Cause of Love...เล่ห์อำพรางใจ: เอบิช (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เพราะความจำเป็นในชีวิต บีบบังคับให้ ‘มิวาร์’
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา
อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!
เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย
ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)
หนังสือพร้อมส่ง
จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
ต้องทำสัญญาเงินกู้กับ ‘อีรอส ไททัน’ โดยแลกกับการเป็นผู้หญิงของเขา
อีรอสเป็นนักธุรกิจไฟแรง ติดโผชายในฝันของสาวๆ ทั่วทั้งนครนิวยอร์ก
และมีดีกรีเป็นถึงลูกชายประธานาธิบดีของสหรัฐอเมริกา
แต่ในสายตาของมิวาร์ เขาก็เป็นแค่อีตาหื่นจอมเจ้าเล่ห์คนหนึ่ง
ที่จ้องจะหิ้วเธอขึ้นเตียงทุกวินาที!
เรื่องงาน ‘แพทย์หญิงมิวาร์ กรุณา เกรแฮม’ ไม่เคยเป็นสองรองใคร
แต่เรื่องความรัก...เธอขออยู่ให้ห่าง ช่างต่างจากเขา...อีรอส...กามเทพตัวพ่อ
ที่ฟ้าจงใจส่งลงมาตามไล่ล่าเอาความรักจากเธอชัดๆ
การทำสัญญากับเขาในครั้งนี้ จึงเดือดร้อนมิวาร์ต้องงัดสารพัดวิธีมาชิ่งหนีเขา
โดยไม่อาจล่วงรู้เลยว่า ในเวลาเดียวกันนั้น
เธอกำลังถูกดึงเข้าไปพัวพันในวังวนของการฆาตกรรมอำพราง
เนื่องจากวิชาชีพของเธอเอง...
ท่ามกลางความสับสนวุ่นวายนี้ เธอจะเอาตัวรอดเช่นไร
อำพรางหัวใจ หรือยอมสยบให้กับเล่ห์กลของเขาดี!?
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "เอบิช" และตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing) " ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ ใครชอบพระเอกหล่อ รวย และหื่นตัวพ่อ จัดไปค่ะ 555+ ขอบอกว่าฮีเปย์หนักมากกกกก แถมฉลาดและเจ้าเล่ห์เป็นที่หนึ่ง! แต่ขณะเดียวกันก็คอยปกป้องนางเอกสุดฤทธิ์ เรื่องนี้มีความโรแมนติกพาฝันนิดๆ และมีปมฆาตกรรมให้ติดตามด้วย
ท้องเรื่องอยู่ในยุค 2023 #รับประกันความสนุก!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun และร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง)
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม)
หนังสือพร้อมส่ง
จำนวน 372 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
ราคา 349฿ จากราคาปก 389฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 394฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 419฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 10 -100% (ตอนสุดท้าย)
“เริ่มเลยนะคะ คุณสองคนเจอกันที่ไหนคะ” มิสบราวน์ดูกระตือรือร้นเป็นพิเศษ
“พอลไมราครับ”
“แบบรักแรกพบน่ะหรือคะ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
มิวาร์ตระหนักดีว่าอีรอสเลี่ยงที่จะโกหกเรื่องความสัมพันธ์อันแท้ จริงของเธอกับเขาต่อนักข่าวผู้นี้ และเธอเองก็ไม่อยากตอบคำถามของเธอผู้นี้เช่นกัน เพราะเธอไม่ถนัดการโกหกเอาเสียเลย ซึ่งถ้าเผลอหลุดความจริงออกไป มันคงจะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของเธอมากกว่าอีรอส ไททัน ดังนั้น...มิวาร์จึงภาวนาให้เขาเป็นฝ่ายตอบทุกๆ คำถามเสียแทน แม้ในส่วนลึกจะทั้งฉงนและสับสนว่าเหตุใดอีรอสจึงเปิดเผยความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเธอกับเขาต่อสื่อสังคมในฐานะคู่รัก...ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย
“คบกันมานานเท่าไรแล้วคะ”
“เกือบจะสองเดือนแล้ว อีกสามสี่วันก็ครบ” อีรอสตอบด้วยรอยยิ้มมั่นใจ ยกแก้วไวน์ขึ้นหมุน สูดดมแล้วก็จิบ ในขณะที่นักข่าวสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความประหลาดใจ
“นั่นมันหมายความว่าคบกันจริงๆ จังๆ ก็แค่หนึ่งเดือนสินะคะ คุณมีความมั่นใจกับความสัมพันธ์พิเศษกับมิสเตอร์ไททันมากแค่ไหนคะ คุณหมอเกรแฮม” ดูเหมือนนักข่าวจมูกมดจะได้กลิ่นแปลกๆ จึงเหลียวมาถามมิวาร์อย่างเจาะจง
หญิงสาวอึกอักหาคำตอบที่ดีไม่ได้ ก็บอกแล้วว่า...เธอไม่ชินกับการโกหก เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยโกหกใคร แต่ถ้าเรื่องลักเล็กขโมยน้อยละก็ เธอถนัดเชียวล่ะ!
