ฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'พฤษภา' สาวสวยผู้อ่อนหวาน ทายาทผู้พี่ของตระกูลมาเฟียคูเปอร์สไตน์เดินทางมาเมืองไทยเพื่อดูแลญาติผู้ใหญ่ของมารดาที่ล้มป่วย หล่อนไม่รู้เลยสักนิดว่าได้เดินเข้าสู่อุ้งมืออันหยาบกร้านของ 'เสือ' หรือ 'พยัคฆ์' วีรกาญจน์ ทายาทนายเหมืองที่เพิ่งฆ่าตัวตายไปเพราะภรรยาแอบเล่นชู้กับสามีของเศรษฐีนีผู้เป็นญาติของหล่อน พยัคฆ์ฉุดกระชากลากถูพฤษภาเข้าไปในป่าลึกด้วยความแค้น เขาคิดจะใช้หล่อนเรียกร้องความยุติธรรมให้ครอบครัว
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
'เมษา' น้องน้อยผู้ปราดเปรียว มือแม่นปืนที่ทั้งใจร้อนและวู่วาม รีบรุดมาตามพี่สาวที่หายตัวไปอย่างลึกลับ หล่อนจึงได้พบกับ 'ธรรศ' พ่อหม้ายเรือพ่วงสวมแว่นหนาเตอะผู้ตกกระไดพลอยโจนมาเป็นพรานนำทางให้หล่อน เมษาหัวหมุนไปหมดกับบุคลิกของเขา เปลือกนอกเขาทั้งเย็นชาและเชื่องช้า แต่ทว่าบางครั้งกลับจู่โจมฉับไวจนน่าหวาดหวั่น
หรือว่าเขาจะเป็นเสือซ่อนเล็บตัวที่สองแห่งดงสางเสือกันแน่!
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง 'พนาพร่ำรัก') และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เช่นเคยจ้า ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้หอมดึกจะพาทุกท่านไปบุกป่าล่าเสือและล่าสาวในคราวเดียวกัน! ใครชอบแนวโรแมนติก น่ารักละมุน หวานซึ้ง มิควรพลาดด้วยประการทั้งปวง เพราะนอกจากมีเสือเถื่อนและเสือขรึมให้สาวๆ หวั่นไหวเล่นแล้ว พ่วงด้วยความมันแบบซื่อๆ ฮาๆ ตามประสาชาวบ้านในป่าเขาลำเนาไพร บทเลิฟซีนสวย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค ร้านภาวิกา และร้านหนอนนิยาย เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 448 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 3 ตอนรวด!)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 345฿ จากราคาปก 382฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 390฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 415฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: เสือ ป่า พี่น้อง เซ็กซี่ ละมุน เถื่อน เชลย คุณหนู มาเฟีย บู๊ ครอบครัว
ตอน: บทที่ 18 -100%
มื้อค่ำวันนั้น อยู่ภายใต้หลังคาเพิงหมาแหงนที่เสือพูนทำขึ้นง่ายๆ เพื่อหลบฝนที่โปรยปรายลงมาบางเบาหากไม่ขาดสาย มันทำให้ป่าหนาวมากขึ้นไปอีก ยังดีที่เสือใหญ่ก่อกองไฟเล็กๆ ขึ้นอีกกองในเพิงหมาแหงน เพื่อเพิ่มความอบอุ่น อาการไอติดๆ กันของตนทำให้ต้องคอยระมัดระวังตัวไว้ให้มั่น
“เสือใหญ่ครับ ผมขอถามอะไรสักอย่างจะได้ไหม”
ธรรศเอ่ยปากขึ้นเมื่อเห็นเสือเฒ่าวางมือจากอาหาร หันไปกุมถ้วยชาร้อนๆ ยกขึ้นจิบพร้อมให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดวงตาสีเหล็กคู่นั้นจึงเหลือบขึ้นมองสบตาคมหลังแว่นหนา
เสือใหญ่รู้ดีว่าธรรศไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้ามเจ้าหนุ่มแว่นมันฉลาดเหลือร้าย ฉลาดพอที่จะไม่บุ่มบ่าม และปิดบังตัวตนที่แท้จริงไว้หลังท่าทางเรียบเฉยกับแว่นตาหนาเตอะนั้นอย่างแนบเนียน เสือเฒ่าอย่างเขาจึงต้องตั้งรับให้ดี
“ทำไมพยัคฆ์ต้องพาคุณเมย์มาที่ดงสางเสือด้วยครับ”
