หักเหลี่ยมร้ายซ่อนลายรัก (จีนโบราณ)
เขาคืออดีตขุนนางที่มีชาติกำเนิดสูงศักดิ์
ส่วนนางคือลูกสาวพ่อค้าที่ต้องจำใจเป็นชายด้วยภาระหน้าที่
เพียงแรกเจอเขาก็ล่วงรู้ความลับที่ทำให้ใจสั่น
ว่านางคือหญิงงามในร่างชายเข้าให้แล้ว...
หนึ่งบุรุษไร้รัก หนึ่งสตรีงามไร้ใจ
ใครจะเป็นผู้ชนะในเกมรักครั้งนี้
+++++++++++
ไม่ได้มาลงนานเลยค่ะ
มัวแต่เขียนจีนอยู่ >//<
ตอนนี้เขียนจบภาค 1 แล้ว ภาค 2 ก็ใกล้จะจบแล้ว
ขอฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTg3NjI2MCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijc2NjI4Ijt9
ส่วนนางคือลูกสาวพ่อค้าที่ต้องจำใจเป็นชายด้วยภาระหน้าที่
เพียงแรกเจอเขาก็ล่วงรู้ความลับที่ทำให้ใจสั่น
ว่านางคือหญิงงามในร่างชายเข้าให้แล้ว...
หนึ่งบุรุษไร้รัก หนึ่งสตรีงามไร้ใจ
ใครจะเป็นผู้ชนะในเกมรักครั้งนี้
+++++++++++
ไม่ได้มาลงนานเลยค่ะ
มัวแต่เขียนจีนอยู่ >//<
ตอนนี้เขียนจบภาค 1 แล้ว ภาค 2 ก็ใกล้จะจบแล้ว
ขอฝากอีบุ๊กด้วยนะคะ
https://www.mebmarket.com/web/index.php?action=BookDetails&data=YToyOntzOjc6InVzZXJfaWQiO3M6NzoiMTg3NjI2MCI7czo3OiJib29rX2lkIjtzOjU6Ijc2NjI4Ijt9
Tags: นิยายจีน จีนโบราณ นิยายรักจีนโบราณ ผจญภัย ดราม่า ปลอมตัว
ตอน: บทที่ 2 / ขนห่านส่งจากแดนไกลหมื่นลี้ 1
“นายท่าน! นางหนีไปแล้ว”
ชายหน้าเสี้ยมลูกน้องเหยาเหอไป่ตะโกนลั่นเมื่อเห็นหลังไว ๆ ของสตรีงามถูกบุรุษร่างอวบท่าทางเงอะงะลากถูลู่ถูกังผ่านไป เหยาเหอไป่ถึงกับตาค้างถูกลูบคมสั่งลูกสมุนของตนให้ตามไปทันที
“พวกเจ้ารออะไร! รีบตามไปเอานางกลับมาให้ได้”
“ขอรับ นายท่าน”
สมุนสามสี่คนก้มหน้ารับคำด้วยความกลัวลนลานก่อนจะพากันวิ่งตามไป หลิวเสียะมองตามสองร่างด้านหน้าที่วิ่งหายลับตาด้วยความเป็นห่วง ไม่ว่าจะสวี่ลี่หรือนางผู้นั้นที่ให้ความช่วยเหลือดูอ่อนแรงเกรงจะถูกจับได้ตั้งแต่ไม่ทันไปไหน
หยางซุนหยางเห็นท่าไม่ดีเมื่อโดนกระชับพื้นที่แคบลงจากคนหมู่มากจึงดันร่างคุณชายน้อยไปไว้ด้านหลังแล้วชักกระบี่ของนางมาขู่
“เอาดาบข้าคืนมา!” หลิวเสียะร้องเสียงหลงแต่อีกฝ่ายกลับกระตุกยิ้มมุมปากก่อนเอ่ย
“ข้ายืมก่อนน่าคุณชาย”
“กระบี่เจ้าก็มีเหตุใดมายุ่งของข้าเล่า!” นางฮึดฮัดขัดใจและยิ่งต้องตกใจเมื่อฝ่ายนั้นคนมากกว่ามาก
“วันนี้ข้าต้องเอาเลือดหัวพวกเจ้าให้ได้” เจ้าของโรงเตี๊ยมขู่
หยางซุนหยางฟังแล้วแสร้งหดคอแต่สีหน้าไม่สะทกสะท้านไม่พอกลับหัวเราะเยาะใส่ ผิดกับคุณชายน้อยที่สีหน้าขึงขังพอไม่มีดาบก็หยิบมีดพกวาววับเตรียมรอ
“แทนที่จะเอาเลือดหัวข้า เอากระหม่อมบาง ๆ ของเจ้าเตรียมแก้ตัวกับทางการก่อนดีหรือไม่เล่า” หนุ่มพเนจรยั่วยุอีก
คราวนี้คุณชายน้อยทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเป็นเชิงห้าม “เจ้าอย่ายั่วยุพวกมันได้หรือไม่...”
