เพื่อนรักปรารถนา LGBTQ
“เธอเคยพูดจะไม่เก็บความสาวไว้ให้เขาคนนั้น ถ้าเธอจะเสียมันไปขอให้ฉันได้ไหม ฉันคือเพื่อนที่เธอวางใจได้ไปตลอดกาล จะไม่ทำให้เธอเสียใจเหมือนเขาคนนั้น”
เขาเป็นเพื่อนสนิทคิดไม่ซื่อ ส่วนเธอมีเพื่อนหญิงที่ถูกใจหลงรัก ลังเลเรื่องรักกับเพศไหน?
โดยนามปากกา... ไตรติมา
Bisexual Gay
นิยายไบเซ็กชวลเกย์ รักสามเส้า [หญิงxชาย & ชายxชาย]
หาอ่านเพิ่มเติมได้ >>
https://my.dek-d.com/aunnan/writer/view.php?id=1756847
https://www.readawrite.com/a/sZ2v24-เพื่อนรักปรารถนา
https://www.bloggang.com/viewdiary.php?id=oranamarinlove&group=8
http://www.tunwalai.com/story/228816/เพื่อนรักปรารถนา_lgbtq
ฝากกดไลค์เพจนิยายไตรติมา-ติดตามอัพเดท >>
https://www.facebook.com/oranamarinlove
=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=
* หมายเหตุ *
นิยายรักในแนว LGBTQ คืออะไร?
LGBT หมายถึง กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ * ในภาษาอังกฤษย่อว่า LGBT (หรือ GLBT) ซึ่งเป็นตัวอักษรตัวแรกของคำว่า lesbian (เลสเบี้ยน) , gay (เกย์) , bisexual (ไบเซ็กชวล) , และ transgender/transsexual (คนข้ามเพศ) มีการใช้คำว่า LGBT มาตั้งแต่ยุค 90 ซึ่งดัดแปลงมาจาก “LGB” ที่ใช้ในการแทนวลี "สังคมเกย์" (Gay community) ที่ในหลาย ๆ กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ ไม่รู้สึกว่าอธิบายกลุ่มคนพวกนี้ได้อย่างถูกต้องตามที่กล่าว ในการใช้สมัยใหม่ LGBT มีความหมายถึงความหลากหลายของเพศวิถี (Sexuality) และลักษณะการแสดงเพศทางสังคม และในบางครั้งอาจหมายถึงกลุ่มคนที่ไม่ใช่กลุ่มรักต่างเพศ แทนการระบุว่าเป็นเลสเบี้ยน เกย์ ไบเซ็กชวล หรือ คนข้ามเพศ
ที่มา:
https://th.wikipedia.org/wiki/กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ
Q = Queer หมายถึงบุคคลผู้ที่สามารถชอบเพศอะไรก็ได้ในบรรดา LGBTQ หรือจะชอบเพศชายหญิงทั่วไปก็ได้ สามารถเกิดความรักได้กับทุกเพศ
Tags: ไตรติมา, โรมานซ์, รักสามเส้า, LGBT, LGBTQ, หนุ่มหล่อ, หนุ่มหน้าสวย, เพื่อน, แอบรักเพื่อน, เกาะ, ไบเซ็กชวลเกย์,

ตอน: Chapter 20 Fall in love


..........เดินทางเข้ากรุงเทพฯ ในตอนเย็นเพื่อกลับเข้าบ้านของชยา

“นี่มันไม่ใช่ทางไปบ้านของชยานี่จีรา”

แม้แต่คาคบยังจำได้ว่าทางเข้าบ้านใหญ่ของชยาไปทางพุทธมณฑล แต่นี่ดันเลี้ยวเข้าซอยในเขตตลิ่งชัน

“บ้านใหม่ของเราเพิ่งสร้างเสร็จ ยังตกแต่งเฟอร์นิเจอร์ไม่ครบทุกห้อง”

ชยาให้แปลกใจที่จีราหันมาบอก เพราะตัวเธอเองไม่เคยเดินทางเข้ามาถนนสายในเส้นนี้เลย

เห็นป้ายหินอ่อนข้างกำแพงตัวหนังสือสีทองชื่อบ้าน เหมันตรา2

เมื่อรถแล่นผ่านเข้าประตูรั้วเป็นเหล็กสีดำที่มีรีโมทเปิดออก จะเห็นถนนสีดำราดยางมะตอยทางเข้าบ้านยาวไปถึงโรงรถชั้นล่างของตัวบ้าน