คำถามนั้นทำให้มือที่กำลังแกะปลาย่างของเสือพูนชะงัก หันไปมองสีหน้ายุ่งยากของพี่ใหญ่ เขาระบายลมหายใจออกช้าๆ พร้อมกล่าวว่า
“หนุ่ม รู้จักคำว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยไหม”
“ครับ”
“นั่นละ สางเสืออาจจะเป็นที่อันตรายที่สุดสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับพยัคฆ์มันเป็นเหมือนบ้าน ข้าก็อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าตั้งแต่ข้าพามันเข้าป่าครั้งแรกเมื่อเจ็ดแปดขวบ มันได้พบนางเหลืองอำพัน แล้วจากนั้นทั้งสองก็ผูกพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ”
“คนกับเสือน่ะหรือคะ” คราวนี้เป็นเมษาที่ถาม
“ใช่ อำนาจของนางเหลืองอำพันแผ่ไพศาลจนพวกโจรป่าไม่กล้าหือกับเหมืองวีรกาญจน์หรือพวกของข้า จนรังเสือใหญ่แข็งแกร่งขึ้นมา ข้ากับไอ้เสือเองก็เป็นปราการด่านสำคัญที่กันพวกพรานหน้าเลือดไม่ให้เข้าไปรบกวนนางเสือเหมือนกัน ต่างพึ่งพาอาศัยกันมาอย่างนั้นมาหลายปี”
“คนกับเสือกินคนน่ะหรือคะ” เมษาแทบจะถามย้ำคำเดิม เสือใหญ่หันมายิ้มเมตตา
“นางเหลืองไม่กินคนหรอกหนู แม้จะดุร้ายและมีพละกำลังมากกว่าเสือทั่วไปก็ตาม จะมีก็แต่ไอ้แหว่งที่ร้ายเหลือ”
“ไอ้แหว่งหรือครับ ได้ยินชื่อมานานแล้ว ไม่นึกว่ามีอยู่จริง”
“จริงสิวะ เกือบสิบศพแล้วกระมังที่ตกเป็นเหยื่อของมัน”เสือพูนสำทับ
“ไอ้แหว่งเดิมเป็นผัวนางเหลืองอำพัน แต่อยู่ดีๆ มันเกิดโหดเหี้ยมคิดจะตะปบกินคนงานของเหมืองหลายต่อหลายครั้ง แถมยังตั้งตัวเป็นศัตรูกับไอ้เสือ ข้าเดาว่านางเหลืองคงรำคาญเลยตะปบเอา มันหูขาดวิ่นเลือดโชกแทบสิ้นลาย หนีกระเซอะกระเซิงเข้าป่าไปตั้งแต่ตอนนั้น ให้ตายเถอะวะ ใครจะไปรู้ว่ามันจะไปโผล่ป่าไหน หรือกำลังซุ่มรอขบหัวใครอยู่กันแน่”
เสือใหญ่เล่ายาวเหยียด เมษาเหลียวมองรอบกายด้วยความหวาด ระแวง นึกประเมินศักยภาพของปืนประจำกายหากต้องฟัดกับไอ้เสือร้ายตัวที่ว่า
“แต่ไม่ว่าอย่างไร ในวันสองวันนี้จะต้องพบตัวพี่สาวของหนูและ ไอ้เสือหลานข้าแน่ อย่าห่วงไปเลยนะ คืนนี้พากันขึ้นไปพักบนโน้นเถอะ ข้าง ล่างนี้ข้ากับเสือพูนจะเฝ้าเอง”
ธรรศจับเอวบางยกขึ้นให้หล่อนเกาะกิ่งไม้ที่ต่ำที่สุด แล้วเหวี่ยงตัวขึ้นไปเรื่อยๆ หญิงสาวรู้สึกเสียวแปลบตรงแผลที่เริ่มแห้งดีแต่ก็กัดฟันปีนขึ้นไปยังวิมานบนยอดไม้ของพี่สาว
ทันทีที่ลอดเข้าไปในกระโจม เมษาก็ชะงัก หัวใจไหววูบ
ในกระโจมเล็กๆ นั่นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของพี่สาว ใบไม้ที่ปูพื้นไว้เรียบร้อยน่านอน ดอกไม้แห้งที่เหน็บไว้ตรงทางเข้า ของใช้เล็กๆ น้อย และพับผ้าที่ซ้อนกันไว้ต่างหมอน ข้างๆ ที่นอนของพี่มีเสื้อนอกหนาหนักสีเขียวแก่ตัวหนึ่งวางไว้ ที่อกเสื้อมีรอยขาดเป็นทาง
เมษาทรุดกายลงนอนราบไปบนที่นอนที่คิดว่าเป็นของพี่สาวอย่างไม่นึกรังเกียจ หล่อนลูบไล้ใบไม้ที่เริ่มเหี่ยว วางศีรษะลงบนพับผ้าต่างหมอนและดึงเสื้อกันหนาวผืนหนาขึ้นมาห่ม
ธรรศนั่งลงที่ปากกระโจม แทบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันกับพยัคฆ์ เขามองร่างระหงลางๆ ในความมืด หล่อนหันหน้ามาทางเขา ปลายเท้าเหยียดยาว ตั้งแต่คอลงไปจนสะโพกคลุมด้วยเสื้อกันหนาวหนาหนัก
มองตาเดียวก็รู้ว่าเป็นเสื้อผู้ชาย!
