เลื่อมลายพรายจันทร์: ดุจดาริน (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
'ดมิสา' เกิดมาพร้อมกับสิ่งที่ถูกเรียกว่า พลังจิต
ท่ามกลางชีวิตที่ราวกับถูกสาปด้วย พร จาก สวรรค์
เธอได้พบกับชายหนุ่มแสนดีที่พร้อมจะฉุดเธอออกมาจากเรือนเสน่ห์จันทน์
...โดยหารู้ไม่ว่าเขามีแผนการบางอย่างกับเธอ…
'จิณไตย' สูญเสียภรรยาไปถึงสองคนจากการแต่งงานสองครั้ง
และที่สำคัญ ภรรยาทั้งสองของเขากำลังตั้งครรภ์ด้วย
ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์แห่งฝันร้าย และความไม่เข้าใจในสิ่งที่เผชิญ
โดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมทั้งหมดนั้น มีใครคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง…
'ใคร' ที่หมายจะสังหารภรรยาทุกคนของเขาให้ตายคามือ!!!
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย ดุจดาริน(พิมาลินย์) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ นางเอกเป็นหมอเด็กที่มีพลังจิต! และสามารถมองเห็นภูตผีวิญญาณได้ค่ะ ระวัง อย่าทำให้นางโกรธเชียว…
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อเลื่อมลายพรายจันทร์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (เลื่อมลายพรายจันทร์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(เลื่อมลายพรายจันทร์ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนรองในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
ท่ามกลางชีวิตที่ราวกับถูกสาปด้วย พร จาก สวรรค์
เธอได้พบกับชายหนุ่มแสนดีที่พร้อมจะฉุดเธอออกมาจากเรือนเสน่ห์จันทน์
...โดยหารู้ไม่ว่าเขามีแผนการบางอย่างกับเธอ…
'จิณไตย' สูญเสียภรรยาไปถึงสองคนจากการแต่งงานสองครั้ง
และที่สำคัญ ภรรยาทั้งสองของเขากำลังตั้งครรภ์ด้วย
ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์แห่งฝันร้าย และความไม่เข้าใจในสิ่งที่เผชิญ
โดยไม่รู้เลยว่าเหตุการณ์ฆาตกรรมทั้งหมดนั้น มีใครคนหนึ่งอยู่เบื้องหลัง…
'ใคร' ที่หมายจะสังหารภรรยาทุกคนของเขาให้ตายคามือ!!!
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย ดุจดาริน(พิมาลินย์) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ นางเอกเป็นหมอเด็กที่มีพลังจิต! และสามารถมองเห็นภูตผีวิญญาณได้ค่ะ ระวัง อย่าทำให้นางโกรธเชียว…
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อเลื่อมลายพรายจันทร์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (เลื่อมลายพรายจันทร์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และม่านมนตกานต์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(เลื่อมลายพรายจันทร์ เป็นเรื่องราวของหลานสาวคนรองในบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 8 -30%
