ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 16 -60%
“จะมีค่าอะไรล่ะคะ หากความรักไม่ได้มาพร้อมกับความไว้เนื้อเชื่อใจ”
เพชรไพลินเห็นสีหน้าแปลกใจของเขาก็ถึงกับสนเท่ห์ เพราะเธอคิดว่าองครักษ์คนสนิทคงรู้ทุกอย่างหมดแล้ว
“ดาอีไม่รู้อะไรเลยหรือคะ”
คำตอบที่ได้มาคือการพยักหน้าน้อยๆ เพชรไพลินถอนหายใจ หากต้องการขอความช่วยเหลือจากเขา เธอก็คงต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียด
“เพชรไม่ขอให้ดาอีเชื่อหรอกนะคะ คุณมีสิทธิ์เชื่อเหมือนที่เจ้านายของคุณเชื่อ เพราะเพชรเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเรื่องราวพวกนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” หญิงสาวเริ่มต้นเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้องครักษ์หนุ่มฟังอย่างละเอียด
“น่าจะรวมถึงเหตุการณ์ที่คุณเพชรโดนรถชนด้วยสินะครับ” ดาอีสันนิษฐานจากสิ่งที่หญิงสาวเล่าให้ฟัง ทั้งเรื่องที่เพชรไพลินถูกรถชน หรือแม้แต่เรื่องที่ธัญธรณ์บุกเข้ามาถึงในห้องนอนของเธอ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรเขาเองก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่เขาคาดเดาได้และคิดว่าไม่น่าพลาดเสียด้วยก็คือ ต้องเป็นฝีมือของคนใกล้ตัวเพชรไพลินอย่างแน่นอน
“เรื่องนั้นเพชรคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุ เพราะเพชรไม่มีศัตรูที่ไหนมาก่อน”
“คุณเพชรไพลินแน่ใจได้ยังไงครับ”
เมื่อถูกย้อนถามกลับมาเช่นนี้ หญิงสาวก็เงียบไปหลายอึดใจ สมองนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีกครั้ง พอย้อนคิดดูดีๆ ก็น่าแปลกใจที่รถเก๋งคันนั้นพุ่งปีนขอบทางขึ้นมา...เหมือนจงใจจะคร่าชีวิตเธอ
“นั่นสิคะ เพชรแน่ใจได้อย่างไร ถ้าหากว่าเพชรหลบไม่ทันป่านนี้เพชรคงตายไปแล้ว”
เธอกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น เมื่อคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากไม่ใช่อุบัติเหตุแต่มีคนจงใจจะฆ่าเธอ ใครกันที่กล้าทำถึงขนาดนี้!
“ผมคิดว่าคุณเพชรควรเล่าเรื่องจริงให้ท่านชีคทราบ ผมเชื่อว่าท่านชีคต้องยอมรับฟังแน่ๆ”
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพชรพยายามแล้ว ท่านชีคมีทิฐิมาก ท่านเชื่อในสิ่งที่ท่านได้รับรู้มา แล้วอีกอย่างเพชรก็ไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยัน เพชรไม่รู้อะไรเลยสักอย่างเดียว”
เธอยกมือปิดหน้าปล่อยให้หยาดน้ำตารินไหลอย่างไม่อาย
ดาอีนั่งไม่ติดไม่รู้จะปลอบเช่นไรจึงส่งผ้าเช็ดหน้าให้หญิงสาว สิ่งเดียวที่พอทำได้ก็คือการปลอบใจหญิงสาวให้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งเขาไม่แน่ใจนักว่ามันจะได้ผลหรือไม่อย่างไร
“ใจเย็นๆ เถอะครับ อย่างน้อยท่านชีคก็ยังพาคุณมาที่นี่ หากเกลียดคุณจริงๆ คงไม่พามาไว้ที่คฤหาสน์เช่นนี้หรอกครับ”
“เขาพาเพชรมาก็เพื่อทรมานเพชรให้ตายทั้งเป็นต่างหากค่ะ ท่านชีคพาเพชรมาที่นี่เพื่อให้เพชรมาทำงานเป็นสาวใช้ชดใช้หนี้สิบล้านที่คุณแม่เอาไป”
