ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่ 19 -40%
ท่ามกลางสายฝนที่โปรยปรายลงมาจากฟากฟ้า ไร้ซึ่งความปรานี
พยัคฆ์ไม่อาจผละจากร่างผอมบางในอ้อมอกได้ ไข้หล่อนยังไม่ลดลงแม้แต่น้อย บาดแผลแดงบวมอย่างน่ากลัว พยัคฆ์ไม่ได้กินอะไรมาร่วมสองวันแล้ว ร่างกายเขาเรียกร้องอาหาร แล้วหล่อนเล่า ในยามป่วยไข้แบบนี้อาหารเป็นสิ่งจำเป็นนัก เขาอยากไปหาอาหาร แต่จะทิ้งหล่อนไปได้อย่างไร
สวบ!
ตุ้บ!
เสียงวัตถุหนักๆ หล่นลงบนก้อนหินใกล้ซอกหินที่พัก
พยัคฆ์หันขวับไปมอง ดวงตาสบดวงตาสีอำพันคู่ใหญ่ อุ้งเท้าใหญ่ข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนร่างไร้ลมหายใจของลูกกวางรุ่น ขนหนาหนักเรียบลู่เปียกฝน ลิ้นสีชมพูเลียปากเปื้อนเลือด เผยเขี้ยวขาวคมวาววับ
“นางเหลือง...” พยัคฆ์ครางในลำคอ “ขอบคุณมาก”
เขาวางศีรษะของคนป่วยลงก่อนจะผละออกมาหาร่างไร้ชีวิตนั้น
นางเหลืองถอยห่างออกไปนอนราบมองดูอยู่ที่หินก้อนใหญ่ใต้ร่มเงาไม้ที่พอบังฝนได้บ้าง สายตาจับจ้องพยัคฆ์เชือดเจ้าเนื้อตัวงามเป็นกองๆ เขาเอามันไปวางไว้ใกล้ๆ นางเหลืองอย่างที่เคยปฏิบัติเสมอมา ไม่นานอุ้งเท้าใหญ่สามคู่ก็ก้าวออกมาจากราวไม้ที่ซุ่มดูอยู่ เสียงเขี้ยวเคี้ยวเนื้อสดๆ ดังฉับๆ ปะปนกับเสียงฝน พยัคฆ์เฉือนเนื้อที่เหลือบางๆ ย่างไฟให้สุกหอมกรุ่น ความหวังที่จะช่วยชีวิตหล่อนไว้ได้เริ่มกลับมา
“กินอะไรสักหน่อยเถอะนะคนดี จะได้หายป่วยไวๆ”
“อื้อ” ร่างบางที่เปลือกตาปิดสนิทเบือนหน้าหนี พยัคฆ์บีบปากบางให้อ้าปากรับเนื้อชิ้นเล็กที่เขาป้อนให้
“พฤษภา อย่าทรมานผมแบบนี้เลยนะ กินอะไรสักหน่อยเถอะ” เขาพยายามป้อนอาหารให้หล่อนอยู่นาน แม้หล่อนจะคายทิ้งเสียเป็นส่วนใหญ่ก็ยังดีที่มีอาหารตกถึงท้องหล่อนบ้าง พยัคฆ์ต้มน้ำร้อนเพิ่มแล้วค่อยๆ ป้อนให้หล่อน แผลที่บวมเป่งที่ไหล่ทำให้เขากังวลมากขึ้นทุกที
*************
กลางดึกคืนฝนโปรยกลางป่าดงสางเสือ ร่างสูงใหญ่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พยายามค้อมกายบังสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ให้โดนร่างบอบบางที่สั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนเขา เสื้อผ้าขาดวิ่นด้วยขวากหนามเกี่ยวรั้ง เลือดไหลซึมสองแขน
เมื่อชั่วโมงก่อนอาการจับไข้จากพิษบาดแผลที่อักเสบของพฤษภาทวีความรุนแรงขึ้นจนหล่อนมีอาการช็อกตาค้าง ดิ้นทุรนทุรายสลับกันไปมา พยัคฆ์จำเป็นต้องพาหล่อนกลับที่พักเดิมเพื่อที่เขาจะได้ใช้ยาที่มีรักษาหล่อน ก่อนที่จะหาทางพาหล่อนออกไปจากป่าให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกิน ไป
ระยะทางที่เขาเคยเดินถึงในเวลาไม่ถึงชั่วโมงกลับดูยาวไกลกว่านั้นสักสิบเท่า ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมหัวใจที่หวาดหวั่นของพยัคฆ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความแค้นของเขาเพียงตัวเดียวที่กำลังจะฆ่าผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งให้ตายไปอย่างทุกข์ทรมานกลางป่าเขาห่างไกลจากครอบครัวที่หล่อนรัก
ควันไฟและเปลวเพลิงที่ลุกโชนทำให้พยัคฆ์ชะงักงันอยู่ตรงพุ่มไม้ใกล้ที่พัก สัญชาตญาณป้องกันตัวลุกฮือ แต่ร่างผอมสูงคุ้นตาที่กำลังหลับ ใหลอยู่ข้างกองไฟทำให้เขาโลดออกไปด้วยความดีใจสุดขีด
“ลุงใหญ่!”
