ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 13 -60%
“เป็นยังไงบ้างคะคุณเพชร มันทำอะไรคุณเพชรบ้างหรือเปล่า” ออยสำรวจเนื้อตัวเจ้านายสาวด้วยหัวใจแทบแหลกสลาย ด้วยทำงานรับใช้มาตั้งแต่ครั้งอนุชายังมีชีวิตอยู่
“เพชรไม่ทราบค่ะ รู้สึกตัวก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว”
เพชรไพลินร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ ก่อนจะสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชีคมุซตาฮ์ซาน เธอจะมีหน้ารับโทรศัพท์จากชายคนรักได้อย่างไร ในเมื่อเนื้อตัวของเธอมีมลทินเสียแล้ว
“ใจเย็นๆ ตั้งสตินะคะคุณเพชร” ออยซึ่งมีอายุมากกว่าร่วมสิบปีจับที่ไหล่บางทั้งสองข้างแล้วบีบแน่นเพื่อให้เจ้านายสาวตั้งสติ ค่อยๆ ย้ำช้าๆ ทีละคำเพื่อให้เพชรไพลินเข้าใจ
“ของแบบนี้มันพิสูจน์ได้ค่ะ ไม่ยากหรอก”
“แต่สภาพของเพชรในตอนนี้...” เพชรไพลินพยายามกลั้นสะอื้น ทว่าความเสียใจกลับยิ่งเอ่อล้นออกมาบริเวณหน่วยตาแล้วหยาดหยดลงบนแก้มอิ่มหยดแล้วหยดเล่าราวกับมิสามารถหยุดมันได้
“คุณเพชรยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ถ้าโดนย่ำยีจากไอ้คนโฉดเมื่อกี้จะต้องมีรอยเลือดค่ะ แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บ” ออยบอกให้หญิงสาวใจชื้นขึ้น เมื่อมองสำรวจไปยังผ้าปูเตียงที่ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลย จากนั้นจึงเข้าไปพยุงนายสาวไปที่ห้องน้ำ
“คุณเพชรลองไปเข้าห้องน้ำ แล้วสำรวจดูนะคะว่ามีร่องรอยผิดปกติหรือเปล่า ของแบบนี้มันรู้ได้ค่ะ ใช่ว่าใครจะมาลักลอบย่ำยีกันโดยที่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้เลย”
“เพชรหวังว่าทุกอย่างจะเป็นปกติค่ะพี่ออย” เธอบอกกับสาวใช้ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ
ครู่ใหญ่เธอก็เดินกลับออกมาด้วยใบหน้าโล่งอก แล้วส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับออยที่ยืนลุ้นอยู่หน้าห้องน้ำจนแทบนั่งไม่ติด
“ไม่มีคราบเลือดหรือคราบอะไรเลยค่ะ เพชรไม่รู้สึกเจ็บ ทุกอย่างเป็นปกติดีค่ะ”
“ดีแล้วค่ะคุณเพชร ถ้ายังไม่วางใจจะไปให้คุณหมอตรวจอีกทีก็ได้นะคะ” ออยดึงร่างเจ้านายสาวเข้ามากอดเอาไว้ รู้สึกโล่งใจอยากบอกไม่ถูก
“แต่เพชรสงสัยค่ะ คุณธัญธรณ์รู้จักบ้านเพชรได้ยังไง แถมยังเข้ามาถึงห้องนอนเพชรอีกด้วย”
“เรื่องนี้พี่ออยก็ไม่ทราบเหมือนกัน เอาไว้คุณเพชรลองปรึกษาคุณรุจิดูดีไหมคะ แต่วันนี้สงสัยว่าจะไม่อยู่อีกตามเคย” ออยไม่อยากพูดในสิ่งที่รู้เห็น เพราะจะกลายเป็นว่าตนเป็นคนยุแยงให้ลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยงทะเลาะกัน เพราะตนเป็นคนนอก หากทั้งสองปรับความเข้าใจกัน เธอนั่นล่ะจะซวยที่เสนอหน้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ จะแจ้งความหรือไม่ยังไง เพชรต้องปรึกษาคุณแม่อีกที”
