ล่า | หลอน | เลือด
ในชีวิตจริงบางครั้งก็โหดร้าย พลิกผัน เปลี่ยนแปลงเกินความคาดหมาย เหตุอันตรายเกิดขึ้นได้ทุกที่ กับทุกคน และหลายครั้งเป็นคนใกล้ชิดของเราเองนั่นแหละที่เป็นต้นเรื่อง "ล่า หลอน เลือด" นี้เป็นรวมเรื่องเล่าจากเค้าโครงเรื่องจริง เรื่องบางเรื่องเกิดในพื้นที่ ประเทศ เชื้อชาติ ที่แตกต่างกัน แต่กลับมีความคล้ายกันโดยน่าประหลาด หวังว่านอกจากความบันเทิงที่ได้จากการอ่าน เรื่องราวทั้งหลายต่อไปนี้ อาจใช้เป็นบทเรียนให้กับผู้อ่านได้
Tags: คดี, ฆาตกรรม, สยองขวัญ
ตอน: แฟ้มคดีที่ 2: I have to kill them #4
การหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยของ ชาแนน เบลล่า และซีซี สามแม่ลูกตระกูลวัตต์ ได้รับความสนใจจากตำรวจเป็นอย่างมาก เนื่องจากทั้งสามมีปัจจัยเสี่ยงเรื่องสุขภาพ คนเป็นแม่กำลังท้อง มีประวัติมีปัญหาทางสุขภาพระหว่างท้องลูกคนก่อนๆ ในขณะที่เด็กๆ ก็มีปัญหาเรื่องภูมิแพ้อย่างแรง การหายตัวไปโดยที่ทรัพย์สินอย่างอื่นรวมถึงยาที่จำเป็นยังอยู่ครบ เป็นเรื่องที่ผิดปกติอย่างมากในสายตาของตำรวจ และคนใกล้ชิด
น่าแปลก ตำรวจนายหนึ่งได้ระบุไว้ในเอกสารว่า ระหว่างการตรวจสอบหาหลักฐานในบริเวณบ้านเพิ่มเติม ตัวสามีของชาแนน กลับมีอาการสงบ ไม่ลุกลี้ลุกลน หรือวิตกกังวลเท่าที่ควร จากประสบการณ์ของการเป็นตำรวจมาหลายปี เขาคิดว่า หากมีสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะลูกเล็กๆ หายไปถึงสองคนแบบนี้ ผู้เป็นพ่อแม่ จะมีอาการวิตกกังวล อยู่ไม่สุข หรือทำอะไรไม่ค่อยจะถูกมากกว่านี้
บวกกับสิ่งที่มิสเตอร์คริสโตเฟอร์ผู้เป็นพ่อ ซึ่งให้สัมภาษณ์นักข่าวในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 14 สิงหาคม หรือวันถัดมาจากที่เมียและลูกของเขาหายตัวไป
คำให้สัมภาษณ์ดูเรียบเรื่อย สีหน้าแววตาดูสงบนิ่ง ไม่วิตกกังวลเท่าที่ควร แถมประโยคทิ้งท้ายที่ผู้เป็นพ่อทิ้งไว้ยังดูเร็วเกินไปสำหรับการหายตัวไปเพียงวันเดียว
“บ้านทั้งบ้านดูว่างเปล่า ไม่เป็นบ้านอีกต่อไป เมื่อไม่มีพวกเด็กๆ อยู่ที่นี่อีกแล้ว”
มีบางคนตีความว่า ทำไมผู้เป็นพ่อด่วนสรุป การหายไปเพียงวันเดียวมันไม่ควรจะมีคำพูดคล้ายๆ กับว่าพวกเขาจะหายไปตลอดไป
ตำรวจเสียอีกที่ดูจะร้อนใจและเร่งทำงานแข่งกับเวลาในการตามหาสามแม่ลูกอย่างสุดกำลัง เริ่มจากเช้าวันที่ 14 สิงหาคม ตำรวจส่งสุนัขตำรวจจำนวนหนึ่งมาดมกลิ่นหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติม ส่งเจ้าหน้าที่หลายนายไปเคาะประตูบ้านในขุมขนใกล้เคียง เพื่อสอบถามข้อมูลเผื่อว่าจะมีใครพอรู้หรือเห็นอะไรบ้าง ไปขอไฟล์จากกล้องวงจรปิดจากบริเวณรอบๆ และเริ่มการโทรสัมภาษณ์ทั้งญาติ เพื่อนๆ คนรู้จัก รวมถึงคุณครูของลูกๆ
