รักรออุ้ม: ทักษิณา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
ความคึกคะนอง ย่ามใจของเขา กับความอ่อนด้อยประสบการณ์ของเธอ ก่อเกิดหนึ่งชีวิตที่ไม่ตั้งใจขึ้นมา
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘น้องปั้น’ หรือ เด็กชายปกกานต์ หนูน้อยไร้เดียงสาเปรียบดั่งแสงสว่างสาดเข้ามาในชีวิตที่มืดมนของ ‘ปกเกศ’ เธอตั้งใจจะปกป้องลูกน้อยจากทุกสิ่งทุกอย่าง ไม่เว้นแม้แต่...บิดาแท้ๆ ของแก ซึ่งไม่เคยดีพอในสายตาของเธอด้วยเช่นกัน
‘กานต์ชนก’ ชายหนุ่มทายาทนักธุรกิจคนดัง รูปหล่อพ่อรวยครบสูตรหนุ่มในฝัน แต่นิสัยและพฤติกรรมนั้นค่อนไปในทางฝันร้าย
เขาไม่เคยคิดจะเปลี่ยนแปลงตัวเองเพื่อใคร จนมาพบกับปกเกศ ผู้หญิงสวยธรรมดาๆ ที่เขาไม่เคยคิดอะไรมากไปกว่า ‘เล่นแล้วทิ้ง’
ทว่าการเล่นกลับเลยเถิด...ก่อเกิดหนูน้อยน่ารัก ที่เหมือนเขาราวกับแกะ เพียงแค่แรกเห็นก็นึกอยากอุ้ม
...แต่ทุกอย่างไม่ใช่เรื่องง่ายเสียแล้ว...
อีกบทพิสูจน์หัวใจ ความรัก และคำว่า ‘ครอบครัว’
แม้เกิดจากความไม่ตั้งใจ แต่ ‘น้องปั้น’ คือดวงใจของแม่ และที่ไม่มีใครรู้เลยก็คือ...เด็กน้อยเป็นแก้วตาของพ่อด้วยเช่นกัน
***************
นิยายเรื่องนี้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ซึ่งถ่ายทอดผ่านปลายปากกา "ทักษิณา" เจ้าของบทประพันธ์นิยายรักสุดแสนน่ารักมากมาย ที่เคยถูกสร้างเป็นละคร ทั้งทางช่อง 3 และช่อง 7 มาแล้วอย่าง #บ่วงอธิฏฐาน #เรือนล้อมรัก กลับมาครั้งนี้ ‘ทักษิณา’ ขอเอาใจแฟนๆ ด้วยนิยายรักโรแมนติกดราม่าที่ #มีลูกเป็นสื่อรัก ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครสายนี้รับรองว่าต้องโดนใจกับความน่ารักน่าหยิกของ ‘น้องปั้น’ ใน ‘รักรออุ้ม’ อย่างแน่นอนจ้า พ่วงด้วยความร้ายกาจ เอาแต่ใจ และความเจ้าเล่ห์ของว่าที่คุณพ่อมือใหม่อย่าง ‘กานต์ชนก’ ! พูดเลยทั้งฟิน+ดราม่า ตะเตือนไต #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 3 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านนิยายออนไลน์ ได้แก่ ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbooktogothailand และร้านขายการ์ตูนบงกช-หมึกจีน-นิยาย บาร์บี้บิวตี้
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
**หนังสือพร้อมส่ง**
คุ้มสุดด้วยจำนวน 521 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนท้ายเล่มหวานฟินเต็มอิ่มจุใจ!)
