Cause of Love...เล่ห์อำพรางใจ: เอบิช (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะความจำเป็นในชีวิต บีบบังคับให้ ‘มิวาร์’
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา
อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!
เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย
ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)
หนังสือพร้อมส่ง
จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา
อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!
เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย
ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)
หนังสือพร้อมส่ง
จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 6 -35%
“ตามที่ท่านให้ผมไปสืบเรื่องบริษัทอสังหาริมทรัพย์ของวุฒิ สมาชิกอีริก แมคคอยล์ว่า มีส่วนเกี่ยวข้องกับการประท้วงของคนงานท่าเรือหรือเปล่า ผมทราบมาว่าการตกบันไดของหัวหน้าปั้นจั่นรางเลื่อน ไม่ใช่อุบัติ เหตุครับ แต่เป็นการจงใจกระทำของใครบางคนที่ทางตำรวจยังสืบหาตัวคน ร้ายไม่พบ ซึ่งเรื่องนี้นำไปสู่การประท้วงของสหภาพแรงงานในที่สุด ขณะนี้คนงานของบริษัทท่าเรือกำลังประท้วงอย่างหนักด้วยหลายปัจจัย เช่น ค่าจ้างไม่คุ้มกับตารางเวลาการทำงานที่เกือบจะตลอดยี่สิบสี่ชั่วโมง และความปลอดภัยของพวกเขามีความเสี่ยงสูง อีกทั้งสวัสดิการก็ไม่ครอบคลุมมากพอ”
“ถ้าการประท้วงนำไปสู่การปิดท่าเรือ บริษัทที่ดูแลการขนถ่ายก็จะปิดตัวตาม เปิดโอกาสให้นายหน้าค้าที่ดินเข้ากว้านซื้อทำเลงามริมแม่น้ำได้โดยง่าย” อีรอสเอ่ย
“ใช่ครับ ผมสืบทราบมาได้ว่าผู้จัดการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ของท่า เรือรับสินบนจากท่านวุฒิสมาชิกแลกกับซองเอกสารซื้อขายที่ดิน ซึ่งผู้จัดการคนนี้จะยื่นเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อให้ลงมติเพิกถอนสิทธิ์ในโกดัง”
“ถ้าอีริกเสนอราคาที่ดินนั่นมากกว่าราคาจริงสักเล็กน้อย มันย่อมหมายความว่าเขาจะได้เป็นฝ่ายเซ็นสัญญาทำธุรกิจบนที่ดินผืนนั้นแต่เพียงผู้เดียว”
“ใช่ครับ”
“แล้วหัวหน้าปั้นจั่นคนนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“เขาได้รับการผ่าตัดถึงสองครั้งแต่พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หมอยังบอกไม่ได้ว่าเขาจะสามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมหรือเปล่า” เดวิด... บอดี้การ์ดคนสำคัญของอีรอสรายงานต่อ
“ดูเหมือนว่า ความเป็นไปได้ที่ท่าเรือจะถูกปิดมีเปอร์เซ็นต์สูงสินะ”
“ครับท่าน”
“เรารู้ความจริงทั้งหมดแต่ไม่สามารถเอาหลักฐานมากล่าวหาได้ บ้าจริง” อีรอสเอ่ยกึ่งสบถ
“เราน่าจะซื้อตัวผู้จัดการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์คนนั้นนะครับ” เคนก็อยู่ด้วยจึงเสนอขึ้นมา
“อืม...ฉันก็คิดเช่นนั้น เอาละ เคน นายจัดการเรื่องนี้ให้ฉันด้วยแล้วกัน เร็วเท่าไรยิ่งดี”
“ครับท่าน”
“วันนี้มิสเกรแฮมทำอะไรอยู่ เดวิด”
อีรอสหันกลับไปคุยกับบอดี้การ์ดของเขาเพราะส่งให้ไปตามดูมิวาร์
“เธอเดินทางไปนิวเจอร์ซีย์แต่เช้าตรู่ครับ สายของผมบอกว่าเธอขอลางานสักสองสามวัน ดูเหมือนที่บ้านเธอจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง”
“สืบเรื่องนี้โดยเร็วนะ” อีรอสกำชับเดวิด ที่พยักหน้าแล้วขอตัวกลับไปทำงานตามเดิม
แต่เมื่อเดวิดพ้นประตูห้องไปแล้ว ร่างอ้วนเตี้ยของผู้ช่วยเลขานุการหนุ่มก็แทรกตัวเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นๆ
“ท่านประธานคะ ดิฉันมีบางอย่างจะให้ท่านดู” ผู้ช่วยสาวบอกทันทีที่เห็นเจ้านายหนุ่มกับหัวหน้าที่เธอสังกัดขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“ว่ามาเถอะ ลักกี้”
“ดิฉันอยากจะให้ท่านดูข่าวข่าวหนึ่งผ่านแท็บเล็ตของดิฉันค่ะ หากท่านไม่รังเกียจ...”
