ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่10 -100%
กลางดึกคืนหนึ่งที่คฤหาสน์วรกาญจน์อันโอ่อ่า
“หวัน หวัน อยู่ไหน”
เสียงแหบแห้งร้องเรียกหาสาวใช้กลางดึก หากไร้เสียงตอบรับ
ทั้งที่รู้อยู่แกใจว่าที่นอนข้างๆ คงว่างเปล่าอย่างเคย แต่เศรษฐีนีชราก็ยังป่ายมือไปมาควานหาร่างท้วมของสามีในความมืดมิด
“หวัน หายหัวไปไหนวะ อีหวัน กูจะขี้จะเยี่ยวบ้าง หาตัวมึงไม่เคยเจอ แอบไปนอนที่ไหน หา!” นางมาลินีเสียงแหลมเกรี้ยวกราดลั่นห้อง จงใจให้ดังทะลุไปถึงห้องนอนคนใช้ที่ถูกกั้นขึ้นมาง่ายๆ อยู่ชั้นบนใกล้ห้องนอนของนาง
‘แกมานอนห้องข้างบนนี่ กลางค่ำกลางคืนเรียกใช้ไม่เคยเห็นหัว’
นางบอกหวันไว้แบบนั้น หวันจึงอาศัยห้องนั้นนอน มันทั้งร้อนทั้งคับแคบ มีพื้นที่เพียงพอแค่ยัดเตียงนอนเล็กๆ เข้าไปได้ กับพัดลมเพียงตัวเดียวเท่านั้น
คนป่วยลุกขึ้นเปิดประตูห้องนอนหรูของตน เดินโซเซกัดปากกัดฟันไปที่ห้องคนรับใช้ มือเหี่ยวย่นผลักบานประตูห้องที่ไม่ได้ล็อกออกแรงจนกระแทกโดนขอบเตียงที่วางไว้ชิดผนังในห้องแคบ
เสียงเตียงราคาถูกร้องประท้วงเอี๊ยดอ๊าด เพราะกำลังรับน้ำหนักร่างอวบอิ่มของสาวใหญ่เจ้าเนื้อกับชายเจ้าของร่างท้วมขาวเผือดที่กำลังขึ้นคร่อม ทั้งขย่มเขย่าร่างเปลือยเปล่าของสาวใหญ่จนหัวสั่นหัวคลอน
“อีหวัน อีอัปรีย์ อีจัญไร อกตัญญู มึงเอาผัวกู กูจะฆ่ามึง” มือเหี่ยวเงื้อง่า ร่างท้วมผงกหัวหันกลับมามองด้วยความรำคาญ
โธ่เว้ยอีแก่ใกล้ตาย ต่อให้เอาช้างมาฉุดกูก็ไม่ยอมผละจากร่างอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือนี้หรอก! แส่หาเรื่องดีนัก ดูให้เต็มตาไปเลย!
ใจนึกกายก็กระแทกกระทั้นสาวใหญ่ร่างอวบอิ่มครั้งแล้วครั้งเล่า
นางมาลินีถลันเข้าไปหมายจะฉีกทึ้งร่างทั้งสองออกจากกัน แต่ตีนอวบอูมของคนที่ถูกคร่อมอยู่ถีบประตูให้กระแทกปัง ซัดเข้ากลางหน้าผากของนางจนล้มคว่ำหมดสติไป ก่อนจะพลิกกายขึ้นคร่อมร่างท้วมเสียเองบดเบียดสะโพกหนั่นหนา หนีบต้นขาใหญ่แน่น ควบขี่ชายใต้ร่างสู่สรวงสวรรค์อันร้อนระอุ ไม่ใส่ใจดวงตาที่เหลือกถลนของคนที่ดิ้นตะเกียกตะกายอยู่ที่พื้นหน้าห้อง
**************
คืนนั้นเป็นคืนเดือนดับ เมษานอนขดตัวอยู่ในเต็นท์ที่พักที่อยู่กลางวงล้อมของคนอื่นๆ ที่มักจะนอนกันข้างกองไฟกองใหญ่หรือผูกเปลนอนใต้ต้นไม้สลับเวรยามกัน ขนุนเฝ้ายามกะเที่ยงคืน เขาออกเดินไปรอบๆ ที่พักได้หนึ่งรอบหลังจากรับเวรต่อจากนายดาบ แล้วจึงมานั่งลงที่ข้างกองไฟ อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นทุกที
“ยิ่งใกล้สางเสือป่าจะยิ่งหนาว”
เสือก้านมองดูกลุ่มคนพวกนั้นแล้วลอบเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน
ใช่ มันไม่คิดว่าจะมีใครในคณะนี้รอดจากป่าอาถรรพ์นี้ไปได้! ถ้าไม่เพราะเสือสี่ตีนก็เป็นเพราะเสือสองเท้าละวะ อย่างน้อยๆ คืนนี้มันก็มั่นใจนักว่าลูกพี่ต้องมาตามนัดในคืนนี้ มันเลยแกล้งหลับแต่ดวงตาหลุกหลิกของมันกวาดไปมาในความมืด เฝ้ารอคอย
ฉึก!
