Cause of Love...เล่ห์อำพรางใจ: เอบิช (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะความจำเป็นในชีวิต บีบบังคับให้ ‘มิวาร์’
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา

อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!

เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...

ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?


*********************

นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย

ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!


***************************

นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ

***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***

1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)

หนังสือพร้อมส่ง

จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)

ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)

หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"

***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้

ตอน: บทที่ 4 -70%

เกิดเสียงไอโขลกดังออกมาจากปากมิวาร์ ซึ่งเศษเนื้อที่ใส่ปากเกิดติดคอกะทันหันเนื่องจากเธอเอาแต่กินและเคี้ยวกับกลืนเร็วมากเกินไป มิใช่เพราะคำพูดของวุฒิสมาชิก แต่ดูเหมือนจะไม่มีใครคิดแบบนั้น!

อีรอสลุกพรวดจากเก้าอี้ เดินอ้อมหลังอีริกไปลูบหลังมิวาร์เป็นการใหญ่

“มิสเกรแฮมเป็นยังไงบ้าง” เขามองเธอไอแค่กๆ อีกเล็กน้อยด้วยความห่วงใยระคนขัน ขณะถือแก้วน้ำส้มรอ

“มะ...ไม่เป็นไรค่ะ ฉะ...ฉันกลืนเร็วไปหน่อย ขอน้ำให้ฉันทีค่ะ”

“นี่ครับ”

เธอรีบคว้าแก้วน้ำส้มขึ้นดื่มรวดเดียวหมด ก่อนจะถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอกเมื่อเนื้อหลุดลงไปในกระเพาะอาหาร จากนั้นจึงเอนหลังพิงพนักเก้าอี้ราวกับคนหมดแรง

“พ่อฉันพูดอะไรให้เธอตกใจหรือไง ถึงทำให้เนื้อเข้าไปติดในคอได้” เฮเลน่าที่คิดเหมือนคนอื่นๆ พูดขึ้นมาอย่างไม่สบอารมณ์ มิวาร์หน้าแดงก่ำรีบส่ายหน้าปฏิเสธจ้าละหวั่น

“ปะ...เปล่านะ ฉันแค่รีบกินมากไปหน่อย เพราะสเต๊กอร่อยมาก ฉันกลืนเร็วจริงๆ จ้ะ เนื้อเลยหลุดลงไปติดคอ”

“อย่าหาเรื่องเธอเลยครับ เธอเพิ่งรอดตายมาหยกๆ”

ปากหรือนั่น!

มิวาร์ถลึงตาใส่คนที่ยิ้มใส่หน้าอย่างขุ่นเคือง ก่อนออกปากไล่

“ขอบคุณที่เป็นห่วงค่ะ แต่คุณกลับไปนั่งที่เถอะ ฉันสบายดีแล้ว”

“คุณอีรอสดูห่วงใยเพื่อนของดิฉันมาก มีอะไรพิเศษหรือเปล่าคะ”

เฮเลน่าเกริ่นขึ้นหลังจากอีรอสกลับไปนั่งประจำที่เดิม

“ผมแค่เป็นสุภาพบุรุษที่ดีน่ะครับ” เขาตอบน้ำเสียงราบเรียบ แต่มิวาร์ลอบเบ้ปาก กระนั้น...คำตอบของเขาก็หยุดปากของเฮเลน่าได้ชะงัด

“ผมขอเรียกมิสเกรแฮมว่า มิวาร์ เหมือนคนอื่นๆ จะได้ไหมครับ” อีรอสถามขึ้นด้วยใบหน้าแต้มยิ้มจางๆ

“ไม่ค่ะ เรายังไม่สนิทกันถึงขั้นนั้น” มิวาร์เงยหน้าขึ้นมาตอบรัวเร็วขณะเช็ดปากหลังจากกินสเต๊กจนหมดจาน

“ดุจังเลยนะครับ... ดุแบบนี้แสดงว่าเป็นคนที่เก็บกดทางเพศ”

“นี่คุณ!” เธอเกือบจะใช้กำปั้นทุบโต๊ะไปแล้ว มองเขาอย่างเอาเรื่อง แม้ว่าอีกฝ่ายจะนั่งพิงพนักเก้าอี้ ไขว่ห้าง กับปรายยิ้มล้อเลียน

