มาลีเริงไฟ: รังสี(วิรัตต์ยา) ปลายปากกาสำนักพิมพ์
‘ญานีน’ ถึงกับช็อกเมื่อรู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอ
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
สั่งซื้อได้แล้ววันนี้! **หนังสือพร้อมส่ง**
ราคา 340 บาท (ส่งลงทะเบียน บวกเพิ่ม 40 บาท ส่ง ems บวกเพิ่ม 60 บาท)
-inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก และร้านbooktogothailand
**************
eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้น!
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านที่สนใจสั่งซื้อแพ็กคู่ (มาลีเริงไฟ+ราคีสีเพลิง) จากราคาเต็ม 558 บาท ขายเพียง 491 บาทนะคะ ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าส่ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์'
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
สั่งซื้อได้แล้ววันนี้! **หนังสือพร้อมส่ง**
ราคา 340 บาท (ส่งลงทะเบียน บวกเพิ่ม 40 บาท ส่ง ems บวกเพิ่ม 60 บาท)
-inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์
-ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
-ร้านนิยายออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก และร้านbooktogothailand
**************
eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้น!
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านที่สนใจสั่งซื้อแพ็กคู่ (มาลีเริงไฟ+ราคีสีเพลิง) จากราคาเต็ม 558 บาท ขายเพียง 491 บาทนะคะ ทั้งนี้ยังไม่รวมค่าส่ง
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ 'ปลายปากกา สำนักพิมพ์'
Tags: ผี ดราม่า แก้แค้น แต่งงาน สลับตัว เล่นของ
ตอน: บทที่ 14 -100% + วางศูนย์หนังสือจุฬาฯ
มาต่อให้แล้วค่ะ จุ๊บๆ ช่วงนี้ทีมงานกับกองบ.ก.หัวหมุนทีเดียวจ้า จะพยายามมาลงให้อ่านกันนะคะ แต่แค่ 60-70% ของเรื่องน้าาา อยากอ่านรวดเดียวจบจัดในเล่มได้ที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ และตามร้านออนไลน์นะคะ หรือจะ inbox สั่งซื้อตรงกับสนพ.ก็ที่เพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ ได้เลยยยยย ราคาปักหมุดไว้บนสุดของเพจเรียบร้อย
ว่าแล้วก็มาตามติดแผนการของยิหวากับหนึ่งกันต่อค่ะ!
************
“นึกยังไงถึงชวนพี่ไปทานข้าวบ้านพ่อจ๊ะ” อัคนีเอ่ยถามขึ้นในเย็นวันนั้นเมื่อเขากับภรรยาขึ้นรถแล้วเรียบร้อย และกำลังมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของวิญญูด้วยกัน
“แล้วนี่เจ้าของบ้านจะต้อนรับเราหรือเปล่าก็ไม่รู้” เขาหมายถึง ‘วิรัลยา’ นั่นเอง
“พ่อต่างหากค่ะที่เป็นเจ้าของบ้าน” วิรัลยาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
“จริงๆ ยิหวาอยากไปเยี่ยมน้าวารุณค่ะ คุณพ่อบอกว่าคุณน้ากลับ มาจากเมืองนอกแล้ว แต่เอาจริงๆ นะคะ ยิหวารู้สึกว่าคุณพ่อโกหกเรื่องที่ว่าคุณน้าไปเมืองนอก”
รถถูกเบรกกะทันหัน ก่อนที่คนขับจะหันมามองหน้าหล่อนอย่างไม่พอใจนัก “นี่ยิหวาพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า”
“ก็พูดสิ่งที่ยิหวารู้สึกไงคะ ทำไมพี่เดี่ยวต้องทำท่าโกรธขนาดนั้นด้วย”
“พี่รู้ว่ายิหวาน้อยใจพ่อที่ที่ผ่านมาท่านทำเหมือนไม่ใส่ใจยิหวากับยาหยี แต่ยิหวาก็ไม่ควรจะมองท่านในแง่ร้ายขนาดนี้ พ่อมีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกเรื่องแม่วา”
“ก็มันแปลกๆ นี่คะ พี่เดี่ยวไม่รู้สึกบ้างเหรอ”
“รู้สึกสิ พี่รู้สึกมาสักพักแล้ว...”