“เอามาสิ” อีรอสพยักหน้า
พนักงานสาวรีบก้าวยาวๆ ไปยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่และรีบวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าเจ้านายหนุ่มหล่อ ภาพเคลื่อนไหวบนจอแท็บเล็ตทำให้ห้องทั้งห้องเงียบกริบเหมือนกลายเป็นสุสาน
“รายงานข่าวด่วนค่ะ...ตะลึงกันไปทั้งแคปิตอลฮิลล์ เมื่อวุฒิสมาชิกดาวเด่นอย่างอีริก แมคคอยล์ถูกพบเป็นศพในบ้านของชู้รักนามว่า มิเชล กราแตงค์ นางแบบสาวชาวฝรั่งเศสที่เคยเป็นดาวรุ่งบนรันเวย์เมื่อสามปีก่อนค่ะ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฉุกเฉินว่า มีผู้ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุก็พบนางสาวมิเชลนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างร่างของวุฒิสมาชิกอีริกซึ่งนอนแน่นิ่งบนพื้นพร้อมกับขวดยาเปล่าขวดหนึ่ง เมื่อหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาให้การรักษาในเบื้องต้นก็พบว่าท่านวุฒิสมาชิกสิ้นใจแล้ว ตอนนี้กำลังนำร่างของท่านไปที่สำนักงานชันสูตรในเขต... เพื่อทำการชันสูตรศพต่อไป...”
“ยุติการซื้อตัวผู้จัดการคนนั้น...เคน” อีรอสพูดขึ้นมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง เขาหลับตาลงและใช้นิ้วนวดหว่างคิ้วเบาๆ พลางอนุญาตให้ลักกี้ออกไป
“เรื่องมันจบลงแบบไม่คาดฝันนะครับท่าน” เคนพูด
“นั่นแหละ ดีแล้ว”
**************
“จากการวินิจฉัยโรค เราพบว่าเด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดครับ ลิ้นหัวใจหนึ่งไม่ทำงาน และการไหลเวียนของเลือดไปปอดไม่ดี ทำให้เด็กหายใจหรือกินลำบาก” นายแพทย์หนุ่มบอกเล่าอาการของจอยซ์ด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจภายในห้องทำงานเล็กๆ ของเขา
มิวาร์บีบมือคนเป็นแม่แรงขึ้นเมื่อท่านบีบมือเธอก่อน และมือนั้นเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
“เราต้องทำการผ่าตัดให้เธอ”
แค่คำพูดนี้หลุดจากปากหมอหนุ่ม เกรซ เกรแฮมก็ปล่อยโฮ นายเกรแฮมที่นั่งอีกฝั่งกับเธอรีบเข้ามาสวมกอดปลอบประโลมโดยไว เขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน มิวาร์พยายามพูดจาปลุกปลอบคนเป็นแม่ไม่ให้ท่านต้องคิดมากแต่ดูเหมือนจะไม่เกิดผลดีใดๆ
“แต่ว่า...” หมอหนุ่มพูดขึ้นอีกสั้นๆ เหลียวมองคนทั้งสามในห้องอย่างหนักใจ มิวาร์ซึ่งเป็นหมอเช่นเดียวกันแม้จะคนละสาขาพอจะเข้าใจความคิดของหมอหนุ่มผู้นี้ จึงเอ่ยขึ้นแทนว่า
“น้องสาวของฉันอายุใกล้จะหนึ่งเดือนเท่านั้น คุณหมอก็เลยยังไม่อยากจะผ่าตัดให้ใช่ไหมคะ”