เสียงสะอื้นจนตัวโยนยิ่งทำให้ดาอีทำอะไรไม่ถูก ให้ตายเถอะ! เขาไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้เลย
“แต่ผมไม่คิดแบบนั้น” องครักษ์ดาอีรู้จักนิสัยเจ้านายดี หากลองได้เกลียดไม่มีทางเสียล่ะที่จะให้อยู่ร่วมชายคา แต่เพราะยังรักต่างหากถึงอยากให้อยู่ใกล้ๆ แม้จะเจ็บปวดและเข้าใจไปว่าตนโดนหักหลังก็ตาม อีกอย่างเพชรไพลินอยู่ที่นี่เห็นจะเป็นการปลอดภัยที่สุด เพราะตราบใดที่ยังหาตัวคนร้ายไม่พบ เมืองไทยก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเพชรไพลินอีกต่อไป
“ดาอีช่วยเพชรนะคะ พาเพชรหนีไปที คิดเสียว่าสงสารลูกนก ลูกกาเถอะค่ะ เพชรไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว”
หญิงสาวพยายามขยับเข้าหาเขาเพื่อขอร้องทว่าขาที่เจ็บทำให้ไม่สามารถขยับได้อย่างใจคิด
“ผมยอมรับว่าคุณเพชรไพลินเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมยอมรับ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะหักหลังท่านชีคเพื่อคุณ มันเป็นการขอที่มากเกินไป ผมทำไม่ได้หรอกครับ” ดาอียืนขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ ส่วนสูงกว่าร้อยแปดสิบทำให้เขาดูตัวใหญ่น่าเกรงขาม แต่เวลานี้เพชรไพลินไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“ขอร้องเถอะค่ะดาอี มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยเพชรได้” เธอลุกขึ้นยืนโดยใช้ไม้ค้ำแล้วเดินเข้าหาดาอี
“ผมสัญญาว่าจะไม่บอกท่านชีคเรื่องที่คุณเพชรไพลินคิดหนี แต่ผมขอให้คุณล้มเลิกความคิดเสียเถอะครับ พยายามปรับความเข้าใจกับท่านชีคเสียใหม่ ผมเชื่อว่าคุณทำได้”
“ไม่นะดาอี เพชรอยากออกไปจากที่นี่ต่างหากล่ะ เพชรเหนื่อยและเสียใจมามากพอแล้ว เจ็บอย่างที่ไม่คิดว่าจะเจ็บได้มากขนาดนี้ ถ้าเพชรยังอยู่ที่นี่ต่อไป หัวใจของเพชรคงแหลกสลายเข้าสักวัน” เธอส่ายหน้า หยาดน้ำตาพรั่งพรูอาบสองแก้มอิ่ม
ดาอีถอนหายใจแล้วเบือนหน้าหนี “ได้โปรดอย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับคุณเพชรไพลิน”
“ขอโทษค่ะ เพชรรู้ว่ามันเป็นการขอที่มากเกินไป ขอบคุณนะคะที่อุตสาห์รับฟังเรื่องราวของเพชร เพชรไม่รบกวนแล้วค่ะ”
หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นโดยใช้ไม้ค้ำยันเดินไปที่เตียงทว่ากลับเดินผิดจังหวะจึงทำให้ซวนเซทำท่าจะล้มลง
ดาอีคล่องแคล่วกว่าจึงปราดเข้ารวบตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน กระนั้นคนทั้งคู่กลับล้มลงไปบนเตียง เป็นจังหวะเดียวกับที่สองตาของใครบางคนเห็นภาพอันล่อแหลมเสี่ยงต่อความเข้าใจผิดเสียเหลือเกิน
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ” ดาอีที่มัวแต่สนใจอาการบาดเจ็บของคนตรงหน้าไม่รับรู้การเคลื่อนไหวที่ผละจากหน้าประตูไปอย่างรวดเร็วเลยสักนิด เขารีบเบี่ยงตัวออกแล้วย่อตัวลงดูขาข้างซ้ายของหญิงสาว