ราคา: 365฿ (จากปก 395฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 410฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 435฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ลูก ครอบครัว ดราม่า โรแมนติก ท้อง
ตอน: บทที่ 17 -50%
เย็นวันนี้นิลยาแวะมาเยี่ยมปกเกศและลูกชายที่บ้าน พร้อมของฝากเป็นอาหารบำรุงสุขภาพทั้งคุณแม่และผ้าอ้อมสำหรับคุณลูกอีกหลายห่อ หอบพะรุงพะรังจนปกเกศซึ่งกำลังเตรียมน้ำในสระเป่าลมเล็กๆ สำหรับเด็กทารกอยู่ลานหน้าบ้าน ต้องวางมือมารับของฝากจากเพื่อนเอาเข้าไปเก็บในบ้าน ก่อนจะกลับออกมาอีกครั้ง พร้อมร่างจิ๋วอ้วนกลมของลูกน้อยในอ้อมแขน
นิลยาช่วยเพื่อนเตรียมน้ำเกลือให้น้องปั้น ไม่ช้าเด็กน้อยก็ถูกนำลงไปแช่ในน้ำ โดยสวมห่วงยางจิ๋วสำหรับช่วยประคองตัวไว้ด้วย
พ่อหนูหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ใช้ขาป้อมๆ พุ้ยน้ำไม่หยุด อารมณ์ดีมีความสุขจนผู้ใหญ่ทั้งสองอดหัวเราะไม่ได้
“น่ารักจังเลยน้องปั้นของน้านิล ถ้าน้ามีลูกสาว จะรีบรับหนูมาเป็นเขยเลยนะเนี่ย”
นิลยาเอ็นดูพ่อหนูตัวกลมขาวอวบ จ้ำม่ำน่าฟัด
“คิดไปถึงไหนกันยายนิล กว่าเธอจะแต่งงาน กว่าจะมีลูก จะให้น้องปั้นเลี้ยงต้อยหรือไง”
“ดีออก รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ผูกพันกันดี” นิลยายังจินตนาการต่อไม่หยุด
“พูดอย่างนี้แสดงว่าตัดใจจากพี่ไนยแล้วจริงๆ...” ปกเกศพูดยังไม่จบก็รู้สึกวูบ จนต้องสะบัดศีรษะไปมาพร้อมกับหลับตาลง หัวคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันน้อยๆ ใบหน้านวลขาวเผือดซีดเซียวอยู่แล้ว ยิ่งปราศจากสีเลือดเหมือนกระดาษขาว นิลยามัวแต่เล่นกับน้องปั้น ลืมสนใจเพื่อนไปชั่วขณะ
ปกเกศนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนิลยา และล้มลงไปนอนกับพื้นต่อหน้าเพื่อนรักทั้งอย่างนั้น ทำเอานิลยาหน้าเหวอ ร้องลั่นอย่างตกใจทันที
“เฮ้ย เกศ เป็นอะไร!!”
หญิงสาวรีบเข้าไปประคองร่างอ่อนปวกเปียกไม่ได้สติของเพื่อนรักขึ้นมาดูอาการ ปกเกศผอมลงไปมาก เดิมทีเพื่อนเธอก็จัดว่าเป็นคนท้องที่ไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่อยู่แล้ว มาตอนนี้ยิ่งดูซูบซีดอิดโรยจนน่าใจหาย
เวรกรรม แล้วเธอจะทำอย่างไรดี...
“เกศ...เป็นอะไร ตื่นสิ อย่าทำให้เราตกใจสิเกศ!”
นิลยาเขย่าร่างบอบบางเหลือเกินของอีกฝ่าย ยิ่งใจเสียเมื่อไม่มีทีท่าว่าปกเกศจะฟื้นขึ้นมาแต่อย่างใด สีหน้าขาวเผือดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เธอกลัวจับใจ
ทว่าในท่ามกลางความตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกของเจ้าตัว เสียงเข้มกังวานมีอำนาจของใครคนหนึ่งก็ดังมาจากประตูรั้วด้านนอก ทำเอานิลยาสะดุ้งโหยง หน้าตาตื่น
“เกศเป็นอะไร เปิดประตูให้หน่อยสิ เร็ว!!”
“คุณ...เฮ้ย คุณ...” นิลยาคุ้นหน้าอีกฝ่ายมากเหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน แต่ไม่มีเวลาได้คิด เพราะฝ่ายนั้นเสียงดุ เร่งยิก
“มัวแต่เอ้ออ่าอะไรอยู่ได้ เร็วสิ รีบมาเปิดประตู ไม่เป็นห่วงปกเกศหรือไง!”