“ครับ ทางเรายังไม่เคยผ่าตัดเด็กทารกอายุน้อยขนาดนี้มาก่อน เราจึงไม่อยากเสี่ยง ผมเห็นสมควรที่จะให้ยารักษาไปก่อน จนเธออายุมากกว่านี้แล้วเราค่อยผ่าตัด”
ทั้งสามนั่งตรึกตรองกันชั่วครู่ ก่อนจะยอมรับความคิดเห็นของนาย แพทย์ เมื่อรับใบสั่งยาเรียบร้อยแล้ว มิวาร์กับเกรซก็เดินไปยังห้องศูนย์พยา บาลเด็กเพื่อรับตัวจอยซ์กลับบ้าน ส่วนเออร์เนส เกรแฮมเดินไปเอารถขับมา รอรับสองสาวที่หน้าโรงพยาบาล
จอยซ์ เกรแฮม ดูหายใจลำบากมากจริงๆ สำหรับเด็กทารกวัยสามอาทิตย์กว่าๆ มิวาร์มองดูน้องสาวในอ้อมแขนคนเป็นแม่อย่างห่วงใยปนเศร้า ภายในรถของเพื่อนบ้านที่เออร์เนสขอยืมมามีแต่ความเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงครางหึ่งๆ ของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน แล้วจู่ๆ เสียงเพลงสวดของเด็กก็ดังขึ้นเบาๆ ในรถ มันออกมาจากปากที่สั่นระริกของเกรซผู้หวังจะใช้เพลงนี้กล่อมลูกน้อยและสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า
มินานนัก อีกสองเสียงก็ร้องประสานขึ้นในรถ เกรซหันใบหน้าชุ่มน้ำตามองลูกสาวบุญธรรมกับสามีสลับไปมาด้วยความขอบคุณ
“พระองค์จะทรงปกปักรักษาจอยซ์ค่ะแม่ เราจะต้องมีความหวังอยู่เสมอ” มิวาร์เอ่ยขึ้นเมื่อบทเพลงจบลง
“จ้ะ แม่ก็หวังเช่นนั้น”
“วันอาทิตย์นี้เราจะไปโบสถ์ จะไปขอให้เพื่อนๆ ช่วยสวดอ้อนวอนขอพรให้แก่จอยซ์ด้วย” เออร์เนสเอ่ยขึ้นมา
“หนูจะอยู่ถึงช่วงพิธีศีลระลึกนะคะพ่อ...แม่ หนูลางานมาแค่สามวันเท่านั้นเองค่ะ”
“แค่นี้เราก็ดีใจมากแล้วลูก นานแล้วที่เราไม่ได้เข้าโบสถ์พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้”
“จอยซ์เป็นศูนย์รวมดวงใจของเราจริงๆ ค่ะ” มิวาร์พยายามยิ้มให้ดูสดใสที่สุด
ตลอดสองวันที่ผ่านมา มิวาร์คอยดูแลความสะอาดภายในบ้าน เข้าครัวทำอาหาร สอนการบ้านโทมัส และคอยเฝ้าดูอาการของจอยซ์อย่างใกล้ ชิดกับเกรซ เธอแทบไม่มีเวลาได้ตามสื่อโซเชียลหรือติดตามข่าวสารบ้านเมืองเลย อีกทั้งครอบครัวเกรแฮมไม่ชอบดูโทรทัศน์นอกจากอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากโทมัส ทุกคนในบ้านกลัวแกจะติดราย การไร้สาระเลยจะเปิดโทรทัศน์กันก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่การ์ตูนสร้างสรรค์ออกอากาศเท่านั้น ดังนั้น...ห้องนอนของโทมัสจึงเต็มไปด้วยหนังสือมากกว่าโมเดลหุ่นยนต์ใดๆ
บ่ายของวันเสาร์ เออร์เนสเข้าไปในเมืองกับโทมัสเพื่อหาซื้อของใช้เข้าบ้าน มิวาร์กำลังนั่งติดกับมารดาบุญธรรมบนโซฟา เพื่อดูลักษณะอาการการดูดนมของจอยซ์ด้วยความกังวลอย่างใกล้ชิด พลัน...โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นจากภายในห้องนอนมาจนถึงห้องนั่งเล่น
