ราคีสีเพลิง:รังสี ดุจดาริน รางนาก(ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ดีเลิศ’ และ ‘บัวบุษบา’ แต่งงานกันท่ามกลางความขัดแย้งของสองตระกูล
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ท่ามกลางความเกลียดชังของยาย ‘เจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์’
ผู้ไม่มีวันยอมรับหลานสะใภ้นอกคอกอย่างหล่อน!
หลายปีที่ชายหนุ่มประคับประคองครอบครัวอย่างดีเลิศสมชื่อ
บัวบุษบากลับฝันร้ายถึงเหตุการณ์ฆาตกรรมเมื่อหลายสิบปีก่อนแทบทุกคืน
ไหนยังตะกรุดประหลาดที่ทิ้งไปกี่ครั้งก็กลับมาอยู่ที่เดิมได้เสมอ
และความรู้สึกเสียวสันหลังราวกับมีใครจับจ้องมองหล่อนอยู่ตลอดเวลา
ทำให้บัวบุษบารู้สึกกลัว ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’ อันแสนลึกลับ
มากพอๆ กับที่หล่อนกลัว ‘ความจริง’ ที่ซ่อนอยู่ใน ‘ความฝัน’ ของตนเอง!
*******************
ใครชอบแนวนิยายรักโรแมนติก ดราม่า สยองขวัญ มีการเล่นคุณไสยมนตร์ดำ อิจฉาริษยา ปมกลับชาติมาเกิด และเหล่าบริวารผีรับใช้ จัดไป! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อราคีสีเพลิง ราคา 218฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 258฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 278฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
*******************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (ราคีสีเพลิง เป็นเรื่องราวของหลานชายคนโต หนุ่มเนื้อหอมประจำบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า ริษยา โรมานซ์ กลับชาติมาเกิด คุณไสย
ตอน: บทที่ 9 ตกหลุมพรางมนตร์ดำ -100%
ดีเลิศเปิดประตูเข้ามาในห้องนอน คุกเข่าลงข้างเตียงจ้องมองใบหน้ายามหลับของภรรยาด้วยความทุกข์ทรมานใจ เขาสัญญากับเธอเอาไว้ว่าจะไม่มีวันปันใจให้หญิงคนไหน จะรักและปกป้องเธอตลอดไปตราบจนกว่าผืนแผ่นดินจะกลบหน้า แต่เขาก็ทำไม่ได้
เขาผิดสัญญา! ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอเสียแล้ว...
“บัว...พี่ขอโทษ” เขาก้มลงจูบหน้าผากบัวบุษบาแผ่วเบา แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบคาวโลกีย์ออกไปจนหมดสิ้น เดินกลับมาล้มตัวลงนอนแล้วกอดกระชับภรรยาเอาไว้แนบแน่น
“อืม...” บัวบุษบาครางแผ่วในลำคอ ก่อนจะพลิกกายซุกเข้าหาอ้อมกอดของชายคนรัก
ดีเลิศถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ ถ้าบัวบุษบารู้เรื่องเขากับวิรงรอง เธอคงเสียใจและอาจไม่ให้อภัยเขา เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยคิดนอกใจเธอเลยแม้เพียงเสี้ยววินาที แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เขากลับนอกกายเธอไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกตัวแต่นี่ก็เป็นร่างกายของเขา เป็นร่างกายที่เขาไม่อาจควบคุมได้เลย
นับจากวิรงรองก้าวเข้ามาพักในเรือนเสน่ห์จันทน์ก็มีหลายสิ่งเกิดขึ้นกับเขา ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่ายายมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า....
บัวบุษบาลืมตาตื่นก่อนขยี้เปลือกตาแรงๆ เมื่อเห็นสามียืนอยู่ริมหน้าต่าง เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่โต ทำไมตื่นเช้าจัง”
หญิงสาวจูบหนักๆ ลงบนไหล่ของเขา ก่อนจะซบหน้าลงไปอย่างออดอ้อน
“พี่นอนอิ่มแล้ว”
ดีเลิศโกหก! เขานอนไม่หลับเลยทั้งคืนต่างหาก เฝ้าคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ผิดศีลธรรมเมื่อคืน แต่ไม่ว่าจะเฝ้าคิดเฝ้าวิเคราะห์อย่างไรเขาก็ไม่อาจหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ได้
“ดีจังค่ะ บัวยังรู้สึกง่วงอยู่เลย” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะหาวจนน้ำตาเล็ด
“บัว...”
