โอบรักธารรุ้ง: อัยย์ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
หมู่บ้านธารรุ้ง แผ่นดินผืนนี้คือทำเลทองของธุรกิจเขา
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
และคือบ้านเกิดแสนอบอุ่นที่เธอจะมาปักหลักเป็นเกษตรกร
'ภาณุรุจ' มีฝันจะทำรีสอร์ตแห่งใหม่ในพื้นที่ของ 'พิมริสา' โดยที่เธอเองก็มีฝันจะทำไร่ดอกไม้อยู่แล้ว
เขาจะรามือ หรือจะยื้อแย่งดี แต่เห็นความมุ่งมั่นขนาดนั้น เขาก็อดใจอ่อนไม่ได้
เพราะเธอก็ไม่ใช่คนไกล เป็นอดีตรุ่นน้องรหัสสมัยเรียนที่เขาเคยว้ากใส่จนไม่มองหน้ากันมาก่อน
ความฝังใจของเธอ เขาคือรุ่นพี่ที่ไร้เมตตา แต่เขาอยากจะบอกเธอว่า...ไม่เสมอไป
เพราะครั้งหนึ่งเธอเคยถามเขา “โทร.มาทำไมคะ ดึกๆ ป่านนี้ มีธุระอะไรเหรอ”
“ไม่ใช่โทร.มาขอซื้อที่แล้วกัน อย่างน้อยๆ ก็ไม่ใช่ตอนนี้นะ คือว่า...พี่นอนไม่หลับ”
“แล้วทำไมถึงโทร.หาพิมล่ะ คนทั้งหมู่บ้านก็มี”
เขาเงียบอยู่พักใหญ่ ก่อนตัดสินใจตอบ “ก็...ไม่ได้คิดถึงคนอื่นนี่”
ใช่ เขาคิดถึงเธอนั่นแหละ ทุกลมหายใจ
แล้วทีนี้จะให้ทำยังไง นอกจากดับฝันอันยิ่งใหญ่ของตัวเองเพื่อเธอ
******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย อัยย์ และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ โรแมนติกน่ารักน่าหยิกตามสไตล์คุณอัยย์เช่นเคย และมีความคู่กัดระหว่างพระเอกนางเอก เพราะเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องที่ชังขี้หน้ากันตั้งแต่มหา'ลัย แต่ต้องมาเจอกันอีกในหมู่บ้านธารรุ้ง หวานๆ ฮาๆ ในเรื่องราวค่ะ นอกจากนี้มีเรื่องของการสร้างชุมชน และการมีกิจการของตัวเองเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช, ร้านนิยายรัก, ร้านbooksforfun, ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง), ร้านThebookboxclub และร้าน BestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: โรแมนติก คู่กัด เกษตรกร รีสอร์ต รุ่นพี่ รุ่นน้อง
ตอน: บทที่ 4 -100%
‘ปางช้างนทีทอง’ ตั้งอยู่บนพื้นที่สูงชันด้านทิศตะวันตกเฉียงเหนือของหมู่บ้าน โดยอยู่ติดกับเขตป่าของอุทยานฯ
ภายในบริเวณ มีบ้านพักชั้นเดียวของควาญ คนสวน และคนงานกระจายในละแวกใกล้เคียงกันหกหลัง ส่วนที่โดดเด่นเป็นประธานของสถานที่ก็คือ บ้านไม้ใต้ถุนสูงที่เข้าถึงได้ก่อนใคร บ้านหลังนี้ใช้เป็นสำนักงาน พื้นที่โล่งอันเป็นใต้ถุนบ้าน เป็นที่พักรอช้างของนักท่องเที่ยว มีกาแฟ หนังสือ บริการพร้อมสรรพ ส่วนชั้นบน นทีได้จัดแต่งเป็นที่พักสุดหรูของตัวเองนอก เหนือจากคฤหาสน์ของเขาในตัวจังหวัด