มีอาคารชั้นเดียวเรียงติดกันเป็นแถวเหมือนรูปตัว C เป็นเหลี่ยมล้อมบ้านหลังใหญ่

ตัวบ้านหลังใหญ่เป็นตึกสี่ชั้นทาสีฟ้าครามอ่อนมีขลิบขอบคิ้วสีขาว

บ้านเงียบมากเหมือนไม่มีใครอยู่

พวกบอดี้การ์ดช่วยลากกระเป๋าของจีราชยาคาคบไปบนพื้นหินแกรนิตสีเข้มขัดเงาเรียบสะท้อนราวกับกระจก

ผ่านห้องโถงใหญ่แล้วถึงเดินขึ้นบันไดหินอ่อนสีขาวมีราวบันไดทองเหลืองดัดลายเครือเถา

ผ่านชั้นสองดูเหมือนมีห้องใหญ่ประมาณเจ็ดถึงแปดห้องปิดประตูทุกห้อง

ชั้นสามมีหกห้องเป็นห้องนอน

ภายในห้องนอนกว้างทาสีอ่อนบาง ยังไม่มีเฟอร์นิเจอร์มากนัก แค่เตียงเหล็กสีทองแบบมีหลังคาทั้งสี่ด้านมีม่านบางใสลายลูกไม้โปร่งและเสาเตียงสี่มุม โต๊ะเครื่องแป้ง และตู้เสื้อผ้าสูงกว้างเต็มผนัง

“ขึ้นไปไหว้พระที่ห้องพระชั้นบนกันเถอะ”

จีราชักชวน แล้วเดินนำหน้าขึ้นบันไดไปชั้นสี่

ชั้นสี่มีระเบียงกว้างโดยรอบมองเห็นวิวรอบตัวบ้าน ละแวกบ้านข้างเคียงเป็นสวนผักสวนผลไม้

ห้องพระพื้นปูพรมสีขาวผนังห้องกระจก ทุกคนยกมือพนมไหว้พระ

พระปฏิมากรแบบพระพุทธชินราชงามล้ำทำจากทองคำผสมสัมฤทธิ์ขนาดความสูงหนึ่งฟุต

ออกมาจากห้องพระเข้าห้องเรือนกล้วยไม้ มีกล้วยไม้ทั้งแคทลียา รองเท้านารีและดอกไม้ป่าหายากราคาแพงซึ่งสวยงามทั้งนั้น

ออกจากเรือนกล้วยไม้จึงถึงอ่างน้ำวนหินอ่อน ขนาดกว้างพอสำหรับสี่ถึงห้าคนลงไปนั่งแช่รวมกันได้

“อ่างน้ำนี้สำหรับเธอ ...ชยา พี่รู้เธอชอบแช่น้ำกลางที่โล่งแจ้งได้มองท้องฟ้ากว้างด้วย ถึงได้ให้ช่างติดตั้งไว้ชั้นบนสุดดาดฟ้านี่ พี่ให้ช่างก่อสร้างปลูกเรือนพักคนงานเป็นชั้นเดียวโดยล้อมรอบตึกใหญ่ เพื่อจะได้ไม่มีใครมองเห็นเวลาเธอเล่นน้ำบนชั้นดาดฟ้านี้”

ดูเหมือนเขาพยายามจะพูดดีอ่อนโยนน่ารักกับเธอ จับมือน้อยขึ้นมากุม

“บ้านใหญ่สวยงามหลังนี้มูลค่าประมาณร้อยยี่สิบล้านเพื่อครอบครัวของเรา ไม่มีผู้ชายคนไหนจะทุ่มเทจริงจังและทำเพื่อเธอได้เท่าพี่อีกแล้วนะชยา บ้านหลังนี้จะเป็นเรือนหอของเรา”

“ฉันขอบคุณมากที่พี่จีราทำเพื่อฉัน ฉันเคารพและรักพี่จีราอย่างพี่ชายเสมอมา แต่ไม่เคยคิดจะแต่งงานกับพี่ เราไม่เคยเข้าพิธีหมั้นกัน ฉันไม่เคยสวมแหวนหมั้นของพี่ เพราะฉะนั้นฉันไม่ใช่คู่หมั้นของพี่ ถ้าฉันจะแต่งงานกับใครสักคน ฉันจะเลือกแต่งงานกับคนที่ฉันรัก”

สีหน้าผิดหวัง ...เศร้า แววตาเจ็บปวดฉายออกมา ขณะคิ้วโค้งงามขมวดมุ่นขุ่นหมอง

“เธอรักใครในหัวใจของเธอ บอกพี่สิ”

