มาลีเริงไฟ: รังสี(วิรัตต์ยา) ปลายปากกาสำนักพิมพ์
‘ญานีน’ ถึงกับช็อกเมื่อรู้ว่าอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับเธอ
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
เป็นฝีมือของ ‘อัคนี’ สามีสุดที่รัก ที่ร่วมมือกับ ‘วิรัลยา’ แฟนเก่าของเขา
เพียงเพราะทั้งคู่อยากกลับไปใช้ชีวิตด้วยกัน
โชคร้ายของพวกเขาที่เธอไม่ตาย
เพราะนับจากนี้จะไม่มีญานีนผู้อ่อนแอ โง่เง่า และขี้ขลาดอีกต่อไป!
เธอวางความรักที่มีต่ออัคนีลง แล้วหยิบความแค้นมาเป็นเข็มทิศนำทาง
ญานีนจะตามล่า และตามฆ่าพวกเขาด้วยมือของเธอเอง
โดยยอมรับความช่วยเหลือจาก ‘เจิมจันทร์’ ผู้เป็นยาย
...ยายซึ่งเป็นพวกเล่นของ!...
นาทีนี้ ญานีนไม่สนถูกผิด ไม่สนว่าใครจะเจ็บ ใครจะตาย
สนเพียงว่าแค้นของเธอต้องได้รับการชำระ
ไม่ได้ด้วยเล่ห์ก็เอาด้วยกล ไม่ได้ด้วยมนตร์ก็เอาด้วยไสยดำ!
*******************
ใครชอบนิยายรักโรแมนติก ดราม่านำ เน้นความรักและการแก้แค้น และ 'สลับหน้ากัน' ระหว่างนางเอกกับนางร้าย ย้ำ! สลับหน้าของจริงค่ะ 55555 จะมาในรูปแบบใด ติดตามได้ในเรื่องเลยนะคะ นางเอกนางร้ายเชือดเฉือนกัน #รับประกันความเผ็ด! ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์นำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooktogothailand
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อมาลีเริงไฟ ราคา 340฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 380฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 400฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (มาลีเริงไฟ ราคีสีเพลิง เลื่อมลายพรายจันทร์ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้า แต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป (มาลีเริงไฟ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนเล็กสุดในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผี ดราม่า แก้แค้น แต่งงาน สลับตัว เล่นของ
ตอน: บทที่ 14 -70%
วิรัลยาเคาะประตูห้องของบิดาแรงๆ และไม่รอให้ท่านอนุญาต หล่อนเปิดประตูเข้าไปเลย นั่นทำให้วิญญูต้องเงยหน้าจากกองเอกสารมาส่งสายตาตำหนิ
“ตอนนี้แกคือยิหวา ช่วยทำตัวให้สมกับเป็นมันหน่อย ยิหวาไม่เคยเสียมารยาทแบบนี้”
“นี่ไม่ใช่เวลาเลคเชอร์วิชามารยาทนะคะพ่อ ทำไมพ่อต้องยอมยิหวามากขนาดนี้ พ่อทำเหมือนกลัวมัน ทั้งที่พ่อก็รู้ว่าไม่มีใครทำอะไรเราได้”
“ทางเขาก็ไม่มีใครทำอะไรได้เหมือนกัน ถ้าเขาไม่เก่งจริงก็คงทำเหมือนที่ลูกทำไม่ได้ และถ้าคนของลูกเก่งจริง เมื่อคืนก็ต้องจัดการยิหวาได้สิ ที่สำคัญ เขาต้องรู้สิว่าแม่แกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่”
“อะไรนะคะ!? แม่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แล้วทำไมพ่อไม่บอกหนึ่ง”
วิญญูไม่ตอบอะไร แต่มองไปด้านหลังลูกสาวด้วยแววตาหวาดกลัว วิรัลยาหันขวับตามสายตา หากไม่พบอะไร
“มีอะไรคะ”
“คนของยิหวาอยู่ตรงนั้น คอยมองพ่ออยู่ตลอด พ่อแทบกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้เลย พ่อเคยลองดื้อ ทำอย่างอยากทำแต่กลับปวดท้องเสมอ” วิญญูลดเสียงให้เบาลงทั้งที่รู้ว่า เขาไม่อาจซ่อนเร้นอะไรจากสายตาหรือการได้ยินของวิญญาณรับใช้ของเจิมจันทร์ได้เลย