“ถามผมดีกว่าครับ...มิสบราวน์ มิวาร์เป็นคนขี้อาย และผมเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ครั้งนี้”
“อ้อ...ได้ค่ะ” บราวน์เลิกสนใจมิวาร์ หลังจากหรี่ตาลงจับพิรุธชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้าระหว่างที่เขาแทรกขึ้น
“ผมรู้ว่ามิวาร์เป็นคนที่พิเศษสุดสำหรับผม ตั้งแต่เห็นหน้าเธอครั้งแรกแล้ว”
“ช่วยเล่าช่วงเวลานั้นหน่อยจะได้ไหมคะ...”
“ไม่ละครับ ผมต้องการเก็บไว้เป็นความทรงจำระหว่างเราสองคนเท่านั้น” เขาหันมายิ้มละไมให้กับเธอ
ช่วงเวลาแห่งการตอบบทสัมภาษณ์อันน่าอิหลักอิเหลื่อในความคิดของนิติพยาธิแพทย์สาวใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง นักข่าวบราวน์เป็นนักข่าวหัวกะทิที่มีความคิดอ่านฉลาดหลักแหลมและรู้ว่าจะใช้คำถามใดเจาะทะลุทะลวงให้ลึกถึงความสัมพันธ์ของคู่รักชนิดถึงกึ๋น แต่อีรอสก็ใช่ย่อย เขามีไหวพริบปฏิภาณฉับไวที่จะตอบคำถามที่ทะลุทะลวงราวกับอยู่ริมเตียงของ บราวน์ให้เป็นคำตอบที่น่าพออกพอใจ และไม่ใช่การโกหกเสียด้วย แต่ก็มีบางครั้งที่อีรอสปฏิเสธที่จะตอบถ้าคำถามนั้นจะมีผลกระทบต่อการงานและชื่อเสียงของมิวาร์ เขาแค่ขอให้นักข่าวบราวน์รอดูความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อไปเท่านั้น
“คุณไปเอาน้ำตะไคร้ของฉันมาได้ยังไงคะ” มิวาร์ถามขึ้น มันดูเป็นคำถามที่ไม่น่าถามเอาซะเลย แต่เธอก็ต้องการได้ยินคำตอบที่จริงใจ
“ผมสั่งให้เคนไปเอามาจากสำนักงานของคุณ คาร่าเอามาให้เคน” เขาตอบสบายๆ ขณะจูงมือเธอเข้าไปในลิฟต์ ซึ่งก่อนหน้านี้มิสบราวน์ลงลิฟต์ตัวอื่นไปก่อนแล้ว
“คุณพระ อย่างนี้ทุกคนในที่ทำงานฉันก็รู้เรื่องเราหมดแล้วสิคะ”
“และจะรู้ลึกกว่านี้เมื่ออ่าน ‘คอสโมฯ’” เขายิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ถามจริงๆ เถอะนะ ทำไมคุณถึงยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ลับของเราล่ะคะ” เธอหวังว่าจะได้รับคำตอบเป็นข้อความหวานๆ เหมือนที่เขาเคยทิ้งไว้เมื่อนานมาแล้ว
อีรอสไม่ตอบในตอนแรก เขาปล่อยมือเธอและก้าวเข้าไปในลิฟต์เมื่อประตูเหล็กกล้าเปิดออก จากนั้นเขาก็สอดมือทั้งสองเข้าไปในกระเป๋ากางเกง พลางฮัมเพลงในลำคอ
“อีรอส...ฉันต้องการฟังคำตอบค่ะ” เธอถามซ้ำเสียงแข็งขึ้น
“แม่โทร.มาบอกผมว่าจะแวะมานิวเจอร์ซีย์สักสองสามวันเพื่อพาผมไปดูตัวลูกสาวของเพื่อนท่านที่เป็นคนไทย” เขาทำเสียงขัดใจก่อนตอบด้วยมาดนิ่งๆ
มิวาร์รู้สึกเหมือนมีน้ำแข็งเย็นๆ สาดโครมลงมาบนศีรษะเต็มๆ
“คุณใช้ความสัมพันธ์ของเราเป็นเครื่องมือที่จะหลบหนีจากเรื่องนี้สินะคะ” เสียงของเธอปร่าเพียงนิดเดียว อีรอสจึงไม่สังเกตหรือรับรู้
“อย่าคิดมากเลยทูนหัว ยังไงผมก็มีตาไว้มองคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ”
เธอไม่พูดอะไรอีก นอกจากกล้ำกลืนก้อนแข็งๆ เหมือนหนามแหลมลงคออยู่นาน พร้อมกับเดินตามแรงจูงของเขาอีกครั้งเมื่อลิฟต์เปิดออกไปยังชั้นล่างสุด ก่อนจะเดินทะลุส่วนล็อบบี้ตรงไปยังประดูกระจกหมุนเพื่อจะพบ ว่า พนักงานรับรถนำรถพอร์ชของเขามาเปิดประตูรอรับเทียบพรมแดงเรียบร้อยแล้ว
“เอ่อ...แล้วรถที่คุณให้ฉันใช้ล่ะคะ” นั่นเป็นคำพูดล่าสุดที่เธอยอมคุยกับเขา