“อ๊าก!”
“มึงจะไปไหนไอ้ขนุน” เสือก้านตะเกียกตะกายคลานเข้าไปตะครุบขาของนายขนุน หลังจากใช้มีดแทงดังฉึกจนนายขนุนโซเซไปหาศักดิ์ที่นอนอยู่เปลใต้ต้นไม้
“พี่ศักดิ์ อ๊าก...ปล่อยกู”
“มึงตาย” เสือก้านตะปบปลายมีดได้ก็ทิ้งตัวลงกดแผลให้จมลึก ทำเอาขนุนแหกปากร้องลั่น เรียกให้คนที่อยู่รายรอบผุดลุกขึ้นพร้อมกัน
ปัง!
กระสุนนัดนั้นเฉียดหัวศักดิ์ไปไม่ถึงนิ้ว เขาหมอบลงที่พื้นคลานอย่างรวดเร็วไปที่เต็นท์ที่พักของนายสาว ไอ้ก้านทาบทับอยู่บนร่างจมกองเลือดของขนุนและมันกำลังจะโผเข้าไปในเต็นท์
ปัง!
กระสุนนัดนั้นสวนกลับออกมาจากรอยแยกของซิปที่รูดออกเพียงนิด เจาะเข้ากลางกะโหลกของเสือก้าน หยุดการเคลื่อนไหวของมันทันที
“พี่ขนุนๆ เป็นยังไงบ้าง พี่ดาบ พาพี่ขนุนเข้าไปในเต็นท์ก่อน”
เมษานั่นเองที่เป็นคนจัดการเสือก้าน ขณะที่นายดาบยังละล้าละลังเขาห่วงเพื่อนและนายจ้างพอๆ กัน
“เร็วๆ” เมษาเร่ง ดวงตาสีเขียวเข้มวาววับอย่างขัดใจ
นายดาบถลาเข้าไปประคองขนุน ดึงหลบห่ากระสุนเข้าไปในเต็นท์ของเมษา จากนั้นก็ลากลังมาตั้งเรียงกันกระสุนที่อาจสาดเข้ามา หางตาเห็นคุณหนูกลิ้งตัวไปตามพื้นดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ มือยังเหนี่ยวไกปืนกดกระสุนรัวเร็วไม่ยั้ง
“ออกมาทำไม!” ธรรศยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้วกัดฟันถาม
เมษาไม่ตอบ และนั่นส่งให้เขาระบายความฉุนลงกับเงาร่างตะคุ่มๆ ที่ซอยเท้าตรงเข้ามาในเขตที่พักแทน
ปัง!
“อ๊าก!” เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากลำคอที่ถูกลูกตะกั่วร้อนๆ พุ่งทะลุเข้าไป มันกุมคอแน่นทรุดลงดิ้นเร่าๆ กับพื้นดิน เสียงสาดกระสุนจากฟากโน้นเงียบไปทันตา
“ต้องการอะไร” ธรรศร้องถามเสียงดังก้อง
“ส่งอีคุณหนูมา แล้วพวกกูเสือใหญ่จะปล่อยพวกมึงไป”
“เสือใหญ่เรอะ น่าแปลกปกติเสือใหญ่ไม่ลอบกัดคนแบบนี้ ท่าทางพวกมึงจะเป็นหมาขี้เรื้อนห่มหนังเสือมากกว่า”
“ไอ้สัตว์! กูเสือโด่งไม่กลัวใคร มึงจะเอากับกูเรอะ” ร่างสูงใหญ่ผงาดออกมาเป็นเป้าราวกับถูกกระตุกหนวด
เมษาแสยะยิ้มกับความโง่เง่าของมัน หล่อนสบตาศักดิ์ที่หมอบอยู่ที่พุ่มไม้ใกล้พวกมันมากกว่าหล่อนกับธรรศ เขาส่งสายตาบอกว่ามีเป้าในสายตาแล้ว นั่นก็แสดงว่าเหลือเพียงอีกหนึ่งที่ซ่อนอยู่สักที่หนึ่ง
หึ ไม่ยาก เป้าเคลื่อนไหวเป็นของถนัดของหล่อนอยู่แล้ว!