“คะ”
ดีเลิศหันหน้ากลับมา เขาจับไหล่บอบบางเอาไว้ จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของหญิงสาวราวกับจะล้วงลึกเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิดของเธอ
“บัวคิดยังไงกับการนอกใจ”
“ทำไมจู่ๆ พี่โตถึงถามบัวแบบนี้ล่ะคะ ยังคิดมากเรื่องวิรงรองอยู่อีกเหรอคะ” บัวบุษบายิ้มกว้าง ยื่นมือไปหยิกปลายจมูกโด่งของสามีด้วยความรัก ดูเอาเถอะสามีของเธอแสนดีขนาดไหน ทั้งรักทั้งห่วงใยความรู้สึกของเธอขนาดนี้
“พี่อยากรู้ว่าบัวคิดยังไงกับเรื่องนี้”
ดีเลิศยิ้มให้ภรรยา ทว่าเขากำลังน้ำตาตกใน
“บัวรับไม่ได้ค่ะ แค่รู้ว่าผู้ชายที่บอกว่ารักเรา นอนกอดเราทุกคืน แต่ลับหลังกลับไปนอนกอดใครอีกคน บอกรักใครคนนั้นเหมือนที่เคยบอกบัว แค่คิดบัวก็แทบทนไม่ไหว”
“แล้ว...กรณีที่ไม่ได้นอกใจ แต่นอกกายล่ะ”
ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากหนาเข้าหากัน เอ่ยถามออกไปแล้วก็อยากจะตบกบาลตัวเอง ทำไมเขาถึงไม่สารภาพกับบัวบุษบาไปเลยตรงๆ ไม่เห็นต้องอ้อมค้อมสมมุติคำถามขึ้นมาให้ยุ่งยาก แม้จะก่นด่าตัวเองเช่นนั้น แต่เขาก็ขลาดกลัวที่จะสูญเสียเธอ
หากว่าบัวบุษบาทิ้งเขาไปเขาคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น
“ยังไงคะ แบบว่าหนีไปลงอ่างชั่วครั้งชั่วคราวแบบนั้นหรือเปล่า”
หญิงสาวเอียงคอด้วยความสงสัย เธอพอรู้มาบ้างว่าผู้ชายแตกต่างจากผู้หญิง ที่รักหรือไม่รักก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เพื่อสนองตอบความต้องการ แตกต่างจากผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์เพราะรัก แต่จะว่าไป...โลกเปลี่ยนไปมาก ผู้หญิงบางกลุ่มก็ล่าแต้ม นอนกับผู้ชายไปทั่วโดยไม่มีความรักเช่นกัน เรียกว่าเป็นยุคสมัยที่หญิงชายเสมอภาคกันในเรื่องนี้ แต่เธอกลับมองว่ามันทำให้ความดีงามเสื่อมถอยลง
“เอ่อ...แบบนั้นแหละ”
บัวบุษบาคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ
“ผู้หญิงบางคนก็รับไม่ได้เลย ไม่ว่าจะซื้อบริการหรือมีเมียน้อยเป็นตัวตน แต่สำหรับบัว บังคงต้องดูสถานการณ์ค่ะ ถ้าบัวบกพร่องในหน้าที่ภรรยาตอบสนองพี่โตไม่ได้แล้วพี่โตไปแอบนอกกายข้างนอก บัวก็คงเสียใจและพิจารณาตัวเองว่ายังสมควรเป็นภรรยาพี่โตอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าบัวทำหน้าที่ภรรยาได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่พี่โตไม่รู้จักพอแอบไปซื้อบริการหลับนอนกับหญิงอื่น...หากเป็นเช่นนั้น พี่โตก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นสามีของบัว”
บัวบุษบายิ้ม เป็นรอยยิ้มที่กรีดแทงลงไปที่ขั้วหัวใจของดีเลิศจนเขาอยากจะทรุดลงคุกเข่าแล้วสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นให้รู้แล้วรู้รอดไป
แต่เขา...ไม่กล้า
“ทำไมคะ พี่โตแอบไปลงอ่างที่ไหนมาหรือเปล่าถึงมาถามบัวแบบนี้” บัวบุษบาแสร้งยื่นมือไปดึงหูชายหนุ่มไม่แรงนักอย่างหมายจะแกล้ง
“โอ๊ย!” ดีเลิศแสร้งร้องโอดโอยก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป ลับหลังร่างภรรยาเขาก็ดึงทึ้งผมด้วยสองมือ แล้วเปิดฝักบัวราดรดลงบนศีรษะ
ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องมาเกิดขึ้นกับเขา....ทำไม!
**************
วิรงรองเดินนวยนาดด้วยใบหน้าระรื่นมาที่ศาลากลางเรือน ซึ่งเจิมจันทร์กำลังนั่งชี้นิ้วสั่งให้สายพิณและสมคิดหยิบนู่นนี่วุ่นวายไปหมด เธอนั่งลงข้างๆ เจิมจันทร์ ก่อนจะพนมมือก้มกราบลงที่ตักของหญิงสูงวัยอย่างเอาใจ เพราะบัดนี้เธอรู้แล้วว่าเจิมจันทร์มีดีมากกว่าการเป็นหญิงชราที่มีใบหน้าอ่อนกว่าวัย เป็นพันธมิตรกันไว้ย่อมมีแต่ได้
“วิดีใจจังค่ะ ที่ได้เป็นหลานของคุณยายจริงๆ เสียที ไม่ได้เป็นแค่หลานของเพื่อนสนิท แต่เป็นหลานสะใภ้”
วิรงรองจีบปากจีบคอพูดอย่างอารมณ์ดี
“ยายก็ดีใจที่ได้หนูวิมาเป็นหลาน ต่อไปก็แค่รอให้นังบัวมันกระเด็นออกจากบ้านไป”
เพล้ง!