“เดี๋ยวผมให้คนขับไปจอดที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของคุณเอง”
เธอเข้ามานั่งยังส่วนของเธอเสร็จ ก็จัดการคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วหลับตาลงทันที ได้ยินเสียงประตูฝั่งคนขับปิดเบาๆ แล้วจากนั้นรถก็เคลื่อนออกอย่างนุ่มนวล เธอปรารถนาที่จะไม่พูดคุยอะไรกับอีรอสอีกจนกว่าจะสงบสติอารมณ์ทั้งหมดลงได้
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังลั่นรถ ก่อนจะได้ยินเสียงพูดของอีรอสตอบโต้กับคนปลายสายเป็นระยะ
“ว่าไงนะ มีคนแจ้งตำรวจ มีการปะทะกันด้วยทั้งสองฝ่าย โอเค...ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เกิดอะไรขึ้น...เขาพูดเรื่องอะไรน่ะ!?
มิวาร์ลืมตา ขยับขึ้นนั่งหลังตรงด้วยความประหลาดใจแกมพรั่นพรึง ครั้นเธอหันไปมองอีรอสก็พบว่าเขาหันมามองเธอเช่นกัน สีหน้าและแววตาของเขาเครียดเคร่งและดูดุดันจนน่าหวั่นกลัว เหมือนเพิ่งมีใครใช้ไม้ไปแหย่รังแตนของเขาเอง
“ที่รัก...ผมมีธุระด่วนและสำคัญมากจะต้องไปทำ คุณกลับที่พักด้วยรถแท็กซี่เองได้ไหม คืนนี้ผมจะไม่กวนคุณล่ะ โอเค้?”
“เอ่อ ค่ะ” อีรอสรีบร้อนและกังวลมากเสียจนมาช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกด้วยตัวเอง หลังจากเขาเบรกรถกะทันหันตรงขอบถนนที่มีคนเดินหนาแน่นตา ถัดจากรถของเขาไปข้างหน้ามีแท็กซี่สีเหลืองคันหนึ่งเพิ่งเลี้ยวเข้ามาจอดส่งผู้โดยสาร มิวาร์จึงผลุนผลันลงจากรถทั้งๆ ที่ยังงุนงงและสับสน จากนั้นจึงวิ่งไปยังแท็กซี่คันนั้น ขณะที่เธอกำลังบอกจุดหมายปลายทางแก่คนขับ รถของอีรอสก็บึ่งจากไปแล้วด้วยความเร็วสูง
“มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่นะ” มิวาร์นั่งกัดริมฝีปากขบคิดไปตลอดทาง
***************
ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้จะห้าทุ่มแล้วขณะที่มิวาร์ผ่อนคลายสมองด้วยการอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนของนักเขียนชาวฝรั่งเศสโดยเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้เป็นเพื่อนและหรี่เสียง โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะหัวเตียงก็ร้องขึ้นเป็นจังหวะดนตรีประจำสายของรองสารวัตรแดเนียล
“ว่าไงคะแดเนียล”
“มิเชล กราแตงค์หายตัวไปจากโรงแรมที่เธอพัก มีคนเห็นเธอครั้งสุดท้ายเมื่อสี่วันก่อน พนักงานโรงแรมคิดว่าเธอออกเดินทางท่องเที่ยวไปที่รัฐอื่นหรือไม่ก็ไปทำธุระส่วนตัว เพราะเธอไม่ได้ฝากอะไรไว้กับเขาเลย” แดเนียลพูดยาวเหยียดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“ตายจริง แล้วอัยการเขตว่ายังไงบ้างคะ”
“เขาก็โกรธมากน่ะสิ คิดว่ามิเชลไหวตัวทัน”
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”
“เราให้สื่อเสนอภาพเธอออกข่าวทุกช่อง และขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาหากใครเห็นเธอ ตอนนี้เจ้าหน้าที่หลายนายกำลังไปตรวจสอบที่อาคารรถโดยสารทุกแห่ง สถานีรถไฟ และรถไฟใต้ดิน ส่วนผมตอนนี้อยู่ที่สนามบินจอห์น เอฟ เคนเนดี”
“แล้วมีใครนึกถึงเฮนดริก ฮาร์เปอร์ ไหมคะ” มิวาร์นึกขึ้นมาได้
“หมอนั่นหายตัวไปจากบ้านที่เขาอยู่กับครอบครัวด้วยเหมือนกัน”