“อย่าทำเป็นถูกผีตีเอาสิ... คุณชายหน้าหวาน”
“เจ้า! เจ้ากล้าว่าข้าตระหนกเกินเหตุหรือ!”
“เถอะน่า ๆ” หนุ่มพเนจรลากเสียงล้อเลียนพลันหันไปทางเหยาเหอไป่ “มาเลย! แน่จริงเข้ามา!”
“ระวังเงาหัวเจ้าไว้!” คนถูกท้าประกาศกร้าว “ข้าอยากรู้นักว่าตอนใกล้ตายจะยังหัวเราะได้เช่นนี้หรือไม่ พวกเจ้าจัดการมันเดี๋ยวนี้!”
“โอ๊ยโหยว! ช่างน่ากลัวเหลือเกิน งั้นพวกเจ้าต้องออมแรงให้หน่อยแล้ว ข้ากลัวศพไม่สวย พอดีเพิ่งเจอเนื้อคู่หากชาตินี้ยังไม่ได้เข้าหอแต่งภรรยา ข้าก็ยังตายไม่ได้”
ร่างอรชรในคราบคุณชายถึงกับตาค้างกับคำพูดห่ามห้วนยิ่งสายตาวาววับของหนุ่มพเนจรที่จ้องมองนางราวสื่อความนัยประหลาด
“เจ้าคงได้ไปเข้าหอเอาชาติหน้าหากปากยังพาจนเช่นนี้” นางกระซิบหน้าเครียด “นี่มิใช่เวลาปั่นหัวพวกมัน ป่านนี้สวี่ลี่คงพาแม่นางคนนั้นไปไกลแล้ว ข้าก็ต้องไปด้วยยังไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่”
“แล้วข้าบอกเจ้าหรือว่าเราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ ต้องพวกมันตายก่อนถึงจะถูก” หนุ่มพเนจรเหยียดยิ้มมุมปากแล้วยักไหล่ก่อนจะดีดนิ้วเป่าปากให้สัญญาณพลางร้องตะโกนลั่น
“เจ้าหน้าที่มาแล้ว! เจ้าหน้าที่มา”
“เจ้าหน้าที่อะไรของเจ้า!” หลิวเสียะเหลียวตามสีหน้าแตกตื่นแต่อีกฝ่ายกลับกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เช่นเคย
“เจ้ารอดูไป” ว่าพลางตะโกนไปที่ประตูอีกรอบ “พวกทำโรงกษาปณ์เถื่อนอยู่ทางนี้ขอรับนายท่าน!”
สิ้นเสียงร้องของคนเจ้าเล่ห์ ทั้งกลุ่มก็แตกฮือหันขวับไปตามกันเมื่อชายฉกรรจ์ในชุดเครื่องแบบทางการกรูเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ ต่างกระเจิงหาทางหนีทีไล่ มีเพียงเจ้าของสถานที่ที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะถูกดาบยาวคมวาววับนับสิบพุ่งจ่อคอหอย
“ข้าบริสุทธิ์! ไม่ใช่อย่างที่ใต้เท้าคิดนะขอรับ” เจ้าของโรงเตี๊ยมร้องเสียงหลงพลันชี้มือไปอีกทาง “ข้าไม่ได้ทำผิด พวกมันสองคนใส่ร้ายข้า”
หยางซุนหยางยิ้มเยาะพลางก้าวอาด ๆ มาหยุดตรงหน้าเจ้าของโรงเตี๊ยมก่อนเอ่ย “อย่ามาทำตัวเป็นมดบนหม้อน้ำร้อน เพราะเจ้าทำตัวเองทั้งนั้น”
“ข้าเปล่าทำ! ข้าไม่ได้ทำ! มันใส่ร้ายข้า”
“มือปราบเนียะ... ท่านเห็นหรือไม่ขอรับ มันทำผิดหายอมรับผิดไม่ เช่นนั้นสมควรที่จะลงโทษมันให้หลาบจำ”
เจ้าของโรงเตี๊ยมฟังแล้วถึงกับเข่าอ่อน คอหดแม้กลืนน้ำลายยังไม่สามารถทำได้เพราะดาบจ่อห่างจากคอหอยห่างเพียงปลายก้านธูป
ร่างสูงใหญ่ในชุดเครื่องแบบทางการตบบ่าอีกฝ่ายราวสนิทสนมก่อนจะหันมาแจ้งข้อกล่าหา “ข้าได้รับแจ้งจากคนผู้นี้ว่าที่นี่มีการซื้อขายมนุษย์และเปิดโรงกษาปณ์ผิดกฏหมาย เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่”
“ข้าถูกใส่ความขอรับ ข้าถูกใส่ความ!” เจ้าของโรงเตี๊ยมยกมือไหว้ประหลก ๆ แต่ปากยังคาดโทษหนุ่มพเนจรอีก “ต้องเป็นเจ้าแน่ เจ้าหาญกล้าใส่ความข้ารึไอ้คนจร ไหนกันหลักฐานของเจ้า!”
