เพื่อนรักปรารถนา LGBTQ
“เธอเคยพูดจะไม่เก็บความสาวไว้ให้เขาคนนั้น ถ้าเธอจะเสียมันไปขอให้ฉันได้ไหม ฉันคือเพื่อนที่เธอวางใจได้ไปตลอดกาล จะไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนเขาคนนั้น”
เขาเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ส่วนเธอมีเพื่อนหญิงที่ถูกใจหลงรัก ลังเลเรื่องรักกับเพศไหน?
โดยนามปากกา... ไตรติมา
Bisexual Gay
นิยายไบเซ็กชวลเกย์ รักสามเส้า [หญิงxชาย & ชายxชาย]
หาอ่านเพิ่มเติมได้ >>
https://my.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1756847
https://www.readawrite.com/a/sZ2v24-เพื่อนรักปรารถนา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=oranamarinlove&group=8
http://www.tunwalai.com/story/228816/เพื่อนรักปรารถนา_lgbtq
ฝากกดไลค์เพจนิยายไตรติมา-ติดตามอัพเดท >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=
* หมายเหตุ *
นิยายรักในแนว LGBTQ คืออะไร?
LGBT หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ * ในภาษาอังกฤษย่อว่า LGBT (หรือ GLBT) ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า lesbian (เลสเบี้ยน) , gay (เกย์) , bisexual (ไบเซ็กชวล) , และ transgender/transsexual (คนข้ามเพศ) มีการใช้คำว่า LGBT มาตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งดัดแปลงมาจาก “LGB” ที่ใช้ในการแทนวลี "สังคมเกย์" (Gay community) ที่ในหลาย ๆ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่รู้สึกว่าอธิบายกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างถูกต้องตามที่กล่าว ในการใช้สมัยใหม่ LGBT มีความหมายถึงความหลากหลายของเพศวิถี (Sexuality) และลักษณะการแสดงเพศทางสังคม และในบางครั้งอาจหมายถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มรักต่างเพศ แทนการระบุว่าเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล หรือ คนข้ามเพศ
ที่มา:
https://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
Q = Queer หมายถึงบุคคลผู้ที่สามารถชอบเพศอะไรก็ได้ในบรรดา LGBTQ หรือจะชอบเพศชายหญิงทั่วไปก็ได้ สามารถเกิดความรักได้กับทุกเพศ
เขาเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ส่วนเธอมีเพื่อนหญิงที่ถูกใจหลงรัก ลังเลเรื่องรักกับเพศไหน?
โดยนามปากกา... ไตรติมา
Bisexual Gay
นิยายไบเซ็กชวลเกย์ รักสามเส้า [หญิงxชาย & ชายxชาย]
หาอ่านเพิ่มเติมได้ >>
https://my.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1756847
https://www.readawrite.com/a/sZ2v24-เพื่อนรักปรารถนา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=oranamarinlove&group=8
http://www.tunwalai.com/story/228816/เพื่อนรักปรารถนา_lgbtq
ฝากกดไลค์เพจนิยายไตรติมา-ติดตามอัพเดท >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=
* หมายเหตุ *
นิยายรักในแนว LGBTQ คืออะไร?
LGBT หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ * ในภาษาอังกฤษย่อว่า LGBT (หรือ GLBT) ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า lesbian (เลสเบี้ยน) , gay (เกย์) , bisexual (ไบเซ็กชวล) , และ transgender/transsexual (คนข้ามเพศ) มีการใช้คำว่า LGBT มาตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งดัดแปลงมาจาก “LGB” ที่ใช้ในการแทนวลี "สังคมเกย์" (Gay community) ที่ในหลาย ๆ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่รู้สึกว่าอธิบายกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างถูกต้องตามที่กล่าว ในการใช้สมัยใหม่ LGBT มีความหมายถึงความหลากหลายของเพศวิถี (Sexuality) และลักษณะการแสดงเพศทางสังคม และในบางครั้งอาจหมายถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มรักต่างเพศ แทนการระบุว่าเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล หรือ คนข้ามเพศ
ที่มา:
https://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
Q = Queer หมายถึงบุคคลผู้ที่สามารถชอบเพศอะไรก็ได้ในบรรดา LGBTQ หรือจะชอบเพศชายหญิงทั่วไปก็ได้ สามารถเกิดความรักได้กับทุกเพศ
Tags: ไตรติมา, โรมานซ์, รักสามเส้า, LGBT, LGBTQ, หนุ่มหล่อ, หนุ่มหน้าสวย, เพื่อน, แอบรักเพื่อน, เกาะ, ไบเซ็กชวลเกย์,
ตอน: Chapter 8 ไข้ขึ้น
..........คาคบเข้าใจในอารมณ์สุนทรียะของชยาดี
ไม่ว่าเมื่อไหร่ในใจเธอมีศาสตร์และศิลป์ที่เธอหลงใหลใฝ่ใจ ทำให้เธอกลายเป็นสาวช่างฝันที่ชื่นชมในความงามตามธรรมชาติ
ตัวเขาเองก็เช่นกันได้ฟังน้ำเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวชื่นชมความสวยงามในตัวเขาแล้วอยากเกิดเป็นผู้หญิงสวยเสียจริงๆ เพื่อจะได้เป็นคนที่เธอรัก...