“งั้นพวกเขาทั้งสองอาจจะหนีตามกันไปจริงๆ ค่ะ คงจะหนีไปด้วย กันนานแล้ว”
“ยังไงเราก็ต้องตามตัวพวกเขากลับมารับโทษให้ได้...ว่าแต่ผมโทร.มาปลุกคุณหรือเปล่าครับ” มีน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจในช่วงท้าย ราวกับเพิ่งตระหนักขึ้นมาได้
“ไม่เลยค่ะ ฉันยังไม่นอน กำลังทำอะไรเพลินๆ อยู่ค่ะ”
“ความจริงคุณไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้อีกแล้วก็ได้ ผมนี่แย่จริง ชอบลืมไปว่าคุณมีคดีอยู่ในมือเป็นร้อย”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะแดเนียล คดีนี้เกี่ยวพันกับมาดาม ฉันเป็นห่วงเธอค่ะ ถ้าคุณคอยส่งข่าวให้ฉันทราบเป็นระยะๆ ฉันจะดีใจมาก”
เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงถ้อยทีถ้อยอาศัย
“ครับ...งั้น เอ่อ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว นอนหลับฝันดีนะครับ”
“ฉันขอให้คุณพบตัวสองคนนั้นในคืนนี้นะคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
มิวาร์วางสายและดับโคมไฟหัวเตียงในที่สุด แต่เมื่อเธอเตรียมจะลดศีรษะลงหนุนหมอน คำพูดของอีรอสในรถส่วนตัวก็แวบเข้ามาในสมอง เธอนอนประมวลหาเหตุของคำพูดนั้นอยู่นานทีเดียว ก่อนจะสรุปด้วยความไม่สบายใจอย่างหนักว่า
อีรอสกำลังทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่หรือเปล่า เขาดูเครียดมากๆ กับการที่ตำรวจเข้าไปปะทะกับคนของเขา
คืนนั้น...เธอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียพร้อมกับความรู้สึกหวั่นกลัวในตัวอีรอส โดยมิรู้เลยว่าโทรทัศน์ได้แพร่ภาพบางอย่าง
“เมื่อเวลา ๒๒.๑๐ น. เกิดกลุ่มคนไม่ทราบชื่อเข้าปะทะกับกลุ่มค้ามนุษย์เพื่อช่วยเหลือเด็กชายหญิงซึ่งไม่ทราบอายุที่แน่ชัดถูกลักลอบนำเข้ามาทางท่าเรือที่ ๕๐ โดยถูกจับขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ จากคำบอกเล่าของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งสองกลุ่มปะทะกันราวสิบนาทีก่อนตำรวจจะมาถึง ดูเหมือนกลุ่มคนไม่ทราบชื่อจะหลบหนีตำรวจไปพร้อมกับเด็กเหล่านั้นได้อย่างเฉียดฉิว ในขณะที่กลุ่มค้ามนุษย์ถูกจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด ตำรวจกำลังติดตามหาตัวกลุ่มคนไม่ทราบชื่อเพื่อที่จะสืบสาวไปถึงตัวเด็กที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวคืนกลับไปยังประเทศเดิมต่อไป”
*************
ลงครบแล้วค่ะ^^ ที่เหลือตามต่อกันในเล่มน้าาา ฝากด้วยนะคะ มีเรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งความรักและปมฆาตกรรมรออยู่อีกเพียบ
หน้าร้านมีที่ “ศูนย์หนังสือจุฬาฯ”
ช่องทางออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้าน booksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ก
นักอ่านที่สนใจสั่งตรงกับ สนพ. ได้ 3 ช่องทางนะคะ ดังนี้
- inbox หรือส่งข้อความมาสั่งซื้อกับแอดมิน เพจ “ปลายปากกา สำนักพิมพ์” โดยแจ้งชื่อนิยาย+จำนวนเล่ม แค่นั้นค่ะ แอดมินจะสรุปราคาให้โอนเงิน จากนั้นก็รอรับหนังสือโลดดดด
-line แอดเฟรนด์ id: plaipakkabooks และแชตทักมาสั่งซื้อได้เลยค่ะ แจ้งแบบเดียวกับด้านบนเลย
-shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม!)