“ขอโทษค่ะคุณท่าน ขอโทษค่ะคุณวิ”
สายพิณได้ยินดังนั้นถึงกับมือไม้อ่อน ทำแก้วในมือตกแตก เธอกุลีกุจอรีบก้มหน้าเก็บโดยเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างตั้งใจ เจิมจันทร์ไม่สนใจเพราะรู้ดีว่าสายพิณจะไม่มีวันปากโป้งเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะสายพิณจงรักภักดีจนไม่ยอมเปิดปาก แต่เพราะว่าหวาดกลัวบทลงโทษจากเจิมจันทร์ต่างหาก ด้วยประจักษ์กับตัวเองแล้วว่าเจิมจันทร์ทำอะไรน่ากลัวได้มากมายชนิดที่ไม่มีใครคาดเดาได้
จังหวะนั้นบัวบุษบากับดีเลิศเดินออกมาพอดี เจิมจันทร์รีบหันไปกวักมือเรียกหลานชายด้วยน้ำเสียงสดใส ส่วนดมิสาหลานสาวนั้นถึงอยู่บ้านเดียวกันแต่ก็แทบไม่เคยได้ร่วมสำรับ เพราะรายนั้นมักไปพึ่งอาหารเช้าที่โรงพยาบาลแทน
ซึ่งก็ดี! เห็นหน้าอีหลานจัญไรนั่นในวงอาหารทีไรเจิมจันทร์แทบกระเดือกอะไรไม่ลง
“พ่อโต เร็วเข้า ยายหิ้วท้องรอจะแย่แล้ว”
“ผมไม่หิวครับคุณยาย”
ดีเลิศตอบยายโดยไม่แม้แต่จะชายตาแลวิรงรอง
ซึ่งถามว่าวิรงรองสนใจไหม บอกเลยว่าไม่! เพราะนาทีนี้เธอคือ ผู้กุมชะตาชีวิตของเขา ดีเลิศกลายเป็นลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด แต่ช้าก่อน...เธอไม่ยอมปล่อยเขาและไม่ยอมให้เขาตายอย่างแน่นอน เขาต้องอยู่กับเธอ รักเธอ หลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น
“ไม่ได้ ต้องกินข้าวเช้ากับยายก่อน นั่งลงเดี๋ยวนี้พ่อโต”
เจิมจันทร์ตวัดเสียงห้วนเมื่อโดนขัดใจ บัวบุษบาเห็นท่าไม่ดีจึงเดินไปจับแขนสามี พยักหน้าให้เขาทำตามความต้องการของยาย
“เมื่อคืนนอนหลับสนิทดีไหมคะคุณบัว”
จู่ๆ วิรงรองก็เอ่ยถามบัวบุษบา ทั้งที่อยู่ร่วมชายคาด้วยกันมาหลายวัน ไฮโซสาวไม่เคยแม้แต่จะพูดคุยหรือทักทาย
“ค่ะ หลับสบายดี”
“ดีจัง...คงหลับลึกมากสินะ ถึงไม่รู้อะไรเลย” วิรงรองหัวเราะคิกคักก่อนจะตักอาหารให้ดีเลิศอย่างเอาใจ ทว่าชายหนุ่มกลับเขี่ยอาหารของวิรง รองออก แล้วหันไปอ้อนให้บัวบุษบาตักอาหารให้
“บัวครับตักผัดผักให้ผมหน่อย”
“ได้สิคะ เอากุ้งด้วยไหม” บัวบุษบายื่นมือไปหมายจะตักผัดดอกกะหล่ำกุ้งสดให้สามี แต่วิรงรองกลับยื่นมือไปปัดมือของบัวบุษบาเต็มแรง
“อุ๊ย ขอโทษนะ ฉันนี่ซุ่มซ่ามจังเลย”
วิรงรองอมยิ้มขันอย่างเห็นเป็นเรื่องชวนหัว ส่วนเจิมจันทร์ไม่มีท่าทีสนใจหรือคิดจะห้ามปรามการกระทำของวิรงรองเลย นางนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ นึกดีใจที่ว่าที่หลานสะใภ้ร้ายกว่าที่นางคาดไว้เยอะ แบบนี้นางจะได้ไม่ต้องเหนื่อยคนเดียว เพราะวิรงรองนี่แหละที่จะจัดการถีบบัวบุษบาให้ระเห็จออกไปจากเรือนในเร็ววัน
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าบัว”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่โต บัวแค่ตกใจ”
“บัวไปพักเถอะ เดี๋ยวผมก็จะไปทำงานแล้ว”
ชายหนุ่มหันไปพยักหน้าให้ภรรยากลับเข้าห้อง เพราะกลัวว่าหากปล่อยภรรยาไว้กับยายและวิรงรอง เธอจะโดนแกล้งเอาได้