ห่างบ้านไม้หกหลังไปไม่ไกลนักทางขวามือ เป็นซุ้มสำหรับขึ้นช้าง หน้าบันไดด้านล่างมีแผงขายกล้วย อ้อย และอาหารสำหรับให้นักท่องเที่ยวซื้อให้ช้างกินถึงสามแผง
ภาณุรุจขับรถเข้ามาจอดในบริเวณปางช้าง จากนั้นก็เดินเข้าไปที่โถงพัก มองเห็นนักท่องเที่ยวมารอขึ้นช้างอยู่ค่อนข้างหนาตา ในนั้นมีลูกค้าจากรีสอร์ตเขารวมอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงเอ่ยทักทายโอภาปราศรัยตามธรรมเนียม ก่อนที่ครู่หนึ่งเจ้าของปางช้างจะเดินลงมาจากข้างบน
นทีแก่กว่าภาณุรุจห้าปี ในวัยสามสิบสาม เขาเป็นชายหนุ่มที่พร้อมพรั่งไปด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติครบถ้วน เฉกเช่นหรือมากกว่าภาณุรุจด้วยซ้ำ
ด้านรูปกายสองหนุ่ม คนหนึ่งบึกบึนสมาร์ต อีกคนดูปราดเปรียว ในยามที่ทั้งคู่เดินไปไหนมาไหนด้วยกัน สาวๆ ทั้งบางต่างมองเหลียวหลัง แต่ก็นั่นละ พวกเธอก็ทำได้แค่มอง เพราะชายหนุ่มทั้งคู่ไม่ต่างจากเพชรแท้ที่งามระยับ แต่กลับไปประดับอยู่บนยอดดอยสูง ยากนักที่ใครจะปีนป่ายไปคว้ามาครอบครองได้
ถ้าจะให้เลือกใครสักคนระหว่างนักธุรกิจสองหนุ่มนี้ที่เป็นหุ้นส่วนต่างสายเลือด สาวๆ คงทำใจลำบาก เพราะจัดว่าเป็นดีหนึ่งประเภทหนึ่งทั้งคู่ ภาณุรุจเป็นคนร่าเริง ติดดินกว่า พบเจอง่าย ส่วนนทีนั้นค่อนข้างเป็นบุรุษลึกลับ เพราะเจ้าตัวมักอยู่ในตัวจังหวัดมากกว่า อุปนิสัยใจคอเขาเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้นัก เพราะเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หากแต่เจ้าความขรึมและดูไว้ตัวจนเกือบเป็น ‘หยิ่ง’ นี้ ก็นับเป็นเสน่ห์แบบพระเอกในนิยายที่สาวๆ มักจะหลงใหลได้ปลื้ม
นทีพาหนุ่มรุ่นน้องขึ้นไปนั่งคุยกับเขาที่ห้องรับแขกด้านบน แล้วกระดิกนิ้วเรียกแม่บ้านของปางให้มารับคำสั่ง
“เอากาแฟมาให้คุณไผ่หน่อย กาแฟสองช้อน น้ำตาลหนึ่ง ครีมไม่ใส่”
แม่บ้านรับคำจากไป ภาณุรุจจึงพูดขึ้น
“ขอบคุณครับพี่นที แหม...ทำไมจำแม่นขนาดนี้ครับ ผมว่าผมก็ไม่ ได้กินกาแฟให้พี่เห็นตั้งนานแล้ว”
“ต้องจำได้สิ สมัยเรียนที่ลอนดอน ผมจำอะไรที่เกี่ยวกับไผ่ได้หมดนะ ถึงแม้ตอนนั้น คุณจะตัวติดกับพาเมล่าเป็นปาท่องโก๋ก็เถอะ”
ชื่อ พาเมล่า ทำให้แววตาอีกฝ่ายเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกลับเข้าสู่ปกติ นทีสังเกตเห็นก็รู้ว่าตัวเองพลาดไปแล้ว เขาจึงรีบเข้าเรื่องสำคัญ