“อีพี่สาวมันพวกกูได้ตัวไว้แล้ว ส่งน้องมันมา พวกมึงเก็บชีวิตกลับ ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียดีกว่า มึงคงไม่อยากมีเรื่องกับชุมเสือใหญ่หรอกนะ”
“อยากได้ตัวฉันก็เข้ามาสิ” เมษาก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ทันที ธรรศสะบัดปลายปืนกัดฟันกรอด
ปัง!
กระสุนนัดนั้นเจาะขาของเสือโด่ง จนมันล้มลงก่อนห่ากระสุนจะบรรเลงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพียงไม่นานผู้ที่พยายามตีโอบเข้ามากลับกลายเป็นฝ่ายล่าถอยเพราะเสียกำลังไปถึงสองในห้า ทั้งหัวหน้ามันยังบาดเจ็บ ครู่ใหญ่ห่ากระสุนก็สงบลง เสียงฝีเท้าสามคู่วิ่งลับหายไปในราวป่าที่เริ่มเงียบสงัดอีกครั้งหนึ่ง
“อยากตายมากใช่ไหม” ธรรศถลันเข้ามากระซากต้นแขนบาง เมษาหันมาทำตาลุกวาว เขาปล่อยต้นแขนหล่อนเพราะสัมผัสได้ถึงของเหลวเหนียวหนืด อุ่นจัด
“โดนยิงเหรอ ยุ่งฉิบ” เขาดุ ใบหน้าเคร่ง ผมหยักศกระหัวคิ้วที่ขมวดมุ่น
“ไปทำแผลที่เต็นท์” เขาลากแขนคนที่เริ่มหน้าซีด
“ไม่ได้ พี่ขนุนกับพี่ดาบอยู่ในนั้น คุณสั่งให้พี่ศักดิ์ไปตรวจตรารอบๆ ที ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้” เมษาฝืนกัดฟันกรอด ธรรศทำตามทั้งหน้าบูดบึ้ง ตัดสินใจลากตัวหล่อนไปยังซอกหินที่เขาใช้เป็นที่พักก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง
“นึกว่าจะเป็นมืออาชีพ ทะเล่อทะล่าออกไปได้ เดี๋ยวก็ได้ตายฟรี”
เขาบ่น มือแกะกระดุมเสื้อหล่อนอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจอีกฝ่ายที่ปัดมือเขาเร่าๆ ไม่นานเขาก็ถอดแขนเสื้อข้างซ้ายของหล่อนได้แล้วค่อยดึงข้างขวาออกช้าๆ
“กระสุนไม่ฝังใน แค่ถากๆ” เขาบอก
คนเจ็บแค่นิ่วหน้า ไม่มีเสียงร้อง มีเพียงเม็ดเหงื่อที่ไหลริน จนธรรศต้องโบกมือไปมาต่อหน้าหล่อน
“ทำอะไรของคุณ”
หล่อนปัดมือเขา ทำตาวาวราวกับลูกแมวน้อยขี้โมโห
“ก็เรียกสติน่ะสิ ช็อกหรือเปล่า”
“ช็อกบ้าบออะไรกัน แผลแค่นี้ เอามานี่ ฉันทำแผลเองก็ได้ ชักช้าเดี๋ยวพวกลูกน้องรู้หมด”
“นั่งนิ่งๆ” เขาพูดเสียงต่ำ กดบ่าให้หล่อนทรุดนั่งลงให้เขาเช็ดแผลและเย็บปิดอย่างรวดเร็ว เข็มที่ปักลงไปในเนื้อนวลแต่ละครั้งทำให้ร่างบางสั่นระริก ฟันซี่เล็กๆ กัดริมฝีปากบางจนห้อเลือด หากไม่มีเสียงร้องแม้แต่น้อย ธรรศพันแผลให้หล่อนเรียบร้อยก็ลุกขึ้นเดินออกไปสมทบกับศักดิ์และนายดาบ ปล่อยให้หล่อนจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยก็ออกมาพบลูกน้องทั้งสาม
“คุณหนูเป็นอะไรมากไหมครับ” นายศักดิ์ถามด้วยความร้อนใจ
เมษาส่ายหน้า หันไปมองร่างที่นอนกึ่งนั่งอยู่หน้าเต็นท์ของหล่อน
“พี่ขนุนเป็นยังไงบ้าง” หล่อนคุกเข่าลงถามใกล้ๆ