“หยุด! นั่นใคร” เสือใหญ่งัวเงียขึ้น คว้ากระบอกปืนกระชับมั่น เสือพูนผุดลุกขึ้นพร้อมกัน พยายามเพ่งมองร่างสูงเป็นเงาทะมึนที่ยืนอยู่ข้างพุ่มไม้ เนื้อตัวเปียกโชก ในอ้อมแขนอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของใครคนหนึ่งไว้แนบแน่น
“ลุงใหญ่ ช่วยด้วย”
“ไอ้เสือ เฮ้ยไอ้เสือหลานข้า มีอะไร เกิดอะไรขึ้นวะ” เสือใหญ่เปิดไฟฉายทะยานเข้าไปหา พยัคฆ์ก้าวออกมาจากความมืด
“ช่วยเขาด้วย ลุงใหญ่ ผมขอร้อง”
“ฉิบหายแล้ว พานังหนูมาข้างกองไฟนี่มา พูนเอากระเป๋ายามา” เสือใหญ่แหวกเสื้อดูแผลที่ไหล่บาง รอยข่วนยาวเหยียดบวมแดงทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่น
“ฝีมือจำปาดง มันคงได้กลิ่นผมเลยเข้ามาหา แต่พอเห็นว่าเป็นคนอื่นเลยกระโดดตะปบเอา คงกลัวมาก เขาไม่ตอบโต้ผมมาสองวันเต็มๆ แล้ว”
“น่าจะตกใจสุดขีดจนขวัญเสีย แผลอักเสบมาก ไข้สูง ไอ้พูนเอ็งไปเรียกน้องสาวเขามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พี่เขาไป”
“น้องสาวรึ” พยัคฆ์หน้าเสีย
“พี่เมย์! พี่เมย์เป็นอะไร”
เสียงกรีดร้องอย่างขวัญเสียดังมาจากด้านหลัง เมษากระโจนลงมาอย่างไม่กลัวเจ็บ พุ่งถลาเข้ามาหาร่างไร้สติของพี่สาว
“ใจเย็นไว้ก่อนนังหนู ทำแผลให้พี่เอ็งซะแล้วให้กินยาฆ่าเชื้อนี่ แล้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นอนดูอาการสักพัก ไอ้เสือเอ็งตามลุงมาทางนี้”
“เสือ!? นายคือนายพยัคฆ์เหรอ ไอ้คนสารเลว นายจับตัวพี่สาวฉันมาทำไม คิดจะฆ่าพี่เมย์ใช่ไหม!” กำปั้นลุ่นๆ ของเมษาซัดเข้าที่ปลายคางของพยัคฆ์ ร่างใหญ่เซไปสองสามเก้า ปากเม้มสนิท ไม่ตอบโต้ เมษาจึงซัดเข้าให้อีกหมัดก่อนที่ธรรศจะดึงตัวไว้
“ปล่อยนะ ฉันจะฆ่ามัน ปล่อย”
“เมษาไปดูแลพี่เมย์ก่อนเถอะ” ธรรศสั่งเสียงเข้ม ปรายตามองใบ หน้าของพยัคฆ์นิ่ง ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับคนป่วย ปล่อยให้เสือใหญ่ลากตัวพยัคฆ์ไปอีกทาง
อาการทุรนทุรายของพฤษภาค่อยๆ หายไปเมื่อฤทธิ์ยาเริ่มเข้าควบ คุม แต่ยังไม่รู้สึกตัวพอที่จะโต้ตอบได้ เมษานั่งกุมมือเย็นเฉียบของพี่สาวแน่น
“ไหนเอ็งบอกว่าจับเขามาเพื่อแลกเปลี่ยนกับไอ้ชาติชั่ว ทำไมแม่หนูนี่ถึงได้มีสภาพปางตายอย่างนี้วะไอ้เสือ”
“ผม...ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างนี้เลยลุงใหญ่ ผมคิดว่าปก ป้องเขาได้”
“จากเสือน่ะเรอะ เสือรุ่นพวกนั้นมันจะรู้เรื่องอะไรวะ”
“ครับลุงใหญ่ ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว ผมผิดไปแล้วจริงๆ”