“ตัวข้าคือหลักฐาน” หนุ่มพเนจรประกาศก้อง “คำพูดของข้าคือหลักฐานเอาผิดเจ้า”
“คำพูดของมันเอามาเป็นหลักฐานมิได้นะขอรับนายท่าน” เจ้าของโรงเตี๊ยมโอดครวญต่อเจ้าหน้าที่
หยางซุนหยางเหลือบมองด้วยความสมเพชก่อนยิ้มเยาะตอบ “พวกเจ้าไม่เชื่อข้าก็ตามใจแต่ข้าบอกได้เพียงว่าการค้าผู้หญิงกับโรงกษาปณ์ผิดกฎหมายโทษสูงนัก พวกเจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงส่งกำลังกวาดล้างเช่นนี้แล้ว พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะรอด ข้านับหัวได้เลยว่าคนใดในพวกเจ้าจะโดนโทษประหารเจ็ดชั่วโคตรบ้าง”
“เจ้าโกหก! ”
เหยาเหอไป่ที่โดนคุมตัวไว้คนละฝั่งกับเจ้าของโรงเตี๊ยมกระแทกเจ้าหน้าที่ทีเผลอจนหลุดก่อนจะชักดาบจากมือเจ้าหน้าที่พุ่งตรงมา แต่ยังไม่ทันถึงตัวก็ถูกหนุ่มพเนจรขัดขาจนล้มลงดาบในมือกระเด็นห่างตัว ร่างอ้วนพรวดพราดลุกแต่ไม่พ้นฝ่าเท้าหยางซุนหยางที่กดลงมากลางอกไปได้
“ทำร้ายอดีตเจ้าพนักงาน เจ้าโดนข้อหาหนักแน่” หยางซุนหยางกล่าวท้าทายดวงตาโขนแสงวูบหนึ่งก่อนลดระดับลงหันไปหามือปราบเนียะ “อย่าเสียเวลาฟังพวกมันเห่าหอนอีกเลยใต้เท้า คุมตัวมันไปได้เลย”
“ขอบใจเจ้ามาก เอาไว้มีเวลาไปกินโต๊ะกัน” เจ้าหน้าที่ยศใหญ่ตบบ่าแข็งแรงของหนุ่มพเนจรก่อนพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่คุมตัวเจ้าของโรงเตี๊ยมกับพ่อค้าข้าวสารและสมุนออกไป
หยางซุนหยางเหยียดยิ้มพึงพอใจในผลงานแต่คำถามจากคุณชายน้อยทำให้ต้องหุบยิ้ม
“เจ้าเคยเป็นมือปราบหรือ”
“เจ้าก็อย่าเพิ่งสนใจได้หรือไม่เล่า”
หยางซุนหยางส่ายหน้าระอาพลันคว้ามือคุณชายน้อยวิ่งออกไป ผ่านทางดินลาดต่ำจนถึงราวป่าทางทิศตะวันออกแสงไฟจากหมู่บ้านก็เริ่มริบหรี่ไกลออกไป
หลิวเสียะที่โดนลากถูลู่ถูกังก็สะบัดมือหนุ่มพเนจรออกก่อนจะค้อมตัวลงสองมือจับเข่าทั้งสองข้างพยุงตัวพ่นลมหายใจเหนื่อยหอบ
“เจ้าคนจร! เรามิได้ทำสิ่งใดผิดใยต้องคิดหนีด้วย”
“หลักฐานการซื้อขายคามือคาตาเจ้าหน้าที่เช่นนั้น เจ้าจะบอกว่ามิได้ร่วมประมูลหญิงงามกับพวกมันหรือ” คนจรว่าพลางส่ายหน้าระอา “หน้าตาเจ้าหรือก็ฉลาดดี”
“เช่นนั้นผู้ใดเป็นคนแจ้งกองปราบ เจ้ารึ?”