หนังสือมาแล้วนะคะทุกคนนนนนน ตอนนี้เริ่มทยอยส่งแล้วค่ะ ^O^
ใครสนใจยังสามารถสั่งซื้อได้ในราคาสั่งจองน้าาา จนถึง 31 มกราคม 2563 ค่ะ
(หลังปิดจองแล้ว วางขายตามราคาปกและมีค่าส่ง ส่วนวางหน้าร้านมีแค่ที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ)
******************
จิณไตยขับรถไปจอดในซองรถจอดของบ้านเด็กกำพร้าแก้วฟ้า เขาไม่แปลกใจเลยที่ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของดมิสา จากที่เขาฟังจากอรจีรามา นอกจากจะเปิดคลินิกรักษาฟรี คิดแค่ค่ายากับวัคซีนแล้ว ดมิสามักหาเวลาออกค่ายอาสาอยู่บ่อยครั้ง และเดินทางไปวัดป่าอิสราภรณ์บ่อยๆ ไม่ว่าจะไปเยี่ยมแม่ชีดาราวลี พระอาจารย์ดิน หรือไปบวชชีพราหมณ์รักษาศีลก็ตาม
วิถีชีวิตของเธอเรียบง่าย ไม่หวือหวา ที่เขารู้เกี่ยวกับดมิสาก็มีเพียงเท่านี้ แน่นอนว่าการเข้าวัดทำบุญไม่ใช่เครื่องการันตีว่าคนคนนั้นเป็น คนดี จิณไตยเองเติบโตในครอบครัวชาวพุทธ ก่อนจะเสียชีวิต บิดามารดาพาเขาเข้าวัดทำบุญเสมอ ชายหนุ่มได้รู้เห็นเรื่องราวในวัดทั้งดี แย่ และการเกทับกันว่าใครบุญหนักศักดิ์ใหญ่กว่าระหว่างพุทธศาสนิกชนด้วยกันบ่อยครั้ง
แต่ดมิสาไม่เหมือนคนพวกนั้น ไม่เลยสักนิด จากที่เขาคอยมองตามสังเกตเธอก่อนจะเข้าไปทำความรู้จัก ดมิสาไม่ยุ่งกับใครนอกจากทำงานด้วยกัน อย่างเช่นล้างจานชาม ขัดห้องน้ำ เธอยิ้มและพูดคุยปกติ สนทนาธรรมบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยอวดตัวว่าเก่งหรือวิเศษมาจากไหน อรจีราบอกว่ามารู้ว่าดมิสาเป็นแพทย์ก็เพราะขอแอดไลน์แล้วรูปของดมิสาใส่เสื้อกาวน์ ก่อนหน้านั้นไปบวชแล้วเจอกันหลายครั้งแล้ว ดมิสาก็ไม่ได้โอ้อวดอะไรเลย เธอปฏิบัติตัวอย่างพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งเสมอมา
‘น้องมิ้งค์เป็นหลานพระดินด้วยค่ะ เธอนามสกุลอิสราภรณ์เหมือนชื่อวัดเลย’ อรจีราเพิ่งเล่าให้ฟังวันก่อน
‘นี่จีเพิ่งขอเฟซบุ๊กน้องมาเลยเห็นนามสกุลค่ะ คบกันมาตั้งนานไม่เคยรู้เลย คิดว่าไปบ่อยเพราะแม่ชีดาราบวชที่นั่นซะอีก’
อรจีราละไว้ไม่ได้พูดถึงเถลิงเกียรติที่หล่อนเห็นเขาโพสต์คุยกับดมิ สามุ้งมิ้งกันในเฟซบุ๊ก แบบที่ใครก็ดูออกว่าชายหนุ่มเป็นเกย์ โธ่! เธออุตส่าห์เชียร์คู่นี้มานาน มิน่า สนิทกันขนาดนั้นแต่ไม่ยอมลงเอยกันเสียที แต่ก็คงเป็นผลดีกับบอสของหล่อน นี่เงียบไปไม่กี่วัน มาถามนู่นนี่เกี่ยวกับดมิสาอีกแล้ว
‘นี่บอสจะจีบมิ้งค์เหรอคะ’
เลขาสาวยิงคำถามตรงจุดจนจิณไตยแทบจะเซ แต่เขาก็หัวเราะแก้เก้อ และยอมรับตรงๆ
‘ถ้าไม่มีเรื่องวิกับนุช...ผมอาจจีบเธออย่างที่คุณว่า’ เขาอัดแน่นในอกเมื่อคิดถึงภรรยาทั้งสองที่ด่วนจากไปพร้อมลูกน้อยในครรภ์ ‘แต่...คุณก็รู้ว่าผม...’
