กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า: พิมมาศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะเสียงกระซิบจากชายในฝัน
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ทำให้ 'เอริน' จดจำฝังใจและรอวันที่จะได้พบเจอ
จนเวลาผันผ่านนานนับยี่สิบปี...
เสียงนั้นกลับเข้ามาย้ำเตือนความทรงจำของเธออีกครั้ง
ซีอีโอหนุ่มใหญ่ที่แก่กว่าเธอร่วมสิบกว่าปีได้ ทั้งแววตาและน้ำเสียงอบอุ่นของเขา
ยิ่งใกล้ชิดยิ่งติดพัน ยิ่งใกล้กันยิ่งหวั่นไหว เธอจะทำอย่างไรกับใจของตัวเอง
Love go on, until the end of the world…
เพราะความน่ารัก สดใส เยาว์วัยของเธอ
ทำให้ 'ชานนท์' กลับมายิ้มได้อีกครั้งพร้อมความรู้สึกดีๆ
ผ่านไปอีกหนึ่งปี...
เขากลับมาหาเธอพร้อมคำสัญญาที่เคยให้ไว้
รอยยิ้มของยายกุหลาบชมพูแก้มกลมผู้สดใส อ่อนโยน
กำลังหลอมละลายความแค้นในใจของเขาให้กลายกลับมาเป็นความรักอีกครั้ง
***************************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "พิมมาศ" และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" เปิดจองเร็วๆ นี้ค่ะ ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้โรแมนติก น่ารักน่าหยิกมากๆ ใครชอบพระเอกหนุ่มใหญ่สายเปย์ รุกจีบเด็ก ส่วนเด็กมีความใสซื่อแต่แก่นแก้วนิดๆ และแอบตามตื๊อ มิควรพลาดจ้าาาาา นอกจากนี้ยังได้ไปเที่ยวยุโรปกันด้วย มีความดราม่าของเรื่องราวในวัยเด็กระหว่างกันแฝงอยู่ด้วยค่ะ #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก.com ร้านbooksforfun ร้านbanniyayindy ร้านภาวิกา ร้านbestbooksmile เป็นต้น
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 624 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 385฿ จากราคาปก 445฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 430฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 455฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: สายเปย์ รุกจีบ น่ารัก ดราม่า แก้แค้น ลอนดอน ฟลอเรนซ์
ตอน: บทที่ 23 -100%
เกือบสองชั่วโมง เรือสองท้องแล่นมาถึงเกาะเต่าโดยสวัสดิภาพ ผู้คนเริ่มทยอยลงจากเรือ แต่เอรินยังคงหลับพิงไหล่ชานนท์โดยไม่รู้ตัว ชายหนุ่มเฝ้ามองดวงหน้าหวานใสที่หลับพริ้มไม่วางตา เพราะหล่อนทำให้เขาปักใจนับวันรอตั้งแต่จากกันเมื่อหนึ่งปีที่แล้ว แต่บางทีโลกคงกลมเกินไป...
ชานนท์เพิ่งมารู้ก่อนกลับเมืองไทยเพียงไม่กี่วันว่า ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขายามนี้ แท้จริงแล้วคือใคร และคงเพราะเหตุนี้ตอนที่อยู่ต่างประเทศด้วยกันเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับหล่อนรวดเร็ว...ราวกับรู้จักกันมานาน...
ชานนท์ครุ่นคิดทอดถอนใจก่อนมองออกไปที่ท่าเรือ เมื่อเห็นสมควรแก่เวลาที่ต้องออกเดินทางต่อแล้ว จึงแตะแขนเอรินปลุกเบาๆ เท่านั้นหล่อนก็รู้สึกตัวสะดุ้งตื่น รีบลุกมองผ่านหน้าต่าง
“ถึงแล้วเหรอคะ”
“อืม เห็นกำลังหลับสบายเลยไม่อยากปลุก”
ชานนท์บอกยิ้มๆ พลางลุกขึ้นตามทำเนียนโอบไหล่สาวน้อยไปด้วย เอรินเหลือบมองมือเขาแล้วตีเพียะเข้าให้ก่อนจะชี้ชวนชายหนุ่มให้ลงจากเรืออย่างขัดเขิน
ในขณะที่นักท่องเที่ยวทยอยลงจากสะพานไม้ท่าเทียบเรือกันไปจนบางตา ชายต่างวัยสองคนที่ลงจากเรือมาก่อน ยังคงยืนมองดูชานนท์ที่หอบหิ้วสัมภาระเต็มหลังพร้อมกับจูงมือสาวร่างเล็กเดินตามกันมาอย่างอ้อยอิ่ง
ชายชราดึงหมวกปีกกว้างปิดใบหน้าตัวเองกว่าครึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาทันที จังหวะนั้นเอรินหันมาเห็นฉีกยิ้มกว้าง สาวเท้าตรงมาหาชายชราคนนั้นด้วยความดีใจระคนโล่งอกเป็นที่สุด!