“ขอโทษครับ ถ้าผมจะเป็นคนที่ปากกับใจตรงกัน คนปากกับใจตรง กันเป็นคนน่าคบนะครับ”

แต่มิวาร์ยังไม่ทันจะแย้งกลับ เฮเลน่าก็สอดขึ้นว่า

“เห็นด้วยค่ะ คนปากกับใจตรงกันเป็นคนดีน่าคบ”

“แถวบ้านฉัน คนประเภทนี้มักถูกต่อยปากแตกค่ะ” มิวาร์พูดบ้างอย่างหาเรื่อง

อีรอสหัวเราะทุ้มเบา เอ่ยสวนกลับว่า “ผมก็คงต่อยหมอนั่นคืน แต่ถ้าเป็นผู้หญิง...ผมจะเอาคืนด้วยการชวนเธอแปรงฟัน”

“ทำไมต้องแปรงฟันด้วยล่ะคะ” เฮเลน่าถามขึ้นอย่างสงสัย

“ก็เวลาจูบกัน จะได้กลิ่นหอมยังไงล่ะครับ” เขาตอบ แต่สายตาไม่ละไปจากลูกแก้วกลมโตสีดำสนิทที่มองตอบอย่างไม่สบอารมณ์

“แหม...มุกของคุณนี่สุดๆ ไปเลยนะคะ” เฮเลน่าหัวเราะคิกคัก

“มุกเสี่ยวน่ะสิไม่ว่า” มิวาร์เบ้ปาก

“แล้วคุณทำงานอะไรหรือครับ มิสเกรแฮม” อีรอสยังคงชวนหญิงสาวคุยเรื่อยๆ เพราะเขาอยากทำความรู้จักกับเธอให้มากขึ้น แม้ว่าเรื่องที่ถามไปเขาจะรู้ดีอยู่แล้ว มิวาร์เองก็เกือบจะสวนออกไปแล้วว่าเขาน่าจะรู้อยู่แก่ใจ แต่เกิดนึกขึ้นได้ว่าถ้าพูดออกไป คนที่เหลือบนโต๊ะจะทราบว่าเธอกับเขารู้จักกันมาก่อน และมันหมายถึงคำถามกองโตที่จะทยอยออกมาจากปากของคนเหล่านั้น

“มิวาร์เป็นนิติพยาธิแพทย์ค่ะ เป็นหัวหน้าเลยนะคะ ทั้งๆ ที่อายุยังน้อย” เฮเลน่าตอบให้เองเสร็จสรรพ สาวเจ้าอยากมีส่วนร่วมและดึงความสน ใจของหนุ่มหล่อมาที่เธอ

“เยี่ยมไปเลยครับ...เป็นอาชีพที่ท้าทายมาก” อีรอสชม เสริมต่อว่า

“แบบนี้คุณก็ต้องชันสูตรศพอยู่บ่อยๆ แล้วไม่กลัวที่ต้องอยู่กับศพหรือครับ ต้องทำงานกับเลือด ตับไตไส้พุงของคนตายน่ะ”

“คนตายกับผีต่างกันค่ะ” เสียงของมิวาร์เรียบสนิท เหมือนดวงตาคู่สวย ตอนนี้เธออยากจะไปให้พ้นๆ หน้าผู้ชายที่พยายามตีซี้กับเธอ ทั้งๆ ที่เคยทำตัวร้ายกาจกับเธอมาก่อน แต่เธอยังไม่สบโอกาสเสียที ที่สำคัญ...เธอรู้ด้วยว่าจุดประสงค์ของคำถามนี้คืออะไร

ฉลาดแฮะ!

อีรอสคิด เดาความคิดเขาออกอีกต่างหากว่าเธอจะกลัวในสิ่งเหนือธรรมชาติไหม

“...และฉันตั้งใจจะยึดอาชีพนี้ตั้งแต่แรกแล้ว ค่ะ...ฉันไม่กลัวทั้งคนตายและผี” มิวาร์พูดต่อจนจบ

“คุณจบจากที่ไหนหรือครับ”

“มหาวิทยาลัยนิวยอร์กค่ะ”

“คุณเริ่มต้นเป็นหมอทางด้านนี้ได้ยังไงครับ”

“ตอนที่ฉันเรียนโรงเรียนแพทย์ของมหา’ลัย มีอาคารภาควิชาพยาธิวิทยาอยู่ติดกับโรงพยาบาลใกล้ๆ ฉันผ่านชั้นเรียนวิชากายวิภาคศาสตร์และต้องไปใช้ห้องดับจิตของโรงพยาบาลนั้นร่วมกับแพทย์ชันสูตรศพของสหรัฐ ฉันช่วยงานพวกเขาในฐานะนักศึกษาแพทย์ แล้วทำเป็นรายได้เสริมระหว่างเป็นแพทย์ฝึกหัดในโรงพยาบาล เลยทำให้ฉันรู้ตัวว่าชอบห้องดับจิต...”