“มาว่าถึงเรื่องรีสอร์ตของเราดีกว่า ถ้าฟังจากที่คุณโทร.มาเมื่อวาน เราเจอปัญหาใหญ่แล้วใช่ไหม”
“ครับ ตอนลูกสาวบ้านนั้นมาขอร้องให้เปลี่ยนเส้นทางช้างที่ผ่านบ้านเธอ เพราะเธอจะทำไร่ดอกไม้ ทีแรกผมก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ามันตรง ไหนกันแน่ เมื่อวานกับวันนี้ก็เลยแวะไปดูให้ชัดๆ ปรากฏว่าใช่จริงๆ ที่ดินของเธอก็คือที่ดินที่เราจะซื้อนั่นแหละครับ”
ขณะพูด ชายหนุ่มอดนึกถึงวงหน้าขาวผ่องอมชมพูของคนที่เขาเพิ่งผละมาไม่ได้ สวย ใส แต่ไม่ใช่ใสซื่อ ผู้หญิงจอมดุ ก้าวร้าว นิสัยทุกอย่างที่ไม่ดี ดูเหมือนเธอมีพร้อม
นี่เธอรู้หรือยังนะว่าไอ้พื้นที่ที่เธอทำท่าหวงแหนนักหนาจนจะเอามาแปรเป็นทุ่งดอกไม้นั้น ที่จริงบิดามารดาของเธอได้ตอบตกลงจะขายให้เขากับนทีแล้ว เห็นโวยวายอยู่แค่เรื่องช้างเดินผ่าน แต่เรื่องที่บิดามารดาจะขายที่ดินให้เขา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องช้างไม่ยักเห็นเธอพูดถึง เขาเองก็ยังไม่อยากเอ่ยอะไรไป เพราะผู้ใหญ่ของเธอแค่รับปากว่าจะขาย แต่ก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาขายเป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเช่นกัน
“ไม่มีอะไรมั้ง เราเสนอเงินให้เขาก็ไม่น้อยนี่นา ที่ตรงนั้นนายไพ โรจน์กับเมียก็ไม่น่าจะได้ผลอะไรจากพืชผลมากนัก จะเก็บไว้ทำไม แล้วลูกสาวคิดจะมาปลูกดอกไม้ เหอะ จะไหวหรือ มันจะได้สักกี่บาท”
“ผมก็ว่างั้น แต่ลูกสาวคนนี้ของเขาดูตั้งใจมากๆ คงศึกษามาดีแล้วมั้งครับ”
“ลูกสาวคนเป็นครูนะหรือ ที่ชื่อพร คนนี้ผมเคยเจอครั้งหนึ่ง เธอก็ทราบเรื่องนี้ดี และไม่มีปัญหานี่นา ครูพรดีใจเสียด้วยซ้ำที่พ่อแม่จะได้เงิน”
“ไม่ใช่ครับ อีกคน ผมก็ไม่รู้นะว่าบ้านนี้มีลูกกี่คน แต่คนนี้มีปัญหาแน่ๆ เธอชื่อพิมริสา เพิ่งกลับมาอยู่บ้าน และที่จริงเธอก็...เคยเป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัยผมเอง เคยรู้จักหน้าค่าตากันอยู่ แต่ไม่ได้สนิทอะไร”
แล้วภาณุรุจก็เล่าเรื่องราวต่างๆ โดยเว้นเรื่องที่เขาไปเปลี่ยนจุดช้างลงน้ำให้นทีฟังก่อนจะสรุปตบท้าย
“พี่คิดดูแล้วกัน ขนาดเรื่องช้างเดินผ่านนิดหน่อย เธอยังไม่ยอมเลย แล้วเธอจะยอมให้ที่ทั้งหมดกับเราหรือ ผมว่าที่พ่อแม่ของเธอลังๆ เลๆ อยู่นี่ ก็คงเพราะยายนี่จะเอาที่มาทำสวนดอกไม้นั่นละมั้ง”
