โอนรักใส่บัญชีใจ *สนพ.สื่อวรรณกรรม*
จู่ๆ สาวห้าวตกงานแถมยังถังแตกอย่างกัญชรส ก็มีเงินห้าหมื่นมานอนอยู่ในบัญชีที่เธอไม่ได้ใช้มานานเกือบปี
และปัญหาจะไม่เกิดเลยถ้าสาวถังแตกอย่างเธอไม่แบ่งกดเงินจำนวนห้าหมื่นนั้นมาใช้จ่ายและปลดหนี้คืนความเป็นไทให้กับตัวเองซะสามหมื่น
เพราะผ่านไปแค่หนึ่งอาทิตย์อิงครัตหนุ่มหล่อเจ้าของอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นเจ้าของเงินจำนวนห้าหมื่นนั้น มาทวงเงินที่โอนผิดกลับคืน
และปัญหาจะไม่เกิดเลยถ้าสาวถังแตกอย่างเธอไม่แบ่งกดเงินจำนวนห้าหมื่นนั้นมาใช้จ่ายและปลดหนี้คืนความเป็นไทให้กับตัวเองซะสามหมื่น
เพราะผ่านไปแค่หนึ่งอาทิตย์อิงครัตหนุ่มหล่อเจ้าของอู่ซ่อมรถมอเตอร์ไซค์ ซึ่งเป็นเจ้าของเงินจำนวนห้าหมื่นนั้น มาทวงเงินที่โอนผิดกลับคืน
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: ตอนที่ 2 : แรกพบสบตา
ตอนที่ 2
แรกพบสบตา
“ก็ใช่นะสิ อิงค์รีบไปติดต่อธนาคารเดี๋ยวนี้เลยนะลูก เขาจะได้รีบจัดการให้”
ผู้เป็นแม่แนะนำ
“แต่มันผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะครับ เงินมันเหลือเหรอ”
อิงครัตบอกอย่างหนักใจพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างไม่กลัวมันจะเปื้อน มือใหญ่ยกขึ้นยีผมตัวเองจนยุ่งเหยิง เป็นเพราะตอนโอนเงินเขามัวคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเพลินแน่ๆ เลยไม่ได้ตรวจเชคให้ละเอียดรอบคอบ สะเพร่าโอนเงินไปเข้าบัญชีใครก็ไม่รู้
“เหลือไม่เหลือก็ต้องลองคุยกับทางธนาคารและเจ้าของบัญชีนั้นดูก่อน รีบๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย…เอ๊ะ! ไม่ได้สิวันนี้วันอาทิตย์”
“วันอาทิตย์ก็ไม่เป็นไรครับแม่ เพราะบัญชีของผมเปิดที่สาขาในห้าง เขาเปิดทำหารทุกวันอยู่แล้ว เอาเป็นว่าผมจะไปติดต่อธนาคารวันนี้เลยตามที่แม่บอก ถ้าได้เรื่องยังไงเดี๋ยวผมโทรกลับอีกทีแล้วกันครับ”
“จ๊ะ”
“งั้นแค่นี้นะครับ...หวัดดีครับ”
วางสายเสร็จร่างสูงก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ตอนแรกชายหนุ่มกะว่าจะไปทั้งชุดนี้เลย แต่พอก้มลงดูสภาพตอนนี้ของตัวเองแล้วต้องส่ายศีรษะ เพราะมันเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งคนทั้งชุด เขาจึงตัดสินใจถอดมันออก แล้วโยนลงตะกร้าศูนย์รวมความเน่าอย่างแม่นยำ จากนั้นก็พาตัวเองเข้าไปวิ่งผ่านน้ำ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที อิงครัตก็อยู่ในชุดแจ๊คเก๊ตสีดำ กางเกงยีนส์ พร้อมออกนอกบ้าน
ร่างสูงในชุดสะอาดกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันได ในมือก็ถือหมวกกันน๊อคคู่กาย พร้อมกับตะโกนบอกอีกคนที่กำลังง่วนอยู่กับงานหน้าอู่
“อัทธ์พี่ฝากอู่หน่อยนะ พี่ขอออกไปทำธุระที่ธนาคารแป๊บหนึ่ง”
อัทธ์เงยหน้าขึ้นพยักรับ ก่อนจะหันกลับไปสนใจงานตรงหน้าต่อ ด้านอิงครัตเมื่อฝากอู่ไว้กับญาติผู้น้องเสร็จก็เดินเข้าไปข้างในสุดของอู่ ซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบต์คันโปรดของชายหนุ่มจอดอยู่และมันก็ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าผื่นใหญ่อย่างดี เมื่อเขาเข็นมันออกมาที่ถนนหน้าอู่ ไม่นานมันก็ถูกขับวิ่งฉิวตรงไปที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสิบกว่ากิโลเมตร
เมื่อมาถึงอิงครัตก็รีบไปติดต่อเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร เขาจึงได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เขาไปทำธุรการทางการเงินก่อน ทันทีที่ได้ใบแจ้งความมาเขาก็ย้อนกลับไปที่ธนาคารแห่งนั้นอีกครั้ง
ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการตรวจสอบทั้งทางเอกสารและหลักฐานต่างๆ รวมไปถึงการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารของผู้รับโอน ซึ่งเขาเองก็เพิ่งมาทราบว่าชื่อเจ้าของบัญชีที่เขาโอนเงินเข้าไปผิดนั้น ชื่อเดียวกันกับผู้เป็นแม่คือ กัญชรส ทั้งนี้เพื่อความรวดเร็วและลดความยุ่งยากลง ชายหนุ่มจึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารที่นี่ ขอเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของกัญชรสอีกคน กับเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนั้น เพื่อที่เขาจะได้ไปติดต่อและพูดคุยกับเจ้าตัวโดยตรง
กัญชรสล้มตัวลงบนที่นอนปิกนิคราคา 199 บาท ของตัวเองอย่างกลุ้มใจ หลังจากที่เพิ่งวางสายจากเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร ซึ่งโทรมาติดต่อเรื่องเงินห้าหมื่นที่โอนเข้าผิด และยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดแก้ปัญหาว่าจะเอาอย่างไรกับเงินที่ใช้ไป โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ก็เป็นเบอร์แปลกอีกแล้ว แต่นั่นมันก็ไม่ได้เพิ่มความทุกข์ใจให้หญิงสาว เพราะมันคนล่ะเบอร์กับเมื่อครู่ ทำให้กัญชรสคิดเอาเองอย่างตื่นเต้นดีใจว่าอาจจะเป็นบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่เธอไปสมัครงานทิ้งไว้ โทรมาเรียกไปสัมภาษณ์หรือไม่ก็ไปเริ่มงานก็เป็นได้
