Love & Rock
นิยายภาคต่อของลูกหลานเฮียพาย จะเกิดอะไรขึ้นเมื่อเด็กๆ เข้าสู่วัยรุ่นและเริ่มผจญภัยในแบบของพวกเขา ภาคนี้เกี่ยวเนื่องกับมิคาเอล ไพร์ด อิคารัสและเฮเลน แต่ก็จะมีเหตุการณืหลายอย่างเกิดขึ้น และแน่นอนว่ายาวแน่ เพราะตัวละครหลักและรองเยอะเหลือเกินค่ะ
Tags: พาย

ตอน: LRock ตอนที่ 7



เมื่อถึงบ้านธีโอฟาสเต้ เฮเลนกับเจนีนก็ต้องถอนหายใจ เพราะหนีออกด้านหลังขึ้นแท็กซี่กลับมา ระหว่างทางได้ยินเพื่อนพี่ชายบอกว่าโจเซฟีนไม่เป็นอะไรก็โล่งใจ แค่ตรวจร่างกายเล็กน้อยก็กลับบ้านได้แล้ว เพียงแค่ตกใจนิดหน่อยเท่านั้น

“ปวดหัวจัง” ไพร์ดนั่งน้ำหนักลงที่เก้าอี้ เพื่อรอให้เพื่อนๆ กลับมา

“ตกใจแทบตายนะเนี่ย มิคกี้สุดยอด กระโดดลงจากระเบียงไปช่วยโจได้ทัน ไม่อยากเชื่อเลย สุดยอด แต่ทำไมไม่รู้คนถึงเรียกว่าดาร์คเดม่อนนะเนี่ย ออกจะใจดีแบบนี้” เฮเลนชื่นชมพี่ชายใจดี

“เรื่องนี้ฉันรู้ ที่เป็นดาร์คเดม่อน ก็เพราะเป็นเงาน่ะ ทุกคนในวงถึงขึ้นต้นด้วย ‘ดาร์ค’ แล้วเวลาเล่นเบสก็ดูดุดันมากๆ ดูเถื่อนๆ เวลาสะบัดผมก็เหมือนมีปีกสยาย ก็เหมือนกันเทวดาตกสวรรค์น่ะ แต่ฉันเคยบอกไปแล้วนี่ อ๋อ เธอถามไปอย่างนั้นใช่ไหม” เจนีนอธิบายให้เพื่อนฟัง ก่อนจะพูดอย่างเป็นปลื้ม “แต่เท่ห์มากนะ ตอนกระโดดลงจากระเบียงน่ะ อยากจะถ่ายรูปเก็บไว้อย่างแรง ไม่รู้ทำได้ไงนะเนี่ย สุดๆ”

“มิคน่ะ ชอบเล่นเกมผาดโผนอยู่แล้วล่ะ ดีนะที่สระนั้นลึกพอควร รายนั้นกระโดดน้ำจากหน้าผาบ่อยๆ เข้าโรงพยาบาลเป็นว่าเล่น” ไพร์ดอธิบายอย่างอารมณ์ดี

“กรี๊ด!!! เท่ห์มากๆ” เจนีนก็ร้องขึ้นมาทันที ทำให้พ่อบ้านต้องเข้ามาดู เจนีนก็ได้แต่ยิ้มแห้งแล้วพูด “ขอโทษค่ะ อดไม่ได้จริงๆ”

พ่อบ้านเพียงโค้งให้แล้วถอยออกไป

“เฮ้อ เจนีน เธอก็รู้จักมิคกี้ดีแล้ว ยังไม่เลิกกรี๊ดอีกเหรอเนี่ย” เฮเลนส่ายหน้าแล้วยิ้มขำนิดๆ

“บ้าน่า เรื่องเป็นแฟนคลับก็ส่วนแฟนคลับ เรื่องรู้จักเป็นเพื่อนก็อีกเรื่อง อย่าเอามารวมกันสิ” เจนีนหันไปพูดกับเพื่อนราวกับว่าไพร์ดที่กำลังนั่งอยู่ไม่ใช่ดาร์คพริ้นซ์ ที่เธอก็กรี๊ดไม่แพ้อิคารัสที่เป็นดาร์คไนต์...พ่ออัศวินดำ

“เจนีน ฉันก็อยู่ในห้องนี้ด้วยนะ” ไพร์ดยิ้มเอ็นดูแล้วส่ายหน้าอย่างไม่จริงจังนัก ที่ถูกเจนีนพูดถึงราวกับเขาไม่ใช่คนหนึ่งในกลุ่มนักดนตรีดาร์คไนท์...ราตรีไร้แสง

เจนีนก็หัวเราะอย่างไม่จริงจังนัก ก่อนจะโบกมือไปมาแล้วอธิบาย “อยู่ ก็รู้ว่าอยู่ค่ะ แต่แหม การพูดถึงแบบนี้ทั้งที่อยู่ตรงหน้า เพราะจะได้ไม่มีอะไรอึดอัดใจไงคะ”

ไพร์ดส่ายหน้าเล็กน้อย ก่อนจะยอมแพ้สาวน้อยทั้งหลาย “เอาล่ะๆ รอโจกันก่อนแล้วกันนะ ฉันขอไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อน ยังไม่ได้ของขวัญอยู่ดี ไว้จะให้ปิแอร์พาไปแทนแล้วกัน”

เฮเลนกับเจนีนพยักหน้ารับ แล้วนั่งคุยรอเพื่อนที่กำลังจะกลับมาบ้านต่อ เมื่อได้เจอหน้ากันก็ถามกันเสียงดัง แต่โจเซฟีนดูเงียบไปมาก แล้วขอกลับบ้านตลอดเวลา

“อะไรกัน โจ ถ้าไม่เป็นอะไรก็กินข้าวเย็นที่นี่ก่อนนะ พ่อครัวที่นี่ทำอาหารอร่อยจริงๆ” เจนีนออกปากชม

“ฉันอยากกลับบ้านน่ะ อยากจะกลับไปนอนพัก” โจเซฟีนยังยืนยันตามเดิม

มิคาเอลเดินเข้ามายกมือขึ้นแตะหน้าผากแล้วถามขึ้น “เป็นไข้เหรอ ทำไมหน้าแดง”

โจเซฟีนสะบัดมือเขาแล้วก้มหน้าลง ก่อนจะลุกขึ้นยืนแล้วบอกเพื่อนๆ “ไม่เป็นไข้ค่ะ แต่จะกลับบ้าน อยากกลับไปนอนให้เต็มที่ด้วย ให้คนไปส่งหน่อยได้ไหมคะ”

มิคาเอลขมวดคิ้วแล้วก็ส่ายหน้าช้าๆ อย่างไม่ถือสา ก่อนะหันไปเรียกปิแอร์ “ปิแอร์พาโจไปส่งบ้านหน่อยสิ เอาถุงยาให้ด้วยนะ เจนีนกับอิซซี่จะกลับไหม”

อิคารัสวิ่งกระหืดหระหอบเข้าบ้านมา ก่อนจะส่ายหน้า “ออกไปไม่ได้นะ กว่าจะหนีมาได้แทบตาย”