“หนูจะเรียกเดฟมาช่วย หนูไม่มีวันปล่อยให้สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดสูญเปล่าหรอกค่ะ หนูต้องทรมานตอนเปลี่ยนหน้า อดทนฝึกความเป็นยายยิหวาอยู่ตั้งครึ่งปี ต้องแกล้งเล่นละครว่าไม่ถูกกับพ่อกับแม่เพื่อตบตาคนอื่น” พูดถึงตรงนี้ หญิงสาวก็นึกถึงที่ตัวเองต้องแกล้งทำเป็นน้อยใจบิดา ทะเลาะกับบิดา เหน็บแนมมารดา ก็เพื่อความเป็นญานีนที่สมบูรณ์
“หนูต้องยอมทนนอนบนเตียงที่ยายยิหวานอน แล้วนี่หนูต้องทนให้มันเรียกหนูไปด่าต่อหน้าคนอื่นอีกเหรอคะ”
“หนึ่ง หนึ่งพูดเหมือนยิหวาเขาไม่ใช่ลูกพ่องั้นแหละ หนึ่งเจ็บปวดเสียใจ ยิหวามันก็เจ็บปวดเหมือนกัน”
“พ่อ! นี่ไม่ใช่เวลามาสวมบทพ่อดีเด่นนะคะ พ่อเลือกที่จะอยู่ข้างหนึ่งกับแม่ตั้งแต่แรก แล้วเกิดจะมาสงสารยายนั่นตอนนี้เนี่ยนะคะ”
“แต่หนึ่งก็รู้ว่าพ่อไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก หนึ่งกับแม่ใช้เล่ห์กลกับพ่อ” วิญญูลุกขึ้นจากเก้าอี้มาประจันหน้า และนั่นทำให้ลูกสาวเงียบไป
สิ่งที่บิดาพูดนั้นไม่ผิดเลย!
ตอนที่วิญญูรู้ว่าวิรัลยาและวารุณกำลังคิดจะทำอะไร วิญญูนั้นคัดค้านทันที วารุณจึงต้องให้ธนาคมช่วยด้วยการใช้ ‘ยาสั่ง’ เพื่อให้วิญญูร่วมมือด้วย
“ระ...เรื่องนั้นมันผ่านมาแล้วค่ะพ่อ” วิรัลยาไม่กล้าสบตาบิดา
“และเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว...หนึ่งจะเข้ามาบอกว่าให้พ่อคานอำนาจของยายยิหวาหน่อย อีกหน่อย มันคงยึดสถานีไปทำพังแน่ๆ หนูไปละ จะไปหาแม่”
“เดี๋ยว...”
แต่วิรัลยาไม่ฟังอะไรอีกแล้ว หล่อนหันหลังเดินจากไปด้วยท่าทีเร่งร้อน
วิญญูได้แต่ถอนหายใจยาวๆ ด้วยความเหนื่อยหนักหัวใจ ชายวัยกลางคนทรุดกายลงนั่งพร้อมกับเปิดประตูความทรงจำออก เพื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวระหว่างเขากับภรรยาทั้งสอง...
************
วิญญูรู้จักจิรัญญาครั้งแรกจากการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนั้นหล่อนเพิ่งเลิกรากับสามีคนที่สอง ซึ่งเพื่อนบอกว่าเพราะผู้ชายเจ้าชู้มาก แถมยังมีทำร้ายร่างกายด้วย เขาได้แต่มองหล่อนด้วยความเห็นใจ หล่อนเป็นคนสวยมาก แต่ก็เป็นความสวยที่ดูเศร้าเสียจนเขาอยากเป็นคนทำให้ความเศร้านั้นหายไป เขาเริ่มต้นจีบหล่อน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนในครอบครัว
‘หย่าผัวคนแรกก็ยังทำใจยอมรับได้นะ นี่ผัวสอง ลองคิดเอาเองว่าเป็นผู้หญิงแบบไหน’ นั่นคือคำพูดของพี่สาวคนโตของเขาซึ่งออกตัวคัดค้านแรงกว่าใครเพื่อน
ส่วนเพื่อนๆ แบ่งเป็นสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เชียร์ด้วยเห็นใจหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่ดูเป็นคนอมทุกข์ กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายหลังนี่ถึงขั้นไปขุดคุ้ยข้อมูลหล่อนมาให้ฟัง
‘ผัวคนแรกเป็นนักร้องในผับ ผัวคนที่สองเป็นพนักงานบริษัทกระจอกๆ แห่งหนึ่ง เธอเห็นอะไรจากบรรดาผัวของเจ้าหล่อนไหม สองคนนี้มีความเหมือนกันคือ ไม่มีอนาคต ไม่มีความมั่นคง นั่นแสดงว่าเจ้าหล่อนเป็นคนขาดสติ ขาดความรอบคอบ ขาดวิจารณญาณ ซึ่งทำให้ชีวิตคู่พังลง’
แต่เขาในตอนนั้นเชื่อมั่นในตัวเองมากว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงหล่อนได้ เขามั่นใจว่าความรักที่เขามี มันมากพอที่จะทำให้เขาใจเย็นและให้เวลาหล่อนได้ทั้งชีวิต...แต่เขาคิดผิด!
