Cause of Love...เล่ห์อำพรางใจ: เอบิช (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะความจำเป็นในชีวิต บีบบังคับให้ ‘มิวาร์’
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา

อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!

เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?


*********************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย

ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!


***************************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)

หนังสือพร้อมส่ง

จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)

ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 2 -50%

มิวาร์ขัดถูเนื้อตัวตนเองภายใต้สายน้ำอุ่นจัดแรงๆ เป็นระยะเวลานานจนผิวเนื้อของเธอขึ้นรอยแดงจ้ำเป็นจุดๆ แม้จะรู้ว่าตนมิได้ถูกไอ้หื่นนั่นล่วงเกินหลังจากขับรถที่ขโมยมาตรงไปหาเพื่อนหมอในโรงพยาบาลใกล้เคียงกับที่เธอทำงานอยู่ตรวจร่างกายให้เรียบร้อยแล้ว แต่กระนั้น...เธอก็ยังรู้สึกขยะแขยงตามจุดต่างๆ ที่มือของไอ้บ้านั่นสัมผัสเนื้อตัวเธอ

มิหนำซ้ำ เธอยังนึกเสียดายบิ๊กไบค์คู่ใจที่อันตรธานหายสาบสูญไปหลังจากอุบัติเหตุในหลายชั่วโมงก่อน บิ๊กไบค์ที่เจ้าของคนเก่ายกให้เธอฟรีๆ หลังจากที่เธอช่วยคลี่คลายคดีฆาตกรรมบุตรสาววัยแปดขวบของเขา เพราะเธอเป็นแพทย์ชันสูตรศพเด็กคนนั้นและช่วยเป็นพยานในชั้นศาลต่อสู้กับทนายความจำเลยซึ่งมีสถิติว่าความไม่เคยแพ้แก่ใครมาก่อน

ดูคาติ 899 Panigale รุ่นลิมิเต็ดอิดิชั่น ที่ชาตินี้ทั้งชาติเธอก็คงไม่มีปัญญาซื้อมาครอบครองได้ด้วยตัวเอง

นี่ถ้าย้อนเวลากลับไปได้...เธอจะไม่ทำตัวเป็นขาโจ๋กล้าท้าทายเสี่ยงตายอะไรแบบนั้นอีกเลย เข็ด!

ยิ่งกว่านั้น...เธอยังทิ้งกระเป๋าเงินกับเพจเจอร์คู่ใจไว้กับไอ้หมอนั่นด้วย ถ้าเธอไม่ตามไปทวงทั้งหมดคืนมา นั่นย่อมหมายความว่า...เธอจะต้องปวดหัวกับการวุ่นวายทำบัตรต่างๆ ใหม่ ลำพังแค่เพจเจอร์เธอยังไม่เสียดายเท่าไรเพราะมีติดตัวสองเครื่อง เครื่องหนึ่งอยู่ที่ทำงานเป็นเครื่องสำรองที่เธอซื้อมาด้วยเงินส่วนตัวของเธอเอง ไม่ได้ได้มาฟรีๆ จากงบประมาณของทางการ

กระนั้น...นี่เป็นครั้งแรกที่เธอนึกขอบคุณชีวิตในวัยเด็กของตัวเองที่ทำให้เธอหนีรอดพ้นไอ้หื่นกามมาได้อย่างหวุดหวิด เธอขโมยรถกระบะรุ่นเก๋ากึ้กมาได้ด้วยวิธีค้นพบกุญแจรถสำรองในช่องของแผงบังแดดซึ่งคนส่วนใหญ่มักจะเก็บไว้หลังจากไม่มีเวลาหาอุปกรณ์งัดแงะช่องกุญแจเพื่อต่อสายตรงได้ในเวลาอันจำกัด จากนั้นเธอก็ขับรถลงใต้พบบ้านไร่ของครอบครัวหนึ่งซึ่งตากผ้าไว้ข้างบ้าน เธอแอบจอดรถซุ่มไว้ในพงไม้แล้วเข้าไปขโมยเสื้อ ผ้าผู้หญิงมาชุดหนึ่ง และรีบผลัดเปลี่ยนแทนชุดคลุมที่สวมมาแต่แรก จาก นั้นก็ขับรถไปอีกเป็นระยะเกือบสองไมล์จึงจอดรถทิ้งข้างทาง เช็ดทำความสะอาดรอยนิ้วมือทั่วทั้งรถแล้วก็ออกเดินไปตามขอบถนน ก่อนจะโบกเรียกรถคันแรกที่ผ่านมา โชคดีที่คนขับเป็นหญิงวัยกลางคนใจดี นางรับเธอขึ้นรถแล้วพามายังนิวยอร์กซึ่งเป็นเส้นทางเดียวกับที่นางกำลังมุ่งไป

นึกถึงใบหน้าของไอ้บ้าจอมฉวยโอกาสแล้ว เธอก็ต้องถอนหายใจเซ็งๆ

น่าเสียดาย...หล่อออกขนาดนั้น แต่จิตกลับวิปริต!

