ราคีสีเพลิง:รังสี ดุจดาริน รางนาก(ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ดีเลิศ’ และ ‘บัวบุษบา’ แต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!

หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!

*******************

ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ


*******************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee

หนังสือพร้อมส่ง

สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)

ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***


*******************

หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)

*******************

จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)

Tags: ผี ดราม่า ริษยา โรมานซ์ กลับชาติมาเกิด คุณไสย

ตอน: บทที่ 6 แผนการของเจิมจันทร์ -100% + เปิดจอง

วันนี้ทีมงานนำรายละเอียดในการสั่งจองซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์มาแปะให้ก่อนเลยค่ะ^^

-กรณีสั่งจองแยกเล่มหรือเรื่องใดเรื่องหนึ่ง

“ราคีสีเพลิง” ราคา 205฿ (จากราคาปก 218฿)
“มาลีเริงไฟ” ราคา 319฿ (จากราคาปก 340฿)
ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
สำหรับจัดส่ง EMS บวกเพิ่ม 30฿


-กรณีสั่งจองแพ็กคู่

“มาลีเริงไฟ” + “ราคีสีเพลิง”
ราคาเพียง 491฿ จากราคาเต็ม 558฿
ส่งฟรีแบบลงทะเบียน
สำหรับจัดส่ง EMS บวกเพิ่ม 45฿


**หนังสือพร้อมจัดส่งเดือนกุมภาพันธ์ 2562**

ช่องทางสั่งจอง
- เมล์ plaipakkabooks@gmail.com
- inbox เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
-ร้านนิยายรัก ร้านbooktogothailand ร้านบาร์บี้ บิวตี้ บุ๊ค

พร้อมรับของแถมเมื่อสั่งจองกับสนพ.โดยตรง ได้แก่ ที่คั่นหนังสือ + สมุดโน้ตแบบ memo card พร้อมปฏิทินปี 2562 (มีจำนวนจำกัด)

**การสั่งจอง กรุณาแจ้งชื่อนิยายที่สั่งจอง จำนวน และวิธีจัดส่ง + ชื่อผู้สั่งจอง**

เปิดจองวันนี้ – 31 มกราคม 2562 นะคะ



****************


เจิมจันทร์สั่งให้ผีพวงไปสืบประวัติของวิรงรองมาอย่างละเอียด ได้ความว่า วิรงรองเปิดร้านเสื้อผ้าแบรนด์ของตัวเองที่ห้างสรรพสินค้า และจะแวะเวียนไปตรวจร้านทุกเช้าวันศุกร์ ดังนั้นวันนี้เจิมจันทร์จึงแต่งตัวออกจากเรือนโดยไม่ลืมส่งข้อความไปนัดหลานชายคนโปรด

‘ยายออกมาทำธุระข้างนอก เที่ยงนี้พ่อโตออกมากินข้าวเป็นเพื่อนยายหน่อยนะ ยายจะรออยู่ที่ร้านอาหารญี่ปุ่นที่พ่อโตเคยพายายไป’

ผีพวงตามเจิมจันทร์เข้าไปในห้างสรรพสินค้าโดยไม่สนใจสายตาของพระภูมิเจ้าที่ที่มองมาอย่างไม่พอใจ พวงทำตัวเป็นผีอภิสิทธิ์ชน ไม่ว่าไปที่ไหนก็จะอวดเบ่ง บ้างก็ทำตัวระรานแย่งกินของเซ่นซึ่งเป็นของเจ้าของที่อย่างไม่แยแส ด้วยถือว่านายของมันมีของดี มีพรรคพวกผีมากมาย ผีตนไหนก็ไม่กล้าหาญสู้ แต่ถึงเจิมจันทร์จะมีอำนาจสักเพียงใด แต่ก็เลี้ยงดูผีรับใช้อย่างตระหนี่ เหล่าผีจึงพากันหิวโหยอยู่ตลอดเวลา

พวงลอยตามเจิมจันทร์อยู่ด้านหลัง เหลียวมองซ้ายมองขวา ส่งสายตาท้าทายหาเรื่องไปทั่ว ผิดจากตอนที่ออดอ้อนเอาใจเจ้านาย พวงจะทำตัวน่าสงสาร ดูทุกข์ทรมานราวกับจะขาดใจตาย แต่ถ้าลับหลังพวงคือผีรับใช้ที่กร่างที่สุดเพราะถือเป็นคนสนิท ได้รับความดีความชอบมาโดยตลอด ไม่เคยเลยสักครั้งที่จะถูกลงโทษด้วยหวายอาคม หรือขังไว้ในไหให้รับความทุกขเวทนาอย่างแสนสาหัส