จิรัญญาอาการหนักกว่าที่เขาและคนอื่นๆ รับรู้มากนัก หล่อนเป็นพวกต้องการความรักแบบไม่มีที่สิ้นสุด และหลับหูหลับตาเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างไม่มีวันหมด เหนือกว่านั้นคือหล่อนเป็นพวกขี้ระแวงอย่างร้ายกาจ หล่อนมักจะขอตามเขาไปที่ทำงาน เพื่อแสดงตัวและส่งสายตาจิกกัดพนักงานหญิงสวยๆ อันทำให้เขาและลูกน้องต่างอึดอัดลำบากใจ ตอนนั้นเองที่วารุณก้าวเข้ามา วารุณผู้สวย สง่า เยือกเย็น อยู่ด้วยแล้วสบายตาสบายใจ เขาจึงไม่ลังเลที่จะมีหล่อนเป็นบ้านอีกหลัง ซึ่งหล่อนก็อยู่ในที่ของหล่อนมาด้วยดี จนกระทั่งมีวิรัลยา...
วารุณเริ่มเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองเพื่อลูก ร้อนถึงเขาที่ต้องใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้อยู่นานพอสมควร เพราะตอนนั้นจิรัญญาก็เพิ่งคลอดญาตาวีเช่นกัน ถึงเขาจะเบื่อหน่ายในตัวจิรัญญา แต่เขาก็จำต้องให้เกียรติเธอในฐานะเมียหลวง อีกอย่าง เขาเริ่มรู้สึกว่าวารุณเรียกร้องจนมากเกินไป ไม่เพียงอยากเปิดเผยตัวและอยากอยู่บ้านหลังใหญ่ของเขา แต่วารุณต้องการให้เขาหย่าจากจิรัญญาด้วย ช่วงเวลาคาราคาซังนี่เอง จิรัญญาก็ตั้งท้องญานีน อันทำให้วารุณโกรธและน้อยใจเขามาก หล่อนเคยจะหอบลูกหนีเพราะรู้ว่าเขารักวิรัลยาลูกของหล่อนมาก ส่วนญาตาวี เขาไม่ค่อยได้อุ้มชูเลี้ยงดู เพราะเจิมจันทร์แม่ยายของเขาไม่ให้เขาแตะ สายใยผูกพันระหว่างเขากับวิรัลยาจึงมีมากกว่าลูกสาวของจิรัญญา
ในที่สุด ด้วยความกลัวจะไม่ได้อยู่เลี้ยงดูวิรัลยา กอปรกับเจิมจันทร์ก็ไล่เขาออกจากบ้านเช้าเย็น เขาก็ตัดสินใจหย่าจากจิรัญญา โดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กอดญานีน...ลูกสาวคนเล็กของเขาด้วยซ้ำ แล้วมาสร้างบ้านหลังใหม่อยู่กับวารุณและวิรัลยา ซึ่งก็คือคฤหาสน์ที่เขาอยู่ตอนนี้นั่นเองเนื่องจากไม่อยากให้สองแม่ลูกต้องมาวุ่นวายกับคนในบ้านหลังใหญ่ของเขา
ถึงกระนั้น วารุณก็ไม่ได้ใจร้ายนัก หล่อนยอมให้เขาพาญาตาวีกับ ญานีนมาเล่นกับวิรัลยาที่คฤหาสน์ พยายามที่จะให้ลูกสาวทั้งสามคนของเขาสนิทสนมกัน เรื่องนี้วารุณเป็นคนแนะนำเขาเอง ซึ่งเขาก็เห็นด้วยและซึ้งใจอย่างมากที่วารุณมีน้ำใจต่อลูกสาวทั้งสองของจิรัญญามากขนาดนี้
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาวาดฝันไว้ว่า ลูกสาวทั้งสามคนของเขาจะรักใคร่กลมเกลียวกัน เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน...กลับตรงกันข้าม
ลูกๆ ของเขาไม่ถูกกันเลย โดยเฉพาะวิรัลยากับญานีน!