คำถามนี้ชยาไม่สามารถตอบได้ ไม่อาจหันหน้าไปมองสบกับคาคบได้ หวั่นกลัวภัยจะถึงตัวเขาโดยช่วยเหลือไม่ได้ เธอจึงส่ายหน้า

“เรื่องนั้นไม่เกี่ยวกับพี่จีรา”

“เกี่ยวสิ พี่จะได้ส่งมือปืนไปเก็บมันไอ้คนที่เธอรัก แล้วฝังศพหมกป่า พวกมือปืนต่างชาติจะเก็บเงียบตำรวจสืบไม่เจอแน่”

จากสีหน้าท่าทางอ่อนโยนของคนรักกันแปรเปลี่ยนไปเป็นปีศาจร้ายภายในชั่วพริบตา นี่ล่ะความน่ากลัวของจีราที่ชยาพูดอะไรไม่ออก

“ฉันจะเกลียดพี่จีราถ้าฆ่าคนรักของฉัน”

“ได้... ถ้าเธอเกลียดพี่ พี่จะสับร่างของคนที่เธอรักเป็นหมื่นๆ ชิ้นแล้วจุดไฟเผาไหม้เป็นจุล ไม่ให้มันมีโอกาสฟื้นขึ้นมารักกับเธอได้อีก ยิ่งเธอรักมันมากเท่าไหร่มันยิ่งจะต้องตายทรมานมากเท่านั้น”

“พี่จีรา... อะไรดลใจให้พี่เป็นแบบนี้”

มันอัดอั้นตันใจจนพูดไม่ถูก เธออยากว่าเขาใจร้าย แต่คำพูดนั้นไม่ทำให้เขาเจ็บปวด คิดไม่ออกว่าจะทำให้เขาเจ็บปวดและหยุดใจร้ายขนาดนี้ได้อย่างไร

“จะอะไรดลใจก็ช่างแต่พี่ไม่มีวันยอมเสียเธอไปให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น เธอเป็นของพี่และต้องเป็นอยู่อย่างนั้นตลอดไป”

คาคบรู้สึกตัวเองเหมือนสัมภเวสีเร่รอนคอยปกป้องคุ้มครองยามคนรักมีภัย เห็นเธอถกเถียงหน้าดำคร่ำเครียดต่อกรกับจีราแล้วเขาถึงกับถอดถอนใจ อยากช่วยปลอบให้กำลังใจเธอ แต่กลับทำอะไรมากไม่ได้นอกจากต้องยืนมองดูอยู่เฉยๆ

“ฉันไม่เคยเป็นของพี่จีรานะ”

“ก็ไม่ยากนี่ถ้าอยากจะทำให้เป็นของพี่”

เขายื่นหน้าเข้ามาใกล้ ใช้สายตามองลวนลามเรือนร่างบอบบางของเธอ

มันทำให้นึกถึงตอนที่เขาปลุกปล้ำเธอขึ้นมา จนต้องถอยหลังหนีห่าง เตรียมวิ่งพร้อมกับตะโกน

“อย่ามายุ่งกับฉันนะ”

ใครอยากอยู่ใกล้คนอันตราย ชยาวิ่งหนีลงชั้นล่างกลับห้องของเธอ

=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=

.

..........จีราพาทุกคนไปทานอาหารค่ำนอกบ้านในห้างสรรพสินค้าไม่ไกลบ้าน

และแวะไปโยนโบว์ลิ่งกันสักหนึ่งชั่วโมงก่อนอาหาร

นั่นทำให้ทุกคนสนุกมาก หัวเราะกับความตลกของคาคบ

เพราะเขาไม่ค่อยได้มาโยนโบว์ลิ่งบ่อยเหมือนจีราที่โยนลูกออกไปแล้วทำสไตร์คได้ภายในการโยนเพียงครั้งเดียว

“นายเป็นอะไรโยนลูกตกรางทุกครั้งเลย”

“ผมโยนไม่ค่อยเป็นอ่ะ”

“มานี่ฉันสอนวิธีจับลูก”

จีราจับมือคาคบวางนิ้วมือจับลูกโบว์ลิ่งให้จับถนัดมือ และท่าทางการวางเท้าให้ได้ตำแหน่งเหมาะสม

ชยามองความใกล้ชิดสวีทยิ้มหวานให้กันและกันอย่างเพื่อนรู้ใจกัน แต่มันขัดใจเธออย่างมาก

ยอมไม่ได้จึงออกตัวบ้าง ผลักจีราออกห่างจากคาคบ

“ถอยไปพี่จีรา ให้ฉันสอนพี่คบเอง”

