คืนหลอนในวันหยุด - จบ
กลางคืนใช่ว่าจะมีเพียงแต่เรา อาจมีสิ่งที่มองไม่เห็นวนเวียนอยู่รอบกาย ถึงคุณจะมองไม่เห็น ใช่ว่าเขาจะไม่เห็นคุณ เตรียมพบกับสิ่งลี้ลับที่ไม่สามารถมองหรือสัมผัสได้จากเรื่องนี้
Tags: คินวันหยุด วิญญาณ ขนหัวลุก
ตอน: ความไม่รู้
ผมชื่อ จงรัก ไม่ว่าใครก็แล้วแต่ที่พบผมก็จะตกหลุมรัก อันนี้แม่ผมกล่าวไว้
แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิด ไม่ว่าใครเห็นผมก็ต้องหนีทั้งนั้นเพราะผมหน้าตาไม่หล่อ
แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ทำให้ผมและเพื่อนต้องขวัญผวา
ผมและพวกเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวกับทางบริษัท เจ้าของบริษัทมีนโยบายให้ลูกน้องทุกคนมีช่วงเวลาพักผ่อน ส่วนตัวผมนั้นพึ่งเข้ามาอยู่ใหม่จึงได้อานิสงส์ไปเที่ยวด้วย
บริษัทใหญ่โตให้จัดท่องเที่ยวเดือนละครั้ง โดยไปครั้งนี้มีจำนวนคนรวมๆ แล้ว 3 คันรถทัวร์
ผมได้พบเพื่อนร่วมงานแต่ต่างแผนกมากมายมีแต่คนที่ไม่รู้จักแต่มีคนหนึ่งเข้ามาหาผม
"สวัสดีเราชื่อ คัตเตอร์" ชายหนุ่มรูปร่างผอมเพรียว มีดวงตาสดใส เดินเข้ามานั่งและแนะนำตัวกับผม
"ครับ ผมชื่อ จงรัก นะ"
"แล้วให้รักหรือเปล่า" คัตเตอร์ถามกลับทำเอาผมแทบเงิบ ขนลุกซู่
"ล้อเล่น" คำพูดต่อมาของคัตเตอร์ทำผมค่อยยังชั่ว นึกว่าจะมาจีบซะแล้ว ผมไม่ใช่คนชอบไม้ป่าเดียวกันนะ ถึงแม้หน้าตาของผมสาวๆ จะไม่มองก็ตาม
การทักทายต้องสิ้นสุดลงเมื่อพวกเขาแจกกระดาษให้ดูห้องพักของแต่ละคน ว่าเราจะได้พักร่วมกับใครและไม่น่าเชื่อ ผมได้พักกับ คัตเตอร์
"เราพักด้วยกัน" รอยยิ้มของคัตเตอร์ส่งมาให้ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้อันตราย
"แชะ แชะ" มาถึงห้องพักผมก็เริ่มถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งผมเคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ และเป็นการเที่ยวทะเลครั้งแรกในชีวิตผมเลยก็ว่าได้
"นายชอบถ่ายรูปเหรอ ถ่ายด้วยกันไหม" คัตเตอร์มาชวนผมแล้วยังขยับมานั่งชิดบนเตียงนอนของผมอีก แต่ผมก็ตามใจเพื่อนร่วมห้อง
ขณะที่ผมกำลังตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูป สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นเงาดำๆ แวบไปแวบมาแถวหน้าห้องน้ำ
"เฮ้ย...อะไร" ใช่สิ สิ่งที่เห็นคืออะไร ใจผมนี่เต้น ตึกตัก ตึกตัก หวังว่าห้องพักนี้จะไม่มีผีมาหลอกกันใช่ไหม
"เป็นอะไรหรือเปล่า" คัตเตอร์เดินมาใกล้ขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำเพื่อพิสูจน์สิ่งที่เห็น แต่คนที่ทำผมสะดุ้งคงเป็นคัตเตอร์มากกว่า
ตกดึกคืนนั้นผมนอนตั้งแต่หัวค่ำส่วนคัตเตอร์นั่งจัดของและเล่นโทรศัพท์ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเขาหลับตอนไหนแต่ผมตื่นมากลางดึก ผมจึงเห็นว่าไฟในห้องน้ำกำลังเปิดอยู่และผมก็ไม่ชอบให้เปิดไฟทิ้งไว้ ถ้าไม่ใช้ก็ต้องปิด
ขณะที่ผมจะไปที่สวิตช์ไฟต้องชะงักเท้าเพราะว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำ ผมจึงหันกลับไปดูที่เตียงของคัตเตอร์ก็ยังเห็นคัตเตอร์นอนอยู่
"แล้ว...แล้วใครวะ" ตอนนี้ผมขาแข็งจนก้าวไม่ได้แล้ว และแล้วห้องน้ำก็เปิดออก
แต่...แต่ไม่มีใครออกมา และที่ทำให้ผมต้องกระโดดขึ้นเตียงทันทีเมื่อไฟในห้องน้ำได้ถูกปิดลง
คำถาม...ใคร...ถ้าไม่ใช่ผี!!