เจิมจันทร์เดินเข้าไปในร้านเสื้อผ้าแบรนด์ดังของวิรงรอง ซึ่งได้รับความนิยมเป็นอันมาก มีขยายสาขาไปสิงคโปร์ ไต้หวัน ฮ่องกง และกำลังจะเปิดสาขาใหม่ที่ญี่ปุ่น เรียกได้ว่าไฮโซสาวหยิบจับอะไรเป็นเงินเป็นทองไปเสียหมด

หญิงชราแสร้งเข้าไปเลือกซื้อของ ได้ผ้าคลุมไหล่มาผืนหนึ่งก็เดินไปจ่ายเงินที่เคาน์เตอร์ ก่อนหน้านี้นางเหลือบไปเห็นวิรงรองแล้วว่ากำลังง่วนอยู่กับกองเอกสารตรงหน้า แต่หญิงสาวเจ้าของร้านไม่มีทีท่าว่าจะเงยหน้าขึ้นมาสักที เจิมจันทร์จึงร่ายคาถาให้วิรงรองเงยหน้าขึ้น มองมาทางเคาน์เตอร์ ส่วนตัวนางทำเป็นง่วนอยู่กับการเซ็นลายเซ็นลงบนสลิปบัตรเครดิต

ทุกอย่างเป็นไปตามแผน!

“สวัสดีค่ะคุณยายเจิม”

วิรงรองรีบปราดเข้ามาทักทายเพื่อนสนิทของตายาย ไม่วายชะเง้อมองไปทางด้านหลังหวังจะได้เห็นหลานชายของหญิงสูงวัยแต่ก็...ไม่มีแม้เงาทำให้หญิงสาวรู้สึกผิดหวังขึ้นมาเสียดื้อๆ

บ้าจริง! ทำไมเราต้องอยากพบพี่โตด้วยนะ

สาวสวยปราดเปรียวพยายามสลัดรูปภาพของดีเลิศออกไปจากห้วงความคิด ทว่าการจะลืมรักแรกมันไม่ง่ายเลย

“อ้าวหนูวิ หนูก็มาซื้อเสื้อผ้าร้านนี้เหรอจ๊ะ” เจิมจันทร์แสร้งเอ่ยถาม ทั้งที่ตนเองตั้งใจมาดักรอพบหญิงสาวแท้ๆ

“เปล่าค่ะคุณยาย นี่ร้านของวิเองค่ะ ลายผ้าพันคอที่คุณยายซื้อไปวิก็เป็นคนออกแบบค่ะ” หญิงสาวอธิบายด้วยน้ำเสียงภูมิใจอย่างไม่ปิดบัง แม้ว่าตายายจะมีธุรกิจมากมายให้เธอเลือกบริหาร แต่เธอกลับชอบที่จะสร้างทุกอย่างด้วยสองมือของเธอเอง เพราะเธอชอบความท้าทาย ยิ่งได้มายาก เย็นลำบากมากเท่าไรเธอยิ่งมีความสุข

“ยายไม่เคยรู้เลยว่าเป็นร้านของหนู ยายชอบเสื้อผ้าร้านนี้มาก เคยมาซื้อบ่อยๆ เพราะชอบการดีไซน์ที่ดูไม่ล้าสมัยและไม่นำสมัยจนเกินไป” เจิมจันทร์ชวนคุยเร่งสร้างความประทับใจให้วิรงรอง ซึ่งวิรงรองกระโจนลงในกับดักที่นางขุดล่อไว้ทันที

“วิดีใจนะคะที่คุณยายชอบ เดี๋ยววิจะเอาผ้าพันคออีกผืนให้ค่ะ ผืนนี้เป็นลิมิเต็ด อิดิชั่น ทำออกมาแค่สิบผืนเองค่ะ”

วิรงรองเดินหายไปหลังร้านก่อนจะเดินกลับมาพร้อมผ้าคลุมไหล่สีม่วงอ่อนส่งให้ เจิมจันทร์รับมาถือไว้ทำท่าทางดีใจชนิดที่ว่าตีบทแตกกระจุยสมกับเป็นยายของญาตาวีซึ่งเป็นนักแสดงแถวหน้าของเมืองไทย

