ราคีสีเพลิง:รังสี ดุจดาริน รางนาก(ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ดีเลิศ’ และ ‘บัวบุษบา’ แต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า ริษยา โรมานซ์ กลับชาติมาเกิด คุณไสย
ตอน: บทที่ 7 ยาปลุกเซ็กส์ -50%
วิรงรองหอบกระเช้าผลไม้พร้อมของฝากมากมายมาเยือนเรือนเสน่ห์จันทน์ วันนี้เป็นวันอาทิตย์ หญิงสาวหมายมาดว่าอย่างไรก็ต้องได้พบดีเลิศแน่นอน เธอจึงลงทุนตื่นแต่เช้า บรรจงแต่งหน้า ทำผม เลือกเฟ้นเสื้อผ้าที่คิดว่าเธอใส่ออกมาแล้วสวยที่สุด เพื่อให้ดีเลิศประทับใจในตัวเธอ
วันนี้หญิงสาวมาในชุดเดรสเกาะอกสีน้ำเงินเข้ารูป ‘มีดีให้อวดจึงอวด’ วิรงรองภูมิใจในหน้าอกคัพซีบวกที่มารดาให้มา อกของเธอสวย เต่งตึงโดยไม่ต้องผ่านมีดหมอ ขนาดใหญ่กำลังพอดีแค่ดันให้เบียดชิดก็แทบล้นทะลักออกนอกเกาะอก ผู้ชายก็มองตามจนน้ำลายหก
“คุณท่านคะ คุณผู้หญิงคนนี้มาขอพบค่ะ”
สายพิณแม่บ้านร่างอวบเดินมารายงานเจ้านาย ใจจริงไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบ้าน แต่วิรงรองเรียกคุณท่านว่า ‘คุณยายเจิม’ แล้วยังบอกอีกด้วยว่า เจิมจันทร์นัดเธอมารับประทานอาหารที่เรือนเสน่ห์จันทน์ สายพิณจึงยอมให้เข้ามาแต่โดยดี
“สวัสดีค่ะคุณยายเจิม”
วิรงรองยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปเหลือบมองสายพิณด้วยหางตา พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงให้อีกฝ่ายวางของฝากไว้บนโต๊ะ
“วิซื้อของมาเยี่ยมคุณยายค่ะ วันนี้วิว่าง อยากมาอยู่เป็นเพื่อนคุยกับคุณยายค่ะ”
หญิงสาวพูดพลางมองหาชายหนุ่มที่เธอหมายปอง
“แหม...หนูวินี่น่ารักจริงๆ เลย รู้ใจว่าคนแก่ขี้เหงา”
ที่เจิมจันทร์รู้สึกถูกชะตาวิรงรอง ไม่ใช่เพียงเพราะวิรงรองมีหน้าตา ฐานะ และชาติตระกูลดี แต่เพราะทุกครั้งที่มองวิรงรอง ทำให้นางนึกถึงตัวเองตอนสาว นางกับวิรงรองเหมือนกันตรงที่หากได้รักใครแล้ว จะรักแน่นฝังใจไม่เปลี่ยนแปลง รักมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านเลยไปสักเท่าไรก็ยังคงรัก และความรักของนางต้องได้ครอบครองเป็นเจ้าของ
เป็นที่หนึ่ง และเป็นผู้ชนะ!