“ชักอยากเห็นหน้าแล้วสิ คนที่มาทำแผนเราพัง”
นทีพูดเสียงขรึมแต่แววตาวิบวับขึ้นมา
“ผมก็ชวนเธอมาคุยเรื่องนี้ที่นี่นะครับ แต่เธอไม่ยอมมา”
นทีนิ่งคิด นี่คือปัญหาที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน ถ้าสองผัวเมียคู่นั้นไม่ขายที่ดินให้จริงๆ ทุกอย่างก็พังทลาย เพราะโครงการนี้ เขากับภาณุรุจใฝ่ฝันมาก เขาเองอยากได้มากกว่าภาณุรุจด้วยซ้ำ เพราะปางช้างกับธุรกิจให้เช่ารถเอทีวีเที่ยวป่า สองอย่างที่ทำอยู่นี้ รายได้ไม่ค่อยคุ้มรายจ่าย แถมยังต้องพึ่งนักท่องเที่ยวที่มาพักจากรีสอร์ตของภาณุรุจอีกด้วย รู้สึกเหมือนกำลังยืมจมูกรุ่นน้องหายใจ เขาเคยพูดทำนองนี้กับภาณุรุจ แต่อีกฝ่ายตอบมาว่า
‘ต่างคนต่างเอื้อกันนะครับ ถ้าไม่มีปางช้าง แขกของผมก็คงไม่มีอะไรทำ แล้วเขาจะมาพักไหมล่ะครับ มานอนอย่างเดียวนี่น่ะ’
นทียอมรับว่า แม้จะเป็นคนพื้นที่นี้ และเริ่มคิดจะทำธุรกิจท่องเที่ยวขึ้นก่อน แต่พอลงมือเข้าจริงๆ เขามักช้ากว่ารุ่นน้องหนึ่งก้าวเสมอ ภาณุรุจเป็นคนคิดเร็ว ทำงานเร็ว และกล้าตัดสินใจกว่าเขา อาจเพราะครอบครัวของภาณุรุจมาทางสายนี้ก่อนแล้วก็ได้ เท่าที่รู้ ตระกูล ‘ฉายะฉัตร’ มีธุรกิจรีสอร์ต ตามเมืองท่องเที่ยวชายทะเลหลายแห่ง อาชีพนี้อยู่ในสายเลือดของหนุ่มรุ่นน้องก็ว่าได้
ส่วนครอบครัวเขานั้น เน้นทำธุรกิจด้านโรงงานผลิตสินค้ามากกว่าอย่างอื่น พวกธุรกิจที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว ก็มีแค่โรงแรมห้าดาวในตัวจังหวัดแห่งเดียวเท่านั้น เขาอยากมีรีสอร์ตที่ธารรุ้งอีกสักแห่ง แห่งแรกนั้นพลาดไปแล้วที่ภาณุรุจทำก่อนและทำคนเดียวเสียด้วยเพราะใช้ทุนไม่มาก เขาจึงต้องเลี่ยงไปทำปางช้างแทน และด้วยความที่ยังขาดความมั่นใจ เขายังต้องชวนภาณุรุจมาเป็นหุ้นส่วนอีกราวๆ สิบเปอร์เซ็นต์
นทีอยากเป็นเจ้าของรีสอร์ตที่นี่อยู่เสมอ แต่ยังหาที่เหมาะๆ ไม่ได้ แต่แล้ววันหนึ่ง ภาณุรุจก็เป็นคนพูดขึ้นก่อน
‘พี่ครับ ผมเจอทำเลสวยมากที่หนึ่ง พี่สนใจจะมาทำรีสอร์ตร่วมกับผมไหม เที่ยวนี้ทำให้ใหญ่เลย แบ่งกันคนละครึ่ง’
แล้วเขาก็ได้ไปเห็นทำเลแสนสวยตามที่ภาณุรุจบอก ซึ่งให้ตายเถอะ มันก็อยู่ไม่ไกลจากปางช้างเลย ทำไมเขาพลาดไปได้นะ มันเป็นเนินสูงเหนืออ่างเก็บน้ำขึ้นไป เมื่อมองลงมา นอกจากเห็นอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ยังมองเห็นสายรุ้งที่ทอแสงงามอร่ามตามแนวลำธารอย่างชัดเจนอีกหลายจุด