มิวาร์รีบลุกเดินสาวเท้าหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของตน
“สวัสดีค่ะเฮเลน แปลกใจจังที่คุณโทร.หาฉัน”
“มิวาร์หนูอยู่ไหน หนูรู้เรื่องที่อีริกตายหรือยัง” เสียงเฮเลนสั่นเครือ แต่มันยังไม่น่าประหลาดใจเท่าสิ่งที่หล่อนพูดออกมา
“อะไรนะคะ ท่านวุฒิสมาชิกเสียชีวิตแล้วอย่างงั้นหรือคะ”
“ใช่ เมื่อสองวันก่อน เห็นหนูเงียบหายไปคิดว่าหนูคงยังไม่เห็นข่าว ฉันอยากเจอหนูจ้ะ เฮเลน่าก็ด้วย”
“เอ่อ...ตอนนี้หนูอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์ค่ะ จะกลับตอนบ่ายของวันพรุ่งนี้ เอาเป็นว่า...ถ้ากลับถึงนิวยอร์กแล้ว หนูจะรีบไปหาคุณเลยนะคะ”
“หนูกลับมาวันนี้ไม่ได้หรือจ๊ะ ฉันอยากได้คนคอยปลอบใจ”
เสียงของเฮเลนสะอื้นหนักมากขึ้น
“คุณคะ...หนูเข้าใจความรู้สึกของคุณดีนะคะ แต่ทางหนูเองก็มีปัญหาค่ะ จอยซ์...น้องสาวหนูไม่สบายหนัก หนูต้องอยู่คอยเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของหนูเหมือนกัน” มิวาร์เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“โอ แย่จัง ฉันขอให้น้องสาวหนูแข็งแรงไวๆ นะจ๊ะ เอาเถอะจ้ะ...ฉันจะรอเจอหนูพรุ่งนี้นะ ฉันไม่รบกวนหนูแล้ว สวัสดีจ้ะ”
วางสายโทรศัพท์แล้ว มิวาร์ก็รีบเดินออกมายังห้องรับแขก ตรงไปที่ชั้นวางหนังสือ ก่อนจะรื้อหาหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อสองวันก่อนขึ้นมาอ่าน อันที่จริงเธอตามข่าวจากสื่อออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือก็ได้ แต่เธอถนัดที่จะใช้เวลาเพ่งทุกตัวหนังสือจากกระดาษมากกว่า
มิวาร์พบข่าวของอีริก แมคคอยล์ในหน้าหนังสือพิมพ์ในที่สุด เธอพยายามอ่านให้ละเอียดด้วยความสนใจและแปลกใจพอๆ กัน หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นล้อการตายของท่านวุฒิสมาชิกอีริกด้วยว่าเขาเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ปากบอกว่ายึดมั่นในศีลธรรมแต่ตัวเองกลับทำผิดเสียเองด้วยการคบชู้
“นี่ท่านมีชู้รักอย่างงั้นหรือนี่!?”
ทันใดนั้น...เพจเจอร์ที่เธอใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็เกิดสั่นขึ้นมา เธอรีบล้วงรับและกดปุ่มอ่านข้อความแทนเสียง
‘คิดถึงคุณ อยากให้ผมเซอร์ไพรส์คุณอีกไหม เบบี๋...อีรอส ไททัน’
ขนทั้งร่างของมิวาร์ลุกกรูเกรียว ตาทั้งคู่จ้องเขม็งออกไปนอกหน้า ต่าง สอดส่ายสายตาไปทั่วบริเวณที่แสงสว่างเจิดจ้า พยายามมองหาร่างที่เริ่มคุ้นตาด้วยหัวใจหวั่นหวาด
คุณพระคุณเจ้า...ขออย่าให้ตาบ้านั่นโผล่มาในชุดเด็กส่งพิซซ่าอีกเลย!