แต่พอรับสายสีหน้าดีใจเมื่อครู่กลับเซียวลงจนเกือบจะกลายเป็นร้องไห้ เมื่อมันไม่ใช่โทรศัพท์ติดต่อจากบริษัทใดๆ อย่างที่หญิงสาวคาดหวังไว้ แต่มันเป็นโทรศัพท์จากเจ้าหนี้รายใหญ่ ที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าตานั่นเอง
และตั้งแต่กัญชรสรับสายเจ้าหนี้รายใหญ่คนดังกล่าว เธอก็พูดอยู่แค่สองคำคือคำว่า ‘ค่ะ’ กับ ‘ได้ค่ะ’ นาทีนี้ฝ่ายนั้นว่าอะไรก็ต้องยอมและว่าตามกันไปก่อน ถึงแม้ที่จริงแล้ว มันก็เป็นความผิดของฝ่ายโน้นที่สะเพร่าโอนเงินเข้าผิดบัญชี แต่ทั้งนี้ตามหลักความถูกต้องแล้ว เธอเองก็ไม่มีสิทธิ์จะไปกดของเงินของเขามาใช้ เพราะมันเป็นเงินจำนวนเยอะ ไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย ที่โอนผิดแล้วก็แล้วกันไป ถึงแม้เธอเองจะคิดอยู่เสมอว่าอย่างไรซะเจ้าของก็ต้องตามเอาคืนอยู่เข้าสักวัน แต่ทำไงได้ก็คนมันไม่มีจะใช้ก็เลยจำต้องกดมาใช้บางส่วน ซึ่งเรื่องนี้มันก็ไม่มีทางออกที่ดีกว่า การไปเจรจากับเจ้าของเงิน ดังนั้นเธอจึงทำใจดีสู้เสือ ยอมรับนัดไปเจรจาเรื่องนี้ ที่อู่ซ่อมรถของอีกฝ่าย ซึ่งก็โชคดีที่มันอยู่ไม่ไกลจากที่เธอพักนัก
“อู่ช่างอิงค์”
หญิงสาวอ่านทวนชื่ออู่ ซึ่งเป็นจุดนัดพบในวันพรุ่งนี้บนเศษกระดาษอีกครั้ง
“สาธุ...ขอให้คุณอิงครัตเป็นผู้ชายใจดี มีเมตตากับนังรสคนนี้ด้วยเถิด”
มือบางพนมยกขึ้นเหนือศีรษะ หวังให้อีกฝ่ายเป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะฟังจากน้ำเสียงอบอุ่นนุ่มทุ้มที่ได้ยินผ่านสายโทรศัพท์เมื่อครู่แล้ว เธอก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหนี้รายใหญ่ของเธอจะเป็นผู้ชายอบอุ่นใจดีเหมือนกับน้ำเสียง
เช้าวันรุ่งขึ้นกัญชรสงดการออกไปหางาน ซึ่งเป็นภารกิจประจำไปหนึ่งวัน เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจไปปฏิบัติภารกิจ ที่ยิ่งใหญ่กว่า หญิงสาวดูนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นว่าเหลืออีกไม่ถึงชั่วโมง ก็จะได้เวลานัด เธอจึงออกจากห้องพักไปขึ้นรถโดยสารหน้าปากซอย
ใช้เวลานั่งรถสิบนาทีเศษๆ ร่างสมส่วนในชุดทะมัดทะแมงก็เดินมาหยุดยืนอยู่ปากซอยที่อีกฝ่ายนัดหมายเอาไว้ แต่ยังไม่ถึงอู่ที่ว่า
“อู่อยู่กลางๆ ซอยใกล้ๆ ตึกสีเปลือกไข่ เดินเข้าไปจะอยู่ฝั่งขวามือ...ถ้าไปไม่ถูกก็ให้นั่งวินหน้าปากซอยเข้าไป และบอกวินว่าไปอู่ช่างอิงค์”
หญิงสาวพึมพำทวนความจำที่อีกฝ่ายบอกไว้ ก่อนจะหันไปยิ้มแป้นแล้นตรงเข้าไปหาพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่นั่งเล่นหมากฮอตกันอยู่
“พี่คะ ไปอู่ช่างอิงค์คันหนึ่งค่ะ”
วินที่รอคิวอยู่ลุกขึ้นปุ๊บปั๊บ เดินไปสตาร์ทรถรอให้ผู้โดยสารสาวขึ้นนั่งจนเรียบร้อย จึงออกรถตรงไปยังอู่ช่างอิงค์ตามที่ลูกค้าสาวบอก
“นี่แหละครับอู่ช่างอิงค์”
กัญชรสหันเข้าไปมองภายในอู่นิดหนึ่ง ก่อนจะวาดขาลงจากรถ แล้วล้วงเหรียญจากกระเป๋ากางเกงยีนส์จ่ายเงินค่าโดยสาร จากนั้นเธอก็เดินตรงเข้าไปหาวินมอเตอร์ไซค์ท่าทางมีอายุคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้าน
“โทษนะคะพี่ ที่นี้อู่ช่างอิงค์ไหมคะ”
หญิงสาวถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นวินมอเตอร์ไซค์ที่มาส่งเธอเมื่อครู่ก็บอกไปแล้ว ด้านคนถูกถามก็ละจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังเปิดอ่าน มาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรว่า
“ใช่ครับ”
“อ๋อค่ะ ขอบคุณนะคะ...ว่าแต่ไม่มีใครอยู่เลยเหรอคะ”
หญิงสาวถามพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้หินอ่อน ซึ่งอยู่คนฝั่งกับวินมอเตอร์ไซค์ท่าทางมีอายุที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“อยู่สิ...นั่นไง”
วินมอเตอร์ไซค์พยักพเยิดไปที่ร่างสูงในชุดเสื้อสีเข้มคล้ายๆ เสื้อช๊อปของเด็กช่าง สวมกางเกงยีนส์เก่าๆ ที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงจากบันไดที่เชื่อมต่อขึ้นชั้นบนของอู่ พร้อมตะโกนบอกเสียงดังอย่างคุ้นเคยว่า
“อิงค์สาวมาหา”
“สาวที่ไหนครับพี่”
อิงครัตถามเสียงกลั้วหัวเราะ พร้อมกับเดินยิ้มตรงไปหาสาวที่ว่าและวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำนั่งอยู่
และพอชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆ เท่านั้น ดวงตากลมโตของกัญชรสถึงกับเบิกกว้าง หัวใจเต้นระรัวเผลอลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัว โอ้แม่เจ้า! ถ้าตอนนี้เธอมีอะไรสักอย่างอยู่ในมือ เธอต้องทำมันร่วงหล่นกระจายแน่นอน เพราะผู้ชายที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มหน้าตาโคตรหล่อกระชากใจสาวรุ่นอย่างเธอเสียเหลือเกิน
“คุณครับ...คุณครับ...คุณ!”