“ข้าก็รู้เท่ากันกับเจ้ามิใช่พ่อมดหมอผีจะได้หยั่งรู้ดินฟ้า”
“เจ้าอย่ามาสามหาวกับข้า” คุณชายน้อยตวาดพลันนึกได้มองหาบ่าวคู่ใจ “ป่านนี้ไม่รู้ว่าสวี่ลี่จะพานางผู้นั้นไปถึงไหนแล้ว”
“ข้าหารู้ไม่” หยางซุนหยางเอ่ยไม่สะทกสะท้าน
คุณชายน้อยฟังแล้วลอบค้อน พลันเสียงสวบสาบคล้ายฝีเท้าเหยียบย่ำบนใบไม้แห้งก็ดังขึ้นทางเนินดินไม่ไกล บ่าวร่างอวบแหวกพงหญ้าลงมาพร้อมตัวต้นเหตุที่ยังคงตัวสั่นงันงก ท่าทางลนลานของนางน่าสมเพชจนหลิวเสียะอดสงสารไม่ได้
“คุณชาย... ” สวี่ลี่โผเข้ากอดคุณชายของตนจับเนื้อตัวสำรวจด้วยความเป็นห่วงก่อนเอ่ย “ปลอดภัยดีใช่หรือไม่คุณชายน้อยของข้า”
“ข้าปลอดภัยดี” นางยิ้มอ่อนโยนพลางมองเลยไปด้านหลังแล้วเอ่ยถาม “แล้วเจ้าเล่าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้ามิเป็นไร ขอบคุณคุณชายที่เมตตาช่วยเหลือข้า”
พูดจบร่างอรชรก็ตรงเข้ามาจับมือทั้งสองของหลิวเสียะพลันคุกเข่าลงตรงหน้า คุณชายหน้าหวานถึงกับสะดุ้งทรุดนั่งลงชันเข่าตรงข้ามสีหน้ากระอักกระอ่วนเช่นเดียวกับสวี่ลี่และหยางซุนหยางที่ต่างมองด้วยดวงหน้าเรียบเฉย
“ข้าไม่ได้กระทำสิ่งใดให้เจ้าเลย อย่าถือเป็นบุญเป็นคุณ”
“คุณชายช่วยชีวิตข้าเอาไว้” นางพูดจบช้อนตามองอย่างซาบซึ้ง “ข้าซาบซึ้งใจขอมอบชีวิตเป็นทาสรับใช้คุณชาย”
“อย่าต้องถึงขั้นนั้น” หลิวเสียะรีบดึงมือออกเมื่อสบสายตาแฝงความหมายของนางจึงเอ่ย “แล้วบ้านเจ้าไม่คิดกลับไปหรือ?”
“ข้าไม่มีที่ให้กลับไปแล้ว”
“แล้วเช่นนั้นจะทำอย่างไรต่อไป”
“ข้าสาบานจะขอติดตามคุณชายไปจนชั่วชีวิต” นางตอบเสียงหวานล้ำ สีหน้ามุ่งมั่นดวงตาเป็นประกาย “ข้าสัญญาจะไม่ทำให้คุณชายรำคาญใจ ต่อให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกข้าก็พร้อมพลีได้เพื่อคุณชาย”
“ไม่ต้องถึงขั้นนั้น ข้าว่าเจ้าอย่าสาบานจะดีกว่า” คุณชายน้อยทักท้วงพลันสบตาบ่าวคู่ใจแล้วกระซิบบอก “ช่วยข้าสิอาลี่”
“แต่ข้าอยากติดตามคุณชาย” นางยังกล่าวต่อ
พลันสวี่ลี่จึงออกหน้าทักท้วง “มิได้หรอก... เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่ที่นายข้าจะไปมันอันตรายแค่ไหน หญิงอย่างเจ้าเชื่องช้าอืดอาดไปรังแต่จะเป็นภาระให้เสียเปล่า ๆ”
“ข้าจะไม่ทำตัวเป็นภาระ” นางเสียงอ่อยชวนสงสาร พลันน้ำตาร่วงผล็อยราวสั่งได้
หลิวเสียะฟังแล้วหน้าซีดลงหลายส่วน นางกลางป่าผู้นี้เป็นโฉมสะคราญโดยแท้ ดวงหน้านวลใสไร้สีสันแต่งแต้มงดงามอย่างที่กล่าวขวัญ ผิวเนียนราวหยกนั้นขาวราวหิมะและดวงตาสีแปลกจะดำก็ไม่ใช่น้ำตาลก็ไม่เชิง ทำให้หญิงไร้ที่มาผู้นี้ดูหมดจดกว่าใครที่เคยพบ
คุณชายน้อยพินิจนางแล้วให้เกิดความสงสารทั้งสะท้อนใจที่ตนเองต้องอยู่ในร่างชายหามีผู้ใดเคยเห็นความงามของนางเฉกเช่นนางผู้นี้
คนที่ทนดูไม่ได้อีกต่อไปก็คือหนุ่มพเนจรจอมเจ้าเล่ห์หยางซุนหยางที่กระแอมเสียงดังแล้วดึงแขนคุณชายน้อยให้ลุกยืน
“ซาบซึ้งกันแล้วควรพอมิเช่นนั้นอาจโดนฟ้าผ่า”
“เอ๊ะ! เจ้านี่” หลิวเสียะปราม
สวี่ลี่เห็นหนุ่มพเนจรพูดจาถือสนิทกับนายตนก็ชักแขนเสื้อขึ้นสีหน้าขึงขังพร้อมท้าตีท้าต่อยเต็มที่
“อย่ามาสามหาว ริอ่านแช่งคุณชายของข้าให้โดนฟ้าผ่า ไม่เคยตางใช่หรือไม่!”