“นั่นไง แล้วจะดุยิหวาทำไมคะ” วิรัลยาทำหน้างงๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่น
“คนที่แปลกๆ คือยิหวาต่างหากล่ะ” แล้วเสียงราบเรียบของอัคนีก็ดังขึ้น นิ้วเรียวที่กำลังสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถือชะงักเล็กน้อย
“ยิหวาก็แปลกมาตั้งแต่อยู่โรง’บาลแล้วนี่คะ พี่เดี่ยวก็รู้” ถึงกระนั้นหล่อนก็ทำเสียงให้เป็นปกติได้ ความคิดที่ว่าหล่อนปลอมเป็นญานีนไม่น่า อยู่ในหัวเขาอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่อัคนีจะรู้ได้ง่ายๆ ด้วย ที่ผ่านมาขนาด ญาตาวี ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของญานีนก็ยังจับไม่ได้เลย แม้หล่อนจะมีหลุดความเป็นตัวเองออกมาให้เห็นอยู่บ้างก็ตาม แต่หล่อนก็อ้างได้ว่าเป็นอาการของคนความจำเสื่อม
“ใช่ พี่รู้ พี่เข้าใจ แต่สิ่งที่พี่ไม่เข้าใจก็คือ ยิหวาเป็นคนความจำเสื่อมนะ ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ พี่รู้สึกมาสักพักแล้วว่าทุกลมหายใจเข้าออกของยิหวามีแต่ความแค้นที่มีต่อหนึ่งกับพ่อและแม่วา...ที่ชวนพี่มาบ้านพ่อก็เพราะอยากมาหาเรื่องหนึ่งเขาอีกใช่ไหม ทะเลาะกันที่ทำงานยังไม่พอเหรอ”
“ที่ทำงานเขาไม่เรียกทะเลาะหรอกค่ะ เพราะยิหวายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ยายนั่นพูดจาถากถางเหน็บแนมยิหวาสารพัด และที่ยิหวาชวนพี่มาบ้านพ่อก็เพื่อต้องการรู้เรื่องน้าวารุณจริงๆ” วิรัลยาพยายามอธิบายอย่างใจเย็น แต่ก็รู้ว่าไร้ผล เพราะเขายังทำหน้าไม่เชื่ออยู่ดี
“พ่อจะโกหกเราเพื่ออะไรเหรอ” อัคนีถามขึ้นอีก
“ก็...”
“กลับดีกว่า อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกเลย” พูดจบ เขาก็เลี้ยวรถกลับบ้านตัวเองทันที โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของหญิงสาว
วิรัลยาจึงได้แต่ทำท่าฮึดฮัดขัดใจและผิดหวัง เนื่องด้วยหล่อนนัดธนาคมเอาไว้ ให้เข้าไปช่วยมารดา แต่เขาบอกว่าจะเดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้านไม่ได้ เจ้าที่ไม่อนุญาต จำเป็นต้องมีคนในบ้านพาเข้าไป และหล่อนนี่แหละที่จะพาเขาเข้าไป แต่ดูอัคนีสิ ทำแผนหล่อนล่มไม่เป็นท่า!
***************
เจิมจันทร์เองก็ผิดหวังเช่นกัน เพราะพรายนพรายงานไว้ว่าวิรัลยาวางแผนจะไปที่คฤหาสน์ของวิญญูเพื่อช่วยวารุณ ซึ่งงานนี้หล่อนต้องพา ‘ผู้ช่วย’ ของหล่อนไปด้วยแน่
หญิงชราโกรธอัคนีที่บังคับพาวิรัลยากลับจนแทบอยากจะสั่งสอนให้หลาบจำ หากแต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ ต้องให้ญานีนทำ ถึงจะสะใจ
นึกถึงญานีน นางก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก
เจ้าพรายทองดีมันหายหัวไปอีกแล้ว!