ออยเหลือบมองนาฬิกา เข็มนาฬิกาเคลื่อนบอกเวลาวันใหม่แล้วจึงหันมายิ้มให้เพชรไพลิน
“สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณเพชร ปีนี้พี่ออยได้มีโอกาสอวยพรคุณเพชรเป็นคนแรกเลย พี่ออยขอให้ปีนี้คุณเพชรมีแต่ความสุขนะคะ ใครที่คิดร้ายกับคุณเพชรขอให้แพ้ภัยตนเองให้หมด”
“ขอบคุณค่ะพี่ออย” เพชรไพลินพนมมือไหว้ขอบคุณสาวใช้ด้วยความซาบซึ้งใจ “เพชรต้องขอบคุณพี่ออยอีกครั้งนะคะ เพราะถ้าพี่ออยไม่เข้ามาช่วยไว้ ก็ไม่รู้ว่าเพชรจะเป็นอย่างไรบ้าง อาจโดนฆ่าข่มขืนไปแล้วก็ได้” เพชรไพลินยิ้มเศร้า ได้แต่หวังว่าเรื่องเลวร้ายจะจบสิ้นไปเสียที
โดยที่มิได้รับรู้เลยว่ามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“เดี๋ยวพี่ออยไปเดินตรวจตรารอบบ้านก่อนนะคะ จะได้ล็อกให้แน่นหนาด้วย คุณเพชรก็เหมือนกันตรวจสอบกลอนประตูให้ดี อย่าไว้ใจใครเด็ดขาดรู้ไหมคะ”
“ค่ะพี่ออย”
เมื่อออยออกไปแล้วเพชรไพลินก็ทำการล็อกประตูห้องและตรวจกลอนที่หน้าต่างจนมั่นใจแล้วจึงนั่งลงที่หน้าโต๊ะกระจก รอยริ้วสีแดงทำให้หญิงสาวรังเกียจจนแทบอาเจียน เมื่อคิดว่าชายโฉดได้ทิ้งมันเอาไว้ราวกับต้องการเย้ยหยันเธอ
“นายธัญธรณ์ แกเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” หญิงสาวพยายามครุ่นคิด แต่ไม่ว่าจะคิดหาคำตอบสักเท่าไหร่ ก็พบเพียงความว่างเปล่า จึงยังคงเป็นเรื่องที่ค้างคาใจหญิงสาวเหลือเกิน
“ป่านนี้ท่านชีคจะนอนหรือยังนะ”
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทร.ไปหาชายคนรัก เสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นเพียงครู่เดียวเธอก็ทำท่าจะกดวางด้วยเกรงว่าเขาหลับไปแล้ว กลัวว่าเขาจะต้องตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ของเธอ ทว่าเสียงทุ้มที่ดังมาตามสายก็ถึงกับทำให้หญิงสาวยิ้มออก
“เพชรเธอเป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ฉันเป็นห่วงเธอมากรู้ไหม” คนร้อนอกร้อนใจรัวคำถามไม่หยุดจนทำให้เพชรไพลินถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ หากว่าเธอตกเป็นของธัญธรณ์ เธอคงไม่มีหน้าจะคุยกับชีคมุซตาฮ์ซานอีก
“เพชรเผลอหลับไปค่ะ” หญิงสาวพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น แล้วโกหกคำโตออกไปด้วยไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ “พอดีเพชรรู้สึกเพลียน่ะค่ะเลยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้”
“เด็กน้อยคงจะเหนื่อยละสิ ฮึ”
ชีคมุซตาฮ์ซานหัวเราะด้วยความเอ็นดู พลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะกลัวว่าอาการไข้ของหญิงสาวจะยังไม่หายดี
“คิดถึงท่านชีคจังค่ะ” เพชรไพลินใช้หลังมือปาดน้ำตา แล้วยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นสะอื้นเอาไว้ เมื่ออยู่คนเดียวความกลัวจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทำให้คนตัวเล็กยังคงเสียขวัญ อยากให้คนปลายสายอยู่ข้างๆ เพื่ออิงซบความอบอุ่นจากอกกว้างให้คลายจากความหวาดกลัวที่ยังไม่จางไปจากหัวใจ