เสียงตะคอกเบาๆ ทำให้ร่างสมส่วนที่มัวแต่จับจ้องใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาของเจ้าของอู่ถึงกับสะดุ้ง ก่อนเธอจะทำหน้าเลิ่กลั่ก ยกมือบางขึ้นลูบผมซอยสั้นๆ เกือบๆ จะเท่ากับคนหล่อตรงหน้าอย่างขวยเขิน พร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ กลับไป
“คะ…”
“คุณหรือเปล่าครับที่ว่ามาหาผม”
“อ๋อ...ค่ะๆ อ้าว...แล้วพี่คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไปแล้วเหรอคะ”
หญิงสาวถามหาวินมอเตอร์ไซค์ที่ก่อนหน้านั้นนั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ แต่หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แก้เก้อ
“พี่เขามาปะยางรถ ผมเอาเงินทอนให้เขา เขาก็ไปแล้วล่ะครับ ว่าแต่คุณ...”
“กัญชรสค่ะ กัญชรส โพธิกร มาตามที่คุณอิงครัตโทรนัดเมื่อวานค่ะ”
กัญชรสรีบสวนแนะนำตัวขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่อ้าปากค้างเหมือนจะพูดต่อพยักหน้า แล้วระบายยิ้มที่ทำเอาคนมองอย่างเธอใจแทบละลาย
“อ้าว คุณกัญชรสเองเหรอครับ...ผมรออยู่พอดีเลย งั้นเราจะไปคุยกันที่โต๊ะข้างในอู่หรือจะคุยตรงนี้ดีครับ”
ชายหนุ่มชี้ไปที่โต๊ะเพียงตัวเดียวภายในอู่ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยตู้และชั้นวางอะไหล่ นอกจากนี้ก็ยังมือเครื่องมือช่างต่างๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งก็เป็นธรรมดาของอู่ซ่อมรถทั่วไป ก่อนจะมาชี้ลงตรงโต๊ะหินอ่อนทรงกลมตรงหน้า
“ตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“’งั้นก็เชิญนั่งรอผมตรงนี้แป๊บหนึ่งนะครับ”
เขาเชื้อเชิญ ก่อนจะวิ่งหายขึ้นไปชั้นบน เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ลงมาพร้อมเอกสารบางอย่างและขวดน้ำดื่ม
“น้ำครับ”
“ขอบคุณค่ะ คุณไม่เห็นต้องลำบากเดินขึ้นไปเอามาให้ฉันดื่มเลย มาแค่นี้เอง”
หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ ซึ่งอิงครัตก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับวางเอกสารที่เขาถือติดมือมาพร้อมกับขวดน้ำลงตรงหน้ากัญชรส
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณอุตส่าห์มาหาผมถึงที่ และก็นี่ครับเอกสารต่างๆ ทั้งเกี่ยวกับตัวผมและการโอนเงิน”
มือบางเปิดเอกสารเหล่านั้นดูคร่าวๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับเจ้าของเงินที่เธอยืมไปใช้โดยพลการ พลางผงกศีรษะอย่างเข้าใจ อิงครัตจึงพูดต่อไปว่า
“ครับ ก็อย่างที่รู้ๆ กันคือ ผมสะเพร่าโอนเงินเข้าผิดบัญชี แทนที่มันจะเข้าบัญชีแม่ผม แต่ผมกลับโอนไปเข้าบัญชีคุณซะงั้น ซึ่งผมก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตอนที่ผมกำลังโอนเงินผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วย เลยเผลอกดเลขท้ายของบัญชีสลับกัน จาก 32 เป็น 23 และมันก็เป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่ชื่อคุณกับชื่อแม่ผมดันชื่อเดียวกัน”
“ค่ะ”
คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น พลางมองหญิงสาวรูปร่างหน้าตาลักษณะท่าทางคล้ายทอมบอยตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ
“คือก็พูดกันตามตรงนะครับว่า ผมอยากได้เงินจำนวนนั้นคืน”
“ค่ะ”
“ที่คุณว่าค่ะ นี่คือ...คุณจะคืนเงินจำนวนนี้ให้กับผมใช่ไหมครับ”
“ค่ะ”
การเจรจาที่ผ่านไปอย่างง่ายดายและจบลงแบบรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้อิงครัตถึงกับยิ้มกว้าง ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ทว่า
“แต่คือ...ฉันมีเรื่องจะบอกคุณนะคะ ว่า…ว่า...คือ...ตอนนี้เงินในบัญชีมันเหลืออยู่แค่สองหมื่น”
ท้ายประโยคหญิงสาวพูดเสียงแผ่วเบามาก มากซะจนทำให้คนที่นั่งเงี่ยหูฟังอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ ต้องถามย้ำขึ้นอีกครั้ง
“อะไรนะครับ ผมขอช้าๆ ชัดๆ อีกสักครั้งว่าตอนนี้เงินมัน...มันอะไรครับ”
กัญชรสกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอดังเอื๊อก สุดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วในที่สุดเธอก็ก้มหน้ากลั้นใจพูดประโยคนั้นอีกครั้ง อย่างช้าๆ ชัดๆ ตามที่เขาได้ขอร้องมา