“วิอยู่กับคุณยายมาตั้งแต่เด็กค่ะ เลยชอบคุยกับคนสูงวัยกว่า เวลาคุยกับท่านเราก็จะได้รับความรู้ไปด้วย หรือไม่ก็เรื่องเก่าแก่ที่เราอาจหาอ่านที่ไหนไม่ได้แล้วน่ะค่ะ”
วิรงรองประจบ ทั้งที่ความจริงเธอเกลียดแสนเกลียดที่ต้องนั่งคุยกับคนแก่ เพราะคนแก่ขี้บ่น พูดซ้ำไปก็ซ้ำมาด้วยเรื่องเดิมๆ น่ารำคาญจะตาย
“แม่คุณน่ารักจริงเชียว เด็กสมัยนี้หายากที่จะยอมนั่งฟังคนแก่เล่าอดีต” เจิมจันทร์ยิ้ม ทว่าในใจกลับด่าหญิงสาวตรงหน้าว่า อีตอแหล! มึงคิดว่ากูไม่รู้หรือไง ว่ามึงมาหาผู้ชาย
“คุณยายเจิมดูไม่แก่เลยสักนิดนี่คะ นี่ถ้าบอกว่าอายุสี่สิบ วิก็เชื่อ”
“แหม หนูนี่ปากหวานเสียจริง ยายน่ะอีกไม่กี่ปีก็แปดสิบแล้ว” เจิมจันทร์หัวเราะร่วนอย่างถูกใจ เรื่องความสวยนางมั่นใจว่านางสวยเด่นไม่น้อยหน้าใคร นางจะเป็นผู้หญิงที่อายุเหยียบร้อยแต่ก็ยังดูสาวจนใครๆ ต้องอิจฉา แม้จะอยากดูเด็กกว่านี้อีกสักนิดแต่ทำไม่ได้ก็ตามทีเถอะ
“ถ้ายังไงหนูวิอยู่กินข้าวเที่ยงกับยายนะ ยายกำลังให้แม่บ้านตั้งสำรับพอดี”
“ค่ะคุณยาย”
วิรงรองรับคำอย่างไม่อิดออด ก่อนสอดส่ายสายตามองไปโดยรอบ
เรือนเสน่ห์จันทน์เป็นเรือนไทยไม้สักขนาดใหญ่อย่างที่หญิงสาวไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คงเป็นที่เรียกกันว่าเรือนคหบดี เพราะมีเรือนเล็กๆ เชื่อมต่อกันถึงหกหลัง
ตรงกลางที่เธอนั่งอยู่ในตอนนี้คือศาลาเปิดโล่ง ยกพื้นสูงเป็นตั่ง มีโต๊ะตัวใหญ่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร เยื้องกันมีต้นปีบขนาดใหญ่ ออกดอกสีขาวร่วงหล่นลงบนพื้นไม้น่ามอง
บ้านหลังนี้หากเป็นกลางวันก็ดูมีเสน่ห์ ให้ความรู้สึกอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยดีอยู่หรอกนะ แต่ถ้าให้มาตอนกลางคืนเห็นทีจะไม่ไหว พื้นที่เป็นสิบๆ ไร่ต้นไม้เต็มไปหมด แถมอยู่สุดซอยห่างไกลจากบ้านหลังอื่น ยิ่งคิดยิ่งจินตนาการก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“วิขออนุญาตคุณยายเดินดูรอบๆ บ้านได้ไหมคะ”
“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวสำรับอาหารตั้งเสร็จเมื่อไหร่จะให้แม่บ้านไปเรียก” เจิมจันทร์พยักหน้าอนุญาต ก่อนจะเหลือบตาไปมองผีพวง เพื่อให้ตามดูวิรงรองอย่าให้คลาดสายตา ไม่อย่างนั้นเดินทะเล่อทะล่าไปเจอพวกผีรับใช้หิวโหยเข้า พวกมันเห็นเป็นเหยื่อเพราะไม่เคยเห็นหน้า รุมจิกทึ้งกินหญิงสาวจนตายห่าตายโหงจะเสียการใหญ่
อย่างไรความร่ำรวยและชาติตระกูลของวิรงรองก็เป็นสิ่งที่เจิมจันทร์ต้องการ
เงินต่อเงิน ทองต่อทอง มีแต่ร่ำรวยไม่มีตกต่ำ!
วิรงรองเดินไปรอบๆ บ้านเรือนไทย ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ใต้ต้นปีบอย่างอารมณ์ดี ทว่าจังหวะนั้นประตูเรือนด้านหน้าสุดกลับเปิดออก ตามด้วยเจ้าของร่างสูงผู้ขโมยหัวใจของเธอไปตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อสาว
ดีเลิศก้าวข้ามธรณีประตูออกมา หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง เธอมองเขาด้วยความชื่นชมก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ราวกับต้องการเผยความในใจของเธอออกไปให้เขาได้รับรู้
ทว่าจู่ๆ ก็เหมือนไฟดับพรึบ!