กานต์ชนกตำหนิใส่ฝ่ายที่เอาแต่มองมาตาค้าง นั่นเองนิลยาจึงได้สติ เธอเห็นเขาเรียกปกเกศก็แสดงว่าต้องรู้จักกัน ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วให้อีกฝ่ายผ่านเข้ามาภายในบ้านได้
ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ตรงเข้าไปอุ้มร่างของปกเกศลอยหวือ เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างง่ายดาย กำลังจะพาเธอเดินไปที่รถของเขาซึ่งจอดรออยู่ด้านนอกอยู่แล้ว แต่สายตาคมเหลือบไปเห็นลูกตาแป๋วๆ ที่มองเขม็งมาอย่างสนใจ
กานต์ชนกชะงัก มองเจ้าหนูตัวจิ๋วซึ่งลอยตัวอยู่ในสระน้ำเป่าลมเล็กๆ หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกได้
“แอ๊...” เด็กน้อยเงื้อง่าแขนป้อมๆ เรียกผู้เป็นแม่ แต่ผู้ชายตัวโตแปลกหน้ากลับพาแม่ของเจ้าตัวเดินหนีไป ก็ยิ่งกรีดร้องดังขึ้น
“แอ๊ๆๆ!!”
“ดูแลเด็กก่อนนะคุณ ผมจะพาปกเกศไปโรงพยาบาล” กานต์ชนกหันมาสั่งนิลยาก่อนจะพาแม่ของเด็กออกจากบ้านไปขึ้นรถของเขา ซึ่งจอดอยู่ด้านนอกรั้วบ้าน
“แงๆๆ!!”
น้องปั้นตีน้ำไปมา หน้ากลมแดงก่ำเบะเบี้ยว แก้มอิ่มเปื้อนน้ำตาหยดเผาะเมื่อเจ้าตัวร้องไห้โฮเสียงลั่น
“โอ๋...อย่าร้องน้องปั้น อย่าร้องลูก แม่ไปหาหมอ เดี๋ยวก็กลับมาครับคนเก่ง”
นิลยาอุ้มพ่อหนูขึ้นมาจากสระน้ำ โอบกอดร่างจิ๋วแนบอกของเธอก็แล้ว แต่เด็กน้อยก็ยังร่ำไห้สะอึกสะอื้นเอาแต่ร้องหาแม่ไม่หยุด ร่างจิ๋วหลิวแดงก่ำไปทั้งตัวจนนิลยาสงสารแทบขาดใจ ขณะกำลังไม่รู้จะจัดการอย่างไรดีก็ราวกับสวรรค์เมตตา เพราะรถยนต์ส่วนตัวของธีรไนยแล่นมาจอดเทียบหน้าประตูรั้วพอดี
นิลยายิ้มหน้าบานตื่นเต้นดีใจที่เห็นอีกฝ่าย รีบอุ้มน้องปั้นวิ่งมาหา
“พี่ไนยมาแล้ว ดีจังเลย”
“มาเยี่ยมยายเกศกับน้องปั้นเหรอนิล...แล้วนี่เกศไปไหนล่ะ?”
ธีรไนยลดกระจกข้างคนขับลง ชะโงกหน้ามาส่งยิ้มพร้อมถามไถ่อีกฝ่าย หน้าตาตื่นๆ ของเธอทำให้เขาประหลาดใจยิ่ง
“ยายเกศเป็นลมค่ะพี่ไนย ตอนนี้ไปโรงพยาบาลแล้ว”
“ฮะ!” ธีรไนยตกใจไม่น้อย
“แล้วยายเกศไปโรงพยาบาลยังไง คนเดียวเหรอ!?”
“ไม่ค่ะไม่ มีเพื่อนบ้าน...น่าจะเป็นเพื่อนบ้านมั้งคะ นิลคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นมาก่อน...นั่นละค่ะ เขามาช่วยพายายเกศไปส่งโรงพยาบาล” นิลยารายงาน แต่แล้วเธอก็ถึงกับสะดุดเมื่อธีรไนยซักต่อเสียงเข้ม
“เพื่อนบ้าน...ผู้ชายเหรอ ใครกัน?”