“ฉันบอกว่า...ตอนนี้เงินในบัญชีฉัน มันเหลือแค่สองหมื่นเท่านั้นค่ะ”
ทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบ บรรยากาศของความเงียบและความตึงเครียดก็เข้ามาเยือน กัญชรสที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองสีหน้านิ่งขรึมของหนุ่มหล่ออย่างอิงครัต รีบยกมือไหว้พร้อมกับสารภาพเรื่องที่ตนเองได้กดเงินของเขามาใช้โดยพลการเสียงรัว
“ฉันขอโทษ ฉันจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ วันนี้ฉันจะโอนส่วนที่เหลือคืนให้คุณทันที แต่ส่วนที่ฉันนำไปใช้ฉันสัญญานะว่าจะคืนให้คุณจนครบ ไม่หนี ให้ดอกด้วยก็ได้ แต่อย่าแพงนะคะ”
สายตาคมเหลือบมองหน้าที่จ๋อยสนิทของหญิงสาวนิดหนึ่ง ก่อนจะโคลงศีรษะไปมาพลางพ่นลมออกจากปาก
“เรื่องนี้จะโทษคุณคนเดียวมันก็ไม่ถูก ต้นเหตุมันก็เกิดจากผม...ในเมื่อเงินที่คุณกดออกมาก็ถูกใช้ไปหมดแล้วใช่ไหม”
“ยังค่ะ เหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ฉันขอนับดูก่อน”
กัญชรสทำท่าจะควักกระเป๋าสตางค์ออกมานับจริงๆ ทำให้อิงครัตรีบปราม
“ไม่ต้องหรอกคุณ คุณจำเป็นต้องใช้ไม่ใช่เหรอ...ตกลงก็เอาตามที่คุณเสนอมานั่นแหละ โอนเงินสองหมื่นที่เหลือกลับมาให้ผมวันนี้ ส่วนเงินสามหมื่นที่คุณกดไปใช้นั้นก็ ค่อยๆ ทยอยคืนตามกำลังของคุณก็แล้วกัน เดือนเท่าไหร่ก็ได้”
“ดอก”
เสียงใสเอ่ยถามสิ่งที่กังวล พร้อมทั้งทำหน้าตาบ้องแบ๊ว ซึ่งอิงครัตเห็นแล้วอดที่จะระบายยิ้มออกมาไม่ได้
“ผมไม่เอาหรอก”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ เลย...คุณนี่นอกจากหน้าตาดีแล้วยังใจดีด้วยนะคะ”
“เรื่องนั้นผมไม่เถียงคุณหรอก”
ชายหนุ่มตีขลุมยอมรับคำชมของอีกฝ่าย พลางหัวเราะน้อยๆ แต่ไม่นานมันก็สะดุดกึก
“แต่ว่า...ตอนนี้ฉันยังตกงานอยู่เลย เรื่องเงินสามหมื่นที่ว่าจะคืน...ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ”
ชายหนุ่มเริ่มชักสีหน้า แววจะไม่ได้เงินส่วนนี้คืนเห็นอยู่รำไร จะยกให้เลยก็ใช่ที่ เพราะเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยมากจากไหน เงินสามหมื่นกว่าจะได้มามันก็ไม่ใช่ง่ายๆ
“นานแค่ไหน”
“ก็จนกว่าฉันจะได้งานน่ะค่ะ”
และในชั่วขณะนั้นเอง หางตาของกัญชรสก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานติดอยู่ตรงหน้าอู่ ซึ่งมันก็ทำให้นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายขึ้นมาทันที
“หรือไม่อย่างนั้นคุณก็รับฉันเข้าทำงานที่นี้เลยสิคะ อู่ของคุณเปิดรับอยู่ไม่ใช่เหรอนั่นฉันเห็น”
ว่าแล้วนิ้วเรียวเล็กก็ชี้ไปที่กระดาษปิดประกาศ ที่เพิ่งจะถูกนำมาติดเมื่อเช้านี้ อิงครัตจึงรีบหันขวับไปมองตามแล้วก็ต้องร้องเสียงหลง
“เฮ๊ย! ไม่ได้ คุณเดินเข้าไปอ่านตำแหน่งที่ผมเปิดรับชัดๆ หรือยัง อู่ผมไม่ได้เปิดรับพนักงานบัญชี พนักงานทำเอกสาร หรือว่าแม่บ้านนะ”
“มันไม่ได้ไกลมาก ตัวหนังสือก็ใหญ่เบ้อเริ้มเทิ่มซะขนาดนั้น และที่สำคัญสายตาฉันดีพอ นั่งอยู่ตรงนี้ฉันก็อ่านออกว่าคุณรับสมัครผู้ช่วยช่าง”
“นั่นไง คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า คุณเป็นผู้หญิงสมัครไม่ได้หรอก คุณไปหางานอย่างอื่นทำดีกว่า เรื่องเงินผมรอได้”
อิงครัตแนะนำอย่างใจกว้าง ตอนนี้รู้สึกเห็นใจผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้าไม่น้อย ที่คงจะอยากได้งานเพื่อเอาเงินมาคืนเขามาก จนต้องออกปากขอทำงานผู้ช่วยช่าง ที่เป็นงานของคนที่ต้องเรียนด้านนี้มาหรือไม่ก็ชื่นชอบอยากหาประสบการณ์ ซึ่งโดยมากคนจำพวกนี้ก็เป็นผู้ชาย ดังนั้นเพื่อลดความกดดัน เขาจึงไม่อยากเร่งรัดเรื่องเงินที่หญิงสาวเอาไปใช้
แต่ดูเหมือนความหวังดีของเขาจะถูกปฏิเสธ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น อิงครัตแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้กับความดื้อดึงของหญิงสาวมาดทอมบอยคนนี้ ให้รู้แล้วรู้รอดไป
“ไม่ค่ะ! ฉันยังยืนยันที่จะสมัครเป็นผู้ช่วยช่างที่อู่ของคุณ”
*********************************************************************************
ขอบคุณค่า ^_^