ชยาเข้ามาทำการสอนจับมือคาคบไม่ทันไร

“ยัยตัวเตี้ยชักช้าเมื่อไหร่จะได้โยนลูกกันสักที หลบไปให้ฉันสอนคาคบนะดีแล้ว”

จีราเข้ามาผลักดันหลังชยาให้หลีกทางไป แล้วตัวเขาเข้ามาจับมือคาคบอีก

ชยาไม่ยอมหลีกทางให้ ซ้ำยังดึงต้นแขนจีราให้ออกห่างจากคาคบ

คาคบอมยิ้มขำคนทั้งคู่ที่แย่งกันเข้ามาจับมือเขาและผลักกันดึงแขนกันไปมา

“ไม่ต้องแย่งกันครับ ผมพอเป็นแล้วขอให้ผมโยนบ้าง คอยดูกันนะ”

ทั้งสองคนจึงหยุดยื้อแย่งกัน มองดูคาคบที่โยนลูกโบว์ลิ่งครั้งนี้ไม่ตกรางและเก็บไปได้หลายแต้ม

ต่อจากนั้นเพื่อเพิ่มความสนุกมากขึ้นจีราคิดวิธีการโยนโบว์ให้ยากยิ่งขึ้นไปอีก

เริ่มจากหันกลับหลังโยนลูกโบว์ลิ่ง ใช้มือซ้ายในการจับลูกแล้วโยน ปิดตาทั้งสองข้างโยนลูก

สุดท้ายที่ทำให้หัวเราะกลิ้งกันไปเลยคือ การหมุนตัวสิบรอบแล้วจับลูกโบว์ลิ่งโยนทันที

ปรากฏว่าชยากับคาคบเมามึนเหมือนกันเซล้มนอนตะแคงกันเสียก่อนจะได้โยนลูกโบว์ลิ่ง ล้มกลิ้งลงไปนอนหัวเราะกัน

ส่วนจีราโยนลูกโบว์ลิ่งได้แต่ตกราง เซถลายืนไม่อยู่เลยต้องนั่งลงกับพื้นหัวเราะสนุกสนาน

หลังจากนั้นจึงไปทานอาหารในร้านสเต็กชื่อดัง มีที่นั่งสองฝั่งซึ่งสองหนุ่มเลือกนั่งคู่กัน ชยาต้องนั่งฝั่งตรงข้าม

อันนี้ไม่ค่อยดีสำหรับชยา เธอนั่งจ้องมองตาขวางเม้มปาก

เมื่อทั้งสองหนุ่มยกมือถือขึ้นมาเซลฟี่กันเอียงหน้าเข้าชิดใกล้กันเหลือเกิน ยิ้มน่าหมั่นไส้ให้กันหวานแหววอีก

เท่านั้นไม่พอจีรายังโอบไหล่คาคบบอกให้ชนแก้มแนบแก้ม ซึ่งคาคบก็ว่าง่ายแก้มแนบแก้มตามคำขอของจีรา

‘แบบนี้มันเกินไปแล้วนะ’

ชยานึกทนไม่ไหวลุกขึ้นไปหยิกท่อนแขนจีรา

“พี่จีราลุกไปเดี๋ยวนี้ ให้ฉันเซลฟี่กับพี่คบบ้าง”

จีราจำใจต้องสละที่นั่งลุกไปนั่งฝั่งตรงข้าม

ปล่อยให้ชยาถ่ายรูปคู่กับคาคบสองคนอยู่ครู่หนึ่ง

“กลับที่นั่งของเธอได้แล้ว ลุก...”

จีราลุกมายืนข้างชยาทำท่าจะจับแขนเธอให้ลุกขึ้น

“เดี๋ยวครับ เอาอย่างนี้ผมลุกเอง”

ว่าแล้วลุกขึ้นแทรกตัวออกมานั่งเบียดให้ชยาเข้าไปนั่งด้านในสุด ตัวเขานั่งกลางและให้จีรานั่งริม

“ที่นั่งนี่นั่งได้สามคนพอดี ไม่ต้องมีใครนั่งฝั่งตรงข้ามแล้วครับ ทีนี้จะเซลฟี่ก็สามคนนี่แหละครับไม่ต้องแย่งกัน”

คาคบกลายเป็นกรรมการคนกลางห้ามการทะเลาะแก่งแย่งของทั้งสองได้สำเร็จ

ทั้งสามคนยิ้ม... ถ่ายรูปด้วยกัน

แต่เพราะจีราเอียงหน้าเข้าใกล้ใบหน้าคาคบมากไป

ชยาจึงใช้มือป้องกันเหมือนผลักแก้มของจีราให้ออกห่างจากแก้มของคาคบ

จีราเลยหันมาแกล้งอ้าปากงับนิ้วมือของชยา

“โอ๊ย... พี่จีรานี่”