“ค่ะ” บัวบุษบารีบรับคำสามี ลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในเรือนนอนตามที่สามีต้องการ...วันนี้เธอเองก็ต้องเตรียมตัวไปบ้านมิ่งมงคลเหมือน กัน ด้วยว่าตกลงกับดีเลิศไว้แล้ว เพื่อความสบายใจของทั้งเขาและยายของเขา และรวมถึงตัวเธอเองด้วย จะได้เลี่ยงการเผชิญหน้ามีปากเสียงกันให้น้อยที่สุด ตกเย็นเธอถึงจะค่อยกลับมาที่เรือนเสน่ห์จันทน์พร้อมเขา
ทางด้านดีเลิศ หันไปคว้ากระเป๋าทำงานได้ก็ยกมือไหว้ยายก่อนจะลุกขึ้นยืน
ทว่าวิรงรองกลับลุกขึ้นเช่นกัน
“วิเองก็ต้องไปที่ร้านค่ะคุณยาย ไม่ได้แวะเข้าไปหลายวันแล้ว”
วิรงรองยิ้มกว้างพนมมือไหว้หญิงสูงวัย ก่อนจะรีบสาวเท้ายาวๆก้าวตามดีเลิศออกไป
“เดี๋ยวค่ะพี่โต พี่โต! คิดจะหลบหน้าวิแบบนี้ไปตลอดเหรอคะ ไม่เป็นลูกผู้ชายเลย”
วิรงรองวิ่งลงจากบันไดเรือน ไปดักหน้าชายหนุ่ม ยืนขวางไม่ยอมให้เขาก้าวขึ้นรถ ทว่าดีเลิศกำลังจะหมดความอดทน เขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงตรงหน้าใช้วิธีไหนถึงทำให้เขาไม่มีสติจนทำเรื่องผิดศีลธรรมลงไป
ตราบใดที่ยังไม่รู้แน่ชัด เขาก็ไม่สามารถแก้ต่างความผิดให้ตัวเองได้
แต่เขาเชื่อว่าสักวันเขาต้องหาหลักฐานได้ ไม่ว่าจะเป็นยาหรือสารเสพติดชนิดไหนที่เธอใช้กับเขา เขาเชื่อว่าถ้าหาหลักฐานพบ บัวบุษบาก็น่าจะยินยอมรับฟังและพร้อมให้อภัยเขา แต่ยามนี้เขายังทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากอดทนอดกลั้น
“ถอยไป!”
วิรงรอง น้ำตารื้นเมื่อถูกตะคอก แต่กระนั้นเธอก็หยิ่งเกินกว่าจะร้องไห้อ้อนวอน หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นก่อนจะข่มขู่ชายหนุ่ม
“วิเป็นเมียพี่โต พี่โตควรจะดูแลวิบ้าง”
“พี่มีเมียคนเดียวคือบัว” เขาดันตัวเธอออก แล้วเปิดประตูก้าวเข้าไปในรถ แต่วิรงรองรีบดึงประตูไว้ไม่ยอมให้เขาปิดหนีได้โดยง่าย
“พี่นอนกับวิ เป็นผัววิแล้ว พี่จะทำแบบนี้กับวิไม่ได้”
“พี่จำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น และจำไม่ได้ด้วยว่าเคยรักหรือพิศวาสอะไรในตัวเธอหรือเปล่า”
ชายหนุ่มกระชากประตูปิดก่อนจะขับรถออกไปทันที ในขณะที่วิรงรองดึงมือที่ปวดแปลบจากการพยายามยื้อกระชากประตูกับเขามากุมไว้นิ่ง เธอกัดฟันกรอดกำมือเข้าหากันแน่น
“พี่ประมาทฉันเกินไป พี่คงไม่รู้ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด!”
หญิงสาวหมายมาดอย่างอาฆาต เธอเดินมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว มีทางเดียวคือเดินต่อไปข้างหน้า ไปให้ถึงจุดหมายที่เธอต้องการ ไม่ว่าปลายทางจะเป็นนรกหรือสวรรค์ก็ตาม!
**************
อะแฮ่มๆ สนพ.ส่งซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์เข้าโรงพิมพ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว^^ น่าจะได้หนังสือกันราวๆ ต้นเดือนกุมภา (ยังสั่งจองกันได้ถึงสิ้นเดือนมกราคมนะคะ) ส่วน eBook วางจำหน่ายหลังปิดจองค่ะ
เขาผิดสัญญา! ผิดสัญญาที่ให้ไว้กับเธอเสียแล้ว...
