคมุซตาฮ์ซานจูงมือหญิงสาวออกเดิน เพชรไพลินมิได้ปฏิเสธแต่กลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข
“แวะซื้อน้ำเย็นๆ สักหน่อยดีไหมคะ อากาศร้อนแบบนี้ถ้าได้น้ำเย็นๆ หวานๆ คงดีไม่น้อยเลย” เธอเอ่ยชวนแล้วเป็นฝ่ายลากชายหนุ่มเข้าไปที่ร้านขายน้ำ เลือกซื้อน้ำอัดลมให้ตนเองและคนรักคนละกระป๋อง
“สดชื่นขึ้นจริงๆ ด้วย ฉันได้ยินว่าที่จตุจักรมีพันธุ์ไม้ขาย เราไปเดินเล่นโซนนั้นน่าจะดีกว่า ส่วนโซนเสื้อผ้าเห็นทีจะไม่ไหว ร้อนเหลือเกิน”
ขณะที่พูดนั้นชีคหนุ่มเปียกปอนไปหมดทั้งตัวจนเพชรไพลินรู้สึกสงสาร
“เพชรว่าเราไปนั่งเล่นที่สวนรถไฟดีไหมคะ ไม่ไกลจากที่นี่ จะได้เป็นการนั่งพักด้วย”
“แต่เพชรอยากเดินเที่ยวสวนจตุจักรไม่ใช่เหรอ”
เขาเอ่ยถามเพราะเธอเป็นคนชวนเขามา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้หญิงสาวไม่ได้เลือกซื้อสิ่งของตามที่ต้องการ
“เอาไว้เพชรมากับเพื่อนๆ ดีกว่าค่ะ ชอปปิงซื้อของแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ชายจริงๆ ด้วย” หญิงสาวอมยิ้มแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อหยดโตที่ไหลจากหน้าผากกว้างลงมายังสันกรามแข็งแกร่ง
“จะดีเหรอ” ชีคหนุ่มยังคงลังเล
“ดีสิคะ ไปกันเถอะ เพชรอยากนั่งพักจะแย่แล้ว” หญิงสาวคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้แล้วเอาใบหน้าแนบที่ต้นแขนอย่างออดอ้อน คนหน้าดุถึงกับยิ้มกว้างเดินตามหญิงสาวไปอย่างง่ายดาย
***************
สวีทกันได้อีกนะคะท่านชีค เกรงใจสาวแถวนี้บ้าง >///<
ซื้อทรายล้อมเพชรแบบหนังสือเล่ม หรือโหลด eBook ก็ได้แล้วนะจ๊ะ ตามช่องทางที่แจ้งไว้ในตอนวางจำหน่าย
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“คุณแม่เธอคงไม่ว่า เพราะนี่ก็ยังไม่ดึกเท่าไหร่”
“ค่ะ ท่านไม่น่าจะว่า” หญิงสาวมองกลับเข้าไปในบ้าน เห็นปิดไฟเงียบ เดาว่ามารดาเลี้ยงยังไม่ได้เข้านอน แต่คงไปจับกลุ่มกับเพื่อนฝูงของท่านเช่นทุกครั้งนั่นเอง
“ความจริงฉันอยากพบคุณแม่ของเธอ ไม่อยากให้ท่านคิดว่าฉันไปหลอกหรือล่อลวงเธอ อยากบอกกับท่านด้วยตัวเองว่าฉันบริสุทธิ์ใจที่จะคบหาอย่างเปิดเผย ไม่มีเจตนาหลบซ่อนให้เกิดความเสื่อมเสีย”
เขาพูดด้วยนัยน์ตามั่นคงพร้อมๆ กับน้ำเสียงหนักแน่นที่ทำเอาคนฟังหัวใจพองโต หญิงสาวมองหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง
“เพชรคิดว่าเราน่าจะลองคบกันสักพักก่อน แล้วเพชรจะเรียนคุณแม่ให้ทราบค่ะ” หญิงสาวบ่ายเบี่ยง นั่นก็เพราะว่าเธออายุแค่สิบแปดปี มารดาเลี้ยงต้องไม่เห็นด้วยอย่างไม่ต้องสงสัย แต่ถ้าเธออายุสิบเก้าก็จะดูโตขึ้นมาอีกสักหน่อย
เธอลอบถอนหายใจ ความรักทำให้หญิงสาวกลายเป็นเด็กแก่แดดช่างโกหกไปเสียแล้ว แต่เพราะเธอยังไม่บรรลุนิติภาวะ ยังจัดการกับชีวิตหรือตัดสินใจอะไรด้วยตนเองไม่ได้ เธอจึงต้องรอ อีกสองปีเท่านั้นเธอก็จะโตเป็นผู้ใหญ่เต็มตัว
“ได้สิเพชรไพลิน ฉันรอเธอได้เสมอ” เขาเดินลงมาส่งหญิงสาวที่หน้าประตู
“ขอบคุณค่ะที่เข้าใจเพชร วันนี้ขอบคุณมากนะคะ”
“ราตรีสวัสดิ์นะเพชรไพลิน” เขาเอ่ยขึ้นเมื่อหญิงสาวก้าวเดินเข้าไปภายในรั้วบ้าน
“ราตรีสวัสดิ์ค่ะท่านชีค” เพชรไพลินยิ้มก่อนจะทำในสิ่งที่ทั้งเธอและเขาไม่คาดคิด หญิงสาวเขย่งปลายเท้าแล้วหอมแก้มชายหนุ่มฟอดใหญ่ อาศัยจังหวะที่ชีคหนุ่มยังคงยืนอึ้ง รีบสาวเท้าหนีกลับเข้าไปในบ้านอย่างรวดเร็ว
“ถึงกับแข็งเป็นหินไปเลยหรือครับท่านชีค” เสียงทุ้มค่อนไปทางแหบเอ่ยสัพยอกขึ้น ไม่ต้องหันไปมองก็รู้ว่าเป็นองครักษ์คู่ใจหาใช่ใครอื่น
“ดาอี นายไปแอบอยู่ตรงไหน แล้วเห็นอะไรบ้าง” เขายังคงมองตามร่างบางเข้าไปในบ้าน มองดูไฟบนบ้านทรงไทยส่องสว่างขึ้นบางจุด
“เพิ่งเดินมาครับ เห็นแค่ตอนคุณเพชรไพลินหอมแก้มท่านชีค” ดาอีรายงานตามตรง ทว่าในเนื้อหาที่รายงานนั้นฉายชัดว่าเย้าแหย่ผู้เป็นนาย
ดูเหมือนชีคหนุ่มจะรู้ แต่ไม่ได้โต้ตอบอย่างทุกครั้ง
“คนนี้ไม่เหมือนคนอื่นๆ ฉันไม่อยากให้เพชรไพลินเสียหาย ผู้หญิงไทยถือเรื่องพวกนี้มาก” พูดจบเขาก็เดินไปขึ้นรถ
ดาอีหันไปทำสัญญาณให้ทหารอารักขาอีกสองนายขับรถตามมา ส่วนตัวเขาเองเปลี่ยนมาทำหน้าที่พลขับให้กับเจ้านายหนุ่มเสียเอง
ผู้หญิงไทย จะทำให้เสื่อมเสียไม่ได้...คิดแล้วมันช่างไม่ยุติธรรมเสียเหลือเกิน ก่อนหน้านี้หญิงไทยไม่รู้กี่คนต่อกี่คนที่ถูกทำให้เสื่อมเสีย แต่นั่นเพราะเจ้าหล่อนยอมที่จะเสื่อมเสียโดยการทอดกายให้ชีคหนุ่มผู้ร่ำรวย กี่ครั้งที่เงินตราทำให้พวกหล่อนหายไปจากชีวิต และเรียกพวกหล่อนเข้าหาราวกับล่อหลอกแมงเม่าบินเข้ากองไฟ
“คุณเพชรไพลินเธอน่ารักนะครับ” เขาชวนคุยระหว่างขับรถแล่นออกไปจากซอยบ้านของนางรำสาวแสนสวย
“ใช่ เธอน่ารักแตกต่างจากผู้หญิงทุกคนที่ฉันรู้จัก เธออ่อนหวานและไร้เดียงสา บางทีรัฐรามานอาจถึงเวลาแล้วที่จะต้องมีชีคคา”
เอี๊ยด!