++++++++++++++++++++++++
ชายหน้าเสี้ยมลูกน้องเหยาเหอไป่ตะโกนลั่นเมื่อเห็นหลังไว ๆ ของสตรีงามถูกบุรุษร่างอวบท่าทางเงอะงะลากถูลู่ถูกังผ่านไป เหยาเหอไป่ถึงกับตาค้างถูกลูบคมสั่งลูกสมุนของตนให้ตามไปทันที
“พวกเจ้ารออะไร! รีบตามไปเอานางกลับมาให้ได้”
“ขอรับ นายท่าน”
สมุนสามสี่คนก้มหน้ารับคำด้วยความกลัวลนลานก่อนจะพากันวิ่งตามไป หลิวเสียะมองตามสองร่างด้านหน้าที่วิ่งหายลับตาด้วยความเป็นห่วง ไม่ว่าจะสวี่ลี่หรือนางผู้นั้นที่ให้ความช่วยเหลือดูอ่อนแรงเกรงจะถูกจับได้ตั้งแต่ไม่ทันไปไหน
หยางซุนหยางเห็นท่าไม่ดีเมื่อโดนกระชับพื้นที่แคบลงจากคนหมู่มากจึงดันร่างคุณชายน้อยไปไว้ด้านหลังแล้วชักกระบี่ของนางมาขู่
“เอาดาบข้าคืนมา!” หลิวเสียะร้องเสียงหลงแต่อีกฝ่ายกลับกระตุกยิ้มมุมปากก่อนเอ่ย
“ข้ายืมก่อนน่าคุณชาย”
“กระบี่เจ้าก็มีเหตุใดมายุ่งของข้าเล่า!” นางฮึดฮัดขัดใจและยิ่งต้องตกใจเมื่อฝ่ายนั้นคนมากกว่ามาก
“วันนี้ข้าต้องเอาเลือดหัวพวกเจ้าให้ได้” เจ้าของโรงเตี๊ยมขู่
หยางซุนหยางฟังแล้วแสร้งหดคอแต่สีหน้าไม่สะทกสะท้านไม่พอกลับหัวเราะเยาะใส่ ผิดกับคุณชายน้อยที่สีหน้าขึงขังพอไม่มีดาบก็หยิบมีดพกวาววับเตรียมรอ
“แทนที่จะเอาเลือดหัวข้า เอากระหม่อมบาง ๆ ของเจ้าเตรียมแก้ตัวกับทางการก่อนดีหรือไม่เล่า” หนุ่มพเนจรยั่วยุอีก
คราวนี้คุณชายน้อยทำเสียงจิ๊จ๊ะในลำคอเป็นเชิงห้าม “เจ้าอย่ายั่วยุพวกมันได้หรือไม่...”
“อย่าทำเป็นถูกผีตีเอาสิ... คุณชายหน้าหวาน”
“เจ้า! เจ้ากล้าว่าข้าตระหนกเกินเหตุหรือ!”
“เถอะน่า ๆ” หนุ่มพเนจรลากเสียงล้อเลียนพลันหันไปทางเหยาเหอไป่ “มาเลย! แน่จริงเข้ามา!”
“ระวังเงาหัวเจ้าไว้!” คนถูกท้าประกาศกร้าว “ข้าอยากรู้นักว่าตอนใกล้ตายจะยังหัวเราะได้เช่นนี้หรือไม่ พวกเจ้าจัดการมันเดี๋ยวนี้!”