“จะบ้าหรือไง หน้าบ้านมีแฟนเพลงที่ไหนล่ะ นายนี่มันขี้ปอดจริงๆ” มิคาเอลหัวเราะใส่เพื่อน ก่อนจะมองเพื่อนถอนหายใจยาว

“ค่อยโล่งหน่อย จะบ้าตาย พักหลังแฟนเพลงน่ากลัวนะเนี่ย ดีที่ไม่ทึ้งผมแล้ว ไม่งั้นฉันต้องบ้าตายแน่ๆ” อิคารัสโล่งใจก็นั่งลงที่เก้าอี้ ก่อนจะมองทุกคนแล้วถาม “มีอะไร”

“โจอยากกลับบ้าน หนูอยากกินข้าวที่นี่ กำลังคิดอยู่ว่าจะกลับดีไหม” เฮเลนบอกพี่ชายอย่างตัดสินใจไม่ได้

“เอาอย่างนี้ก็แล้วกัน เดี๋ยวให้ปิแอร์ไปส่งโจก่อน แล้วเจนีนกับอิซซี่ค่อยไปส่งที่หลัง นายก็กลับไปนอนบ้านละกัน” มิคาเอลตัดสินใจแทนเพื่อน

“หง่ะ คงไม่มีคนปีนบ้านนะ หัวใจจะวาย” อิคารัสหวาดๆ แฟนเพลงบางคนที่โหดๆ หน่อย

“ใจเสาะจริงๆ ปกติเห็นปากกล้าพร้อมลุยนี่” มิคาเอลหัวเราะใส่เพื่อน โดยไม่ได้สังเกตเด็กหญิงที่อยากกลับบ้านเท่าไรนัก

โจเซฟีนมือสั่นเพราะความเขินอาย ยิ่งพอฟื้นแล้วนึกถึงดวงหน้าใกล้ชิดแล้วก็ยิ่งใจเต้นแรง พอคิดได้ถึงรอยยิ้มเขาเธอก็แทบไม่อยากยืนอยู่ตรงนี้ ทั้งยังโดนอุ้มจนถึงโรงพยาบาลอีก ตอนอยู่ในรถเขาก็ยังอุ้มเอาไว้ไม่วางที่เบาะ เธอก็นั่งอยู่บนตักเขาจนถึงโรงพยาบาล

พอออกจากโรงพยาบาล เธอก็ไม่ยอมให้เขาพยุงอีก ก่อนที่โรงพยาบาลจะโทรบอกพ่อแม่เธอ เขาก็ยังออกหน้าให้ ถึงจะมีกฏหมายเคร่งครัด แต่เพราะแม่มิคาเอลเคยบริจาคเงินให้โรงพยาบาล ทำให้ผู้บริหารรู้จักจึงอนุโลมให้สักครั้ง

“กับคนที่ทำได้ก็กล้าทำ แต่นี่แฟนเพลง ยังไงก็เพราะว่าเขาชอบเรา เราจะไปทำอะไรเขาไม่ได้หรอกนะ เจตนาดีไม่ได้ร้าย ก็ต้องกลัวล่ะ อยากทำก็ทำไม่ได้อยู่ดี” อิคารัสอธิบาย ก่อนมองโจเซฟีนแล้วถาม “เป็นยังไงบ้างล่ะ หมอว่าไงบ้าง”

“บอกว่าไม่เป็นไร อธิบายกับนักสังคมสงเคราะห์ตั้งนาน ว่าเป็นอุบัติเหตุที่ห้างไม่เชื่อให้โทรถามที่ห้าง ตามเรื่องไปมา กว่าจะสรุปแล้วปล่อยมา ปิแอร์รีบไปส่งโจก่อนเถอะ คงอยากพักผ่อนเต็มทีแล้วล่ะ อืม ฉันไปด้วยดีไหม กลัวว่าพ่อแม่โจจะว่าเอาสิ” มิคาเอลอธิบายพร้อมสรุป

“มะ...ไม่ต้องหรอกค่ะ พาหนูกลับบ้านหน่อยค่ะ คุณปิแอร์” โจเซฟีนหันไปบอกคนติดตามของมิคาเอล ก่อนหันไปบอกเพื่อน “เจอกันที่โรงเรียนนะ”

“จ๊ะ บายๆ” เจนีนบอกขณะที่เฮเลนโบกมือลาเพื่อน

มิคาเอลมองเด็กหญิงแล้วขมวดคิ้ว ก่อนจะหันมาทางเพื่อนๆ “พรุ่งนี้ฉันจะไปฟลอริด้านะ นัดกับแจ็คไปงานวันเกิดคนรู้จัก”

“เออ เสร็จเรื่องแล้วไปทัวร์คอนเสิร์ตต่อเลยนะ แล้วก็กลับปารีส ให้ตายเถอะ ต้องไปเรียนวันแรกให้ได้” อิคารัสดูจะตื่นเต้นกับสังคมใหม่ๆ เพราะไม่ได้ไปโรงเรียนมานาน

มิคาเอลพยักหน้าตามเพื่อน เมื่อถึงเวลาอาหารก็พากันไปห้องอาหาร แล้วพูดคุยกันตามสะดวก

****************************************


ภาพข่าวมิคาเอลเป็นคู่ควงแคทเทอรีน ก็ทำให้เจนีนต้องขมวดคิ้วแล้วหาข้อมูลของสาวในรูปงานสังคม ที่โดนแฟนเพลงคนหนึ่งโพสขึ้นในเวบ ก่อนจะเอามาถามเพื่อนๆ

“อิซซี่ ไฮโซนี่เป็นอะไรกับมิคกี้น่ะ” เจนีนรอจนเวลาพักค่อยถามเพื่อน

เฮเลนมองตามแล้วส่ายหน้า “ไม่ได้เป็นอะไรมากกว่าคนรู้จัก ดูนี่สิ แจ็คกี้บ่นให้ฟังเรื่องนี้ด้วย”

ภาพข่าวสังคมที่มีแจ็คลีนนั่งคู่กับเคลย์ตัน ทำให้แจ็คลีนหงุดหงิด ก่อนจะใจเย็นลงเพราะกำไรจากหุ้นที่ตัวเองขอให้ลุงพอลลงทุนให้

“ดีนะที่แจ็คกี้ได้กำไร ไม่งั้นคงเรื่องยาว เห็นว่าปู่ของแจ็คกี้โทรมาถามเรื่องนี้ด้วย เพราะแจ็คกี้อายุแค่สิบห้าเอง ปู่ยังไม่อยากให้ควงหนุ่มหรือมีแฟนเหมือนเด็กวัยรุ่นยุคนี้น่ะ ปู่ย่าแจ็คกี้หัวโบราณแล้วก็หวงหลานสาวมากเลยเชียวล่ะ” เฮเลนบอกเพื่อนเพื่อระบายอารมณ์