เธอก็มือไวทุบไหล่จีราโต้ตอบทันควัน

“หยุด... หยุดทะเลาะกันเป็นเด็กๆ เถิดครับ”

คาคบต้องร้องห้ามปรามก่อนสองคนจะเล่นต่อสู้กันไม่เลิก

แล้วจีราถึงได้เปลี่ยนความสนใจไปที่อื่น

“ไปต่อคาราโอเกะกันไหม”

จีราเอ่ยชวน ตัวเขายังมีพลังเรี่ยวแรงเหลือเฟือไม่เหนื่อยไม่ง่วง

ขณะชยารู้สึกเหนื่อยเพลียกับการเดินทางรอนแรมทางเรือมานานหลายชั่วโมง จนกระทั่งถึงเรื่องรถติดในกรุงเทพฯ อยากพักผ่อนและเธอไม่ชอบส่งเสียงร้องเพลงคาราโอเกะ

“ไม่ไปแล้วเพลียจะแย่ อยากกลับบ้าน”

“คาคบไปกันนะ ไม่ต้องห่วงชยา เดี๋ยวให้บอดี้การ์ดขับรถไปส่งบ้าน เราสองคนนั่งแท็กซี่ไปต่อกัน”

=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=

.

..........จีรากับคาคบได้ไปร้องเพลงคาราโอเกะกันในผับสองคน มีห้องเฉพาะให้ได้ใกล้ชิดกันมากยิ่งขึ้น

เริ่มต้นร้องเพลงร็อคสนุกสนานหัวเราะยิ้มให้กันสองสามเพลง รู้สึกว่ามีเพลงที่ชอบตรงใจกันแทบทุกเพลง

นี่เป็นเหตุผลอีกข้อที่จีรารู้สึกว่าคาคบเหมาะจะเป็นเพื่อนรู้ใจแบบที่เขาไม่เคยมี

ลูกชายนักการเมืองอย่างเขามักจะต้องคบคนที่เอื้อผลประโยชน์ทางการเมืองมาตลอด จึงมีความเสแสร้งแสดงไปไม่จริงใจต่อเพื่อนเท่าไหร่นัก

ไม่เหมือนเวลาอยู่กับคาคบผู้ที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายจริงใจและหัวเราะด้วยกันได้เต็มใบหน้า

หนุ่มทั้งสองร้องเพลงรักกันไปมองหน้ากันไป ย่อมเห็นแต่ความหล่อสวยงามของกันและกัน

ด้วยว่าทั้งสองหนุ่มหน้าตาดีเป็นหนึ่งไม่มีสองไม่มีใครเป็นรองใคร ซึ่งแล้วแต่คนมองจะชอบแบบไหน

จีราผิวขาวกว่าใครใบหน้าหล่อสดใสเหมือนเด็กหนุ่มวัยรุ่น

คาคบผิวเหลืองนวลดูใบหน้าทั้งสวยและหล่ออยู่ในคนเดียวกัน

ทั้งสองมองหน้ากันและค่อยชอบหน้ากันมากขึ้นทุกที มองจ้องกันเพลินจนเพลงจบลง ใบหน้าเข้ามาอยู่ใกล้กันมากตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ตัว

แวบหนึ่งในหัวใจจีรารู้สึกเหมือนอยากจูบกลีบปากอิ่มของคาคบเหลือเกิน สายตาลดระดับลงมองปากนั้นอย่างกับคนละเมอ

ใช่จะมีจีราคนเดียวที่รู้สึกอยากจูบ คาคบก็เป็นเช่นกันมันรู้สึกแปลก... หวั่นหวิวกับความหล่อของจีราทำให้หัวใจเต้นหวามไหว รู้สึกกระหายแปลกๆ จนเผลอลิ้นเลียปากตัวเองขณะริมฝีปากใกล้กันไม่ถึงคืบที่โน้มเข้ามาประชิดเกือบชนกัน

ใกล้เกินไปจนน่าตกใจ!

คาคบรู้สึกตัวก่อน เกือบจะจูบปากผู้ชายหล่อตรงหน้าเข้าจริงๆ

“รู้สึกในนี้มันร้อนนะครับ เราน่าจะออกไปนั่งเล่นข้างนอกกันบ้าง”

“นั่นสิ ออกไปข้างนอกกันเถอะ”

จีราได้สติ ละอายกับความคิดชั่ววูบเมื่อครู่ จึงเลี่ยงไปโดยเปิดประตูห้องคาราโอเกะออกไปข้างนอก

=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=

.