ธรรศขมวดคิ้วมุ่น เกิดหงุดหงิดใจขึ้นมา หล่อนจะใช้ไออุ่นจากผู้ชายคนนั้นห่มกายตัวเองได้ยังไงกัน
เขาลักพาตัวพี่สาวตัวเองมาแท้ๆ ยังเห็นดีเห็นงามไปกับเสือใหญ่ เห็นคนเถื่อนเป็นคนดีไปได้
ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังอารมณ์บูดจนต้องจุดบุหรี่สูบ คนที่นอนอยู่ในกระโจมก็อุปทานคิดไปว่ามีพี่สาวมานั่งอยู่ใกล้ๆ ไออุ่นจากกายพี่คงติดอยู่ในเสื้อตัวที่พี่ห่มนอนตัวนี้
แต่ทำไมพี่ทิ้งที่พักไปทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้เก็บให้เรียบร้อย เสื้อตัวนี้วางอยู่ข้างๆ หมอนลวกๆ ราวกับคนที่ห่มรีบร้อนจากไป ผิดวิสัยคนเจ้าระเบียบนัก เมษาจำการโต้เถียงระหว่างตนกับพี่สาวเรื่องการเก็บเตียงนอนได้เป็นอย่างดี เพราะมันเกิดขึ้นแทบทุกเช้า
‘ไม่ต้องเก็บก็ได้น่าพี่เมย์ เดี๋ยวคืนนี้น้องก็มานอนอีกอยู่ดี ไม่สกปรกเสียหน่อย’
‘ไม่ได้นะยายเอพริล ถ้าเธอเริ่มวันของเธอแบบคนขี้เกียจ ทุกอย่างที่ตามมาจะดีได้ยังไง เป็นสาวเป็นนางแม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องเรียบ ร้อย สะอาดสะอ้าน’
‘พี่เมย์อะ’
‘เร็วๆ เข้า เดี๋ยวไม่ทันเรียนหรอก’
บางครั้งเมษาจะเกเรด้วยการประชดพี่สาวว่า ‘ถ้าเอพริลพับไม่เรียบร้อย พี่เมย์ทำให้เลยได้ไหมล่ะ’ แต่ก็นั่นละ ไม่มีสักครั้งที่พฤษภาจะยอมทำหน้าที่ของน้องแทน แม้ว่าบิดาจะตามใจน้องขนาดไหน แต่หล่อนกับมารดาก็ไม่เคยให้เมษาเคยตัว
พี่เมย์ไปอยู่ที่ไหนนะ เล่นไล่จับกับน้องพอหรือยัง เหนื่อยแล้วนะ ออกมาให้น้องจับตัวเสียดีๆ เถอะ
เมษาน้ำตารินนึกถึงถ้อยคำของตนที่มักใช้เกลี้ยกล่อมพี่สาวยามเล่นซ่อนหาเป็นประจำ พฤษภาเป็นคนเงียบและใจเย็น หล่อนเฝ้ารอในมุมแคบๆ ได้นานเป็นชั่วโมงทำให้น้องสาวต้องยอมแพ้หลายรอบ
มันช่างแปลกนักที่การหายไปครั้งนี้ของพี่สาวเหมือนการเล่นซ่อนหาในวัยเยาว์นัก
เอพริลจะไม่ยอมแพ้พี่เมย์หรอกนะ ยังไงๆ ก็จะหาให้เจอให้ได้ คอยดูสิ
น้ำตาเม็ดโตไหลเปื้อนเสื้อกันหนาว เมษาค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่แล้วก็เหมือนแกล้ง ความอบอุ่นจากเสื้อห่มหนานุ่มถูกดึงออกไปแรงๆ ราวกับถูกกระชาก เมษาผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ
“อะไรคะ คุณธรรศ เอาเสื้อไปทำไม”
“เสื้อของใครไม่รู้ เอามาห่มได้ยังไงกัน” ใบหน้าคมบูดบึ้ง
“เสื้อนายเสือกระมังคะ ก็พี่เมย์มากับนายเสือนี่ พี่เมย์ห่มได้ ฉันก็ห่มได้ค่ะ มันอุ่นดีออก”
“ไม่ได้! เอานี่ไปห่มแทน” เขาถอดเสื้อแขนยาวเดินป่าตัวหนักของตนออก โยนมันไปหล่นปุ๊ลงบนตักของหล่อน
เมษาหน้าแดงก่ำ พยายามเดาเจตนาของเขาไปต่างๆ นานา
“เสื้อของคุณ คุณก็ห่มเองสิคะ นอนอยู่ข้างนอกแบบนั้น ไม่หนาวหรือไง”
“หนาว”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าถอดเสื้อสิคะ เอาคืนไป แล้วเอาเสื้อนายเสือคืนมาให้ฉัน” หล่อนขยุ้มเสื้อทำท่าจะโยนคืน ธรรศถึงกับตาลุกวาว
“อยากดมกลิ่นกายมันนักใช่ไหม ผู้หญิงนี่ยังไงนะ ชอบพวกผู้ชายหยาบๆ นักเลงโต เถื่อนกันหมดทุกคนหรือไง”
เมษารับรู้ประโยคนั้น พลางกลั่นกรองอย่างรวดเร็ว
นี่เขาคงไม่ได้กำลังว่ากระทบพ่อแม่หล่อนอยู่หรอกนะ
ใช่แน่ๆ นายคนนี้กำลังเป็นขี้แพ้ชวนตี คุณแม่ไม่ชอบตัวเองเลยหาเรื่องว่ากระทบคุณพ่อ เรา แล้วก็พี่เมย์
“ไม่เป็นลูกผู้ชายเลยนะคะคุณธรรศ การที่ผู้หญิงเขาจะเลือกรักชอบใคร จะไปห้ามหัวใจเขาได้ยังไงกัน ผู้ชายที่เขาซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองอย่างคุณพ่อของฉันน่ะ เป็นใครก็รักทั้งนั้น”
“เกี่ยวอะไรกับคุณพ่อของคุณ” ธรรศกัดฟันกรอด ดูเหมือนสมองน้อยๆ ของเจ้าหล่อนกำลังคิดมากจนไกลตัวอย่างไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“คุณผิดหวังจากคุณแม่แล้วพาลนี่คะ ฉันจะบอกให้นะคะ ถ้าพี่เมย์กับนายเสือเขาตกลงรักกันจริงอย่างที่เสือใหญ่ว่า ฉันก็ยินดีกับเขาด้วย ไม่ว่าเสือจะป่าเถื่อนขนาดไหน ถ้าเขาเป็นคนที่พี่เมย์รัก ฉันจะไม่ขัดขวาง”
ธรรศเลิกคิ้วมองใบหน้ารูปหัวใจในความมืด อยากสบดวงตาจริงจังในยามที่หล่อนสั่งสอนเขาเรื่องความรัก
“แล้วคุณล่ะคะ”
“ผมทำไม”
“คุณคงไม่ได้แต่งงานกับคุณแม่ของหนูขนมหวานเพื่อให้ลืมคุณแม่ของฉันหรอกใช่ไหมคะ เพราะถ้าคุณทำอย่างนั้นก็แปลว่าคุณขี้ขลาดมาก”
“เมษา เธอไม่รู้เรื่องอะไร อย่าพูดดีกว่า” ธรรศกัดฟันกรอด เหวี่ยงเสื้อของพยัคฆ์ลงพื้นอย่างแรง เมษาจึงโยนเสื้อของเขาออกมานอกกระโจมอย่างเศษผ้าชิ้นหนึ่งเหมือนกัน และนั่นเป็นเหมือนเทียบเชิญให้เขาเข้าไปคุกคามหล่อนถึงพื้นที่ส่วนตัวด้านใน!