เจ้าความงามอันมหัศจรรย์นี้ ทำให้นทีไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ถึงแม้จะเป็นหุ้นส่วนกับภาณุรุจ เขาก็ต้องยอม เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำเองอีกแห่งเพื่อจะมาเป็นคู่แข่งภาณุรุจ และสำหรับธารรุ้ง มีรีสอร์ตใหญ่ๆ แค่สองแห่งก็เกินพอ
“ว่าไงครับพี่” เสียงภาณุรุจปลุกนทีตื่นจากภวังค์
“ผมว่าเราโทร.ถามนายไพโรจน์ หรือไปคุยให้รู้เรื่องเลยดีกว่าครับ”
น้ำเสียงภาณุรุจร้อนรนปิดไม่มิด รีสอร์ตเดิมของเขาคนเริ่มซาแล้วเพราะทำเลไม่มีจุดขายอะไร ตอนนี้เขาฝันอยากเห็นรีสอร์ตแห่งใหม่อยู่ใกล้ลำธารบนเนินสูงนั่น ที่ซึ่งคนมาพักได้นั่งมองสายรุ้งเหนือธารน้ำอยู่ที่ระเบียงบ้านตัวเอง เขาดีไซน์แบบบ้านกับนทีแล้วด้วยซ้ำ
“ดีเหมือนกัน ไปคุยเลยดีกว่า จะได้เห็นหน้าเห็นตากันเอาให้ชัวร์ๆ ชัดๆ ไปเลยว่าจะขายหรือไม่ขาย”
ทั้งสองหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกัน แต่นั่นก็เป็นเวลาที่แม่บ้านวัยกลาง คนเดินขึ้นบันไดมาพอดี เธอบอกนที
“มีคนมาขอพบค่ะ”
“ใคร หรือพี่แจ่ม มากี่คน” นทีถาม
“สองค่ะ เขาบอกว่า เขาเป็นเจ้าของที่ดินที่คุณจะซื้อ”
สองหนุ่มหันมองหน้ากัน แล้วต่างก็ผลุนผลันลงบันไดตามกันไป
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ภายในบริเวณ มีบ้านพักชั้นเดียวของควาญ คนสวน และคนงานกระจายในละแวกใกล้เคียงกันหกหลัง ส่วนที่โดดเด่นเป็นประธานของสถานที่ก็คือ บ้านไม้ใต้ถุนสูงที่เข้าถึงได้ก่อนใคร บ้านหลังนี้ใช้เป็นสำนักงาน พื้นที่โล่งอันเป็นใต้ถุนบ้าน เป็นที่พักรอช้างของนักท่องเที่ยว มีกาแฟ หนังสือ บริการพร้อมสรรพ ส่วนชั้นบน นทีได้จัดแต่งเป็นที่พักสุดหรูของตัวเองนอก เหนือจากคฤหาสน์ของเขาในตัวจังหวัด
ห่างบ้านไม้หกหลังไปไม่ไกลนักทางขวามือ เป็นซุ้มสำหรับขึ้นช้าง หน้าบันไดด้านล่างมีแผงขายกล้วย อ้อย และอาหารสำหรับให้นักท่องเที่ยวซื้อให้ช้างกินถึงสามแผง
ภาณุรุจขับรถเข้ามาจอดในบริเวณปางช้าง จากนั้นก็เดินเข้าไปที่โถงพัก มองเห็นนักท่องเที่ยวมารอขึ้นช้างอยู่ค่อนข้างหนาตา ในนั้นมีลูกค้าจากรีสอร์ตเขารวมอยู่ด้วย ชายหนุ่มจึงเอ่ยทักทายโอภาปราศรัยตามธรรมเนียม ก่อนที่ครู่หนึ่งเจ้าของปางช้างจะเดินลงมาจากข้างบน
นทีแก่กว่าภาณุรุจห้าปี ในวัยสามสิบสาม เขาเป็นชายหนุ่มที่พร้อมพรั่งไปด้วยรูปสมบัติและคุณสมบัติครบถ้วน เฉกเช่นหรือมากกว่าภาณุรุจด้วยซ้ำ
