หักเหลี่ยมร้ายซ่อนลายรัก (จีนโบราณ)
เขาคืออดีตขุนนางที่มีชาติกำเนิดสูงศักดิ์

ส่วนนางคือลูกสาวพ่อค้าที่ต้องจำใจเป็นชายด้วยภาระหน้าที่

เพียงแรกเจอเขาก็ล่วงรู้ความลับที่ทำให้ใจสั่น

ว่านางคือหญิงงามในร่างชายเข้าให้แล้ว...


หนึ่งบุรุษไร้รัก หนึ่งสตรีงามไร้ใจ

ใครจะเป็นผู้ชนะในเกมรักครั้งนี้



+++++++++++


ไม่ได้มาลงนานเลยค่ะ
มัวแต่เขียนจีนอยู่ >//<
ตอนนี้เขียนจบภาค 1 แล้ว ภาค 2 ก็ใกล้จะจบแล้ว
ขอฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ

https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTg3NjI2MCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijc2NjI4Ijt9

Tags: นิยายจีน จีนโบราณ นิยายรักจีนโบราณ ผจญภัย ดราม่า ปลอมตัว

ตอน: บทนำ


เจี้ยนหยวน ศกปีที่ 1 ในรัชกาลจักรพรรดิฮั่นอู่

ท่ามกลางรัตติกาลคืบคลานเข้าปกคลุม ร่างหนึ่งเงยหน้าโชกเลือดขึ้นจากพงหญ้าสูงท่วมศีรษะ สีหน้าบ่งบอกความรวดร้าวทรมานที่เกิดจากแผลขนาดใหญ่

เจ็บปวดเหมือนจะตายเสียให้ได้...

เพียงปลายนิ้วสั่นระริกแตะสัมผัสใบหน้าเหวอะหวะหยดน้ำตาก็พลันไหลริน ดวงตาพร่าเลือนไปด้วยเลือดจากศีรษะไหลรวมกับน้ำตาราวกับเป็นเนื้อเดียว นางมิอาจตายในตอนนี้ แม้สวรรค์ไม่ปราณี
แต่นางจำต้องอยู่...

ร่างอวบอัดในชุดแพรไหมสีกุหลาบเอนกายนอนแผ่ยาว ลมหายใจผ่อนหนักเบาตามจังหวะการเต้นของหัวใจ แพขนตาชุ่มไปด้วยน้ำตา นางตั้งสติได้เพียงครู่ก็เห็นภาพเบื้องหน้าปรากฏแก่สายตา

เขาหินสูงดำทะมึนล้อมรอบในเพลานี้มีเพียงจันทร์เต็มดวงส่องแสงสีนวลโดดเด่นมองเห็นท่ามกลางความมืดรอบกายเท่านั้น

เพียงแค่คิดน้ำตาก็ไหลริน เหตุใดสวรรค์จึงไร้เมตตาต่อนางถึงเพียงนี้ ความเจ็บร้าวทั่วสรรพางค์กายที่ได้รับทำให้นางชังนักกับการมีชีวิตอยู่

นางทำสิ่งใดผิดจึงถูกลงโทษโดยไร้ซึ่งความปราณี หรือเพียงเพราะรักคนที่มิอาจหักใจไม่ให้รัก...
เจ็บกายหรือจะเท่าเจ็บใจ เพราะมิได้รู้กลจึงเพลี่ยงพล้ำถูกทำปางตาย แต่นางมิอาจตายตราบที่ยังมีอีกชีวิตอยู่ในท้อง

“ยังอยู่ดีใช่หรือไม่... ลูกแม่...หากเจ้ายังอยู่ทำให้แม่รู้ แม่จะไม่มีวันยอมพ่ายแพ้ต่อโชคชะตา...”