ปากเล็กๆ ได้รูปแบบกระจับยังคงขยับกล่าวชื่นชมชาย ให้นึกว่าช่างน่าเอ็นดู
“พี่คาคบนี่ปากอิ่มสวยเหมือนกลีบกุหลาบเลยนิ หลังทานข้าวแล้วยังไม่ได้ทาลิปมันใช่ไหมนี่”
เธอไม่รอให้คาคบตอบคำถาม เบี่ยงตัวผินหน้ามาด้านข้างเพื่อสังเกตดูริมฝีปากชาย ก่อนจะใช้ปลายนิ้วก้อยลองสัมผัสกลีบปากตามมา
เคลิ้มใจเอาได้ง่ายๆ คาคบเพลินสัมผัสจากนิ้วมือน้อยนิดนุ่มนิ่ม เนื่องจากริมฝีปากปกติเป็นบริเวณที่ไวต่อสัมผัสเร้าอยู่แล้ว แบบนี้ถึงไม่ได้จุมพิตมือของเธอ กลับเปรียบเสมือนว่าเธอได้ให้เขาจูบนิ้วมือเธอโดยเธอไม่รู้ตัว
“ฉันมีลิปมันเดี๋ยวทาให้นะ มันเป็นลิปมันวาวฉ่ำน้ำ หอมกลิ่นสตอเบอรี่ด้วยล่ะ”
เขาไม่ต้องตอบอะไร ปล่อยตามใจเธอ
เธอจะลูบจะคลึงจุดไหนในเรือนกายเขา เขายอมแล้วทุกอย่าง
ทุกอย่างสร้างความเพลิดเพลินสัมผัสให้เขาได้ทั้งนั้น
ชยาล้วงหยิบลิปกลอสออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่เธอชอบพกติดตัวประจำ
นิ้วก้อยน้อยทาถูลิปเนื้อลิปกลอสให้ติดปลายนิ้ว แล้วจรดวาดลงบนกลีบปากชายผู้เป็นเพื่อนรัก
เธอแตะลิปกลอสกับกลีบปากของเขาสลับไปมาหลายครั้ง ยังคงเกลี่ยเรียบให้ลิปกลอสได้เคลือบทั่วกลีบปาก
นั่นทำให้คาคบนั่งนิ่งในอารมณ์รื่นรมย์สำราญ...
“ปากสวยแล้วพี่คาคบ”
เธอวางมือแล้วกล่าวชม แล้วมือก็ไม่หยุดนิ่งไม่วายไปจับเล่นกับติ่งหูประดับต่างหูตุ้งติ้งเป็นการแถมอีกนิดหน่อย
“หูก็สวย ภาษาโบราณมักเรียกผู้ชายแบบพี่คาคบว่า... ชายหนุ่มรูปงาม แต่สมัยนี้เขาเรียกว่า หล่อเฟี้ยวเชียวล่ะ”
กล่าวชมผสมอมยิ้มแช่มชื่น เธอยังคงตะแคงคอมามองจ้องด้วยแววตาแจ่มใสสุกสกาว...
“ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่ออะไรหรอก แค่เธอเห็นว่าฉันหล่อในสายตาเธอ ฉันก็ปลื้มยิ่งกว่าการได้เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกแล้ว”
“อย่างพี่คาคบเหรอจะหล่อที่สุดในโลกแค่นั้น แบบนี้หล่อยิ่งกว่าผู้ชายอื่นใดในสามโลกเลยล่ะ”
“พูดจาได้น่ารัก จะชมให้ฉันลอยไปถึงไหน”
“ถ้าพี่คาคบเป็นผู้หญิงได้ก็คงดี ฉันคงจะหลงรักน่าดู”
เธอพูดอย่างนี้เหมือนแกล้งให้หัวใจของเขาพองโตขยายใหญ่ คลั่งไคล้ไหลหลงคารมเธอ
หัวใจปรารถนา... จะเกิดเพศไหนก็ได้ขอให้ได้เป็นคนที่เธอรัก
จู่ๆ เธอลูบผมบนศีรษะเมื่อมีหยดน้ำตกกระทบลงมา
“สงสัยฝนจะตก เร็วพี่คบกลับเข้าบ้านเราเถอะ”
ฝนเพิ่งหล่นเม็ด เธอก็รีบลุกหนีฝนเสียแล้ว
คาคบเปลี่ยนอารมณ์ตามเธอแทบไม่ทัน ทั้งที่เมื่อครู่ยังคุยกันเพลิดเพลินอยู่ดีๆ
‘ช่างเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนจริงนะ’
..........ระหว่างทาง ฝนเทลงมาทำให้เปียกชุ่มฉ่ำอย่างกับอาบน้ำฝนกว่าจะถึงห้องเช่าชาวเล
นำรถมอเตอร์ไซค์พ่วงมาจอดและคลุมด้วยผ้ายางกันฝน
ชยารีบวิ่งหนีสายฝนเทกระหน่ำเข้าไปในบ้านก่อน
คาคบเพิ่งเข้าบ้านตามหลัง ปิดล็อคประตูแล้วเพิ่งหันมาเห็น!
ตกใจจนดวงจิตกระเจิดกระเจิง ตะลึงจ้องภาพเบื้องหน้า...