“บัว...พี่ขอโทษ” เขาก้มลงจูบหน้าผากบัวบุษบาแผ่วเบา แล้วเดินเข้าห้องน้ำเพื่อชำระล้างคราบคาวโลกีย์ออกไปจนหมดสิ้น เดินกลับมาล้มตัวลงนอนแล้วกอดกระชับภรรยาเอาไว้แนบแน่น
“อืม...” บัวบุษบาครางแผ่วในลำคอ ก่อนจะพลิกกายซุกเข้าหาอ้อมกอดของชายคนรัก
ดีเลิศถึงกับหลั่งน้ำตาออกมาด้วยความเจ็บปวดใจ ถ้าบัวบุษบารู้เรื่องเขากับวิรงรอง เธอคงเสียใจและอาจไม่ให้อภัยเขา เขามั่นใจว่าเขาไม่เคยคิดนอกใจเธอเลยแม้เพียงเสี้ยววินาที แต่เมื่อไม่กี่ชั่วโมงที่ผ่านมานี้เขากลับนอกกายเธอไปมีความสัมพันธ์กับหญิงอื่นที่มิใช่ภรรยา แม้ว่าเขาจะไม่รู้สึกตัวแต่นี่ก็เป็นร่างกายของเขา เป็นร่างกายที่เขาไม่อาจควบคุมได้เลย
นับจากวิรงรองก้าวเข้ามาพักในเรือนเสน่ห์จันทน์ก็มีหลายสิ่งเกิดขึ้นกับเขา ชายหนุ่มอดคิดไม่ได้ว่ายายมีส่วนรู้เห็นกับเรื่องที่เกิดขึ้นหรือเปล่า....
บัวบุษบาลืมตาตื่นก่อนขยี้เปลือกตาแรงๆ เมื่อเห็นสามียืนอยู่ริมหน้าต่าง เธอลุกขึ้นแล้วเดินไปโอบกอดเขาจากทางด้านหลัง
“อรุณสวัสดิ์ค่ะพี่โต ทำไมตื่นเช้าจัง”
หญิงสาวจูบหนักๆ ลงบนไหล่ของเขา ก่อนจะซบหน้าลงไปอย่างออดอ้อน
“พี่นอนอิ่มแล้ว”
ดีเลิศโกหก! เขานอนไม่หลับเลยทั้งคืนต่างหาก เฝ้าคิดถึงสาเหตุที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ผิดศีลธรรมเมื่อคืน แต่ไม่ว่าจะเฝ้าคิดเฝ้าวิเคราะห์อย่างไรเขาก็ไม่อาจหาคำตอบให้กับเรื่องนี้ได้
“ดีจังค่ะ บัวยังรู้สึกง่วงอยู่เลย” หญิงสาวยกมือขึ้นปิดปากก่อนจะหาวจนน้ำตาเล็ด
“บัว...”
“คะ”
ดีเลิศหันหน้ากลับมา เขาจับไหล่บอบบางเอาไว้ จ้องลึกเข้าไปในดวงตากลมโตของหญิงสาวราวกับจะล้วงลึกเข้าไปถึงความรู้สึกนึกคิดของเธอ
“บัวคิดยังไงกับการนอกใจ”
“ทำไมจู่ๆ พี่โตถึงถามบัวแบบนี้ล่ะคะ ยังคิดมากเรื่องวิรงรองอยู่อีกเหรอคะ” บัวบุษบายิ้มกว้าง ยื่นมือไปหยิกปลายจมูกโด่งของสามีด้วยความรัก ดูเอาเถอะสามีของเธอแสนดีขนาดไหน ทั้งรักทั้งห่วงใยความรู้สึกของเธอขนาดนี้
“พี่อยากรู้ว่าบัวคิดยังไงกับเรื่องนี้”
ดีเลิศยิ้มให้ภรรยา ทว่าเขากำลังน้ำตาตกใน
“บัวรับไม่ได้ค่ะ แค่รู้ว่าผู้ชายที่บอกว่ารักเรา นอนกอดเราทุกคืน แต่ลับหลังกลับไปนอนกอดใครอีกคน บอกรักใครคนนั้นเหมือนที่เคยบอกบัว แค่คิดบัวก็แทบทนไม่ไหว”
“แล้ว...กรณีที่ไม่ได้นอกใจ แต่นอกกายล่ะ”
ชายหนุ่มเม้มริมฝีปากหนาเข้าหากัน เอ่ยถามออกไปแล้วก็อยากจะตบกบาลตัวเอง ทำไมเขาถึงไม่สารภาพกับบัวบุษบาไปเลยตรงๆ ไม่เห็นต้องอ้อมค้อมสมมุติคำถามขึ้นมาให้ยุ่งยาก แม้จะก่นด่าตัวเองเช่นนั้น แต่เขาก็ขลาดกลัวที่จะสูญเสียเธอ