เธอลืมไปได้ยังไงหนอว่า ผู้ชายดีๆ ในโลกไม่มีเหลืออยู่อีกแล้ว

ทันทีที่เท้าแตะลงบนพรมเช็ดเท้าหน้าห้องน้ำ เสียงโทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังกังวานขึ้น

“ว่าไงคะ แดเนียล มีเรื่องอีกแล้วหรือคะ” ปลายสายของเธอคือรองสารวัตรแดเนียล เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน

“ครับ...คุณหมอมาที่ห้องชันสูตรศพด่วนเลยนะครับ เราเพิ่งจัดการขนย้ายศพไปถึง”

“ค่ะ”

มิวาร์เดินทางด้วยรถไฟใต้ดินไปยังโรงพยาบาลที่เธอทำงานในอีกสิบห้านาทีต่อมา...โรงพยาบาลนิวยอร์ก เมดิคอล เป็นสถานที่ตั้งของสำนักงานชันสูตรศพที่เธอทำงานอยู่ มิวาร์แสดงบัตรผ่านต่อเจ้าหน้าที่เพื่อขอใช้ลิฟต์ตามระเบียบ แม้เจ้าหน้าที่จะจดจำหน้าตาของเธอจนชินแล้วก็ตาม โชคดีที่เธอเก็บบัตรผ่านไว้ในกระเป๋าสำรองเลยไม่หายสาบสูญไปพร้อมกระเป๋าเงิน

“ผมเพิ่งได้ยินข่าวว่า สำนักงานของเราสั่งเพิ่มถุงบรรจุศพขึ้นอีกห้าร้อยถุง จากเดิมแปดพันถุง ดูเหมือนสถิติการฆาตกรรมจะพุ่งสูงขึ้นอย่างน่ากลัวนะครับหมอ” เนลสัน เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมักชวนคุยเล็กๆ น้อยๆ เป็นประจำเสมอทุกครั้งที่เธอมาทำงาน

“สังคมเสื่อมทรามลง แต่เทคโนโลยีเติบโตขึ้น มันเป็นแบบนี้มานานแล้วล่ะเนล คุณน่าจะชินได้แล้วนะ” มิวาร์เองก็พูดคุยด้วยอย่างไม่ถือตัว เธอสนิทสนมกับเจ้าหน้าที่ทุกคนในโรงพยาบาล ยิ่งเลขากับดีเนอร์คู่ใจของเธอนั้นแทบเรียกได้ว่าเป็นเพื่อนสนิทที่รู้ใจกันอย่างถึงกึ๋นทีเดียว

“คงชินยากครับ” เนลสันทำท่าขนลุกซู่ “ทุกวันนี้ถ้าไม่จำเป็นผมยังไม่ค่อยอยากออกไปไหนมาไหนเลย ไม่รู้จะเดินไปชนไหล่ฆาตกรคนใดบ้าง”

คุณหมอสาวเพียงยิ้มๆ เพราะลิฟต์เลื่อนเปิดพอดี มิวาร์รับบัตรคืนและตรงไปกดปุ่มบนแผงสี่เหลี่ยม เพียงแค่สิบวินาที เธอก็ลงมาถึงชั้นใต้ดินของโรงพยาบาล กลิ่นความตายไม่เคยทำให้เธอกลัว...แต่พฤติกรรมการฆ่าเหยื่อของฆาตกรที่ดูจะรุนแรงและวิปริตมากขึ้นนั่นแหละที่ทำให้เธอนึกกลัว เธอก้าวฉับๆ เข้าไปในออฟฟิศ เห็นเจ้าหน้าที่แดเนียลกับคู่หูร่างเตี้ย และผู้ช่วยอัยการท้องถิ่น...เอ็ดเวิร์ด ไฮน์ นั่งดื่มน้ำตะไคร้เย็นซึ่งได้มาจากตู้เย็นในห้องทำงานของคาร่า...เลขานุการส่วนตัวของเธอ