ชยาหันด้านข้างให้ กำลังถอดเสื้อและกางเกงออกหมดทั้งเนื้อตัวว่างเปล่าปราศจากเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น ไม่เหลือแม้กระทั่งอันเดอร์แวร์
เสื้อผ้าเปียกชุ่มฉ่ำน้ำฝนถูกวางกองอยู่กับพื้น
เธอไม่เกรงใจและไม่อาย ไม่เคยเห็นว่าคาคบเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไว้วางใจในฐานะเพื่อนสนิท นึกจะเปลือยกายก็เปลือยตามใจรักอิสระ
ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งมีปฏิกิริยาต่อสิ่งเร้ากระตุ้นตรงหน้าเป็นไปตามธรรมดาของมนุษย์ ปวด... เหมือนถูกบีบคั้นบริเวณแกนกลางกายชายหนุ่ม
คาคบตั้งรับไม่ทัน ยืนตัวตรงแข็งเกร็งเป็นแวมไพร์กระหายหิว น้ำลายจะไหล หัวใจเต้นถี่ทวีความรุนแรงเป็นกลองรัว
แม้จะเคยเห็นร่างเปล่าเปลือยของชยามากี่ครั้งกี่หนก็มีปฏิกิริยาทุกหน ร่างกายชายไม่ยอมเคยชินกับนิสัยแบบนี้ของเธอสักหน
ชั่วครู่เธอลงไปนั่งคุกเข่าข้างกระเป๋าเสื้อผ้า ซึ่งพวกเราเก็บเสื้อผ้าไว้ในกระเป๋า ที่นี่ไม่มีตู้เสื้อผ้าให้ใส่
เธอหยิบชุดนอนผ้ายืดแขนกุดตัวยาวเหนือเข่าสีออกเขียวอ่อนมาสวม แล้วถึงได้หยิบผ้าขนหูมาขยี้ซับน้ำที่เปียกเส้นผม
เธอเพิ่งหันมาเห็นผมที่ยืนจ้องอยู่ชนิดไม่กระพริบตา
“พี่คบไม่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมล่ะ เดี๋ยวเป็นหวัดนะ”
เธอทักท้วงค่อนข้างห่วงอยู่ห่างๆ
“อ๋อ... เดี๋ยวฉันจะเข้าห้องอาบน้ำสระผมน่ะ”
คาคบเหม่อเพลิน เพิ่งรู้สึกตัวจึงได้หันมาใส่ใจดูแลตัวเอง
..........คาคบอาบน้ำสระผมแล้วเสร็จกลิ่นกายชายหอมกรุ่นตามยี่ห้อครีมอาบน้ำกับแชมพูสระผม
ไม่เห็นชยาเพราะว่าเธอเข้ามุ้งนอนหลับเงียบไปแล้วทั้งที่ยังเป็นเวลาหัวค่ำทุ่มครึ่งกว่าๆ
เมื่อไม่รู้จะทำอะไรคาคบเลยลงนอนบ้าง ช่างหลับยากหลับเย็น
ไพล่ไปนึกเห็นมโนภาพเปลือยเปล่าเร้าอารมณ์ที่ทำให้ทั่วสรรพางค์กายขนลุกซู่ชูชัน
และไม่เฉพาะเส้นขนเท่านั้นที่ลุกสู้ เจ้าแกนกายชายนั่นก็พลอยลุกตั้งเป็นต้นโด่ไม่รู้ล้มไปด้วย
“ซวยจริงๆ ทำยังก็ไม่หาย ...เฮ้อ”
เลือดหนุ่มสูบฉีดจนเผลอบ่นเพ้อรำพึงกับตัวเองอย่างหนักอกหนักใจ ...กระสับกระส่ายนอนไม่เป็นสุขอยู่เป็นนานสองนาน
“พี่คบ... มียาแก้ไข้ไหม”
จู่ๆ ชยาส่งเสียงเรียกชนิดแหบเบาต่ำ เหมือนคนเป็นไข้หนัก
คาคบลุกขึ้นมาจับผ้ามุ้งมองดูเธอที่นอนในมุ้ง
เห็นชยาไม่ลืมตา ไม่แน่ใจว่าเธอละเมอทั้งยังหลับหรือเปล่า
ด้วยความเป็นห่วงคาคบจึงต้องมุดมุ้งเข้าไป ใช้หลังมืออังโหนกหน้าผาก
สัมผัสได้กับผิวหน้าอุณหภูมิสูง แม้ไม่ได้ใช้ปรอทวัดไข้ก็รู้ในทันทีว่าเธอมีไข้ขึ้นสูง
“หนาว... ปวดหัว”
ชยาพูดเหมือนเพ้อเพราะพิษไข้ นั่นคืออาการที่เธอกำลังทนต่อสู้อยู่กับอาการไข้หนัก
“ลุกไหวไหม เดี๋ยวฉันประคองให้นั่งนะ แล้วจะไปเอายาแก้ไข้มาให้”
คาคบพยุงชยาลุกนั่ง แล้วเปิดตีนมุ้งตลบขึ้นบนหลังคามุ้ง รีบไปนำยาแก้ไข้ซึ่งเก็บไว้รวมอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าออกมา
มีขนมปังไส้เผือกกับนมเปรี้ยวกล่องเล็กเก็บตุนไว้อยู่บ้าง จึงนำมาให้ชยากินรองท้องก่อนกินยาแก้ไข้
“กินยาแก้ไข้แก้ปวดสองเม็ดนะ”
เขาป้อนยาเข้าปากชยาแล้วตามด้วยป้อนน้ำดื่ม
ที่ไม่ได้ให้เธอกินยาเอง เพราะเห็นร่างกายตลอดจนมือของเธอสั่นเพราะพิษไข้ขึ้นสูง
ช้อนใต้แผ่นหลังพยุงตัวให้เธอค่อยเอนหลังลงนอน ห่มผ้าห่มให้สองผืนทับไปเพื่อเพิ่มความอบอุ่นทางกายขณะที่มีอาการหนาวสั่นเทิ้ม
“ที่เป็นนี่คงเป็นไข้ทับระดู ถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงตายได้”
“ไม่นะ ชยากินยาเข้าไปแล้วต้องหายไข้สิ อย่าเป็นอะไรไปนะ”
เสียงของคาคบพูดดังอย่างร้อนใจ
ใครจะอยากให้คนที่ตนหลงใหลคลั่งไคล้ตายไปต่อหน้าต่อตา มันทารุณจิตใจกันเกินไป ไม่มีใครอยากสูญเสีย...