ครั้นมองออกนอกหน้าต่างเห็นแต่เพื่อนบ้านบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านของพวกเขาหรือบนทางเท้า กับฝูงเด็กเล็กๆ ที่ปั่นรถถีบเล่นกันบนทางวิ่งของจักรยาน ไม่มีรถแปลกหน้าสักคันเดียวโผล่ออกมาให้เห็น มิวาร์ก็พรูลมหายใจออกมายาวๆ ด้วยความโล่งอก มั่นใจว่าอีรอสไม่ได้อยู่แถวละแวกนี้แต่อย่างใด
และคืนนั้นทั้งคืน มิวาร์นอนฝันผวาเห็นอีรอสเข้ามาในห้องนอนของเธอทั้งร่างอันเปลือยเปล่า จนทำให้เธอต้องสะดุ้งตื่น และนั่งตาค้างจนถึงเช้าวันใหม่
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
“ถ้าการประท้วงนำไปสู่การปิดท่าเรือ บริษัทที่ดูแลการขนถ่ายก็จะปิดตัวตาม เปิดโอกาสให้นายหน้าค้าที่ดินเข้ากว้านซื้อทำเลงามริมแม่น้ำได้โดยง่าย” อีรอสเอ่ย
“ใช่ครับ ผมสืบทราบมาได้ว่าผู้จัดการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์ของท่า เรือรับสินบนจากท่านวุฒิสมาชิกแลกกับซองเอกสารซื้อขายที่ดิน ซึ่งผู้จัดการคนนี้จะยื่นเสนอต่อคณะกรรมการบริษัทเพื่อให้ลงมติเพิกถอนสิทธิ์ในโกดัง”
“ถ้าอีริกเสนอราคาที่ดินนั่นมากกว่าราคาจริงสักเล็กน้อย มันย่อมหมายความว่าเขาจะได้เป็นฝ่ายเซ็นสัญญาทำธุรกิจบนที่ดินผืนนั้นแต่เพียงผู้เดียว”
“ใช่ครับ”
“แล้วหัวหน้าปั้นจั่นคนนั้นเป็นยังไงบ้าง”
“เขาได้รับการผ่าตัดถึงสองครั้งแต่พ้นขีดอันตรายแล้ว แต่หมอยังบอกไม่ได้ว่าเขาจะสามารถกลับมาทำงานได้เหมือนเดิมหรือเปล่า” เดวิด... บอดี้การ์ดคนสำคัญของอีรอสรายงานต่อ
“ดูเหมือนว่า ความเป็นไปได้ที่ท่าเรือจะถูกปิดมีเปอร์เซ็นต์สูงสินะ”
“ครับท่าน”
“เรารู้ความจริงทั้งหมดแต่ไม่สามารถเอาหลักฐานมากล่าวหาได้ บ้าจริง” อีรอสเอ่ยกึ่งสบถ
“เราน่าจะซื้อตัวผู้จัดการฝ่ายอสังหาริมทรัพย์คนนั้นนะครับ” เคนก็อยู่ด้วยจึงเสนอขึ้นมา
“อืม...ฉันก็คิดเช่นนั้น เอาละ เคน นายจัดการเรื่องนี้ให้ฉันด้วยแล้วกัน เร็วเท่าไรยิ่งดี”
“ครับท่าน”
“วันนี้มิสเกรแฮมทำอะไรอยู่ เดวิด”
อีรอสหันกลับไปคุยกับบอดี้การ์ดของเขาเพราะส่งให้ไปตามดูมิวาร์
“เธอเดินทางไปนิวเจอร์ซีย์แต่เช้าตรู่ครับ สายของผมบอกว่าเธอขอลางานสักสองสามวัน ดูเหมือนที่บ้านเธอจะเกิดเรื่องอะไรสักอย่าง”
“สืบเรื่องนี้โดยเร็วนะ” อีรอสกำชับเดวิด ที่พยักหน้าแล้วขอตัวกลับไปทำงานตามเดิม
แต่เมื่อเดวิดพ้นประตูห้องไปแล้ว ร่างอ้วนเตี้ยของผู้ช่วยเลขานุการหนุ่มก็แทรกตัวเข้ามาด้วยใบหน้าตื่นๆ
“ท่านประธานคะ ดิฉันมีบางอย่างจะให้ท่านดู” ผู้ช่วยสาวบอกทันทีที่เห็นเจ้านายหนุ่มกับหัวหน้าที่เธอสังกัดขมวดคิ้วนิ่วหน้า
“ว่ามาเถอะ ลักกี้”
“ดิฉันอยากจะให้ท่านดูข่าวข่าวหนึ่งผ่านแท็บเล็ตของดิฉันค่ะ หากท่านไม่รังเกียจ...”
“เอามาสิ” อีรอสพยักหน้า
พนักงานสาวรีบก้าวยาวๆ ไปยืนหน้าโต๊ะทำงานตัวใหญ่และรีบวางแท็บเล็ตลงบนโต๊ะ เลื่อนไปตรงหน้าเจ้านายหนุ่มหล่อ ภาพเคลื่อนไหวบนจอแท็บเล็ตทำให้ห้องทั้งห้องเงียบกริบเหมือนกลายเป็นสุสาน
“รายงานข่าวด่วนค่ะ...ตะลึงกันไปทั้งแคปิตอลฮิลล์ เมื่อวุฒิสมาชิกดาวเด่นอย่างอีริก แมคคอยล์ถูกพบเป็นศพในบ้านของชู้รักนามว่า มิเชล กราแตงค์ นางแบบสาวชาวฝรั่งเศสที่เคยเป็นดาวรุ่งบนรันเวย์เมื่อสามปีก่อนค่ะ เมื่อเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุฉุกเฉินว่า มีผู้ร้องขอความช่วยเหลือ เมื่อไปถึงสถานที่เกิดเหตุก็พบนางสาวมิเชลนั่งร้องไห้ฟูมฟายอยู่ข้างร่างของวุฒิสมาชิกอีริกซึ่งนอนแน่นิ่งบนพื้นพร้อมกับขวดยาเปล่าขวดหนึ่ง เมื่อหน่วยแพทย์ฉุกเฉินมาให้การรักษาในเบื้องต้นก็พบว่าท่านวุฒิสมาชิกสิ้นใจแล้ว ตอนนี้กำลังนำร่างของท่านไปที่สำนักงานชันสูตรในเขต... เพื่อทำการชันสูตรศพต่อไป...”
