ห้วงเสน่หา ปรารถนาแห่งหัวใจ
ความรักได้ถูกลิขิตไว้แล้วว่าและความปรารถนาของหัวใจย่อมมาก่อน เสน่หา
และนั่นอาจจะเป้นการพลาดเมื่อเขา และเธอรู้จักรักที่แท้จริง
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: ข่าวของสัจจะ


ขิมเดินล้วงกระเป๋า ฮึมเพลงออกจากลิฟต์มาอย่างอารมณ์ดีจัด ลีน่าไม่พอใจจนเกิดอาการหึงออกนอกหน้า เธอปราดเข้าไปหาชายหนุ่ม เอ่ยเสียงดังหวังให้คนอยู่ใกล้ได้ยินทั่วหน้าว่า
“คุณต้องส่งลูกค้าอย่างนี้ทุกคนหรือคิม”
“คนนี้พิเศษมาก” เขาบอกไม่เกรงใจ “และพิเศษอย่างไม่มีวันเปลี่ยนแปลง”
“หมายความว่าไงคิม”
“ก็อย่างที่บอกนั้นแหละ ว่าเขาเป็นคนที่พิเศษกว่าใคร”
“กว่าลีน่า”
“อย่าเปรียบกันสิลีน่า”
“ใช่ เขามาเทียบลีน่าไม่ได้”ลีน่าวางตัวเองสูง แต่ขิมกลับคิดอีกอย่าง โดยไม่เอ่ยออกมา แต่เลี้ยงไปว่า
“ ผมไปคุยกับลูกค้าก่อนนะ” ก่อนคุยกับลูกค้า ขิมสั่งเลขาให้ไปนัดประชุม ทีมงานตอนบ่ายเพื่อวางแผนการดำเนินงาน
ลีน่านั่งจนเกือบจะเป็นนอนในโซฟาตัวนุ่มตรงล็อบบี้รับแขก พนักงานในบริษัทส่ายหน้าไปตามๆกัน นี่ก็นางแบบที่ตามตะครุบตัว หนุ่มรูปงามเจ้าของบริษัทโฆษณา ลีน่าหมดความอดทนที่จะรอจึงกลับ เธอต่อสายถึงขิม แต่สายปิดทุกสาย ลีน่าฝากบอกเลขา แต่ได้รับคำตอบรับสั้นๆว่า ค่ะ
ก่อนหน้าที่ขิมมีฐานะทางสังคมในทุกวันนี้นั้น ขิมเรียนจบจากเมืองนอกโดยตรง มีประสบการณ์งานมาพอควร จึงกลับมาเมืองไทยและทำออฟฟิศโฆษณา พ่อกำนันผันตัวเองไปเล่นการเมืองประสบความสำเร็จอย่างท่วมท้น และท่านตามใจลูกคนเล็กซึ่งท่านเห็นได้ดีเกินพี่น้อง ขยายจนสามารถตั้งบริษัทได้ในเวลาไม่กี่ปี เขาเริ่มดังเมื่อได้รับรางวัล จากงานประกวดโฆษณา
ป่านแก้วยังทำงานเราราชการอยู่จึงไม่ค่อยได้รับรู้ข่าวสารทางด้านนี้
“โถอยู่ใกล้ๆ แค่นี้เอง” ป่านแก้วรำพึงกับตัวเองขณะขับรถเข้าบริษัท “ถ้าป่านรู้ ป่านคงไปหานานแล้วล่ะขิม ไปล่อยเวลาห่างมาเป็นสิบปีอย่างนี้หรอก เสียดายเวลาจังเลย”หญิงสาวรำพัน เลี้ยวรถเข้าบริษัท และนำการต่อรองเจรจาไปบอกผู้อำนวยการว่ามีความสมหวังถึงเก้าสิบเปอร์เซ็นต์ ป่านแก้วไม่อยากบอกความมั่นใจว่าเต็มร้อยด้วยซ้ำ
เจ้านายพอใจในการทำงานของป่านแก้ว เขาออกปากเอ่ยถึงบริษัทของขิมว่า
“ที่อื่นเขาหางานกันให้ยุ่ง แต่ที่บริษัทนี้ต้องไปติดต่อเขา งานเขามีคุณภาพ แล้วเขาก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ชิ้นไหนออกอากาศไม่ได้เขาไม่คิดเงิน”
“อย่างนี้ถูกงดสักงานก็หมดตัวได้น่ะสิคะผอ.”