นายขนุนปรือตามอง ใบหน้าซีดเซียว “ยังไหวครับ ขอบคุณคุณหนูที่ส่องไอ้ก้านดับไปก่อนที่มันจะกะซวกผมอีก ไอ้งูเห่า” ขนุนกัดกรามกรอด
“ไม่เป็นไร ขอโทษที่ช้าไปหน่อย เลยเจ็บตัว” หล่อนเอ่ยเสียงเหี้ยม อารมณ์ยังโกรธกรุ่น
“เสียเลือดมาก” ธรรศเอ่ย บนใบหน้าของทุกคนเวลานี้มีร่องรอยของความกังวลอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคุณหนูของบอดี้การ์ดทั้งสาม
แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เมษาไม่ปล่อยให้ความกังวลนั้นอยู่นานจนบั่นทอนกำลังใจทั้งตัวหล่อนเองและคนอื่นๆ หล่อนตัดสินใจโพล่งขึ้น มาว่า
“พอรุ่งสางพี่ดาบพาพี่ขนุนกลับไป”
“คุณหนู!” บอดี้การ์ดทั้งสามแทบจะร้องขึ้นพร้อมกัน
“อย่างนี้กำลังคนฝั่งเราก็ลดลงเกือบครึ่งเลยนะครับคุณหนู ผมว่าเราถอยกันก่อนดีไหม ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นใครกันแน่” ศักดิ์ออกความเห็น
“ถ้าพี่สาวแท้ๆ ของพี่ศักดิ์ถูกลักพาตัวไปเกือบเดือนแบบนี้ จะยอมถอยกลับไปไหม” ดวงตาสีมรกตจับจ้องใบหน้าของบอดี้การ์ดรุ่นใหญ่ เขาหลบตาก้มลงมองดินอย่างรู้สึกผิด
“เอาละ ฉันไม่บังคับแล้วกัน ใครอยากถอยกลับก็ตามสบาย แต่ยัง ไงพี่ดาบพี่ขนุนก็ต้องทำตามที่ฉันบอก อย่าลืมเอาอาวุธและอาหารไปให้พอด้วย” หล่อนบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“แต่คุณหนูครับ...”
“ไม่มีแต่ค่ะพี่ดาบ สถานการณ์แบบนี้เราจะมีตัวถ่วงไม่ได้ พี่ขนุนเจ็บมาก ไปต่ออาจเป็นอันตราย กลับไปเถอะ เรื่องค่าจ้างฉันให้เต็ม ไม่ต้องห่วง” พูดจบเมษาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในเต็นท์ เป็นอันบอกให้รู้ว่าจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจหล่อนได้
**************
โฮกกกกกก!
กลางดึกคืนนั้นเสียงคำรามต่ำๆ ดังมาจากแนวป่าทึบสะท้อนกึกก้องเขย่าขวัญมนุษย์ทุกผู้ที่บังอาจเหยียบย่ำรบกวนถิ่นฐานที่อยู่ เสือลายพาดกลอนทั้งห้าแห่งดงสางเสือท่องเขาลำเนาไพรอยู่ในดงดิบนั้น ว่ากันว่าตัวนางพญาเสือโคร่งนั้นมีความโหดเหี้ยมมากที่สุด เดิมทีสางเสือมีเสือลายพาดกลอนอยู่ทั้งหมดเจ็ดตัว แต่เพราะเสือตัวผู้ทั้งสองไม่อาจอยู่ร่วมกับนางพญาเสือโคร่งได้ มันจึงถูกตะปบฉีกร่างขาดกระจุย เหลือแต่ซากทิ้งไว้ที่ปากทางเข้าสางเสือให้พวกพรานไปพบเมื่อหลายปีก่อน
เสือที่ฆ่าได้แม้กระทั่งพวกพ้องที่เหลืออยู่น้อยนิดด้วยกันเอง ย่อมไม่ปรานีมนุษย์ที่ไร้เขี้ยวเล็บเป็นแน่แท้ เพราะเหตุนี้ดงสางเสือจึงเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดผืนหนึ่ง
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
“หวัน หวัน อยู่ไหน”