“ขอบใจหนูมากเลยนะหนูวิ ยายชอบมากเลยจ้ะ”

“แล้วนี่คุณยายจะไปไหนต่อเหรอคะ”

“ยายว่าจะไปกินอาหารญี่ปุ่นจ้ะหนูวิ ไปด้วยกันไหมจ๊ะ”

“วิก็หิวพอดีเลยค่ะคุณยาย”

วิรงรองตอบรับก่อนจะหันไปสั่งงานกับพนักงานแล้วเดินตามหญิงสูงวัยออกไปทันที

ทุกอย่างอยู่ในสายตาของผีพวงที่ยังคงตามเจิมจันทร์อยู่ห่างๆ เฝ้ามองเหตุการณ์จนมั่นใจว่าได้จังหวะเหมาะแล้ว จึงรีบเข้าไปหมอบข้างเจิมจันทร์ กระซิบกระซาบรายงานว่า

‘คุณโตมาถึงแล้วค่ะ กำลังวนหาที่จอดรถอยู่ในลานจอดรถ’



****************



ห้องอาหารวีไอพีจัดแยกออกมาจากโต๊ะรับประทานอาหารทั่วไป โดยห้องมีขนาดไม่ใหญ่นัก ปูด้วยเสื่อทาทามิ พนักงานสาวสวมชุดยูกาตะนำอาหารญี่ปุ่นน่ารับประทานมาเสิร์ฟลงบนโต๊ะพร้อมกับชาเขียวร้อน

เจิมจันทร์และวิรงรองรับประทานอาหารไปพลางพูดคุยเรื่องทั่วไป แล้วจังหวะนั้น ดีเลิศก็เปิดประตูเข้ามา

วิรงรองหันไปมองผู้มาใหม่ แล้วหัวใจเจ้ากรรมก็กระตุกแรงด้วยไม่ได้เตรียมตัวเตรียมใจว่าจะได้พบกับชายหนุ่มอย่างกะทันหันเช่นนี้

ดีเลิศเป็นผู้ชายตัวสูงขาว คิ้วเข้มรับกับเครื่องหน้าได้รูป สวมสูทตัดเย็บอย่างประณีต โดยรวมแล้วเขาเป็นผู้ชายที่จัดว่าหน้าตาดีมาก ดูดีกว่าในรูปหลายเท่าเลยทีเดียว

“ขอโทษครับคุณยาย ผมไม่ทราบว่าคุณยายมีแขก” ชายหนุ่มทำ ท่าจะเดินออกไป

“แขกที่ไหนกันล่ะพ่อโต มาๆ มานั่งก่อน” เจิมจันทร์กวักมือเรียกหลานชายให้เดินเข้าไปนั่ง ก่อนจะเท้าความถึงอดีตเพื่อทำให้ทั้งคู่หวั่นไหวในรูปลักษณ์สวยหล่อของกันและกัน

“นี่หนูวิไง จำไม่ได้เหรอพ่อโต ตอนเด็กๆ ยายพาพ่อโตไปบ้านหนูวิบ่อยๆ ไปทีไรแทบไม่ได้กลับออกมาเพราะหนูวิติดพ่อโตแจ ร้องไห้ตามพ่อโตเสียจนน่าสงสาร”

“คุณยายละก็...จำได้ด้วยเหรอคะ”

วิรงรองหน้าแดงก่ำด้วยความเขินอาย

“อ๋อ...น้องวิรงรองนี่เอง โตขึ้นมากพี่จำแทบไม่ได้”

ดีเลิศมองหญิงสาวตรงหน้าด้วยความชื่นชมอย่างพี่ชายชื่นชมน้องสาวที่เห็นหน้าค่าตากันมาตั้งแต่เล็กๆ วิรงรองเป็นผู้หญิงสวย ใบหน้าวีเชฟอย่างสมัยนิยม ดวงตากลมโต ปากเล็กเผยอเล็กน้อยอย่างเย้ายวน ผมยาวสีน้ำตาลอ่อนดัดเป็นลอนคลายออกให้ความรู้สึกชวนมอง ผิวนวลเนียนผุดผาดเมื่อสวมเดรสรัดรูปคว้านอกลึก จนเห็นเนินอกที่แทบล้นทะลักออกมา

