ทรายล้อมเพชร: สะมะเรีย (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เมื่อรจนาอย่างนางรำ ‘เพชรไพลิน’ เสี่ยงพวงมาลัยดอกรักออกไป คนรับหาใช่เจ้าเงาะป่าไม่ แต่กลับเป็นถึง ‘ชีคมุซตาฮ์ซาน บินรามาน อัลซาบาฮัท’ ผู้ปกครองรัฐรามาน
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทั้งสองตกอยู่ในบ่วงเสน่หาซึ่งกันและกันเพียงแค่พบสบตา ความรักได้ก่อตัวขึ้นหวานล้ำราวน้ำผึ้ง ทว่า...ที่ใดมีรัก ก็ย่อมมีทุกข์ เพชรไพลินจึงต้องพบกับอุปสรรคที่เต็มไปด้วยขวากหนามแหลมคม ทั้งจากมารดาเลี้ยงและบรรดาสาวๆ ที่อยู่ในฮาเร็มของชีคหนุ่ม
ซ้ำร้ายที่สุด...ชายคนรักยังลงมือกรีดหัวใจของเธอด้วยตัวเขาเอง
เช่นนี้แล้วเพชรที่ว่ากล้าแกร่งจะทนทานต่อการแผดเผาหัวใจจนปวดร้าวทรมานได้หรือไม่ หรือเธอ...จะลาลับจากเขาไปตลอดกาล
*************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "สะมะเรีย" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งกำลังวางจำหน่ายอยู่ตอนนี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบนิยายแนวทะเลทราย โรมานซ์ ดราม่า มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง นอกจากความฟินชวนให้ยิ้มแก้มแตกในความเป็นสุภาพบุรุษของท่านชีคแล้ว สะมะเรียถ่ายทอดความดราม่าในความรักของหนุ่มสาวได้ชนิดที่น้ำตาไหลพรากทีเดียว ที่สำคัญ ยังผสมผสานศิลปวัฒนธรรมไทยเข้าไปในแนวทะเลทรายได้อย่างน่าประทับใจ #พร้อมตอนพิเศษ #ฟินทวีคูณ! #ติดหนึบ #รับประกันความสนุก!
***********
นักอ่านท่านใดสนใจ มีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
**สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้าน booksforfun ร้าน booktogothailand และร้าน booksyourlikeshop
-inbox สั่งซื้อโดยตรงกับแอดมินเพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์' หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
(หนังสือเหลือแต่เล่มมีตำหนิ)
ราคา 280฿ (จากปก 372฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 320฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 340฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรมานซ์ ชีค นางรำ พาฝัน ดราม่า ริษยา
ตอน: บทที่ 18 -30%
เพชรไพลินหมุนมองตัวเองอยู่หน้ากระจก นึกชอบชุดที่ดีไซน์เนอร์ออกแบบให้ มันไม่ใช่ชุดสากลนำสมัยเพราะดีไซน์เนอร์ที่ชีคมุซตาฮ์ซานส่งมานั้นเป็นสตรีอาหรับที่จบแฟชั่นดีไซน์มาจากประเทศฝรั่งเศส จึงออกแบบเสื้อผ้าสตรีอาหรับโดยเฉพาะ ดังนั้นเสื้อผ้าที่เธอสวมอยู่จึงมีความเป็นอาหรับแต่ทันสมัยและเข้ากับแฟชั่นที่กำลังอินเทรนด์อยู่ในขณะนี้
ดีไซน์เนอร์คนเก่งเล่าว่าท่านชีคเป็นคนให้ทุนแก่นักศึกษาในสายอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์ สถาปนิก วิศวกร ฯลฯ โดยเน้นเสมอว่าต้องคงความเป็นรามานเอาไว้ อย่าให้วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามากลืนกินจนหมดไป
“ชุดสวยและเหมาะกับคุณมากเลยค่ะ” มาซาฮ์สาวใช้ที่เข้ามาทำความสะอาดห้องชีคหนุ่มถึงกับเอ่ยชม รัตติกาลมองอย่างเห็นด้วย