ด้านรูปกายสองหนุ่ม คนหนึ่งบึกบึนสมาร์ต อีกคนดูปราดเปรียว ในยามที่ทั้งคู่เดินไปไหนมาไหนด้วยกัน สาวๆ ทั้งบางต่างมองเหลียวหลัง แต่ก็นั่นละ พวกเธอก็ทำได้แค่มอง เพราะชายหนุ่มทั้งคู่ไม่ต่างจากเพชรแท้ที่งามระยับ แต่กลับไปประดับอยู่บนยอดดอยสูง ยากนักที่ใครจะปีนป่ายไปคว้ามาครอบครองได้
ถ้าจะให้เลือกใครสักคนระหว่างนักธุรกิจสองหนุ่มนี้ที่เป็นหุ้นส่วนต่างสายเลือด สาวๆ คงทำใจลำบาก เพราะจัดว่าเป็นดีหนึ่งประเภทหนึ่งทั้งคู่ ภาณุรุจเป็นคนร่าเริง ติดดินกว่า พบเจอง่าย ส่วนนทีนั้นค่อนข้างเป็นบุรุษลึกลับ เพราะเจ้าตัวมักอยู่ในตัวจังหวัดมากกว่า อุปนิสัยใจคอเขาเป็นอย่างไร ไม่มีใครรู้นัก เพราะเขาไม่ค่อยสุงสิงกับใคร หากแต่เจ้าความขรึมและดูไว้ตัวจนเกือบเป็น ‘หยิ่ง’ นี้ ก็นับเป็นเสน่ห์แบบพระเอกในนิยายที่สาวๆ มักจะหลงใหลได้ปลื้ม
นทีพาหนุ่มรุ่นน้องขึ้นไปนั่งคุยกับเขาที่ห้องรับแขกด้านบน แล้วกระดิกนิ้วเรียกแม่บ้านของปางให้มารับคำสั่ง
“เอากาแฟมาให้คุณไผ่หน่อย กาแฟสองช้อน น้ำตาลหนึ่ง ครีมไม่ใส่”
แม่บ้านรับคำจากไป ภาณุรุจจึงพูดขึ้น
“ขอบคุณครับพี่นที แหม...ทำไมจำแม่นขนาดนี้ครับ ผมว่าผมก็ไม่ ได้กินกาแฟให้พี่เห็นตั้งนานแล้ว”
“ต้องจำได้สิ สมัยเรียนที่ลอนดอน ผมจำอะไรที่เกี่ยวกับไผ่ได้หมดนะ ถึงแม้ตอนนั้น คุณจะตัวติดกับพาเมล่าเป็นปาท่องโก๋ก็เถอะ”
ชื่อ พาเมล่า ทำให้แววตาอีกฝ่ายเปลี่ยนไปเล็กน้อยก่อนจะกลับเข้าสู่ปกติ นทีสังเกตเห็นก็รู้ว่าตัวเองพลาดไปแล้ว เขาจึงรีบเข้าเรื่องสำคัญ
“มาว่าถึงเรื่องรีสอร์ตของเราดีกว่า ถ้าฟังจากที่คุณโทร.มาเมื่อวาน เราเจอปัญหาใหญ่แล้วใช่ไหม”
“ครับ ตอนลูกสาวบ้านนั้นมาขอร้องให้เปลี่ยนเส้นทางช้างที่ผ่านบ้านเธอ เพราะเธอจะทำไร่ดอกไม้ ทีแรกผมก็ยังนึกภาพไม่ออกว่ามันตรง ไหนกันแน่ เมื่อวานกับวันนี้ก็เลยแวะไปดูให้ชัดๆ ปรากฏว่าใช่จริงๆ ที่ดินของเธอก็คือที่ดินที่เราจะซื้อนั่นแหละครับ”
ขณะพูด ชายหนุ่มอดนึกถึงวงหน้าขาวผ่องอมชมพูของคนที่เขาเพิ่งผละมาไม่ได้ สวย ใส แต่ไม่ใช่ใสซื่อ ผู้หญิงจอมดุ ก้าวร้าว นิสัยทุกอย่างที่ไม่ดี ดูเหมือนเธอมีพร้อม
นี่เธอรู้หรือยังนะว่าไอ้พื้นที่ที่เธอทำท่าหวงแหนนักหนาจนจะเอามาแปรเป็นทุ่งดอกไม้นั้น ที่จริงบิดามารดาของเธอได้ตอบตกลงจะขายให้เขากับนทีแล้ว เห็นโวยวายอยู่แค่เรื่องช้างเดินผ่าน แต่เรื่องที่บิดามารดาจะขายที่ดินให้เขา ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่กว่าเรื่องช้างไม่ยักเห็นเธอพูดถึง เขาเองก็ยังไม่อยากเอ่ยอะไรไป เพราะผู้ใหญ่ของเธอแค่รับปากว่าจะขาย แต่ก็ยังไม่ได้เซ็นสัญญาขายเป็นเรื่องเป็นราวเสียทีเช่นกัน