“สวยขึ้นแบบนี้หนุ่มๆ คงรุมจีบจนหัวกระไดบ้านไม่แห้ง”

ดีเลิศพูดติดตลกก่อนจะหยิบเมนูขึ้นมา แล้วก้มหน้าเลือกรายการอาหารโดยไม่สนใจวิรงรองอีกเลย หญิงสาวซึ่งทำท่าจะพูดต่อ ได้แต่ยิ้มเก้อ เขาเปิดประเด็นด้วยการชวนคุยคล้ายจะสนใจแต่ก็มิได้สนใจจริงจังนัก

“ท่าทางพ่อโตคงหิว ออกไปทำงานตั้งแต่เช้าก็แบบนี้แหละหนูวิ”

เจิมจันทร์รีบคลี่คลายสถานการณ์ อยากจะหยิกหลานชายซื่อบื้อให้เนื้อเขียว ดูเอาเถอะผู้หญิงสวยขนาดนี้นั่งอยู่ตรงหน้ายังสนใจอาหารได้ลงคอ

“ใช่ครับผมหิวมาก” ชายหนุ่มเงยหน้าขึ้นยอมรับ ก่อนจะกดกริ่งเรียกพนักงานให้เข้ามารับรายการอาหาร

เจิมจันทร์มองว่านี่เป็นโอกาสดีที่จะให้ชายหนุ่มหญิงสาวได้พูดคุย สานสัมพันธ์กันตามลำพัง นางจึงเพ่งมองที่โทรศัพท์ของตนเอง ชั่ววินาทีต่อมาเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้น นางรีบกดรับทันที แสร้งทำเป็นคุยว่ามีธุระสำคัญ เพื่อนสนิทป่วยหนักต้องรีบไปดูใจเดี๋ยวนี้

“ยายคงต้องขอตัวก่อนนะหนูวิ พ่อโต ยายฝากน้องด้วยนะ”

“ได้ครับคุณยาย” ดีเลิศรับคำอย่างรักษามารยาท

“เดินทางปลอดภัยนะคะคุณยาย”

วิรงรองยกมือไหว้เจิมจันทร์อย่างอ่อนช้อย เจิมจันทร์หันมา พยักหน้าก่อนจะขยิบตาให้ นั่นเองวิรงรองจึงเข้าใจเหตุการณ์ทั้งหมดโดยแจ่มแจ้ง นี่คุณยายเจิมเปิดทางให้เราได้อยู่กับพี่โตเหรอเนี่ย ถ้าเช่นนั้นก็แสดงว่าคุณยายอยากได้เราเป็นหลานสะใภ้สินะ ไฮโซสาวคิดด้วยหัวใจลิงโลด ก่อนจะหันไปยิ้มหวานให้ชายหนุ่มแล้วตักอาหารให้เขาอย่างเอาใจ

ดีเลิศรู้สึกอึดอัดที่ต้องอยู่ในห้องมิดชิดที่มีเพียงเขากับวิรงรอง แม้จะรู้จักกันมาตั้งแต่เล็ก แต่ก็ถือว่าไม่สมควรเพราะเขาแต่งงานมีภรรยาแล้ว ส่วนวิรงรองก็ทั้งสาวทั้งสวย ถ้าใครมาเห็นเข้าหญิงสาวจะพลอยเสื่อมเสียชื่อเสียงไปด้วย แต่จะขอตัวกลับเลยเสียเดี๋ยวนี้ก็กลัวว่าจะเป็นการเสียมารยาทกับอีกฝ่าย ดีเลิศจึงนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ เลือกที่จะพูดให้น้อยที่สุดเพื่อรักษาระยะห่าง

“พี่โตพูดน้อยจังเลยนะคะ เป็นคนพูดน้อยอยู่แล้วหรือรังเกียจที่จะคุยกับวิคะ” หญิงสาวเม้มริมฝีปากเป็นเส้นตรงอย่างขัดเคืองใจ อดไม่ได้ที่จะกระแนะกระแหนชายหนุ่ม

“พี่พูดน้อยครับ”

วิรงรองแทบอยากจะร้องกรี๊ดๆ เมื่อได้ยินคำตอบสั้นและห้วนของชายหนุ่ม แต่มีหรือที่เธอจะยอม ยิ่งเขามีท่าทางไม่สนใจเธอมากเท่าไร เธอก็ต้องครอบครองเขามาเป็นของเธอให้ได้ ไม่ว่าด้วยวิธีใดก็ตาม เมื่อคิดได้ดังนั้นหญิงสาวก็ยกน้ำชาในถ้วยขึ้นจิบ