แรกพบสบตา
“ก็ใช่นะสิ อิงค์รีบไปติดต่อธนาคารเดี๋ยวนี้เลยนะลูก เขาจะได้รีบจัดการให้”
ผู้เป็นแม่แนะนำ
“แต่มันผ่านมาเป็นอาทิตย์แล้วนะครับ เงินมันเหลือเหรอ”
อิงครัตบอกอย่างหนักใจพลางล้มตัวลงนอนบนเตียงอย่างไม่กลัวมันจะเปื้อน มือใหญ่ยกขึ้นยีผมตัวเองจนยุ่งเหยิง เป็นเพราะตอนโอนเงินเขามัวคุยโทรศัพท์กับเพื่อนเพลินแน่ๆ เลยไม่ได้ตรวจเชคให้ละเอียดรอบคอบ สะเพร่าโอนเงินไปเข้าบัญชีใครก็ไม่รู้
“เหลือไม่เหลือก็ต้องลองคุยกับทางธนาคารและเจ้าของบัญชีนั้นดูก่อน รีบๆ ไปเดี๋ยวนี้เลย…เอ๊ะ! ไม่ได้สิวันนี้วันอาทิตย์”
“วันอาทิตย์ก็ไม่เป็นไรครับแม่ เพราะบัญชีของผมเปิดที่สาขาในห้าง เขาเปิดทำหารทุกวันอยู่แล้ว เอาเป็นว่าผมจะไปติดต่อธนาคารวันนี้เลยตามที่แม่บอก ถ้าได้เรื่องยังไงเดี๋ยวผมโทรกลับอีกทีแล้วกันครับ”
“จ๊ะ”
“งั้นแค่นี้นะครับ...หวัดดีครับ”
วางสายเสร็จร่างสูงก็ดีดตัวลุกขึ้นนั่งอีกครั้ง ตอนแรกชายหนุ่มกะว่าจะไปทั้งชุดนี้เลย แต่พอก้มลงดูสภาพตอนนี้ของตัวเองแล้วต้องส่ายศีรษะ เพราะมันเปรอะเปื้อนไปหมดทั้งคนทั้งชุด เขาจึงตัดสินใจถอดมันออก แล้วโยนลงตะกร้าศูนย์รวมความเน่าอย่างแม่นยำ จากนั้นก็พาตัวเองเข้าไปวิ่งผ่านน้ำ ใช้เวลาไม่ถึงสิบนาที อิงครัตก็อยู่ในชุดแจ๊คเก๊ตสีดำ กางเกงยีนส์ พร้อมออกนอกบ้าน
ร่างสูงในชุดสะอาดกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงบันได ในมือก็ถือหมวกกันน๊อคคู่กาย พร้อมกับตะโกนบอกอีกคนที่กำลังง่วนอยู่กับงานหน้าอู่
“อัทธ์พี่ฝากอู่หน่อยนะ พี่ขอออกไปทำธุระที่ธนาคารแป๊บหนึ่ง”
อัทธ์เงยหน้าขึ้นพยักรับ ก่อนจะหันกลับไปสนใจงานตรงหน้าต่อ ด้านอิงครัตเมื่อฝากอู่ไว้กับญาติผู้น้องเสร็จก็เดินเข้าไปข้างในสุดของอู่ ซึ่งมีรถมอเตอร์ไซค์บิ๊กไบต์คันโปรดของชายหนุ่มจอดอยู่และมันก็ถูกคลุมเอาไว้ด้วยผ้าผื่นใหญ่อย่างดี เมื่อเขาเข็นมันออกมาที่ถนนหน้าอู่ ไม่นานมันก็ถูกขับวิ่งฉิวตรงไปที่ห้างใหญ่แห่งหนึ่ง ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณสิบกว่ากิโลเมตร
เมื่อมาถึงอิงครัตก็รีบไปติดต่อเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร เขาจึงได้รับคำแนะนำให้ไปแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ที่เขาไปทำธุรการทางการเงินก่อน ทันทีที่ได้ใบแจ้งความมาเขาก็ย้อนกลับไปที่ธนาคารแห่งนั้นอีกครั้ง
ใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการตรวจสอบทั้งทางเอกสารและหลักฐานต่างๆ รวมไปถึงการติดต่อประสานงานกับเจ้าหน้าที่ของธนาคารของผู้รับโอน ซึ่งเขาเองก็เพิ่งมาทราบว่าชื่อเจ้าของบัญชีที่เขาโอนเงินเข้าไปผิดนั้น ชื่อเดียวกันกับผู้เป็นแม่คือ กัญชรส ทั้งนี้เพื่อความรวดเร็วและลดความยุ่งยากลง ชายหนุ่มจึงได้ขอให้เจ้าหน้าที่ธนาคารที่นี่ ขอเบอร์โทรศัพท์และที่อยู่ของกัญชรสอีกคน กับเจ้าหน้าที่ธนาคารแห่งนั้น เพื่อที่เขาจะได้ไปติดต่อและพูดคุยกับเจ้าตัวโดยตรง
กัญชรสล้มตัวลงบนที่นอนปิกนิคราคา 199 บาท ของตัวเองอย่างกลุ้มใจ หลังจากที่เพิ่งวางสายจากเจ้าหน้าที่ของทางธนาคาร ซึ่งโทรมาติดต่อเรื่องเงินห้าหมื่นที่โอนเข้าผิด และยังไม่ทันที่เธอจะได้คิดแก้ปัญหาว่าจะเอาอย่างไรกับเงินที่ใช้ไป โทรศัพท์ของเธอก็ดังขึ้นอีกครั้ง คราวนี้ก็เป็นเบอร์แปลกอีกแล้ว แต่นั่นมันก็ไม่ได้เพิ่มความทุกข์ใจให้หญิงสาว เพราะมันคนล่ะเบอร์กับเมื่อครู่ ทำให้กัญชรสคิดเอาเองอย่างตื่นเต้นดีใจว่าอาจจะเป็นบริษัทใดบริษัทหนึ่งที่เธอไปสมัครงานทิ้งไว้ โทรมาเรียกไปสัมภาษณ์หรือไม่ก็ไปเริ่มงานก็เป็นได้
แต่พอรับสายสีหน้าดีใจเมื่อครู่กลับเซียวลงจนเกือบจะกลายเป็นร้องไห้ เมื่อมันไม่ใช่โทรศัพท์ติดต่อจากบริษัทใดๆ อย่างที่หญิงสาวคาดหวังไว้ แต่มันเป็นโทรศัพท์จากเจ้าหนี้รายใหญ่ ที่ไม่เคยเห็นแม้แต่หน้าตานั่นเอง