“สวัสดีค่ะลุงกอง นึกว่าจะไม่ได้เจอแล้ว สบายดีนะคะ”
“ลุงสบายดี ไม่เจอกันนานเลยนะหนูเอริน จำได้ครั้งสุดท้ายเห็นจะเป็นที่บ้านพิมตอนครบรอบวันตายพ่อเจ้ากรณ์มัน”
กองเพ็ชรลูบศีรษะเอรินด้วยความเอ็นดู ชานนท์มองทั้งสองคุยกันอยู่เงียบๆ ไม่แสดงความรู้สึกใด กระทั่งกองเพ็ชรหันมามองสีหน้าสงสัยเอ่ยถาม
“นี่หรือ แขกที่หนูให้ลุงหาเรือให้”
“ใช่ค่ะ” เอรินพยักหน้า จะแนะนำให้ชายชรารู้จัก แต่ชานนท์ชิงเอ่ยแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับคุณลุง ผมชานนท์ คิม หรือจะเรียกอเล็กซ์เหมือนเอรินก็ได้ครับ” ชานนท์ยิ้มแย้มยกมือไหว้อย่างมีมารยาท กองเพ็ชรพยักหน้ารับสีหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน
“ขอโทษนะพ่อหนุ่ม พอดีหนูเอรินเพิ่งติดต่อมา ลุงก็พยายามหาเรือให้ ถ้าไม่บอกล่วงหน้าจะได้ยากมาก อีกอย่างแถบนี้เรือมันน้อยไม่เท่าแถบอันดามัน เรือยอร์ชใหม่ๆ ก็เลยติดจองยาว”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น”
กองเพ็ชรฟังแล้วกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ
“ลุงขอไว้ให้ได้ลำนึงนะ อาจจะไม่ใหม่นักแต่ก็น่าจะพอได้สักคืนสองคืน ว่าแต่พ่อหนุ่มต้องการพรุ่งนี้เลยหรือเปล่าจะได้แจ้งไว้”
“คืนแรกคงพักเอาแรงก่อน ขอเป็นพรุ่งนี้กับมะรืนนี้สองวันก็แล้วกันครับ” ชานนท์ตอบหน้าระรื่น แต่เอรินถึงกับตาโต
“อ้าวคุณ แล้วที่จองวิลลาบนเขาที่หาดทรายรีไว้สี่คืนล่ะคะ ไม่เสียตังค์ฟรีหรือ แพงนะนั่น เรือยอร์ชอย่าเอาเลย แค่สปีดโบ้ทไปเช้าเย็นกลับก็พอ” เอรินแย้งแล้วหันไปบอกลุงกอง
“ลุงคะ เราจองแบบเช้าไปเย็นกลับดีกว่าค่ะ วันเดียวพอ แถวนี้ไม่เห็นมีอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเรือข้ามวันข้ามคืนหรอกค่ะ”
“เอางั้นรึ เผื่อคุณเขาจะอยากตกปลาตกหมึกกลางคืนหรือเปล่า”
กองเพ็ชรหันมาถามชานนท์ที่ทำตาดุใส่เอรินพอดี
“ใช่ครับ ประมาณนั้น ยังไงรบกวนคุณลุงช่วยจัดการตามที่ผมบอกทีนะครับ” ชานนท์ยังคงยืนยันพลางหันมาโอบไหล่สาวน้อยข้างกาย แต่ถูกเจ้าหล่อนเบี่ยงตัวหลบ สีหน้าเครียดไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ตกลงที่จองวิลลาไว้สี่คืนคุณจะเอายังไงคะ คืนละกี่หมื่นคุณรู้ไหม จะทิ้งเหรอ”
“ก็ทิ้งไปสิ ทำไม”