“มาซาฮ์ทำไมคุณพูดภาษาอังกฤษเก่งจัง ฉันเห็นสาวใช้ที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่งทุกคนเลย” เพชรไพลินละสายตาจากกระจกเงาหันไปมองมาซาฮ์อย่างสนเท่ห์ เธอว่าจะเอ่ยถามหลายครั้งแล้วแต่ก็ลืมทุกที
“ท่านชีคจ้างครูฝรั่งมาสอนให้พวกเราค่ะ ท่านบอกว่าพวกเราต้องคอยต้อนรับแขกของท่าน ดังนั้นจึงควรพูดภาษาอังกฤษสื่อสารให้คล่อง” ยามมาซาฮ์พูดถึงเจ้านายของตน ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าแววฉายชัดว่าทั้งรักและเทิดทูนเจ้านายหนุ่มเหนือสิ่งอื่นใด
“ท่านชีคนี่ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สมแล้วที่ท่านประสบความสำเร็จทั้งทางธุรกิจและการปกครองรัฐรามาน”
รัตติกาลเอ่ยชมอย่างเปิดเผย
แน่นอนเพชรไพลินเห็นด้วยแต่ไม่คิดจะกล่าวเสริมคุณความดีของชีคหนุ่ม นั่นเพราะความร้ายกาจของเขามีเพียงเธอที่ได้เห็นมันนี่สิ
“ค่ะ พวกเราทุกคนรักท่านชีคมาก เกือบลืมไปเลยค่ะคุณเพชรไพลินรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันมา” มาซาฮ์วางไม้ขนไก่แล้วรีบเดินออก ไปจากห้อง ครู่ต่อมาก็กลับมาพร้อมดินสอสีดำ
“เขียนนี่เสียหน่อยสิคะ เนื้อในทำจากพลวงค่ะ ใช้เขียนขอบตาแล้วยังถนอมสายตาด้วย ไหนๆ ใส่อาบายาแล้วก็ต้องแต่งให้ครบค่ะ”
มาซาฮ์จัดแจงเมื่อเห็นเพชรไพลินตั้งท่าจะปฏิเสธ รัตติกาลก็รีบสนับสนุนอีกแรงทันที หญิงสาวจึงได้แต่นั่งเป็นตุ๊กตาให้มาซาฮ์และรัตติกาลจับแต่งสนุกสนาน
****************
เมื่อเวลาอาหารเย็นมาถึง ชีคมุซตาฮ์ซานเดินเข้ามาในห้องอาหารกวาดตามองไปรอบๆ ห้องเห็นเมธาวีสวมชุดเดรสสั้นผ่าอกสีแดงฉูดฉาดแต่งหน้าราวกับจะไปเที่ยวผับยามราตรี ส่วนกมลทิพย์อยู่ในชุดเดรสสีน้ำทะเลโชว์ไหล่แต่งหน้าจัดกว่าทุกครั้งจนเขาแปลกใจ ห้องทั้งห้องบรรยากาศเงียบจนน่ากลัว
เขาเดินไปหาฟาติมาซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วด้วยท่าทางเรียบเฉย วางแขนลงบนไหล่ของน้องสาวแล้วพูดคุยด้วยภาษาอาหรับ
“เป็นอย่างไรบ้างฟาติมา พี่ไม่อยู่เกือบเดือนสบายดีหรือเปล่า”
“น้องสบายดีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยสบาย”
ฟาติมาพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก ชีคหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งของน้องสาว
“ช่วยจัดการให้สองคนนั้นเลิกมองน้องเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างทีเถอะค่ะ ผู้หญิงของพี่ชายนี่ไม่มีมารยาทเลย สงสัยคงคิดว่าน้องเป็นผู้หญิงของพี่แน่ๆ ถึงได้มองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อน้องแบบนั้น” พูดไปแล้วก็แทบจะหลุดขำ ผู้หญิงสองคนนี้มีตาหามีแววไม่ เพราะใครต่างก็บอกเธอเสมอว่าเธอมีเค้าโครงหน้าคล้ายบิดา และพี่ชายของเธอก็ถอดแบบโครงหน้าจากบิดามาแทบทั้งหมด
“ผู้หญิงของพี่ที่ไหนกัน ก็แค่คู่ขา ส่วนอีกคนก็เป็นเลขาของพี่ต่างหากล่ะ”
“หรือคะ แต่น้องมองออกว่าจุดประสงค์ของยายเสื้อแดงกับยายเสื้อฟ้าเหมือนกัน คือจ้องจะจับพี่ชาย”