‘แล้วบอสจะถามถึงมิ้งค์ไปทำไมล่ะคะ’
คำถามจี้จุดแบบนี้หากเป็นเลขาของคนอื่น อรจีราคงเตรียมตัวตกงาน แต่เพราะร่วมงานกันมานาน เธอรู้ว่าจิณไตยมองเธอเหมือนเป็นเพื่อน เป็นญาติ เพราะเธอล่มหัวจมท้ายกับเขามาตั้งแต่จิณไตยเรียนจบและเข้ามาศึกษางานเพื่อรับตำแหน่งประธานบริษัทจากผู้จัดการมรดกต่อไป เนื่องจากบิดามารดาของเขาเสียชีวิตไปนานแล้วด้วยอุบัติเหตุ อีกเหตุผลคืออรจีราก็ห่วงใยจิณไตยมาก หากมีอะไรที่เธอสามารถช่วยให้เขามีความสุขได้ เธอจะช่วยเต็มที่
และตอนนี้ดูเหมือนบอสของเธอจะสับสนจนไม่กล้าเดินไปข้างหน้าแล้ว
จิณไตยนิ่งไป ไม่ตอบอะไรอีก อรจีราจึงเขียนไอดีไลน์ของดมิสาใส่ในกระดาษโน้ตวางไว้ให้บนโต๊ะ
‘นี่ไลน์ไอดีของน้องมิ้งค์ค่ะ บอสต้องคิดเอาเองแล้วละว่าจะเดินหน้าต่อ หรือจะหยุดแค่นี้ จีไม่รู้นะว่าวันนั้นที่ไปเจอกัน บอสกับมิ้งค์คุยอะไรกันบ้าง น้องมิ้งค์มีท่าทีจะชอบบอสไหม จีก็เดาไม่ออก แต่ถ้าบอสจะจีบมิ้งค์จริงๆ จีแนะนำว่าควรเล่าเรื่องภรรยาสองคนแรกของบอสให้มิ้งค์รู้ค่ะ มิ้งค์มีสิทธิ์รู้ แต่ถ้าบอสไม่จริงจัง จีฝากทิ้งเศษกระดาษใบนี้ และจีขอ...อย่าไปยุ่งกับมิ้งค์อีก น้องมิ้งค์เป็นคนดี จีไม่อยากเห็นน้องเสียใจ’
โดยไม่กลัวตกงาน อรจีราเดินออกจากห้องทำงานของท่านประธานบริษัทไปสะสางงานของตัวเองบ้าง ส่วนเรื่องของหัวใจ ต้องให้เจ้าตัวเขาหาคำตอบเอง...
แล้วจิณไตยก็ตัดสินใจได้ ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าบ้านเด็กกำพร้าแก้วฟ้า และเธอคงอยู่ข้างในนั้น เพราะนอกจากรถของเขาแล้ว ในที่จอดรถของแขกมีแค่ฟอร์ดสีขาวคันเล็กคันเดียวจอดอยู่ จิณไตยลองจับกระโปรงหน้ารถดู ก็พอเดาได้ว่าเธอมาถึงก่อนได้พักใหญ่แล้ว
บ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวหลังเล็ก กลางเก่ากลางใหม่ ด้านนอกถูกทาด้วยสีฟ้าสดใส เมื่อเดินเข้าไปจึงพบว่าภายในเป็นสีเนื้อไม้ เขาเห็นดมิสาอยู่ที่ห้องโถง เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย แค่เห็นถุงก็รู้ว่าเป็นเค้กร้านดังที่เคยได้ยินว่าต้องต่อคิวรอนาน ส่วนดมิสายืนคุยอยู่กับหญิงวัยกลางคน ในอ้อมแขนของเธอมีเด็กทารกนอนนิ่งในห่อผ้า
ชายหนุ่มชะงัก รู้สึกตื้อไปทั้งอก
หากนุชชารีย์ยังไม่จากไป ลูกชายของเขาคงมีอายุเดือนเท่าเด็กในอ้อมแขนของดมิสาเลย
((((eBook โหลดได้ที่เว็บ Mebmarket))))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ใครสนใจยังสามารถสั่งซื้อได้ในราคาสั่งจองน้าาา จนถึง 31 มกราคม 2563 ค่ะ