“ฉันถามเรื่องมิคกี้ ไม่อยากให้ใครเข้าใจผิดน่ะ” เจนีนพยายามดึงเพื่อนกลับมา

“อ๋อ ไม่มีอะไร มิคกี้เนี่ยไม่ใช่จะเป็นแฟนใครง่ายๆ หรอกจ๊ะ สบายใจได้ เห็นเงียบๆ เฉยๆ นะ มีคู่ควงแก่กว่าตั้งสี่ปีอยู่แล้วล่ะ” เฮเลนพยายามนึกก่อนส่ายหน้า “โอ๊ยไม่อยากนึก มิคกี้ควงผู้หญิงเยอะจะตาย สวยๆ ทั้งนั้น”

“ตายแล้ว ห้ามว่ามิคกี้นะ ยังไงหนุ่มหล่อจะควงสาวเยอะก็ไม่แปลกหรอก” เจนีนก็เข้าข้างนักดนตรีที่ปลื้มอย่างเต็มที่

“พอเถอะ เขาจะควงกับใคร จะยังไงก็เรื่องของเขาน่ะ” โจเซฟีนพยายามไม่ฟังเรื่องของเขา ทั้งที่ไม่ค่อยมีความสุขกับการที่เห็นเด็กสาวควงแขนเขาอย่างสนิทสนม

“ไม่ได้ๆ จะให้ใครเข้าใจผิดไม่ได้” เจนีนพูดกับโจอย่างจริงจัง ก่อนหันมาสรุปกับเพื่อนเจ้าของข่าววงใน “สรุปก็คือไม่ได้เป็นอะไรกับไฮโซนี่ใช่ไหม ค่อยโล่ง ชื่อเสียงฝาแฝดคู่นี้ไม่ดีเท่าไรนะ ฉันเคยอ่านข่าว จริงๆ เมื่อก่อนฉันไม่สนใจเรื่องของฝาแฝดนี่หรอก เพิ่งรู้ตอนเป็นข่าวกับมิคกี้นี่แหละ นิสัยไม่ค่อยดี”

“โอเค ไม่ดีก็ไม่ดี แจ็คกี้ก็บอกอย่างนั้นเหมือนกัน ที่ไปงานวันเกิดก็เพราะเกรงใจแม่ของฝาแฝดนี่ต่างหาก เพราะนอกจากเรื่องธุรกิจแล้ว แม่ของฝาแฝดนี่ยังเป็นเพื่อนของพายอีกด้วยล่ะ” เฮเลนเล่าให้เพื่อนฟัง

“สรุปคือไม่มีอะไร ดีใจจัง ต้องโพสลงเวบมั่งแล้วช่วยมิคกี้แก้ข่าวหน่อย” เจนีนยิ้มดีใจที่ทุกอย่างไม่มีอะไร

ขณะที่โจเซฟีนมองข่าวแล้วก็ต้องถอนหายใจยาว แล้วขมวดคิ้วนิดๆ จากนั้นก็รู้สึกหมั่นไส้เพื่อนหนุ่มนิดๆ จากนั้นก็หันไปมองรูปภาพของพายที่เอามาด้วยแทน

คนเจ้าชู้...

“อ๋อ ใช่ นี่โจ มิคกี้ฝากของมาให้ด้วยนะ รอเดี๋ยวนะไปเอาที่ล็อกเกอร์” เฮเลนรีบวิ่งไปหยิบของ ก่อนจะเอาห่อมาให้เพื่อน “นี่มิคกี้ฝากหนังสือรวมภาพเล่มใหม่มาให้”

“ขอบใจนะ อิซซี่” โจเซฟีนรีบรับแล้วพูดขอบใจเพื่อน จนลืมคนให้ไปในทันที จากนั้นก็แกะออกแล้วเปิดดูทีละหน้าอย่างช้าๆ

เจนีนมองเพื่อนแปลกๆ พร้อมเตือน “เธอลืมมิคกี้ไปหรือเปล่าน่ะ เขาน่ะให้เอามาให้เธอนะ”

โจเซฟีนก็ชะงัก ก่อนจะถอนหายใจยาว “ฝากขอบคุณมิคกี้ด้วยแล้วกัน”

“จ๊ะ” เฮเลนไม่คิดมากเพราะเชื่อว่าเพื่อนคงจะดีใจจนลืม ยิ่งได้หนังสือรวมภาพของตากล้องที่ชอบอย่างมาก เป็นเธอก็ลืมหมด

****************************************


เสียงกรีดร้องของแฟนเพลงนับพันดังก้องโดมใหญ่ หลังแสดงคอนเสิร์ตเรียบร้อยแล้ว มิคาเอลก็ต้องรีบทิ้งทุกอย่างมานั่งที่ห้องพัก ก่อนจะเปิดคอมพิวเตอร์ที่พักหน้าจออยู่

“ไงน้องสาวพี่ โอ๊ย! เหนื่อย จะทานข้าวหรือยังจ๊ะ” มิคาเอลพูดกับน้องสาววัยสิบหกปีของตนเองอย่างเอาใจ

“นึกว่าท่านพี่จะผิดสัญญาเสียแล้ว รอตั้งนานน่ะค่ะ” แจ็คลีนอมยิ้มที่แกล้งพี่ชายได้

“เหนื่อยจะตาย ร้องเพลงสุดท้ายเสร็จ ลาแฟนเพลงแล้วรีบมาเนี่ยแหละ ทานเลยจ๊ะ” มิคาเอลพูดกับกล้องหน้าคอมพิวเตอร์ มองอาหารที่โต๊ะแบบไม่อยากเท่าไรนัก เพราะเหนื่อยจนทานไม่ลงมากกว่า แต่ก็ฝืนใจทาน

“อร่อยไหมคะ ปิแอร์หากุ๊กที่ทำให้รสชาติเหมือนของน้องใช่ไหมคะ” แจ็คลีนแกล้งพี่ชายไปเรื่อยๆ

“อ๋อ พี่คิดว่าน่าจะใช่นะ อร่อยนะ แต่กินไม่ค่อยลง” มิคาเอลบอกน้องสาวตามตรง เพราะเขาเหนื่อยปุ๊บก็ทานปั๊บจึงทานไม่ลง

“อ๋อ งั้นก็เพราะเห็นหน้าน้องก็เลยทานไม่ลง งั้นไปทานกับแคทเทอรีนหรือไม่ก็เจสซี่ แมรี่ แอนน์ หรือว่าโอลิเวียเลยค่ะ น้องทานคนเดียวก็ได้ เดี๋ยวนี้แจ็คไม่น่าอยู่ด้วยแล้วนี่คะ” แจ็คลีนแกล้งพูดกับพี่ชายแล้วก็เห็นพี่ชายทำหน้าตาตื่น

“เปล่า ไม่ใช่ๆ พี่ลงจากเวทีมาเหนื่อยๆ น่ะ พอจะให้ทานเลย ก็ทานไม่ลงน่ะ น้องสาวพี่ออกจะน่ารักอย่างนี้ พี่มีหรือจะไม่อยากอยู่ด้วย ขออย่างเดียวอย่าลืมว่าต้องทานอาหารเย็นกับพี่อาทิตย์ละครั้งก็แล้วกัน ไม่ใช่พอมีเพื่อนชายก็ลืมพี่” มิคาเอลยิ้มประจบน้องสาว