“เหลวไหลน่าฟาติมา เสื้อฟ้าน่ะชื่อกมลทิพย์เป็นเลขาของพี่ คนนี้นิสัยดี ไม่ทำเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก” ชายหนุ่มแก้ตัวให้เลขานุการสาว
ทว่าฟาติมากลับเบะปากอย่างไม่เห็นด้วย จากที่นั่งอยู่ในห้องนี้ไม่ถึงห้านาทีเธอก็รับรู้ได้แล้วว่าสองคนนี้ร้ายพอกัน ถ้าพี่ชายเลือกใครคนใดคนหนึ่งมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอละก็ เธอจะคัดค้านจนถึงที่สุดเลยเชียว
“ฉันขอแนะนำให้เธอทั้งสองคนรู้จัก นี่ฟาติมาน้องสาวฉันเอง” ชีคหนุ่มหันไปหาหญิงสาวทั้งสองแล้วพูดด้วยภาษาอังกฤษ
แน่นอนสิ่งที่ตามมาหลังจากทราบว่าฟาติมาคือน้องสาวของชีคหนุ่มก็คืออาการตกใจ หน้าซีดเผือด ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะฟาติมา ฉันชื่อกมลทิพย์ค่ะ แหมหน้าตาน่ารักเชียวนะคะท่านชีค” กมลทิพย์ตั้งตัวได้เร็วกว่าเมธาวีจึงรีบเอ่ยชมอีกฝ่าย แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นฟาติมานิ่งเฉยแล้วเมินหน้าไปทางอื่นเสียอย่างนั้น เมธาวีฉลาดพอที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายชังน้ำหน้าไปมากกว่าเดิมจึงเงียบเสีย
“ทานเลยหรือเปล่าคะน้องหิวแล้ว”
“เดี๋ยว อีกคนล่ะ” ชายหนุ่มมองหาเพชรไพลิน แล้วเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ อีกสามนาทีจะได้เวลาหนึ่งทุ่มตรงทั้งที่เขากำชับกับเธอว่าห้ามมาสาย เธอจงใจขัดคำสั่งเขาหรืออย่างไร...
“ช่างเถอะค่ะ คงลงมาไม่ไหว ขาเจ็บขนาดนั้น” ฟาติมาเอ่ยท้วง
“พี่จะไปตามเอง” ชีคหนุ่มกลับผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากห้องอาหารไปด้วยความโกรธ กำลังจะเดินขึ้นบันไดก็พบกับตัวการที่ทำให้เขาหงุดหงิด เธอกำลังเดินลงบันไดโดยมีรัตติกาลคอยช่วยพยุง
เพชรไพลินเป็นคนสวยข้อนี้ชีคหนุ่มรู้ดี แต่เมื่อเธอสวมอาบายาสีครีมยาวกรอมเท้า มีเสื้อคลุมตัวยาวแขนกระบอกสีชมพูอ่อนเป็นผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสสวมทับ ปลายเสื้อคลุมดิ้นด้วยไหมทองเป็นลวดลายขับให้ตัวผ้าดูเด่น ดวงตาสุกใสคมเข้มด้วยการแต่งหน้าอย่างสตรีอาหรับ ผมยาวสลวยปล่อยเป็นอิสระทิ้งตัวเป็นแพไปยังด้านหลังเช่นนี้ ชายหนุ่มก็แทบจะหยุดหายใจลืมถ้อยคำที่ต้องการจะต่อว่าไปเสียสิ้น
“ขอโทษด้วยนะคะท่านชีคที่ช้า ดิฉันพาคุณเพชรไพลินมาส่งค่ะ” รัตติกาลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าชีคมุซตาฮ์ซานเอาแต่จ้องมองเพชรไพลิน จนเจ้าตัวหน้าแดงก่ำก้มหน้างุดหลบสายตาหวามที่จ้องมองเธออย่างเปิดเผย
“เธอก็ไปทานข้าวด้วยกันสิรัตติกาล” ชีคหนุ่มเอ่ยชวนแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องอาหาร
รัตติกาลเห็นดังนั้นก็ถึงกับลอบขำ ชีคก็เขินเป็นเหมือนกันนึกว่าเก่งแต่ทำหน้ายักษ์เสียอีก
“คุณเพชรสวยจนท่านชีคตะลึงไปเลย”
นางพยาบาลสาวสัพยอกคนเจ็บ
เพชรไพลินแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ภายในใจนั้นมันปั่นป่วนไปหมด เพราะสายตาของเขานั้นเหมือนกับครั้งที่เขามองเธอตอนที่เธอรำชุดรจนาเสี่ยงพวงมาลัยไม่มีผิด สายตาที่เคยทำให้เธอถึงกับแทบร่ายรำไม่ออก เธอควรจะดีใจ แล้วคิดเข้าข้างตัวเองว่าชีคมุซตาฮ์ซานยังรักตนอยู่ได้หรือไม่...