“ยุติการซื้อตัวผู้จัดการคนนั้น...เคน” อีรอสพูดขึ้นมาด้วยเสียงเรียบนิ่ง เขาหลับตาลงและใช้นิ้วนวดหว่างคิ้วเบาๆ พลางอนุญาตให้ลักกี้ออกไป
“เรื่องมันจบลงแบบไม่คาดฝันนะครับท่าน” เคนพูด
“นั่นแหละ ดีแล้ว”
**************
“จากการวินิจฉัยโรค เราพบว่าเด็กเป็นโรคหัวใจพิการแต่กำเนิดครับ ลิ้นหัวใจหนึ่งไม่ทำงาน และการไหลเวียนของเลือดไปปอดไม่ดี ทำให้เด็กหายใจหรือกินลำบาก” นายแพทย์หนุ่มบอกเล่าอาการของจอยซ์ด้วยสีหน้าเห็นอกเห็นใจภายในห้องทำงานเล็กๆ ของเขา
มิวาร์บีบมือคนเป็นแม่แรงขึ้นเมื่อท่านบีบมือเธอก่อน และมือนั้นเย็นเฉียบราวกับน้ำแข็ง
“เราต้องทำการผ่าตัดให้เธอ”
แค่คำพูดนี้หลุดจากปากหมอหนุ่ม เกรซ เกรแฮมก็ปล่อยโฮ นายเกรแฮมที่นั่งอีกฝั่งกับเธอรีบเข้ามาสวมกอดปลอบประโลมโดยไว เขาเองก็เจ็บปวดไม่แพ้กัน มิวาร์พยายามพูดจาปลุกปลอบคนเป็นแม่ไม่ให้ท่านต้องคิดมากแต่ดูเหมือนจะไม่เกิดผลดีใดๆ
“แต่ว่า...” หมอหนุ่มพูดขึ้นอีกสั้นๆ เหลียวมองคนทั้งสามในห้องอย่างหนักใจ มิวาร์ซึ่งเป็นหมอเช่นเดียวกันแม้จะคนละสาขาพอจะเข้าใจความคิดของหมอหนุ่มผู้นี้ จึงเอ่ยขึ้นแทนว่า
“น้องสาวของฉันอายุใกล้จะหนึ่งเดือนเท่านั้น คุณหมอก็เลยยังไม่อยากจะผ่าตัดให้ใช่ไหมคะ”
“ครับ ทางเรายังไม่เคยผ่าตัดเด็กทารกอายุน้อยขนาดนี้มาก่อน เราจึงไม่อยากเสี่ยง ผมเห็นสมควรที่จะให้ยารักษาไปก่อน จนเธออายุมากกว่านี้แล้วเราค่อยผ่าตัด”
ทั้งสามนั่งตรึกตรองกันชั่วครู่ ก่อนจะยอมรับความคิดเห็นของนาย แพทย์ เมื่อรับใบสั่งยาเรียบร้อยแล้ว มิวาร์กับเกรซก็เดินไปยังห้องศูนย์พยา บาลเด็กเพื่อรับตัวจอยซ์กลับบ้าน ส่วนเออร์เนส เกรแฮมเดินไปเอารถขับมา รอรับสองสาวที่หน้าโรงพยาบาล
จอยซ์ เกรแฮม ดูหายใจลำบากมากจริงๆ สำหรับเด็กทารกวัยสามอาทิตย์กว่าๆ มิวาร์มองดูน้องสาวในอ้อมแขนคนเป็นแม่อย่างห่วงใยปนเศร้า ภายในรถของเพื่อนบ้านที่เออร์เนสขอยืมมามีแต่ความเงียบสงัด ได้ยินเพียงเสียงครางหึ่งๆ ของเครื่องยนต์ที่ใช้น้ำมัน แล้วจู่ๆ เสียงเพลงสวดของเด็กก็ดังขึ้นเบาๆ ในรถ มันออกมาจากปากที่สั่นระริกของเกรซผู้หวังจะใช้เพลงนี้กล่อมลูกน้อยและสวดอ้อนวอนต่อพระผู้เป็นเจ้า