“ไม่ได้! มึงต้องมีคำอธิบายให้เขา ไม่เห็นฤทธิ์น้องสาวเขารึ นั่นแค่ลูกนะ ถ้าพ่อเขามามันจะขนาดไหน”
“ครับ” พยัคฆ์พยักหน้าช้าๆ “จะฆ่าจะแกงผมยังไงผมก็ยอม ขอแค่ให้เขาปลอดภัยก็พอ”
พูดออกมาแบบนั้นแล้วพยัคฆ์ก็ทรุดนั่งลงบนโขดหิน สองมือกุมหน้าผากเสยผมเปียกชื้นฝนให้พ้นหน้า หันไปมองกลุ่มคนที่กำลังพยาบาลตัวประกันของเขา เสียงร้องเรียกพี่สาวปนสะอื้นของเมษาทำให้ใจเขายิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น
“จะดีจะร้ายยังไงพรุ่งนี้เขาก็ต้องมารับแม่หนูนั่นออกจากป่า ไอ้เสือ เอ็งไปเสียเถอะตอนนี้”
“ไม่ ผมจะอยู่จนกว่าจะแน่ใจว่าเขาปลอดภัยและออกไปได้เรียบ ร้อยดีเสียก่อน”
“ถึงตอนนั้นเขาคงไม่เอามึงไว้หรอก ไปซะ!”
พยัคฆ์ส่ายหน้าช้าๆ ปฏิเสธความหวังดีนั้นของเสือใหญ่ ขณะเดียว กันทันทีที่เขาหันไปมองทางพฤษภา ก็มีสายตาของเมษาจ้องมองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พยัคฆ์หลุบตาลงต่ำ ไม่เคยรู้สึกอัปยศครั้งใดมากเท่าครั้งนี้มาก่อน
ทั้งๆ ที่รู้ว่าพฤษภาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาก็ยังไม่ละเว้น ลงมือระบายความแค้นเอากับคนที่ไม่รู้เรื่องจนหล่อนแทบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้ เป็นใครก็คงให้อภัยเขาไม่ลง...แม้แต่ตัวเขาเอง
“อาการไม่ดีขึ้นเลย ผมจะเรียกหมอ” ธรรศเอ่ยบอกเมษา
“คุณจะหาหมอจากที่ไหนกันคะ” เมษาหันขวับมามองหน้าเขา ธรรศระบายลมหายใจช้าๆ
“คุณพ่อคุณจัดการได้แน่ อย่าเพิ่งถามเลย ไปเก็บของ เตรียมตัวเดินทางกลับได้แล้วเมษา” ธรรศออกคำสั่งก่อนจะเปิดกระเป๋าดึงเครื่องมือสื่อสารขนาดจิ๋วขึ้นมากดเปิดจนมีแสงสีเขียวขึ้นที่หน้าจอ
‘พบตัวคุณเมย์แล้ว ต้องการแพทย์ด่วน พร้อมเดินทางรุ่งสาง ลานสางเสือ’
เขากดส่งข้อความนั้นแล้วโยนเครื่องมือสื่อสารใส่กระเป๋าตามเดิม
เมษายังจ้องมองการกระทำของเขานิ่ง
“คุณเป็นใครกันแน่คะ คุณธรรศ” หล่อนถามออกมาตรงๆ
ธรรศหันมาสบดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นนิ่ง แม้จะรู้ว่าวันหนึ่งเขาก็ต้องบอกหล่อน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ผมเป็นบอดี้การ์ดที่คุณไมลส์จ้างให้มาดูแลคุณทั้งสองกับคุณแมกโนเลีย”
“บอดี้การ์ดของคุณพ่อเหรอคะ”
เมษาอุทาน สมองวิ่งพล่านพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว จนเด่นชัดขึ้น “คุณกับคุณพ่อหลอกเรามาตลอดเลยหรือคะ”
“คุณคงไม่คิดว่าคนอย่างพ่อคุณจะยอมปล่อยให้คุณเข้าป่ามาตาม หาพี่สาวกับพวกมือสมัครเล่นพวกนั้นหรอกนะ”
“ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นคนของฉัน!”