“ชอบห้องดับจิตเนี่ยนะ เธอเป็นคนประเภทไหนกันเนี่ยยายมิวาร์” เฮเลน่าร้องขึ้นมาราวกับเจอเหตุการณ์ขนลุกขนพอง

“ผมว่าคนอย่างมิสเกรแฮมไม่ใช่ตัวประหลาด แต่เธอเป็นคนที่มีชีวิตเพื่อตัวเองจริงๆ คุณกล้าหาญมาก มิสเกรแฮม กล้าที่จะยืนหยัดเพื่อสิ่งที่คุณรัก” อีรอสยกแก้วไวน์ชูขึ้นสูงเป็นการแสดงความให้เกียรติ

มิวาร์หน้าแดงระเรื่อโดยไม่ตั้งใจ และเธอยิ่งหน้าแดงมากขึ้นไปอีกเมื่ออีรอสพูดต่อมาว่า

“มีใครเคยบอกคุณไหมครับว่า คุณเป็นหมอชันสูตรศพที่สวยและน่ารักมากๆ”

“นี่จีบกันอยู่หรือเปล่าคะ” เฮเลน่าหันมองทั้งสองฝ่ายสลับกัน เสียงของเธอเต็มไปด้วยแรงอารมณ์ อีรอสเหลียวไปมองเธอด้วยสีหน้าเอือมระอา

“ผมเพิ่งบอกไปหยกๆ ว่าปากกับใจผมตรงกัน”

ใบหน้าของสาวสวยผมน้ำตาลแดงเผือดซีดลง “งั้นคุณก็จีบมิวาร์จริงๆ”

“ลูกจ๋า...อีรอสแค่กล่าวชมเพื่อนของลูกไปตามมารยาทเท่านั้นเองจ้ะ” นางเฮเลนเป็นฝ่ายยุติการขัดแย้ง เฮเลน่าทำท่ากระฟัดกระเฟียดเล็ก น้อย ก่อนจะนั่งจิบไวน์เงียบๆ เฝ้ามองอากัปกิริยาของสองหนุ่มสาว ขณะที่นางเฮเลนเอ่ยออกมาว่า

“คุยกันต่อเถอะจ้ะ ฉันก็อยากจะรู้ประวัติของหนูมิวาร์เหมือนกัน”

แต่การสนทนาต้องยุติลงชั่วคราว เมื่อคนรับใช้ทยอยนำของหวานมาเสิร์ฟ ทำให้บรรยากาศในโต๊ะอาหารเงียบลงจนน่าตกใจ อีริกที่ไม่ต้องการเป็นบุคคลล้มละลาย อดรนทนไม่ไหวกับความนิ่งเฉยของอีรอส และการตัด สินใจอันเชื่องช้าของเขา จึงเปิดปากพูดอีกครั้งว่า

“คุณจะอนุมัติวงเงินให้ผมได้เมื่อไหร่ อีรอส” เขาถามเสียงไม่ดังนัก

อีรอสใช้สายตาแข็งกร้าวหันไปมอง “จนกว่าผมจะพิสูจน์ได้ว่าธุรกิจของคุณไม่มีอะไรแปลกปลอม”

“คุณจะบอกว่าธุรกิจของผมไม่ขาวสะอาดอย่างนั้นหรือ” เสียงของวุฒิสมาชิกเต็มไปด้วยโทสะ

“คุณพูดเองนะ ท่านวุฒิสมาชิก”

“อีรอส คุณจะ...”