แจ็คลีนก็หัวเราะเบาๆ ก่อนจะพูดกับพี่ชายด้วยรอยยิ้มหวาน “จะมีใครกล้าจีบ ท่านปู่ท่านย่าคงไม่ยอมให้ใครมาจีบน้องง่ายๆ หรอกค่ะ ทุกวันนี้นะ นอกจากเบนที่เฮนริคหามา ยังมีบอดี้การ์ดผู้หญิงที่ท่านปู่หามาให้อีก ท่านปู่บอกว่าท่านพ่อเคยถูกลักพาตัวที่เมืองไทย ตอนนี้น้องอยู่ที่นี่ ท่านปู่ก็เลยไม่ไว้ใจ”

“นั่นสิ แต่ไปกับพ่อแม่ตั้งหลายครั้งแล้วไม่เห็นมีอะไร เดี๋ยวพรุ่งนี้ก็แสดงคอนเสิร์ตสุดท้ายแล้ว พี่จะไปหานะ แม่ซื้อบ้านหลังใหญ่ไว้กลางกรุงเทพนี่ น้องอยู่สะดวกไหม” มิคาเอลถามความเป็นอยู่น้องสาวอีกรอบ แม้จะรู้อยู่แล้ว

“ก็ต้องสบายอยู่แล้วค่ะ เพิ่งมาถึงเมื่อวานตอนเช้าก็เข้าประชุมเลย แต่ก็ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง ท่านปู่ให้ฝึกงานกับลุงพอล ลุงพอลก็ช่วยดูแล แม้ว่ามันจะคนละอย่างกับงานของลุงพอล วุ่นวายมาหลายเดือน ตอนนี้ค่อยเรียบร้อยหน่อย สามเดือนมานี่ที่บริษัทนี้ผลประกอบการดีขึ้นเยอะ” แจ็คลีนเล่าความให้พี่ชายฟังเรื่องงานที่เธอดูแลมาปีกว่าและน่าพอใจ

“น้องต้องทำได้ดีอยู่แล้วล่ะ คุณปู่อุตส่าห์ดูแลเรื่องการเรียนมาอย่างดี” มิคาเอลพูดเอาใจน้องสาว ก่อนจะโดนเพื่อนเรียก

“ไงแจ็ค ยังสวยเหมือนเดิมนะ เดี๋ยวพวกพี่ก็จะไปหาแล้วนะ เอาอะไรที่ญี่ปุ่นหรือเปล่า” อิคารัสถาม ขณะหยิบอาหารของเพื่อนใส่ปาก

แจ็คลีนหัวเราะ ก่อนจะบอกอย่างไม่จริงจังนัก “อยากได้ภูเขาไฟฟูจิ อิกกี้จะซื้อมาให้ใช่ไหมคะ”

“กรรม จะมีปัญญาเหรอเนี่ย แค่ค่าเรียนก็อ๊วกแตกละ” อิคารัสส่ายหน้าอย่างไม่จริงจัง เพราะรู้ว่าน้องสาวเพื่อนพูดเล่น

“พ่อแม่พี่เป็นยังไงบ้าง เมื่อวานโทรหาก็ชอบว่าสบายดีอยู่เรื่อย” ไพร์ดเข้ามาที่หน้าจอบ้าง ฝากถามถึงพ่อแม่

“ไม่ทราบค่ะ ยังไม่ได้ไปหาเลย โทรบอกคุณป้าพิมกับคุณลุงเก่งแล้วค่ะ แต่ก็ฟังเสียงแล้วน่าจะสบายดีนะคะ อ๋อ ป้าพิมพ์รู้สึกไอบ้าง คงเพราะอากาศแปรปรวนหน่อย แต่ไปหาหมอแล้วนะคะ” แจ็คลีนบอกญาติผู้พี่ให้สบายใจ

ไพร์ดพยักหน้าเพราะรู้อยู่ก่อนแล้ว “ขอบใจจ๊ะ เดี๋ยวซื้อตุ๊กตาหมีไปให้นะ ที่ญี่ปุ่นนี่ของดีไม่น้อย เมื่อวานพี่ว่าจะไปเลือกแต่ก็เกรงใจแฟนเพลงน่ะ ปิแอร์เลยไปหามาให้หลายตัวเอามาให้พี่ๆ ช่วยกันเลือกให้แจ็คนะ”

แจ็คลีนยกมือปิดปากหัวเราะตามมารยาทที่ถูกสอนมา ทำให้ดูเป็นคุณหนูผู้ดีที่ถูกอบรมอย่างเข้มงวด ก่อนจะพูดกับพี่ๆ “แหม แจ็คโตแล้วนะคะ พี่ๆ ก็ชอบให้ตุ๊กตาหมีอยู่เรื่อย”

“ก็พี่ไม่เห็นว่าแจ็คชอบกินนี่นา ปกติเห็นกินนิดๆ หน่อยๆ จะซื้อขนมก็กลัวว่าจะอ้วนอีก ให้ตุ๊กตานี่แหละดีแล้ว” อิคารัสแย้งอย่างเอ็นดู ก่อนจะเดินไปจากจอแล้วถอดเสื้อเปลี่ยนชุด

“จะซื้อเครื่องเพชรให้ก็กลัวไม่ถูกใจ เอาเนี่ยแหละน่ารัก หรือจะเอาตุ๊กตาญี่ปุ่น แต่มันทำนานนี่สิ จะเดินหาซื้อตามท้องตลาดก็ไม่สวยเท่าไร เอางี้พี่จะสั่งทำเอาไว้แล้วกันนะ” มิคาเอลสรุปในตอนท้าย

“แหม ท่านพี่เนี่ยเข้าใจแจ็คมากที่สุดเลย แต่ว่าตุ๊กตาหมีหนูก็เอานะคะ พี่สามคน แจ็คก็ต้องได้สามตัวด้วย” แจ็คลีนสรุปแล้วก็อมยิ้ม

“ได้สิน้องสาวของพี่ พี่ไปเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะ แจ็คคุยกับมิคไปละกัน” ไพร์ดยิ้มให้น้องสาว ก่อนส่งจูบไปที่กล้อง แล้วเดินไปเปลี่ยนเสื้อผ้าด้านหลังคอมพิวเตอร์

มิคาเอลพยักหน้าให้เพื่อน ก่อนหันมาคุยกันน้องสาวต่อ “นี่รอพี่ทานข้าวนานไหม”

“ไม่นานเลยค่ะ ดูท่านพี่แสดงคอนเสิร์ตอ่ะ เมื่อกี้ปิแอร์ออนไลน์ให้ดู สดด้วย” แจ็คลีนหัวเราะคิกได้น่ารัก สมแล้วที่เป็นน้องสาวที่น่ารักของทุกคน