“ไม่มีอะไรมั้ง เราเสนอเงินให้เขาก็ไม่น้อยนี่นา ที่ตรงนั้นนายไพ โรจน์กับเมียก็ไม่น่าจะได้ผลอะไรจากพืชผลมากนัก จะเก็บไว้ทำไม แล้วลูกสาวคิดจะมาปลูกดอกไม้ เหอะ จะไหวหรือ มันจะได้สักกี่บาท”
“ผมก็ว่างั้น แต่ลูกสาวคนนี้ของเขาดูตั้งใจมากๆ คงศึกษามาดีแล้วมั้งครับ”
“ลูกสาวคนเป็นครูนะหรือ ที่ชื่อพร คนนี้ผมเคยเจอครั้งหนึ่ง เธอก็ทราบเรื่องนี้ดี และไม่มีปัญหานี่นา ครูพรดีใจเสียด้วยซ้ำที่พ่อแม่จะได้เงิน”
“ไม่ใช่ครับ อีกคน ผมก็ไม่รู้นะว่าบ้านนี้มีลูกกี่คน แต่คนนี้มีปัญหาแน่ๆ เธอชื่อพิมริสา เพิ่งกลับมาอยู่บ้าน และที่จริงเธอก็...เคยเป็นรุ่นน้องที่มหา’ลัยผมเอง เคยรู้จักหน้าค่าตากันอยู่ แต่ไม่ได้สนิทอะไร”
แล้วภาณุรุจก็เล่าเรื่องราวต่างๆ โดยเว้นเรื่องที่เขาไปเปลี่ยนจุดช้างลงน้ำให้นทีฟังก่อนจะสรุปตบท้าย
“พี่คิดดูแล้วกัน ขนาดเรื่องช้างเดินผ่านนิดหน่อย เธอยังไม่ยอมเลย แล้วเธอจะยอมให้ที่ทั้งหมดกับเราหรือ ผมว่าที่พ่อแม่ของเธอลังๆ เลๆ อยู่นี่ ก็คงเพราะยายนี่จะเอาที่มาทำสวนดอกไม้นั่นละมั้ง”
“ชักอยากเห็นหน้าแล้วสิ คนที่มาทำแผนเราพัง”
นทีพูดเสียงขรึมแต่แววตาวิบวับขึ้นมา
“ผมก็ชวนเธอมาคุยเรื่องนี้ที่นี่นะครับ แต่เธอไม่ยอมมา”
นทีนิ่งคิด นี่คือปัญหาที่เขาไม่คาดคิดมาก่อน ถ้าสองผัวเมียคู่นั้นไม่ขายที่ดินให้จริงๆ ทุกอย่างก็พังทลาย เพราะโครงการนี้ เขากับภาณุรุจใฝ่ฝันมาก เขาเองอยากได้มากกว่าภาณุรุจด้วยซ้ำ เพราะปางช้างกับธุรกิจให้เช่ารถเอทีวีเที่ยวป่า สองอย่างที่ทำอยู่นี้ รายได้ไม่ค่อยคุ้มรายจ่าย แถมยังต้องพึ่งนักท่องเที่ยวที่มาพักจากรีสอร์ตของภาณุรุจอีกด้วย รู้สึกเหมือนกำลังยืมจมูกรุ่นน้องหายใจ เขาเคยพูดทำนองนี้กับภาณุรุจ แต่อีกฝ่ายตอบมาว่า
‘ต่างคนต่างเอื้อกันนะครับ ถ้าไม่มีปางช้าง แขกของผมก็คงไม่มีอะไรทำ แล้วเขาจะมาพักไหมล่ะครับ มานอนอย่างเดียวนี่น่ะ’
นทียอมรับว่า แม้จะเป็นคนพื้นที่นี้ และเริ่มคิดจะทำธุรกิจท่องเที่ยวขึ้นก่อน แต่พอลงมือเข้าจริงๆ เขามักช้ากว่ารุ่นน้องหนึ่งก้าวเสมอ ภาณุรุจเป็นคนคิดเร็ว ทำงานเร็ว และกล้าตัดสินใจกว่าเขา อาจเพราะครอบครัวของภาณุรุจมาทางสายนี้ก่อนแล้วก็ได้ เท่าที่รู้ ตระกูล ‘ฉายะฉัตร’ มีธุรกิจรีสอร์ต ตามเมืองท่องเที่ยวชายทะเลหลายแห่ง อาชีพนี้อยู่ในสายเลือดของหนุ่มรุ่นน้องก็ว่าได้