“เอ่อ...ไม่ค่ะ นิลไม่รู้จัก...” หญิงสาวหน้าเจื่อนไปทันทีเมื่อนึกถึงตรงนี้ เริ่มรู้สึกแปลกๆ ไม่ดีเสียแล้ว “ขอโทษนะคะ...นิลมัวแต่ตกใจ แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็เข้ามาพอดี นิลก็เลย...ไม่ทันได้ถามอะไรเขา...”
ใบหน้าเคร่งเครียดของธีรไนยยิ่งดุขึงน่ากลัว จนนิลยาต้องหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตาด้วย
เขาโกรธเธอแน่เลย เวรกรรม...เดิมทีเขาก็ไม่ได้ชอบเธออยู่แล้วด้วย
ธีรไนยก้าวลงจากรถ หน้าบึ้งตึง เขารับตัวหลานชายไปอุ้มปลอบ เสียงร้องไห้จ้าคลายลงเล็กน้อย แต่พ่อหนูยังสะอึกสะอื้นจมูกแดงก่ำน่าสงสารจับใจ ชายหนุ่มเขย่าร่างจ้อยเบาๆ ปลอบโยนพ่อหนูไปพลางก็หยิบโทรศัพท์กดโทร.หาเบอร์มือถือของน้องสาว เสียงสัญญาณว่าสายว่าง แต่ไม่มีคนรับยิ่งสร้างความกังวลให้ธีรไนย
“สงสัยยายเกศจะไม่ได้เอามือถือติดตัวไปด้วย”
“อ้าว งั้นทำยังไงดีคะ”
นิลยาหน้าจ๋อย รู้สึกเป็นความผิดของตัวเองที่ไม่รอบคอบพอ เลยไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไร แล้วเขาพาปกเกศไปโรงพยาบาลไหน
“พี่จะตามไปถามดูที่โรงพยาบาลแถวนี้ คิดว่าคงไม่ไปไหนไกลนักหรอก” ว่าแล้วธีรไนยก็จะกลับขึ้นรถ แต่นิลยาร้องเรียกเขาเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวค่ะพี่ไนย ให้นิลไปด้วยนะคะ นิลจะช่วยอุ้มน้องปั้นให้เองค่ะ”
เธอรีบเสนอตัว อยากเป็นประโยชน์กับเขาบ้าง อีกอย่างก็เป็นห่วงเขาด้วย จะขับรถไปด้วยดูแลเด็กไปด้วยก็คงไม่สะดวกนักหรอก
ทว่ารอยยิ้มอ่อนโยน ดูผ่อนคลายขึ้นของเขาที่ส่งกลับมาพร้อมคำว่า “ขอบใจ” นั้น ก็ทำเอาหญิงสาวแก้มร้อนซู่ หัวใจพองโต เต้นรัว
...ขอแค่พี่ไนยไม่โกรธ ให้ทำอะไรเธอก็ยอมทั้งนั้น
************
ตอนนี้พ่อลูกเค้าเจอกันแล้วนะคะ^^
รักรออุ้มยังมีวางขายที่งานหนังสืออย่างต่อเนื่องนะคะ ล่าสุดสนพ.เพิ่งนำไปเติมมาจ้าเนื่องจากได้รับสายตรงจากทางบูธว่าหมดแล้ว เลยรีบไปเติมกันด่วนจี๋ มือไม้สั่นกันเลยทีเดียว 555+ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากๆๆๆ เลยค่ะ >///<
มีวางขาย 2 บูธนะ โซน C1
บูธ O06 และ N22