“ได้ไง” เอรินแย้ง ขณะเดียวกันก็ต้องคอยปัดมือปลาหมึกของเขาที่เกาะเกี่ยวไหล่หล่อนอยู่นั่นเอง
“มันเงินทั้งนั้น ทำไมคุณถึงใช้เงินเป็นเบี้ยอย่างนี้ อีกหน่อยแก่มาจะลำบากนะ”
“โธ่เอริน ช่างเงินในกระเป๋าผมเถอะน่า”
“ไม่ได้ ถ้าคุณคิดจะจีบฉันอย่างปากพูดแล้วทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มเปย์ไม่อั้นแบบนี้ ฉันรับไม่ได้”
“อ้าว! เจอป๋าสายเปย์กลับรับไม่ได้อีก เป็นสาวอื่นขี้คร้านวิ่งเข้าหาผมนะจะบอกให้”
“แต่ไม่ใช่ฉันค่ะ” หล่อนตอบแล้วเบี่ยงตัวออกห่างเดินนำลิ่วไปโน่น
ชานนท์ได้แต่ส่ายหน้า การที่เขามีเงินแล้วซื้อความสะดวกสบายให้ตัวเองมันผิดตรงไหน แต่จะพูดออกไปอีกก็เกรงจะกลายเป็นชวนทะเลาะกันเสียเปล่าๆ เลยออกเดินตามไปเงียบๆ
ยังไม่ทันที่สองหนุ่มสาวจะได้ปรับความเข้าใจกัน รถของรีสอร์ตที่ทั้งสองจองที่พักไว้ก็แล่นเข้ามาจอดเทียบ พนักงานขนกระเป๋าเดินทางของแขกขึ้นรถ ขณะที่กองเพ็ชรซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม แค่มองตามชานนท์กับเอรินขึ้นรถคันนั้นไป
เมื่อทั้งสองพ้นสายตาไปแล้ว ชายชราจึงหันไปพยักหน้าให้ใครอีกคนซึ่งซุ่มรออยู่นานแล้วออกมา
“เรียบร้อยลุง เงินยังเหลืออีกนิดหน่อย” ชายหนุ่มคนเดิมที่นั่งเรือมาด้วยกันกับกองเพ็ชรยื่นกุญแจให้พร้อมเงินทอน
“แน่ใจนะลุงว่าจะเอาตามนี้”
“เออ ส่วนเงินนั่นก็เก็บไว้เถอะ” กองเพ็ชรหัวเราะในลำคอ “แล้วก็ฝากดูแลสองคนนั้นด้วยนะ อย่าให้ขาดตกบกพร่องล่ะ”
ชีวินพยักหน้าหงึกๆ แล้วเก็บเงินส่วนต่างจำนวนมากที่ลุงยกให้ใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองแววตาเป็นประกาย มันเหลือมากพอที่เขาจะนำไปใช้จ่ายได้อีกสบาย และหนึ่งในนั้นคือการท่องราตรี ซึ่งเขาโปรดปรานเป็นที่สุด!
“ขอบคุณครับลุง ผมรับรองว่าจะดูแลสองคนนั้นเป็นอย่างดี”
“ต้องอาศัยแกแล้ว”
กองเพ็ชรตบบ่าชายหนุ่มฝากฝัง ก่อนจะเดินหายไปยังอีกฟากหนึ่งของท่าเรือปะปนกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่จนลับสายตา
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ชานนท์เพิ่งมารู้ก่อนกลับเมืองไทยเพียงไม่กี่วันว่า ผู้หญิงที่อยู่ข้างกายเขายามนี้ แท้จริงแล้วคือใคร และคงเพราะเหตุนี้ตอนที่อยู่ต่างประเทศด้วยกันเขาจึงรู้สึกคุ้นเคยกับหล่อนรวดเร็ว...ราวกับรู้จักกันมานาน...