หากว่าบัวบุษบาทิ้งเขาไปเขาคงเหมือนตกนรกทั้งเป็น
“ยังไงคะ แบบว่าหนีไปลงอ่างชั่วครั้งชั่วคราวแบบนั้นหรือเปล่า”
หญิงสาวเอียงคอด้วยความสงสัย เธอพอรู้มาบ้างว่าผู้ชายแตกต่างจากผู้หญิง ที่รักหรือไม่รักก็สามารถมีเพศสัมพันธ์ได้เพื่อสนองตอบความต้องการ แตกต่างจากผู้หญิงที่มีเพศสัมพันธ์เพราะรัก แต่จะว่าไป...โลกเปลี่ยนไปมาก ผู้หญิงบางกลุ่มก็ล่าแต้ม นอนกับผู้ชายไปทั่วโดยไม่มีความรักเช่นกัน เรียกว่าเป็นยุคสมัยที่หญิงชายเสมอภาคกันในเรื่องนี้ แต่เธอกลับมองว่ามันทำให้ความดีงามเสื่อมถอยลง
“เอ่อ...แบบนั้นแหละ”
บัวบุษบาคิดครู่หนึ่งก่อนตอบ
“ผู้หญิงบางคนก็รับไม่ได้เลย ไม่ว่าจะซื้อบริการหรือมีเมียน้อยเป็นตัวตน แต่สำหรับบัว บังคงต้องดูสถานการณ์ค่ะ ถ้าบัวบกพร่องในหน้าที่ภรรยาตอบสนองพี่โตไม่ได้แล้วพี่โตไปแอบนอกกายข้างนอก บัวก็คงเสียใจและพิจารณาตัวเองว่ายังสมควรเป็นภรรยาพี่โตอยู่หรือเปล่า แต่ถ้าบัวทำหน้าที่ภรรยาได้ดีอย่างไม่ขาดตกบกพร่อง แต่พี่โตไม่รู้จักพอแอบไปซื้อบริการหลับนอนกับหญิงอื่น...หากเป็นเช่นนั้น พี่โตก็ไม่เหมาะสมที่จะเป็นสามีของบัว”
บัวบุษบายิ้ม เป็นรอยยิ้มที่กรีดแทงลงไปที่ขั้วหัวใจของดีเลิศจนเขาอยากจะทรุดลงคุกเข่าแล้วสารภาพเรื่องที่เกิดขึ้นให้รู้แล้วรู้รอดไป
แต่เขา...ไม่กล้า
“ทำไมคะ พี่โตแอบไปลงอ่างที่ไหนมาหรือเปล่าถึงมาถามบัวแบบนี้” บัวบุษบาแสร้งยื่นมือไปดึงหูชายหนุ่มไม่แรงนักอย่างหมายจะแกล้ง
“โอ๊ย!” ดีเลิศแสร้งร้องโอดโอยก่อนจะวิ่งหนีเข้าห้องน้ำไป ลับหลังร่างภรรยาเขาก็ดึงทึ้งผมด้วยสองมือ แล้วเปิดฝักบัวราดรดลงบนศีรษะ
ทำไมเรื่องแบบนี้ถึงต้องมาเกิดขึ้นกับเขา....ทำไม!
**************
วิรงรองเดินนวยนาดด้วยใบหน้าระรื่นมาที่ศาลากลางเรือน ซึ่งเจิมจันทร์กำลังนั่งชี้นิ้วสั่งให้สายพิณและสมคิดหยิบนู่นนี่วุ่นวายไปหมด เธอนั่งลงข้างๆ เจิมจันทร์ ก่อนจะพนมมือก้มกราบลงที่ตักของหญิงสูงวัยอย่างเอาใจ เพราะบัดนี้เธอรู้แล้วว่าเจิมจันทร์มีดีมากกว่าการเป็นหญิงชราที่มีใบหน้าอ่อนกว่าวัย เป็นพันธมิตรกันไว้ย่อมมีแต่ได้
“วิดีใจจังค่ะ ที่ได้เป็นหลานของคุณยายจริงๆ เสียที ไม่ได้เป็นแค่หลานของเพื่อนสนิท แต่เป็นหลานสะใภ้”
วิรงรองจีบปากจีบคอพูดอย่างอารมณ์ดี
“ยายก็ดีใจที่ได้หนูวิมาเป็นหลาน ต่อไปก็แค่รอให้นังบัวมันกระเด็นออกจากบ้านไป”
เพล้ง!