“เขากล้าการันตี เพราะมั่นใจในตัวเองสูงมาก”
“สงสัยใช่ค่ะ มีลูกค้าไปนั่งรอติดต่องานกันเยอะ ดีที่ป่านไปได้คิวแรก”ป่านแก้วโอ้อวดแทนเพื่อน
“คุณป่านเก่งมาก ว่าแต่ว่างทานข้าวกันมั้ยเย็นนี้”
“ป่านมีนัดกับคุณพ่อค่ะ”ป่านแก้วยกพ่อมาบังหน้าทุกครั้งไป ซึ่งผู้อำนวยการก็เกรงใจทุกที
“ป่านมีงาน ขอตัวก่อนนะคะ”
“เชิญครับ”
ป่านแก้วออกจากห้องผู้อำนวยการ และแวะมุมเครื่องดื่มก่อนเข้าห้อง จึงพบเอมจิตเดินเตร่มาคุยกับเพื่อนที่มุมกาแฟ ซึ่งเป็นมุมว่างสำหรับพนักงานกระหายน้ำหรือต้องการเครื่องดื่ม
“ดูท่าทางมีความสุขมากเลยนะวันนี้”
“เจอเพื่อนเก่า”
“คนเขียนรูปประถมนั้นหรือ” เอมจิตเดาเพราะเพื่อนเก่าที่ป่านแก้วพูดให้ฟังมีอยู่ แค่ 4 คนเท่านั้น ส่วนตัวเองป่านแก้วจะนับเป็นเพื่อนใหม่หรือเปล่ายังสงสัย
“คนให้กำไลเงิน”
“คนที่ว่าหล่อมากนะหรือ” เอมจิตเอ่ยรายละเอียดได้
“จะทานข้าวกันเย็นนี้ไปด้วยกันมั้ยเอม”
“ใครจะขัดคอ คนพึ่งเจอเพื่อนเก่า” ปฏิเสธอย่างรู้กาลเทศะ ป่านแก้วดึงเพื่อนมาหอมแก้ม
“แหมเอมน่ารัก”
“นี่ป่านแก้ว เธอมีเพื่อนชายจนชอบแสดงความดีใจแบบผู้ชายเลยนะ”
“นั่นแน่ แสดงว่ามีผู้ชายทำแบบนี้ล่ะสิ” ป่านแก้วยิ้มพรายย้อยเพื่อน เอมจิตหน้าแดงกล่ำหมุนกายเดินหนีไปอีกทาง ป่านแก้วกลับมาทำงานที่โต๊ะใจเตลิดไกล เย็นนี้มีนัดแล้ว กับขิมเพื่อนเก่า เธอมีเรื่องมากมายหลายอย่างที่จะบอกขิม คิด
แล้วอยากให้งานเลิกเร็วกว่าปกติ
ห้าโมงตรง ป่านแก้วออกจากที่ทำงานไปทันที และเธอขับรถด้วยความเร็ว กระทั่งถึงทางแยก หญิงสาวเบรกห้ามล้อลั่นท้องถนนก่อนจะถูกรถคันหลังชนเต็มแรงอัก ส่งผลให้แรงกระเด็นไปอยู่ตรงทางแยกรถเลี้ยวเลยจูบสี่ข้างยุบเข้าไป
“ขับรถไม่เป็นหรือไง”
ผู้ชายตัวอ้วนลงมาเอาเรื่องป่านแก้ว หญิงสาวขอโทษขอโพยเป็นการใหญ่ แต่อีกฝ่ายไม่ยอมพูดดีด้วย
“เอ๊ะ! ถ้าไม่เบรกฉันก็ชนเด็กน่ะสิ รถเสียหายแค่ไหนละจะให้ลากไปอู่ก็บอกมา”
“ถุย…”ผู้ชายคนนั้นยังแสดงสันดานหยาบ “มีประกันชั้นหนึ่งแล้วทำเขื่อง”
“นี่คุณ” หญิงสาวร่างอวบแต่ใบหน้าจิ้มลิ้มอีกคนที่ขับรถชนประตูรถป่านแก้วลงมาช่วยป่านแก้วยอย่างคนมีน้ำใจ