ชานนท์ครุ่นคิดทอดถอนใจก่อนมองออกไปที่ท่าเรือ เมื่อเห็นสมควรแก่เวลาที่ต้องออกเดินทางต่อแล้ว จึงแตะแขนเอรินปลุกเบาๆ เท่านั้นหล่อนก็รู้สึกตัวสะดุ้งตื่น รีบลุกมองผ่านหน้าต่าง
“ถึงแล้วเหรอคะ”
“อืม เห็นกำลังหลับสบายเลยไม่อยากปลุก”
ชานนท์บอกยิ้มๆ พลางลุกขึ้นตามทำเนียนโอบไหล่สาวน้อยไปด้วย เอรินเหลือบมองมือเขาแล้วตีเพียะเข้าให้ก่อนจะชี้ชวนชายหนุ่มให้ลงจากเรืออย่างขัดเขิน
ในขณะที่นักท่องเที่ยวทยอยลงจากสะพานไม้ท่าเทียบเรือกันไปจนบางตา ชายต่างวัยสองคนที่ลงจากเรือมาก่อน ยังคงยืนมองดูชานนท์ที่หอบหิ้วสัมภาระเต็มหลังพร้อมกับจูงมือสาวร่างเล็กเดินตามกันมาอย่างอ้อยอิ่ง
ชายชราดึงหมวกปีกกว้างปิดใบหน้าตัวเองกว่าครึ่ง แล้วเดินเข้าไปหาทันที จังหวะนั้นเอรินหันมาเห็นฉีกยิ้มกว้าง สาวเท้าตรงมาหาชายชราคนนั้นด้วยความดีใจระคนโล่งอกเป็นที่สุด!
“สวัสดีค่ะลุงกอง นึกว่าจะไม่ได้เจอแล้ว สบายดีนะคะ”
“ลุงสบายดี ไม่เจอกันนานเลยนะหนูเอริน จำได้ครั้งสุดท้ายเห็นจะเป็นที่บ้านพิมตอนครบรอบวันตายพ่อเจ้ากรณ์มัน”
กองเพ็ชรลูบศีรษะเอรินด้วยความเอ็นดู ชานนท์มองทั้งสองคุยกันอยู่เงียบๆ ไม่แสดงความรู้สึกใด กระทั่งกองเพ็ชรหันมามองสีหน้าสงสัยเอ่ยถาม
“นี่หรือ แขกที่หนูให้ลุงหาเรือให้”
“ใช่ค่ะ” เอรินพยักหน้า จะแนะนำให้ชายชรารู้จัก แต่ชานนท์ชิงเอ่ยแนะนำตัวเอง
“สวัสดีครับคุณลุง ผมชานนท์ คิม หรือจะเรียกอเล็กซ์เหมือนเอรินก็ได้ครับ” ชานนท์ยิ้มแย้มยกมือไหว้อย่างมีมารยาท กองเพ็ชรพยักหน้ารับสีหน้ายิ้มแย้มเช่นกัน
“ขอโทษนะพ่อหนุ่ม พอดีหนูเอรินเพิ่งติดต่อมา ลุงก็พยายามหาเรือให้ ถ้าไม่บอกล่วงหน้าจะได้ยากมาก อีกอย่างแถบนี้เรือมันน้อยไม่เท่าแถบอันดามัน เรือยอร์ชใหม่ๆ ก็เลยติดจองยาว”
“ไม่เป็นไรครับ ผมไม่ได้ซีเรียสขนาดนั้น”
กองเพ็ชรฟังแล้วกระตุกยิ้มเล็กน้อยก่อนเอ่ยต่อ
“ลุงขอไว้ให้ได้ลำนึงนะ อาจจะไม่ใหม่นักแต่ก็น่าจะพอได้สักคืนสองคืน ว่าแต่พ่อหนุ่มต้องการพรุ่งนี้เลยหรือเปล่าจะได้แจ้งไว้”
“คืนแรกคงพักเอาแรงก่อน ขอเป็นพรุ่งนี้กับมะรืนนี้สองวันก็แล้วกันครับ” ชานนท์ตอบหน้าระรื่น แต่เอรินถึงกับตาโต
“อ้าวคุณ แล้วที่จองวิลลาบนเขาที่หาดทรายรีไว้สี่คืนล่ะคะ ไม่เสียตังค์ฟรีหรือ แพงนะนั่น เรือยอร์ชอย่าเอาเลย แค่สปีดโบ้ทไปเช้าเย็นกลับก็พอ” เอรินแย้งแล้วหันไปบอกลุงกอง
“ลุงคะ เราจองแบบเช้าไปเย็นกลับดีกว่าค่ะ วันเดียวพอ แถวนี้ไม่เห็นมีอะไรมาก ไม่จำเป็นต้องอยู่ในเรือข้ามวันข้ามคืนหรอกค่ะ”
“เอางั้นรึ เผื่อคุณเขาจะอยากตกปลาตกหมึกกลางคืนหรือเปล่า”