ชาไม่ร้อนเพราะตั้งไว้นานแล้ว หญิงสาวจึงแกล้งทำหกโดยรดลงบนเนินอกของตนเองอย่างจงใจ

“ว้าย! ร้อนๆๆ” หญิงสาวหวีดร้องโวยวายราวกับว่าน้ำชานั้นร้อนเสียเต็มประดา ดีเลิศเห็นดังนั้นก็ตกใจรีบคว้าทิชชูแล้วปราดเข้าไปช่วยหญิงสาวเช็ดชาจากเนินอกอย่างลืมตัว

“แสบมากหรือเปล่าครับน้องวิ เดี๋ยวพี่ไปขอน้ำแข็งจากพนักงานมาช่วยประคบนะ” ชายหนุ่มจะผละออกจากห้องไป ทว่าวิรงรองกลับคว้ามือเขาเอาไว้ กดแช่ลงไปบนเนินอกอย่างจงใจ

“วิแสบนิดหน่อยค่ะพี่โต ขอบคุณมากนะคะ” วิรงรองพูดพลางเบียดตัวกระแซะเข้าหาชายหนุ่มอย่างยั่วยวน

ดีเลิศถึงกับชะงัก หากพูดตามตรงวิรงรองเป็นผู้หญิงที่สวยมาก สวยและมีเสน่ห์เร่าร้อนอย่างที่ผู้ชายคนไหนไม่อาจปฏิเสธ แตกต่างจากบัวบุษบาภรรยาของเขา บัวบุษบาไม่ได้สวยจับตาอย่างวิรงรองแต่เธอสวยพิศ ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งหลงใหล ยิ่งได้ทำความรู้จักถึงนิสัยใจคอ ก็ยิ่งรัก ยิ่งหลง

เขารักบัวบุษบามากยิ่งกว่าชีวิตของเขาเองเสียอีก ดังนั้นเขาจะไม่ยอมให้ตัณหามาอยู่เหนือความรับผิดชอบ ผู้ชายไม่ว่าใครก็เป็นได้ขอเพียงแค่มีอวัยวะเพศชาย แต่การที่จะเป็นสุภาพบุรุษได้นั้น ไม่ได้ได้มาโดยง่าย การจะได้มาต้องแลกด้วยความอดทน สุภาพ มีความรับผิดชอบ

และที่สำคัญที่สุด ‘รู้จักผิดชอบชั่วดี’

“เห็นน้องวิไม่เป็นอะไรแล้วก็ดีครับ พี่คงต้องขอตัวกลับก่อน เพิ่งคิดได้ว่าช่วงบ่ายติดประชุม”

พูดจบชายหนุ่มก็ชักมือกลับแล้วหมุนตัวเดินออกไปจากห้องรับประทานอาหารทันที ทิ้งให้วิรงรองนั่งอ้าปากค้างราวกับเห็นเขาเป็นตัวประหลาดหลุดมาจากต่างดาวเสียอย่างนั้น

“พี่โตคะ เดี๋ยวค่ะ!” หญิงสาวพยายามเรียกไว้ แต่ชายหนุ่มกลับก้าวเท้ายาวๆ คล้ายวิ่งออกจากร้านอาหารไปเสียแล้ว

“เจ็บใจนัก พี่โตนะพี่โต กล้าปฏิเสธวิได้ยังไง คอยดูนะ วิจะต้องทำให้พี่หลงใหลในตัววิจนโงหัวไม่ขึ้นเลย คอยดู!”

หญิงสาวกัดฟันกรอด ทั้งโกรธ เสียหน้า และผิดหวัง



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ธ.ค. 2561, 09:52:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ธ.ค. 2561, 09:52:42 น.

จำนวนการเข้าชม : 789





<< บทที่ 6 แผนการของเจิมจันทร์ -50%   บทที่ 7 ยาปลุกเซ็กส์ -50% >>
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ 21 ธ.ค. 2561, 09:55:36 น.
นักอ่านท่านใดสนใจสั่งจอง ดูภาพปก+ของแถมได้ที่เพจสนพ.นะคะ
https://www.facebook.com/plaipakkabooks


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account