‘พ่อมีนังยิหวาทีหลังหนึ่ง แม่บอกว่ามันทำให้พ่อไม่ยอมแต่งงานกับแม่ หนึ่งเกลียดมัน’
เขาได้แต่นิ่งอึ้ง พยายามเตือนวารุณหลายครั้งไม่ให้ใส่ความคิดนี้ให้ลูก แต่ไร้ผล วิรัลยายังคงจงเกลียดจงชังญานีน หาเรื่องกลั่นแกล้ง ญานีนก็เอาแต่ร้องไห้ จนเขารำคาญใจในความไม่สู้คนของลูกสาวคนเล็ก หนักเข้าเขาก็ขี้เกียจสนใจ
มาวันนี้ วิญญูจำต้องยอมรับด้วยความละอายแก่ใจว่า เขาคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าเขาจริงจังและเข้มงวดกับวิรัลยาไม่ให้แกล้งหาเรื่องญานีนและญาตาวี วิรัลยาก็คงไม่ลำพองใจคิดว่าตัวเองจะทำอะไรกับญานีนก็ได้แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้!
‘หนึ่งอยากได้หุ้นของยายยาหยีและยิหวาทั้งหมด แม่คิดว่าพอจะมีโอกาสไหมคะ’
วันหนึ่งเขาบังเอิญได้ยินวิรัลยาคุยกับวารุณ วันนั้นเขาไม่สบายเลยนอนพักอยู่บ้าน
‘ทำไมจะไม่ได้ล่ะลูก ไปขอคุณพ่อ เดี๋ยวท่านก็หาทางบีบให้ ทีนี้ รวมกับหุ้นของแม่ หุ้นที่ตาเดี่ยวจะให้หลังจากแต่งงาน ขอจากพ่ออีกนิดหน่อย ลูกก็มีหุ้นพอๆ กับพ่อ เผลอๆ จะมากกว่า ทีนี้ล่ะ ตำแหน่งผู้บริหารจะไปไหนเสีย’
‘ค่ะ ทีนี้แหละ หนึ่งก็จะบริหารสถานีในแบบที่หนึ่งต้องการ ไม่เอาจับฉ่ายแบบที่พ่อทำหรอก ยังไงก็สู้ช่องดังๆ เขาไม่ได้’
เขาตัวแข็งนิ่งขึง นี่...ลูกที่เขารักมากที่สุดคิดอย่างนี้จริงๆ หรือ?
‘แม่ก็เห็นด้วยกับลูก พ่อของลูกดีทุกอย่าง แต่บางทีก็หัวดื้อตามประสาคนเคยประสบความสำเร็จมาก่อน แม่ว่าคงถึงเวลาต้องผลัดเปลี่ยนผู้บริหารแล้วล่ะ’
เขาเดินออกจากตรงนั้นไปเงียบๆ จมอยู่กับความผิดหวังเสียใจในตัววารุณและวิรัลยาอยู่พักใหญ่ และคิดหาทางออกสำหรับเรื่องนี้
แน่นอนเขาบุ่มบ่ามไม่ได้ ไม่อย่างนั้นไม่เพียงเขาที่เดือดร้อน แต่ยังมีญานีนด้วยอีกคน ลูกสาวที่แม้เขาไม่ได้รักมาก แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาเสียใจหนักขนาดนี้ เขาควรจะปกป้องลูกสาวคนเล็กของเขาบ้าง
เหตุนี้เขาถึงบังคับให้ญานีนแต่งงานกับอัคนี
ทั้งเพื่อให้อัคนีปกป้องญานีน ทั้งเพื่อดัดหลังวิรัลยากับวารุณ!