“รอนานไหมคะ” เธอพูด

“ไม่นานครับ” แดเนียลตอบอย่างสุภาพ เสริมต่อว่า

“ผู้ตายชื่อเอลเลน คนสุดท้ายที่ได้คุยกับเขาอยู่ในระหว่างสืบสวน เราพบศพเมื่อตอน ๑๔.๓๕ น. ในบ้านของเธอที่ย่านฮาร์เลม จากการสืบสวนเบื้องต้นเราพบว่า...” จากนั้นรองสารวัตรแดเนียลก็เล่าเหตุการณ์ที่มาที่ไปของการเกิดเหตุฆาตกรรมตามทฤษฎีการวิเคราะห์ที่เรียนรู้มา

“ฉันขอตัวไปเปลี่ยนชุดก่อนนะคะ แล้วเราจะได้เริ่มงานกันเลย”

“ครับ” แดเนียลยิ้ม

มิวาร์เดินตรงไปยังห้องล็อกเกอร์เครื่องแต่งตัวสำหรับการชันสูตรศพ เธอพบแองเจลลิก้ากับคาร่ากำลังยืนคุยกันตรงมุมหนึ่งของห้อง ดีเนอร์สาวเรียบร้อยแล้วในชุดสำหรับการชันสูตรศพ ส่วนคาร่ายังคงเรียบหรูในชุดสูทราคาห้าพันเหรียญ เจ้าหน้าที่ในสำนักงานชันสูตรศพแห่งนี้ ดูเหมือนคาร่าจะฟู่ฟ่าที่สุดเพราะเธอเป็นลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจใหญ่ แต่หัวใจเธอรักอิสระเสรี ไม่ชอบทำงานในบริษัทของครอบครัว และการที่เธอมาสมัครงานเป็นเลขานุการ ณ ที่แห่งนี้เพราะเธอเป็นแฟนพันธุ์แท้ของมิวาร์ เมื่อมิวาร์ยินยอมรับเธอเข้าทำงาน...เธอเคยบอกแพทย์ชันสูตรสาวครั้งหนึ่งว่า เธอกินไม่ได้นอนไม่หลับถึงสองคืนเพราะตื่นเต้นดีใจมาก!

“คาร่าจ๊ะ น้ำตะไคร้ใกล้หมดหรือยัง”

มิวาร์ถาม พลางก้าวเดินไปยังล็อกเกอร์ของตนเอง

“เหลือแค่ขวดเดียวค่ะ ถ้าคุณหมออยากจะทำน้ำตะไคร้เพิ่ม ฉันยินดีไปช่วยคั้นพรุ่งนี้เช้านะคะ เป็นวันหยุดของฉันพอดี ถ้าคุณหมอไม่ถูกเรียกตัว เราก็ทำมื้อเที่ยงกินกันด้วย ดีไหมคะ”

“แหม...ชวนกันแค่สองคน ไม่คิดถึงอีกคนที่ชอบดื่มน้ำตะไคร้คนนี้เลยนะ” แองเจลลิก้าทำเสียงกระเง้ากระงอด

“ก็ช่วงนี้ใครก็ไม่รู้มีนัดบอดอยู่บ่อยๆ ฉันเลยไม่กล้าชวนนี่คะ” คาร่าพูดกึ่งเย้า

“เอาละๆ เดี๋ยวค่อยตกลงเรื่องนี้กันทีหลังเถอะ ตอนนี้มีงานรอเราอยู่” มิวาร์ตัดบท ก่อนเปิดตู้ล็อกเกอร์ของเธอ หยิบชุดเสื้อกางเกงปลอดเชื้อขนาดใหญ่พิเศษออกมาสวมอย่างรีบเร่ง

“งั้นฉันไปเข็นศพเตรียมรอที่ห้องชันสูตรศพเลยนะ” แองเจลลิก้าพูด

“จ้ะ”

มิวาร์พูดจบก็หยิบผ้ากันเปื้อนพลาสติกแบบใช้ครั้งเดียวทิ้งสวมทับอีกชั้น แล้วดึงถุงมือยางบางๆ ขนาดใหญ่พิเศษออกจากกล่องกระดาษบนชั้นวางของล็อกเกอร์มาสวม ตามด้วยบู๊ตคลุมรองเท้า เธอทำใจให้สงบอยู่ครู่หนึ่งแล้วจึงเดินออกจากห้องล็อกเกอร์มุ่งหน้าสู่ห้องชันสูตรศพซึ่งอยู่ติดกัน



หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 18 มิ.ย. 2563, 10:48:46 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 18 มิ.ย. 2563, 10:48:46 น.

จำนวนการเข้าชม : 379





<< บทที่ 1 -100%   บทที่ 2 -100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account