“ขะ...คุณธรรศ อย่ามาหาเรื่องนะ ฉันจะนอน ออกไป” หล่อนถอยกรูดจนแทบทะลุกำแพงกิ่งไม้หล่นลงไปด้านล่าง ดีที่เขารวบเอวไว้ได้ก่อน
“เป็นอะไร กลัวเหรอ ทีเมื่อกี้ยังสั่งสอนฉันฉอดๆ หืม” ลมหายใจร้อนๆ อยู่ห่างแก้มหอมกรุ่นเพียงคืบ
“ก็คุณมาว่ากระทบพ่อแม่ฉันก่อนนี่คะ”
“ผมว่าคุณต่างหากล่ะ”
“ว่าฉัน ทำไมคะ แค่ฉันห่มเสื้อนายเสือเท่านั้นน่ะเหรอ”
“ใช่!” ธรรศโพล่งออกไปแล้วก็ใจหายวาบ หล่อนหน้าแดงก่ำ
นี่เขาหมายความว่ายังไงกันแน่...หึงงั้นหรือ?
“ถ้าห่มเสื้อนายเสือนอนได้ ทำไมจะห่มเสื้อตัวนี้ไม่ได้”
“ก็นี่มันเสื้อของคุณนี่คะ อากาศมันหนาว ฝนก็ตก ถ้าไม่ใส่เสื้อหนาๆ เดี๋ยวก็ไม่สบายพอดี คนหวังดีแท้ๆ” เมษาโมโหหนัก หล่อนทั้งง่วงทั้งสับสนปนเปกันไปหมด
“เป็นห่วงเหรอ” คนหน้าบูดสีหน้าดีขึ้น ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาววับในความมืด
“เอาเสื้อมา” หล่อนเสไปอีกเรื่อง ดึงเสื้อเจ้าปัญหามาจากมือเขา ยกขึ้นห่มร่างกาย ปิดบังเนื้อตัวจากอ้อมอกกว้าง ธรรศหัวเราะหึๆ อย่างรู้ทัน
“ลงไปนอนกับพวกเสือใหญ่สิ มากวนอยู่ได้ คนจะนอนนะ”
“เรื่องอะไร ใครเอาเสื้อผมไปห่ม ผมก็ต้องขอแบ่งความอบอุ่นคืนบ้าง ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เชื่อสิว่านายพยัคฆ์กับพี่สาวคุณก็คงทำไม่ต่าง กัน”
“บ้า คิดอกุศล ถึงเป็นเรื่องจริงก็เพื่อความอยู่รอดเท่านั้นล่ะ” เมษาแก้ตัวให้พี่สาว ในขณะที่ยังคิดไม่ออกว่าจะหาทางออกจากอกกว้างที่ล้อมกรอบเข้ามาจนเนื้อแนบเนื้ออุ่นวาบจนร้อนผ่าวแบบนี้ได้ยังไง
“ใช่ เพื่อความอยู่รอด ถ้าอย่างนั้นอย่าคิดมากเลยนะคุณหนูเอพริล” เขากระซิบข้างใบหูบาง ลมหายใจร้อนผะผ่าวราวกับคนเป็นไข้ ราดรดบนนวลแก้มเนียน สองแขนที่โอบรัดก็ร้อนรุ่มพอกัน หล่อนแอบวางมือบนอกกว้างเบาๆ อยากรู้ว่าเขามีไข้หรือเปล่า แต่อีกฝ่ายกลับสะดุ้งเฮือก ส่งเสียงครางลึกล้ำ รวบมือน้อยบีบแน่นจนหล่อนเจ็บ เขาจึงจรดมันเข้ากับริมฝีปากร้อนๆ
“คุณธรรศเป็นไข้เหรอคะ ตัวร้อนจี๋”
“อืม ไข้ใจน่ะ ถ้าเธอไล่ให้ไปนอนข้างล่าง เห็นจะไม่พ้นคืนนี้แน่ เมษา อย่าไล่ฉันเลยนะ” เมษาแอบอมยิ้มกับคำพูดประโยคนั้น หล่อนวางศีรษะลงที่เดิม ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างที่มันต้องการ ส่วนจิตใจที่วิ่งวกวนสับสนราวอยู่เขาวงกตไม่นานก็สงบลงได้เมื่อได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นเป็นจังหวะอยู่ข้างหู
นายแทสเมเนียนเดวิลตัวร้ายของหล่อนหลับสิ้นฤทธิ์ไปเสียแล้ว...