ทว่าความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าตอกย้ำให้หญิงสาวจดจำได้ขึ้นใจ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ แค่คำว่ารักมันไม่เพียงพอสำหรับทั้งสองคน หากอีกฝ่ายยังมีหมอกหนาบังตาเอาไว้ราวกับม่าน กางกั้นสายสัมพันธ์ของคนสองคนเอาไว้ ที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นและทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอทุกข์ใจ เมธาวีและกมลทิพย์ทำให้เพชรไพลินถึงกับก้าวขาแทบไม่ออก
กมลทิพย์เองก็ถึงกับยืนขึ้นด้วยความตกใจ ทั้งที่มั่นใจว่ากำจัดนังเพชรไพลินไปจนพ้นทางแล้ว แต่ทำไม! ทำไมแม่นางรำหน้าหวานถึงมาอยู่ที่คฤหาสน์ซาบาฮัทได้ เมื่อสำเหนียกว่าทำกิริยาไม่เหมาะสมเธอก็แย้มยิ้มแล้วเอ่ยทักทายออกไปอย่างเสียไม่ได้
“อ้าวเพชรก็อยู่หรือเนี่ย ดีเลยค่ะระหว่างที่ทิพย์ทำงานอยู่ที่นี่จะได้มีเพื่อนคุย” หญิงสาวหันไปยิ้มหวานให้ชีคมุซตาฮ์ซาน
***********
แหม...ท่านชีคเอ๋ยยยย ยังรักหนูเพชรก็พูดมา ดูแลดีเชียว
บทที่ 18 เป็นบทสุดท้ายที่จะลงให้อ่านกันจริงๆแล้วจ้า ซึ่งเหลืออีกประมาณ 3 ตอนย่อยได้ ถ้าค้างคาอยากรู้ตอนจบกัน ยังคงสั่งซื้อได้เรื่อยๆนะคะ ทั้งรูปแบบเล่มหนังสือและ eBook
(แอบกระซิบว่า ในเล่มมีตอนพิเศษหวานๆ วาบหวามของท่านชีคกับหนูเพชรด้วยจ้า)
โปรฯสั่งซื้อราคาเท่าเปิดจองหมดเขตสิ้นเดือนกันยายนนี้นะคะ^^ จากราคาปก 372 บาท เหลือ 340 บาท (มีค่าส่งลงทะเบียนอีก 40 บาท รวมเป็น 380 บาท)
**ก่อนใช้สิทธิ์ อย่าลืมแจ้งแอดมินเพจสนพ.ก่อนนะคะว่ามาจากเว็บเลิฟ เพราะโปรฯ นี้เฉพาะนักอ่านจากเว็บ และสั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงเท่านั้นค่ะ**
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ดีไซน์เนอร์คนเก่งเล่าว่าท่านชีคเป็นคนให้ทุนแก่นักศึกษาในสายอาชีพต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นดีไซน์เนอร์ สถาปนิก วิศวกร ฯลฯ โดยเน้นเสมอว่าต้องคงความเป็นรามานเอาไว้ อย่าให้วัฒนธรรมต่างชาติเข้ามากลืนกินจนหมดไป
“ชุดสวยและเหมาะกับคุณมากเลยค่ะ” มาซาฮ์สาวใช้ที่เข้ามาทำความสะอาดห้องชีคหนุ่มถึงกับเอ่ยชม รัตติกาลมองอย่างเห็นด้วย
“มาซาฮ์ทำไมคุณพูดภาษาอังกฤษเก่งจัง ฉันเห็นสาวใช้ที่นี่พูดภาษาอังกฤษเก่งทุกคนเลย” เพชรไพลินละสายตาจากกระจกเงาหันไปมองมาซาฮ์อย่างสนเท่ห์ เธอว่าจะเอ่ยถามหลายครั้งแล้วแต่ก็ลืมทุกที
“ท่านชีคจ้างครูฝรั่งมาสอนให้พวกเราค่ะ ท่านบอกว่าพวกเราต้องคอยต้อนรับแขกของท่าน ดังนั้นจึงควรพูดภาษาอังกฤษสื่อสารให้คล่อง” ยามมาซาฮ์พูดถึงเจ้านายของตน ทั้งน้ำเสียงและสีหน้าแววฉายชัดว่าทั้งรักและเทิดทูนเจ้านายหนุ่มเหนือสิ่งอื่นใด