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
นิลยาช่วยเพื่อนเตรียมน้ำเกลือให้น้องปั้น ไม่ช้าเด็กน้อยก็ถูกนำลงไปแช่ในน้ำ โดยสวมห่วงยางจิ๋วสำหรับช่วยประคองตัวไว้ด้วย
พ่อหนูหัวเราะเอิ๊กอ๊าก ใช้ขาป้อมๆ พุ้ยน้ำไม่หยุด อารมณ์ดีมีความสุขจนผู้ใหญ่ทั้งสองอดหัวเราะไม่ได้
“น่ารักจังเลยน้องปั้นของน้านิล ถ้าน้ามีลูกสาว จะรีบรับหนูมาเป็นเขยเลยนะเนี่ย”
นิลยาเอ็นดูพ่อหนูตัวกลมขาวอวบ จ้ำม่ำน่าฟัด
“คิดไปถึงไหนกันยายนิล กว่าเธอจะแต่งงาน กว่าจะมีลูก จะให้น้องปั้นเลี้ยงต้อยหรือไง”
“ดีออก รู้จักกันมาตั้งแต่เด็ก ผูกพันกันดี” นิลยายังจินตนาการต่อไม่หยุด
“พูดอย่างนี้แสดงว่าตัดใจจากพี่ไนยแล้วจริงๆ...” ปกเกศพูดยังไม่จบก็รู้สึกวูบ จนต้องสะบัดศีรษะไปมาพร้อมกับหลับตาลง หัวคิ้วเรียวขมวดเข้าหากันน้อยๆ ใบหน้านวลขาวเผือดซีดเซียวอยู่แล้ว ยิ่งปราศจากสีเลือดเหมือนกระดาษขาว นิลยามัวแต่เล่นกับน้องปั้น ลืมสนใจเพื่อนไปชั่วขณะ
ปกเกศนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับนิลยา และล้มลงไปนอนกับพื้นต่อหน้าเพื่อนรักทั้งอย่างนั้น ทำเอานิลยาหน้าเหวอ ร้องลั่นอย่างตกใจทันที
“เฮ้ย เกศ เป็นอะไร!!”
หญิงสาวรีบเข้าไปประคองร่างอ่อนปวกเปียกไม่ได้สติของเพื่อนรักขึ้นมาดูอาการ ปกเกศผอมลงไปมาก เดิมทีเพื่อนเธอก็จัดว่าเป็นคนท้องที่ไม่ค่อยอ้วนเท่าไหร่อยู่แล้ว มาตอนนี้ยิ่งดูซูบซีดอิดโรยจนน่าใจหาย
เวรกรรม แล้วเธอจะทำอย่างไรดี...
“เกศ...เป็นอะไร ตื่นสิ อย่าทำให้เราตกใจสิเกศ!”
นิลยาเขย่าร่างบอบบางเหลือเกินของอีกฝ่าย ยิ่งใจเสียเมื่อไม่มีทีท่าว่าปกเกศจะฟื้นขึ้นมาแต่อย่างใด สีหน้าขาวเผือดของอีกฝ่ายยิ่งทำให้เธอกลัวจับใจ
ทว่าในท่ามกลางความตื่นตระหนกทำอะไรไม่ถูกของเจ้าตัว เสียงเข้มกังวานมีอำนาจของใครคนหนึ่งก็ดังมาจากประตูรั้วด้านนอก ทำเอานิลยาสะดุ้งโหยง หน้าตาตื่น
“เกศเป็นอะไร เปิดประตูให้หน่อยสิ เร็ว!!”
“คุณ...เฮ้ย คุณ...” นิลยาคุ้นหน้าอีกฝ่ายมากเหมือนเคยเห็นเขาที่ไหนมาก่อน แต่ไม่มีเวลาได้คิด เพราะฝ่ายนั้นเสียงดุ เร่งยิก
“มัวแต่เอ้ออ่าอะไรอยู่ได้ เร็วสิ รีบมาเปิดประตู ไม่เป็นห่วงปกเกศหรือไง!”