“ฉันจะนอนกกเธอไว้ให้ไออุ่นเธอด้วย”
คาคบบอกพร้อมลงนอนแนบข้าง อ้อมแขนโอบกอด ท่อนขายาวก่ายทับลงไปนอกเหนือจากผ้าห่มสองผืนให้เธออบอุ่นแน่นอน
..........ตั้งนาฬิกามือถือไว้สี่ชั่วโมงถึงในเวลาหลังเที่ยงคืน คาคบต้องปลุกชยาลุกขึ้นมาทานยาแก้ไข้ต่อเนื่องทุกสี่ถึงหกชั่วโมง
เปลือกตาปรือพร้อมขนตายาวงอนงามค่อยเปิดขึ้นช้าๆ ชยายังคงง่วงเนื่องจากฤทธิ์ยา
คาคบไปทำโจ๊กจากคัพโจ๊ก แค่ใส่น้ำร้อนปิดฝาทิ้งไว้ไม่นานก็นำมาให้คนป่วยทานได้ ตั้งไว้รอข้างมุ้ง
แล้วถึงได้เปิดมุ้งตลบขึ้นไปบนหลังคามุ้งอีกครั้ง เลิกผ้าห่มที่ปกคลุมเรือนร่างสาวผู้ป่วย พบว่ามันเต็มไปด้วยความชื้นชุ่มแฉะเหงื่อ
พยุงร่างเพื่อนสาวผู้ป่วยให้ลุกออกจากมุ้ง ได้สัมผัสความเปียกชื้นชุ่มเหงื่อทั้งแผ่นหลังผ่านชุดนอนผ้ายืดของเธอ
“สงสัยหลังทานยาแล้วคงต้องเช็ดตัวกัน เหงื่อออกมากขนาดนี้ ตัวไม่ค่อยร้อนมากแล้ว แสดงว่ายาแก้ไข้ที่กินเข้าไปได้ผล”
ชยายกถ้วยคัพโจ๊กขึ้นมาตักกินเองได้ กินไปไม่หมดก็กินยาแก้ไข้ตามด้วยน้ำดื่ม
“อยากเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าอ่ะ พี่คบไปหยิบชุดนอนตัวบางในกระเป๋าเสื้อผ้าให้หน่อย รู้สึกร้อนแล้วอยากใส่ชุดนอนบางๆ”
ชยานั่งรอ...
เพราะไม่สามารถลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง ทั้งยังมึนงงและอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แม้ไข้ทุเลาเบาลงแต่มันยังไม่หาย
คาคบหยิบชุดนอนมาวางข้างตัวเธอ
ก่อนจะไปนำน้ำสะอาดใส่อ่างพลาสติกพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้
คนป่วยต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่อยากให้คาคบเช็ดตัวให้เธอ เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสมจะให้เขาแตะต้องล่วงล้ำเนื้อตัวเธอนั่นเอง เรียกว่ายังหวงเนื้อหวงตัวของตัวเองอยู่
ชยาเช็ดตัวเริ่มจากใบหน้า ลำคอ บ่า ไหล่ ท่อนแขนทั้งสองข้าง แล้วยืดขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดขาทั้งสองข้าง ก่อนจะถอด...!
“อ๊าย...”
คาคบกลั้นเสียงอุทานเต็มที่ ...ช็อค! ในระยะกระชั้นชิดเพียงแค่คืบเท่านั้น
เขาห้ามไม่ทันเมื่อชยาถอดชุดนอนผ้ายืดออก เปลือยทั้งเนื้อตัวล่อนจ้อน
ตัวเองได้แต่หลับตาปี๋...
มันสายเกินกว่าจะหักห้ามใจ หลังจากเห็นภาพกระชากอารมณ์หื่นอย่างโหดร้ายแล้ว ภาพโป๊เปลือยติดตรึงเข้าไปนัยน์ตาไม่อาจลบหายได้ทันท่วงที
หากตัวเขาเป็นกระเทยตุ๊ดแต๋วคงจะโชคดีกว่านี้ ถ้าต้องมาเจอเพื่อนรักในสภาพนี้คงจะอุทาน...
‘อกอีแป้นแตก’
แต่นี่ตัวเขาเป็นผู้ชายทั้งแท่งต้องตายแน่ อกจะระเบิด!