“นั่นไง แหมๆ อยากดูไม่แวะญี่ปุ่นก่อนล่ะ” มิคาเอลยิ้มให้น้องสาว

“ไม่ดีกว่าค่ะ ดูออนไลน์ก็ได้นี่คะ” แจ็คลีนทานอาหารกับพี่อยู่พักใหญ่ ก่อนจะออฟไลน์ไป

มิคาเอลคุยกับน้องสาวเสร็จก็เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วเก็บของกลับโรงแรม ก่อนโดนเพื่อนกระทุ้ง

“ถามจริงเถอะ เมื่อไรนายจะเลิกโอ๋น้องซะทีล่ะมิค” อิคารัสถามเพื่อนด้วยความสงสัย

“มันรักน้องก็ดีแล้วนี่” ไพร์ดบอกก่อนโอบไหล่เพื่อนทั้งสองคนเดินไปขึ้นรถ ก่อนขึ้นรถก็โบกมือลาแฟนเพลงที่รออยู่ แล้วขึ้นรถกลับโรงแรม

“จริงๆ นะ ฉันรักแจ็คมากก็น่าจะดี เพราะเป็นพี่ชายต้องดูแลน้อง อย่าทะเลาะกับน้อง อย่าช่วงชิงสมบัติ อย่าหาเรื่องให้ร้ายกัน พ่อบอกว่าครอบครัวสงบสุขคือความหวังแรกของมนุษย์ รักพี่น้องพ่อแม่เป็นสิ่งที่ดีนี่หว่า” มิคาเอลอธิบายเพื่อนขณะที่อยู่ในรถ

“ก็ไม่ว่าแบบนั้น เห็นนายยอมให้แจ็คแกล้งอยู่เรื่อย ดูสิ ต้องวิ่งกระหืดกระหอบลงจากเวทีมากินข้าวไม่กี่คำกับแจ็ค จำเพาะต้องวันที่มีแสดงคอนเสิร์ตด้วย ดูก็รู้ว่าแจ็คแกล้งนาย” อิคารัสอธิบายตามที่ตัวเองเห็น

“มันรู้อยู่แล้วว่าแจ็คแกล้ง แต่เพราะเป็นความสุขของแจ็ค มันถึงยอมให้แกล้งต่างหาก นายนี่ไม่รู้เลย มิคมันรักแจ็คมาก เรื่องยอมให้แกล้งนี่ก็เป็นเรื่องปกติที่นายก็เห็นมานานแล้วนี่ ขนาดโดนแกล้งให้อดข้าวตั้งหลายชั่วโมงก็เคยมาแล้วยังเดาไม่ออกอีกเหรอ” ไพร์ดบอกไปตามเรื่อง

“ก็รู้อยู่ แต่ไม่คิดบ้างเหรอว่ามันจะเลยเถิดไป เดี๋ยวแจ็คก็นิสัยเสียหรอก” อิคารัสเป็นห่วงขึ้นมานิดๆ

“แจ็คเคยแกล้งพวกนายไหม” มิคาเอลถามกลับคำเดียวก็ทำให้เพื่อนเงียบไป

ไพร์ดหัวเราะที่อิคารัสจนมุม ก่อนจะตบไหล่เบาๆ “นายก็คิดมาก แจ็คน่ะรู้ว่าอะไรควรไม่ควรอยู่แล้ว จะแกล้งก็แกล้งคนที่ยอมให้แกล้งนั่นล่ะ ถึงเอาแต่ใจก็ไม่เอาแต่ใจพร่ำเพรื่อ น้องสาวของเราถ้าเอาแต่ใจอย่างลูกไฮโซบางคน ก็ไม่น่าเข้าใกล้หรอก”

“ไพร์ดพูดถูกนะ อย่าไร้สาระน่า คืนนี้รีบนอนแล้วกันเสร็จคอนเสิร์ตพรุ่งนี้แล้ว ยังต้องไปเมืองไทยอีก เออ แม่โทรมา” มิคาเอลเห็นเบอร์แม่แสดงที่หน้าจอ ก็รีบรับ “แม่ฮะ”

“เอากล้องแม่ไปทำไมวะ ทำไมไม่ซื้อเอาใหม่เอง” พายไม่ทักลูกเข้าเรื่องทันที

มิคาเอลยิ้มแห้งๆ กับเพื่อนก่อนจะตอบแม่ “ฮะ หนูเอาไปเอง”

“เลิกหนูได้แล้ว โตจนจะมีเมียอยู่แล้ว เอามาคืนแม่นะ อยากได้ไปซื้อเอาใหม่สิ” พายส่ายหน้าช้าๆ เพราะลูกชายขโมยกล้องมา ทำให้เธอต้องหาเอากล้องสำรองมาใช้

“โธ่ แม่ฮะ ผมขอยืมนะฮะๆ” มิคาเอลพยายามขอร้องแม่ แต่ก็ไม่น่าจะสำเร็จ

“ไม่ได้ ไว้จะซื้อให้ใหม่ หักเอาจากค่าขนมของลูกก็แล้วกัน ให้ปิแอร์ส่งด่วนมาเลยจะใช้แล้ว ไอ้ลูกบ้าคนนี้นี่ เครื่องมือหากินของแม่ยังจิ๊กไปได้ นึกยังไงเอากล้องแม่ไป ฮ๊ะ” พายพูดไปก็ขำ จะดุก็ไม่เชิงดุ แต่อยากรู้ว่าเจ้าตัวแสบเอากล้องเธอไปทำอะไร

“ก็อยากลองเล่นกล้องดูฮะ แต่กล้องแม่อะไรก็ไม่รู้ลายตาไปหมด ผมก็เลยเอาวางไว้ ช่วงไหนแม่อยู่ปารีส ก็สอนผมถ่ายรูปหน่อยสิฮะ” มิคาเอลได้ทีก็อ้อนวอนแม่

“เออ แฮะ ประหลาด นึกยังไงอยากเล่นกล้อง” พายพูดแล้วก็หัวเราะลูกชายที่ชอบทำตัวเป็นเด็ก

“น่าฮะ ก็เห็นว่าน่าสนใจดี คงมีอะไรสนุกๆ” มิคาเอลบอกแม่แล้วนึกถึงคนสนใจกล้องที่ชื่นชมแม่เขา ยิ่งหลายเดือนหลังนี่ยิ่งแปลกๆ ท่าทางไม่อยากคุยกับเขาเท่าไรนัก ทั้งที่ปกติมักจะชวนคุยถามเรื่องแม่เขา

ส่วนเจ้าตัวเองจะให้ถามแจ็คลีน เขาก็เชื่อว่าโจเซฟีนคงไม่กล้า เขารู้จักน้องสาวดี เพราะเป็นคนแบบเดียวกับแม่คือไม่ค่อยสังคมเท่าไรนัก มักจะปิดเครื่อง อ่านเอกสารอันมหาศาลแล้ววางแผนตามแบบฝึกหัดที่ปู่ให้มา

บางครั้งเขาก็นึกสงสัยว่าวางแผนธุรกิจมันสนุกตรงไหน ยิ่งตอนนี้น้องสาวเขาเดินทางไปเมืองไทยล่วงหน้า เพื่อขายหุ้นของกิจการที่ซื้อมาแล้วฟื้นฟูจนเข้าที่