กองเพ็ชรหันมาถามชานนท์ที่ทำตาดุใส่เอรินพอดี
“ใช่ครับ ประมาณนั้น ยังไงรบกวนคุณลุงช่วยจัดการตามที่ผมบอกทีนะครับ” ชานนท์ยังคงยืนยันพลางหันมาโอบไหล่สาวน้อยข้างกาย แต่ถูกเจ้าหล่อนเบี่ยงตัวหลบ สีหน้าเครียดไม่พอใจเขาอย่างเห็นได้ชัด
“ตกลงที่จองวิลลาไว้สี่คืนคุณจะเอายังไงคะ คืนละกี่หมื่นคุณรู้ไหม จะทิ้งเหรอ”
“ก็ทิ้งไปสิ ทำไม”
“ได้ไง” เอรินแย้ง ขณะเดียวกันก็ต้องคอยปัดมือปลาหมึกของเขาที่เกาะเกี่ยวไหล่หล่อนอยู่นั่นเอง
“มันเงินทั้งนั้น ทำไมคุณถึงใช้เงินเป็นเบี้ยอย่างนี้ อีกหน่อยแก่มาจะลำบากนะ”
“โธ่เอริน ช่างเงินในกระเป๋าผมเถอะน่า”
“ไม่ได้ ถ้าคุณคิดจะจีบฉันอย่างปากพูดแล้วทำตัวเป็นพ่อบุญทุ่มเปย์ไม่อั้นแบบนี้ ฉันรับไม่ได้”
“อ้าว! เจอป๋าสายเปย์กลับรับไม่ได้อีก เป็นสาวอื่นขี้คร้านวิ่งเข้าหาผมนะจะบอกให้”
“แต่ไม่ใช่ฉันค่ะ” หล่อนตอบแล้วเบี่ยงตัวออกห่างเดินนำลิ่วไปโน่น
ชานนท์ได้แต่ส่ายหน้า การที่เขามีเงินแล้วซื้อความสะดวกสบายให้ตัวเองมันผิดตรงไหน แต่จะพูดออกไปอีกก็เกรงจะกลายเป็นชวนทะเลาะกันเสียเปล่าๆ เลยออกเดินตามไปเงียบๆ
ยังไม่ทันที่สองหนุ่มสาวจะได้ปรับความเข้าใจกัน รถของรีสอร์ตที่ทั้งสองจองที่พักไว้ก็แล่นเข้ามาจอดเทียบ พนักงานขนกระเป๋าเดินทางของแขกขึ้นรถ ขณะที่กองเพ็ชรซึ่งยังคงยืนอยู่ที่เดิม แค่มองตามชานนท์กับเอรินขึ้นรถคันนั้นไป
เมื่อทั้งสองพ้นสายตาไปแล้ว ชายชราจึงหันไปพยักหน้าให้ใครอีกคนซึ่งซุ่มรออยู่นานแล้วออกมา
“เรียบร้อยลุง เงินยังเหลืออีกนิดหน่อย” ชายหนุ่มคนเดิมที่นั่งเรือมาด้วยกันกับกองเพ็ชรยื่นกุญแจให้พร้อมเงินทอน
“แน่ใจนะลุงว่าจะเอาตามนี้”
“เออ ส่วนเงินนั่นก็เก็บไว้เถอะ” กองเพ็ชรหัวเราะในลำคอ “แล้วก็ฝากดูแลสองคนนั้นด้วยนะ อย่าให้ขาดตกบกพร่องล่ะ”
ชีวินพยักหน้าหงึกๆ แล้วเก็บเงินส่วนต่างจำนวนมากที่ลุงยกให้ใส่กระเป๋ากางเกงตัวเองแววตาเป็นประกาย มันเหลือมากพอที่เขาจะนำไปใช้จ่ายได้อีกสบาย และหนึ่งในนั้นคือการท่องราตรี ซึ่งเขาโปรดปรานเป็นที่สุด!
“ขอบคุณครับลุง ผมรับรองว่าจะดูแลสองคนนั้นเป็นอย่างดี”
“ต้องอาศัยแกแล้ว”
กองเพ็ชรตบบ่าชายหนุ่มฝากฝัง ก่อนจะเดินหายไปยังอีกฟากหนึ่งของท่าเรือปะปนกับนักท่องเที่ยวกลุ่มใหญ่จนลับสายตา
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ธ.ค. 2562, 07:38:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ธ.ค. 2562, 07:38:12 น.
จำนวนการเข้าชม : 582
<< บทที่ 23 -60% | บทที่ 24 -60% >> |