เสียงแหบแห้งร้องเรียกหาสาวใช้กลางดึก หากไร้เสียงตอบรับ
ทั้งที่รู้อยู่แกใจว่าที่นอนข้างๆ คงว่างเปล่าอย่างเคย แต่เศรษฐีนีชราก็ยังป่ายมือไปมาควานหาร่างท้วมของสามีในความมืดมิด
“หวัน หายหัวไปไหนวะ อีหวัน กูจะขี้จะเยี่ยวบ้าง หาตัวมึงไม่เคยเจอ แอบไปนอนที่ไหน หา!” นางมาลินีเสียงแหลมเกรี้ยวกราดลั่นห้อง จงใจให้ดังทะลุไปถึงห้องนอนคนใช้ที่ถูกกั้นขึ้นมาง่ายๆ อยู่ชั้นบนใกล้ห้องนอนของนาง
‘แกมานอนห้องข้างบนนี่ กลางค่ำกลางคืนเรียกใช้ไม่เคยเห็นหัว’
นางบอกหวันไว้แบบนั้น หวันจึงอาศัยห้องนั้นนอน มันทั้งร้อนทั้งคับแคบ มีพื้นที่เพียงพอแค่ยัดเตียงนอนเล็กๆ เข้าไปได้ กับพัดลมเพียงตัวเดียวเท่านั้น
คนป่วยลุกขึ้นเปิดประตูห้องนอนหรูของตน เดินโซเซกัดปากกัดฟันไปที่ห้องคนรับใช้ มือเหี่ยวย่นผลักบานประตูห้องที่ไม่ได้ล็อกออกแรงจนกระแทกโดนขอบเตียงที่วางไว้ชิดผนังในห้องแคบ
เสียงเตียงราคาถูกร้องประท้วงเอี๊ยดอ๊าด เพราะกำลังรับน้ำหนักร่างอวบอิ่มของสาวใหญ่เจ้าเนื้อกับชายเจ้าของร่างท้วมขาวเผือดที่กำลังขึ้นคร่อม ทั้งขย่มเขย่าร่างเปลือยเปล่าของสาวใหญ่จนหัวสั่นหัวคลอน
“อีหวัน อีอัปรีย์ อีจัญไร อกตัญญู มึงเอาผัวกู กูจะฆ่ามึง” มือเหี่ยวเงื้อง่า ร่างท้วมผงกหัวหันกลับมามองด้วยความรำคาญ
โธ่เว้ยอีแก่ใกล้ตาย ต่อให้เอาช้างมาฉุดกูก็ไม่ยอมผละจากร่างอวบอิ่มเต็มไม้เต็มมือนี้หรอก! แส่หาเรื่องดีนัก ดูให้เต็มตาไปเลย!
ใจนึกกายก็กระแทกกระทั้นสาวใหญ่ร่างอวบอิ่มครั้งแล้วครั้งเล่า
นางมาลินีถลันเข้าไปหมายจะฉีกทึ้งร่างทั้งสองออกจากกัน แต่ตีนอวบอูมของคนที่ถูกคร่อมอยู่ถีบประตูให้กระแทกปัง ซัดเข้ากลางหน้าผากของนางจนล้มคว่ำหมดสติไป ก่อนจะพลิกกายขึ้นคร่อมร่างท้วมเสียเองบดเบียดสะโพกหนั่นหนา หนีบต้นขาใหญ่แน่น ควบขี่ชายใต้ร่างสู่สรวงสวรรค์อันร้อนระอุ ไม่ใส่ใจดวงตาที่เหลือกถลนของคนที่ดิ้นตะเกียกตะกายอยู่ที่พื้นหน้าห้อง
**************
คืนนั้นเป็นคืนเดือนดับ เมษานอนขดตัวอยู่ในเต็นท์ที่พักที่อยู่กลางวงล้อมของคนอื่นๆ ที่มักจะนอนกันข้างกองไฟกองใหญ่หรือผูกเปลนอนใต้ต้นไม้สลับเวรยามกัน ขนุนเฝ้ายามกะเที่ยงคืน เขาออกเดินไปรอบๆ ที่พักได้หนึ่งรอบหลังจากรับเวรต่อจากนายดาบ แล้วจึงมานั่งลงที่ข้างกองไฟ อากาศเริ่มหนาวเย็นขึ้นทุกที
“ยิ่งใกล้สางเสือป่าจะยิ่งหนาว”
เสือก้านมองดูกลุ่มคนพวกนั้นแล้วลอบเอ่ยด้วยน้ำเสียงเยาะหยัน
ใช่ มันไม่คิดว่าจะมีใครในคณะนี้รอดจากป่าอาถรรพ์นี้ไปได้! ถ้าไม่เพราะเสือสี่ตีนก็เป็นเพราะเสือสองเท้าละวะ อย่างน้อยๆ คืนนี้มันก็มั่นใจนักว่าลูกพี่ต้องมาตามนัดในคืนนี้ มันเลยแกล้งหลับแต่ดวงตาหลุกหลิกของมันกวาดไปมาในความมืด เฝ้ารอคอย
ฉึก!