ทันใดนั้น...เสียงโทรศัพท์มือถือของอีรอสก็หยุดการสนทนาที่ดูจะเผ็ดร้อนลงได้

“ผมขอตัวออกไปรับโทรศัพท์ข้างนอกก่อน” อีรอสหันมาบอกอีริกอย่างมีมารยาท

“เชิญที่ระเบียงเถอะ” วุฒิสมาชิกผายมือเป็นการนำทาง อีรอสจึงเดินลิ่วๆ ไปทางนั้น โดยมีคนรับใช้ตามไปเปิดประตูกระจกแฝดให้

ระหว่างอีริกนั่งดื่มไวน์รอคอยที่จะได้พูดกับนายธนาคารหนุ่มอย่างใจจดใจจ่อ นิ้วมือข้างหนึ่งของเขาก็คอยหมุนวนแหวนเพชรขนาดเจ็ดกะรัตในนิ้วนางข้างขวาอยู่บ่อยๆ มิวาร์ที่สังเกตเห็นอยู่นานแล้วจึงทักขึ้นว่า

“แหวนสวยนะคะ”

“อ้อ แหวนเพชรประจำตระกูลน่ะ ฉันใส่มันตลอดและไม่คิดจะถอดออกแม้เวลาเข้าห้องน้ำ หนูถามทำไม มีอะไรหรือเปล่า”

“อ๋อ...เปล่าค่ะ แค่เห็นว่าท่านดูเครียดๆ”

“หนูช่างสังเกตนะ” อีริกกล่าวชมแบบแกนๆ

“ตามนิสัยของหมอชันสูตรน่ะค่ะ” มิวาร์ยิ้ม ก่อนเธอจะหันไปหาเฮเลนที่นั่งรอกินของหวานอยู่เงียบๆ เพราะรู้ตัวว่าทำให้สามีไม่พอใจ

“อาหารในวันนี้อร่อยมากๆ เลยค่ะคุณ” มิวาร์กล่าวชม

“ฉันเห็นด้วยกับหนูจ้ะ แซม...อาหารทุกจานของค่ำวันนี้อร่อยมากเลยจ้ะ” นางเฮเลนหันไปกล่าวชมแม่บ้านร่างอ้วนซึ่งยืนเยื้องอยู่ด้านหลัง คอยรับคำสั่งต่างๆ อย่างอดทน ซาแมนธายิ้มด้วยความภาคภูมิใจและกล่าวขอบคุณนายหญิงเบาๆ

“แซมทำอาหารเก่งจริงๆ แต่เลี้ยงหลานไม่ได้เรื่อง เจ้าโจชัวน่ะเรียนหนังสือก็ไม่จบ คบแต่เพื่อนเกเร นี่ถ้าฉันไม่ให้มันทำงานเป็นคนขับรถนะ ป่านนี้มันคงเกาะติดป้ามันไปจนตาย” อีริกหันมาพูด ฤทธิ์ไวน์บวกกับความขุ่นมัวในอารมณ์ทำให้เขาเผลอพูดจาน่ารังเกียจออกไป เฮเลนลอบขึงตาใส่สามีที่ดูทีจะไม่สนใจ

“ถ้าคุณเมา ออกไปพักผ่อนที่ห้องนั่งเล่นจะดีกว่าไหมคะ” เธอว่า

“ผมยังมีเรื่องต้องคุยกับอีรอสอีก” อีริกพูดกึ่งตะคอกใส่เฮเลนที่ฉีกหน้าเขา

“งั้นคุณจะช่วยมีมารยาทบนโต๊ะอาหารสักหน่อยจะได้ไหมคะ”

“ผมมีเสมอแหละ” อีริกตีหน้าบึ้ง ก่อนจะหันไปมองชายอีกคนซึ่งยืนคุยโทรศัพท์อยู่ข้างนอกระเบียงเป็นเวลาเกือบห้านาทีแล้ว

“โจชัวเป็นหลานชายของแซม...แม่บ้านซาแมนธาน่ะจ้ะ มิวาร์ เป็นลูกของน้องสาวที่เสียชีวิตเพราะตกเลือด แซมจึงรับมาเลี้ยงตั้งแต่ยังแบเบาะอยู่เลย ฉันนับถือแซมมากทีเดียวจ้ะ” เฮเลนหันกลับมาให้ความสนใจเพื่อนลูกสาวต่อ

“แซมทำงานที่นี่มานานแล้วหรือคะ”

“ตั้งแต่ฉันแต่งงานเข้ามาอยู่กับอีริกเลยละจ้ะ”

“แล้วนี่...แชนนิ่งยังไม่กลับมาอีกหรือคะ”