“ทำไมแสดงกิริยาอย่างนี้นะ คิดว่าเป็นผู้หญิงแล้วจะถูกรังแกยังไงก็ได้หรือไง” ชายร่างอ้วนถูกรุมอย่างไม่มีเหตุผล จึงทำหน้าบึ้งตึงเลยดูเหมือนยักษ์เข้าไปใหญ่
หญิงสาวร่างอวบหน้าสวยพูดจาฉะฉานเข้าข้างป่านแก้วเต็มที่
“ฉันเป็นพยานให้ว่าผู้ชายคนนี้ขับรถชนท้ายของคุณ”
คู่กรณีอีกคนกลายมาเป็นมิตรได้อย่างไร ป่านแก้วงงๆ แถมยังนักเลงอย่างคาดไม่ถึง”
“อย่างนี้เล่ารวมหัวกันนี่หว่า ทำงานเป็นแก๊งหรือไงวะ”ชายหน้าดุเอาเรื่อง ป่านแก้วโบกมือยอมแพ้ เอ่ยว่า
“เอาล่ะๆ ไฟหน้าของคุณแตกฉันใช้ให้เท่าไหร่ล่ะ”
“สองหมื่น”
“ถ้าอย่างนั้นฉันยอมเสียเวลาไปอู่ให้ประกันตีราคาดีกว่า ฉันจะเรียกประกันมาเคลม”
ระหว่างที่กำลังเกี่ยวกันอยู่นั้นตำรวจกำลังมา สายตาคนทั้งสามเหลือบไปเห็น จึงต่างขึ้นรถตัวเอง ไปซ่อมที่อู่ทำประกันของใครของมันใคร เพราะทั้งสามเคยอ่านหนังสือพิมพ์คอลัมน์เพลิงมรกตนั่นไง คู่กรณียอมแล้ว ตำรวจยังหาเรื่องปรับคนล่ะหมื่นเสียทั้งเงินแล้วยังเสียเวลาอีก ดังนั้นเห็นตำรวจแต่ไกลแล้ว ทุกคนจึงรีบเผ่นดีกว่าในกรณีหาคนผิดไม่ได้อย่างนี้
ป่านแก้วโบกแท็กซี่ให้ไปหาขิม ทว่าเวลานี้รถกำลังติดจึงได้แต่รอ ในที่สุด ป่านแก้วไปพบขิมจนได้ ชายหนุ่มกำลังรอด้วยความกระวนกระวายใจอยู่พอดี
“มาเสียที เลยเวลานัดแล้ว เห็นป่ะเนี่ย”ขิมพลิกนาฬิกาให้ดู ป่านแก้วจึงคล้องแขนเพื่อนชาย เอ่ยปากเกลื่อนผิดไปว่า
“ไงก็มาถึงแล้วไหนล่ะรถของตัว”
ขิมแกล้งเดินเร็วป่านแก้วจึงต้องสาวเท้าเร็วเป็นสองเท่า เพราะขาของอีกฝ่ายยาวกว่า ชายหนุ่มเปิดประตูให้ป่านแก้วแล้วจึงอ้อมไปเปิดประตูด้านคนขับเคลื่อนรถออกไป
เขาเหลือบสายตามองคนร่างบาง แต่ทำให้หัวใจของเขาเต้นระส่ำผิดปกติ
“ป่านมีแฟนหรือเปล่า”
“เคยมี แต่เลิกกันนานแล้ว”
“ทำไมถึงเลิกกันล่ะ”
“ก็เขา เอ่อจะไปเรียนต่อ แต่ขอ...ขอ”
“ขอมัดจำ”
“นั่นละ ป่านไม่ให้ เขาก็ไม่พอใจ พอไปก็ห่างกัน เลิกกันไป”
“คนรักกันไม่น่าไปหวงเขานี่”ขิมคิดอย่างคนทันสมัย “ผู้ชายหรือผู้หญิงมีความต้องการเหมือนกัน”
“แต่ป่านไม่คิดอย่างนั้นนะ”