ราคาลดเหลือ 349฿ (จากปก 389฿)
eBook โหลดได้ที่ mebmarket นะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามจ้า อุดหนุนกันแล้วมาเม้ากันได้นะ จุ๊บๆ
“พอลไมราครับ”
“แบบรักแรกพบน่ะหรือคะ”
“จะว่าอย่างนั้นก็ได้”
มิวาร์ตระหนักดีว่าอีรอสเลี่ยงที่จะโกหกเรื่องความสัมพันธ์อันแท้ จริงของเธอกับเขาต่อนักข่าวผู้นี้ และเธอเองก็ไม่อยากตอบคำถามของเธอผู้นี้เช่นกัน เพราะเธอไม่ถนัดการโกหกเอาเสียเลย ซึ่งถ้าเผลอหลุดความจริงออกไป มันคงจะไม่เป็นผลดีต่อชื่อเสียงของเธอมากกว่าอีรอส ไททัน ดังนั้น...มิวาร์จึงภาวนาให้เขาเป็นฝ่ายตอบทุกๆ คำถามเสียแทน แม้ในส่วนลึกจะทั้งฉงนและสับสนว่าเหตุใดอีรอสจึงเปิดเผยความสัมพันธ์ลับๆ ระหว่างเธอกับเขาต่อสื่อสังคมในฐานะคู่รัก...ซึ่งมันไม่เป็นความจริงเลย
“คบกันมานานเท่าไรแล้วคะ”
“เกือบจะสองเดือนแล้ว อีกสามสี่วันก็ครบ” อีรอสตอบด้วยรอยยิ้มมั่นใจ ยกแก้วไวน์ขึ้นหมุน สูดดมแล้วก็จิบ ในขณะที่นักข่าวสาวเลิกคิ้วสูงด้วยความประหลาดใจ
“นั่นมันหมายความว่าคบกันจริงๆ จังๆ ก็แค่หนึ่งเดือนสินะคะ คุณมีความมั่นใจกับความสัมพันธ์พิเศษกับมิสเตอร์ไททันมากแค่ไหนคะ คุณหมอเกรแฮม” ดูเหมือนนักข่าวจมูกมดจะได้กลิ่นแปลกๆ จึงเหลียวมาถามมิวาร์อย่างเจาะจง
หญิงสาวอึกอักหาคำตอบที่ดีไม่ได้ ก็บอกแล้วว่า...เธอไม่ชินกับการโกหก เพราะตั้งแต่เกิดมาเธอไม่เคยโกหกใคร แต่ถ้าเรื่องลักเล็กขโมยน้อยละก็ เธอถนัดเชียวล่ะ!
“ถามผมดีกว่าครับ...มิสบราวน์ มิวาร์เป็นคนขี้อาย และผมเป็นตัวตั้งตัวตีที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ครั้งนี้”
“อ้อ...ได้ค่ะ” บราวน์เลิกสนใจมิวาร์ หลังจากหรี่ตาลงจับพิรุธชายหนุ่มรูปหล่อตรงหน้าระหว่างที่เขาแทรกขึ้น
“ผมรู้ว่ามิวาร์เป็นคนที่พิเศษสุดสำหรับผม ตั้งแต่เห็นหน้าเธอครั้งแรกแล้ว”
“ช่วยเล่าช่วงเวลานั้นหน่อยจะได้ไหมคะ...”