“ใช่ ผมถึงได้ปล่อยให้คุณจัดการกับพวกเขาเอง ส่วนผมเป็นคนของคุณพ่อของคุณ เพราะฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของคุณ” เขาทำให้หล่อนอ้าปากค้าง น้ำใสๆ คลอดวงตาสีสวย ธรรศเบือนหน้าหนี ย้ำคำสั่งเดิม
“เก็บของให้เรียบร้อย เราต้องพาคุณเมย์ไปที่ลานสางเสือ ผมนัดคุณพ่อคุณไว้ที่นั่นรุ่งเช้า”
พูดจบธรรศก็เดินตรงไปหาเสือใหญ่และพยัคฆ์อันเป็นภารกิจอย่างหนึ่ง ธรรศรู้ดีว่าหากเป็นไมลส์ ชายหนุ่มผู้นี้คงแหลกไม่มีชิ้นดีไปแล้ว แต่เพราะรับปากเสือใหญ่ผู้นำทางไว้มาจนพบพฤษภา ธรรศจึงไม่อาจลงมือกับเขาได้
“พยัคฆ์” ธรรศเรียก ใบหน้าซีดขาวของพยัคฆ์เงยขึ้นมองเขา
“นี่ธรรศ บอดี้การ์ดของนังหนูเมษา” เสือใหญ่แนะนำ
“ครับ” พยัคฆ์พยักหน้าแล้วหยัดตัวขึ้นยืนเสมอบอดี้การ์ดหนุ่มร่างกำยำที่ชื่อธรรศ
“อีกไม่กี่ชั่วโมง คุณพ่อของคุณเมย์จะมารับเธอกับคุณเมษาออกจากป่านี้ คงไม่มีอะไรน่าห่วงอีก”
“ขอบคุณมาก” พยัคฆ์เค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก เขาสูดลมหายใจทางปากเฮือกใหญ่ราวกับปลาใกล้ตายที่ฮุบอากาศเข้าเต็มปอด
“ส่วนเรื่องระหว่างนายสุชาติกับคุณ ผมเชื่อว่าเจ้านายคงจัดการให้กระจ่างได้ ถ้าหากมีเรื่องไม่ชอบมาพากลจริง ก็คงสะสางให้ ยกเว้นเรื่องที่คุณลักพาตัวคุณเมย์มา”
“ผมเข้าใจ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เชื่อเสือใหญ่ ไปซะ ถ้าไม่อยากให้คุณเมย์ต้องมาเห็นคุณถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาด้วยมือของคุณพ่อของเธอเอง” ธรรศเอ่ยเสียงเข้ม พยัคฆ์กัดฟันกรอด มันยากนักที่จะยอมรับความจริงว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเชลยสาวนั้นลึกซึ้งจนเกินจะถอนตัว และที่เหนือไปกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าระหว่างเขากับหล่อนมันไม่มีทางเป็นไปได้!
“ขอผมอยู่ส่งคุณเมย์เถอะ ครั้งสุดท้ายแล้ว”
พยัคฆ์เอ่ยแล้วเดินผละออกไปทางลำธารอย่างไม่เหลียวหลัง
เสือใหญ่พึมพำขอบใจธรรศที่รักษาคำพูดก่อนจะเดินไปนั่งข้างเสือพูน คอยดูอาการของพฤษภาและรอเวลาที่จะเคลื่อนย้ายหล่อนออกจากป่า
***********
โหลด eBook ฉบับเต็มได้ที่เว็บ mebmarket นะคะ
สั่งซื้อนิยายกับสนพ.โดยตรงยังมีของแถมเป็นสมุดโน้ตแบบ memo card แจกให้อยู่นะคะ (จนกว่าของจะหมด) ตามภาพด้านล่าง ใครสนใจ inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ ได้เลยนะคะ
และนิยายของปลายปากกาทุกเรื่อง เมื่อสั่งซื้อผ่านร้าน plaipakkabooks_officialshop ของเว็บ shopee ตอนนี้ลดราคาเท่าช่วงเปิดจอง + ส่งฟรี ใครสนใจ คลิกที่ชื่อร้านจ้าาาา
ฝนเมษาฯ ราคา 345 บาท (จากราคาปก 382 บาท) และส่งฟรีแบบลงทะเบียน
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
พยัคฆ์ไม่อาจผละจากร่างผอมบางในอ้อมอกได้ ไข้หล่อนยังไม่ลดลงแม้แต่น้อย บาดแผลแดงบวมอย่างน่ากลัว พยัคฆ์ไม่ได้กินอะไรมาร่วมสองวันแล้ว ร่างกายเขาเรียกร้องอาหาร แล้วหล่อนเล่า ในยามป่วยไข้แบบนี้อาหารเป็นสิ่งจำเป็นนัก เขาอยากไปหาอาหาร แต่จะทิ้งหล่อนไปได้อย่างไร
สวบ!
ตุ้บ!