..........จีรากับคาคบนั่งในห้องนั่งเล่นก่อนเวลาอาหารเช้า ซึ่งเช้านี้มีคนจากบ้านใหญ่ของจีรานำอาหารเช้ามาส่ง

ส่วนบอดี้การ์ดเฉพาะกิจทั้งหกคนที่เป็นต่างชาติบัดนี้หมดภารกิจแล้วต่างแยกย้ายกลับกันไปหมดทุกคน

ที่บ้านใหญ่หลังใหม่นี้จึงเหลือบอดี้การ์ดประจำตัวจีราสี่คน

นอกจากนั้นแล้วยังไม่มีคนรับใช้มาอยู่ประจำ แม่บ้านมาทำความสะอาดแบบเช้ามาเย็นกลับ

ประตูห้องนั่งเล่นเป็นกระจกใส ชยาหยุดยืนแอบมองหนุ่มทั้งสองคนโดยยังไม่เปิดประตู

เห็นคาคบกำลังยุ่งอยู่กับการใส่ต่างหูให้จีรา

โดยทั่วไปผู้ชายจะไม่มานั่งใส่ต่างหูหรือสนใจใบหูของเพื่อนชายด้วยกัน ตรงนั้นเป็นจุดอ่อนไหวไวต่อสัมผัสอีกจุดหนึ่งในร่างกาย มีแต่คนสนิทกันมากอย่างเช่นคู่รักหรือเพื่อนสนิทพิเศษจริงๆ จึงจะสัมผัสกันบริเวณต้องห้ามนั้น

ชยารู้สึกว่าความสัมพันธ์ของทั้งสองหนุ่มนี้ชักเกินจะเรียกว่าธรรมดา

สายตาที่ทั้งสองมองสบตากันยิ่งดูแปลก มันหวานเกินเพื่อนจะมองกันด้วยสายตาแบบนี้

ในวันก่อนมีเธอเฝ้ามองหลงใหลใบหน้าหล่อเหลาของคาคบ มีเพียงเธออยู่เคียงข้างเขา รู้สึกเหมือนเรามีเพียงกันและกัน

ในวันนี้คาคบยังคงหล่อเหลาเหมือนวันเก่าก่อนเคยมา แต่กลับมีอีกคนเฝ้ามองด้วยสายตาเป็นปลื้มกับความหล่อเหลาของคาคบ และคนนั้นนั่งเคียงข้างในตำแหน่งที่เธอเคยอยู่เคียง

ในใจวูบหนึ่งนึกถึงคาคบว่าเขาลืมเธอแล้วหรือไร ก็นึกขึ้นมาได้ว่ามีจีราอยู่ด้วย ทั้งเธอและเขาย่อมไม่สามารถแสดงความใกล้ชิดสนิทสนมกันฉันท์คู่รักได้

“เฮ้อ...”

ชยาถอนใจแล้วเปิดประตูเข้าไป นั่งลงบนโซฟาเดี่ยวถัดจากจากสองหนุ่ม

“ชยา... จีราใส่ต่างหูยาวแบบเดียวกับฉันแล้วดูสวยไหม”

คาคบเป็นคนเอ่ยถามขึ้นมาก่อน

ชยามองหน้าจีราที่ยิ้มละไมดูมีความสุขแล้วน่าแปลกใจ

ปกติเธอไม่ค่อยใส่ใจในความหน้าตาดีของผู้ชายคนนี้เท่าไรเพราะคุ้นชินดุจญาติพี่น้องกันมาตลอด แต่วันนี้ดูดีกว่าทุกวัน อาจจะถูกใจเธอด้วยซ้ำ จึงเอ่ยชมเล็กน้อย

“เข้าท่าดี”

จีรายิ้มพึงพอใจให้ชยาโดยไม่พูดอะไร เขากลายเป็นพูดน้อยกว่าปกติ

เธอจึงถามถึงเรื่องเมื่อคืนตามธรรมดาที่ควรถามไปไม่มีอะไรแปลก

“กลับถึงบ้านกันกี่ทุ่ม”

“อ๋อ... กลับถึงบ้านก่อนห้าทุ่ม”

คาคบตอบพร้อมอมยิ้มเขินอายอย่างเห็นได้ชัด

มันไม่มีอะไรน่าแปลกถ้ากลับจากไปเที่ยวคาราโอเกะกันมาเวลาอย่างนั้น

แต่แปลกมากตรงปฏิกิริยาของผู้ชายสองคนนี้ที่น่าสงสัยว่าทำไมต้องยิ้มเขินอะไรกันมากมายอายม้วนออกอาการขนาดนั้น