************************
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองเหรอคะคุณพ่อ ญานีนจะรู้มั้ยเนี่ยยยยยย
มาลีเริงไฟ วางจำหน่ายในรูปแบบ eBook ที่เว็บ mebmarket นะคะ ส่วนแบบเล่มหนังสือ พร้อมส่ง แล้วเช่นกันค่ะ^^ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือร้านค้า เช่น ร้านนิยายรัก และร้าน booktogothailand
และจะมีวางที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ ตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไปจ้า ทั้งมาลีเริงไฟทั้งราคีสีเพลิงเลย
ฝากญานีนด้วยนะคะ จุ๊บๆ
“ตอนนี้แกคือยิหวา ช่วยทำตัวให้สมกับเป็นมันหน่อย ยิหวาไม่เคยเสียมารยาทแบบนี้”
“นี่ไม่ใช่เวลาเลคเชอร์วิชามารยาทนะคะพ่อ ทำไมพ่อต้องยอมยิหวามากขนาดนี้ พ่อทำเหมือนกลัวมัน ทั้งที่พ่อก็รู้ว่าไม่มีใครทำอะไรเราได้”
“ทางเขาก็ไม่มีใครทำอะไรได้เหมือนกัน ถ้าเขาไม่เก่งจริงก็คงทำเหมือนที่ลูกทำไม่ได้ และถ้าคนของลูกเก่งจริง เมื่อคืนก็ต้องจัดการยิหวาได้สิ ที่สำคัญ เขาต้องรู้สิว่าแม่แกกลายเป็นเจ้าหญิงนิทราอยู่”
“อะไรนะคะ!? แม่กลายเป็นเจ้าหญิงนิทรา แล้วทำไมพ่อไม่บอกหนึ่ง”
วิญญูไม่ตอบอะไร แต่มองไปด้านหลังลูกสาวด้วยแววตาหวาดกลัว วิรัลยาหันขวับตามสายตา หากไม่พบอะไร
“มีอะไรคะ”
“คนของยิหวาอยู่ตรงนั้น คอยมองพ่ออยู่ตลอด พ่อแทบกระดิกตัวทำอะไรไม่ได้เลย พ่อเคยลองดื้อ ทำอย่างอยากทำแต่กลับปวดท้องเสมอ” วิญญูลดเสียงให้เบาลงทั้งที่รู้ว่า เขาไม่อาจซ่อนเร้นอะไรจากสายตาหรือการได้ยินของวิญญาณรับใช้ของเจิมจันทร์ได้เลย
“หนูจะเรียกเดฟมาช่วย หนูไม่มีวันปล่อยให้สิ่งที่เราทำมาทั้งหมดสูญเปล่าหรอกค่ะ หนูต้องทรมานตอนเปลี่ยนหน้า อดทนฝึกความเป็นยายยิหวาอยู่ตั้งครึ่งปี ต้องแกล้งเล่นละครว่าไม่ถูกกับพ่อกับแม่เพื่อตบตาคนอื่น” พูดถึงตรงนี้ หญิงสาวก็นึกถึงที่ตัวเองต้องแกล้งทำเป็นน้อยใจบิดา ทะเลาะกับบิดา เหน็บแนมมารดา ก็เพื่อความเป็นญานีนที่สมบูรณ์
“หนูต้องยอมทนนอนบนเตียงที่ยายยิหวานอน แล้วนี่หนูต้องทนให้มันเรียกหนูไปด่าต่อหน้าคนอื่นอีกเหรอคะ”
“หนึ่ง หนึ่งพูดเหมือนยิหวาเขาไม่ใช่ลูกพ่องั้นแหละ หนึ่งเจ็บปวดเสียใจ ยิหวามันก็เจ็บปวดเหมือนกัน”
“พ่อ! นี่ไม่ใช่เวลามาสวมบทพ่อดีเด่นนะคะ พ่อเลือกที่จะอยู่ข้างหนึ่งกับแม่ตั้งแต่แรก แล้วเกิดจะมาสงสารยายนั่นตอนนี้เนี่ยนะคะ”
“แต่หนึ่งก็รู้ว่าพ่อไม่ได้เห็นด้วยกับเรื่องนี้ตั้งแต่แรก หนึ่งกับแม่ใช้เล่ห์กลกับพ่อ” วิญญูลุกขึ้นจากเก้าอี้มาประจันหน้า และนั่นทำให้ลูกสาวเงียบไป
สิ่งที่บิดาพูดนั้นไม่ผิดเลย!