“อ๊าก!”
“มึงจะไปไหนไอ้ขนุน” เสือก้านตะเกียกตะกายคลานเข้าไปตะครุบขาของนายขนุน หลังจากใช้มีดแทงดังฉึกจนนายขนุนโซเซไปหาศักดิ์ที่นอนอยู่เปลใต้ต้นไม้
“พี่ศักดิ์ อ๊าก...ปล่อยกู”
“มึงตาย” เสือก้านตะปบปลายมีดได้ก็ทิ้งตัวลงกดแผลให้จมลึก ทำเอาขนุนแหกปากร้องลั่น เรียกให้คนที่อยู่รายรอบผุดลุกขึ้นพร้อมกัน
ปัง!
กระสุนนัดนั้นเฉียดหัวศักดิ์ไปไม่ถึงนิ้ว เขาหมอบลงที่พื้นคลานอย่างรวดเร็วไปที่เต็นท์ที่พักของนายสาว ไอ้ก้านทาบทับอยู่บนร่างจมกองเลือดของขนุนและมันกำลังจะโผเข้าไปในเต็นท์
ปัง!
กระสุนนัดนั้นสวนกลับออกมาจากรอยแยกของซิปที่รูดออกเพียงนิด เจาะเข้ากลางกะโหลกของเสือก้าน หยุดการเคลื่อนไหวของมันทันที
“พี่ขนุนๆ เป็นยังไงบ้าง พี่ดาบ พาพี่ขนุนเข้าไปในเต็นท์ก่อน”
เมษานั่นเองที่เป็นคนจัดการเสือก้าน ขณะที่นายดาบยังละล้าละลังเขาห่วงเพื่อนและนายจ้างพอๆ กัน
“เร็วๆ” เมษาเร่ง ดวงตาสีเขียวเข้มวาววับอย่างขัดใจ
นายดาบถลาเข้าไปประคองขนุน ดึงหลบห่ากระสุนเข้าไปในเต็นท์ของเมษา จากนั้นก็ลากลังมาตั้งเรียงกันกระสุนที่อาจสาดเข้ามา หางตาเห็นคุณหนูกลิ้งตัวไปตามพื้นดินตรงไปยังต้นไม้ใหญ่ มือยังเหนี่ยวไกปืนกดกระสุนรัวเร็วไม่ยั้ง
“ออกมาทำไม!” ธรรศยืนอยู่ตรงนั้นนานแล้วกัดฟันถาม
เมษาไม่ตอบ และนั่นส่งให้เขาระบายความฉุนลงกับเงาร่างตะคุ่มๆ ที่ซอยเท้าตรงเข้ามาในเขตที่พักแทน
ปัง!
“อ๊าก!” เลือดสดๆ พุ่งออกมาจากลำคอที่ถูกลูกตะกั่วร้อนๆ พุ่งทะลุเข้าไป มันกุมคอแน่นทรุดลงดิ้นเร่าๆ กับพื้นดิน เสียงสาดกระสุนจากฟากโน้นเงียบไปทันตา
“ต้องการอะไร” ธรรศร้องถามเสียงดังก้อง
“ส่งอีคุณหนูมา แล้วพวกกูเสือใหญ่จะปล่อยพวกมึงไป”
“เสือใหญ่เรอะ น่าแปลกปกติเสือใหญ่ไม่ลอบกัดคนแบบนี้ ท่าทางพวกมึงจะเป็นหมาขี้เรื้อนห่มหนังเสือมากกว่า”
“ไอ้สัตว์! กูเสือโด่งไม่กลัวใคร มึงจะเอากับกูเรอะ” ร่างสูงใหญ่ผงาดออกมาเป็นเป้าราวกับถูกกระตุกหนวด
เมษาแสยะยิ้มกับความโง่เง่าของมัน หล่อนสบตาศักดิ์ที่หมอบอยู่ที่พุ่มไม้ใกล้พวกมันมากกว่าหล่อนกับธรรศ เขาส่งสายตาบอกว่ามีเป้าในสายตาแล้ว นั่นก็แสดงว่าเหลือเพียงอีกหนึ่งที่ซ่อนอยู่สักที่หนึ่ง
หึ ไม่ยาก เป้าเคลื่อนไหวเป็นของถนัดของหล่อนอยู่แล้ว!