ส่วนครอบครัวเขานั้น เน้นทำธุรกิจด้านโรงงานผลิตสินค้ามากกว่าอย่างอื่น พวกธุรกิจที่เกี่ยวกับท่องเที่ยว ก็มีแค่โรงแรมห้าดาวในตัวจังหวัดแห่งเดียวเท่านั้น เขาอยากมีรีสอร์ตที่ธารรุ้งอีกสักแห่ง แห่งแรกนั้นพลาดไปแล้วที่ภาณุรุจทำก่อนและทำคนเดียวเสียด้วยเพราะใช้ทุนไม่มาก เขาจึงต้องเลี่ยงไปทำปางช้างแทน และด้วยความที่ยังขาดความมั่นใจ เขายังต้องชวนภาณุรุจมาเป็นหุ้นส่วนอีกราวๆ สิบเปอร์เซ็นต์
นทีอยากเป็นเจ้าของรีสอร์ตที่นี่อยู่เสมอ แต่ยังหาที่เหมาะๆ ไม่ได้ แต่แล้ววันหนึ่ง ภาณุรุจก็เป็นคนพูดขึ้นก่อน
‘พี่ครับ ผมเจอทำเลสวยมากที่หนึ่ง พี่สนใจจะมาทำรีสอร์ตร่วมกับผมไหม เที่ยวนี้ทำให้ใหญ่เลย แบ่งกันคนละครึ่ง’
แล้วเขาก็ได้ไปเห็นทำเลแสนสวยตามที่ภาณุรุจบอก ซึ่งให้ตายเถอะ มันก็อยู่ไม่ไกลจากปางช้างเลย ทำไมเขาพลาดไปได้นะ มันเป็นเนินสูงเหนืออ่างเก็บน้ำขึ้นไป เมื่อมองลงมา นอกจากเห็นอ่างเก็บน้ำแล้ว ก็ยังมองเห็นสายรุ้งที่ทอแสงงามอร่ามตามแนวลำธารอย่างชัดเจนอีกหลายจุด
เจ้าความงามอันมหัศจรรย์นี้ ทำให้นทีไม่อาจทนนิ่งเฉยได้ ถึงแม้จะเป็นหุ้นส่วนกับภาณุรุจ เขาก็ต้องยอม เพราะเป็นไปไม่ได้เลยที่เขาจะทำเองอีกแห่งเพื่อจะมาเป็นคู่แข่งภาณุรุจ และสำหรับธารรุ้ง มีรีสอร์ตใหญ่ๆ แค่สองแห่งก็เกินพอ
“ว่าไงครับพี่” เสียงภาณุรุจปลุกนทีตื่นจากภวังค์
“ผมว่าเราโทร.ถามนายไพโรจน์ หรือไปคุยให้รู้เรื่องเลยดีกว่าครับ”
น้ำเสียงภาณุรุจร้อนรนปิดไม่มิด รีสอร์ตเดิมของเขาคนเริ่มซาแล้วเพราะทำเลไม่มีจุดขายอะไร ตอนนี้เขาฝันอยากเห็นรีสอร์ตแห่งใหม่อยู่ใกล้ลำธารบนเนินสูงนั่น ที่ซึ่งคนมาพักได้นั่งมองสายรุ้งเหนือธารน้ำอยู่ที่ระเบียงบ้านตัวเอง เขาดีไซน์แบบบ้านกับนทีแล้วด้วยซ้ำ
“ดีเหมือนกัน ไปคุยเลยดีกว่า จะได้เห็นหน้าเห็นตากันเอาให้ชัวร์ๆ ชัดๆ ไปเลยว่าจะขายหรือไม่ขาย”
ทั้งสองหนุ่มลุกขึ้นยืนพร้อมกัน แต่นั่นก็เป็นเวลาที่แม่บ้านวัยกลาง คนเดินขึ้นบันไดมาพอดี เธอบอกนที
“มีคนมาขอพบค่ะ”
“ใคร หรือพี่แจ่ม มากี่คน” นทีถาม
“สองค่ะ เขาบอกว่า เขาเป็นเจ้าของที่ดินที่คุณจะซื้อ”
สองหนุ่มหันมองหน้ากัน แล้วต่างก็ผลุนผลันลงบันไดตามกันไป
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 พ.ย. 2562, 14:11:50 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 พ.ย. 2562, 14:11:50 น.
จำนวนการเข้าชม : 521
<< บทที่ 4 -50% | บทที่ 5 -30% + รายละเอียดสั่งจอง >> |