“ท่านชีคนี่ใส่ใจแม้กระทั่งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ สมแล้วที่ท่านประสบความสำเร็จทั้งทางธุรกิจและการปกครองรัฐรามาน”
รัตติกาลเอ่ยชมอย่างเปิดเผย
แน่นอนเพชรไพลินเห็นด้วยแต่ไม่คิดจะกล่าวเสริมคุณความดีของชีคหนุ่ม นั่นเพราะความร้ายกาจของเขามีเพียงเธอที่ได้เห็นมันนี่สิ
“ค่ะ พวกเราทุกคนรักท่านชีคมาก เกือบลืมไปเลยค่ะคุณเพชรไพลินรอสักครู่นะคะ เดี๋ยวดิฉันมา” มาซาฮ์วางไม้ขนไก่แล้วรีบเดินออก ไปจากห้อง ครู่ต่อมาก็กลับมาพร้อมดินสอสีดำ
“เขียนนี่เสียหน่อยสิคะ เนื้อในทำจากพลวงค่ะ ใช้เขียนขอบตาแล้วยังถนอมสายตาด้วย ไหนๆ ใส่อาบายาแล้วก็ต้องแต่งให้ครบค่ะ”
มาซาฮ์จัดแจงเมื่อเห็นเพชรไพลินตั้งท่าจะปฏิเสธ รัตติกาลก็รีบสนับสนุนอีกแรงทันที หญิงสาวจึงได้แต่นั่งเป็นตุ๊กตาให้มาซาฮ์และรัตติกาลจับแต่งสนุกสนาน
****************
เมื่อเวลาอาหารเย็นมาถึง ชีคมุซตาฮ์ซานเดินเข้ามาในห้องอาหารกวาดตามองไปรอบๆ ห้องเห็นเมธาวีสวมชุดเดรสสั้นผ่าอกสีแดงฉูดฉาดแต่งหน้าราวกับจะไปเที่ยวผับยามราตรี ส่วนกมลทิพย์อยู่ในชุดเดรสสีน้ำทะเลโชว์ไหล่แต่งหน้าจัดกว่าทุกครั้งจนเขาแปลกใจ ห้องทั้งห้องบรรยากาศเงียบจนน่ากลัว
เขาเดินไปหาฟาติมาซึ่งนั่งอยู่ก่อนแล้วด้วยท่าทางเรียบเฉย วางแขนลงบนไหล่ของน้องสาวแล้วพูดคุยด้วยภาษาอาหรับ
“เป็นอย่างไรบ้างฟาติมา พี่ไม่อยู่เกือบเดือนสบายดีหรือเปล่า”
“น้องสบายดีค่ะ แต่ตอนนี้ไม่ค่อยสบาย”
ฟาติมาพูดอย่างอารมณ์ไม่ดีนัก ชีคหนุ่มขมวดคิ้วด้วยความสงสัยเมื่อเห็นใบหน้าบูดบึ้งของน้องสาว
“ช่วยจัดการให้สองคนนั้นเลิกมองน้องเหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างทีเถอะค่ะ ผู้หญิงของพี่ชายนี่ไม่มีมารยาทเลย สงสัยคงคิดว่าน้องเป็นผู้หญิงของพี่แน่ๆ ถึงได้มองอย่างกับจะกินเลือดกินเนื้อน้องแบบนั้น” พูดไปแล้วก็แทบจะหลุดขำ ผู้หญิงสองคนนี้มีตาหามีแววไม่ เพราะใครต่างก็บอกเธอเสมอว่าเธอมีเค้าโครงหน้าคล้ายบิดา และพี่ชายของเธอก็ถอดแบบโครงหน้าจากบิดามาแทบทั้งหมด
“ผู้หญิงของพี่ที่ไหนกัน ก็แค่คู่ขา ส่วนอีกคนก็เป็นเลขาของพี่ต่างหากล่ะ”
“หรือคะ แต่น้องมองออกว่าจุดประสงค์ของยายเสื้อแดงกับยายเสื้อฟ้าเหมือนกัน คือจ้องจะจับพี่ชาย”
“เหลวไหลน่าฟาติมา เสื้อฟ้าน่ะชื่อกมลทิพย์เป็นเลขาของพี่ คนนี้นิสัยดี ไม่ทำเรื่องอะไรแบบนั้นหรอก” ชายหนุ่มแก้ตัวให้เลขานุการสาว