(หลังปิดจองแล้ว วางขายตามราคาปกและมีค่าส่ง ส่วนวางหน้าร้านมีแค่ที่ ศูนย์หนังสือจุฬาฯ)
******************
จิณไตยขับรถไปจอดในซองรถจอดของบ้านเด็กกำพร้าแก้วฟ้า เขาไม่แปลกใจเลยที่ที่นี่เป็นจุดหมายปลายทางของดมิสา จากที่เขาฟังจากอรจีรามา นอกจากจะเปิดคลินิกรักษาฟรี คิดแค่ค่ายากับวัคซีนแล้ว ดมิสามักหาเวลาออกค่ายอาสาอยู่บ่อยครั้ง และเดินทางไปวัดป่าอิสราภรณ์บ่อยๆ ไม่ว่าจะไปเยี่ยมแม่ชีดาราวลี พระอาจารย์ดิน หรือไปบวชชีพราหมณ์รักษาศีลก็ตาม
วิถีชีวิตของเธอเรียบง่าย ไม่หวือหวา ที่เขารู้เกี่ยวกับดมิสาก็มีเพียงเท่านี้ แน่นอนว่าการเข้าวัดทำบุญไม่ใช่เครื่องการันตีว่าคนคนนั้นเป็น คนดี จิณไตยเองเติบโตในครอบครัวชาวพุทธ ก่อนจะเสียชีวิต บิดามารดาพาเขาเข้าวัดทำบุญเสมอ ชายหนุ่มได้รู้เห็นเรื่องราวในวัดทั้งดี แย่ และการเกทับกันว่าใครบุญหนักศักดิ์ใหญ่กว่าระหว่างพุทธศาสนิกชนด้วยกันบ่อยครั้ง
แต่ดมิสาไม่เหมือนคนพวกนั้น ไม่เลยสักนิด จากที่เขาคอยมองตามสังเกตเธอก่อนจะเข้าไปทำความรู้จัก ดมิสาไม่ยุ่งกับใครนอกจากทำงานด้วยกัน อย่างเช่นล้างจานชาม ขัดห้องน้ำ เธอยิ้มและพูดคุยปกติ สนทนาธรรมบ้างเป็นครั้งคราว แต่ไม่เคยอวดตัวว่าเก่งหรือวิเศษมาจากไหน อรจีราบอกว่ามารู้ว่าดมิสาเป็นแพทย์ก็เพราะขอแอดไลน์แล้วรูปของดมิสาใส่เสื้อกาวน์ ก่อนหน้านั้นไปบวชแล้วเจอกันหลายครั้งแล้ว ดมิสาก็ไม่ได้โอ้อวดอะไรเลย เธอปฏิบัติตัวอย่างพุทธศาสนิกชนคนหนึ่งเสมอมา
‘น้องมิ้งค์เป็นหลานพระดินด้วยค่ะ เธอนามสกุลอิสราภรณ์เหมือนชื่อวัดเลย’ อรจีราเพิ่งเล่าให้ฟังวันก่อน
‘นี่จีเพิ่งขอเฟซบุ๊กน้องมาเลยเห็นนามสกุลค่ะ คบกันมาตั้งนานไม่เคยรู้เลย คิดว่าไปบ่อยเพราะแม่ชีดาราบวชที่นั่นซะอีก’
อรจีราละไว้ไม่ได้พูดถึงเถลิงเกียรติที่หล่อนเห็นเขาโพสต์คุยกับดมิ สามุ้งมิ้งกันในเฟซบุ๊ก แบบที่ใครก็ดูออกว่าชายหนุ่มเป็นเกย์ โธ่! เธออุตส่าห์เชียร์คู่นี้มานาน มิน่า สนิทกันขนาดนั้นแต่ไม่ยอมลงเอยกันเสียที แต่ก็คงเป็นผลดีกับบอสของหล่อน นี่เงียบไปไม่กี่วัน มาถามนู่นนี่เกี่ยวกับดมิสาอีกแล้ว
‘นี่บอสจะจีบมิ้งค์เหรอคะ’
เลขาสาวยิงคำถามตรงจุดจนจิณไตยแทบจะเซ แต่เขาก็หัวเราะแก้เก้อ และยอมรับตรงๆ
‘ถ้าไม่มีเรื่องวิกับนุช...ผมอาจจีบเธออย่างที่คุณว่า’ เขาอัดแน่นในอกเมื่อคิดถึงภรรยาทั้งสองที่ด่วนจากไปพร้อมลูกน้อยในครรภ์ ‘แต่...คุณก็รู้ว่าผม...’