ตอนที่วิญญูรู้ว่าวิรัลยาและวารุณกำลังคิดจะทำอะไร วิญญูนั้นคัดค้านทันที วารุณจึงต้องให้ธนาคมช่วยด้วยการใช้ ‘ยาสั่ง’ เพื่อให้วิญญูร่วมมือด้วย
“ระ...เรื่องนั้นมันผ่านมาแล้วค่ะพ่อ” วิรัลยาไม่กล้าสบตาบิดา
“และเราก็ลงเรือลำเดียวกันแล้ว...หนึ่งจะเข้ามาบอกว่าให้พ่อคานอำนาจของยายยิหวาหน่อย อีกหน่อย มันคงยึดสถานีไปทำพังแน่ๆ หนูไปละ จะไปหาแม่”
“เดี๋ยว...”
แต่วิรัลยาไม่ฟังอะไรอีกแล้ว หล่อนหันหลังเดินจากไปด้วยท่าทีเร่งร้อน
วิญญูได้แต่ถอนหายใจยาวๆ ด้วยความเหนื่อยหนักหัวใจ ชายวัยกลางคนทรุดกายลงนั่งพร้อมกับเปิดประตูความทรงจำออก เพื่อนึกย้อนถึงเรื่องราวระหว่างเขากับภรรยาทั้งสอง...
************
วิญญูรู้จักจิรัญญาครั้งแรกจากการแนะนำของเพื่อนคนหนึ่ง ตอนนั้นหล่อนเพิ่งเลิกรากับสามีคนที่สอง ซึ่งเพื่อนบอกว่าเพราะผู้ชายเจ้าชู้มาก แถมยังมีทำร้ายร่างกายด้วย เขาได้แต่มองหล่อนด้วยความเห็นใจ หล่อนเป็นคนสวยมาก แต่ก็เป็นความสวยที่ดูเศร้าเสียจนเขาอยากเป็นคนทำให้ความเศร้านั้นหายไป เขาเริ่มต้นจีบหล่อน ท่ามกลางเสียงคัดค้านของคนในครอบครัว
‘หย่าผัวคนแรกก็ยังทำใจยอมรับได้นะ นี่ผัวสอง ลองคิดเอาเองว่าเป็นผู้หญิงแบบไหน’ นั่นคือคำพูดของพี่สาวคนโตของเขาซึ่งออกตัวคัดค้านแรงกว่าใครเพื่อน
ส่วนเพื่อนๆ แบ่งเป็นสองฝ่าย ทั้งฝ่ายที่เชียร์ด้วยเห็นใจหญิงสาวหน้าตาสะสวยที่ดูเป็นคนอมทุกข์ กับฝ่ายที่ไม่เห็นด้วย ซึ่งฝ่ายหลังนี่ถึงขั้นไปขุดคุ้ยข้อมูลหล่อนมาให้ฟัง
‘ผัวคนแรกเป็นนักร้องในผับ ผัวคนที่สองเป็นพนักงานบริษัทกระจอกๆ แห่งหนึ่ง เธอเห็นอะไรจากบรรดาผัวของเจ้าหล่อนไหม สองคนนี้มีความเหมือนกันคือ ไม่มีอนาคต ไม่มีความมั่นคง นั่นแสดงว่าเจ้าหล่อนเป็นคนขาดสติ ขาดความรอบคอบ ขาดวิจารณญาณ ซึ่งทำให้ชีวิตคู่พังลง’
แต่เขาในตอนนั้นเชื่อมั่นในตัวเองมากว่าจะสามารถเปลี่ยนแปลงหล่อนได้ เขามั่นใจว่าความรักที่เขามี มันมากพอที่จะทำให้เขาใจเย็นและให้เวลาหล่อนได้ทั้งชีวิต...แต่เขาคิดผิด!