“อีพี่สาวมันพวกกูได้ตัวไว้แล้ว ส่งน้องมันมา พวกมึงเก็บชีวิตกลับ ไปเลี้ยงลูกเลี้ยงเมียดีกว่า มึงคงไม่อยากมีเรื่องกับชุมเสือใหญ่หรอกนะ”
“อยากได้ตัวฉันก็เข้ามาสิ” เมษาก้าวออกมาจากหลังต้นไม้ทันที ธรรศสะบัดปลายปืนกัดฟันกรอด
ปัง!
กระสุนนัดนั้นเจาะขาของเสือโด่ง จนมันล้มลงก่อนห่ากระสุนจะบรรเลงขึ้นอีกครั้งหนึ่ง เพียงไม่นานผู้ที่พยายามตีโอบเข้ามากลับกลายเป็นฝ่ายล่าถอยเพราะเสียกำลังไปถึงสองในห้า ทั้งหัวหน้ามันยังบาดเจ็บ ครู่ใหญ่ห่ากระสุนก็สงบลง เสียงฝีเท้าสามคู่วิ่งลับหายไปในราวป่าที่เริ่มเงียบสงัดอีกครั้งหนึ่ง
“อยากตายมากใช่ไหม” ธรรศถลันเข้ามากระซากต้นแขนบาง เมษาหันมาทำตาลุกวาว เขาปล่อยต้นแขนหล่อนเพราะสัมผัสได้ถึงของเหลวเหนียวหนืด อุ่นจัด
“โดนยิงเหรอ ยุ่งฉิบ” เขาดุ ใบหน้าเคร่ง ผมหยักศกระหัวคิ้วที่ขมวดมุ่น
“ไปทำแผลที่เต็นท์” เขาลากแขนคนที่เริ่มหน้าซีด
“ไม่ได้ พี่ขนุนกับพี่ดาบอยู่ในนั้น คุณสั่งให้พี่ศักดิ์ไปตรวจตรารอบๆ ที ฉันไม่อยากให้พวกเขารู้” เมษาฝืนกัดฟันกรอด ธรรศทำตามทั้งหน้าบูดบึ้ง ตัดสินใจลากตัวหล่อนไปยังซอกหินที่เขาใช้เป็นที่พักก่อนหน้าที่จะเกิดเรื่อง
“นึกว่าจะเป็นมืออาชีพ ทะเล่อทะล่าออกไปได้ เดี๋ยวก็ได้ตายฟรี”
เขาบ่น มือแกะกระดุมเสื้อหล่อนอย่างรวดเร็ว ไม่สนใจอีกฝ่ายที่ปัดมือเขาเร่าๆ ไม่นานเขาก็ถอดแขนเสื้อข้างซ้ายของหล่อนได้แล้วค่อยดึงข้างขวาออกช้าๆ
“กระสุนไม่ฝังใน แค่ถากๆ” เขาบอก
คนเจ็บแค่นิ่วหน้า ไม่มีเสียงร้อง มีเพียงเม็ดเหงื่อที่ไหลริน จนธรรศต้องโบกมือไปมาต่อหน้าหล่อน
“ทำอะไรของคุณ”
หล่อนปัดมือเขา ทำตาวาวราวกับลูกแมวน้อยขี้โมโห
“ก็เรียกสติน่ะสิ ช็อกหรือเปล่า”
“ช็อกบ้าบออะไรกัน แผลแค่นี้ เอามานี่ ฉันทำแผลเองก็ได้ ชักช้าเดี๋ยวพวกลูกน้องรู้หมด”
“นั่งนิ่งๆ” เขาพูดเสียงต่ำ กดบ่าให้หล่อนทรุดนั่งลงให้เขาเช็ดแผลและเย็บปิดอย่างรวดเร็ว เข็มที่ปักลงไปในเนื้อนวลแต่ละครั้งทำให้ร่างบางสั่นระริก ฟันซี่เล็กๆ กัดริมฝีปากบางจนห้อเลือด หากไม่มีเสียงร้องแม้แต่น้อย ธรรศพันแผลให้หล่อนเรียบร้อยก็ลุกขึ้นเดินออกไปสมทบกับศักดิ์และนายดาบ ปล่อยให้หล่อนจัดการกับตัวเองให้เรียบร้อยก็ออกมาพบลูกน้องทั้งสาม
“คุณหนูเป็นอะไรมากไหมครับ” นายศักดิ์ถามด้วยความร้อนใจ
เมษาส่ายหน้า หันไปมองร่างที่นอนกึ่งนั่งอยู่หน้าเต็นท์ของหล่อน
“พี่ขนุนเป็นยังไงบ้าง” หล่อนคุกเข่าลงถามใกล้ๆ
นายขนุนปรือตามอง ใบหน้าซีดเซียว “ยังไหวครับ ขอบคุณคุณหนูที่ส่องไอ้ก้านดับไปก่อนที่มันจะกะซวกผมอีก ไอ้งูเห่า” ขนุนกัดกรามกรอด