เมษาปล่อยให้ไออุ่นจากกายเขาโอบล้อมร่างบางของตน หากพรุ่งนี้หล่อนพบตัวพี่สาว ภารกิจครั้งนี้คงเสร็จสิ้น เส้นทางชีวิตของหล่อนและเขาคงต้องแยกห่างออกไปอย่างที่ควรจะเป็น คนที่มีความรู้สึกพิเศษกับมารดาของหล่อนจะอยู่ใกล้ครอบครัวหล่อนไม่ได้ ไม่ว่าหล่อนจะรู้สึกกับเขาอย่างไรก็ตาม
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
“เสือใหญ่ครับ ผมขอถามอะไรสักอย่างจะได้ไหม”
ธรรศเอ่ยปากขึ้นเมื่อเห็นเสือเฒ่าวางมือจากอาหาร หันไปกุมถ้วยชาร้อนๆ ยกขึ้นจิบพร้อมให้ความอบอุ่นแก่ร่างกาย ดวงตาสีเหล็กคู่นั้นจึงเหลือบขึ้นมองสบตาคมหลังแว่นหนา
เสือใหญ่รู้ดีว่าธรรศไม่ใช่คนโง่ ตรงกันข้ามเจ้าหนุ่มแว่นมันฉลาดเหลือร้าย ฉลาดพอที่จะไม่บุ่มบ่าม และปิดบังตัวตนที่แท้จริงไว้หลังท่าทางเรียบเฉยกับแว่นตาหนาเตอะนั้นอย่างแนบเนียน เสือเฒ่าอย่างเขาจึงต้องตั้งรับให้ดี
“ทำไมพยัคฆ์ต้องพาคุณเมย์มาที่ดงสางเสือด้วยครับ”
คำถามนั้นทำให้มือที่กำลังแกะปลาย่างของเสือพูนชะงัก หันไปมองสีหน้ายุ่งยากของพี่ใหญ่ เขาระบายลมหายใจออกช้าๆ พร้อมกล่าวว่า
“หนุ่ม รู้จักคำว่าที่ที่อันตรายที่สุดคือที่ที่ปลอดภัยไหม”
“ครับ”
“นั่นละ สางเสืออาจจะเป็นที่อันตรายที่สุดสำหรับคนทั่วไป แต่สำหรับพยัคฆ์มันเป็นเหมือนบ้าน ข้าก็อธิบายไม่ถูก รู้แต่ว่าตั้งแต่ข้าพามันเข้าป่าครั้งแรกเมื่อเจ็ดแปดขวบ มันได้พบนางเหลืองอำพัน แล้วจากนั้นทั้งสองก็ผูกพันกันอย่างไม่น่าเชื่อ”
“คนกับเสือน่ะหรือคะ” คราวนี้เป็นเมษาที่ถาม
“ใช่ อำนาจของนางเหลืองอำพันแผ่ไพศาลจนพวกโจรป่าไม่กล้าหือกับเหมืองวีรกาญจน์หรือพวกของข้า จนรังเสือใหญ่แข็งแกร่งขึ้นมา ข้ากับไอ้เสือเองก็เป็นปราการด่านสำคัญที่กันพวกพรานหน้าเลือดไม่ให้เข้าไปรบกวนนางเสือเหมือนกัน ต่างพึ่งพาอาศัยกันมาอย่างนั้นมาหลายปี”
“คนกับเสือกินคนน่ะหรือคะ” เมษาแทบจะถามย้ำคำเดิม เสือใหญ่หันมายิ้มเมตตา
“นางเหลืองไม่กินคนหรอกหนู แม้จะดุร้ายและมีพละกำลังมากกว่าเสือทั่วไปก็ตาม จะมีก็แต่ไอ้แหว่งที่ร้ายเหลือ”
“ไอ้แหว่งหรือครับ ได้ยินชื่อมานานแล้ว ไม่นึกว่ามีอยู่จริง”
“จริงสิวะ เกือบสิบศพแล้วกระมังที่ตกเป็นเหยื่อของมัน”เสือพูนสำทับ
“ไอ้แหว่งเดิมเป็นผัวนางเหลืองอำพัน แต่อยู่ดีๆ มันเกิดโหดเหี้ยมคิดจะตะปบกินคนงานของเหมืองหลายต่อหลายครั้ง แถมยังตั้งตัวเป็นศัตรูกับไอ้เสือ ข้าเดาว่านางเหลืองคงรำคาญเลยตะปบเอา มันหูขาดวิ่นเลือดโชกแทบสิ้นลาย หนีกระเซอะกระเซิงเข้าป่าไปตั้งแต่ตอนนั้น ให้ตายเถอะวะ ใครจะไปรู้ว่ามันจะไปโผล่ป่าไหน หรือกำลังซุ่มรอขบหัวใครอยู่กันแน่”
เสือใหญ่เล่ายาวเหยียด เมษาเหลียวมองรอบกายด้วยความหวาด ระแวง นึกประเมินศักยภาพของปืนประจำกายหากต้องฟัดกับไอ้เสือร้ายตัวที่ว่า