ในเวลาเดียวกันตำรวจอีกหนึ่งทีมที่เข้ามาหาหลักฐานที่บ้านเกิดเหตุอย่างละเอียดทุกซอกมุมอีกครั้ง เผื่อว่าเมื่อวันก่อนตำรวจสองนายแรกจะพลาดอะไรไป รวมถึงการให้เจ้าบ้านเซ็นตยินยอมให้ตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต มือถือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เผื่อว่าเจ้าหน้าที่เทคนิคจะหาร่องรอยของการหายไปของชาแนนได้จากทางนั้น
มีข้อสังเกตจากทีมตรวจสอบหลักฐานว่า มีสิ่งของหลายอย่างที่มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลง อาจด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของเจ้าของบ้าน เช่น ปลอกหมอน ซึ่งเดิมมันอยู่ในห้องนอนเด็ก ก็ย้ายมาอยู่ในถังเตรียมซัก ถุงมือสีฟ้า ที่เดิมอยู่ในห้องนอนก็หายไป ฯลฯ หลักฐานต่างๆ ที่เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกส่งไปให้เจ้าหน้าที่พิเศษ ดึงข้อมูลที่อาจจะเกี่ยวข้องทันที ในขณะที่วัตถุที่น่าสงสัยถูกส่งตรวจในห้องแล็บ
ที่ด้านหลังบ้าน ตำรวจพบกล่องหนังสือที่สั่งมาจากเว็บไซต์ Amazon มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ของครอบครัวซึ่งชาแนนสั่งให้สามี …แต่ตอนนี้มันอยู่ในถังขยะ ผู้เป็นสามีให้การว่าเขาต้องการแสดงให้ชาแนนเห็นว่าเขาไม่ต้องการกลับมาอยู่ด้วยกัน เขาต้องการยืนยันมั่นใจว่าอยากจะแยกกันอยู่ จึงทำแบบนั้น
นอกจากสองทีมนั้น ในวันเดียวกัน ตำรวจยังส่งอีกหนึ่งทีมไปสัมภาษณ์สองสามีภรรยา (เจอรมี / เจนนิเฟอร์) และลูกสาว (แมคเคนนา) ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว รู้จักกันมายาวนานกว่าแปดปี และในวันเสาร์ก่อนเกิดเรื่อง คริสบอกทุกคนว่าเขาไปดูแข่งบาสเกตบอลกับเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากได้บัตรฟรีมา และขอให้แมคเคนนามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้หนึ่งคืน คริสกลับมาตอนสี่ทุ่ม และวันถัดมาเขาพาเด็กๆ ไปเล่นกับเคเดน ลูกชายของเจอรมีและเจนนิเฟอร์ เป็นครั้งสุดท้ายที่ครอบครัวนี้เห็นเด็กทั้งสอง
หลังจากสัมภาษณ์คู่สามีภรรยาและลูก ตำรวจโทรไปสัมภาษณ์เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของคริสชื่อลุค และสอบถามเกี่ยวกับการไปดูเกมกีฬาดังกล่าวในวันเสาร์ เพื่อเช็กความสอดคล้องของข้อมูล ปรากฏว่า เพื่อนร่วมงานบอกว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย และไม่แน่ใจว่ามีคนอื่นในออฟฟิศชวนคริสหรือไม่
เรื่องราวเริ่มไม่สอดคล้องกัน คริสไปไหน กับใคร และมันเกี่ยวข้องกับการหายไปของเมียและลูกๆ ของเขาหรือไม่ หนังสือที่ชาแนนซื้อให้สามีและถูกทิ้งในถังขยะ การทะเลาะกันก่อนหายตัว สิ่งของที่ถูกเก็บกวาดอย่างเรียบร้อย ทุกอย่างล้วนเป็นข้อสงสัยที่ตำรวจต้องสอบเพิ่มเอากับชายหนุ่มที่ดูจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดนี้