และตั้งแต่กัญชรสรับสายเจ้าหนี้รายใหญ่คนดังกล่าว เธอก็พูดอยู่แค่สองคำคือคำว่า ‘ค่ะ’ กับ ‘ได้ค่ะ’ นาทีนี้ฝ่ายนั้นว่าอะไรก็ต้องยอมและว่าตามกันไปก่อน ถึงแม้ที่จริงแล้ว มันก็เป็นความผิดของฝ่ายโน้นที่สะเพร่าโอนเงินเข้าผิดบัญชี แต่ทั้งนี้ตามหลักความถูกต้องแล้ว เธอเองก็ไม่มีสิทธิ์จะไปกดของเงินของเขามาใช้ เพราะมันเป็นเงินจำนวนเยอะ ไม่ใช่แค่ร้อยสองร้อย ที่โอนผิดแล้วก็แล้วกันไป ถึงแม้เธอเองจะคิดอยู่เสมอว่าอย่างไรซะเจ้าของก็ต้องตามเอาคืนอยู่เข้าสักวัน แต่ทำไงได้ก็คนมันไม่มีจะใช้ก็เลยจำต้องกดมาใช้บางส่วน ซึ่งเรื่องนี้มันก็ไม่มีทางออกที่ดีกว่า การไปเจรจากับเจ้าของเงิน ดังนั้นเธอจึงทำใจดีสู้เสือ ยอมรับนัดไปเจรจาเรื่องนี้ ที่อู่ซ่อมรถของอีกฝ่าย ซึ่งก็โชคดีที่มันอยู่ไม่ไกลจากที่เธอพักนัก
“อู่ช่างอิงค์”
หญิงสาวอ่านทวนชื่ออู่ ซึ่งเป็นจุดนัดพบในวันพรุ่งนี้บนเศษกระดาษอีกครั้ง
“สาธุ...ขอให้คุณอิงครัตเป็นผู้ชายใจดี มีเมตตากับนังรสคนนี้ด้วยเถิด”
มือบางพนมยกขึ้นเหนือศีรษะ หวังให้อีกฝ่ายเป็นอย่างที่คาดหวัง เพราะฟังจากน้ำเสียงอบอุ่นนุ่มทุ้มที่ได้ยินผ่านสายโทรศัพท์เมื่อครู่แล้ว เธอก็ได้แต่หวังว่าเจ้าหนี้รายใหญ่ของเธอจะเป็นผู้ชายอบอุ่นใจดีเหมือนกับน้ำเสียง
เช้าวันรุ่งขึ้นกัญชรสงดการออกไปหางาน ซึ่งเป็นภารกิจประจำไปหนึ่งวัน เพื่อเตรียมตัวเตรียมใจไปปฏิบัติภารกิจ ที่ยิ่งใหญ่กว่า หญิงสาวดูนาฬิกาบนหน้าจอโทรศัพท์มือถือ เมื่อเห็นว่าเหลืออีกไม่ถึงชั่วโมง ก็จะได้เวลานัด เธอจึงออกจากห้องพักไปขึ้นรถโดยสารหน้าปากซอย
ใช้เวลานั่งรถสิบนาทีเศษๆ ร่างสมส่วนในชุดทะมัดทะแมงก็เดินมาหยุดยืนอยู่ปากซอยที่อีกฝ่ายนัดหมายเอาไว้ แต่ยังไม่ถึงอู่ที่ว่า
“อู่อยู่กลางๆ ซอยใกล้ๆ ตึกสีเปลือกไข่ เดินเข้าไปจะอยู่ฝั่งขวามือ...ถ้าไปไม่ถูกก็ให้นั่งวินหน้าปากซอยเข้าไป และบอกวินว่าไปอู่ช่างอิงค์”
หญิงสาวพึมพำทวนความจำที่อีกฝ่ายบอกไว้ ก่อนจะหันไปยิ้มแป้นแล้นตรงเข้าไปหาพี่วินมอเตอร์ไซค์ ที่นั่งเล่นหมากฮอตกันอยู่
“พี่คะ ไปอู่ช่างอิงค์คันหนึ่งค่ะ”
วินที่รอคิวอยู่ลุกขึ้นปุ๊บปั๊บ เดินไปสตาร์ทรถรอให้ผู้โดยสารสาวขึ้นนั่งจนเรียบร้อย จึงออกรถตรงไปยังอู่ช่างอิงค์ตามที่ลูกค้าสาวบอก
“นี่แหละครับอู่ช่างอิงค์”
กัญชรสหันเข้าไปมองภายในอู่นิดหนึ่ง ก่อนจะวาดขาลงจากรถ แล้วล้วงเหรียญจากกระเป๋ากางเกงยีนส์จ่ายเงินค่าโดยสาร จากนั้นเธอก็เดินตรงเข้าไปหาวินมอเตอร์ไซค์ท่าทางมีอายุคนหนึ่ง ที่นั่งอยู่ที่โต๊ะหินอ่อนหน้าร้าน
“โทษนะคะพี่ ที่นี้อู่ช่างอิงค์ไหมคะ”
หญิงสาวถามย้ำเพื่อความแน่ใจ ทั้งที่ก่อนหน้านั้นวินมอเตอร์ไซค์ที่มาส่งเธอเมื่อครู่ก็บอกไปแล้ว ด้านคนถูกถามก็ละจากหนังสือพิมพ์ที่กำลังเปิดอ่าน มาตอบกลับด้วยน้ำเสียงที่เป็นมิตรว่า
“ใช่ครับ”
“อ๋อค่ะ ขอบคุณนะคะ...ว่าแต่ไม่มีใครอยู่เลยเหรอคะ”
หญิงสาวถามพลางทรุดตัวลงนั่งที่เก้าอี้หินอ่อน ซึ่งอยู่คนฝั่งกับวินมอเตอร์ไซค์ท่าทางมีอายุที่นั่งอยู่ก่อนแล้ว
“อยู่สิ...นั่นไง”
วินมอเตอร์ไซค์พยักพเยิดไปที่ร่างสูงในชุดเสื้อสีเข้มคล้ายๆ เสื้อช๊อปของเด็กช่าง สวมกางเกงยีนส์เก่าๆ ที่กำลังกึ่งเดินกึ่งวิ่งลงจากบันไดที่เชื่อมต่อขึ้นชั้นบนของอู่ พร้อมตะโกนบอกเสียงดังอย่างคุ้นเคยว่า
“อิงค์สาวมาหา”
“สาวที่ไหนครับพี่”
อิงครัตถามเสียงกลั้วหัวเราะ พร้อมกับเดินยิ้มตรงไปหาสาวที่ว่าและวินมอเตอร์ไซค์ซึ่งเป็นลูกค้าขาประจำนั่งอยู่
และพอชายหนุ่มเดินเข้ามาใกล้ๆ เท่านั้น ดวงตากลมโตของกัญชรสถึงกับเบิกกว้าง หัวใจเต้นระรัวเผลอลุกขึ้นยืนอย่างไม่รู้ตัว โอ้แม่เจ้า! ถ้าตอนนี้เธอมีอะไรสักอย่างอยู่ในมือ เธอต้องทำมันร่วงหล่นกระจายแน่นอน เพราะผู้ชายที่เพิ่งเดินเข้ามาพร้อมรอยยิ้มหน้าตาโคตรหล่อกระชากใจสาวรุ่นอย่างเธอเสียเหลือเกิน
“คุณครับ...คุณครับ...คุณ!”
เสียงตะคอกเบาๆ ทำให้ร่างสมส่วนที่มัวแต่จับจ้องใบหน้าคมเข้มหล่อเหลาของเจ้าของอู่ถึงกับสะดุ้ง ก่อนเธอจะทำหน้าเลิ่กลั่ก ยกมือบางขึ้นลูบผมซอยสั้นๆ เกือบๆ จะเท่ากับคนหล่อตรงหน้าอย่างขวยเขิน พร้อมกับส่งยิ้มแหยๆ กลับไป
“คะ…”
“คุณหรือเปล่าครับที่ว่ามาหาผม”
“อ๋อ...ค่ะๆ อ้าว...แล้วพี่คนที่นั่งอยู่ตรงนี้ไปแล้วเหรอคะ”
หญิงสาวถามหาวินมอเตอร์ไซค์ที่ก่อนหน้านั้นนั่งอยู่ตรงข้ามกับเธอ แต่หายไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้แก้เก้อ
“พี่เขามาปะยางรถ ผมเอาเงินทอนให้เขา เขาก็ไปแล้วล่ะครับ ว่าแต่คุณ...”