รถเบรกกะทันหัน ทำให้รถคันหลังที่ขับตามมาบีบแตรไล่เสียงดังสนั่น เมื่อองครักษ์ดาอีได้สติจึงรีบขับรถต่อไป ชีคมุซตาฮ์ซานขมวดคิ้วอย่างตำหนิ
“ชีคคาหรือครับท่านชีค” ดาอีเอ่ยถามอีกครั้งราวกับไม่เชื่อหู รัฐรามานต้องการชีคคามาหลายปีแล้ว นับจากชีคมุซตาฮ์ซานรับตำแหน่งชีคต่อจากบิดา ทว่าเขากลับหวงแหนความโสดจนไม่มีใครกล้าแย้มพรายเรื่องนี้อีก แต่แล้วชีคหนุ่มกลับพูดเรื่องนี้ขึ้นมาเสียเอง
“ดาอี นายหูตึงงั้นหรือ”
ชีคหนุ่มย้อนถามอย่างไม่สบอารมณ์เท่าใดนัก
องครักษ์หนุ่มสงบปากสงบคำแล้วนิ่งเสีย ปล่อยให้เจ้านายหนุ่มดื่มด่ำกับแสงสีและผู้คนสองข้างทาง อันที่จริงเขาค่อนข้างมั่นใจว่าท่านชีคคงไม่ได้ชมวิวทิวทัศน์แต่อย่างใด แต่คงคิดถึงนางรจนาหน้าแฉล้มผู้ที่เข้ามากุมหัวใจชีคหนุ่มได้ในระยะเวลาอันรวดเร็ว
***************
ร่างเล็กสวมเสื้อยืดแขนกุดรองเท้าผ้าใบ รวบผมเป็นหางม้าแล้วสวมหมวกแก๊ปกันแดด แหงนหน้าขึ้นมองคนตัวโต เขาแต่งกายไม่ต่างไปจากเธอ ชีคหนุ่มหยิบแว่นขึ้นมาสวมปิดบังใบหน้าเอาไว้
“ท่านชีคแต่งแบบนี้หล่อไปอีกแบบ” เพชรไพลินสำรวจชายหนุ่มแล้วยิ้มกว้างสดใส
ชีคมุซตาฮ์ซานหัวเราะในลำคอแล้วจับศีรษะของเธอโยกไปมาอย่างหยอกเย้าด้วยความเอ็นดู
“ไปหัดปากหวานแบบนี้มาจากที่ไหน” เขาทอดเสียงนุ่มเอ่ยถามอย่างอารมณ์ดี
เพชรไพลินใช้มือข้างหนึ่งปิดตาตัวเอง แล้วชี้มืออีกข้างไปทางชีคมุซตาฮ์ซาน ชายหนุ่มถึงกับกลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่เมื่อเห็นท่าทางทะเล้นขี้เล่นของหญิงสาวเช่นนั้น
“เธอโทษฉันงั้นหรือ รู้หรือเปล่าว่าของแบบนี้มันติดกันไม่ได้ง่ายๆ หรอกนะ” เขาโน้มตัวลงมาใกล้ๆ แล้วกระซิบให้ได้ยินกันเพียงแค่สองคน
“ยังไงคะเพชรไม่เข้าใจ” หญิงสาวติดกับดักชีคเจ้าเล่ห์เข้าให้จนได้
“ถ้าอยากปากหวานเหมือนฉันก็ต้องจูบ แบบนั้นสิเธอถึงจะได้ความหวานจากปากของฉันไป” สายตากรุ้มกริ่มและถ้อยคำเชิญชวนมากเล่ห์ ทำให้หัวใจของคนตัวเล็กกระตุกไหว ใบหน้าเห่อร้อนเมื่อคิดถึงรสจูบที่ริมฝีปาก แม้ครั้งก่อนเขาจะแค่สัมผัสที่ริมฝีปาก กระนั้นเธอกลับรู้สึกหลอมละลายดั่งน้ำตาเทียน
“ไม่เป็นการพูดเข้าข้างตัวเองไปหน่อยหรือคะ” เธอส่งตาค้อนให้เขาทั้งที่หัวใจเต้นโครมคราม
“มันเป็นวิธีการพิสูจน์ต่างหากล่ะเพชร อีกอย่างฉันแค่อยากให้เธอได้ลิ้มรสว่าปากของฉันหวานจริงอย่างที่เธอคิดหรือเปล่า” เขาเชยคางมนให้เชิดขึ้นอย่างอ่อนโยนแล้วโน้มตัวลงไปใกล้...ใกล้เข้าไปอีกนิด...อีกนิด...จนเพชรไพลินรู้สึกได้ถึงลมหายใจผ่าวร้อนที่เป่าลดลงบนแก้มของเธอ ปลายจมูกชิดติดกับปลายจมูกเล็กรั้น หญิงสาวปิดเปลือกตาช้าๆ แต่แล้วชีคหนุ่มกลับผละออกจากหญิงสาว
“รีบไปกันเถอะ เดี๋ยวรถจะติดเสียก่อน”
ชีคมุซตาฮ์ซานเดินไปเปิดประตูรถให้หญิงสาวที่ยังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม ใบหน้าของเธอแดงก่ำจนเขานึกกลัวว่าแก้มนวลจะปริแตกเสียก่อน เธอก้มหน้าลงเล็กน้อยแล้วรีบสาวเท้าเดินผ่านเขาเข้าไปนั่งในรถ