“แต่ไม่ว่าอย่างไร ในวันสองวันนี้จะต้องพบตัวพี่สาวของหนูและ ไอ้เสือหลานข้าแน่ อย่าห่วงไปเลยนะ คืนนี้พากันขึ้นไปพักบนโน้นเถอะ ข้าง ล่างนี้ข้ากับเสือพูนจะเฝ้าเอง”
ธรรศจับเอวบางยกขึ้นให้หล่อนเกาะกิ่งไม้ที่ต่ำที่สุด แล้วเหวี่ยงตัวขึ้นไปเรื่อยๆ หญิงสาวรู้สึกเสียวแปลบตรงแผลที่เริ่มแห้งดีแต่ก็กัดฟันปีนขึ้นไปยังวิมานบนยอดไม้ของพี่สาว
ทันทีที่ลอดเข้าไปในกระโจม เมษาก็ชะงัก หัวใจไหววูบ
ในกระโจมเล็กๆ นั่นเต็มไปด้วยกลิ่นอายของพี่สาว ใบไม้ที่ปูพื้นไว้เรียบร้อยน่านอน ดอกไม้แห้งที่เหน็บไว้ตรงทางเข้า ของใช้เล็กๆ น้อย และพับผ้าที่ซ้อนกันไว้ต่างหมอน ข้างๆ ที่นอนของพี่มีเสื้อนอกหนาหนักสีเขียวแก่ตัวหนึ่งวางไว้ ที่อกเสื้อมีรอยขาดเป็นทาง
เมษาทรุดกายลงนอนราบไปบนที่นอนที่คิดว่าเป็นของพี่สาวอย่างไม่นึกรังเกียจ หล่อนลูบไล้ใบไม้ที่เริ่มเหี่ยว วางศีรษะลงบนพับผ้าต่างหมอนและดึงเสื้อกันหนาวผืนหนาขึ้นมาห่ม
ธรรศนั่งลงที่ปากกระโจม แทบจะเป็นตำแหน่งเดียวกันกับพยัคฆ์ เขามองร่างระหงลางๆ ในความมืด หล่อนหันหน้ามาทางเขา ปลายเท้าเหยียดยาว ตั้งแต่คอลงไปจนสะโพกคลุมด้วยเสื้อกันหนาวหนาหนัก
มองตาเดียวก็รู้ว่าเป็นเสื้อผู้ชาย!
ธรรศขมวดคิ้วมุ่น เกิดหงุดหงิดใจขึ้นมา หล่อนจะใช้ไออุ่นจากผู้ชายคนนั้นห่มกายตัวเองได้ยังไงกัน
เขาลักพาตัวพี่สาวตัวเองมาแท้ๆ ยังเห็นดีเห็นงามไปกับเสือใหญ่ เห็นคนเถื่อนเป็นคนดีไปได้
ในขณะที่อีกฝ่ายกำลังอารมณ์บูดจนต้องจุดบุหรี่สูบ คนที่นอนอยู่ในกระโจมก็อุปทานคิดไปว่ามีพี่สาวมานั่งอยู่ใกล้ๆ ไออุ่นจากกายพี่คงติดอยู่ในเสื้อตัวที่พี่ห่มนอนตัวนี้
แต่ทำไมพี่ทิ้งที่พักไปทั้งๆ ที่ยังไม่ทันได้เก็บให้เรียบร้อย เสื้อตัวนี้วางอยู่ข้างๆ หมอนลวกๆ ราวกับคนที่ห่มรีบร้อนจากไป ผิดวิสัยคนเจ้าระเบียบนัก เมษาจำการโต้เถียงระหว่างตนกับพี่สาวเรื่องการเก็บเตียงนอนได้เป็นอย่างดี เพราะมันเกิดขึ้นแทบทุกเช้า
‘ไม่ต้องเก็บก็ได้น่าพี่เมย์ เดี๋ยวคืนนี้น้องก็มานอนอีกอยู่ดี ไม่สกปรกเสียหน่อย’
‘ไม่ได้นะยายเอพริล ถ้าเธอเริ่มวันของเธอแบบคนขี้เกียจ ทุกอย่างที่ตามมาจะดีได้ยังไง เป็นสาวเป็นนางแม่บอกแล้วไม่ใช่เหรอว่าต้องเรียบ ร้อย สะอาดสะอ้าน’
‘พี่เมย์อะ’
‘เร็วๆ เข้า เดี๋ยวไม่ทันเรียนหรอก’
บางครั้งเมษาจะเกเรด้วยการประชดพี่สาวว่า ‘ถ้าเอพริลพับไม่เรียบร้อย พี่เมย์ทำให้เลยได้ไหมล่ะ’ แต่ก็นั่นละ ไม่มีสักครั้งที่พฤษภาจะยอมทำหน้าที่ของน้องแทน แม้ว่าบิดาจะตามใจน้องขนาดไหน แต่หล่อนกับมารดาก็ไม่เคยให้เมษาเคยตัว
พี่เมย์ไปอยู่ที่ไหนนะ เล่นไล่จับกับน้องพอหรือยัง เหนื่อยแล้วนะ ออกมาให้น้องจับตัวเสียดีๆ เถอะ