นางหลับตาลงเข้าสมาธิอย่างรวดเร็ว สวดเรียกวิญญาณที่อยู่ในจี้ของญานีนให้ออกมา สักพัก ร่างของเด็กชายวัยราวเก้าขวบซึ่งอยู่ในชุดโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อก็ปรากฏขึ้น
“มึงหายหัวไปไหน!” หญิงชราตวาดลั่น
‘หลานผิดไปแล้ว’ พรายทองดีตอบกลับเหมือนเดิม ตามมาด้วยทรุดกายลงหมอบกับพื้นและร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเดิมอีกเช่นกัน
แต่คราวนี้เจิมจันทร์ไม่เสียเวลาฟังคำแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น นางคว้าไม้เรียวอาบอาคมไว้ในมือได้ก็ฟาดลงบนแผ่นหลังของพรายทองดีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในเมื่อนางยังทำกับอัคนีไม่ได้ ก็ต้องหาที่ระบาย เรียกเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
‘โอ๊ย อย่าตีหลานเลย หลานผิดไปแล้ว’
“รู้ว่าผิดก็ยังจะทำซ้ำซาก มึงมันผีตอแหล! กูบอกแล้วใช่ไหมว่ามึงต้องคอยรายงานเรื่องยายยิหวากับกู อย่าให้กูรู้นะว่ามึงคิดทรยศกู กูไม่เอามึงไว้แน่!”
‘แต่หลานไม่เคยคิดทรยศยายจริงๆ นะจ๊ะ หลานไม่มีอะไรจะรายงานจริงๆ คุณหนูยิหวาไม่ค่อยใส่จี้...’
“มึงว่าไงนะ!”
‘จริงๆ จ้ะยาย คุณหนูถอดหลานทิ้งไว้ที่บ้านตลอด ยกเว้นวันไหนที่จะพบยายถึงใส่จ้ะ’
เจิมจันทร์ถึงกับชะงักงัน จากที่กำลังโมโหพรายเด็กตรงหน้า นางก็เบิกตากว้างขึ้นกว่าเดิมคล้ายนึกอะไรออกอีก ขณะที่วิญญาณหนูน้อยที่ก้มหน้าอยู่ หยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้ว ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจิมจันทร์
สายตาที่ลอบส่งไปให้หญิงชรา มีแต่ความเกลียดชังเต็มพิกัด ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างพอใจอะไรบางอย่าง!
*********************
ชักยังไงๆนะพรายเด็กนี่
สำหรับ eBook มาลีเริงไฟและราคีสีเพลิง มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้นนะคะ
ว่าแล้วก็มาตามติดแผนการของยิหวากับหนึ่งกันต่อค่ะ!
************
“นึกยังไงถึงชวนพี่ไปทานข้าวบ้านพ่อจ๊ะ” อัคนีเอ่ยถามขึ้นในเย็นวันนั้นเมื่อเขากับภรรยาขึ้นรถแล้วเรียบร้อย และกำลังมุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ของวิญญูด้วยกัน
“แล้วนี่เจ้าของบ้านจะต้อนรับเราหรือเปล่าก็ไม่รู้” เขาหมายถึง ‘วิรัลยา’ นั่นเอง
“พ่อต่างหากค่ะที่เป็นเจ้าของบ้าน” วิรัลยาตอบกลับอย่างไม่ใส่ใจ
“จริงๆ ยิหวาอยากไปเยี่ยมน้าวารุณค่ะ คุณพ่อบอกว่าคุณน้ากลับ มาจากเมืองนอกแล้ว แต่เอาจริงๆ นะคะ ยิหวารู้สึกว่าคุณพ่อโกหกเรื่องที่ว่าคุณน้าไปเมืองนอก”
รถถูกเบรกกะทันหัน ก่อนที่คนขับจะหันมามองหน้าหล่อนอย่างไม่พอใจนัก “นี่ยิหวาพูดอะไรออกมารู้ตัวหรือเปล่า”
“ก็พูดสิ่งที่ยิหวารู้สึกไงคะ ทำไมพี่เดี่ยวต้องทำท่าโกรธขนาดนั้นด้วย”
“พี่รู้ว่ายิหวาน้อยใจพ่อที่ที่ผ่านมาท่านทำเหมือนไม่ใส่ใจยิหวากับยาหยี แต่ยิหวาก็ไม่ควรจะมองท่านในแง่ร้ายขนาดนี้ พ่อมีเหตุผลอะไรที่จะต้องโกหกเรื่องแม่วา”
“ก็มันแปลกๆ นี่คะ พี่เดี่ยวไม่รู้สึกบ้างเหรอ”
“รู้สึกสิ พี่รู้สึกมาสักพักแล้ว...”