เขื่อนขันธ์กั้นทำนบจิตใจแตก... จากแรงดันมหาศาลทลายให้พังพินาศ คาคบอดกลั้นแรงฤทธิ์พิศวาสไม่ไหว สองมือกุมกดไว้บริเวณหน้าท้องน้อย และนั่งพับเพียบย่อตัวงอ
สาวคนป่วยไม่ได้คิดอะไร และเธอไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังรู้สึกจะเป็นจะตายเพราะตัวเธอ
เธอยังคงเช็ดตัวต่อไปอีกครู่หนึ่งจนรู้สึกหายเหนียวตัว แล้วจึงหยิบชุดนอนบางข้างกายมาสวมใส่
“ที่นอนฉันเปียกชื้นเหงื่อ นอนไม่ได้แล้ว พี่คาคบขอยืมนอนที่นอนพี่หน่อยนะ”
เธอพูดเสียงอ้อนขอ... พลางหันหลังไปมองที่นอนของตัวเอง
จากนั้นจึงเพิ่งหันมาสังเกตเห็นเพื่อนเธอท่าทางแปลกไป เมื่อเขาเอามือกุมท้องทำตัวงอ สีหน้าบ่งบอกเหมือนคนเจ็บปวด
“พี่คบเป็นไร ปวดท้องเหรอ”
“ฮื่อ...”
คาคบพูดไม่ออกได้แต่ครางยอมรับ เนื่องเพราะมันปวดรวดร้าวแน่นคับตึงต้องกดส่วนที่แข็งขันไว้จนสุดอดกลั้น
“กินยาแก้ปวดสิ พี่คบต้องรักษาตัวเองด้วยนะ ฉันง่วงมากขอนอนก่อนล่ะพี่คบ”
ให้คำแนะนำแล้วสาวผู้ป่วยไข้ก็ลุกเดินไปยังที่นอนของคาคบ เปิดมุ้งมุดเข้าไปนอน ...เงียบ
.
ไม่ว่าเมื่อไหร่ในใจเธอมีศาสตร์และศิลป์ที่เธอหลงใหลใฝ่ใจ ทำให้เธอกลายเป็นสาวช่างฝันที่ชื่นชมในความงามตามธรรมชาติ
ตัวเขาเองก็เช่นกันได้ฟังน้ำเสียงไพเราะเสนาะหูกล่าวชื่นชมความสวยงามในตัวเขาแล้วอยากเกิดเป็นผู้หญิงสวยเสียจริงๆ เพื่อจะได้เป็นคนที่เธอรัก...
ปากเล็กๆ ได้รูปแบบกระจับยังคงขยับกล่าวชื่นชมชาย ให้นึกว่าช่างน่าเอ็นดู
“พี่คาคบนี่ปากอิ่มสวยเหมือนกลีบกุหลาบเลยนิ หลังทานข้าวแล้วยังไม่ได้ทาลิปมันใช่ไหมนี่”
เธอไม่รอให้คาคบตอบคำถาม เบี่ยงตัวผินหน้ามาด้านข้างเพื่อสังเกตดูริมฝีปากชาย ก่อนจะใช้ปลายนิ้วก้อยลองสัมผัสกลีบปากตามมา
เคลิ้มใจเอาได้ง่ายๆ คาคบเพลินสัมผัสจากนิ้วมือน้อยนิดนุ่มนิ่ม เนื่องจากริมฝีปากปกติเป็นบริเวณที่ไวต่อสัมผัสเร้าอยู่แล้ว แบบนี้ถึงไม่ได้จุมพิตมือของเธอ กลับเปรียบเสมือนว่าเธอได้ให้เขาจูบนิ้วมือเธอโดยเธอไม่รู้ตัว
“ฉันมีลิปมันเดี๋ยวทาให้นะ มันเป็นลิปมันวาวฉ่ำน้ำ หอมกลิ่นสตอเบอรี่ด้วยล่ะ”
เขาไม่ต้องตอบอะไร ปล่อยตามใจเธอ
เธอจะลูบจะคลึงจุดไหนในเรือนกายเขา เขายอมแล้วทุกอย่าง
ทุกอย่างสร้างความเพลิดเพลินสัมผัสให้เขาได้ทั้งนั้น
ชยาล้วงหยิบลิปกลอสออกมาจากกระเป๋ากางเกงที่เธอชอบพกติดตัวประจำ
นิ้วก้อยน้อยทาถูลิปเนื้อลิปกลอสให้ติดปลายนิ้ว แล้วจรดวาดลงบนกลีบปากชายผู้เป็นเพื่อนรัก
เธอแตะลิปกลอสกับกลีบปากของเขาสลับไปมาหลายครั้ง ยังคงเกลี่ยเรียบให้ลิปกลอสได้เคลือบทั่วกลีบปาก
นั่นทำให้คาคบนั่งนิ่งในอารมณ์รื่นรมย์สำราญ...
“ปากสวยแล้วพี่คาคบ”
เธอวางมือแล้วกล่าวชม แล้วมือก็ไม่หยุดนิ่งไม่วายไปจับเล่นกับติ่งหูประดับต่างหูตุ้งติ้งเป็นการแถมอีกนิดหน่อย
“หูก็สวย ภาษาโบราณมักเรียกผู้ชายแบบพี่คาคบว่า... ชายหนุ่มรูปงาม แต่สมัยนี้เขาเรียกว่า หล่อเฟี้ยวเชียวล่ะ”
กล่าวชมผสมอมยิ้มแช่มชื่น เธอยังคงตะแคงคอมามองจ้องด้วยแววตาแจ่มใสสุกสกาว...