“ขอโทษค่ะคุณท่าน ขอโทษค่ะคุณวิ”
สายพิณได้ยินดังนั้นถึงกับมือไม้อ่อน ทำแก้วในมือตกแตก เธอกุลีกุจอรีบก้มหน้าเก็บโดยเงี่ยหูฟังบทสนทนาของทั้งสองอย่างตั้งใจ เจิมจันทร์ไม่สนใจเพราะรู้ดีว่าสายพิณจะไม่มีวันปากโป้งเด็ดขาด ไม่ใช่เพราะสายพิณจงรักภักดีจนไม่ยอมเปิดปาก แต่เพราะว่าหวาดกลัวบทลงโทษจากเจิมจันทร์ต่างหาก ด้วยประจักษ์กับตัวเองแล้วว่าเจิมจันทร์ทำอะไรน่ากลัวได้มากมายชนิดที่ไม่มีใครคาดเดาได้
จังหวะนั้นบัวบุษบากับดีเลิศเดินออกมาพอดี เจิมจันทร์รีบหันไปกวักมือเรียกหลานชายด้วยน้ำเสียงสดใส ส่วนดมิสาหลานสาวนั้นถึงอยู่บ้านเดียวกันแต่ก็แทบไม่เคยได้ร่วมสำรับ เพราะรายนั้นมักไปพึ่งอาหารเช้าที่โรงพยาบาลแทน
ซึ่งก็ดี! เห็นหน้าอีหลานจัญไรนั่นในวงอาหารทีไรเจิมจันทร์แทบกระเดือกอะไรไม่ลง
“พ่อโต เร็วเข้า ยายหิ้วท้องรอจะแย่แล้ว”
“ผมไม่หิวครับคุณยาย”
ดีเลิศตอบยายโดยไม่แม้แต่จะชายตาแลวิรงรอง
ซึ่งถามว่าวิรงรองสนใจไหม บอกเลยว่าไม่! เพราะนาทีนี้เธอคือ ผู้กุมชะตาชีวิตของเขา ดีเลิศกลายเป็นลูกไก่ในกำมือจะบีบก็ตายจะคลายก็รอด แต่ช้าก่อน...เธอไม่ยอมปล่อยเขาและไม่ยอมให้เขาตายอย่างแน่นอน เขาต้องอยู่กับเธอ รักเธอ หลงเธอจนโงหัวไม่ขึ้น
“ไม่ได้ ต้องกินข้าวเช้ากับยายก่อน นั่งลงเดี๋ยวนี้พ่อโต”
เจิมจันทร์ตวัดเสียงห้วนเมื่อโดนขัดใจ บัวบุษบาเห็นท่าไม่ดีจึงเดินไปจับแขนสามี พยักหน้าให้เขาทำตามความต้องการของยาย
“เมื่อคืนนอนหลับสนิทดีไหมคะคุณบัว”
จู่ๆ วิรงรองก็เอ่ยถามบัวบุษบา ทั้งที่อยู่ร่วมชายคาด้วยกันมาหลายวัน ไฮโซสาวไม่เคยแม้แต่จะพูดคุยหรือทักทาย
“ค่ะ หลับสบายดี”
“ดีจัง...คงหลับลึกมากสินะ ถึงไม่รู้อะไรเลย” วิรงรองหัวเราะคิกคักก่อนจะตักอาหารให้ดีเลิศอย่างเอาใจ ทว่าชายหนุ่มกลับเขี่ยอาหารของวิรง รองออก แล้วหันไปอ้อนให้บัวบุษบาตักอาหารให้
“บัวครับตักผัดผักให้ผมหน่อย”
“ได้สิคะ เอากุ้งด้วยไหม” บัวบุษบายื่นมือไปหมายจะตักผัดดอกกะหล่ำกุ้งสดให้สามี แต่วิรงรองกลับยื่นมือไปปัดมือของบัวบุษบาเต็มแรง
“อุ๊ย ขอโทษนะ ฉันนี่ซุ่มซ่ามจังเลย”
วิรงรองอมยิ้มขันอย่างเห็นเป็นเรื่องชวนหัว ส่วนเจิมจันทร์ไม่มีท่าทีสนใจหรือคิดจะห้ามปรามการกระทำของวิรงรองเลย นางนั่งรับประทานอาหารเงียบๆ นึกดีใจที่ว่าที่หลานสะใภ้ร้ายกว่าที่นางคาดไว้เยอะ แบบนี้นางจะได้ไม่ต้องเหนื่อยคนเดียว เพราะวิรงรองนี่แหละที่จะจัดการถีบบัวบุษบาให้ระเห็จออกไปจากเรือนในเร็ววัน
“เจ็บตรงไหนหรือเปล่าบัว”
“ไม่เป็นไรค่ะพี่โต บัวแค่ตกใจ”
“บัวไปพักเถอะ เดี๋ยวผมก็จะไปทำงานแล้ว”
ชายหนุ่มหันไปพยักหน้าให้ภรรยากลับเข้าห้อง เพราะกลัวว่าหากปล่อยภรรยาไว้กับยายและวิรงรอง เธอจะโดนแกล้งเอาได้