“โอ๊ยโหยว! ช่างน่ากลัวเหลือเกิน งั้นพวกเจ้าต้องออมแรงให้หน่อยแล้ว ข้ากลัวศพไม่สวย พอดีเพิ่งเจอเนื้อคู่หากชาตินี้ยังไม่ได้เข้าหอแต่งภรรยา ข้าก็ยังตายไม่ได้”
ร่างอรชรในคราบคุณชายถึงกับตาค้างกับคำพูดห่ามห้วนยิ่งสายตาวาววับของหนุ่มพเนจรที่จ้องมองนางราวสื่อความนัยประหลาด
“เจ้าคงได้ไปเข้าหอเอาชาติหน้าหากปากยังพาจนเช่นนี้” นางกระซิบหน้าเครียด “นี่มิใช่เวลาปั่นหัวพวกมัน ป่านนี้สวี่ลี่คงพาแม่นางคนนั้นไปไกลแล้ว ข้าก็ต้องไปด้วยยังไม่อยากเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่”
“แล้วข้าบอกเจ้าหรือว่าเราจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่ ต้องพวกมันตายก่อนถึงจะถูก” หนุ่มพเนจรเหยียดยิ้มมุมปากแล้วยักไหล่ก่อนจะดีดนิ้วเป่าปากให้สัญญาณพลางร้องตะโกนลั่น
“เจ้าหน้าที่มาแล้ว! เจ้าหน้าที่มา”
“เจ้าหน้าที่อะไรของเจ้า!” หลิวเสียะเหลียวตามสีหน้าแตกตื่นแต่อีกฝ่ายกลับกระตุกยิ้มเจ้าเล่ห์เช่นเคย
“เจ้ารอดูไป” ว่าพลางตะโกนไปที่ประตูอีกรอบ “พวกทำโรงกษาปณ์เถื่อนอยู่ทางนี้ขอรับนายท่าน!”
สิ้นเสียงร้องของคนเจ้าเล่ห์ ทั้งกลุ่มก็แตกฮือหันขวับไปตามกันเมื่อชายฉกรรจ์ในชุดเครื่องแบบทางการกรูเข้ามาพร้อมอาวุธครบมือ ต่างกระเจิงหาทางหนีทีไล่ มีเพียงเจ้าของสถานที่ที่ไม่สามารถหนีไปไหนได้เพราะถูกดาบยาวคมวาววับนับสิบพุ่งจ่อคอหอย
“ข้าบริสุทธิ์! ไม่ใช่อย่างที่ใต้เท้าคิดนะขอรับ” เจ้าของโรงเตี๊ยมร้องเสียงหลงพลันชี้มือไปอีกทาง “ข้าไม่ได้ทำผิด พวกมันสองคนใส่ร้ายข้า”
หยางซุนหยางยิ้มเยาะพลางก้าวอาด ๆ มาหยุดตรงหน้าเจ้าของโรงเตี๊ยมก่อนเอ่ย “อย่ามาทำตัวเป็นมดบนหม้อน้ำร้อน เพราะเจ้าทำตัวเองทั้งนั้น”
“ข้าเปล่าทำ! ข้าไม่ได้ทำ! มันใส่ร้ายข้า”
“มือปราบเนียะ... ท่านเห็นหรือไม่ขอรับ มันทำผิดหายอมรับผิดไม่ เช่นนั้นสมควรที่จะลงโทษมันให้หลาบจำ”
เจ้าของโรงเตี๊ยมฟังแล้วถึงกับเข่าอ่อน คอหดแม้กลืนน้ำลายยังไม่สามารถทำได้เพราะดาบจ่อห่างจากคอหอยห่างเพียงปลายก้านธูป
ร่างสูงใหญ่ในชุดเครื่องแบบทางการตบบ่าอีกฝ่ายราวสนิทสนมก่อนจะหันมาแจ้งข้อกล่าหา “ข้าได้รับแจ้งจากคนผู้นี้ว่าที่นี่มีการซื้อขายมนุษย์และเปิดโรงกษาปณ์ผิดกฏหมาย เจ้ามีอะไรจะแก้ตัวหรือไม่”
“ข้าถูกใส่ความขอรับ ข้าถูกใส่ความ!” เจ้าของโรงเตี๊ยมยกมือไหว้ประหลก ๆ แต่ปากยังคาดโทษหนุ่มพเนจรอีก “ต้องเป็นเจ้าแน่ เจ้าหาญกล้าใส่ความข้ารึไอ้คนจร ไหนกันหลักฐานของเจ้า!”