“นั่นไง แล้วจะดุยิหวาทำไมคะ” วิรัลยาทำหน้างงๆ ก่อนหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมากดเล่น
“คนที่แปลกๆ คือยิหวาต่างหากล่ะ” แล้วเสียงราบเรียบของอัคนีก็ดังขึ้น นิ้วเรียวที่กำลังสไลด์หน้าจอโทรศัพท์มือถือชะงักเล็กน้อย
“ยิหวาก็แปลกมาตั้งแต่อยู่โรง’บาลแล้วนี่คะ พี่เดี่ยวก็รู้” ถึงกระนั้นหล่อนก็ทำเสียงให้เป็นปกติได้ ความคิดที่ว่าหล่อนปลอมเป็นญานีนไม่น่า อยู่ในหัวเขาอยู่แล้ว มันไม่ใช่เรื่องที่อัคนีจะรู้ได้ง่ายๆ ด้วย ที่ผ่านมาขนาด ญาตาวี ซึ่งเป็นพี่สาวแท้ๆ ของญานีนก็ยังจับไม่ได้เลย แม้หล่อนจะมีหลุดความเป็นตัวเองออกมาให้เห็นอยู่บ้างก็ตาม แต่หล่อนก็อ้างได้ว่าเป็นอาการของคนความจำเสื่อม
“ใช่ พี่รู้ พี่เข้าใจ แต่สิ่งที่พี่ไม่เข้าใจก็คือ ยิหวาเป็นคนความจำเสื่อมนะ ไม่ใช่คนเจ้าคิดเจ้าแค้นแบบที่เป็นอยู่ตอนนี้ พี่รู้สึกมาสักพักแล้วว่าทุกลมหายใจเข้าออกของยิหวามีแต่ความแค้นที่มีต่อหนึ่งกับพ่อและแม่วา...ที่ชวนพี่มาบ้านพ่อก็เพราะอยากมาหาเรื่องหนึ่งเขาอีกใช่ไหม ทะเลาะกันที่ทำงานยังไม่พอเหรอ”
“ที่ทำงานเขาไม่เรียกทะเลาะหรอกค่ะ เพราะยิหวายังไม่ได้พูดอะไรสักคำ ยายนั่นพูดจาถากถางเหน็บแนมยิหวาสารพัด และที่ยิหวาชวนพี่มาบ้านพ่อก็เพื่อต้องการรู้เรื่องน้าวารุณจริงๆ” วิรัลยาพยายามอธิบายอย่างใจเย็น แต่ก็รู้ว่าไร้ผล เพราะเขายังทำหน้าไม่เชื่ออยู่ดี
“พ่อจะโกหกเราเพื่ออะไรเหรอ” อัคนีถามขึ้นอีก
“ก็...”
“กลับดีกว่า อย่าทำอะไรบ้าๆ แบบนี้อีกเลย” พูดจบ เขาก็เลี้ยวรถกลับบ้านตัวเองทันที โดยไม่ฟังเสียงทัดทานของหญิงสาว
วิรัลยาจึงได้แต่ทำท่าฮึดฮัดขัดใจและผิดหวัง เนื่องด้วยหล่อนนัดธนาคมเอาไว้ ให้เข้าไปช่วยมารดา แต่เขาบอกว่าจะเดินดุ่มๆ เข้าไปในบ้านไม่ได้ เจ้าที่ไม่อนุญาต จำเป็นต้องมีคนในบ้านพาเข้าไป และหล่อนนี่แหละที่จะพาเขาเข้าไป แต่ดูอัคนีสิ ทำแผนหล่อนล่มไม่เป็นท่า!