“ฉันไม่เคยคิดว่าตัวเองหล่ออะไรหรอก แค่เธอเห็นว่าฉันหล่อในสายตาเธอ ฉันก็ปลื้มยิ่งกว่าการได้เป็นผู้ชายที่หล่อที่สุดในโลกแล้ว”
“อย่างพี่คาคบเหรอจะหล่อที่สุดในโลกแค่นั้น แบบนี้หล่อยิ่งกว่าผู้ชายอื่นใดในสามโลกเลยล่ะ”
“พูดจาได้น่ารัก จะชมให้ฉันลอยไปถึงไหน”
“ถ้าพี่คาคบเป็นผู้หญิงได้ก็คงดี ฉันคงจะหลงรักน่าดู”
เธอพูดอย่างนี้เหมือนแกล้งให้หัวใจของเขาพองโตขยายใหญ่ คลั่งไคล้ไหลหลงคารมเธอ
หัวใจปรารถนา... จะเกิดเพศไหนก็ได้ขอให้ได้เป็นคนที่เธอรัก
จู่ๆ เธอลูบผมบนศีรษะเมื่อมีหยดน้ำตกกระทบลงมา
“สงสัยฝนจะตก เร็วพี่คบกลับเข้าบ้านเราเถอะ”
ฝนเพิ่งหล่นเม็ด เธอก็รีบลุกหนีฝนเสียแล้ว
คาคบเปลี่ยนอารมณ์ตามเธอแทบไม่ทัน ทั้งที่เมื่อครู่ยังคุยกันเพลิดเพลินอยู่ดีๆ
‘ช่างเป็นเจ้าสาวที่กลัวฝนจริงนะ’
..........ระหว่างทาง ฝนเทลงมาทำให้เปียกชุ่มฉ่ำอย่างกับอาบน้ำฝนกว่าจะถึงห้องเช่าชาวเล
นำรถมอเตอร์ไซค์พ่วงมาจอดและคลุมด้วยผ้ายางกันฝน
ชยารีบวิ่งหนีสายฝนเทกระหน่ำเข้าไปในบ้านก่อน
คาคบเพิ่งเข้าบ้านตามหลัง ปิดล็อคประตูแล้วเพิ่งหันมาเห็น!
ตกใจจนดวงจิตกระเจิดกระเจิง ตะลึงจ้องภาพเบื้องหน้า...
ชยาหันด้านข้างให้ กำลังถอดเสื้อและกางเกงออกหมดทั้งเนื้อตัวว่างเปล่าปราศจากเสื้อผ้าติดกายสักชิ้น ไม่เหลือแม้กระทั่งอันเดอร์แวร์
เสื้อผ้าเปียกชุ่มฉ่ำน้ำฝนถูกวางกองอยู่กับพื้น
เธอไม่เกรงใจและไม่อาย ไม่เคยเห็นว่าคาคบเป็นเพียงผู้ชายธรรมดาคนหนึ่ง ไว้วางใจในฐานะเพื่อนสนิท นึกจะเปลือยกายก็เปลือยตามใจรักอิสระ
ผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งมีปฏิกิริยาต่อสิ่งเร้ากระตุ้นตรงหน้าเป็นไปตามธรรมดาของมนุษย์ ปวด... เหมือนถูกบีบคั้นบริเวณแกนกลางกายชายหนุ่ม
คาคบตั้งรับไม่ทัน ยืนตัวตรงแข็งเกร็งเป็นแวมไพร์กระหายหิว น้ำลายจะไหล หัวใจเต้นถี่ทวีความรุนแรงเป็นกลองรัว
แม้จะเคยเห็นร่างเปล่าเปลือยของชยามากี่ครั้งกี่หนก็มีปฏิกิริยาทุกหน ร่างกายชายไม่ยอมเคยชินกับนิสัยแบบนี้ของเธอสักหน
ชั่วครู่เธอลงไปนั่งคุกเข่าข้างกระเป๋าเสื้อผ้า ซึ่งพวกเราเก็บเสื้อผ้าไว้ในกระเป๋า ที่นี่ไม่มีตู้เสื้อผ้าให้ใส่
เธอหยิบชุดนอนผ้ายืดแขนกุดตัวยาวเหนือเข่าสีออกเขียวอ่อนมาสวม แล้วถึงได้หยิบผ้าขนหูมาขยี้ซับน้ำที่เปียกเส้นผม
เธอเพิ่งหันมาเห็นผมที่ยืนจ้องอยู่ชนิดไม่กระพริบตา
“พี่คบไม่ใช้ผ้าขนหนูเช็ดผมล่ะ เดี๋ยวเป็นหวัดนะ”
เธอทักท้วงค่อนข้างห่วงอยู่ห่างๆ
“อ๋อ... เดี๋ยวฉันจะเข้าห้องอาบน้ำสระผมน่ะ”
คาคบเหม่อเพลิน เพิ่งรู้สึกตัวจึงได้หันมาใส่ใจดูแลตัวเอง
..........คาคบอาบน้ำสระผมแล้วเสร็จกลิ่นกายชายหอมกรุ่นตามยี่ห้อครีมอาบน้ำกับแชมพูสระผม
ไม่เห็นชยาเพราะว่าเธอเข้ามุ้งนอนหลับเงียบไปแล้วทั้งที่ยังเป็นเวลาหัวค่ำทุ่มครึ่งกว่าๆ
เมื่อไม่รู้จะทำอะไรคาคบเลยลงนอนบ้าง ช่างหลับยากหลับเย็น
ไพล่ไปนึกเห็นมโนภาพเปลือยเปล่าเร้าอารมณ์ที่ทำให้ทั่วสรรพางค์กายขนลุกซู่ชูชัน