เสียงวัตถุหนักๆ หล่นลงบนก้อนหินใกล้ซอกหินที่พัก
พยัคฆ์หันขวับไปมอง ดวงตาสบดวงตาสีอำพันคู่ใหญ่ อุ้งเท้าใหญ่ข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนร่างไร้ลมหายใจของลูกกวางรุ่น ขนหนาหนักเรียบลู่เปียกฝน ลิ้นสีชมพูเลียปากเปื้อนเลือด เผยเขี้ยวขาวคมวาววับ
“นางเหลือง...” พยัคฆ์ครางในลำคอ “ขอบคุณมาก”
เขาวางศีรษะของคนป่วยลงก่อนจะผละออกมาหาร่างไร้ชีวิตนั้น
นางเหลืองถอยห่างออกไปนอนราบมองดูอยู่ที่หินก้อนใหญ่ใต้ร่มเงาไม้ที่พอบังฝนได้บ้าง สายตาจับจ้องพยัคฆ์เชือดเจ้าเนื้อตัวงามเป็นกองๆ เขาเอามันไปวางไว้ใกล้ๆ นางเหลืองอย่างที่เคยปฏิบัติเสมอมา ไม่นานอุ้งเท้าใหญ่สามคู่ก็ก้าวออกมาจากราวไม้ที่ซุ่มดูอยู่ เสียงเขี้ยวเคี้ยวเนื้อสดๆ ดังฉับๆ ปะปนกับเสียงฝน พยัคฆ์เฉือนเนื้อที่เหลือบางๆ ย่างไฟให้สุกหอมกรุ่น ความหวังที่จะช่วยชีวิตหล่อนไว้ได้เริ่มกลับมา
“กินอะไรสักหน่อยเถอะนะคนดี จะได้หายป่วยไวๆ”
“อื้อ” ร่างบางที่เปลือกตาปิดสนิทเบือนหน้าหนี พยัคฆ์บีบปากบางให้อ้าปากรับเนื้อชิ้นเล็กที่เขาป้อนให้
“พฤษภา อย่าทรมานผมแบบนี้เลยนะ กินอะไรสักหน่อยเถอะ” เขาพยายามป้อนอาหารให้หล่อนอยู่นาน แม้หล่อนจะคายทิ้งเสียเป็นส่วนใหญ่ก็ยังดีที่มีอาหารตกถึงท้องหล่อนบ้าง พยัคฆ์ต้มน้ำร้อนเพิ่มแล้วค่อยๆ ป้อนให้หล่อน แผลที่บวมเป่งที่ไหล่ทำให้เขากังวลมากขึ้นทุกที
*************
กลางดึกคืนฝนโปรยกลางป่าดงสางเสือ ร่างสูงใหญ่กำลังก้าวเดินไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดยั้ง พยายามค้อมกายบังสายฝนที่โปรยปรายลงมาไม่ให้โดนร่างบอบบางที่สั่นเทาอยู่ในอ้อมแขนเขา เสื้อผ้าขาดวิ่นด้วยขวากหนามเกี่ยวรั้ง เลือดไหลซึมสองแขน
เมื่อชั่วโมงก่อนอาการจับไข้จากพิษบาดแผลที่อักเสบของพฤษภาทวีความรุนแรงขึ้นจนหล่อนมีอาการช็อกตาค้าง ดิ้นทุรนทุรายสลับกันไปมา พยัคฆ์จำเป็นต้องพาหล่อนกลับที่พักเดิมเพื่อที่เขาจะได้ใช้ยาที่มีรักษาหล่อน ก่อนที่จะหาทางพาหล่อนออกไปจากป่าให้เร็วที่สุดก่อนที่จะสายเกิน ไป
ระยะทางที่เขาเคยเดินถึงในเวลาไม่ถึงชั่วโมงกลับดูยาวไกลกว่านั้นสักสิบเท่า ความรู้สึกผิดเข้าเกาะกุมหัวใจที่หวาดหวั่นของพยัคฆ์อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ความแค้นของเขาเพียงตัวเดียวที่กำลังจะฆ่าผู้หญิงบริสุทธิ์คนหนึ่งให้ตายไปอย่างทุกข์ทรมานกลางป่าเขาห่างไกลจากครอบครัวที่หล่อนรัก
ควันไฟและเปลวเพลิงที่ลุกโชนทำให้พยัคฆ์ชะงักงันอยู่ตรงพุ่มไม้ใกล้ที่พัก สัญชาตญาณป้องกันตัวลุกฮือ แต่ร่างผอมสูงคุ้นตาที่กำลังหลับ ใหลอยู่ข้างกองไฟทำให้เขาโลดออกไปด้วยความดีใจสุดขีด
“ลุงใหญ่!”