“ไม่ละครับ ผมต้องการเก็บไว้เป็นความทรงจำระหว่างเราสองคนเท่านั้น” เขาหันมายิ้มละไมให้กับเธอ
ช่วงเวลาแห่งการตอบบทสัมภาษณ์อันน่าอิหลักอิเหลื่อในความคิดของนิติพยาธิแพทย์สาวใช้เวลานานกว่าหนึ่งชั่วโมงครึ่ง นักข่าวบราวน์เป็นนักข่าวหัวกะทิที่มีความคิดอ่านฉลาดหลักแหลมและรู้ว่าจะใช้คำถามใดเจาะทะลุทะลวงให้ลึกถึงความสัมพันธ์ของคู่รักชนิดถึงกึ๋น แต่อีรอสก็ใช่ย่อย เขามีไหวพริบปฏิภาณฉับไวที่จะตอบคำถามที่ทะลุทะลวงราวกับอยู่ริมเตียงของ บราวน์ให้เป็นคำตอบที่น่าพออกพอใจ และไม่ใช่การโกหกเสียด้วย แต่ก็มีบางครั้งที่อีรอสปฏิเสธที่จะตอบถ้าคำถามนั้นจะมีผลกระทบต่อการงานและชื่อเสียงของมิวาร์ เขาแค่ขอให้นักข่าวบราวน์รอดูความสัมพันธ์ของพวกเขาต่อไปเท่านั้น
“คุณไปเอาน้ำตะไคร้ของฉันมาได้ยังไงคะ” มิวาร์ถามขึ้น มันดูเป็นคำถามที่ไม่น่าถามเอาซะเลย แต่เธอก็ต้องการได้ยินคำตอบที่จริงใจ
“ผมสั่งให้เคนไปเอามาจากสำนักงานของคุณ คาร่าเอามาให้เคน” เขาตอบสบายๆ ขณะจูงมือเธอเข้าไปในลิฟต์ ซึ่งก่อนหน้านี้มิสบราวน์ลงลิฟต์ตัวอื่นไปก่อนแล้ว
“คุณพระ อย่างนี้ทุกคนในที่ทำงานฉันก็รู้เรื่องเราหมดแล้วสิคะ”
“และจะรู้ลึกกว่านี้เมื่ออ่าน ‘คอสโมฯ’” เขายิ้มอย่างไม่สะทกสะท้าน
“ถามจริงๆ เถอะนะ ทำไมคุณถึงยอมเปิดเผยความสัมพันธ์ลับของเราล่ะคะ” เธอหวังว่าจะได้รับคำตอบเป็นข้อความหวานๆ เหมือนที่เขาเคยทิ้งไว้เมื่อนานมาแล้ว
อีรอสไม่ตอบในตอนแรก เขาปล่อยมือเธอและก้าวเข้าไปในลิฟต์เมื่อประตูเหล็กกล้าเปิดออก จากนั้นเขาก็สอดมือทั้งสองเข้าไปในกระเป๋ากางเกง พลางฮัมเพลงในลำคอ
“อีรอส...ฉันต้องการฟังคำตอบค่ะ” เธอถามซ้ำเสียงแข็งขึ้น
“แม่โทร.มาบอกผมว่าจะแวะมานิวเจอร์ซีย์สักสองสามวันเพื่อพาผมไปดูตัวลูกสาวของเพื่อนท่านที่เป็นคนไทย” เขาทำเสียงขัดใจก่อนตอบด้วยมาดนิ่งๆ
มิวาร์รู้สึกเหมือนมีน้ำแข็งเย็นๆ สาดโครมลงมาบนศีรษะเต็มๆ
“คุณใช้ความสัมพันธ์ของเราเป็นเครื่องมือที่จะหลบหนีจากเรื่องนี้สินะคะ” เสียงของเธอปร่าเพียงนิดเดียว อีรอสจึงไม่สังเกตหรือรับรู้
“อย่าคิดมากเลยทูนหัว ยังไงผมก็มีตาไว้มองคุณคนเดียวเท่านั้นแหละ”
เธอไม่พูดอะไรอีก นอกจากกล้ำกลืนก้อนแข็งๆ เหมือนหนามแหลมลงคออยู่นาน พร้อมกับเดินตามแรงจูงของเขาอีกครั้งเมื่อลิฟต์เปิดออกไปยังชั้นล่างสุด ก่อนจะเดินทะลุส่วนล็อบบี้ตรงไปยังประดูกระจกหมุนเพื่อจะพบ ว่า พนักงานรับรถนำรถพอร์ชของเขามาเปิดประตูรอรับเทียบพรมแดงเรียบร้อยแล้ว
“เอ่อ...แล้วรถที่คุณให้ฉันใช้ล่ะคะ” นั่นเป็นคำพูดล่าสุดที่เธอยอมคุยกับเขา
“เดี๋ยวผมให้คนขับไปจอดที่หน้าอพาร์ตเมนต์ของคุณเอง”
เธอเข้ามานั่งยังส่วนของเธอเสร็จ ก็จัดการคาดเข็มขัดนิรภัยแล้วหลับตาลงทันที ได้ยินเสียงประตูฝั่งคนขับปิดเบาๆ แล้วจากนั้นรถก็เคลื่อนออกอย่างนุ่มนวล เธอปรารถนาที่จะไม่พูดคุยอะไรกับอีรอสอีกจนกว่าจะสงบสติอารมณ์ทั้งหมดลงได้
ทันใดนั้น เสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังลั่นรถ ก่อนจะได้ยินเสียงพูดของอีรอสตอบโต้กับคนปลายสายเป็นระยะ
“ว่าไงนะ มีคนแจ้งตำรวจ มีการปะทะกันด้วยทั้งสองฝ่าย โอเค...ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้แหละ!”