และไม่เฉพาะเส้นขนเท่านั้นที่ลุกสู้ เจ้าแกนกายชายนั่นก็พลอยลุกตั้งเป็นต้นโด่ไม่รู้ล้มไปด้วย
“ซวยจริงๆ ทำยังก็ไม่หาย ...เฮ้อ”
เลือดหนุ่มสูบฉีดจนเผลอบ่นเพ้อรำพึงกับตัวเองอย่างหนักอกหนักใจ ...กระสับกระส่ายนอนไม่เป็นสุขอยู่เป็นนานสองนาน
“พี่คบ... มียาแก้ไข้ไหม”
จู่ๆ ชยาส่งเสียงเรียกชนิดแหบเบาต่ำ เหมือนคนเป็นไข้หนัก
คาคบลุกขึ้นมาจับผ้ามุ้งมองดูเธอที่นอนในมุ้ง
เห็นชยาไม่ลืมตา ไม่แน่ใจว่าเธอละเมอทั้งยังหลับหรือเปล่า
ด้วยความเป็นห่วงคาคบจึงต้องมุดมุ้งเข้าไป ใช้หลังมืออังโหนกหน้าผาก
สัมผัสได้กับผิวหน้าอุณหภูมิสูง แม้ไม่ได้ใช้ปรอทวัดไข้ก็รู้ในทันทีว่าเธอมีไข้ขึ้นสูง
“หนาว... ปวดหัว”
ชยาพูดเหมือนเพ้อเพราะพิษไข้ นั่นคืออาการที่เธอกำลังทนต่อสู้อยู่กับอาการไข้หนัก
“ลุกไหวไหม เดี๋ยวฉันประคองให้นั่งนะ แล้วจะไปเอายาแก้ไข้มาให้”
คาคบพยุงชยาลุกนั่ง แล้วเปิดตีนมุ้งตลบขึ้นบนหลังคามุ้ง รีบไปนำยาแก้ไข้ซึ่งเก็บไว้รวมอยู่ในกระเป๋าเสื้อผ้าออกมา
มีขนมปังไส้เผือกกับนมเปรี้ยวกล่องเล็กเก็บตุนไว้อยู่บ้าง จึงนำมาให้ชยากินรองท้องก่อนกินยาแก้ไข้
“กินยาแก้ไข้แก้ปวดสองเม็ดนะ”
เขาป้อนยาเข้าปากชยาแล้วตามด้วยป้อนน้ำดื่ม
ที่ไม่ได้ให้เธอกินยาเอง เพราะเห็นร่างกายตลอดจนมือของเธอสั่นเพราะพิษไข้ขึ้นสูง
ช้อนใต้แผ่นหลังพยุงตัวให้เธอค่อยเอนหลังลงนอน ห่มผ้าห่มให้สองผืนทับไปเพื่อเพิ่มความอบอุ่นทางกายขณะที่มีอาการหนาวสั่นเทิ้ม
“ที่เป็นนี่คงเป็นไข้ทับระดู ถ้ารักษาไม่ทันอาจถึงตายได้”
“ไม่นะ ชยากินยาเข้าไปแล้วต้องหายไข้สิ อย่าเป็นอะไรไปนะ”
เสียงของคาคบพูดดังอย่างร้อนใจ
ใครจะอยากให้คนที่ตนหลงใหลคลั่งไคล้ตายไปต่อหน้าต่อตา มันทารุณจิตใจกันเกินไป ไม่มีใครอยากสูญเสีย...
“ฉันจะนอนกกเธอไว้ให้ไออุ่นเธอด้วย”
คาคบบอกพร้อมลงนอนแนบข้าง อ้อมแขนโอบกอด ท่อนขายาวก่ายทับลงไปนอกเหนือจากผ้าห่มสองผืนให้เธออบอุ่นแน่นอน
..........ตั้งนาฬิกามือถือไว้สี่ชั่วโมงถึงในเวลาหลังเที่ยงคืน คาคบต้องปลุกชยาลุกขึ้นมาทานยาแก้ไข้ต่อเนื่องทุกสี่ถึงหกชั่วโมง
เปลือกตาปรือพร้อมขนตายาวงอนงามค่อยเปิดขึ้นช้าๆ ชยายังคงง่วงเนื่องจากฤทธิ์ยา
คาคบไปทำโจ๊กจากคัพโจ๊ก แค่ใส่น้ำร้อนปิดฝาทิ้งไว้ไม่นานก็นำมาให้คนป่วยทานได้ ตั้งไว้รอข้างมุ้ง
แล้วถึงได้เปิดมุ้งตลบขึ้นไปบนหลังคามุ้งอีกครั้ง เลิกผ้าห่มที่ปกคลุมเรือนร่างสาวผู้ป่วย พบว่ามันเต็มไปด้วยความชื้นชุ่มแฉะเหงื่อ
พยุงร่างเพื่อนสาวผู้ป่วยให้ลุกออกจากมุ้ง ได้สัมผัสความเปียกชื้นชุ่มเหงื่อทั้งแผ่นหลังผ่านชุดนอนผ้ายืดของเธอ
“สงสัยหลังทานยาแล้วคงต้องเช็ดตัวกัน เหงื่อออกมากขนาดนี้ ตัวไม่ค่อยร้อนมากแล้ว แสดงว่ายาแก้ไข้ที่กินเข้าไปได้ผล”
ชยายกถ้วยคัพโจ๊กขึ้นมาตักกินเองได้ กินไปไม่หมดก็กินยาแก้ไข้ตามด้วยน้ำดื่ม
“อยากเช็ดตัว เปลี่ยนเสื้อผ้าอ่ะ พี่คบไปหยิบชุดนอนตัวบางในกระเป๋าเสื้อผ้าให้หน่อย รู้สึกร้อนแล้วอยากใส่ชุดนอนบางๆ”
ชยานั่งรอ...