“ป่านอาจรักเขาไม่มากพอก็ได้”ขิมแย้งขึ้นมา “ผู้หญิงมักจะยอมเสมอ ใช่หรือเปล่า กับคนที่เรารักมากๆ”
ป่านแก้วนิ่งงันไปทันที เพราะเธอเคยมีคนรัก แต่ไม่เคยให้เขาได้แม้แต่รอยจูบ หรือเธอเป็นอย่างขิมพูดออกมาว่า เธอรักเขาไม่มากพอ
แทนการตอบ ป่านแก้วกลับเป็นฝ่ายถามอีกฝ่ายบ้างว่า
“แล้วขิมล่ะบอกรักแล้วก็ชวนเขานอนเลยหรือ”
ขิมยิ้มฟันขาว ส่งให้หน้าคมดูมีเสน่ห์นัก
“ไม่เคยบอกรักหรอก แล้วก็ไม่เคยชวนใครเลย”
“น่าเชื่อเหลือเกิน” ป่านแก้วเบะปาก
“ก็ที่ผ่านมาเขาชวนเราทั้งนั้นแหละ”
“บ้า”
ขิมเลี้ยวรถเข้าโรงแรงหรู ป่านแก้วหยุดชะงัก ขิมหัวเราะขบขันกับท่าทีอีกของฝ่ายหญิง
“ไม่พามาปล้ำหรอกน่า อาหารข้างบนนี้อร่อยดี”
“ไม่ใช่เรื่องกิน”
“อย่าบอกว่าเรื่องนอนล่ะ” เขาเย้าเล่นอย่างนึกสนุก ป่านแก้วใช้ศอกกระทุ้งหน้าอีกฝ่าย ค่อนข้างแรง ทำเอาคนตัวโตจุกแอด บ่นเสียงอ่อยไม่สมตัวว่า
“เอาแรงมาจากไหนนักนะป่าน ตัวก็นิดเดียว อุย”
“ออกรถเร็ว”
“แค่ล้อเล่น ไม่เห็นต้องกลัวขิมเลย อาหารที่นี่อร่อยจริงๆ”
“ไปที่หอศิลป์เถอะ”
“ที่นั่นมีข้าวกินเหรอ” ขิมถามกึ่งประชดเพราะความหิว
“ไปดูภาพเขียนกัน”
“เวลานี้เวลากินนะป่าน” น้ำเสียงของขิมแทบจะโหยเพราะเริ่มหิวจัด ป่านแก้วเปิดกระเป๋าถือหยิบห่อขนมปังส่งให้คนตัวโต เขาชะงักไปนิดหนึ่ง
“หิวก็กินนี่ก่อน”
“ภาพเขียนอะไรจะสำคัญกว่าข้าว” บ่นพึมพำแต่ก็รับขนมปังแกะกิน ก่อนจะออกรถ ป่านแก้วหันไปที่เบาะด้านหลังเอื้อมไปหยิบกระบอกน้ำที่เหลือบเห็นวางอยู่ มารินน้ำส่งให้อีกฝ่ายแก้คอแห้งหลังจากกินขนมปัง
ภาพในความหลังครั้งเก่าผุดขึ้นมาให้สองหนุ่มสาวได้เห็นเป็นเรื่องเดียวกัน เด็กหญิงตัวเล็กส่งขนมให้เพื่อนตัวโต ที่หิวจัดกิน ติดๆ กันหลายห่อจนติดคอ ขิมชี้ไปที่น้ำตาเหลือกพูดไม่ออก เด็กหญิงหยิบขันน้ำได้ก็ราดโครมลงบนหัวเพื่อน ขิมเลยหงายท้องตาเหลือกค้าง เจ้าพันซึ่งเล่นอยู่กับพวกใกล้กระโดดเข้ามาหาคนทั้งสอง จับขิมลุกขึ้นทุบหลังอึก อึก จนกระทั่งขนมที่ติดคอหลุดออกมา ขิมเอ่ยว่า
“เห็นเธอถือน้ำตอนนี้ คิดว่าจะราดหัวเราเหมือนตอนเป็นเด็กซะอีก” เขาเอ่ยพาดพิงถึงความหลัง แล้วจึงอ้าปากรับการป้อนน้ำจากเพื่อน