“หยุด! นั่นใคร” เสือใหญ่งัวเงียขึ้น คว้ากระบอกปืนกระชับมั่น เสือพูนผุดลุกขึ้นพร้อมกัน พยายามเพ่งมองร่างสูงเป็นเงาทะมึนที่ยืนอยู่ข้างพุ่มไม้ เนื้อตัวเปียกโชก ในอ้อมแขนอุ้มร่างอ่อนปวกเปียกของใครคนหนึ่งไว้แนบแน่น
“ลุงใหญ่ ช่วยด้วย”
“ไอ้เสือ เฮ้ยไอ้เสือหลานข้า มีอะไร เกิดอะไรขึ้นวะ” เสือใหญ่เปิดไฟฉายทะยานเข้าไปหา พยัคฆ์ก้าวออกมาจากความมืด
“ช่วยเขาด้วย ลุงใหญ่ ผมขอร้อง”
“ฉิบหายแล้ว พานังหนูมาข้างกองไฟนี่มา พูนเอากระเป๋ายามา” เสือใหญ่แหวกเสื้อดูแผลที่ไหล่บาง รอยข่วนยาวเหยียดบวมแดงทำให้คิ้วเข้มขมวดมุ่น
“ฝีมือจำปาดง มันคงได้กลิ่นผมเลยเข้ามาหา แต่พอเห็นว่าเป็นคนอื่นเลยกระโดดตะปบเอา คงกลัวมาก เขาไม่ตอบโต้ผมมาสองวันเต็มๆ แล้ว”
“น่าจะตกใจสุดขีดจนขวัญเสีย แผลอักเสบมาก ไข้สูง ไอ้พูนเอ็งไปเรียกน้องสาวเขามาเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้พี่เขาไป”
“น้องสาวรึ” พยัคฆ์หน้าเสีย
“พี่เมย์! พี่เมย์เป็นอะไร”
เสียงกรีดร้องอย่างขวัญเสียดังมาจากด้านหลัง เมษากระโจนลงมาอย่างไม่กลัวเจ็บ พุ่งถลาเข้ามาหาร่างไร้สติของพี่สาว
“ใจเย็นไว้ก่อนนังหนู ทำแผลให้พี่เอ็งซะแล้วให้กินยาฆ่าเชื้อนี่ แล้วเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นอนดูอาการสักพัก ไอ้เสือเอ็งตามลุงมาทางนี้”
“เสือ!? นายคือนายพยัคฆ์เหรอ ไอ้คนสารเลว นายจับตัวพี่สาวฉันมาทำไม คิดจะฆ่าพี่เมย์ใช่ไหม!” กำปั้นลุ่นๆ ของเมษาซัดเข้าที่ปลายคางของพยัคฆ์ ร่างใหญ่เซไปสองสามเก้า ปากเม้มสนิท ไม่ตอบโต้ เมษาจึงซัดเข้าให้อีกหมัดก่อนที่ธรรศจะดึงตัวไว้
“ปล่อยนะ ฉันจะฆ่ามัน ปล่อย”
“เมษาไปดูแลพี่เมย์ก่อนเถอะ” ธรรศสั่งเสียงเข้ม ปรายตามองใบ หน้าของพยัคฆ์นิ่ง ก่อนจะหันไปให้ความสนใจกับคนป่วย ปล่อยให้เสือใหญ่ลากตัวพยัคฆ์ไปอีกทาง
อาการทุรนทุรายของพฤษภาค่อยๆ หายไปเมื่อฤทธิ์ยาเริ่มเข้าควบ คุม แต่ยังไม่รู้สึกตัวพอที่จะโต้ตอบได้ เมษานั่งกุมมือเย็นเฉียบของพี่สาวแน่น
“ไหนเอ็งบอกว่าจับเขามาเพื่อแลกเปลี่ยนกับไอ้ชาติชั่ว ทำไมแม่หนูนี่ถึงได้มีสภาพปางตายอย่างนี้วะไอ้เสือ”
“ผม...ผมไม่คิดว่าเรื่องมันจะเป็นอย่างนี้เลยลุงใหญ่ ผมคิดว่าปก ป้องเขาได้”
“จากเสือน่ะเรอะ เสือรุ่นพวกนั้นมันจะรู้เรื่องอะไรวะ”
“ครับลุงใหญ่ ผมไม่มีอะไรจะแก้ตัว ผมผิดไปแล้วจริงๆ”
“ไม่ได้! มึงต้องมีคำอธิบายให้เขา ไม่เห็นฤทธิ์น้องสาวเขารึ นั่นแค่ลูกนะ ถ้าพ่อเขามามันจะขนาดไหน”
“ครับ” พยัคฆ์พยักหน้าช้าๆ “จะฆ่าจะแกงผมยังไงผมก็ยอม ขอแค่ให้เขาปลอดภัยก็พอ”
พูดออกมาแบบนั้นแล้วพยัคฆ์ก็ทรุดนั่งลงบนโขดหิน สองมือกุมหน้าผากเสยผมเปียกชื้นฝนให้พ้นหน้า หันไปมองกลุ่มคนที่กำลังพยาบาลตัวประกันของเขา เสียงร้องเรียกพี่สาวปนสะอื้นของเมษาทำให้ใจเขายิ่งรู้สึกผิดมากขึ้น
“จะดีจะร้ายยังไงพรุ่งนี้เขาก็ต้องมารับแม่หนูนั่นออกจากป่า ไอ้เสือ เอ็งไปเสียเถอะตอนนี้”
“ไม่ ผมจะอยู่จนกว่าจะแน่ใจว่าเขาปลอดภัยและออกไปได้เรียบ ร้อยดีเสียก่อน”
“ถึงตอนนั้นเขาคงไม่เอามึงไว้หรอก ไปซะ!”