เพราะไม่สามารถลุกขึ้นยืนด้วยตัวเอง ทั้งยังมึนงงและอ่อนเปลี้ยเพลียแรง แม้ไข้ทุเลาเบาลงแต่มันยังไม่หาย
คาคบหยิบชุดนอนมาวางข้างตัวเธอ
ก่อนจะไปนำน้ำสะอาดใส่อ่างพลาสติกพร้อมผ้าขนหนูผืนเล็กมาให้
คนป่วยต้องช่วยเหลือตัวเอง ไม่อยากให้คาคบเช็ดตัวให้เธอ เนื่องจากเห็นว่าไม่เหมาะสมจะให้เขาแตะต้องล่วงล้ำเนื้อตัวเธอนั่นเอง เรียกว่ายังหวงเนื้อหวงตัวของตัวเองอยู่
ชยาเช็ดตัวเริ่มจากใบหน้า ลำคอ บ่า ไหล่ ท่อนแขนทั้งสองข้าง แล้วยืดขาใช้ผ้าขนหนูเช็ดขาทั้งสองข้าง ก่อนจะถอด...!
“อ๊าย...”
คาคบกลั้นเสียงอุทานเต็มที่ ...ช็อค! ในระยะกระชั้นชิดเพียงแค่คืบเท่านั้น
เขาห้ามไม่ทันเมื่อชยาถอดชุดนอนผ้ายืดออก เปลือยทั้งเนื้อตัวล่อนจ้อน
ตัวเองได้แต่หลับตาปี๋...
มันสายเกินกว่าจะหักห้ามใจ หลังจากเห็นภาพกระชากอารมณ์หื่นอย่างโหดร้ายแล้ว ภาพโป๊เปลือยติดตรึงเข้าไปนัยน์ตาไม่อาจลบหายได้ทันท่วงที
หากตัวเขาเป็นกระเทยตุ๊ดแต๋วคงจะโชคดีกว่านี้ ถ้าต้องมาเจอเพื่อนรักในสภาพนี้คงจะอุทาน...
‘อกอีแป้นแตก’
แต่นี่ตัวเขาเป็นผู้ชายทั้งแท่งต้องตายแน่ อกจะระเบิด!
เขื่อนขันธ์กั้นทำนบจิตใจแตก... จากแรงดันมหาศาลทลายให้พังพินาศ คาคบอดกลั้นแรงฤทธิ์พิศวาสไม่ไหว สองมือกุมกดไว้บริเวณหน้าท้องน้อย และนั่งพับเพียบย่อตัวงอ
สาวคนป่วยไม่ได้คิดอะไร และเธอไม่รู้ว่าเพื่อนของเธอกำลังรู้สึกจะเป็นจะตายเพราะตัวเธอ
เธอยังคงเช็ดตัวต่อไปอีกครู่หนึ่งจนรู้สึกหายเหนียวตัว แล้วจึงหยิบชุดนอนบางข้างกายมาสวมใส่
“ที่นอนฉันเปียกชื้นเหงื่อ นอนไม่ได้แล้ว พี่คาคบขอยืมนอนที่นอนพี่หน่อยนะ”
เธอพูดเสียงอ้อนขอ... พลางหันหลังไปมองที่นอนของตัวเอง
จากนั้นจึงเพิ่งหันมาสังเกตเห็นเพื่อนเธอท่าทางแปลกไป เมื่อเขาเอามือกุมท้องทำตัวงอ สีหน้าบ่งบอกเหมือนคนเจ็บปวด
“พี่คบเป็นไร ปวดท้องเหรอ”
“ฮื่อ...”
คาคบพูดไม่ออกได้แต่ครางยอมรับ เนื่องเพราะมันปวดรวดร้าวแน่นคับตึงต้องกดส่วนที่แข็งขันไว้จนสุดอดกลั้น
“กินยาแก้ปวดสิ พี่คบต้องรักษาตัวเองด้วยนะ ฉันง่วงมากขอนอนก่อนล่ะพี่คบ”
ให้คำแนะนำแล้วสาวผู้ป่วยไข้ก็ลุกเดินไปยังที่นอนของคาคบ เปิดมุ้งมุดเข้าไปนอน ...เงียบ
.
ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ธ.ค. 2561, 14:53:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ธ.ค. 2561, 14:53:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 781
<< Chapter 7 ดาวเด่นที่ทำงาน | Chapter 9 คืนเสียสาว >> |
ไตรติมา 22 ธ.ค. 2561, 14:54:24 น.
มีอีบุ๊กให้ดาวน์โหลดกันค่ะ
https://www.mebmarket.com/ebook-80855-เพื่อนรักปรารถนา
ฝากกดไลค์เพจนิยายไตรติมา-ติดตามอัพเดท >> https://www.facebook.com/oranamarinlove
มีอีบุ๊กให้ดาวน์โหลดกันค่ะ
https://www.mebmarket.com/ebook-80855-เพื่อนรักปรารถนา
ฝากกดไลค์เพจนิยายไตรติมา-ติดตามอัพเดท >> https://www.facebook.com/oranamarinlove