กานต์ชนกตำหนิใส่ฝ่ายที่เอาแต่มองมาตาค้าง นั่นเองนิลยาจึงได้สติ เธอเห็นเขาเรียกปกเกศก็แสดงว่าต้องรู้จักกัน ดังนั้นหญิงสาวจึงรีบวิ่งไปเปิดประตูรั้วให้อีกฝ่ายผ่านเข้ามาภายในบ้านได้
ชายหนุ่มก้าวยาวๆ ตรงเข้าไปอุ้มร่างของปกเกศลอยหวือ เข้าไปอยู่ในอ้อมแขนของเขาอย่างง่ายดาย กำลังจะพาเธอเดินไปที่รถของเขาซึ่งจอดรออยู่ด้านนอกอยู่แล้ว แต่สายตาคมเหลือบไปเห็นลูกตาแป๋วๆ ที่มองเขม็งมาอย่างสนใจ
กานต์ชนกชะงัก มองเจ้าหนูตัวจิ๋วซึ่งลอยตัวอยู่ในสระน้ำเป่าลมเล็กๆ หัวใจของเขาเต้นแรงขึ้นจนรู้สึกได้
“แอ๊...” เด็กน้อยเงื้อง่าแขนป้อมๆ เรียกผู้เป็นแม่ แต่ผู้ชายตัวโตแปลกหน้ากลับพาแม่ของเจ้าตัวเดินหนีไป ก็ยิ่งกรีดร้องดังขึ้น
“แอ๊ๆๆ!!”
“ดูแลเด็กก่อนนะคุณ ผมจะพาปกเกศไปโรงพยาบาล” กานต์ชนกหันมาสั่งนิลยาก่อนจะพาแม่ของเด็กออกจากบ้านไปขึ้นรถของเขา ซึ่งจอดอยู่ด้านนอกรั้วบ้าน
“แงๆๆ!!”
น้องปั้นตีน้ำไปมา หน้ากลมแดงก่ำเบะเบี้ยว แก้มอิ่มเปื้อนน้ำตาหยดเผาะเมื่อเจ้าตัวร้องไห้โฮเสียงลั่น
“โอ๋...อย่าร้องน้องปั้น อย่าร้องลูก แม่ไปหาหมอ เดี๋ยวก็กลับมาครับคนเก่ง”
นิลยาอุ้มพ่อหนูขึ้นมาจากสระน้ำ โอบกอดร่างจิ๋วแนบอกของเธอก็แล้ว แต่เด็กน้อยก็ยังร่ำไห้สะอึกสะอื้นเอาแต่ร้องหาแม่ไม่หยุด ร่างจิ๋วหลิวแดงก่ำไปทั้งตัวจนนิลยาสงสารแทบขาดใจ ขณะกำลังไม่รู้จะจัดการอย่างไรดีก็ราวกับสวรรค์เมตตา เพราะรถยนต์ส่วนตัวของธีรไนยแล่นมาจอดเทียบหน้าประตูรั้วพอดี
นิลยายิ้มหน้าบานตื่นเต้นดีใจที่เห็นอีกฝ่าย รีบอุ้มน้องปั้นวิ่งมาหา
“พี่ไนยมาแล้ว ดีจังเลย”
“มาเยี่ยมยายเกศกับน้องปั้นเหรอนิล...แล้วนี่เกศไปไหนล่ะ?”
ธีรไนยลดกระจกข้างคนขับลง ชะโงกหน้ามาส่งยิ้มพร้อมถามไถ่อีกฝ่าย หน้าตาตื่นๆ ของเธอทำให้เขาประหลาดใจยิ่ง
“ยายเกศเป็นลมค่ะพี่ไนย ตอนนี้ไปโรงพยาบาลแล้ว”
“ฮะ!” ธีรไนยตกใจไม่น้อย
“แล้วยายเกศไปโรงพยาบาลยังไง คนเดียวเหรอ!?”
“ไม่ค่ะไม่ มีเพื่อนบ้าน...น่าจะเป็นเพื่อนบ้านมั้งคะ นิลคุ้นๆ เหมือนเคยเห็นมาก่อน...นั่นละค่ะ เขามาช่วยพายายเกศไปส่งโรงพยาบาล” นิลยารายงาน แต่แล้วเธอก็ถึงกับสะดุดเมื่อธีรไนยซักต่อเสียงเข้ม
“เพื่อนบ้าน...ผู้ชายเหรอ ใครกัน?”