มินานนัก อีกสองเสียงก็ร้องประสานขึ้นในรถ เกรซหันใบหน้าชุ่มน้ำตามองลูกสาวบุญธรรมกับสามีสลับไปมาด้วยความขอบคุณ
“พระองค์จะทรงปกปักรักษาจอยซ์ค่ะแม่ เราจะต้องมีความหวังอยู่เสมอ” มิวาร์เอ่ยขึ้นเมื่อบทเพลงจบลง
“จ้ะ แม่ก็หวังเช่นนั้น”
“วันอาทิตย์นี้เราจะไปโบสถ์ จะไปขอให้เพื่อนๆ ช่วยสวดอ้อนวอนขอพรให้แก่จอยซ์ด้วย” เออร์เนสเอ่ยขึ้นมา
“หนูจะอยู่ถึงช่วงพิธีศีลระลึกนะคะพ่อ...แม่ หนูลางานมาแค่สามวันเท่านั้นเองค่ะ”
“แค่นี้เราก็ดีใจมากแล้วลูก นานแล้วที่เราไม่ได้เข้าโบสถ์พร้อมหน้าพร้อมตากันแบบนี้”
“จอยซ์เป็นศูนย์รวมดวงใจของเราจริงๆ ค่ะ” มิวาร์พยายามยิ้มให้ดูสดใสที่สุด
ตลอดสองวันที่ผ่านมา มิวาร์คอยดูแลความสะอาดภายในบ้าน เข้าครัวทำอาหาร สอนการบ้านโทมัส และคอยเฝ้าดูอาการของจอยซ์อย่างใกล้ ชิดกับเกรซ เธอแทบไม่มีเวลาได้ตามสื่อโซเชียลหรือติดตามข่าวสารบ้านเมืองเลย อีกทั้งครอบครัวเกรแฮมไม่ชอบดูโทรทัศน์นอกจากอ่านหนังสือพิมพ์ทุกเช้า ที่เป็นเช่นนี้ก็เนื่องมาจากโทมัส ทุกคนในบ้านกลัวแกจะติดราย การไร้สาระเลยจะเปิดโทรทัศน์กันก็ต่อเมื่อถึงเวลาที่การ์ตูนสร้างสรรค์ออกอากาศเท่านั้น ดังนั้น...ห้องนอนของโทมัสจึงเต็มไปด้วยหนังสือมากกว่าโมเดลหุ่นยนต์ใดๆ
บ่ายของวันเสาร์ เออร์เนสเข้าไปในเมืองกับโทมัสเพื่อหาซื้อของใช้เข้าบ้าน มิวาร์กำลังนั่งติดกับมารดาบุญธรรมบนโซฟา เพื่อดูลักษณะอาการการดูดนมของจอยซ์ด้วยความกังวลอย่างใกล้ชิด พลัน...โทรศัพท์มือถือของเธอก็ดังขึ้นจากภายในห้องนอนมาจนถึงห้องนั่งเล่น
มิวาร์รีบลุกเดินสาวเท้าหายเข้าไปในห้องนอนส่วนตัวของตน
“สวัสดีค่ะเฮเลน แปลกใจจังที่คุณโทร.หาฉัน”
“มิวาร์หนูอยู่ไหน หนูรู้เรื่องที่อีริกตายหรือยัง” เสียงเฮเลนสั่นเครือ แต่มันยังไม่น่าประหลาดใจเท่าสิ่งที่หล่อนพูดออกมา
“อะไรนะคะ ท่านวุฒิสมาชิกเสียชีวิตแล้วอย่างงั้นหรือคะ”
“ใช่ เมื่อสองวันก่อน เห็นหนูเงียบหายไปคิดว่าหนูคงยังไม่เห็นข่าว ฉันอยากเจอหนูจ้ะ เฮเลน่าก็ด้วย”
“เอ่อ...ตอนนี้หนูอยู่ที่นิวเจอร์ซีย์ค่ะ จะกลับตอนบ่ายของวันพรุ่งนี้ เอาเป็นว่า...ถ้ากลับถึงนิวยอร์กแล้ว หนูจะรีบไปหาคุณเลยนะคะ”
“หนูกลับมาวันนี้ไม่ได้หรือจ๊ะ ฉันอยากได้คนคอยปลอบใจ”
เสียงของเฮเลนสะอื้นหนักมากขึ้น