“ฉันก็คิดถึงเธอเพชรไพลิน สุขสันต์วันเกิดคนดีของฉัน”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มออกเมื่อได้ยินคำอวยพรจากคนรัก
“พรุ่งนี้เราไปดินเนอร์ที่ไหนกันดี ว่ายังไง อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” เซอร์ไพรส์ที่ล้มเลิกไปแล้วถูกเรียกกลับคืนอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความแปลกใจขององครักษ์ดาอี ทว่าดูเหมือนดาอีจะรู้ใจเขาไปเสียทุกเรื่อง เพราะนอกจากจะไม่ซักถามให้รำคาญใจแล้ว ยังจัดการให้เรียบร้อยอย่างที่เขาต้องการ
“เพชรไม่ต้องการอะไรเลยค่ะ ขอแค่ท่านชีครักเพชร แค่นี้เพชรก็พอใจแล้ว” เสียงเครือใสกังวานอย่างมีความสุข คิดวางแผนเอาไว้ในใจว่าพรุ่งนี้เธอจะตื่นขึ้นมาทำบุญแต่เช้า ทำบุญให้กับบิดามารดาผู้มีพระคุณที่ให้กำเนิดทั้งยังฟูมฟักเธอจนเติบใหญ่ แม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว แต่เธอก็อยากให้ท่านมีความสุขเมื่อเห็นว่าลูกสาวของท่านกำลังมีความสุขเช่นนี้
“พรุ่งนี้มาหาฉันที่บริษัทนะ แล้วเราค่อยไปหาอะไรทานกัน”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ นึกเสียดายหากไม่มีกรณีสิบล้านนั่น วันพรุ่งนี้คงเป็นวันที่เธอพาชีคมุซตาฮ์ซานมาแนะนำให้มารดาเลี้ยงรู้จักอย่างเป็นทางการ
“ดึกแล้วเธอควรที่จะเข้านอนเสียที นอนดึกไปมากกว่านี้จะไม่สวยรู้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยสัพยอก ราวกับกำลังหยอกล้อเด็ก หากจะนับความห่างของอายุ เพชรไพลินก็นับว่าเด็กกว่าเค้ามาก เพราะอายุห่างกันร่วมสิบสองปี อันที่จริงเธอมีอายุน้อยกว่าน้องสาวของเขาเสียอีก เห็นทีหากพากลับที่รามานคงต้องโดนฟาติมาล้อเลียนเป็นแน่
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
“เพชรไม่ทราบค่ะ รู้สึกตัวก็อยู่ในสภาพนี้แล้ว”
เพชรไพลินร้องไห้ปริ่มว่าจะขาดใจ ก่อนจะสะดุ้งจนสุดตัวเมื่อโทรศัพท์ดังขึ้นอีกครั้ง จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากชีคมุซตาฮ์ซาน เธอจะมีหน้ารับโทรศัพท์จากชายคนรักได้อย่างไร ในเมื่อเนื้อตัวของเธอมีมลทินเสียแล้ว
“ใจเย็นๆ ตั้งสตินะคะคุณเพชร” ออยซึ่งมีอายุมากกว่าร่วมสิบปีจับที่ไหล่บางทั้งสองข้างแล้วบีบแน่นเพื่อให้เจ้านายสาวตั้งสติ ค่อยๆ ย้ำช้าๆ ทีละคำเพื่อให้เพชรไพลินเข้าใจ
“ของแบบนี้มันพิสูจน์ได้ค่ะ ไม่ยากหรอก”
“แต่สภาพของเพชรในตอนนี้...” เพชรไพลินพยายามกลั้นสะอื้น ทว่าความเสียใจกลับยิ่งเอ่อล้นออกมาบริเวณหน่วยตาแล้วหยาดหยดลงบนแก้มอิ่มหยดแล้วหยดเล่าราวกับมิสามารถหยุดมันได้
“คุณเพชรยังเป็นสาวบริสุทธิ์ ถ้าโดนย่ำยีจากไอ้คนโฉดเมื่อกี้จะต้องมีรอยเลือดค่ะ แล้วก็ต้องรู้สึกเจ็บ” ออยบอกให้หญิงสาวใจชื้นขึ้น เมื่อมองสำรวจไปยังผ้าปูเตียงที่ไม่มีสิ่งใดผิดปกติเลย จากนั้นจึงเข้าไปพยุงนายสาวไปที่ห้องน้ำ