“ปวดค่ะ สงสัยเพราะเมื่อครู่นี้เพชรเผลอลงน้ำหนักที่ขาข้างนี้มากเกินไป” หญิงสาวนิ่วหน้าเม้มริมฝีปากพยายามอดทนไม่โอดครวญอะไรออกมา
“เดี๋ยวผมจะไปตามพยาบาลมาช่วยดู ถ้ายังไงคงต้องตามหมอให้มาตรวจดูอาการไวขึ้นอีกหน่อย”
ดาอีค้อมตัวลงเล็กน้อยแล้วเดินกลับออกไป
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
เพชรไพลินเห็นสีหน้าแปลกใจของเขาก็ถึงกับสนเท่ห์ เพราะเธอคิดว่าองครักษ์คนสนิทคงรู้ทุกอย่างหมดแล้ว
“ดาอีไม่รู้อะไรเลยหรือคะ”
คำตอบที่ได้มาคือการพยักหน้าน้อยๆ เพชรไพลินถอนหายใจ หากต้องการขอความช่วยเหลือจากเขา เธอก็คงต้องเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เขาฟังอย่างละเอียด
“เพชรไม่ขอให้ดาอีเชื่อหรอกนะคะ คุณมีสิทธิ์เชื่อเหมือนที่เจ้านายของคุณเชื่อ เพราะเพชรเองก็ไม่ทราบเหมือนกันว่าเรื่องราวพวกนี้มันเกิดขึ้นได้อย่างไร” หญิงสาวเริ่มต้นเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้องครักษ์หนุ่มฟังอย่างละเอียด
“น่าจะรวมถึงเหตุการณ์ที่คุณเพชรโดนรถชนด้วยสินะครับ” ดาอีสันนิษฐานจากสิ่งที่หญิงสาวเล่าให้ฟัง ทั้งเรื่องที่เพชรไพลินถูกรถชน หรือแม้แต่เรื่องที่ธัญธรณ์บุกเข้ามาถึงในห้องนอนของเธอ มันเกิดขึ้นได้อย่างไรเขาเองก็ไม่อาจรู้ได้เช่นกัน แต่สิ่งที่เขาคาดเดาได้และคิดว่าไม่น่าพลาดเสียด้วยก็คือ ต้องเป็นฝีมือของคนใกล้ตัวเพชรไพลินอย่างแน่นอน
“เรื่องนั้นเพชรคิดว่าคงเป็นอุบัติเหตุ เพราะเพชรไม่มีศัตรูที่ไหนมาก่อน”
“คุณเพชรไพลินแน่ใจได้ยังไงครับ”
เมื่อถูกย้อนถามกลับมาเช่นนี้ หญิงสาวก็เงียบไปหลายอึดใจ สมองนึกทบทวนถึงเหตุการณ์ในวันนั้นอีกครั้ง พอย้อนคิดดูดีๆ ก็น่าแปลกใจที่รถเก๋งคันนั้นพุ่งปีนขอบทางขึ้นมา...เหมือนจงใจจะคร่าชีวิตเธอ
“นั่นสิคะ เพชรแน่ใจได้อย่างไร ถ้าหากว่าเพชรหลบไม่ทันป่านนี้เพชรคงตายไปแล้ว”
เธอกอดตัวเองเอาไว้ด้วยความรู้สึกหวาดหวั่น เมื่อคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหากไม่ใช่อุบัติเหตุแต่มีคนจงใจจะฆ่าเธอ ใครกันที่กล้าทำถึงขนาดนี้!
“ผมคิดว่าคุณเพชรควรเล่าเรื่องจริงให้ท่านชีคทราบ ผมเชื่อว่าท่านชีคต้องยอมรับฟังแน่ๆ”
“ไม่มีประโยชน์หรอกค่ะ เพชรพยายามแล้ว ท่านชีคมีทิฐิมาก ท่านเชื่อในสิ่งที่ท่านได้รับรู้มา แล้วอีกอย่างเพชรก็ไม่มีหลักฐานอะไรไปยืนยัน เพชรไม่รู้อะไรเลยสักอย่างเดียว”
เธอยกมือปิดหน้าปล่อยให้หยาดน้ำตารินไหลอย่างไม่อาย
ดาอีนั่งไม่ติดไม่รู้จะปลอบเช่นไรจึงส่งผ้าเช็ดหน้าให้หญิงสาว สิ่งเดียวที่พอทำได้ก็คือการปลอบใจหญิงสาวให้รู้สึกดีขึ้น ซึ่งเขาไม่แน่ใจนักว่ามันจะได้ผลหรือไม่อย่างไร
“ใจเย็นๆ เถอะครับ อย่างน้อยท่านชีคก็ยังพาคุณมาที่นี่ หากเกลียดคุณจริงๆ คงไม่พามาไว้ที่คฤหาสน์เช่นนี้หรอกครับ”
“เขาพาเพชรมาก็เพื่อทรมานเพชรให้ตายทั้งเป็นต่างหากค่ะ ท่านชีคพาเพชรมาที่นี่เพื่อให้เพชรมาทำงานเป็นสาวใช้ชดใช้หนี้สิบล้านที่คุณแม่เอาไป”
เสียงสะอื้นจนตัวโยนยิ่งทำให้ดาอีทำอะไรไม่ถูก ให้ตายเถอะ! เขาไม่ชอบเห็นผู้หญิงร้องไห้เลย