***************
เจิมจันทร์เองก็ผิดหวังเช่นกัน เพราะพรายนพรายงานไว้ว่าวิรัลยาวางแผนจะไปที่คฤหาสน์ของวิญญูเพื่อช่วยวารุณ ซึ่งงานนี้หล่อนต้องพา ‘ผู้ช่วย’ ของหล่อนไปด้วยแน่
หญิงชราโกรธอัคนีที่บังคับพาวิรัลยากลับจนแทบอยากจะสั่งสอนให้หลาบจำ หากแต่ก็ต้องอดกลั้นไว้ ต้องให้ญานีนทำ ถึงจะสะใจ
นึกถึงญานีน นางก็เพิ่งนึกอะไรบางอย่างออก
เจ้าพรายทองดีมันหายหัวไปอีกแล้ว!
นางหลับตาลงเข้าสมาธิอย่างรวดเร็ว สวดเรียกวิญญาณที่อยู่ในจี้ของญานีนให้ออกมา สักพัก ร่างของเด็กชายวัยราวเก้าขวบซึ่งอยู่ในชุดโจงกระเบน ไม่ใส่เสื้อก็ปรากฏขึ้น
“มึงหายหัวไปไหน!” หญิงชราตวาดลั่น
‘หลานผิดไปแล้ว’ พรายทองดีตอบกลับเหมือนเดิม ตามมาด้วยทรุดกายลงหมอบกับพื้นและร้องไห้สะอึกสะอื้นเหมือนเดิมอีกเช่นกัน
แต่คราวนี้เจิมจันทร์ไม่เสียเวลาฟังคำแก้ตัวใดๆ ทั้งสิ้น นางคว้าไม้เรียวอาบอาคมไว้ในมือได้ก็ฟาดลงบนแผ่นหลังของพรายทองดีซ้ำแล้วซ้ำเล่า ในเมื่อนางยังทำกับอัคนีไม่ได้ ก็ต้องหาที่ระบาย เรียกเสียงร้องโอดโอยด้วยความเจ็บปวด
‘โอ๊ย อย่าตีหลานเลย หลานผิดไปแล้ว’
“รู้ว่าผิดก็ยังจะทำซ้ำซาก มึงมันผีตอแหล! กูบอกแล้วใช่ไหมว่ามึงต้องคอยรายงานเรื่องยายยิหวากับกู อย่าให้กูรู้นะว่ามึงคิดทรยศกู กูไม่เอามึงไว้แน่!”
‘แต่หลานไม่เคยคิดทรยศยายจริงๆ นะจ๊ะ หลานไม่มีอะไรจะรายงานจริงๆ คุณหนูยิหวาไม่ค่อยใส่จี้...’
“มึงว่าไงนะ!”
‘จริงๆ จ้ะยาย คุณหนูถอดหลานทิ้งไว้ที่บ้านตลอด ยกเว้นวันไหนที่จะพบยายถึงใส่จ้ะ’
เจิมจันทร์ถึงกับชะงักงัน จากที่กำลังโมโหพรายเด็กตรงหน้า นางก็เบิกตากว้างขึ้นกว่าเดิมคล้ายนึกอะไรออกอีก ขณะที่วิญญาณหนูน้อยที่ก้มหน้าอยู่ หยุดร้องไห้สะอึกสะอื้นแล้ว ค่อยๆ เงยหน้าขึ้นมองเจิมจันทร์
สายตาที่ลอบส่งไปให้หญิงชรา มีแต่ความเกลียดชังเต็มพิกัด ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างพอใจอะไรบางอย่าง!
*********************
ชักยังไงๆนะพรายเด็กนี่
สำหรับ eBook มาลีเริงไฟและราคีสีเพลิง มีวางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket ที่เดียวเท่านั้นนะคะ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 11 ก.พ. 2562, 22:25:51 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 11 ก.พ. 2562, 22:25:51 น.
จำนวนการเข้าชม : 55
<< บทที่ 14 -70% | บทที่ 15 -30% >> |