“ค่ะ” บัวบุษบารีบรับคำสามี ลุกขึ้นแล้วเดินกลับเข้าไปในเรือนนอนตามที่สามีต้องการ...วันนี้เธอเองก็ต้องเตรียมตัวไปบ้านมิ่งมงคลเหมือน กัน ด้วยว่าตกลงกับดีเลิศไว้แล้ว เพื่อความสบายใจของทั้งเขาและยายของเขา และรวมถึงตัวเธอเองด้วย จะได้เลี่ยงการเผชิญหน้ามีปากเสียงกันให้น้อยที่สุด ตกเย็นเธอถึงจะค่อยกลับมาที่เรือนเสน่ห์จันทน์พร้อมเขา
ทางด้านดีเลิศ หันไปคว้ากระเป๋าทำงานได้ก็ยกมือไหว้ยายก่อนจะลุกขึ้นยืน
ทว่าวิรงรองกลับลุกขึ้นเช่นกัน
“วิเองก็ต้องไปที่ร้านค่ะคุณยาย ไม่ได้แวะเข้าไปหลายวันแล้ว”
วิรงรองยิ้มกว้างพนมมือไหว้หญิงสูงวัย ก่อนจะรีบสาวเท้ายาวๆก้าวตามดีเลิศออกไป
“เดี๋ยวค่ะพี่โต พี่โต! คิดจะหลบหน้าวิแบบนี้ไปตลอดเหรอคะ ไม่เป็นลูกผู้ชายเลย”
วิรงรองวิ่งลงจากบันไดเรือน ไปดักหน้าชายหนุ่ม ยืนขวางไม่ยอมให้เขาก้าวขึ้นรถ ทว่าดีเลิศกำลังจะหมดความอดทน เขาไม่รู้หรอกว่าผู้หญิงตรงหน้าใช้วิธีไหนถึงทำให้เขาไม่มีสติจนทำเรื่องผิดศีลธรรมลงไป
ตราบใดที่ยังไม่รู้แน่ชัด เขาก็ไม่สามารถแก้ต่างความผิดให้ตัวเองได้
แต่เขาเชื่อว่าสักวันเขาต้องหาหลักฐานได้ ไม่ว่าจะเป็นยาหรือสารเสพติดชนิดไหนที่เธอใช้กับเขา เขาเชื่อว่าถ้าหาหลักฐานพบ บัวบุษบาก็น่าจะยินยอมรับฟังและพร้อมให้อภัยเขา แต่ยามนี้เขายังทำอะไรไม่ได้นอกเสียจากอดทนอดกลั้น
“ถอยไป!”
วิรงรอง น้ำตารื้นเมื่อถูกตะคอก แต่กระนั้นเธอก็หยิ่งเกินกว่าจะร้องไห้อ้อนวอน หญิงสาวเชิดหน้าขึ้นก่อนจะข่มขู่ชายหนุ่ม
“วิเป็นเมียพี่โต พี่โตควรจะดูแลวิบ้าง”
“พี่มีเมียคนเดียวคือบัว” เขาดันตัวเธอออก แล้วเปิดประตูก้าวเข้าไปในรถ แต่วิรงรองรีบดึงประตูไว้ไม่ยอมให้เขาปิดหนีได้โดยง่าย
“พี่นอนกับวิ เป็นผัววิแล้ว พี่จะทำแบบนี้กับวิไม่ได้”
“พี่จำอะไรไม่ได้ทั้งนั้น และจำไม่ได้ด้วยว่าเคยรักหรือพิศวาสอะไรในตัวเธอหรือเปล่า”
ชายหนุ่มกระชากประตูปิดก่อนจะขับรถออกไปทันที ในขณะที่วิรงรองดึงมือที่ปวดแปลบจากการพยายามยื้อกระชากประตูกับเขามากุมไว้นิ่ง เธอกัดฟันกรอดกำมือเข้าหากันแน่น
“พี่ประมาทฉันเกินไป พี่คงไม่รู้ว่าฉันทำอะไรได้มากกว่าที่พี่คิด!”
หญิงสาวหมายมาดอย่างอาฆาต เธอเดินมาไกลเกินกว่าจะหันหลังกลับแล้ว มีทางเดียวคือเดินต่อไปข้างหน้า ไปให้ถึงจุดหมายที่เธอต้องการ ไม่ว่าปลายทางจะเป็นนรกหรือสวรรค์ก็ตาม!
**************
อะแฮ่มๆ สนพ.ส่งซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์เข้าโรงพิมพ์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว^^ น่าจะได้หนังสือกันราวๆ ต้นเดือนกุมภา (ยังสั่งจองกันได้ถึงสิ้นเดือนมกราคมนะคะ) ส่วน eBook วางจำหน่ายหลังปิดจองค่ะ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 ม.ค. 2562, 10:50:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 ม.ค. 2562, 10:50:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 1012
<< บทที่ 9 ตกหลุมพรางมนตร์ดำ -50% | บทที่ 10 ฝันร้ายของบัวบุษบา -100% >> |