“ตัวข้าคือหลักฐาน” หนุ่มพเนจรประกาศก้อง “คำพูดของข้าคือหลักฐานเอาผิดเจ้า”
“คำพูดของมันเอามาเป็นหลักฐานมิได้นะขอรับนายท่าน” เจ้าของโรงเตี๊ยมโอดครวญต่อเจ้าหน้าที่
หยางซุนหยางเหลือบมองด้วยความสมเพชก่อนยิ้มเยาะตอบ “พวกเจ้าไม่เชื่อข้าก็ตามใจแต่ข้าบอกได้เพียงว่าการค้าผู้หญิงกับโรงกษาปณ์ผิดกฎหมายโทษสูงนัก พวกเจ้ารู้หรือไม่ ตอนนี้ฮ่องเต้ทรงส่งกำลังกวาดล้างเช่นนี้แล้ว พวกเจ้าอย่าหวังว่าจะรอด ข้านับหัวได้เลยว่าคนใดในพวกเจ้าจะโดนโทษประหารเจ็ดชั่วโคตรบ้าง”
“เจ้าโกหก! ”
เหยาเหอไป่ที่โดนคุมตัวไว้คนละฝั่งกับเจ้าของโรงเตี๊ยมกระแทกเจ้าหน้าที่ทีเผลอจนหลุดก่อนจะชักดาบจากมือเจ้าหน้าที่พุ่งตรงมา แต่ยังไม่ทันถึงตัวก็ถูกหนุ่มพเนจรขัดขาจนล้มลงดาบในมือกระเด็นห่างตัว ร่างอ้วนพรวดพราดลุกแต่ไม่พ้นฝ่าเท้าหยางซุนหยางที่กดลงมากลางอกไปได้
“ทำร้ายอดีตเจ้าพนักงาน เจ้าโดนข้อหาหนักแน่” หยางซุนหยางกล่าวท้าทายดวงตาโขนแสงวูบหนึ่งก่อนลดระดับลงหันไปหามือปราบเนียะ “อย่าเสียเวลาฟังพวกมันเห่าหอนอีกเลยใต้เท้า คุมตัวมันไปได้เลย”
“ขอบใจเจ้ามาก เอาไว้มีเวลาไปกินโต๊ะกัน” เจ้าหน้าที่ยศใหญ่ตบบ่าแข็งแรงของหนุ่มพเนจรก่อนพยักหน้าให้เจ้าหน้าที่คุมตัวเจ้าของโรงเตี๊ยมกับพ่อค้าข้าวสารและสมุนออกไป
หยางซุนหยางเหยียดยิ้มพึงพอใจในผลงานแต่คำถามจากคุณชายน้อยทำให้ต้องหุบยิ้ม
“เจ้าเคยเป็นมือปราบหรือ”
“เจ้าก็อย่าเพิ่งสนใจได้หรือไม่เล่า”
หยางซุนหยางส่ายหน้าระอาพลันคว้ามือคุณชายน้อยวิ่งออกไป ผ่านทางดินลาดต่ำจนถึงราวป่าทางทิศตะวันออกแสงไฟจากหมู่บ้านก็เริ่มริบหรี่ไกลออกไป
หลิวเสียะที่โดนลากถูลู่ถูกังก็สะบัดมือหนุ่มพเนจรออกก่อนจะค้อมตัวลงสองมือจับเข่าทั้งสองข้างพยุงตัวพ่นลมหายใจเหนื่อยหอบ
“เจ้าคนจร! เรามิได้ทำสิ่งใดผิดใยต้องคิดหนีด้วย”
“หลักฐานการซื้อขายคามือคาตาเจ้าหน้าที่เช่นนั้น เจ้าจะบอกว่ามิได้ร่วมประมูลหญิงงามกับพวกมันหรือ” คนจรว่าพลางส่ายหน้าระอา “หน้าตาเจ้าหรือก็ฉลาดดี”
“เช่นนั้นผู้ใดเป็นคนแจ้งกองปราบ เจ้ารึ?”
“ข้าก็รู้เท่ากันกับเจ้ามิใช่พ่อมดหมอผีจะได้หยั่งรู้ดินฟ้า”
“เจ้าอย่ามาสามหาวกับข้า” คุณชายน้อยตวาดพลันนึกได้มองหาบ่าวคู่ใจ “ป่านนี้ไม่รู้ว่าสวี่ลี่จะพานางผู้นั้นไปถึงไหนแล้ว”
“ข้าหารู้ไม่” หยางซุนหยางเอ่ยไม่สะทกสะท้าน
คุณชายน้อยฟังแล้วลอบค้อน พลันเสียงสวบสาบคล้ายฝีเท้าเหยียบย่ำบนใบไม้แห้งก็ดังขึ้นทางเนินดินไม่ไกล บ่าวร่างอวบแหวกพงหญ้าลงมาพร้อมตัวต้นเหตุที่ยังคงตัวสั่นงันงก ท่าทางลนลานของนางน่าสมเพชจนหลิวเสียะอดสงสารไม่ได้
“คุณชาย... ” สวี่ลี่โผเข้ากอดคุณชายของตนจับเนื้อตัวสำรวจด้วยความเป็นห่วงก่อนเอ่ย “ปลอดภัยดีใช่หรือไม่คุณชายน้อยของข้า”
“ข้าปลอดภัยดี” นางยิ้มอ่อนโยนพลางมองเลยไปด้านหลังแล้วเอ่ยถาม “แล้วเจ้าเล่าเป็นอย่างไรบ้าง”
“ข้ามิเป็นไร ขอบคุณคุณชายที่เมตตาช่วยเหลือข้า”
พูดจบร่างอรชรก็ตรงเข้ามาจับมือทั้งสองของหลิวเสียะพลันคุกเข่าลงตรงหน้า คุณชายหน้าหวานถึงกับสะดุ้งทรุดนั่งลงชันเข่าตรงข้ามสีหน้ากระอักกระอ่วนเช่นเดียวกับสวี่ลี่และหยางซุนหยางที่ต่างมองด้วยดวงหน้าเรียบเฉย
“ข้าไม่ได้กระทำสิ่งใดให้เจ้าเลย อย่าถือเป็นบุญเป็นคุณ”
“คุณชายช่วยชีวิตข้าเอาไว้” นางพูดจบช้อนตามองอย่างซาบซึ้ง “ข้าซาบซึ้งใจขอมอบชีวิตเป็นทาสรับใช้คุณชาย”
“อย่าต้องถึงขั้นนั้น” หลิวเสียะรีบดึงมือออกเมื่อสบสายตาแฝงความหมายของนางจึงเอ่ย “แล้วบ้านเจ้าไม่คิดกลับไปหรือ?”