หลังจากนั้นป่านแก้วแทบจะลากคนตัวโตให้เดินกึ่งวิ่งไปถามประชาสัมพันธ์
“ชื่อจริงของสัจจะธรรม จิตรกรที่เขียนภาพท้องทุ่งชื่ออะไรคะ”
“ชื่อจริงก็สัจจะธรรม”
ป่านแก้วแสดงสีหน้าผิดหวังชัดเจน นามสกุลที่แจ้งก็ไม่ใช้ของเพื่อนรัก ขิมมองภาพเขียนงดงามภาพต่างๆ จนมาหยุดที่ภาพรางวัลชมเชย “ท้องทุ่งในฤดูหนาว”
“จ๊ะ”
“ขิมก็คิดเหมือนป่านใช่มั้ยล่ะว่าต้องเป็นจ๊ะ”
เขาจ้องมองรายละเอียดทั้งหมดของภาพ เด็กชายสี่คนวิ่งตามเด็กหญิงผมเปีย “ประพันธ์” คนหมายถึงเด็กคนหลังสุดเสื้อผ้าขาดหากยังยิ้มชัด ในหน้าแล้งท้องฟ้าใสทุ่งหญ้าเขียวเป็นสีน้ำตาลทอง หากในความหนาวแสดงความอบอุ่นสดใสของเด็กๆ
ขิมเดินกลับไปที่ประชาสัมพันธ์ ซักถามถึงจิตรกรผู้เขียนภาพ ย้ำถามคำถามซ้ำๆ จนประชาสัมพันธ์สาวชักไม่แน่ใจว่าชายหญิงคู่นี้ประสาทหรือเปล่า
“จิตรกรคนนี้พักอยู่ที่ไหนครับ” ถ้าผู้ชายสนใจอะไรสักอย่างจะไม่เลิกล้มความตั้งใจง่ายๆ ป่านแก้วพึ่งรู้ในวันนี้ เมื่อเธอเห็นว่าชื่อและนามสกุลไม่ใช่ก็เลิกล้มความตั้งใจ ซึ่งต่างจากขิม ชายหนุ่มถามทุกอย่างเพื่อให้ได้ความกระจ่าง ครั้นไม่ได้จริงๆ ก็อยากพบตัวให้รู้ดำรู้เเดงไปเลย
"ตามหาเขายากค่ะเพราะอยู่ต่างจังหวัดไม่ค่อยได้เข้ามา รับรางวัลเเล้วก็ไม่ได้มาอีก"
"ขายมั้ยครับภาพนี้” นั้นเป็นทางเดียวที่จะติดต่อกับจิตรกรได้
"ไม่ได้ขายค่ะ”
"เช่นนั้นจะแสดงภาพอีกกี่วันครับ"
ขิมเคาะนิ้ว กับเคาน์เตอร์ประชาสัมพันธ์อย่างครุ่นคิด ก่อนนึกอะไรได้บางอย่าง จึงล้วงเข้าไปในกระเป๋าเสื้อสูทหยิบนามบัตรออกมาเขียนอะไรบางอย่างส่งให้ประชาสัมพันธ์
"กรุณาส่งให้กับจิตรกรด้วยนะครับผมขอร้อง"
เจ้าหน้าที่สาวแม้ไม่เข้าใจว่าชายผู้นี้ติดใจอะไรกับจิตรกรนักหนา แต่เพราะความหล่อคมจัดเเละรอยยิ้มหวานเยิ้มของเขา ทำให้เธอเต็มใจอย่างยิ่งที่จะบริการ
“ขอบคุณนะครับ ผมไปก่อนละ”
ขิมหมุนกายกลับไปพร้อมป่านแก้ว ทิ้งให้สองสาววิจารณ์การกระทำของชายหนุ่ม
"สงสัยชอบภาพนี้มากรางวัลที่ 1 ที่สองไม่ยักสนใจ สองประชาสัมพันธ์ซุบซิบกัน เมื่อชายหญิงคู่นั้นเดินกลับไปยืนเพ่งพิศภาพวาดรางวัลชมเชยนั้นอีก