“เออ รีบส่งมา ตอนนี้ใช้กล้องสำรองอยู่ ก็รู้นี่ว่าแม่ไม่ชอบเปลี่ยนกล้อง นอกจากมันจะตกลงไปในเหว ไม่งั้นคงเปลี่ยนสามีเป็นว่าเล่นแล้ว แค่นี้นะ” พายตัดบทก่อนที่ลูกชายจะพูดเยอะให้วุ่นวาย

มิคาเอลฟังแม่ตัดสายก็มาถึงโรงแรมแล้ว เขาทิ้งตัวลงนอนบนเตียงอย่างเซ็งๆ หลายวันมานี่ทัวร์คอนเสิร์ตเยอะเสียจนน่าปวดหัว ผลสอบก็ปวดใจ ดีที่สอบผ่านหมดแล้ว ไม่งั้นคงเครียดแน่นอน

“เป็นอะไรวะ” ไพร์ดเห็นเพื่อนนอนทำตาลอยก็ขมวดคิ้ว

“ไม่ได้เป็นอะไรว่ะ เครียดเรื่องผลสอบยังไม่หาย ผลออกมาไม่ค่อยดีเท่าไร แม่ว่าไม่เป็นไรก็จริง แต่ว่ามันไม่มีทางที่จะไม่เป็นไรหรอก ฉันอยากทำให้ดีกว่านี้น่ะ” มิคาเอลพูดอย่างจริงจังขึ้นมา เพราะเขาเห็นพ่อแม่กับน้องสาวที่ทำอะไรก็ได้ดีไปหมด

“น่า ยังไงภาคปฏิบัติ นายก็ทำได้ดี” ไพร์ดให้กำลังใจญาติ ที่ผลสอบภาคทฤษฎีไม่ค่อยดีเท่าไรนัก

“นายยังดีกว่าฉัน ของฉันร่อแร่ไปหมด” อิคารัสคว้าผลไม้ในกระเช้ามากิน แล้วกระแทกก้นลงที่เก้าอี้นวมในห้องชุด แน่นอนว่าปิแอร์ต้องหาห้องแบบนี้ให้นายตัวเอง เพราะไม่อยากให้มีเรื่องวุ่นวาย

“นอนดีกว่า” มิคาเอลหันหลังให้เพื่อน

“รีบนอนทำไม” อิคารัสพูดจบ เดินออกไปที่หน้าห้อง ก่อนจะเปิดออกเรียกสาวๆ คู่ควงของแต่ละคนเข้ามา “สนุกกันดีกว่าน่า เอาล่ะ รู้ใช่ไหมจ๊ะ ที่รัก”

หญิงสาวผมสีอ่อนก็เดินเข้าไปในห้องที่เปิดประตู แล้วนั่งที่ข้างเตียง ขณะที่สายตาสบตากันก็รู้ความหมาย ได้แต่ปล่อยให้ทุกอย่างเป็นไปตามที่ต้องการ

ไพร์ดนั้นพาหญิงสาวคนที่เหลือ เลี่ยงออกมาจากห้องเพื่อนเข้าห้องตัวเอง ถึงอย่างไรพวกเขาก็ไม่คิดจะนอนร่วมห้องกันอยู่แล้ว คอนเสิร์ตหลายวันก็จริง แต่เมื่อพักที่ไหนก็แยกห้องนอนกันตลอด

แน่นอนว่า...พวกเขาไม่ใช่เกย์

****************************************


ชายหนุ่มผมสองสีพาเด็กหนุ่มสามคน ที่มีแต่คนห้อมล้อมมาสถานที่จัดงานเลี้ยงการกุศล เสียงเอะอะจึงดังขึ้น ทำให้คนในห้องต้องออกมาดู

“สวัสดีครับ ลุงพอล ไหนครับ แจ็ค นี่เหรอครับแจ็คที่ลุงพอลให้มารอรับก่อนน่ะ ไหนๆ ก็จะพามา แล้วทำไมต้องมารอรับด้วยละครับ” หลานคนหนึ่งของพอลเข้ามาถามอย่างงงๆ

พอลหันไปมองหลานชายต่างสายเลือดทั้งสามคน ก่อนจะมองหาหลานสาว “แจ็คไม่ได้มากับลุงนี่ มิค ไพร อิกกี้ แจ็คมาหรือยัง แล้วมีเด็กวัยรุ่นอายุสิบหกมาหรือเปล่า”

“มีคนหนึ่งครับ แต่เป็นผู้หญิง คนติดตามเพียบ คุณย่าเลยไม่ให้เข้างาน” หลานชายคนเดิมบอกลุงอย่างไม่ใส่ใจนัก เพราะเขากำลังเบื่อที่ต้องมาช่วยงานนี้ทั้งที่ไม่สนใจ

“อ้าว นั่นล่ะ แจ็ค วุ๊ยๆ ไม่รู้เรื่องเลย” พอลหันซ้ายแลขวามองหาลูกสาวเพื่อน

“ก็เขาบอกว่ามิสธีโอฟาสเต้ ไม่ได้บอกว่าชื่อแจ็คนี่ฮะ” หลานชายพอลก็ได้แต่ทำหน้างง

มิคาเอลจึงโทรศัพท์หา แต่เพราะเสียงกรี๊ดดังขึ้น ทั้งที่เข้ามาในห้องนี้แล้วก็ต้องตกใจ ก่อนจะถอย เพราะมีสาวๆ ไฮโซเข้ามาชื่นชมเขากับเพื่อน

“พอทีเป็นผู้หญิงก็รู้จักรักษามารยาทบ้างสิ” เสียงผู้ใหญ่ดังขึ้นอย่างเข้มงวด

“สวัสดีครับ คุณแม่” พอลยกมือไหว้แม่วัยเจ็ดสิบของเขา “นี่ผมมาก่อนเวลามากไปไหมครับ”

“ไม่หรอก ไหนลูกว่าแจ็คจะมา แม่ไม่เห็นเจอเลย” แม่ของพอลถามลูกชายทันทีที่เจอหน้า

“อั๋นบอกแล้วครับว่ามาแล้ว แต่คุณแม่ไม่รู้ก็เลยไม่ให้เข้า” พอลบอกแม่ ก่อนจะหันไปมองลูกชายเพื่อนที่กำลังติดตามน้องสาวอยู่ “มิคเจอตัวไหม”

มิคาเอลคุยกับปลายสายอีกเล็กน้อย ก่อนสั่งงานปิแอร์แล้วหันมาตอบ “เจอแล้วครับ อยู่ที่ข้างนอกกำลังโมโหพอควร บอกว่าไม่ให้เข้าก็ไม่มาแล้ว จะไปบ้านที่ต่างจังหวัดเลย ผมต้องกล่อมอยู่นาน ยังไงก็ต้องเห็นแก่หน้าลุงพอลครับ”