คริสโตเฟอร์ ลี วัตต์ ถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบสวนในช่วงเย็นของวันที่ 14 สิงหาคม เป็นการสอบสวนที่ยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง…และแทบไม่ได้คำตอบอะไรเพิ่มเลย
สองวันแล้วที่ผู้หญิงท้องอ่อนและลูกเล็กๆ สองคนหายไป ตำรวจยิ่งกังวลใจหนักขึ้นเพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้นานกว่านั้น อันตรายอาจเกิดขึ้นกับทั้งสามคนจนไม่สามารถจะแก้ไขได้
น่าแปลก ตำรวจนายหนึ่งได้ระบุไว้ในเอกสารว่า ระหว่างการตรวจสอบหาหลักฐานในบริเวณบ้านเพิ่มเติม ตัวสามีของชาแนน กลับมีอาการสงบ ไม่ลุกลี้ลุกลน หรือวิตกกังวลเท่าที่ควร จากประสบการณ์ของการเป็นตำรวจมาหลายปี เขาคิดว่า หากมีสมาชิกในครอบครัว โดยเฉพาะลูกเล็กๆ หายไปถึงสองคนแบบนี้ ผู้เป็นพ่อแม่ จะมีอาการวิตกกังวล อยู่ไม่สุข หรือทำอะไรไม่ค่อยจะถูกมากกว่านี้
บวกกับสิ่งที่มิสเตอร์คริสโตเฟอร์ผู้เป็นพ่อ ซึ่งให้สัมภาษณ์นักข่าวในช่วงบ่ายของวันอังคารที่ 14 สิงหาคม หรือวันถัดมาจากที่เมียและลูกของเขาหายตัวไป
คำให้สัมภาษณ์ดูเรียบเรื่อย สีหน้าแววตาดูสงบนิ่ง ไม่วิตกกังวลเท่าที่ควร แถมประโยคทิ้งท้ายที่ผู้เป็นพ่อทิ้งไว้ยังดูเร็วเกินไปสำหรับการหายตัวไปเพียงวันเดียว
“บ้านทั้งบ้านดูว่างเปล่า ไม่เป็นบ้านอีกต่อไป เมื่อไม่มีพวกเด็กๆ อยู่ที่นี่อีกแล้ว”
มีบางคนตีความว่า ทำไมผู้เป็นพ่อด่วนสรุป การหายไปเพียงวันเดียวมันไม่ควรจะมีคำพูดคล้ายๆ กับว่าพวกเขาจะหายไปตลอดไป
ตำรวจเสียอีกที่ดูจะร้อนใจและเร่งทำงานแข่งกับเวลาในการตามหาสามแม่ลูกอย่างสุดกำลัง เริ่มจากเช้าวันที่ 14 สิงหาคม ตำรวจส่งสุนัขตำรวจจำนวนหนึ่งมาดมกลิ่นหาร่องรอยหลักฐานเพิ่มเติม ส่งเจ้าหน้าที่หลายนายไปเคาะประตูบ้านในขุมขนใกล้เคียง เพื่อสอบถามข้อมูลเผื่อว่าจะมีใครพอรู้หรือเห็นอะไรบ้าง ไปขอไฟล์จากกล้องวงจรปิดจากบริเวณรอบๆ และเริ่มการโทรสัมภาษณ์ทั้งญาติ เพื่อนๆ คนรู้จัก รวมถึงคุณครูของลูกๆ
ในเวลาเดียวกันตำรวจอีกหนึ่งทีมที่เข้ามาหาหลักฐานที่บ้านเกิดเหตุอย่างละเอียดทุกซอกมุมอีกครั้ง เผื่อว่าเมื่อวันก่อนตำรวจสองนายแรกจะพลาดอะไรไป รวมถึงการให้เจ้าบ้านเซ็นตยินยอมให้ตรวจค้นอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ระบบต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นอินเทอร์เน็ต มือถือ คอมพิวเตอร์ ฯลฯ เผื่อว่าเจ้าหน้าที่เทคนิคจะหาร่องรอยของการหายไปของชาแนนได้จากทางนั้น
มีข้อสังเกตจากทีมตรวจสอบหลักฐานว่า มีสิ่งของหลายอย่างที่มีการโยกย้ายเปลี่ยนแปลง อาจด้วยความตั้งใจหรือไม่ตั้งใจของเจ้าของบ้าน เช่น ปลอกหมอน ซึ่งเดิมมันอยู่ในห้องนอนเด็ก ก็ย้ายมาอยู่ในถังเตรียมซัก ถุงมือสีฟ้า ที่เดิมอยู่ในห้องนอนก็หายไป ฯลฯ หลักฐานต่างๆ ที่เป็นอุปกรณ์ทางอิเล็กทรอนิกส์ถูกส่งไปให้เจ้าหน้าที่พิเศษ ดึงข้อมูลที่อาจจะเกี่ยวข้องทันที ในขณะที่วัตถุที่น่าสงสัยถูกส่งตรวจในห้องแล็บ