ทว่าฟาติมากลับเบะปากอย่างไม่เห็นด้วย จากที่นั่งอยู่ในห้องนี้ไม่ถึงห้านาทีเธอก็รับรู้ได้แล้วว่าสองคนนี้ร้ายพอกัน ถ้าพี่ชายเลือกใครคนใดคนหนึ่งมาเป็นพี่สะใภ้ของเธอละก็ เธอจะคัดค้านจนถึงที่สุดเลยเชียว
“ฉันขอแนะนำให้เธอทั้งสองคนรู้จัก นี่ฟาติมาน้องสาวฉันเอง” ชีคหนุ่มหันไปหาหญิงสาวทั้งสองแล้วพูดด้วยภาษาอังกฤษ
แน่นอนสิ่งที่ตามมาหลังจากทราบว่าฟาติมาคือน้องสาวของชีคหนุ่มก็คืออาการตกใจ หน้าซีดเผือด ก่อนจะปั้นหน้ายิ้มแย้มเป็นมิตร
“ยินดีที่ได้รู้จักค่ะฟาติมา ฉันชื่อกมลทิพย์ค่ะ แหมหน้าตาน่ารักเชียวนะคะท่านชีค” กมลทิพย์ตั้งตัวได้เร็วกว่าเมธาวีจึงรีบเอ่ยชมอีกฝ่าย แต่ก็ต้องหุบยิ้มเมื่อเห็นฟาติมานิ่งเฉยแล้วเมินหน้าไปทางอื่นเสียอย่างนั้น เมธาวีฉลาดพอที่จะไม่ทำให้อีกฝ่ายชังน้ำหน้าไปมากกว่าเดิมจึงเงียบเสีย
“ทานเลยหรือเปล่าคะน้องหิวแล้ว”
“เดี๋ยว อีกคนล่ะ” ชายหนุ่มมองหาเพชรไพลิน แล้วเหลือบมองนาฬิกาเรือนใหญ่ อีกสามนาทีจะได้เวลาหนึ่งทุ่มตรงทั้งที่เขากำชับกับเธอว่าห้ามมาสาย เธอจงใจขัดคำสั่งเขาหรืออย่างไร...
“ช่างเถอะค่ะ คงลงมาไม่ไหว ขาเจ็บขนาดนั้น” ฟาติมาเอ่ยท้วง
“พี่จะไปตามเอง” ชีคหนุ่มกลับผุดลุกขึ้นยืน แล้วเดินออกจากห้องอาหารไปด้วยความโกรธ กำลังจะเดินขึ้นบันไดก็พบกับตัวการที่ทำให้เขาหงุดหงิด เธอกำลังเดินลงบันไดโดยมีรัตติกาลคอยช่วยพยุง
เพชรไพลินเป็นคนสวยข้อนี้ชีคหนุ่มรู้ดี แต่เมื่อเธอสวมอาบายาสีครีมยาวกรอมเท้า มีเสื้อคลุมตัวยาวแขนกระบอกสีชมพูอ่อนเป็นผ้าลูกไม้ฝรั่งเศสสวมทับ ปลายเสื้อคลุมดิ้นด้วยไหมทองเป็นลวดลายขับให้ตัวผ้าดูเด่น ดวงตาสุกใสคมเข้มด้วยการแต่งหน้าอย่างสตรีอาหรับ ผมยาวสลวยปล่อยเป็นอิสระทิ้งตัวเป็นแพไปยังด้านหลังเช่นนี้ ชายหนุ่มก็แทบจะหยุดหายใจลืมถ้อยคำที่ต้องการจะต่อว่าไปเสียสิ้น
“ขอโทษด้วยนะคะท่านชีคที่ช้า ดิฉันพาคุณเพชรไพลินมาส่งค่ะ” รัตติกาลเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าชีคมุซตาฮ์ซานเอาแต่จ้องมองเพชรไพลิน จนเจ้าตัวหน้าแดงก่ำก้มหน้างุดหลบสายตาหวามที่จ้องมองเธออย่างเปิดเผย
“เธอก็ไปทานข้าวด้วยกันสิรัตติกาล” ชีคหนุ่มเอ่ยชวนแล้วเดินกลับเข้าไปในห้องอาหาร
รัตติกาลเห็นดังนั้นก็ถึงกับลอบขำ ชีคก็เขินเป็นเหมือนกันนึกว่าเก่งแต่ทำหน้ายักษ์เสียอีก
“คุณเพชรสวยจนท่านชีคตะลึงไปเลย”
นางพยาบาลสาวสัพยอกคนเจ็บ
เพชรไพลินแสร้งทำเป็นไม่สนใจ ทั้งที่ภายในใจนั้นมันปั่นป่วนไปหมด เพราะสายตาของเขานั้นเหมือนกับครั้งที่เขามองเธอตอนที่เธอรำชุดรจนาเสี่ยงพวงมาลัยไม่มีผิด สายตาที่เคยทำให้เธอถึงกับแทบร่ายรำไม่ออก เธอควรจะดีใจ แล้วคิดเข้าข้างตัวเองว่าชีคมุซตาฮ์ซานยังรักตนอยู่ได้หรือไม่...