“ค่อยยังชั่ว หลานคนนี้นิสัยไม่ต่างจากพ่อเขาเท่าไรเลยเชียว ยิ่งแม่ยิ่งไม่ต้องพูดถึง นิสัยไม่แคร์ใครเหมือนกันทั้งบ้าน ยังดียังรักษาหน้าลุง” พอลค่อยโล่งใจ ก่อนหันไปเห็นลูกสาวลูกชายเดินมา

“คุณพ่อขา/ฮะ” ทั้งสองยกมือไหว้พ่อขณะเดินมากับแม่ “อ้าว มิค ไหนล่ะแจ็ค”

“แจ็คงอน หาว่าไม่ให้เข้างานจะกลับแล้วล่ะ บอกว่าเพิ่งนั่งรถมาจากต่างจังหวัด เพราะตอนเช้าไปทำบุญให้คุณตาคุณยายมาน่ะ แล้วยังมาเจออะไรแบบนี้อีก” มิคาเอลยกมือไหว้ทั้งสองที่อายุมากกว่าเขา

“เอะ อ๋อ เมื่อกี้อยู่หลังเวทีเลยไม่รู้อ่ะนะ ต้องง้อด้วยอะไรดีนะ ไว้ชวนไปเที่ยวดิสนี่แลนด์ดีไหม” หลินหันไปถามพี่ชายที่กำลังทักทายทุกคน

เสียงเอะอะเรียกนักดนตรีดังลั่น คนหน้าประตูก็พยายามกันไม่ให้ใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้ามา เด็กสาวชุดสีชมพูผมสีทองดัดลอนสวย ผูกโบว์สีเข้ากัน เดินเข้ามาในชุดกางเกงพร้อมกระเป๋าสีฟ้าเข้มท่าทางอารมณ์ไม่ดีอย่างมากเดินเข้ามา

“น้องพี่” มิคาเอลยิ้มประจบ เพราะเวลาน้องสาวอารมณ์เสีย น่ากลัวอย่างแรง

“ท่านพี่ปล่อยให้น้องยืนเก้ออยู่ข้างนอก รู้ไหมว่าอากาศมันร้อนแค่ไหน” แจ็คลีนทำหน้ากระเง้ากระงอดเต็มที่ แต่สาเหตุที่อารมณ์เสียนั้นไม่ใช่เพราะพี่ชายเต็มที่ และเธอก็แก้ปัญหาอากาศร้อนด้วยการไปโรงแรมใกล้ๆ แต่เป็นเพราะมีคนเข้ามาพูดกับเธอทำให้เธออารมณ์เสีย

“เอ่อ ก่อนจะโมโหพี่ ทักทายลุงพอลก่อนดีกว่าไหม” มิคาเอลยิ้มแห้งๆ ก่อนหันไปมองทางผู้ใหญ่

แจ็คลีนยกมือไหว้พอล ก่อนจะเดินเข้าไปเกาะแขนแล้วทักทายหอมแก้มแบบฝรั่ง “คิดถึงลุงพอลจังเลยค่ะ อ่ะ พี่หลิน พี่หลง คิดถึงมากเลย คราวนี้มาเมืองไทยพร้อมกันต้องไปช็อปปิ้งเป็นเพื่อนแจ็คหน่อยนะคะ”

จากนั้นภาษาไทยก็ปลิวว่อน หลังจากคนอื่นฟังภาษาฝรั่งเศสปนภาษาอังกฤษ

“แจ็คๆ ใจเย็นๆ เรื่องช็อปเป็นหมื่นเป็นแสนเนี่ย ลุงขอเวลาหน่อย ทำความเคารพคุณแม่ของลุงก่อน” พอลรีบสลายวงเมาท์ของลูกสาวเพื่อนกับลูกสาวตัวเสียก่อน

แจ็คลีนพยักหน้าช้าๆ รับคำ ก่อนจะหันมา แล้วถอนสายบัวงามๆ ให้กับผู้ใหญ่ ทั้งยังโค้งลงอย่างสวยงามตามมารยาทฝรั่งเศส “สวัสดีค่ะ”

ไพร์ด อิคารัส และมิคาเอลต่างก็โล่งใจที่น้องสาวหายงอนได้ ก่อนจะต้องหนักใจอีกเมื่อคนจัดงานเดินเข้ามาหาคุณหญิง...แม่ของพอล

“คุณหญิงคะ คณะที่จะเล่นรายการดนตรีเกิดอุบัติเหตุ เห็นว่ามาช้า คนเล่นระนาดก็มือซ้น คงเล่นไม่ได้แน่ๆ ค่ะ” คนจัดงานรายงานอย่างร้อนใจ

“ทำไมเป็นอย่างนี้ล่ะ” คุณหญิงได้แต่ปวดหัว

พอลหันไปมองหลานสี่คนก่อนจะพูดด้วย “แจ็คเอาฮาร์ฟมาไหม เล่นคั่นรายการไปก่อนดีหรือเปล่า ช่วงที่คณะยังไม่มีน่ะ แล้วพอมาแล้วไพร์ด ลุงขอให้ช่วยเล่นระนาดหน่อยนะ”

“อะไรกัน ลูก เด็กที่โตเมืองนอกจะเล่นระนาดได้เหรอ แย่แน่นะ วันนี้เป็นการจัดงานเพื่อสืบสานวัฒนธรรมไทยด้วย จะดีเหรอ ระนาดไม่ใช่เล่นง่ายๆ นะ” คุณหญิงส่ายหน้าไม่เห็นด้วย

พอลฟังแล้วก็ต้องมองหน้าเด็กๆ เพราะเรื่องความลับยังมีอีกหลายข้อ ก่อนมิคาเอลต้องออกหน้าแทนเพื่อนๆ

“พวกผมต่างก็เคยเล่นเครื่องดนตรีไทยมาบ้างครับ โดยเฉพาะไพร์ดนี่เล่นระนาดได้เก่งมาก ไม่ต้องห่วงเลยครับ” มิคาเอลละเรื่องเชื้อชาติ เพราะไม่อยากให้วุ่นวายหนัก

“ขนาดคนไทยยังเล่นได้ไม่ทั้งหมด นี่ไม่ใช่เลย จะเล่นได้เหรอ” หลานชายคนหนึ่งของคุณหญิงพูดขึ้นอย่างไม่เชื่อ

“นั่นสิ” คุณหญิงเห็นด้วย

มิคาเอลมองหน้าเพื่อนๆ ก่อนอิคารัสจะรู้สึกรำคาญจึงพูดตามตรง “ไพร์ดเป็นคนไทยแท้ครับ พ่อแม่เป็นคนไทย แม่เป็นครูสอนดนตรีไทยด้วย รับรองครับว่าความสามารถเรื่องระนาดเนี่ยไม่น้อยหรอก เพราะไหว้ครูสอนระนาดด้วย”

“จริงเหรอคะ ไพร์ดเป็นคนไทย เรื่องใหญ่นะเนี่ย ต้องขยาย” สาวๆ รีบเก็บข้อมูลเพื่อขยาย ก่อนจะมองหน้ามิคาเอล แล้วสรุป “อย่างงี้มิคาเอลก็เป็นคนไทยด้วยสิคะ”