วิรงรองรู้สึกเหมือนถูกกระชากแรงให้ตื่นจากความฝัน เมื่อดีเลิศหันไปจูงมือผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเดินตามกันมาหยุดต่อหน้าเธอ
“สวัสดีครับน้องวิ”
“สะ...สวัสดีค่ะพี่โต” วิรงรองหน้าถอดสี เหลือบมองมือหนาที่ยังคงกุมมือหญิงสาวข้างกายโดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย
ไฮโซสาวตวัดสายตามองผู้หญิงหน้าจืดตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร! แล้วทำไมดีเลิศถึงต้องให้ความสำคัญสนิทสนมกันถึงขนาดนี้ด้วย
วิรงรองสืบรู้มาว่า ดีเลิศมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อดมิสา เป็นกุมารแพทย์ ซึ่งจากประวัติที่เธอเคยเห็นนั้นดมิสามีใบหน้าสวยปนดุ ไม่ใช่สวยหวานปานน้ำผึ้งแบบนี้ แล้วดีเลิศยังมีลูกพี่ลูกน้องอีกสองคน คนหนึ่งเป็นนางเอกชื่อดังนามญาตาวี ซึ่งเธอคุ้นหน้าคุ้นตาดีในโทรทัศน์และเคยเจอทัก ทายกันบ้างตามงานอีเวนต์ ส่วนอีกคนชื่อญานีนก็ทำงานในสถานีโทรทัศน์วายอีเอส แน่นอนว่าวิรงรองเคยพบพูดคุยผ่านๆ เหมือนกัน
แล้วนังผู้หญิงคนนี้มันเป็นใคร!
“บัวจ๊ะ นี่น้องวิ วิรงรอง หลานสาวของเพื่อนสนิทคุณยาย”
ดีเลิศแนะนำบัวบุษบาให้รู้จักกับวิรงรอง บัวบุษบาจึงยิ้มให้อีกฝ่าย
ทว่า...อีกฝ่ายกลับแสร้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“น้องวิ นี่บัวครับ...ภรรยาของพี่เอง”
การแนะนำของดีเลิศ วิรงรองรู้สึกราวกับว่าเลือดในกายได้เหือดแห้งไปจนหมด ใบหน้าของเธอขาวซีด อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
อะไรกัน พี่โตแต่งงานแล้ว พี่โตแต่งงานแล้ว พี่โตแต่งงานแล้ว ไม่! ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ!
หญิงสาวถอยหลังไปหลายก้าว ตวัดสายตามองดีเลิศอย่างตัดพ้อ
วันนี้หญิงสาวมาในชุดเดรสเกาะอกสีน้ำเงินเข้ารูป ‘มีดีให้อวดจึงอวด’ วิรงรองภูมิใจในหน้าอกคัพซีบวกที่มารดาให้มา อกของเธอสวย เต่งตึงโดยไม่ต้องผ่านมีดหมอ ขนาดใหญ่กำลังพอดีแค่ดันให้เบียดชิดก็แทบล้นทะลักออกนอกเกาะอก ผู้ชายก็มองตามจนน้ำลายหก
“คุณท่านคะ คุณผู้หญิงคนนี้มาขอพบค่ะ”
สายพิณแม่บ้านร่างอวบเดินมารายงานเจ้านาย ใจจริงไม่อยากให้ผู้หญิงคนนี้เข้ามาในบ้าน แต่วิรงรองเรียกคุณท่านว่า ‘คุณยายเจิม’ แล้วยังบอกอีกด้วยว่า เจิมจันทร์นัดเธอมารับประทานอาหารที่เรือนเสน่ห์จันทน์ สายพิณจึงยอมให้เข้ามาแต่โดยดี
“สวัสดีค่ะคุณยายเจิม”
วิรงรองยกมือไหว้อย่างนอบน้อม ก่อนจะหันไปเหลือบมองสายพิณด้วยหางตา พยักหน้าน้อยๆ เป็นเชิงให้อีกฝ่ายวางของฝากไว้บนโต๊ะ
“วิซื้อของมาเยี่ยมคุณยายค่ะ วันนี้วิว่าง อยากมาอยู่เป็นเพื่อนคุยกับคุณยายค่ะ”
หญิงสาวพูดพลางมองหาชายหนุ่มที่เธอหมายปอง
“แหม...หนูวินี่น่ารักจริงๆ เลย รู้ใจว่าคนแก่ขี้เหงา”
ที่เจิมจันทร์รู้สึกถูกชะตาวิรงรอง ไม่ใช่เพียงเพราะวิรงรองมีหน้าตา ฐานะ และชาติตระกูลดี แต่เพราะทุกครั้งที่มองวิรงรอง ทำให้นางนึกถึงตัวเองตอนสาว นางกับวิรงรองเหมือนกันตรงที่หากได้รักใครแล้ว จะรักแน่นฝังใจไม่เปลี่ยนแปลง รักมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่ว่าเวลาจะผ่านเลยไปสักเท่าไรก็ยังคงรัก และความรักของนางต้องได้ครอบครองเป็นเจ้าของ
เป็นที่หนึ่ง และเป็นผู้ชนะ!