นางเปรยเสียงแผ่วโหยหวังเพียงลูกน้อยในครรภ์จะได้ยิน ฝ่ามือสั่นระริกไร้แรงลูบแผ่วเบาบริเวณส่วนนูนกลางลำตัว รับรู้ได้ถึงชีวิตเล็ก ๆ ที่เคลื่อนไหวภายในร่างกายด้วยเลือดเนื้อของนางกำลังตอบรับสัมผัสที่มอบให้

“หากยังมีบุญเหลืออยู่บ้าง ขอให้เจ้าเกิดมาอย่างปลอดภัยด้วยเถอะเจ็บเพียงใดแม่ก็จะยอม ถึงต้องตายแม่ก็จะทนเพื่อเจ้า”

นางคร่ำครวญเพียงครู่จึงรวบรวมแรงกายลุกนั่ง พลันดวงหน้าเปื้อนเลือดกลับเหยเกปวดร้าว ก้มมองสภาพตัวเองเห็นกระโปรงสีสดเต็มไปด้วยโคลนดินผสมของเหลวจากในกายไหลหลั่งราวทำนบแตกก็ถึงกับกรีดร้องโหยหวน

“ช่วยด้วย! ช่วยข้าด้วย! ผู้ใดอยู่แถวนี้บ้างช่วยข้าด้วย!”

เสียงร้องของนางก้องป่าแต่กลับไร้เสียงตอบรับโดยสิ้นเชิง มีเพียงเแมลงกลางคืนเท่านั้นที่แข่งกันส่งเสียงร้องเซ็งแซ่ นางร้องเรียกจนอ่อนใจ แต่หามีผู้ใดล่วงรู้ เพียงแค่คิดว่าอาจตายในดงป่าก็ไร้ซึ่งพลังใจหยัดยืน

แต่ไม่นานร่างอวบอัดเปื้อนเลือดก็กระเถิบถอยหลบซุกร่างซ่อนหลังขอนไม้ใหญ่ ทั้งที่เจ็บเจียนตายแต่นางต้องกลั้นน้ำเสียงไว้ไม่ให้เล็ดรอดออกมาเมื่อเสียงฝีเท้าม้าดังใกล้เข้ามาและหยุดลงไม่ไกล

ร่างที่เห็นเพียงเงาตะคุ่มกระโดดลงจากหลังม้าด้วยความว่องไวก้าวเท้าสวบสาบแหวกพงหญ้าเข้ามา นางลอบมองผ่านความมืดพลันต้องตกใจแทบสิ้นสติเมื่อร่างนั้นเดินตรงมาและหยุดยืนตรงหน้า

“ออกมาเถิด”

เสียงเรียกเบาหวิวไร้อารมณ์ทำให้นางลังเลแทบลืมหายใจ อาการปวดท้องรุนแรงจนต้องล้วงม้วนผ้าในสาบเสื้อออกมากัดไม่ให้เสียงเล็ดรอด แต่บุรุษผู้นั้นกลับไม่ยอมไปไหนและทรุดลงนั่งชันเข่าอีกฝั่งหนึ่งของขอนไม้

“ข้ารู้ว่าเจ้าอยู่ตรงนั้น”

ร่างอวบอัดโชกเลือดค่อย ๆ คายม้วนผ้าเผยอริมฝีปากสั่นระริกพยายามเปล่งเสียงแต่เหมือนต้องรวบรวมแรงมหาศาล ค่อยๆ ขยับออกจากมุมมืดเอ่ยเสียงสั่นหวาดกลัว

“ผู้ใดส่งเจ้ามา”

“ผู้ใดไม่สำคัญ หากไร้เรี่ยวแรงข้าจะดึงเจ้าออกมา” ร่างตะคุ่มกล่าวพลางเอื้อมมือมาหมายจะดึงนางออกจากมุมมืดแต่อีกฝ่ายสะบัดมือหนี

“ขะ... ข้า... ข้ากลัวแล้ว ปล่อยข้าไปเถิด”