เกิดอะไรขึ้น...เขาพูดเรื่องอะไรน่ะ!?
มิวาร์ลืมตา ขยับขึ้นนั่งหลังตรงด้วยความประหลาดใจแกมพรั่นพรึง ครั้นเธอหันไปมองอีรอสก็พบว่าเขาหันมามองเธอเช่นกัน สีหน้าและแววตาของเขาเครียดเคร่งและดูดุดันจนน่าหวั่นกลัว เหมือนเพิ่งมีใครใช้ไม้ไปแหย่รังแตนของเขาเอง
“ที่รัก...ผมมีธุระด่วนและสำคัญมากจะต้องไปทำ คุณกลับที่พักด้วยรถแท็กซี่เองได้ไหม คืนนี้ผมจะไม่กวนคุณล่ะ โอเค้?”
“เอ่อ ค่ะ” อีรอสรีบร้อนและกังวลมากเสียจนมาช่วยเธอปลดเข็มขัดนิรภัยออกด้วยตัวเอง หลังจากเขาเบรกรถกะทันหันตรงขอบถนนที่มีคนเดินหนาแน่นตา ถัดจากรถของเขาไปข้างหน้ามีแท็กซี่สีเหลืองคันหนึ่งเพิ่งเลี้ยวเข้ามาจอดส่งผู้โดยสาร มิวาร์จึงผลุนผลันลงจากรถทั้งๆ ที่ยังงุนงงและสับสน จากนั้นจึงวิ่งไปยังแท็กซี่คันนั้น ขณะที่เธอกำลังบอกจุดหมายปลายทางแก่คนขับ รถของอีรอสก็บึ่งจากไปแล้วด้วยความเร็วสูง
“มีอะไรเกิดขึ้นกันแน่นะ” มิวาร์นั่งกัดริมฝีปากขบคิดไปตลอดทาง
***************
ตอนนั้นเป็นเวลาใกล้จะห้าทุ่มแล้วขณะที่มิวาร์ผ่อนคลายสมองด้วยการอ่านนิยายสืบสวนสอบสวนของนักเขียนชาวฝรั่งเศสโดยเปิดโทรทัศน์ทิ้งไว้เป็นเพื่อนและหรี่เสียง โทรศัพท์มือถือบนโต๊ะหัวเตียงก็ร้องขึ้นเป็นจังหวะดนตรีประจำสายของรองสารวัตรแดเนียล
“ว่าไงคะแดเนียล”
“มิเชล กราแตงค์หายตัวไปจากโรงแรมที่เธอพัก มีคนเห็นเธอครั้งสุดท้ายเมื่อสี่วันก่อน พนักงานโรงแรมคิดว่าเธอออกเดินทางท่องเที่ยวไปที่รัฐอื่นหรือไม่ก็ไปทำธุระส่วนตัว เพราะเธอไม่ได้ฝากอะไรไว้กับเขาเลย” แดเนียลพูดยาวเหยียดด้วยน้ำเสียงไม่สู้ดีนัก
“ตายจริง แล้วอัยการเขตว่ายังไงบ้างคะ”
“เขาก็โกรธมากน่ะสิ คิดว่ามิเชลไหวตัวทัน”
“แล้วคุณจะทำยังไงต่อไปคะ”
“เราให้สื่อเสนอภาพเธอออกข่าวทุกช่อง และขอให้ประชาชนแจ้งเบาะแสเข้ามาหากใครเห็นเธอ ตอนนี้เจ้าหน้าที่หลายนายกำลังไปตรวจสอบที่อาคารรถโดยสารทุกแห่ง สถานีรถไฟ และรถไฟใต้ดิน ส่วนผมตอนนี้อยู่ที่สนามบินจอห์น เอฟ เคนเนดี”
“แล้วมีใครนึกถึงเฮนดริก ฮาร์เปอร์ ไหมคะ” มิวาร์นึกขึ้นมาได้
“หมอนั่นหายตัวไปจากบ้านที่เขาอยู่กับครอบครัวด้วยเหมือนกัน”
“งั้นพวกเขาทั้งสองอาจจะหนีตามกันไปจริงๆ ค่ะ คงจะหนีไปด้วย กันนานแล้ว”
“ยังไงเราก็ต้องตามตัวพวกเขากลับมารับโทษให้ได้...ว่าแต่ผมโทร.มาปลุกคุณหรือเปล่าครับ” มีน้ำเสียงเกรงอกเกรงใจในช่วงท้าย ราวกับเพิ่งตระหนักขึ้นมาได้
“ไม่เลยค่ะ ฉันยังไม่นอน กำลังทำอะไรเพลินๆ อยู่ค่ะ”
“ความจริงคุณไม่ต้องมายุ่งเกี่ยวกับคดีนี้อีกแล้วก็ได้ ผมนี่แย่จริง ชอบลืมไปว่าคุณมีคดีอยู่ในมือเป็นร้อย”