“วิอยู่กับคุณยายมาตั้งแต่เด็กค่ะ เลยชอบคุยกับคนสูงวัยกว่า เวลาคุยกับท่านเราก็จะได้รับความรู้ไปด้วย หรือไม่ก็เรื่องเก่าแก่ที่เราอาจหาอ่านที่ไหนไม่ได้แล้วน่ะค่ะ”
วิรงรองประจบ ทั้งที่ความจริงเธอเกลียดแสนเกลียดที่ต้องนั่งคุยกับคนแก่ เพราะคนแก่ขี้บ่น พูดซ้ำไปก็ซ้ำมาด้วยเรื่องเดิมๆ น่ารำคาญจะตาย
“แม่คุณน่ารักจริงเชียว เด็กสมัยนี้หายากที่จะยอมนั่งฟังคนแก่เล่าอดีต” เจิมจันทร์ยิ้ม ทว่าในใจกลับด่าหญิงสาวตรงหน้าว่า อีตอแหล! มึงคิดว่ากูไม่รู้หรือไง ว่ามึงมาหาผู้ชาย
“คุณยายเจิมดูไม่แก่เลยสักนิดนี่คะ นี่ถ้าบอกว่าอายุสี่สิบ วิก็เชื่อ”
“แหม หนูนี่ปากหวานเสียจริง ยายน่ะอีกไม่กี่ปีก็แปดสิบแล้ว” เจิมจันทร์หัวเราะร่วนอย่างถูกใจ เรื่องความสวยนางมั่นใจว่านางสวยเด่นไม่น้อยหน้าใคร นางจะเป็นผู้หญิงที่อายุเหยียบร้อยแต่ก็ยังดูสาวจนใครๆ ต้องอิจฉา แม้จะอยากดูเด็กกว่านี้อีกสักนิดแต่ทำไม่ได้ก็ตามทีเถอะ
“ถ้ายังไงหนูวิอยู่กินข้าวเที่ยงกับยายนะ ยายกำลังให้แม่บ้านตั้งสำรับพอดี”
“ค่ะคุณยาย”
วิรงรองรับคำอย่างไม่อิดออด ก่อนสอดส่ายสายตามองไปโดยรอบ
เรือนเสน่ห์จันทน์เป็นเรือนไทยไม้สักขนาดใหญ่อย่างที่หญิงสาวไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อน คงเป็นที่เรียกกันว่าเรือนคหบดี เพราะมีเรือนเล็กๆ เชื่อมต่อกันถึงหกหลัง
ตรงกลางที่เธอนั่งอยู่ในตอนนี้คือศาลาเปิดโล่ง ยกพื้นสูงเป็นตั่ง มีโต๊ะตัวใหญ่สำหรับนั่งรับประทานอาหาร เยื้องกันมีต้นปีบขนาดใหญ่ ออกดอกสีขาวร่วงหล่นลงบนพื้นไม้น่ามอง
บ้านหลังนี้หากเป็นกลางวันก็ดูมีเสน่ห์ ให้ความรู้สึกอนุรักษ์วัฒนธรรมไทยดีอยู่หรอกนะ แต่ถ้าให้มาตอนกลางคืนเห็นทีจะไม่ไหว พื้นที่เป็นสิบๆ ไร่ต้นไม้เต็มไปหมด แถมอยู่สุดซอยห่างไกลจากบ้านหลังอื่น ยิ่งคิดยิ่งจินตนาการก็ยิ่งรู้สึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ
“วิขออนุญาตคุณยายเดินดูรอบๆ บ้านได้ไหมคะ”
“ได้สิจ๊ะ เดี๋ยวสำรับอาหารตั้งเสร็จเมื่อไหร่จะให้แม่บ้านไปเรียก” เจิมจันทร์พยักหน้าอนุญาต ก่อนจะเหลือบตาไปมองผีพวง เพื่อให้ตามดูวิรงรองอย่าให้คลาดสายตา ไม่อย่างนั้นเดินทะเล่อทะล่าไปเจอพวกผีรับใช้หิวโหยเข้า พวกมันเห็นเป็นเหยื่อเพราะไม่เคยเห็นหน้า รุมจิกทึ้งกินหญิงสาวจนตายห่าตายโหงจะเสียการใหญ่
อย่างไรความร่ำรวยและชาติตระกูลของวิรงรองก็เป็นสิ่งที่เจิมจันทร์ต้องการ
เงินต่อเงิน ทองต่อทอง มีแต่ร่ำรวยไม่มีตกต่ำ!