ชยาขมวดคิ้วสงสัยด้วยไม่รู้เรื่องราวใดจึงถามไปตามตรง

“เขินอะไรกันเนี่ยสองคนนี้”

“เปล่าหรอก”

จีราตอบ แต่ยังมีอาการหัวเราะเขินอยู่ ดูพยายามเก็บอาการให้สงบลง

มันทำให้ชยาไม่เชื่อคำตอบที่บอกว่าเปล่า มันต้องมีอะไรมากมายกว่านั้น

นั่นเพราะเธอไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืนว่าเขาสองคนเกือบเผลอจูบกันไปแล้ว ซึ่งถ้าเธอรู้เข้ามีหวัง...

=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=-+-=

.

..........จีราเรียกรวมพลเพื่อนร่วมเรียนมหาวิทยาลัยเดียวกัน

ตัวเขาเรียนจบจากมานานสองถึงสามปีแล้วอยากเจอเพื่อนทั้งรุ่นเดียวกันทั้งรุ่นพี่รุ่นน้องจึงนัดสังสรรค์ปาร์ตี้กันที่ผับในคืนนี้

ชยาใส่ชุดสวยงามเรียบง่ายสายเดี่ยวแส็กสั้นผ้ามันสีน้ำเงินเหนือเข่าผ่าข้าง

มีผู้ชายสองคนโดดเด่นที่สุดในงานนี้เพราะอะไรตามไปดูกัน

จีราใส่เบลเซอร์เลื่อมมันระยับสีน้ำตาลเลือดหมูเชิ้ตตัวในลายเสือกับกางเกงยืดสีดำเข้ารูปฟิตเน้นช่วงขายาวได้สัดส่วน

คาคบใส่ชุดหนังสีดำแจ็กเก็ตรูดซิปเปิดออกเห็นเสื้อกล้ามเนื้อบางตัวในยัดใส่ในกางเกง มาพร้อมกับกีตาร์ในมือ

“เฮ้ยแกดูพี่คบสิ กางเกงหนังมันเลื่อมฟิตเปรี๊ยะล่ะแก ตรงเป้านั่นปลิ้นเลยสงสัยจะใหญ่เนอะ น่าคิดว่ายัดทิชชู่หรือเปล่าวะแก”

“ระดับพี่คบของจริงพ่อให้มาเยอะไม่ยัดหรอก เขาว่ากันว่าผู้ชายจมูกใหญ่ไอ้ตรงนั้นมันก็มักจะใหญ่ตามไปด้วย ฉันว่าจริงนะแก”

แค่การแต่งตัวของเขาสาวๆ ก็นินทากันมันปากไปแล้ว

ชยาผู้เป็นลูกสาวคุณหญิงเอาแต่นั่งฟังอย่างอายกระมิดกระเมี้ยน ไม่มีความคิดเห็นใดได้แต่อายขวยเขินเกินจะปริปากออกไป

ใครไม่โดนใครไม่รู้ เธอเคยเจอเข้ากับความใหญ่โตมโหฬารนั้นมาแล้วด้วยตัวเองอย่างจัง ก่อนหน้านั้นยังเป็นสาวบริสุทธิ์คึกคะนองปากอยากพูดทะลึ่งก็พูดได้ ต่อเมื่อเสียความสาวไปถึงได้รู้ดีว่าไม่ควรพูดมากเกินไปมันจะดูไม่งาม

หลังจากนั้นเพื่อนสาวร่วมมหาวิทยาลัยหันมาถามเธอ

“พี่คบมีแฟนหรือยังชยา”

“ไม่รู้... ยังไม่ได้รับรายงาน”

เธอแกล้งตอบแบบนักการเมือง เธอรู้ว่าสาวหลายคนชอบและอยากเป็นแฟนด้วย แต่คาคบไม่เคยมีข่าวคบเพื่อนสาวร่วมมหาวิทยาลัยคนไหนเลย

ถึงตาคาคบขึ้นเวทีไปให้ความบันเทิงโดยการเล่นกีตาร์ร้องเพลงรักหวานๆ เพราะๆ เป็นเพลงไทยสองถึงสามเพลง

เพลงจบได้รับเสียงปรบมือจากอดีตเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัยดังก้องทั้งผับ

“เสียงพี่คบนี่เพราะเนอะฟังแล้วเคลิ้ม”

เป็นคำชมจากสาวๆ หลายคนที่ชยารู้สึกมานานแล้วเช่นกัน

“อิจฉาชยาเนอะ”