"ไม่มีเหตุผลที่จะไม่ใช้จ๊ะ"
"แต่ว่าเขาลึกลับ"
"เราว่าเขาอยากพบพวกเราถึงดึงภาพนี้ออกมาเป็นสื่อพวกเราไม่เคยลือกันหรอก จริงมั้ยป่าน"ขิม หันมาถามคนข้างกาย
หญิงสาวพยักหน้ารับ ไม่มีสักวันที่ลืมเพื่อน แม้แต่ผู้ชายคนที่เธอคิดว่ารัก ยังคิดถึงไม่เท่ากับเพื่อนในวัยเยาว์ ชายผู้จากไปแล้วเคยต่อว่าภาพวาดของเด็กชายวัยสิบขวบ
"ภาพบ้าๆ บอๆ ใส่กรอบเสียหรู ไม่อายใครเขาหรือไงว่าไร้รสนิยม"
หญิงสาวไม่นำพาความคิดของใครเพราะเธอเห็นเป็นสิ่งแทนใจ จึงมีเหตุผลโต้ตอบกลับไปเสมอ
"เด็กประถมเขียนแค่นี้ก็นับว่าสวยเเล้ว"
"สวยอะไรได้สีสันก็ไม่ได้เรื่อง สัดส่วนของภาพ ก็เหลื่อมล้ำไม่สวย"
"เป็นของเพื่อน เป็นสิ่งมีค่าอย่าวิจารณ์ได้มั้ย"
"ล้อเล่นก็โกรธ ถามหน่อยเถอะคนเขียนภาพนี้สำคัญกว่าผมหรือ"
ป่านแก้วไม่ตอบ แต่นึกถึงคนให้อยู่เสมอ สัจจะ จ๊ะของป่านแก้ว!

ป่านเเก้วให้ขิมเลี้ยวรถไปนอกเมือง ขิมตามใจอีกฝ่ายจนมาหยุดอยู่ที่ร้านอาหารแบบราคาเป็นกันเอง
"นั่งแบบนี้ดีกว่าโรงเเรมเยอะเลย"
"ที่ไหนก็ได้ เวลานี้เราหิวจนไส้เเขวนแล้วล่ะ" ขิมบ่น ท้องร้องบอกว่าหิวจริง
กุ้งเผาตัวโตนานาชนิดวางจนเต็มโต๊ะจนเลือกกินไม่ถูก ขิมแสร้งอุทานตาโต ทำทีท่าว่าหิวจนสามารถกินกุ้งทั้งเปลือกได้




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 21 ส.ค. 2554, 08:21:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 21 ส.ค. 2554, 08:21:37 น.

จำนวนการเข้าชม : 2090





<< การกลับมาของเพื่อนเก่า   ตอนที่10 ขั้นของคำว่าเพื่อน >>
จิงโกะ 21 ส.ค. 2554, 08:40:46 น.
เป็นจ๊ะจริงๆ ใช่ไหม?


mommy 21 ส.ค. 2554, 16:08:36 น.
คร้ายยย เป็นพระเอกเนี้ย


Zephyr 21 ส.ค. 2554, 21:29:08 น.
อืม เปิดตัวว่าที่พระเอกมาหนึ่งอย่างละเอียด อีกหนึ่งยังมัวๆอยู่ อีกสองล่ะคะ เปิดได้ยังเอ่ย


nutcha 21 ส.ค. 2554, 22:04:22 น.
มิตรภาพเก่าๆ กำลังจะกลับมาแล้ว


nutcha 21 ส.ค. 2554, 22:04:24 น.
มิตรภาพเก่าๆ กำลังจะกลับมาแล้ว


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account