“คุณเพชรลองไปเข้าห้องน้ำ แล้วสำรวจดูนะคะว่ามีร่องรอยผิดปกติหรือเปล่า ของแบบนี้มันรู้ได้ค่ะ ใช่ว่าใครจะมาลักลอบย่ำยีกันโดยที่เราไม่สามารถพิสูจน์ได้เลย”
“เพชรหวังว่าทุกอย่างจะเป็นปกติค่ะพี่ออย” เธอบอกกับสาวใช้ก่อนจะหายเข้าไปในห้องน้ำ
ครู่ใหญ่เธอก็เดินกลับออกมาด้วยใบหน้าโล่งอก แล้วส่ายหน้าน้อยๆ ให้กับออยที่ยืนลุ้นอยู่หน้าห้องน้ำจนแทบนั่งไม่ติด
“ไม่มีคราบเลือดหรือคราบอะไรเลยค่ะ เพชรไม่รู้สึกเจ็บ ทุกอย่างเป็นปกติดีค่ะ”
“ดีแล้วค่ะคุณเพชร ถ้ายังไม่วางใจจะไปให้คุณหมอตรวจอีกทีก็ได้นะคะ” ออยดึงร่างเจ้านายสาวเข้ามากอดเอาไว้ รู้สึกโล่งใจอยากบอกไม่ถูก
“แต่เพชรสงสัยค่ะ คุณธัญธรณ์รู้จักบ้านเพชรได้ยังไง แถมยังเข้ามาถึงห้องนอนเพชรอีกด้วย”
“เรื่องนี้พี่ออยก็ไม่ทราบเหมือนกัน เอาไว้คุณเพชรลองปรึกษาคุณรุจิดูดีไหมคะ แต่วันนี้สงสัยว่าจะไม่อยู่อีกตามเคย” ออยไม่อยากพูดในสิ่งที่รู้เห็น เพราะจะกลายเป็นว่าตนเป็นคนยุแยงให้ลูกเลี้ยงกับแม่เลี้ยงทะเลาะกัน เพราะตนเป็นคนนอก หากทั้งสองปรับความเข้าใจกัน เธอนั่นล่ะจะซวยที่เสนอหน้าไปยุ่งเรื่องของคนอื่น
“ก็ดีเหมือนกันค่ะ จะแจ้งความหรือไม่ยังไง เพชรต้องปรึกษาคุณแม่อีกที”
ออยเหลือบมองนาฬิกา เข็มนาฬิกาเคลื่อนบอกเวลาวันใหม่แล้วจึงหันมายิ้มให้เพชรไพลิน
“สุขสันต์วันเกิดนะคะคุณเพชร ปีนี้พี่ออยได้มีโอกาสอวยพรคุณเพชรเป็นคนแรกเลย พี่ออยขอให้ปีนี้คุณเพชรมีแต่ความสุขนะคะ ใครที่คิดร้ายกับคุณเพชรขอให้แพ้ภัยตนเองให้หมด”
“ขอบคุณค่ะพี่ออย” เพชรไพลินพนมมือไหว้ขอบคุณสาวใช้ด้วยความซาบซึ้งใจ “เพชรต้องขอบคุณพี่ออยอีกครั้งนะคะ เพราะถ้าพี่ออยไม่เข้ามาช่วยไว้ ก็ไม่รู้ว่าเพชรจะเป็นอย่างไรบ้าง อาจโดนฆ่าข่มขืนไปแล้วก็ได้” เพชรไพลินยิ้มเศร้า ได้แต่หวังว่าเรื่องเลวร้ายจะจบสิ้นไปเสียที
โดยที่มิได้รับรู้เลยว่ามันเป็นแค่จุดเริ่มต้นเท่านั้น
“เดี๋ยวพี่ออยไปเดินตรวจตรารอบบ้านก่อนนะคะ จะได้ล็อกให้แน่นหนาด้วย คุณเพชรก็เหมือนกันตรวจสอบกลอนประตูให้ดี อย่าไว้ใจใครเด็ดขาดรู้ไหมคะ”
“ค่ะพี่ออย”
เมื่อออยออกไปแล้วเพชรไพลินก็ทำการล็อกประตูห้องและตรวจกลอนที่หน้าต่างจนมั่นใจแล้วจึงนั่งลงที่หน้าโต๊ะกระจก รอยริ้วสีแดงทำให้หญิงสาวรังเกียจจนแทบอาเจียน เมื่อคิดว่าชายโฉดได้ทิ้งมันเอาไว้ราวกับต้องการเย้ยหยันเธอ
“นายธัญธรณ์ แกเข้ามาในห้องฉันได้ยังไง” หญิงสาวพยายามครุ่นคิด แต่ไม่ว่าจะคิดหาคำตอบสักเท่าไหร่ ก็พบเพียงความว่างเปล่า จึงยังคงเป็นเรื่องที่ค้างคาใจหญิงสาวเหลือเกิน
“ป่านนี้ท่านชีคจะนอนหรือยังนะ”
เธอหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาแล้วกดโทร.ไปหาชายคนรัก เสียงสัญญาณรอสายดังขึ้นเพียงครู่เดียวเธอก็ทำท่าจะกดวางด้วยเกรงว่าเขาหลับไปแล้ว กลัวว่าเขาจะต้องตื่นเพราะเสียงโทรศัพท์ของเธอ ทว่าเสียงทุ้มที่ดังมาตามสายก็ถึงกับทำให้หญิงสาวยิ้มออก