ที่ด้านหลังบ้าน ตำรวจพบกล่องหนังสือที่สั่งมาจากเว็บไซต์ Amazon มันเป็นหนังสือเกี่ยวกับการพัฒนาความสัมพันธ์ของครอบครัวซึ่งชาแนนสั่งให้สามี …แต่ตอนนี้มันอยู่ในถังขยะ ผู้เป็นสามีให้การว่าเขาต้องการแสดงให้ชาแนนเห็นว่าเขาไม่ต้องการกลับมาอยู่ด้วยกัน เขาต้องการยืนยันมั่นใจว่าอยากจะแยกกันอยู่ จึงทำแบบนั้น
นอกจากสองทีมนั้น ในวันเดียวกัน ตำรวจยังส่งอีกหนึ่งทีมไปสัมภาษณ์สองสามีภรรยา (เจอรมี / เจนนิเฟอร์) และลูกสาว (แมคเคนนา) ซึ่งถือว่าเป็นเพื่อนสนิทของครอบครัว รู้จักกันมายาวนานกว่าแปดปี และในวันเสาร์ก่อนเกิดเรื่อง คริสบอกทุกคนว่าเขาไปดูแข่งบาสเกตบอลกับเพื่อนร่วมงาน เนื่องจากได้บัตรฟรีมา และขอให้แมคเคนนามาเป็นพี่เลี้ยงเด็กให้หนึ่งคืน คริสกลับมาตอนสี่ทุ่ม และวันถัดมาเขาพาเด็กๆ ไปเล่นกับเคเดน ลูกชายของเจอรมีและเจนนิเฟอร์ เป็นครั้งสุดท้ายที่ครอบครัวนี้เห็นเด็กทั้งสอง
หลังจากสัมภาษณ์คู่สามีภรรยาและลูก ตำรวจโทรไปสัมภาษณ์เพื่อนร่วมงานคนหนึ่งของคริสชื่อลุค และสอบถามเกี่ยวกับการไปดูเกมกีฬาดังกล่าวในวันเสาร์ เพื่อเช็กความสอดคล้องของข้อมูล ปรากฏว่า เพื่อนร่วมงานบอกว่าไม่รู้เรื่องเกี่ยวกับเรื่องนี้มาก่อนเลย และไม่แน่ใจว่ามีคนอื่นในออฟฟิศชวนคริสหรือไม่
เรื่องราวเริ่มไม่สอดคล้องกัน คริสไปไหน กับใคร และมันเกี่ยวข้องกับการหายไปของเมียและลูกๆ ของเขาหรือไม่ หนังสือที่ชาแนนซื้อให้สามีและถูกทิ้งในถังขยะ การทะเลาะกันก่อนหายตัว สิ่งของที่ถูกเก็บกวาดอย่างเรียบร้อย ทุกอย่างล้วนเป็นข้อสงสัยที่ตำรวจต้องสอบเพิ่มเอากับชายหนุ่มที่ดูจะเป็นศูนย์กลางของเรื่องราวทั้งหมดนี้
คริสโตเฟอร์ ลี วัตต์ ถูกตำรวจเชิญตัวไปสอบสวนในช่วงเย็นของวันที่ 14 สิงหาคม เป็นการสอบสวนที่ยาวนานกว่า 3 ชั่วโมง…และแทบไม่ได้คำตอบอะไรเพิ่มเลย
สองวันแล้วที่ผู้หญิงท้องอ่อนและลูกเล็กๆ สองคนหายไป ตำรวจยิ่งกังวลใจหนักขึ้นเพราะเกรงว่าหากปล่อยไว้นานกว่านั้น อันตรายอาจเกิดขึ้นกับทั้งสามคนจนไม่สามารถจะแก้ไขได้
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 4 ม.ค. 2563, 16:31:54 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 4 ม.ค. 2563, 16:31:54 น.
จำนวนการเข้าชม : 711
<< แฟ้มคดีที่ 2: I have to kill them #3 |
สิรินดา 4 ม.ค. 2563, 16:33:13 น.
เรื่องนี้เขียนจากเค้าโครงเรื่องจริง และปรับเพิ่มเติมน้อยมาก - - บางครั้ง เรื่องจริง ก็หนักหนายิ่งกว่านิยาย
เรื่องนี้เขียนจากเค้าโครงเรื่องจริง และปรับเพิ่มเติมน้อยมาก - - บางครั้ง เรื่องจริง ก็หนักหนายิ่งกว่านิยาย