เขาปิดประตูให้หญิงสาว อมยิ้มระหว่างเดินอ้อมตัวรถกลับไปประจำตำแหน่งคนขับ ความจริงแม้การแกล้งหญิงสาวจะเป็นการทรมานตัวเอง แต่พอเห็นอาการเขินอายของเธอคราใด เขากลับรู้สึกชอบใจที่ได้เห็นใบหน้าแดงก่ำของเธอทุกที
รถยนต์แล่นออกไปได้สักพักแล้ว ทว่าหัวใจของเพชรไพลินกลับยังเต้นรัวเร็วไม่หยุด นึกโกรธตัวเองที่เคลิ้มไปกับเล่ห์กลของชีคมุซตาฮ์ซาน และที่น่าโกรธที่สุดก็คือ เธอต้องการจูบจากเขา แก่แดดเสียจริง หญิงสาวตำหนิตนเองในใจ
ดูเหมือนว่าการมาเดินดูสินค้าที่ตลาดนัดจตุจักรจะไม่ใช่การมาเดทที่น่าอภิรมย์นัก ด้วยอากาศที่ร้อนและผู้คนที่แออัดทำให้เหงื่อไคลของชีคมุซตาฮ์ซานไหลจนแผ่นหลังเปียกชุ่ม ในขณะที่เพชรไพลินมีเหงื่อออกแค่ตรงปลายจมูกกับไรผม
“ไหวหรือเปล่าคะท่านชีค” เธออดที่จะเอ่ยถามด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ ชายหนุ่มพยักหน้าแล้วเสยผมไปยังด้านหลัง จังหวะนั้นมีผู้ที่มาจับจ่ายซื้อของเดินแทรกกลางทำให้ทั้งสองคนต้องเดินแยกจากกัน ฝูงชนที่เดินเบียดเสียดกันอย่างเนืองแน่นทำให้ค่อนข้างลำบากกว่าที่ทั้งสองจะเดินกลับมาหากันอีกครั้งได้
“คงเพราะเป็นวันอาทิตย์มั้งคะ คนเลยเยอะมาก”
“ถ้าอย่างนั้นจับมือกันไว้ดีกว่า เดี๋ยวเกิดพลัดหลงจะหากันลำบาก”
ชีคมุซตาฮ์ซานจูงมือหญิงสาวออกเดิน เพชรไพลินมิได้ปฏิเสธแต่กลับยิ้มน้อยยิ้มใหญ่อย่างมีความสุข
“แวะซื้อน้ำเย็นๆ สักหน่อยดีไหมคะ อากาศร้อนแบบนี้ถ้าได้น้ำเย็นๆ หวานๆ คงดีไม่น้อยเลย” เธอเอ่ยชวนแล้วเป็นฝ่ายลากชายหนุ่มเข้าไปที่ร้านขายน้ำ เลือกซื้อน้ำอัดลมให้ตนเองและคนรักคนละกระป๋อง
“สดชื่นขึ้นจริงๆ ด้วย ฉันได้ยินว่าที่จตุจักรมีพันธุ์ไม้ขาย เราไปเดินเล่นโซนนั้นน่าจะดีกว่า ส่วนโซนเสื้อผ้าเห็นทีจะไม่ไหว ร้อนเหลือเกิน”
ขณะที่พูดนั้นชีคหนุ่มเปียกปอนไปหมดทั้งตัวจนเพชรไพลินรู้สึกสงสาร
“เพชรว่าเราไปนั่งเล่นที่สวนรถไฟดีไหมคะ ไม่ไกลจากที่นี่ จะได้เป็นการนั่งพักด้วย”
“แต่เพชรอยากเดินเที่ยวสวนจตุจักรไม่ใช่เหรอ”
เขาเอ่ยถามเพราะเธอเป็นคนชวนเขามา แต่กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้หญิงสาวไม่ได้เลือกซื้อสิ่งของตามที่ต้องการ
“เอาไว้เพชรมากับเพื่อนๆ ดีกว่าค่ะ ชอปปิงซื้อของแบบนี้ไม่เหมาะกับผู้ชายจริงๆ ด้วย” หญิงสาวอมยิ้มแล้วหยิบผ้าเช็ดหน้าซับเหงื่อหยดโตที่ไหลจากหน้าผากกว้างลงมายังสันกรามแข็งแกร่ง
“จะดีเหรอ” ชีคหนุ่มยังคงลังเล
“ดีสิคะ ไปกันเถอะ เพชรอยากนั่งพักจะแย่แล้ว” หญิงสาวคล้องแขนชายหนุ่มเอาไว้แล้วเอาใบหน้าแนบที่ต้นแขนอย่างออดอ้อน คนหน้าดุถึงกับยิ้มกว้างเดินตามหญิงสาวไปอย่างง่ายดาย
***************
สวีทกันได้อีกนะคะท่านชีค เกรงใจสาวแถวนี้บ้าง >///<
ซื้อทรายล้อมเพชรแบบหนังสือเล่ม หรือโหลด eBook ก็ได้แล้วนะจ๊ะ ตามช่องทางที่แจ้งไว้ในตอนวางจำหน่าย
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ก.ค. 2561, 11:40:18 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ก.ค. 2561, 11:40:18 น.
จำนวนการเข้าชม : 609
<< บทที่ 4 -100% | บทที่ 5 -100% >> |