“เพชรเธอเป็นยังไงบ้าง ทำไมถึงไม่ยอมรับโทรศัพท์ เกิดอะไรขึ้นหรือเปล่า ฉันเป็นห่วงเธอมากรู้ไหม” คนร้อนอกร้อนใจรัวคำถามไม่หยุดจนทำให้เพชรไพลินถึงกับน้ำตาซึมด้วยความดีใจ หากว่าเธอตกเป็นของธัญธรณ์ เธอคงไม่มีหน้าจะคุยกับชีคมุซตาฮ์ซานอีก
“เพชรเผลอหลับไปค่ะ” หญิงสาวพยายามบังคับเสียงไม่ให้สั่น แล้วโกหกคำโตออกไปด้วยไม่ต้องการให้อีกฝ่ายรู้ว่าเธอกำลังร้องไห้ “พอดีเพชรรู้สึกเพลียน่ะค่ะเลยหลับไปตอนไหนก็ไม่รู้”
“เด็กน้อยคงจะเหนื่อยละสิ ฮึ”
ชีคมุซตาฮ์ซานหัวเราะด้วยความเอ็นดู พลางถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะกลัวว่าอาการไข้ของหญิงสาวจะยังไม่หายดี
“คิดถึงท่านชีคจังค่ะ” เพชรไพลินใช้หลังมือปาดน้ำตา แล้วยกมือขึ้นปิดปากเพื่อกลั้นสะอื้นเอาไว้ เมื่ออยู่คนเดียวความกลัวจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่ถึงครึ่งชั่วโมงทำให้คนตัวเล็กยังคงเสียขวัญ อยากให้คนปลายสายอยู่ข้างๆ เพื่ออิงซบความอบอุ่นจากอกกว้างให้คลายจากความหวาดกลัวที่ยังไม่จางไปจากหัวใจ
“ฉันก็คิดถึงเธอเพชรไพลิน สุขสันต์วันเกิดคนดีของฉัน”
“ขอบคุณค่ะ” หญิงสาวยิ้มออกเมื่อได้ยินคำอวยพรจากคนรัก
“พรุ่งนี้เราไปดินเนอร์ที่ไหนกันดี ว่ายังไง อยากทานอะไรเป็นพิเศษหรือเปล่า” เซอร์ไพรส์ที่ล้มเลิกไปแล้วถูกเรียกกลับคืนอย่างรวดเร็ว ท่ามกลางความแปลกใจขององครักษ์ดาอี ทว่าดูเหมือนดาอีจะรู้ใจเขาไปเสียทุกเรื่อง เพราะนอกจากจะไม่ซักถามให้รำคาญใจแล้ว ยังจัดการให้เรียบร้อยอย่างที่เขาต้องการ
“เพชรไม่ต้องการอะไรเลยค่ะ ขอแค่ท่านชีครักเพชร แค่นี้เพชรก็พอใจแล้ว” เสียงเครือใสกังวานอย่างมีความสุข คิดวางแผนเอาไว้ในใจว่าพรุ่งนี้เธอจะตื่นขึ้นมาทำบุญแต่เช้า ทำบุญให้กับบิดามารดาผู้มีพระคุณที่ให้กำเนิดทั้งยังฟูมฟักเธอจนเติบใหญ่ แม้ท่านจะล่วงลับไปแล้ว แต่เธอก็อยากให้ท่านมีความสุขเมื่อเห็นว่าลูกสาวของท่านกำลังมีความสุขเช่นนี้
“พรุ่งนี้มาหาฉันที่บริษัทนะ แล้วเราค่อยไปหาอะไรทานกัน”
“ค่ะ” หญิงสาวรับคำ นึกเสียดายหากไม่มีกรณีสิบล้านนั่น วันพรุ่งนี้คงเป็นวันที่เธอพาชีคมุซตาฮ์ซานมาแนะนำให้มารดาเลี้ยงรู้จักอย่างเป็นทางการ
“ดึกแล้วเธอควรที่จะเข้านอนเสียที นอนดึกไปมากกว่านี้จะไม่สวยรู้ไหม” ชายหนุ่มเอ่ยสัพยอก ราวกับกำลังหยอกล้อเด็ก หากจะนับความห่างของอายุ เพชรไพลินก็นับว่าเด็กกว่าเค้ามาก เพราะอายุห่างกันร่วมสิบสองปี อันที่จริงเธอมีอายุน้อยกว่าน้องสาวของเขาเสียอีก เห็นทีหากพากลับที่รามานคงต้องโดนฟาติมาล้อเลียนเป็นแน่
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 3 ส.ค. 2561, 15:04:39 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 3 ส.ค. 2561, 15:04:39 น.
จำนวนการเข้าชม : 603
<< บทที่ 13 -30% | บทที่ 13 -100% >> |