“ไม่เป็นไร ขอโทษที่ช้าไปหน่อย เลยเจ็บตัว” หล่อนเอ่ยเสียงเหี้ยม อารมณ์ยังโกรธกรุ่น
“เสียเลือดมาก” ธรรศเอ่ย บนใบหน้าของทุกคนเวลานี้มีร่องรอยของความกังวลอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะคุณหนูของบอดี้การ์ดทั้งสาม
แต่ในเมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้แล้ว เมษาไม่ปล่อยให้ความกังวลนั้นอยู่นานจนบั่นทอนกำลังใจทั้งตัวหล่อนเองและคนอื่นๆ หล่อนตัดสินใจโพล่งขึ้น มาว่า
“พอรุ่งสางพี่ดาบพาพี่ขนุนกลับไป”
“คุณหนู!” บอดี้การ์ดทั้งสามแทบจะร้องขึ้นพร้อมกัน
“อย่างนี้กำลังคนฝั่งเราก็ลดลงเกือบครึ่งเลยนะครับคุณหนู ผมว่าเราถอยกันก่อนดีไหม ตอนนี้ไม่รู้ว่าใครเป็นใครกันแน่” ศักดิ์ออกความเห็น
“ถ้าพี่สาวแท้ๆ ของพี่ศักดิ์ถูกลักพาตัวไปเกือบเดือนแบบนี้ จะยอมถอยกลับไปไหม” ดวงตาสีมรกตจับจ้องใบหน้าของบอดี้การ์ดรุ่นใหญ่ เขาหลบตาก้มลงมองดินอย่างรู้สึกผิด
“เอาละ ฉันไม่บังคับแล้วกัน ใครอยากถอยกลับก็ตามสบาย แต่ยัง ไงพี่ดาบพี่ขนุนก็ต้องทำตามที่ฉันบอก อย่าลืมเอาอาวุธและอาหารไปให้พอด้วย” หล่อนบอกด้วยน้ำเสียงเด็ดขาด
“แต่คุณหนูครับ...”
“ไม่มีแต่ค่ะพี่ดาบ สถานการณ์แบบนี้เราจะมีตัวถ่วงไม่ได้ พี่ขนุนเจ็บมาก ไปต่ออาจเป็นอันตราย กลับไปเถอะ เรื่องค่าจ้างฉันให้เต็ม ไม่ต้องห่วง” พูดจบเมษาก็ลุกขึ้นยืนแล้วเดินหายเข้าไปในเต็นท์ เป็นอันบอกให้รู้ว่าจะไม่มีอะไรมาเปลี่ยนใจหล่อนได้
**************
โฮกกกกกก!
กลางดึกคืนนั้นเสียงคำรามต่ำๆ ดังมาจากแนวป่าทึบสะท้อนกึกก้องเขย่าขวัญมนุษย์ทุกผู้ที่บังอาจเหยียบย่ำรบกวนถิ่นฐานที่อยู่ เสือลายพาดกลอนทั้งห้าแห่งดงสางเสือท่องเขาลำเนาไพรอยู่ในดงดิบนั้น ว่ากันว่าตัวนางพญาเสือโคร่งนั้นมีความโหดเหี้ยมมากที่สุด เดิมทีสางเสือมีเสือลายพาดกลอนอยู่ทั้งหมดเจ็ดตัว แต่เพราะเสือตัวผู้ทั้งสองไม่อาจอยู่ร่วมกับนางพญาเสือโคร่งได้ มันจึงถูกตะปบฉีกร่างขาดกระจุย เหลือแต่ซากทิ้งไว้ที่ปากทางเข้าสางเสือให้พวกพรานไปพบเมื่อหลายปีก่อน
เสือที่ฆ่าได้แม้กระทั่งพวกพ้องที่เหลืออยู่น้อยนิดด้วยกันเอง ย่อมไม่ปรานีมนุษย์ที่ไร้เขี้ยวเล็บเป็นแน่แท้ เพราะเหตุนี้ดงสางเสือจึงเป็นผืนป่าที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดผืนหนึ่ง
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 พ.ค. 2562, 10:01:24 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 พ.ค. 2562, 10:01:24 น.
จำนวนการเข้าชม : 652
<< บทที่10 -50% + หนังสือวางจำหน่ายแล้ว | บทที่11 -30% >> |