“คุณคะ...หนูเข้าใจความรู้สึกของคุณดีนะคะ แต่ทางหนูเองก็มีปัญหาค่ะ จอยซ์...น้องสาวหนูไม่สบายหนัก หนูต้องอยู่คอยเป็นกำลังใจให้ครอบครัวของหนูเหมือนกัน” มิวาร์เล่าให้ฟังด้วยน้ำเสียงนุ่มนวล
“โอ แย่จัง ฉันขอให้น้องสาวหนูแข็งแรงไวๆ นะจ๊ะ เอาเถอะจ้ะ...ฉันจะรอเจอหนูพรุ่งนี้นะ ฉันไม่รบกวนหนูแล้ว สวัสดีจ้ะ”
วางสายโทรศัพท์แล้ว มิวาร์ก็รีบเดินออกมายังห้องรับแขก ตรงไปที่ชั้นวางหนังสือ ก่อนจะรื้อหาหนังสือพิมพ์ฉบับเมื่อสองวันก่อนขึ้นมาอ่าน อันที่จริงเธอตามข่าวจากสื่อออนไลน์ทางโทรศัพท์มือถือก็ได้ แต่เธอถนัดที่จะใช้เวลาเพ่งทุกตัวหนังสือจากกระดาษมากกว่า
มิวาร์พบข่าวของอีริก แมคคอยล์ในหน้าหนังสือพิมพ์ในที่สุด เธอพยายามอ่านให้ละเอียดด้วยความสนใจและแปลกใจพอๆ กัน หนังสือพิมพ์ฉบับนั้นล้อการตายของท่านวุฒิสมาชิกอีริกด้วยว่าเขาเป็นพวกหน้าไหว้หลังหลอก ปากบอกว่ายึดมั่นในศีลธรรมแต่ตัวเองกลับทำผิดเสียเองด้วยการคบชู้
“นี่ท่านมีชู้รักอย่างงั้นหรือนี่!?”
ทันใดนั้น...เพจเจอร์ที่เธอใส่ไว้ในกระเป๋ากางเกงก็เกิดสั่นขึ้นมา เธอรีบล้วงรับและกดปุ่มอ่านข้อความแทนเสียง
‘คิดถึงคุณ อยากให้ผมเซอร์ไพรส์คุณอีกไหม เบบี๋...อีรอส ไททัน’
ขนทั้งร่างของมิวาร์ลุกกรูเกรียว ตาทั้งคู่จ้องเขม็งออกไปนอกหน้า ต่าง สอดส่ายสายตาไปทั่วบริเวณที่แสงสว่างเจิดจ้า พยายามมองหาร่างที่เริ่มคุ้นตาด้วยหัวใจหวั่นหวาด
คุณพระคุณเจ้า...ขออย่าให้ตาบ้านั่นโผล่มาในชุดเด็กส่งพิซซ่าอีกเลย!
ครั้นมองออกนอกหน้าต่างเห็นแต่เพื่อนบ้านบริเวณสนามหญ้าหน้าบ้านของพวกเขาหรือบนทางเท้า กับฝูงเด็กเล็กๆ ที่ปั่นรถถีบเล่นกันบนทางวิ่งของจักรยาน ไม่มีรถแปลกหน้าสักคันเดียวโผล่ออกมาให้เห็น มิวาร์ก็พรูลมหายใจออกมายาวๆ ด้วยความโล่งอก มั่นใจว่าอีรอสไม่ได้อยู่แถวละแวกนี้แต่อย่างใด
และคืนนั้นทั้งคืน มิวาร์นอนฝันผวาเห็นอีรอสเข้ามาในห้องนอนของเธอทั้งร่างอันเปลือยเปล่า จนทำให้เธอต้องสะดุ้งตื่น และนั่งตาค้างจนถึงเช้าวันใหม่
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 26 ก.ค. 2563, 22:42:23 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 26 ก.ค. 2563, 22:42:23 น.
จำนวนการเข้าชม : 410
<< บทที่ 5 -100% | บทที่ 6 -65% >> |