“แต่ผมไม่คิดแบบนั้น” องครักษ์ดาอีรู้จักนิสัยเจ้านายดี หากลองได้เกลียดไม่มีทางเสียล่ะที่จะให้อยู่ร่วมชายคา แต่เพราะยังรักต่างหากถึงอยากให้อยู่ใกล้ๆ แม้จะเจ็บปวดและเข้าใจไปว่าตนโดนหักหลังก็ตาม อีกอย่างเพชรไพลินอยู่ที่นี่เห็นจะเป็นการปลอดภัยที่สุด เพราะตราบใดที่ยังหาตัวคนร้ายไม่พบ เมืองไทยก็ไม่ปลอดภัยสำหรับเพชรไพลินอีกต่อไป
“ดาอีช่วยเพชรนะคะ พาเพชรหนีไปที คิดเสียว่าสงสารลูกนก ลูกกาเถอะค่ะ เพชรไม่อยากอยู่ที่นี่อีกแม้แต่วินาทีเดียว”
หญิงสาวพยายามขยับเข้าหาเขาเพื่อขอร้องทว่าขาที่เจ็บทำให้ไม่สามารถขยับได้อย่างใจคิด
“ผมยอมรับว่าคุณเพชรไพลินเป็นผู้หญิงคนแรกที่ผมยอมรับ แต่นั่นไม่ได้หมายความว่าผมจะหักหลังท่านชีคเพื่อคุณ มันเป็นการขอที่มากเกินไป ผมทำไม่ได้หรอกครับ” ดาอียืนขึ้นด้วยใบหน้าเรียบเฉยไม่แสดงอารมณ์ ส่วนสูงกว่าร้อยแปดสิบทำให้เขาดูตัวใหญ่น่าเกรงขาม แต่เวลานี้เพชรไพลินไม่กลัวอะไรทั้งนั้น
“ขอร้องเถอะค่ะดาอี มีคุณคนเดียวเท่านั้นที่สามารถช่วยเพชรได้” เธอลุกขึ้นยืนโดยใช้ไม้ค้ำแล้วเดินเข้าหาดาอี
“ผมสัญญาว่าจะไม่บอกท่านชีคเรื่องที่คุณเพชรไพลินคิดหนี แต่ผมขอให้คุณล้มเลิกความคิดเสียเถอะครับ พยายามปรับความเข้าใจกับท่านชีคเสียใหม่ ผมเชื่อว่าคุณทำได้”
“ไม่นะดาอี เพชรอยากออกไปจากที่นี่ต่างหากล่ะ เพชรเหนื่อยและเสียใจมามากพอแล้ว เจ็บอย่างที่ไม่คิดว่าจะเจ็บได้มากขนาดนี้ ถ้าเพชรยังอยู่ที่นี่ต่อไป หัวใจของเพชรคงแหลกสลายเข้าสักวัน” เธอส่ายหน้า หยาดน้ำตาพรั่งพรูอาบสองแก้มอิ่ม
ดาอีถอนหายใจแล้วเบือนหน้าหนี “ได้โปรดอย่าทำให้ผมลำบากใจเลยครับคุณเพชรไพลิน”
“ขอโทษค่ะ เพชรรู้ว่ามันเป็นการขอที่มากเกินไป ขอบคุณนะคะที่อุตสาห์รับฟังเรื่องราวของเพชร เพชรไม่รบกวนแล้วค่ะ”
หญิงสาวค่อยๆ ลุกขึ้นโดยใช้ไม้ค้ำยันเดินไปที่เตียงทว่ากลับเดินผิดจังหวะจึงทำให้ซวนเซทำท่าจะล้มลง
ดาอีคล่องแคล่วกว่าจึงปราดเข้ารวบตัวหญิงสาวเอาไว้ได้ทัน กระนั้นคนทั้งคู่กลับล้มลงไปบนเตียง เป็นจังหวะเดียวกับที่สองตาของใครบางคนเห็นภาพอันล่อแหลมเสี่ยงต่อความเข้าใจผิดเสียเหลือเกิน
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าครับ” ดาอีที่มัวแต่สนใจอาการบาดเจ็บของคนตรงหน้าไม่รับรู้การเคลื่อนไหวที่ผละจากหน้าประตูไปอย่างรวดเร็วเลยสักนิด เขารีบเบี่ยงตัวออกแล้วย่อตัวลงดูขาข้างซ้ายของหญิงสาว
“ปวดค่ะ สงสัยเพราะเมื่อครู่นี้เพชรเผลอลงน้ำหนักที่ขาข้างนี้มากเกินไป” หญิงสาวนิ่วหน้าเม้มริมฝีปากพยายามอดทนไม่โอดครวญอะไรออกมา
“เดี๋ยวผมจะไปตามพยาบาลมาช่วยดู ถ้ายังไงคงต้องตามหมอให้มาตรวจดูอาการไวขึ้นอีกหน่อย”
ดาอีค้อมตัวลงเล็กน้อยแล้วเดินกลับออกไป
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ส.ค. 2561, 15:05:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ส.ค. 2561, 15:05:01 น.
จำนวนการเข้าชม : 613
<< บทที่ 16 -30% | บทที่ 16 -100% >> |