“ข้าไม่มีที่ให้กลับไปแล้ว”
“แล้วเช่นนั้นจะทำอย่างไรต่อไป”
“ข้าสาบานจะขอติดตามคุณชายไปจนชั่วชีวิต” นางตอบเสียงหวานล้ำ สีหน้ามุ่งมั่นดวงตาเป็นประกาย “ข้าสัญญาจะไม่ทำให้คุณชายรำคาญใจ ต่อให้ขึ้นสวรรค์หรือลงนรกข้าก็พร้อมพลีได้เพื่อคุณชาย”
“ไม่ต้องถึงขั้นนั้น ข้าว่าเจ้าอย่าสาบานจะดีกว่า” คุณชายน้อยทักท้วงพลันสบตาบ่าวคู่ใจแล้วกระซิบบอก “ช่วยข้าสิอาลี่”
“แต่ข้าอยากติดตามคุณชาย” นางยังกล่าวต่อ
พลันสวี่ลี่จึงออกหน้าทักท้วง “มิได้หรอก... เจ้ารู้หรือไม่ว่าที่ที่นายข้าจะไปมันอันตรายแค่ไหน หญิงอย่างเจ้าเชื่องช้าอืดอาดไปรังแต่จะเป็นภาระให้เสียเปล่า ๆ”
“ข้าจะไม่ทำตัวเป็นภาระ” นางเสียงอ่อยชวนสงสาร พลันน้ำตาร่วงผล็อยราวสั่งได้
หลิวเสียะฟังแล้วหน้าซีดลงหลายส่วน นางกลางป่าผู้นี้เป็นโฉมสะคราญโดยแท้ ดวงหน้านวลใสไร้สีสันแต่งแต้มงดงามอย่างที่กล่าวขวัญ ผิวเนียนราวหยกนั้นขาวราวหิมะและดวงตาสีแปลกจะดำก็ไม่ใช่น้ำตาลก็ไม่เชิง ทำให้หญิงไร้ที่มาผู้นี้ดูหมดจดกว่าใครที่เคยพบ
คุณชายน้อยพินิจนางแล้วให้เกิดความสงสารทั้งสะท้อนใจที่ตนเองต้องอยู่ในร่างชายหามีผู้ใดเคยเห็นความงามของนางเฉกเช่นนางผู้นี้
คนที่ทนดูไม่ได้อีกต่อไปก็คือหนุ่มพเนจรจอมเจ้าเล่ห์หยางซุนหยางที่กระแอมเสียงดังแล้วดึงแขนคุณชายน้อยให้ลุกยืน
“ซาบซึ้งกันแล้วควรพอมิเช่นนั้นอาจโดนฟ้าผ่า”
“เอ๊ะ! เจ้านี่” หลิวเสียะปราม
สวี่ลี่เห็นหนุ่มพเนจรพูดจาถือสนิทกับนายตนก็ชักแขนเสื้อขึ้นสีหน้าขึงขังพร้อมท้าตีท้าต่อยเต็มที่
“อย่ามาสามหาว ริอ่านแช่งคุณชายของข้าให้โดนฟ้าผ่า ไม่เคยตางใช่หรือไม่!”
++++++++++++++++++++++++
lovereason2
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ส.ค. 2561, 20:40:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ส.ค. 2561, 20:40:51 น.
จำนวนการเข้าชม : 663
<< บทที่ 1 / แปดด้านหาเก้าด้าน 3 |