‘แล้วบอสจะถามถึงมิ้งค์ไปทำไมล่ะคะ’
คำถามจี้จุดแบบนี้หากเป็นเลขาของคนอื่น อรจีราคงเตรียมตัวตกงาน แต่เพราะร่วมงานกันมานาน เธอรู้ว่าจิณไตยมองเธอเหมือนเป็นเพื่อน เป็นญาติ เพราะเธอล่มหัวจมท้ายกับเขามาตั้งแต่จิณไตยเรียนจบและเข้ามาศึกษางานเพื่อรับตำแหน่งประธานบริษัทจากผู้จัดการมรดกต่อไป เนื่องจากบิดามารดาของเขาเสียชีวิตไปนานแล้วด้วยอุบัติเหตุ อีกเหตุผลคืออรจีราก็ห่วงใยจิณไตยมาก หากมีอะไรที่เธอสามารถช่วยให้เขามีความสุขได้ เธอจะช่วยเต็มที่
และตอนนี้ดูเหมือนบอสของเธอจะสับสนจนไม่กล้าเดินไปข้างหน้าแล้ว
จิณไตยนิ่งไป ไม่ตอบอะไรอีก อรจีราจึงเขียนไอดีไลน์ของดมิสาใส่ในกระดาษโน้ตวางไว้ให้บนโต๊ะ
‘นี่ไลน์ไอดีของน้องมิ้งค์ค่ะ บอสต้องคิดเอาเองแล้วละว่าจะเดินหน้าต่อ หรือจะหยุดแค่นี้ จีไม่รู้นะว่าวันนั้นที่ไปเจอกัน บอสกับมิ้งค์คุยอะไรกันบ้าง น้องมิ้งค์มีท่าทีจะชอบบอสไหม จีก็เดาไม่ออก แต่ถ้าบอสจะจีบมิ้งค์จริงๆ จีแนะนำว่าควรเล่าเรื่องภรรยาสองคนแรกของบอสให้มิ้งค์รู้ค่ะ มิ้งค์มีสิทธิ์รู้ แต่ถ้าบอสไม่จริงจัง จีฝากทิ้งเศษกระดาษใบนี้ และจีขอ...อย่าไปยุ่งกับมิ้งค์อีก น้องมิ้งค์เป็นคนดี จีไม่อยากเห็นน้องเสียใจ’
โดยไม่กลัวตกงาน อรจีราเดินออกจากห้องทำงานของท่านประธานบริษัทไปสะสางงานของตัวเองบ้าง ส่วนเรื่องของหัวใจ ต้องให้เจ้าตัวเขาหาคำตอบเอง...
แล้วจิณไตยก็ตัดสินใจได้ ตอนนี้เขายืนอยู่หน้าบ้านเด็กกำพร้าแก้วฟ้า และเธอคงอยู่ข้างในนั้น เพราะนอกจากรถของเขาแล้ว ในที่จอดรถของแขกมีแค่ฟอร์ดสีขาวคันเล็กคันเดียวจอดอยู่ จิณไตยลองจับกระโปรงหน้ารถดู ก็พอเดาได้ว่าเธอมาถึงก่อนได้พักใหญ่แล้ว
บ้านเด็กกำพร้าแห่งนี้เป็นอาคารไม้ชั้นเดียวหลังเล็ก กลางเก่ากลางใหม่ ด้านนอกถูกทาด้วยสีฟ้าสดใส เมื่อเดินเข้าไปจึงพบว่าภายในเป็นสีเนื้อไม้ เขาเห็นดมิสาอยู่ที่ห้องโถง เห็นเด็กกลุ่มหนึ่งกำลังกินเค้กกันอย่างเอร็ดอร่อย แค่เห็นถุงก็รู้ว่าเป็นเค้กร้านดังที่เคยได้ยินว่าต้องต่อคิวรอนาน ส่วนดมิสายืนคุยอยู่กับหญิงวัยกลางคน ในอ้อมแขนของเธอมีเด็กทารกนอนนิ่งในห่อผ้า
ชายหนุ่มชะงัก รู้สึกตื้อไปทั้งอก
หากนุชชารีย์ยังไม่จากไป ลูกชายของเขาคงมีอายุเดือนเท่าเด็กในอ้อมแขนของดมิสาเลย
((((eBook โหลดได้ที่เว็บ Mebmarket))))
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ม.ค. 2563, 17:01:12 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ม.ค. 2563, 17:01:12 น.
จำนวนการเข้าชม : 422
<< บทที่ 7 -100% | บทที่ 8 -60% >> |