“ไม่เป็นไรเลยค่ะแดเนียล คดีนี้เกี่ยวพันกับมาดาม ฉันเป็นห่วงเธอค่ะ ถ้าคุณคอยส่งข่าวให้ฉันทราบเป็นระยะๆ ฉันจะดีใจมาก”
เธอตอบกลับด้วยน้ำเสียงถ้อยทีถ้อยอาศัย
“ครับ...งั้น เอ่อ ผมไม่รบกวนคุณแล้ว นอนหลับฝันดีนะครับ”
“ฉันขอให้คุณพบตัวสองคนนั้นในคืนนี้นะคะ”
“ขอบคุณมากครับ”
มิวาร์วางสายและดับโคมไฟหัวเตียงในที่สุด แต่เมื่อเธอเตรียมจะลดศีรษะลงหนุนหมอน คำพูดของอีรอสในรถส่วนตัวก็แวบเข้ามาในสมอง เธอนอนประมวลหาเหตุของคำพูดนั้นอยู่นานทีเดียว ก่อนจะสรุปด้วยความไม่สบายใจอย่างหนักว่า
อีรอสกำลังทำเรื่องที่ผิดกฎหมายอยู่หรือเปล่า เขาดูเครียดมากๆ กับการที่ตำรวจเข้าไปปะทะกับคนของเขา
คืนนั้น...เธอหลับไปด้วยความอ่อนเพลียพร้อมกับความรู้สึกหวั่นกลัวในตัวอีรอส โดยมิรู้เลยว่าโทรทัศน์ได้แพร่ภาพบางอย่าง
“เมื่อเวลา ๒๒.๑๐ น. เกิดกลุ่มคนไม่ทราบชื่อเข้าปะทะกับกลุ่มค้ามนุษย์เพื่อช่วยเหลือเด็กชายหญิงซึ่งไม่ทราบอายุที่แน่ชัดถูกลักลอบนำเข้ามาทางท่าเรือที่ ๕๐ โดยถูกจับขังไว้ในตู้คอนเทนเนอร์ จากคำบอกเล่าของพยานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งสองกลุ่มปะทะกันราวสิบนาทีก่อนตำรวจจะมาถึง ดูเหมือนกลุ่มคนไม่ทราบชื่อจะหลบหนีตำรวจไปพร้อมกับเด็กเหล่านั้นได้อย่างเฉียดฉิว ในขณะที่กลุ่มค้ามนุษย์ถูกจับกุมตัวไว้ได้ทั้งหมด ตำรวจกำลังติดตามหาตัวกลุ่มคนไม่ทราบชื่อเพื่อที่จะสืบสาวไปถึงตัวเด็กที่ลักลอบเข้าประเทศอย่างผิดกฎหมาย ก่อนส่งตัวคืนกลับไปยังประเทศเดิมต่อไป”
*************
ลงครบแล้วค่ะ^^ ที่เหลือตามต่อกันในเล่มน้าาา ฝากด้วยนะคะ มีเรื่องเซอร์ไพรส์ทั้งความรักและปมฆาตกรรมรออยู่อีกเพียบ
หน้าร้านมีที่ “ศูนย์หนังสือจุฬาฯ”
ช่องทางออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้าน booksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ก
นักอ่านที่สนใจสั่งตรงกับ สนพ. ได้ 3 ช่องทางนะคะ ดังนี้
- inbox หรือส่งข้อความมาสั่งซื้อกับแอดมิน เพจ “ปลายปากกา สำนักพิมพ์” โดยแจ้งชื่อนิยาย+จำนวนเล่ม แค่นั้นค่ะ แอดมินจะสรุปราคาให้โอนเงิน จากนั้นก็รอรับหนังสือโลดดดด
-line แอดเฟรนด์ id: plaipakkabooks และแชตทักมาสั่งซื้อได้เลยค่ะ แจ้งแบบเดียวกับด้านบนเลย
-shopee ร้าน plaipakkabooks_officialshop (ส่งฟรีทุกเล่ม!)
ราคาลดเหลือ 349฿ (จากปก 389฿)
eBook โหลดได้ที่ mebmarket นะคะ
ขอบคุณนักอ่านทุกท่านที่ติดตามจ้า อุดหนุนกันแล้วมาเม้ากันได้นะ จุ๊บๆ
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 24 พ.ย. 2563, 10:08:37 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 24 พ.ย. 2563, 10:08:37 น.
จำนวนการเข้าชม : 348
<< บทที่ 10 -65% |