“ดีจริงที่หนูยังจำได้ว่าฉันมีลูกชายอีกคน เวลานี้คงไปอยู่ที่ผับไหนสักแห่งนะแหละจ้ะ ไม่ใกล้รุ่งไม่กลับบ้านหรอก เฮ้อ...ฉันละเอือมระอากับลูกคนนี้จริงๆ”

“แชนนิ่ง ติดเหล้าหรือคะ”

คำถามนั้นของมิวาร์ส่งผลให้เฮเลนหัวเราะอย่างขมขื่น

“เปล่าจ้ะ แชนนิ่งไม่ได้ติดเหล้า แต่เขากลุ้มใจกับเรื่องอะไรสักอย่างที่เขาไม่เคยเล่าให้ฉันฟัง เลยชอบไปขลุกอยู่ที่นั่นกับพวกพ้องของเขา”

“คุณคงเหนื่อยแย่ที่ต้องบริหารบริษัทของครอบครัวตามลำพัง” มิวาร์กล่าวด้วยความเห็นใจอย่างแท้จริง

“อย่างน้อยฉันก็ได้เฮเลน่าช่วยอีกแรงจ้ะ ขอบใจหนูมากๆ นะที่เป็นห่วงพวกเรา”

“ดูเหมือนอีรอสจะสนใจเธอนะ มิวาร์” เฮเลน่าเอ่ยขึ้นบ้าง หลังจากเก็บความขุ่นเคืองเอาไว้ในใจอยู่นานแล้ว

“เธอรู้ได้ยังไงว่าเขาสนใจฉัน” มิวาร์ต้องทำเป็นหลบเลี่ยงความเป็นจริง แม้จะรู้ดีแก่ใจว่าคืนนี้อีรอสให้ความสนใจเธออย่างออกหน้าออกตา

“แม้แต่เด็กก็ดูออกย่ะมิวาร์” เฮเลน่าตอบเสียงสะบัดด้วยความหงุด หงิดที่เพื่อนทำเป็นไร้เดียงสา

“เธอสนใจเขาใช่ไหม เฮเลน่า แต่ฉันขอบอกว่าผู้ชายอย่างมิสเตอร์ไททันเป็นประเภทที่ต้องอยู่ให้ห่าง เขาไม่มีวันจริงจังกับใครหรอก และดูจะเป็นพวกแอบจิตเล็กๆ ด้วย”

“เธอรู้ได้ยังไง” เฮเลน่านิ่วหน้า

“ฉันเป็นหมอนะ แล้วก็เคยเรียนจิตวิทยามาบ้าง แค่เห็นหน้าหมอนั่นปราดเดียวฉันก็ดูออกทะลุปรุโปร่งแล้ว นี่ฉันเตือนเธอแล้วนะเฮเลน่า แต่ถ้าเธอไม่ฟังคำเตือนของฉัน ยังเอาตัวเข้าไปยุ่งกับเขา เธอจะต้องน้ำตาตกใน ส่วนฉันน่ะเหรอ...ไม่สนใจผู้ชายคนไหนทั้งนั้นแหละ หกสิบเมื่อไหร่ฉันจะขอลาตายทันที”

คำพูดประโยคท้ายของเพื่อนทำให้เฮเลน่าหลุดเสียงหัวเราะคิกทั้งที่รู้ว่าไม่สมควร หญิงสาวสบายใจขึ้นมากเมื่อรู้ว่าไร้คู่แข่ง

“ฉันลืมไปได้ไงนะว่าเธอเป็นเลสเบี้ยน”

“ใครเป็นเลสเบี้ยนหรือครับ” เสียงบาริโทนทุ้มต่ำดังอยู่เหนือศีรษะมิวาร์ เจ้าตัวนั่งตัวแข็ง คอแข็งขึ้นมาทันควัน ส่วนคนที่เพิ่งหลุดคำว่า ‘เลส เบี้ยน’ ออกไปกลับส่งยิ้มหวานแอร่มประจบเอาใจชายที่ยืนค้ำศีรษะเพื่อน

“มิวาร์น่ะสิคะ คุณอีรอส เธอเป็นเลสเบี้ยนตัวจริงเสียงจริง”



หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ



ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 ก.ค. 2563, 08:43:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 ก.ค. 2563, 08:43:21 น.

จำนวนการเข้าชม : 370





<< บทที่ 4 -35%   บทที่ 4 -100% >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account