เมษาน้ำตารินนึกถึงถ้อยคำของตนที่มักใช้เกลี้ยกล่อมพี่สาวยามเล่นซ่อนหาเป็นประจำ พฤษภาเป็นคนเงียบและใจเย็น หล่อนเฝ้ารอในมุมแคบๆ ได้นานเป็นชั่วโมงทำให้น้องสาวต้องยอมแพ้หลายรอบ
มันช่างแปลกนักที่การหายไปครั้งนี้ของพี่สาวเหมือนการเล่นซ่อนหาในวัยเยาว์นัก
เอพริลจะไม่ยอมแพ้พี่เมย์หรอกนะ ยังไงๆ ก็จะหาให้เจอให้ได้ คอยดูสิ
น้ำตาเม็ดโตไหลเปื้อนเสื้อกันหนาว เมษาค่อยๆ ปิดเปลือกตาลงช้าๆ ด้วยความเหนื่อยอ่อน แต่แล้วก็เหมือนแกล้ง ความอบอุ่นจากเสื้อห่มหนานุ่มถูกดึงออกไปแรงๆ ราวกับถูกกระชาก เมษาผุดลุกขึ้นด้วยความตกใจ
“อะไรคะ คุณธรรศ เอาเสื้อไปทำไม”
“เสื้อของใครไม่รู้ เอามาห่มได้ยังไงกัน” ใบหน้าคมบูดบึ้ง
“เสื้อนายเสือกระมังคะ ก็พี่เมย์มากับนายเสือนี่ พี่เมย์ห่มได้ ฉันก็ห่มได้ค่ะ มันอุ่นดีออก”
“ไม่ได้! เอานี่ไปห่มแทน” เขาถอดเสื้อแขนยาวเดินป่าตัวหนักของตนออก โยนมันไปหล่นปุ๊ลงบนตักของหล่อน
เมษาหน้าแดงก่ำ พยายามเดาเจตนาของเขาไปต่างๆ นานา
“เสื้อของคุณ คุณก็ห่มเองสิคะ นอนอยู่ข้างนอกแบบนั้น ไม่หนาวหรือไง”
“หนาว”
“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นก็อย่าถอดเสื้อสิคะ เอาคืนไป แล้วเอาเสื้อนายเสือคืนมาให้ฉัน” หล่อนขยุ้มเสื้อทำท่าจะโยนคืน ธรรศถึงกับตาลุกวาว
“อยากดมกลิ่นกายมันนักใช่ไหม ผู้หญิงนี่ยังไงนะ ชอบพวกผู้ชายหยาบๆ นักเลงโต เถื่อนกันหมดทุกคนหรือไง”
เมษารับรู้ประโยคนั้น พลางกลั่นกรองอย่างรวดเร็ว
นี่เขาคงไม่ได้กำลังว่ากระทบพ่อแม่หล่อนอยู่หรอกนะ
ใช่แน่ๆ นายคนนี้กำลังเป็นขี้แพ้ชวนตี คุณแม่ไม่ชอบตัวเองเลยหาเรื่องว่ากระทบคุณพ่อ เรา แล้วก็พี่เมย์
“ไม่เป็นลูกผู้ชายเลยนะคะคุณธรรศ การที่ผู้หญิงเขาจะเลือกรักชอบใคร จะไปห้ามหัวใจเขาได้ยังไงกัน ผู้ชายที่เขาซื่อสัตย์กับหัวใจตัวเองอย่างคุณพ่อของฉันน่ะ เป็นใครก็รักทั้งนั้น”
“เกี่ยวอะไรกับคุณพ่อของคุณ” ธรรศกัดฟันกรอด ดูเหมือนสมองน้อยๆ ของเจ้าหล่อนกำลังคิดมากจนไกลตัวอย่างไม่รู้ตัวเลยสักนิด
“คุณผิดหวังจากคุณแม่แล้วพาลนี่คะ ฉันจะบอกให้นะคะ ถ้าพี่เมย์กับนายเสือเขาตกลงรักกันจริงอย่างที่เสือใหญ่ว่า ฉันก็ยินดีกับเขาด้วย ไม่ว่าเสือจะป่าเถื่อนขนาดไหน ถ้าเขาเป็นคนที่พี่เมย์รัก ฉันจะไม่ขัดขวาง”
ธรรศเลิกคิ้วมองใบหน้ารูปหัวใจในความมืด อยากสบดวงตาจริงจังในยามที่หล่อนสั่งสอนเขาเรื่องความรัก
“แล้วคุณล่ะคะ”
“ผมทำไม”
“คุณคงไม่ได้แต่งงานกับคุณแม่ของหนูขนมหวานเพื่อให้ลืมคุณแม่ของฉันหรอกใช่ไหมคะ เพราะถ้าคุณทำอย่างนั้นก็แปลว่าคุณขี้ขลาดมาก”
“เมษา เธอไม่รู้เรื่องอะไร อย่าพูดดีกว่า” ธรรศกัดฟันกรอด เหวี่ยงเสื้อของพยัคฆ์ลงพื้นอย่างแรง เมษาจึงโยนเสื้อของเขาออกมานอกกระโจมอย่างเศษผ้าชิ้นหนึ่งเหมือนกัน และนั่นเป็นเหมือนเทียบเชิญให้เขาเข้าไปคุกคามหล่อนถึงพื้นที่ส่วนตัวด้านใน!