จิรัญญาอาการหนักกว่าที่เขาและคนอื่นๆ รับรู้มากนัก หล่อนเป็นพวกต้องการความรักแบบไม่มีที่สิ้นสุด และหลับหูหลับตาเรียกร้องในสิ่งที่ตัวเองต้องการอย่างไม่มีวันหมด เหนือกว่านั้นคือหล่อนเป็นพวกขี้ระแวงอย่างร้ายกาจ หล่อนมักจะขอตามเขาไปที่ทำงาน เพื่อแสดงตัวและส่งสายตาจิกกัดพนักงานหญิงสวยๆ อันทำให้เขาและลูกน้องต่างอึดอัดลำบากใจ ตอนนั้นเองที่วารุณก้าวเข้ามา วารุณผู้สวย สง่า เยือกเย็น อยู่ด้วยแล้วสบายตาสบายใจ เขาจึงไม่ลังเลที่จะมีหล่อนเป็นบ้านอีกหลัง ซึ่งหล่อนก็อยู่ในที่ของหล่อนมาด้วยดี จนกระทั่งมีวิรัลยา...
วารุณเริ่มเรียกร้องความยุติธรรมให้ตัวเองเพื่อลูก ร้อนถึงเขาที่ต้องใช้เวลาตัดสินใจเรื่องนี้อยู่นานพอสมควร เพราะตอนนั้นจิรัญญาก็เพิ่งคลอดญาตาวีเช่นกัน ถึงเขาจะเบื่อหน่ายในตัวจิรัญญา แต่เขาก็จำต้องให้เกียรติเธอในฐานะเมียหลวง อีกอย่าง เขาเริ่มรู้สึกว่าวารุณเรียกร้องจนมากเกินไป ไม่เพียงอยากเปิดเผยตัวและอยากอยู่บ้านหลังใหญ่ของเขา แต่วารุณต้องการให้เขาหย่าจากจิรัญญาด้วย ช่วงเวลาคาราคาซังนี่เอง จิรัญญาก็ตั้งท้องญานีน อันทำให้วารุณโกรธและน้อยใจเขามาก หล่อนเคยจะหอบลูกหนีเพราะรู้ว่าเขารักวิรัลยาลูกของหล่อนมาก ส่วนญาตาวี เขาไม่ค่อยได้อุ้มชูเลี้ยงดู เพราะเจิมจันทร์แม่ยายของเขาไม่ให้เขาแตะ สายใยผูกพันระหว่างเขากับวิรัลยาจึงมีมากกว่าลูกสาวของจิรัญญา
ในที่สุด ด้วยความกลัวจะไม่ได้อยู่เลี้ยงดูวิรัลยา กอปรกับเจิมจันทร์ก็ไล่เขาออกจากบ้านเช้าเย็น เขาก็ตัดสินใจหย่าจากจิรัญญา โดยที่ไม่มีโอกาสแม้แต่จะได้กอดญานีน...ลูกสาวคนเล็กของเขาด้วยซ้ำ แล้วมาสร้างบ้านหลังใหม่อยู่กับวารุณและวิรัลยา ซึ่งก็คือคฤหาสน์ที่เขาอยู่ตอนนี้นั่นเองเนื่องจากไม่อยากให้สองแม่ลูกต้องมาวุ่นวายกับคนในบ้านหลังใหญ่ของเขา
ถึงกระนั้น วารุณก็ไม่ได้ใจร้ายนัก หล่อนยอมให้เขาพาญาตาวีกับ ญานีนมาเล่นกับวิรัลยาที่คฤหาสน์ พยายามที่จะให้ลูกสาวทั้งสามคนของเขาสนิทสนมกัน เรื่องนี้วารุณเป็นคนแนะนำเขาเอง ซึ่งเขาก็เห็นด้วยและซึ้งใจอย่างมากที่วารุณมีน้ำใจต่อลูกสาวทั้งสองของจิรัญญามากขนาดนี้
แต่ดูเหมือนว่าสิ่งที่เขาวาดฝันไว้ว่า ลูกสาวทั้งสามคนของเขาจะรักใคร่กลมเกลียวกัน เป็นพี่น้องที่ดีต่อกัน...กลับตรงกันข้าม
ลูกๆ ของเขาไม่ถูกกันเลย โดยเฉพาะวิรัลยากับญานีน!