พยัคฆ์ส่ายหน้าช้าๆ ปฏิเสธความหวังดีนั้นของเสือใหญ่ ขณะเดียว กันทันทีที่เขาหันไปมองทางพฤษภา ก็มีสายตาของเมษาจ้องมองมาราวกับจะกินเลือดกินเนื้อ พยัคฆ์หลุบตาลงต่ำ ไม่เคยรู้สึกอัปยศครั้งใดมากเท่าครั้งนี้มาก่อน
ทั้งๆ ที่รู้ว่าพฤษภาเป็นผู้บริสุทธิ์ เขาก็ยังไม่ละเว้น ลงมือระบายความแค้นเอากับคนที่ไม่รู้เรื่องจนหล่อนแทบเอาชีวิตไม่รอดแบบนี้ เป็นใครก็คงให้อภัยเขาไม่ลง...แม้แต่ตัวเขาเอง
“อาการไม่ดีขึ้นเลย ผมจะเรียกหมอ” ธรรศเอ่ยบอกเมษา
“คุณจะหาหมอจากที่ไหนกันคะ” เมษาหันขวับมามองหน้าเขา ธรรศระบายลมหายใจช้าๆ
“คุณพ่อคุณจัดการได้แน่ อย่าเพิ่งถามเลย ไปเก็บของ เตรียมตัวเดินทางกลับได้แล้วเมษา” ธรรศออกคำสั่งก่อนจะเปิดกระเป๋าดึงเครื่องมือสื่อสารขนาดจิ๋วขึ้นมากดเปิดจนมีแสงสีเขียวขึ้นที่หน้าจอ
‘พบตัวคุณเมย์แล้ว ต้องการแพทย์ด่วน พร้อมเดินทางรุ่งสาง ลานสางเสือ’
เขากดส่งข้อความนั้นแล้วโยนเครื่องมือสื่อสารใส่กระเป๋าตามเดิม
เมษายังจ้องมองการกระทำของเขานิ่ง
“คุณเป็นใครกันแน่คะ คุณธรรศ” หล่อนถามออกมาตรงๆ
ธรรศหันมาสบดวงตาสีเขียวมรกตคู่นั้นนิ่ง แม้จะรู้ว่าวันหนึ่งเขาก็ต้องบอกหล่อน แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่าย
“ผมเป็นบอดี้การ์ดที่คุณไมลส์จ้างให้มาดูแลคุณทั้งสองกับคุณแมกโนเลีย”
“บอดี้การ์ดของคุณพ่อเหรอคะ”
เมษาอุทาน สมองวิ่งพล่านพยายามปะติดปะต่อเรื่องราว จนเด่นชัดขึ้น “คุณกับคุณพ่อหลอกเรามาตลอดเลยหรือคะ”
“คุณคงไม่คิดว่าคนอย่างพ่อคุณจะยอมปล่อยให้คุณเข้าป่ามาตาม หาพี่สาวกับพวกมือสมัครเล่นพวกนั้นหรอกนะ”
“ถึงอย่างไรพวกเขาก็เป็นคนของฉัน!”