“กัญชรสค่ะ กัญชรส โพธิกร มาตามที่คุณอิงครัตโทรนัดเมื่อวานค่ะ”
กัญชรสรีบสวนแนะนำตัวขึ้น ทำให้ชายหนุ่มที่อ้าปากค้างเหมือนจะพูดต่อพยักหน้า แล้วระบายยิ้มที่ทำเอาคนมองอย่างเธอใจแทบละลาย
“อ้าว คุณกัญชรสเองเหรอครับ...ผมรออยู่พอดีเลย งั้นเราจะไปคุยกันที่โต๊ะข้างในอู่หรือจะคุยตรงนี้ดีครับ”
ชายหนุ่มชี้ไปที่โต๊ะเพียงตัวเดียวภายในอู่ ที่ถูกล้อมรอบไปด้วยตู้และชั้นวางอะไหล่ นอกจากนี้ก็ยังมือเครื่องมือช่างต่างๆ เยอะแยะเต็มไปหมด ซึ่งก็เป็นธรรมดาของอู่ซ่อมรถทั่วไป ก่อนจะมาชี้ลงตรงโต๊ะหินอ่อนทรงกลมตรงหน้า
“ตรงนี้ก็ได้ค่ะ”
“’งั้นก็เชิญนั่งรอผมตรงนี้แป๊บหนึ่งนะครับ”
เขาเชื้อเชิญ ก่อนจะวิ่งหายขึ้นไปชั้นบน เพียงไม่นานชายหนุ่มก็ลงมาพร้อมเอกสารบางอย่างและขวดน้ำดื่ม
“น้ำครับ”
“ขอบคุณค่ะ คุณไม่เห็นต้องลำบากเดินขึ้นไปเอามาให้ฉันดื่มเลย มาแค่นี้เอง”
หญิงสาวบอกอย่างเกรงใจ ซึ่งอิงครัตก็ได้แต่ยิ้มน้อยๆ พร้อมกับวางเอกสารที่เขาถือติดมือมาพร้อมกับขวดน้ำลงตรงหน้ากัญชรส
“ไม่เป็นไรหรอกครับ คุณอุตส่าห์มาหาผมถึงที่ และก็นี่ครับเอกสารต่างๆ ทั้งเกี่ยวกับตัวผมและการโอนเงิน”
มือบางเปิดเอกสารเหล่านั้นดูคร่าวๆ แล้วเงยหน้าขึ้นมายิ้มให้กับเจ้าของเงินที่เธอยืมไปใช้โดยพลการ พลางผงกศีรษะอย่างเข้าใจ อิงครัตจึงพูดต่อไปว่า
“ครับ ก็อย่างที่รู้ๆ กันคือ ผมสะเพร่าโอนเงินเข้าผิดบัญชี แทนที่มันจะเข้าบัญชีแม่ผม แต่ผมกลับโอนไปเข้าบัญชีคุณซะงั้น ซึ่งผมก็คิดว่าอาจจะเป็นเพราะตอนที่ผมกำลังโอนเงินผมคุยโทรศัพท์กับเพื่อนไปด้วย เลยเผลอกดเลขท้ายของบัญชีสลับกัน จาก 32 เป็น 23 และมันก็เป็นเรื่องบังเอิญมากๆ ที่ชื่อคุณกับชื่อแม่ผมดันชื่อเดียวกัน”
“ค่ะ”
คิ้วเข้มเลิกสูงขึ้น พลางมองหญิงสาวรูปร่างหน้าตาลักษณะท่าทางคล้ายทอมบอยตรงหน้าเล็กน้อย ก่อนจะพูดต่อ
“คือก็พูดกันตามตรงนะครับว่า ผมอยากได้เงินจำนวนนั้นคืน”
“ค่ะ”
“ที่คุณว่าค่ะ นี่คือ...คุณจะคืนเงินจำนวนนี้ให้กับผมใช่ไหมครับ”
“ค่ะ”
การเจรจาที่ผ่านไปอย่างง่ายดายและจบลงแบบรวดเร็วภายในเวลาไม่กี่นาที ทำให้อิงครัตถึงกับยิ้มกว้าง ถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอก แต่ทว่า
“แต่คือ...ฉันมีเรื่องจะบอกคุณนะคะ ว่า…ว่า...คือ...ตอนนี้เงินในบัญชีมันเหลืออยู่แค่สองหมื่น”
ท้ายประโยคหญิงสาวพูดเสียงแผ่วเบามาก มากซะจนทำให้คนที่นั่งเงี่ยหูฟังอยู่อีกฟากหนึ่งของโต๊ะ ต้องถามย้ำขึ้นอีกครั้ง
“อะไรนะครับ ผมขอช้าๆ ชัดๆ อีกสักครั้งว่าตอนนี้เงินมัน...มันอะไรครับ”
กัญชรสกลืนน้ำลายเหนียวๆ ลงคอดังเอื๊อก สุดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ แล้วในที่สุดเธอก็ก้มหน้ากลั้นใจพูดประโยคนั้นอีกครั้ง อย่างช้าๆ ชัดๆ ตามที่เขาได้ขอร้องมา
“ฉันบอกว่า...ตอนนี้เงินในบัญชีฉัน มันเหลือแค่สองหมื่นเท่านั้นค่ะ”
ทันทีที่หญิงสาวเอ่ยจบ บรรยากาศของความเงียบและความตึงเครียดก็เข้ามาเยือน กัญชรสที่ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองสีหน้านิ่งขรึมของหนุ่มหล่ออย่างอิงครัต รีบยกมือไหว้พร้อมกับสารภาพเรื่องที่ตนเองได้กดเงินของเขามาใช้โดยพลการเสียงรัว
“ฉันขอโทษ ฉันจำเป็นต้องใช้เงินจริงๆ วันนี้ฉันจะโอนส่วนที่เหลือคืนให้คุณทันที แต่ส่วนที่ฉันนำไปใช้ฉันสัญญานะว่าจะคืนให้คุณจนครบ ไม่หนี ให้ดอกด้วยก็ได้ แต่อย่าแพงนะคะ”
สายตาคมเหลือบมองหน้าที่จ๋อยสนิทของหญิงสาวนิดหนึ่ง ก่อนจะโคลงศีรษะไปมาพลางพ่นลมออกจากปาก
“เรื่องนี้จะโทษคุณคนเดียวมันก็ไม่ถูก ต้นเหตุมันก็เกิดจากผม...ในเมื่อเงินที่คุณกดออกมาก็ถูกใช้ไปหมดแล้วใช่ไหม”
“ยังค่ะ เหลือเท่าไหร่ก็ไม่รู้ฉันขอนับดูก่อน”
กัญชรสทำท่าจะควักกระเป๋าสตางค์ออกมานับจริงๆ ทำให้อิงครัตรีบปราม
“ไม่ต้องหรอกคุณ คุณจำเป็นต้องใช้ไม่ใช่เหรอ...ตกลงก็เอาตามที่คุณเสนอมานั่นแหละ โอนเงินสองหมื่นที่เหลือกลับมาให้ผมวันนี้ ส่วนเงินสามหมื่นที่คุณกดไปใช้นั้นก็ ค่อยๆ ทยอยคืนตามกำลังของคุณก็แล้วกัน เดือนเท่าไหร่ก็ได้”