“ขะ...คุณธรรศ อย่ามาหาเรื่องนะ ฉันจะนอน ออกไป” หล่อนถอยกรูดจนแทบทะลุกำแพงกิ่งไม้หล่นลงไปด้านล่าง ดีที่เขารวบเอวไว้ได้ก่อน
“เป็นอะไร กลัวเหรอ ทีเมื่อกี้ยังสั่งสอนฉันฉอดๆ หืม” ลมหายใจร้อนๆ อยู่ห่างแก้มหอมกรุ่นเพียงคืบ
“ก็คุณมาว่ากระทบพ่อแม่ฉันก่อนนี่คะ”
“ผมว่าคุณต่างหากล่ะ”
“ว่าฉัน ทำไมคะ แค่ฉันห่มเสื้อนายเสือเท่านั้นน่ะเหรอ”
“ใช่!” ธรรศโพล่งออกไปแล้วก็ใจหายวาบ หล่อนหน้าแดงก่ำ
นี่เขาหมายความว่ายังไงกันแน่...หึงงั้นหรือ?
“ถ้าห่มเสื้อนายเสือนอนได้ ทำไมจะห่มเสื้อตัวนี้ไม่ได้”
“ก็นี่มันเสื้อของคุณนี่คะ อากาศมันหนาว ฝนก็ตก ถ้าไม่ใส่เสื้อหนาๆ เดี๋ยวก็ไม่สบายพอดี คนหวังดีแท้ๆ” เมษาโมโหหนัก หล่อนทั้งง่วงทั้งสับสนปนเปกันไปหมด
“เป็นห่วงเหรอ” คนหน้าบูดสีหน้าดีขึ้น ยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาววับในความมืด
“เอาเสื้อมา” หล่อนเสไปอีกเรื่อง ดึงเสื้อเจ้าปัญหามาจากมือเขา ยกขึ้นห่มร่างกาย ปิดบังเนื้อตัวจากอ้อมอกกว้าง ธรรศหัวเราะหึๆ อย่างรู้ทัน
“ลงไปนอนกับพวกเสือใหญ่สิ มากวนอยู่ได้ คนจะนอนนะ”
“เรื่องอะไร ใครเอาเสื้อผมไปห่ม ผมก็ต้องขอแบ่งความอบอุ่นคืนบ้าง ไม่ต้องห่วงหรอกน่า เชื่อสิว่านายพยัคฆ์กับพี่สาวคุณก็คงทำไม่ต่าง กัน”
“บ้า คิดอกุศล ถึงเป็นเรื่องจริงก็เพื่อความอยู่รอดเท่านั้นล่ะ” เมษาแก้ตัวให้พี่สาว ในขณะที่ยังคิดไม่ออกว่าจะหาทางออกจากอกกว้างที่ล้อมกรอบเข้ามาจนเนื้อแนบเนื้ออุ่นวาบจนร้อนผ่าวแบบนี้ได้ยังไง
“ใช่ เพื่อความอยู่รอด ถ้าอย่างนั้นอย่าคิดมากเลยนะคุณหนูเอพริล” เขากระซิบข้างใบหูบาง ลมหายใจร้อนผะผ่าวราวกับคนเป็นไข้ ราดรดบนนวลแก้มเนียน สองแขนที่โอบรัดก็ร้อนรุ่มพอกัน หล่อนแอบวางมือบนอกกว้างเบาๆ อยากรู้ว่าเขามีไข้หรือเปล่า แต่อีกฝ่ายกลับสะดุ้งเฮือก ส่งเสียงครางลึกล้ำ รวบมือน้อยบีบแน่นจนหล่อนเจ็บ เขาจึงจรดมันเข้ากับริมฝีปากร้อนๆ
“คุณธรรศเป็นไข้เหรอคะ ตัวร้อนจี๋”
“อืม ไข้ใจน่ะ ถ้าเธอไล่ให้ไปนอนข้างล่าง เห็นจะไม่พ้นคืนนี้แน่ เมษา อย่าไล่ฉันเลยนะ” เมษาแอบอมยิ้มกับคำพูดประโยคนั้น หล่อนวางศีรษะลงที่เดิม ปล่อยให้ร่างกายได้พักผ่อนอย่างที่มันต้องการ ส่วนจิตใจที่วิ่งวกวนสับสนราวอยู่เขาวงกตไม่นานก็สงบลงได้เมื่อได้ยินเสียงหัวใจเขาเต้นเป็นจังหวะอยู่ข้างหู
นายแทสเมเนียนเดวิลตัวร้ายของหล่อนหลับสิ้นฤทธิ์ไปเสียแล้ว...
เมษาปล่อยให้ไออุ่นจากกายเขาโอบล้อมร่างบางของตน หากพรุ่งนี้หล่อนพบตัวพี่สาว ภารกิจครั้งนี้คงเสร็จสิ้น เส้นทางชีวิตของหล่อนและเขาคงต้องแยกห่างออกไปอย่างที่ควรจะเป็น คนที่มีความรู้สึกพิเศษกับมารดาของหล่อนจะอยู่ใกล้ครอบครัวหล่อนไม่ได้ ไม่ว่าหล่อนจะรู้สึกกับเขาอย่างไรก็ตาม
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ก.ค. 2562, 09:19:05 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ก.ค. 2562, 09:19:05 น.
จำนวนการเข้าชม : 652
<< บทที่ 18 -60% | บทที่ 19 -40% >> |