“ใช่ ผมถึงได้ปล่อยให้คุณจัดการกับพวกเขาเอง ส่วนผมเป็นคนของคุณพ่อของคุณ เพราะฉะนั้นผมไม่จำเป็นต้องฟังคำสั่งของคุณ” เขาทำให้หล่อนอ้าปากค้าง น้ำใสๆ คลอดวงตาสีสวย ธรรศเบือนหน้าหนี ย้ำคำสั่งเดิม
“เก็บของให้เรียบร้อย เราต้องพาคุณเมย์ไปที่ลานสางเสือ ผมนัดคุณพ่อคุณไว้ที่นั่นรุ่งเช้า”
พูดจบธรรศก็เดินตรงไปหาเสือใหญ่และพยัคฆ์อันเป็นภารกิจอย่างหนึ่ง ธรรศรู้ดีว่าหากเป็นไมลส์ ชายหนุ่มผู้นี้คงแหลกไม่มีชิ้นดีไปแล้ว แต่เพราะรับปากเสือใหญ่ผู้นำทางไว้มาจนพบพฤษภา ธรรศจึงไม่อาจลงมือกับเขาได้
“พยัคฆ์” ธรรศเรียก ใบหน้าซีดขาวของพยัคฆ์เงยขึ้นมองเขา
“นี่ธรรศ บอดี้การ์ดของนังหนูเมษา” เสือใหญ่แนะนำ
“ครับ” พยัคฆ์พยักหน้าแล้วหยัดตัวขึ้นยืนเสมอบอดี้การ์ดหนุ่มร่างกำยำที่ชื่อธรรศ
“อีกไม่กี่ชั่วโมง คุณพ่อของคุณเมย์จะมารับเธอกับคุณเมษาออกจากป่านี้ คงไม่มีอะไรน่าห่วงอีก”
“ขอบคุณมาก” พยัคฆ์เค้นเสียงออกมาอย่างยากลำบาก เขาสูดลมหายใจทางปากเฮือกใหญ่ราวกับปลาใกล้ตายที่ฮุบอากาศเข้าเต็มปอด
“ส่วนเรื่องระหว่างนายสุชาติกับคุณ ผมเชื่อว่าเจ้านายคงจัดการให้กระจ่างได้ ถ้าหากมีเรื่องไม่ชอบมาพากลจริง ก็คงสะสางให้ ยกเว้นเรื่องที่คุณลักพาตัวคุณเมย์มา”
“ผมเข้าใจ”
“ถ้าอย่างนั้นก็เชื่อเสือใหญ่ ไปซะ ถ้าไม่อยากให้คุณเมย์ต้องมาเห็นคุณถูกฆ่าต่อหน้าต่อตาด้วยมือของคุณพ่อของเธอเอง” ธรรศเอ่ยเสียงเข้ม พยัคฆ์กัดฟันกรอด มันยากนักที่จะยอมรับความจริงว่าความรู้สึกที่เขามีต่อเชลยสาวนั้นลึกซึ้งจนเกินจะถอนตัว และที่เหนือไปกว่านั้นก็คือความจริงที่ว่าระหว่างเขากับหล่อนมันไม่มีทางเป็นไปได้!
“ขอผมอยู่ส่งคุณเมย์เถอะ ครั้งสุดท้ายแล้ว”
พยัคฆ์เอ่ยแล้วเดินผละออกไปทางลำธารอย่างไม่เหลียวหลัง
เสือใหญ่พึมพำขอบใจธรรศที่รักษาคำพูดก่อนจะเดินไปนั่งข้างเสือพูน คอยดูอาการของพฤษภาและรอเวลาที่จะเคลื่อนย้ายหล่อนออกจากป่า
***********
โหลด eBook ฉบับเต็มได้ที่เว็บ mebmarket นะคะ
สั่งซื้อนิยายกับสนพ.โดยตรงยังมีของแถมเป็นสมุดโน้ตแบบ memo card แจกให้อยู่นะคะ (จนกว่าของจะหมด) ตามภาพด้านล่าง ใครสนใจ inbox สั่งซื้อกับแอดมินเพจ ‘ปลายปากกาสำนักพิมพ์’ ได้เลยนะคะ
และนิยายของปลายปากกาทุกเรื่อง เมื่อสั่งซื้อผ่านร้าน plaipakkabooks_officialshop ของเว็บ shopee ตอนนี้ลดราคาเท่าช่วงเปิดจอง + ส่งฟรี ใครสนใจ คลิกที่ชื่อร้านจ้าาาา
ฝนเมษาฯ ราคา 345 บาท (จากราคาปก 382 บาท) และส่งฟรีแบบลงทะเบียน
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 25 ก.ค. 2562, 08:48:47 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 ก.ค. 2562, 08:48:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 557
<< บทที่ 18 -100% | บทที่ 19 -70% >> |