วิรงรองเดินไปรอบๆ บ้านเรือนไทย ก่อนจะมาหยุดยืนอยู่ใต้ต้นปีบอย่างอารมณ์ดี ทว่าจังหวะนั้นประตูเรือนด้านหน้าสุดกลับเปิดออก ตามด้วยเจ้าของร่างสูงผู้ขโมยหัวใจของเธอไปตั้งแต่ยังไม่แตกเนื้อสาว
ดีเลิศก้าวข้ามธรณีประตูออกมา หัวใจของหญิงสาวเต้นแรง เธอมองเขาด้วยความชื่นชมก่อนจะส่งยิ้มกว้างให้ราวกับต้องการเผยความในใจของเธอออกไปให้เขาได้รับรู้
ทว่าจู่ๆ ก็เหมือนไฟดับพรึบ!
วิรงรองรู้สึกเหมือนถูกกระชากแรงให้ตื่นจากความฝัน เมื่อดีเลิศหันไปจูงมือผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเดินตามกันมาหยุดต่อหน้าเธอ
“สวัสดีครับน้องวิ”
“สะ...สวัสดีค่ะพี่โต” วิรงรองหน้าถอดสี เหลือบมองมือหนาที่ยังคงกุมมือหญิงสาวข้างกายโดยไม่มีทีท่าว่าจะปล่อย
ไฮโซสาวตวัดสายตามองผู้หญิงหน้าจืดตรงหน้าอย่างไม่พอใจ ผู้หญิงคนนี้เป็นใคร! แล้วทำไมดีเลิศถึงต้องให้ความสำคัญสนิทสนมกันถึงขนาดนี้ด้วย
วิรงรองสืบรู้มาว่า ดีเลิศมีน้องสาวหนึ่งคนชื่อดมิสา เป็นกุมารแพทย์ ซึ่งจากประวัติที่เธอเคยเห็นนั้นดมิสามีใบหน้าสวยปนดุ ไม่ใช่สวยหวานปานน้ำผึ้งแบบนี้ แล้วดีเลิศยังมีลูกพี่ลูกน้องอีกสองคน คนหนึ่งเป็นนางเอกชื่อดังนามญาตาวี ซึ่งเธอคุ้นหน้าคุ้นตาดีในโทรทัศน์และเคยเจอทัก ทายกันบ้างตามงานอีเวนต์ ส่วนอีกคนชื่อญานีนก็ทำงานในสถานีโทรทัศน์วายอีเอส แน่นอนว่าวิรงรองเคยพบพูดคุยผ่านๆ เหมือนกัน
แล้วนังผู้หญิงคนนี้มันเป็นใคร!
“บัวจ๊ะ นี่น้องวิ วิรงรอง หลานสาวของเพื่อนสนิทคุณยาย”
ดีเลิศแนะนำบัวบุษบาให้รู้จักกับวิรงรอง บัวบุษบาจึงยิ้มให้อีกฝ่าย
ทว่า...อีกฝ่ายกลับแสร้งเบือนหน้าหนีไปทางอื่น
“น้องวิ นี่บัวครับ...ภรรยาของพี่เอง”
การแนะนำของดีเลิศ วิรงรองรู้สึกราวกับว่าเลือดในกายได้เหือดแห้งไปจนหมด ใบหน้าของเธอขาวซีด อ้าปากค้างด้วยความตกใจ
อะไรกัน พี่โตแต่งงานแล้ว พี่โตแต่งงานแล้ว พี่โตแต่งงานแล้ว ไม่! ไม่จริง! ฉันไม่เชื่อ!
หญิงสาวถอยหลังไปหลายก้าว ตวัดสายตามองดีเลิศอย่างตัดพ้อ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 ธ.ค. 2561, 10:32:36 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 ธ.ค. 2561, 10:32:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 748
<< บทที่ 6 แผนการของเจิมจันทร์ -100% + เปิดจอง | บทที่ 7 ยาปลุกเซ็กส์ -100% >> |