อิคารัสชักปวดหัว ก่อนจะมองหน้าเพื่อน “เปล่าครับ ก็นั่นน่ะน้องสาวมิคาเอล เห็นไหมฝรั่งจ๋า ไม่ได้ย้อมผมด้วย ผมสีทองของแท้ ส่วนมิคาเอลก็ตาสีน้ำเงินของแท้”

“ที่หน้าผมสองคนเหมือนกัน ก็เพราะว่าแม่ผมกับแม่มิคเป็นพี่น้องกันครับ บอกเลยดีไหม” ไพร์ดหันไปมองลูกพี่ลูกน้องอย่างหนักใจ

“พวกเราต่างก็มีเชื้อไทยครับ แม่ผมเป็นคนไทย ส่วนพ่อของอิคารัสเป็นคนไทย” มิคาเอลก็เฉลย ก่อนจะมองน้องสาว “น้องสาวผม ผมสีทองเหมือนพ่อน่ะครับ ตาเธอสีน้ำตาลเข้มเหมือนแม่”

“ข่าวนี้ต้องขยาย” สาวๆ ก็กดข้อความพิมพ์กันยิกๆ

มิคาเอลหันมาทางผู้ใหญ่อย่างยุ่งยากใจ ก่อนจะมองไปทางน้องสาว แล้วบอกกับเพื่อน “พรุ่งนี้คงวุ่นแน่ๆ ไพร์ดโทรบอกไซเฟอร์หน่อยดีกว่านะ”

ไพร์ดพยักหน้า ก่อนจะโทรจัดการ ขณะที่พอลหันไปมองแม่แล้วตัดสินใจ “ทำตามอย่างมิคว่าแหละดีแล้วครับ แจ็คคงไม่ปฏิเสธนะ ถือว่าลุงขอร้อง”

แจ็คทำหน้าลำบากใจ ก่อนพยักหน้ารับ “ได้ค่ะ เบนเอาฮาร์ฟมาแล้วกัน พอดีแจ็คเก็บไว้ที่บ้านค่ะ ตอนแรกไม่คิดว่าจะได้ใช้ที่นี่ ตั้งใจไปเล่นให้ป้าพิมฟัง ดีที่เอามาเนอะ”

จากนั้นสาวๆ ก็เมาท์กัน เพราะคราวก่อนไปซื้อของด้วยกัน ต่างก็แลกเปลี่ยนกันเรื่องข้อมูลเทคโนโลยี ก่อนหลงจะเข้าเรื่องเศรษฐกิจและธุรกิจอีก

“เครียดอีกแล้ว ลุงพอล เดี๋ยวผมว่าจะกลับบ้านก่อน ตอนเย็นค่อยมาดูแจ็คเล่นฮาร์ฟนะฮะ ถึงจะไม่เข้ากับวัฒนธรรมไทยเท่าไร แต่ก็ดีกว่าไม่มีอะไรคั่นรายการจริงไหมฮะ เรื่องจะให้แจ็คตีขิมโชว์ เจ้าตัวคงไม่เอาหรอกฮะ เพราะไม่ได้ติดขิมส่วนตัวมาด้วย ไม่มีทางเล่นหรอก ลุงก็รู้นี่ฮะ แจ็คไม่ชอบเล่นเครื่องดนตรีของใคร” มิคาเอลอธิบาย

“หรือจะให้วงดาร์คไนต์เล่นแก้ขัด พวกเราก็ไม่รังเกียจหรอกนะคะ” สาวๆ ที่เข้ามากรี๊ดในตอนแรกพูดขึ้น

เด็กหนุ่มทำได้เพียงยิ้มแห้งๆ ก่อนปฏิเสธอย่างสุภาพ และมองหน้ากันด้วยความเหน็ดเหนื่อย อิคารัสส่ายหน้าแรงๆ เพราะเขาเหนื่อยจากการขึ้นคอนเสิร์ตที่ญี่ปุ่นมาหมาดๆ ยังไม่ได้พักผ่อนก็รีบมาที่นี่ทันที ใจอยากจะไปนอนเล่นที่บ้านปู่ย่ามากกว่ามาอยู่ในเมืองแบบนี้ด้วยซ้ำ

“อย่าเลย พวกเขาเพิ่งเสร็จคอนเสิร์ตจากญี่ปุ่นมา ที่ยอมมางานนี้ก็เพราะเกรงใจลุง อืม มิคพาเพื่อนๆ กลับบ้านไปก่อนเถอะ เย็นนี้จะให้คนมารับหน้างานนะ” พอลรีบตัดบทไม่อยากให้วุ่นวายเท่าไรนัก

ค่ำคืนนี้คงผ่านไปได้อย่างอัศจรรย์เหมือนเคย แต่กว่าจะผ่านไปได้คิดว่าคงต้องใช้ความอดทนสูงอย่างมาก และก็จะผ่านไปได้ด้วยดี

****************************************

สวัสดีค่ะ
อากาศแปรปรวนดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
ตอนนี้กำลังเดินกว่าก้าวที่ 2
จะจัดหน้านิยายให้เป็นเล่มสักทีแล้วค่ะ
แล้วจะแจ้งข่าวให้ทราบภายหลังนะคะ
ขอบคุณที่ติดตามและให้กำลังใจมาเสมอนะคะ

คุณ maplezaa --- อิอิ แก้เรียบแล้วนะงับ

คุณ หนอนฮับ --- มิคาเอลน่ารักแบบแบดบอยหรือเปล่าคะ

คุณ XaWarZd --- >,< โจเขินนิดหน่อยค่ะ โดนขโมยใจไปเต็มๆ อิอิ

คุณ anOO --- อิอิ อ่ะแน่นอน แต่คงไม่เรียบง่ายหรอกค่ะ

คุณ kaeka --- อิอิ น่ากัดน่ากอดด้วยใช่ไหมคะ ^^

คุณ ตุ๊งแช่ --- แน่นอนค่ะ ยุ่งยกกำลัง 3 อิอิ

คุณ tuktuk --- ใช่ค่ะ ในเมื่อรักกันก็ต้องห่วงใยกันด้วยนะคะ



เพลิงวารี
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ส.ค. 2554, 18:48:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ส.ค. 2554, 18:48:58 น.

จำนวนการเข้าชม : 1931





<< LRock ตอนที่ 6   LRock ตอนที่ 8-ลบ >>
หนอนฮับ 17 ส.ค. 2554, 21:29:02 น.
ฮาาา ความจริงเปิดเผยซะแล้ววว...


XaWarZd 18 ส.ค. 2554, 03:29:22 น.
ตอนหน้าจะวุ่นวายขนาดไหนนะ


ตุ๊งแช่ 18 ส.ค. 2554, 08:36:51 น.
น่าจะยุ่งเกินกำลัง 3 นะคะ โจ คิดอะไรกับมิคแหงๆ แตทำไมหนุ่มน้อยความรู้สึกช้าจัง


anOO 18 ส.ค. 2554, 13:30:50 น.
มารอดูหนุ่มๆ เปลี่ยนแนว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account