“อยู่ๆ มาอิจฉาอะไรฉัน”

“ได้คู่หมั้นหล่อแบบพี่จีรา เพอร์เฟ็กทั้งหล่อทั้งรวย”

“ฉันไม่มีคู่หมั้น พี่จีรานั่นนับถือกันเป็นพี่น้อง”

ชยาปฏิเสธกับเพื่อนเสมอมา ทำให้เพื่อนๆ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งมาตลอด

และลำดับต่อไปจีราจะออกมาร้องเพลงคาราโอเกะและแดนซ์โชว์สาว ที่สาวๆ ตั้งตารอดูกัน

เพลงที่ร้องจะเป็นเพลงอะไรไม่สำคัญ มันเป็นเพลงเต้นรำจังหวะสนุกๆ มันสำคัญตรงที่จีราเปิดชายเชิ้ตลายเสือของเขาสะบัดเบาๆ ให้เห็นแผ่นหน้าท้องสลักเสลาวิจิตรตระการตาด้วยซิกแพ็ครำไร

เรียกเสียงกรี๊ดจากสาวเป็นระยะต่อการสะบัดแต่ละที และเมื่อถึงท่อนเนื้อร้องสำคัญ จีรายิ่งดึงเปิดเสื้อเชิ้ตให้เห็นทั่วถึงตั้งแต่หน้าท้องถึงหน้าอกแน่นแผ่นกล้ามเนื้ออุดมด้วยความฟิตแข็งแกร่ง เป็นเรือนกายชายงามล้ำเสน่ห์ยั่วยวนชวนมองกันตาค้าง

ซิกแพ็คหน้าท้องของจีราอย่างสวยงามล้ำเลอค่า ฆ่าสาวทั้งผับด้วยเสียงกรี๊ดกันดังสนั่นลั่นผับแทบระเบิด

แบบนี้แล้วชยาก็ไม่รอดเช่นกัน เธอส่งเสียงกรี๊ดตามเพื่อนสาวไปกับเขาด้วย

ของสวยงามใครจะไม่ชอบใจงานนี้โดนใจชยาเข้าไปเต็มๆ

จีราเขาก็แค่อยากทำให้เธอรัก...

ลงจากเวทีมาหาชยาและทำให้เธอเซอร์ไพรส์สุดๆ ด้วยการยื่นกุหลาบแดงสัญลักษณ์แห่งความรักให้เธอ

เป็นครั้งแรกที่เขาเพิ่งได้เห็นปฏิกิริยาของเธอที่มีต่อเขา เธอเขินอายและสายตาหยาดเยิ้มยิ้มให้เขาอย่างพิศวาสรักใคร่ เธอรับดอกกุหลาบไปถือไว้ในมือเหมือนยอมรับในตัวเขา

แน่นอนว่าจีราสุขใจ...

“แหมจีรานี่เซ็กซี่มากเลย ทำเอาผมเร่าร้อน...”

น้ำเสียงเซ็กซี่ของคาคบกล่าวกระเซ้าจีรา แถมถลกเปิดเสื้อแจ็กเก็ตเผยให้เห็นช่วงไหล่กว้างของเขา เป็นภาษากายบ่งบอกว่าเขาเร่าร้อนจริงๆ

นี่เป็นอะไรที่ไม่คาดหมายมาก่อน ทำเอาจีรามีปฏิกิริยาอายม้วนต้วนก้มตัวงอไปชั่วครู่หนึ่ง

“กรี๊ด... พี่คบจีบพี่จีรา”

เสียงสาวหนึ่งตะโกนขึ้นมา

ชยาหันขวับมาหาคาคบตีต้นแขนเขาอย่างหยอกเย้า กล่าวเบาๆ กับเขา

“นอกใจกันเหรอพี่คบ”

คาคบไม่ตอบชยา หันมองสบตากับจีราหัวเราะให้กันสนุกสนาน

นั่นเพราะพวกเขาปรึกษากันอยากทำให้ชยายิ้มแย้มมีความสุขนั่นเอง ซึ่งชยาเพิ่งมารู้ในภายหลัง

ไม่ว่าอนาคตต่อไปจะเป็นเช่นไร แต่การได้อยู่ด้วยกันอย่างมีความสุขสนุกสนานร่วมกันอย่างนี้ เธอเรียกมันว่า ...ความรัก

.



ไตรติมา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มี.ค. 2562, 19:30:01 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มี.ค. 2562, 19:30:01 น.

จำนวนการเข้าชม : 671





<< Chapter 19 Young and beautiful   Chapter 21 Dangerous man >>