“เอ่อ...ไม่ค่ะ นิลไม่รู้จัก...” หญิงสาวหน้าเจื่อนไปทันทีเมื่อนึกถึงตรงนี้ เริ่มรู้สึกแปลกๆ ไม่ดีเสียแล้ว “ขอโทษนะคะ...นิลมัวแต่ตกใจ แล้วผู้ชายคนนั้นเขาก็เข้ามาพอดี นิลก็เลย...ไม่ทันได้ถามอะไรเขา...”
ใบหน้าเคร่งเครียดของธีรไนยยิ่งดุขึงน่ากลัว จนนิลยาต้องหลุบตาลงต่ำ ไม่กล้าสบตาด้วย
เขาโกรธเธอแน่เลย เวรกรรม...เดิมทีเขาก็ไม่ได้ชอบเธออยู่แล้วด้วย
ธีรไนยก้าวลงจากรถ หน้าบึ้งตึง เขารับตัวหลานชายไปอุ้มปลอบ เสียงร้องไห้จ้าคลายลงเล็กน้อย แต่พ่อหนูยังสะอึกสะอื้นจมูกแดงก่ำน่าสงสารจับใจ ชายหนุ่มเขย่าร่างจ้อยเบาๆ ปลอบโยนพ่อหนูไปพลางก็หยิบโทรศัพท์กดโทร.หาเบอร์มือถือของน้องสาว เสียงสัญญาณว่าสายว่าง แต่ไม่มีคนรับยิ่งสร้างความกังวลให้ธีรไนย
“สงสัยยายเกศจะไม่ได้เอามือถือติดตัวไปด้วย”
“อ้าว งั้นทำยังไงดีคะ”
นิลยาหน้าจ๋อย รู้สึกเป็นความผิดของตัวเองที่ไม่รอบคอบพอ เลยไม่รู้ว่าผู้ชายคนนั้นชื่ออะไร แล้วเขาพาปกเกศไปโรงพยาบาลไหน
“พี่จะตามไปถามดูที่โรงพยาบาลแถวนี้ คิดว่าคงไม่ไปไหนไกลนักหรอก” ว่าแล้วธีรไนยก็จะกลับขึ้นรถ แต่นิลยาร้องเรียกเขาเอาไว้ก่อน
“เดี๋ยวค่ะพี่ไนย ให้นิลไปด้วยนะคะ นิลจะช่วยอุ้มน้องปั้นให้เองค่ะ”
เธอรีบเสนอตัว อยากเป็นประโยชน์กับเขาบ้าง อีกอย่างก็เป็นห่วงเขาด้วย จะขับรถไปด้วยดูแลเด็กไปด้วยก็คงไม่สะดวกนักหรอก
ทว่ารอยยิ้มอ่อนโยน ดูผ่อนคลายขึ้นของเขาที่ส่งกลับมาพร้อมคำว่า “ขอบใจ” นั้น ก็ทำเอาหญิงสาวแก้มร้อนซู่ หัวใจพองโต เต้นรัว
...ขอแค่พี่ไนยไม่โกรธ ให้ทำอะไรเธอก็ยอมทั้งนั้น
************
ตอนนี้พ่อลูกเค้าเจอกันแล้วนะคะ^^
รักรออุ้มยังมีวางขายที่งานหนังสืออย่างต่อเนื่องนะคะ ล่าสุดสนพ.เพิ่งนำไปเติมมาจ้าเนื่องจากได้รับสายตรงจากทางบูธว่าหมดแล้ว เลยรีบไปเติมกันด่วนจี๋ มือไม้สั่นกันเลยทีเดียว 555+ ขอบคุณนักอ่านทุกท่านมากๆๆๆ เลยค่ะ >///<
มีวางขาย 2 บูธนะ โซน C1
บูธ O06 และ N22
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2561, 10:08:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2561, 10:08:21 น.
จำนวนการเข้าชม : 680
<< บทที่ 16 -100% | บทที่ 17 -100% >> |