นางก้มศีรษะโขกพื้นดินก่อนจะเงยหน้าช้อนตามอง ภาพที่เห็นปรากฏร่างบุรุษนิรนามเป็นภาพซ้อนจนต้องขยี้ตาแต่อีกฝ่ายดึงมือนางออก

“เจ้ามองไม่เห็นข้าหรือ”

“ดวงตาข้าพร่าเลือนหนักแล้ว” นางเอ่ยเสียงเครืออีกครั้งก่อนน้ำตาจะไหลริน “เหตุใดท่านจึงมาพบข้ากลางหุบเหวเช่นนี้ได้”

อีกฝ่ายไม่ตอบแต่ล้วงหยิบขวดยาเล็ก ๆ ขึ้นมา นางเงยหน้าขึ้นมองเห็นแสงเรืองรองของตราสัญลักษณ์สีทองก็พอปะติดปะต่อเรื่องราวได้

“ดื่มเสียแล้วเจ้าจะไม่เจ็บปวดอีกตลอดชีวิต”

“มะ! ไม่!... ได้โปรดไว้ชีวิตข้าเถอะ”

“ข้าปล่อยเจ้าไปก็เป็นข้าที่ต้องรับอาญาแทน”

“ชะ... ช่วยข้า!”

ร่างตะคุ่มไม่ฟังคำร้องขอรุดลงคุกเข่าเปิดจุกขวดออก มืออีกข้างบีบสองแก้มนางจนริมฝีปากเผยออ้า กลิ่นภายในขวดฉุนจัดจนนางต้องเมินหน้าหนีเมื่ออีกฝ่ายพยายามกรอกสิ่งที่อยู่ในขวดใส่ปาก

“หากเจ้าไม่ยินยอมข้าคงต้องบังคับซึ่งข้ามิได้ต้องการให้เป็นเช่นนั้นเลย”

“ถ้าเช่นนั้นก็ช่วยข้า... ”

“นั่นยิ่งเป็นไปไม่ได้”

นางรับฟังสีหน้าเจ็บช้ำ แต่ใจหรือจะเท่ากายเมื่อความเจ็บปวดปะทุขึ้นถึงขีดสุดร่างนางเริ่มสั่นไหวควบคุมอาการไว้ไม่ได้

“อะ... โอย ช่วยด้วย! ช่วยลูกข้าด้วย! ข้าจะคลอดแล้ว”

“คลอด! คลอดหรือ! นี่เจ้า!”

นางพยักหน้าพลันรวบรวมแรงปัดขวดยากระเด็นก่อนล้มตัวลงนอนบิดตัวไปมา มือประคองท้องด้วยสีหน้าเจ็บปวด บุรุษนิรนามถึงกับตะลึงเมื่อเห็นลักษณะนูนป่องที่ท้องนางชัดเจน

“ไม่ไหวแล้ว!... ช่วยข้า อย่าให้ลูกข้าตาย เขาต้องรอด ต้องรอด!”

“เกือบไปแล้ว... ข้าเกือบไปแล้ว” เสียงที่เปล่งออกมาแหบแห้ง ดวงตากร้าวเมื่อครู่ฉายแววลังเล ฉับพลันลุกพรวดพราดเอ่ยเสียงเจ็บปวด “ถึงข้าจะมิใช่หมอที่ดีนัก แต่มิอาจทำให้หนึ่งชีวิตไม่หายใจได้ ข้าจะช่วยเจ้า”

มือหยาบกร้านโยนจุกขวดทิ้งแล้วล้วงในสาบเสื้อหยิบบางสิ่งออกมาแล้วบีบปากนางอีกครั้ง แต่ก่อนจะหยอดสิ่งนั้นลงไปกลับยั้งไว้เมื่อริมฝีปากสั่นระริกของนางยังคงเอ่ยเสียงสั่น

“ข้าไม่กิน! ได้โปรดช่วยลูกข้าให้เกิดมาด้วยเถิด” นางวิงวอนน้ำตาไหลพราก “ข้าเจ็บปวดเหลือเกิน ได้โปรดช่วยด้วย!”