“ดอก”
เสียงใสเอ่ยถามสิ่งที่กังวล พร้อมทั้งทำหน้าตาบ้องแบ๊ว ซึ่งอิงครัตเห็นแล้วอดที่จะระบายยิ้มออกมาไม่ได้
“ผมไม่เอาหรอก”
“ขอบคุณค่ะ ขอบคุณมากๆ เลย...คุณนี่นอกจากหน้าตาดีแล้วยังใจดีด้วยนะคะ”
“เรื่องนั้นผมไม่เถียงคุณหรอก”
ชายหนุ่มตีขลุมยอมรับคำชมของอีกฝ่าย พลางหัวเราะน้อยๆ แต่ไม่นานมันก็สะดุดกึก
“แต่ว่า...ตอนนี้ฉันยังตกงานอยู่เลย เรื่องเงินสามหมื่นที่ว่าจะคืน...ฉันขอเวลาหน่อยได้ไหมคะ”
ชายหนุ่มเริ่มชักสีหน้า แววจะไม่ได้เงินส่วนนี้คืนเห็นอยู่รำไร จะยกให้เลยก็ใช่ที่ เพราะเขาก็ไม่ได้ร่ำรวยมากจากไหน เงินสามหมื่นกว่าจะได้มามันก็ไม่ใช่ง่ายๆ
“นานแค่ไหน”
“ก็จนกว่าฉันจะได้งานน่ะค่ะ”
และในชั่วขณะนั้นเอง หางตาของกัญชรสก็เหลือบไปเห็นป้ายประกาศรับสมัครงานติดอยู่ตรงหน้าอู่ ซึ่งมันก็ทำให้นัยน์ตาของหญิงสาวเป็นประกายขึ้นมาทันที
“หรือไม่อย่างนั้นคุณก็รับฉันเข้าทำงานที่นี้เลยสิคะ อู่ของคุณเปิดรับอยู่ไม่ใช่เหรอนั่นฉันเห็น”
ว่าแล้วนิ้วเรียวเล็กก็ชี้ไปที่กระดาษปิดประกาศ ที่เพิ่งจะถูกนำมาติดเมื่อเช้านี้ อิงครัตจึงรีบหันขวับไปมองตามแล้วก็ต้องร้องเสียงหลง
“เฮ๊ย! ไม่ได้ คุณเดินเข้าไปอ่านตำแหน่งที่ผมเปิดรับชัดๆ หรือยัง อู่ผมไม่ได้เปิดรับพนักงานบัญชี พนักงานทำเอกสาร หรือว่าแม่บ้านนะ”
“มันไม่ได้ไกลมาก ตัวหนังสือก็ใหญ่เบ้อเริ้มเทิ่มซะขนาดนั้น และที่สำคัญสายตาฉันดีพอ นั่งอยู่ตรงนี้ฉันก็อ่านออกว่าคุณรับสมัครผู้ช่วยช่าง”
“นั่นไง คุณเข้าใจแล้วใช่ไหมว่า คุณเป็นผู้หญิงสมัครไม่ได้หรอก คุณไปหางานอย่างอื่นทำดีกว่า เรื่องเงินผมรอได้”
อิงครัตแนะนำอย่างใจกว้าง ตอนนี้รู้สึกเห็นใจผู้หญิงตัวเล็กๆ ตรงหน้าไม่น้อย ที่คงจะอยากได้งานเพื่อเอาเงินมาคืนเขามาก จนต้องออกปากขอทำงานผู้ช่วยช่าง ที่เป็นงานของคนที่ต้องเรียนด้านนี้มาหรือไม่ก็ชื่นชอบอยากหาประสบการณ์ ซึ่งโดยมากคนจำพวกนี้ก็เป็นผู้ชาย ดังนั้นเพื่อลดความกดดัน เขาจึงไม่อยากเร่งรัดเรื่องเงินที่หญิงสาวเอาไปใช้
แต่ดูเหมือนความหวังดีของเขาจะถูกปฏิเสธ เมื่อได้ยินอีกฝ่ายตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงที่หนักแน่น อิงครัตแทบอยากจะเอาหัวโขกโต๊ะให้กับความดื้อดึงของหญิงสาวมาดทอมบอยคนนี้ ให้รู้แล้วรู้รอดไป
“ไม่ค่ะ! ฉันยังยืนยันที่จะสมัครเป็นผู้ช่วยช่างที่อู่ของคุณ”
*********************************************************************************
ขอบคุณค่า ^_^

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ส.ค. 2554, 22:52:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ส.ค. 2554, 22:52:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 2225
<< ตอนที่ 1 : ลาภก้อนโต |



ปูสีน้ำเงิน 18 ส.ค. 2554, 20:31:32 น.
นางเอกเราตื้อน่าดู
นางเอกเราตื้อน่าดู

ann 18 ส.ค. 2554, 21:15:23 น.
ท่าจะยุ่งน่าดู ผู้ช่วยเป็นหญิง 555
ท่าจะยุ่งน่าดู ผู้ช่วยเป็นหญิง 555

เกศมณี 18 ส.ค. 2554, 23:39:31 น.
@ คุณ anOO 555 อยากรู้ติดตามตอนต่อไปเลยค่า
@ คุณ Pat ก็เจ้าของอู่หล่อซะขนาดนั้นนี่ค่ะ
@ คุณปูสีน้ำเงิน ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ
@ คุณ ann อาจจะไม่ยุ่งอย่างที่คิดก็ได้นะคะ
ขอบคุณทุกเม้น ทุก like นะคะ
ขอบคุณจากใจ
อี๊ด (เกศมณี / ศรวรัญญา)
@ คุณ anOO 555 อยากรู้ติดตามตอนต่อไปเลยค่า
@ คุณ Pat ก็เจ้าของอู่หล่อซะขนาดนั้นนี่ค่ะ
@ คุณปูสีน้ำเงิน ตื้อเท่านั้นที่ครองโลกค่ะ
@ คุณ ann อาจจะไม่ยุ่งอย่างที่คิดก็ได้นะคะ
ขอบคุณทุกเม้น ทุก like นะคะ
ขอบคุณจากใจ
อี๊ด (เกศมณี / ศรวรัญญา)

onepat 25 มี.ค. 2555, 15:45:26 น.
นางเอก แมนมาก
นางเอก แมนมาก

onepat 25 มี.ค. 2555, 15:45:53 น.
มาอัพด่วนค่ะค้างแล้ว
มาอัพด่วนค่ะค้างแล้ว