ทว่าความจริงก็ปรากฏอยู่ตรงหน้าตอกย้ำให้หญิงสาวจดจำได้ขึ้นใจ จริงๆ แล้วมันไม่ใช่ แค่คำว่ารักมันไม่เพียงพอสำหรับทั้งสองคน หากอีกฝ่ายยังมีหมอกหนาบังตาเอาไว้ราวกับม่าน กางกั้นสายสัมพันธ์ของคนสองคนเอาไว้ ที่เขาทำทั้งหมดก็เพื่อแก้แค้นและทำทุกวิถีทางเพื่อให้เธอทุกข์ใจ เมธาวีและกมลทิพย์ทำให้เพชรไพลินถึงกับก้าวขาแทบไม่ออก
กมลทิพย์เองก็ถึงกับยืนขึ้นด้วยความตกใจ ทั้งที่มั่นใจว่ากำจัดนังเพชรไพลินไปจนพ้นทางแล้ว แต่ทำไม! ทำไมแม่นางรำหน้าหวานถึงมาอยู่ที่คฤหาสน์ซาบาฮัทได้ เมื่อสำเหนียกว่าทำกิริยาไม่เหมาะสมเธอก็แย้มยิ้มแล้วเอ่ยทักทายออกไปอย่างเสียไม่ได้
“อ้าวเพชรก็อยู่หรือเนี่ย ดีเลยค่ะระหว่างที่ทิพย์ทำงานอยู่ที่นี่จะได้มีเพื่อนคุย” หญิงสาวหันไปยิ้มหวานให้ชีคมุซตาฮ์ซาน
***********
แหม...ท่านชีคเอ๋ยยยย ยังรักหนูเพชรก็พูดมา ดูแลดีเชียว
บทที่ 18 เป็นบทสุดท้ายที่จะลงให้อ่านกันจริงๆแล้วจ้า ซึ่งเหลืออีกประมาณ 3 ตอนย่อยได้ ถ้าค้างคาอยากรู้ตอนจบกัน ยังคงสั่งซื้อได้เรื่อยๆนะคะ ทั้งรูปแบบเล่มหนังสือและ eBook
(แอบกระซิบว่า ในเล่มมีตอนพิเศษหวานๆ วาบหวามของท่านชีคกับหนูเพชรด้วยจ้า)
โปรฯสั่งซื้อราคาเท่าเปิดจองหมดเขตสิ้นเดือนกันยายนนี้นะคะ^^ จากราคาปก 372 บาท เหลือ 340 บาท (มีค่าส่งลงทะเบียนอีก 40 บาท รวมเป็น 380 บาท)
**ก่อนใช้สิทธิ์ อย่าลืมแจ้งแอดมินเพจสนพ.ก่อนนะคะว่ามาจากเว็บเลิฟ เพราะโปรฯ นี้เฉพาะนักอ่านจากเว็บ และสั่งซื้อกับสนพ.โดยตรงเท่านั้นค่ะ**
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ก.ย. 2561, 23:32:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ก.ย. 2561, 23:32:29 น.
จำนวนการเข้าชม : 571
| << บทที่ 17 -100% | บทที่ 18 -60% >> |