“เช่นนั้นก็กลืนยานี่มันจะบรรเทาความเจ็บปวดของเจ้า”

ร่างเล็กผอมเกร็งรุดนั่งเคียงข้าง ช้อนตัวนางขึ้นนั่งพิงเข่าแล้วหยอดสิ่งนั้นลงไป นางหมดแรงขัดขืนจึงกลืนลงคอ ครู่ใหญ่สีหน้าเหยเกเจ็บปวดค่อยสงบลง อีกฝ่ายจึงก้มลงแนบหูฟังกับท้องนูน

“ใกล้แล้ว ๆ ”

น้ำเสียงยินดีแต่สีหน้าเครียดลงหลายส่วน เหงื่อเม็ดโตผุดเต็มหน้าจนต้องปาดทิ้ง ฝ่ามือกร้านขยับนวดผ่อนคลายรอบบริเวณท้องนูนของนาง

“ทำใจดี ๆ หายใจเข้าลึก ๆ เแล้วค่อย ๆ ผ่อนลมหายใจออกจากนั้นออกแรงเบ่งเต็มที่ ข้าจะดึงลูกเจ้าออกมา”

“ข้าทำมิได้!”

“ต้องทำ! มิเช่นนั้นลูกเจ้าอาจไม่รอด”

นางชะงักได้คิด ครู่หนึ่งจึงกลั้นใจทำตาม นาทีนั้นความอายไร้ค่าเมื่ออีกฝ่ายจับขานางสองข้างชันเข่าเปิดกระโปรงเปื้อนเลือดแล้วก้มมอง

“ออกแรงเบ่ง!”

นางหลับตากลั้นใจเบ่งสุดชีวิต เจ็บปวดเกินจะอับอาย นางต้องอดทนตราบเท่าที่ต้องรักษาอีกหนึ่งชีวิตที่แม้นมีวาสนาคงได้ลืมตาในชาตินี้ เขาต้องลืมตาอีกนิดเดียว...

แรงเฮือกสุดท้ายถูกขับออกมาด้วยกำลังทั้งหมดที่มี ในที่สุดเสียงแหลมเล็กก็แผดก้องก็ดังลั่นป่า เหล่าสกุณาล้วนโบยบินทั่วนภา จันทร์เต็มดวงเปล่งรัศมีเรืองรองออกจากแนวเมฆปกคลุมสว่างกว่าคราใด

บุรุษนิรนามอุ้มร่างเล็กแดง ๆ เต็มไปด้วยเลือดและน้ำคร่ำจากครรภ์มารดาออกมาใช้ผ้าเช็ดทำความสะอาดเสร็จแล้วห่อด้วยผ้าผืนเดิมที่นางกัดแต่บัดนี้คลี่ออกมาคลุมร่างเล็กเอาไว้ในอ้อมกอด สีหน้าแช่มชื่นมองทารกน้อยด้วยความเอ็นดูก่อนจะเอ่ยน้ำเสียงยินดี

“เจ้าให้กำเนิดบุตรชาย...”



++++++++++++

ไม่ได้ลงนาน
ขอฝากนิยายด้วยค่ะ
ขอบคุณมากๆ ค่า







lovereason2
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ค. 2561, 18:53:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ค. 2561, 18:53:39 น.

จำนวนการเข้าชม : 3092





   บทที่ 1 / แปดด้านหาเก้าด้าน 1 >>
ปริยาธร 29 ก.ค. 2561, 19:06:13 น.
น่าติดตามมากค่า รอตอนต่อไปนะจ๊ะ


lovereason2 30 ก.ค. 2561, 14:00:26 น.
พี่นุ้ย ปริยาธร - เย้ๆ ขอบคุณมากๆ ค่า


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account