‘พ่อมีนังยิหวาทีหลังหนึ่ง แม่บอกว่ามันทำให้พ่อไม่ยอมแต่งงานกับแม่ หนึ่งเกลียดมัน’
เขาได้แต่นิ่งอึ้ง พยายามเตือนวารุณหลายครั้งไม่ให้ใส่ความคิดนี้ให้ลูก แต่ไร้ผล วิรัลยายังคงจงเกลียดจงชังญานีน หาเรื่องกลั่นแกล้ง ญานีนก็เอาแต่ร้องไห้ จนเขารำคาญใจในความไม่สู้คนของลูกสาวคนเล็ก หนักเข้าเขาก็ขี้เกียจสนใจ
มาวันนี้ วิญญูจำต้องยอมรับด้วยความละอายแก่ใจว่า เขาคือต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ถ้าเขาจริงจังและเข้มงวดกับวิรัลยาไม่ให้แกล้งหาเรื่องญานีนและญาตาวี วิรัลยาก็คงไม่ลำพองใจคิดว่าตัวเองจะทำอะไรกับญานีนก็ได้แบบที่เป็นอยู่ตอนนี้!
‘หนึ่งอยากได้หุ้นของยายยาหยีและยิหวาทั้งหมด แม่คิดว่าพอจะมีโอกาสไหมคะ’
วันหนึ่งเขาบังเอิญได้ยินวิรัลยาคุยกับวารุณ วันนั้นเขาไม่สบายเลยนอนพักอยู่บ้าน
‘ทำไมจะไม่ได้ล่ะลูก ไปขอคุณพ่อ เดี๋ยวท่านก็หาทางบีบให้ ทีนี้ รวมกับหุ้นของแม่ หุ้นที่ตาเดี่ยวจะให้หลังจากแต่งงาน ขอจากพ่ออีกนิดหน่อย ลูกก็มีหุ้นพอๆ กับพ่อ เผลอๆ จะมากกว่า ทีนี้ล่ะ ตำแหน่งผู้บริหารจะไปไหนเสีย’
‘ค่ะ ทีนี้แหละ หนึ่งก็จะบริหารสถานีในแบบที่หนึ่งต้องการ ไม่เอาจับฉ่ายแบบที่พ่อทำหรอก ยังไงก็สู้ช่องดังๆ เขาไม่ได้’
เขาตัวแข็งนิ่งขึง นี่...ลูกที่เขารักมากที่สุดคิดอย่างนี้จริงๆ หรือ?
‘แม่ก็เห็นด้วยกับลูก พ่อของลูกดีทุกอย่าง แต่บางทีก็หัวดื้อตามประสาคนเคยประสบความสำเร็จมาก่อน แม่ว่าคงถึงเวลาต้องผลัดเปลี่ยนผู้บริหารแล้วล่ะ’
เขาเดินออกจากตรงนั้นไปเงียบๆ จมอยู่กับความผิดหวังเสียใจในตัววารุณและวิรัลยาอยู่พักใหญ่ และคิดหาทางออกสำหรับเรื่องนี้
แน่นอนเขาบุ่มบ่ามไม่ได้ ไม่อย่างนั้นไม่เพียงเขาที่เดือดร้อน แต่ยังมีญานีนด้วยอีกคน ลูกสาวที่แม้เขาไม่ได้รักมาก แต่ก็ไม่เคยทำอะไรให้เขาเสียใจหนักขนาดนี้ เขาควรจะปกป้องลูกสาวคนเล็กของเขาบ้าง
เหตุนี้เขาถึงบังคับให้ญานีนแต่งงานกับอัคนี
ทั้งเพื่อให้อัคนีปกป้องญานีน ทั้งเพื่อดัดหลังวิรัลยากับวารุณ!
************************
ที่แท้ก็เป็นแบบนี้นี่เองเหรอคะคุณพ่อ ญานีนจะรู้มั้ยเนี่ยยยยยย
มาลีเริงไฟ วางจำหน่ายในรูปแบบ eBook ที่เว็บ mebmarket นะคะ ส่วนแบบเล่มหนังสือ พร้อมส่ง แล้วเช่นกันค่ะ^^ สามารถสั่งซื้อออนไลน์ได้ที่เพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือร้านค้า เช่น ร้านนิยายรัก และร้าน booktogothailand
และจะมีวางที่ ‘ศูนย์หนังสือจุฬาฯ’ ตั้งแต่บ่ายวันนี้เป็นต้นไปจ้า ทั้งมาลีเริงไฟทั้งราคีสีเพลิงเลย
ฝากญานีนด้วยนะคะ จุ๊บๆ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 6 ก.พ. 2562, 09:58:45 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 6 ก.พ. 2562, 10:19:10 น.
จำนวนการเข้าชม : 630
<< บทที่ 14 -30% + eBook | บทที่ 14 -100% + วางศูนย์หนังสือจุฬาฯ >> |