ทั้งคืนนั้นผมนอนไม่หลับได้แต่นอนสั่นอยู่บนเตียงและคลุมโปงจนเช้า จนคัตเตอร์ต้องมาเขย่าผมให้ตื่นจากภวังค์ของความกลัว
"นายเป็นอะไร" คัตเตอร์ถาม
ผมนี่พูดไม่ออกได้แต่กลอกตาไปมาในห้อง เพื่อว่าผีตัวนั้นจะออกมาแกล้งผมอีก
"ไปอาบน้ำ แล้วลงไปทานข้าวกัน" คัตเตอร์เสียงใสแต่ผมนี่สิเสียงสั่น แล้วการมาเที่ยวครั้งนี้ของผมจะรอดไหม
จนแล้วจนรอดผมต้องกลั้นใจอาบน้ำและออกไปรวมกับคนอื่นๆ เพื่อทำกิจกรรม การดำเนินกิจกรรมเป็นความน่าเบื่อสำหรับผมเพราะตลอดทั้งวันผมแทบจะหัวทิ่มพื้น ก็ผมมัวแต่กลัวผีจนไม่ได้หลับเลยทั้งคืน แล้วผมจะไปเอาแรงจากไหนมาเล่น
"มาถ่ายรูปเล่นกัน" คัตเตอร์เดินเข้ามาทักและให้ผมไปกับเขา
ผมจึงตามใจและถ่ายภาพให้เขาจนผมลืมไปเสียสนิทว่าตนเองเจอกับอะไรมาบ้าง จนกระทั่งค่ำ พวกเราจึงเดินกลับห้องกันและในคืนนี้แหละที่ทำให้ผมเสียวสันหลัง
แต่ก็กลั้นใจรีบนอนไปเพราะยังไงพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของพักผ่อน เป็นการเที่ยวที่แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้
"เอาวะ แค่คืนนี้คืนเดียว"
และแล้วผมก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เช้าวันนี้จึงฉลองให้ตนเองก่อนเดินทางกลับด้วยการลงเล่นน้ำในสระแล้วนั่งบ่อจากุซซี่นวดเพลินๆ
ขณะผมหลับตาจู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังดึงขาผมแล้วลากผมลงไป ผมจึงรีบตะเกียกตะกายเพื่อเอาตัวรอดและไม่คิดว่าอ่างจากุซซี่ที่ผมนั่งจะกลายเป็นสระน้ำที่มีระดับความลึกเป็นเมตรๆ ได้ ใครก็ได้ช่วยผมที!!
ในความฝันอันมืดมิด มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนมองผมจากในน้ำ ปากพูดบอกบางสิ่ง มือก็ยื่นมาหาผม
"เฮือก!"
"เฮ้ย...มึงตื่นแล้ว พวกเราตกใจมากเลยนะที่มึงจมน้ำในสระ หมอบอกเป็นตะคริว"
คนที่พูดกับผมไม่ใช่คัตเตอร์ที่ติดตามผมตลอดเวลาแต่เป็นไอ้แชมป์เพื่อนในแผนกผมนั่นเอง แล้วทำไมมันถึงพึ่งโผล่หน้ามานะ ตลอดสามวันมานี้ไม่เห็นมันเลย
"มึงเป็นยังไงบ้างวะ" แชมป์ถามผม ซึ่งตอนนี้ผมกำลังมึนๆ อยู่
"คัตเตอร์อยู่ไหน" สิ่งที่ผมสงสัยตั้งแต่แรกคือตั้งแต่ลืมตามานี่ ยังไม่เห็นคัตเตอร์เลย
"ใครวะ" คำถามย้อนกลับมาที่ผม ทำให้ผมยิ่งงง
"ก็คัตเตอร์ที่พักอยู่กับฉันไง คัตเตอร์ที่หน้าตาดีๆ อยู่กับฉันตลอดเวลาไง" ผมอธิบายแต่ใจเริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วสิ เพราะสีหน้าเพื่อนแต่ละคนงงกันหนักมาก
"ไอ้จงรัก มึงฟังกู คนที่อยู่กับมึงตลอดเวลา นอนกับมึง ใช้ห้องเดียวกับมึง คือกูนะเว้ย มึงตั้งสติหน่อยสิวะ" แชมป์เขย่าตัวผมจนผมงงไปหมด
"แล้วคัตเตอร์คือใครวะ คนที่กูคุยด้วยตลอดสองสามวันมานี่นะ"ผมมองคนในห้องที่ทำหน้ามึนงงหันมองกันไปกันมา หรือว่าผมจะฝันไป
"กูเห็นมึงแปลกๆ มาตั้งแต่ที่มึงไปถ่ายรูปต้นไม้วันนั้นแล้ว กูก็ไม่ได้สนใจ พอเห็นมึงหัวเราะกับตัวเอง บางทีก็ชอบคุยคนเดียวจนกูขนลุกชัน" ไอ้แชมป์พูดไปลูบแขนตัวเองไปแล้วพูดต่ออีกว่า
"แล้วกูก็เลยไปดูกล้องที่มึงถ่าย กูยิ่งขนลุกกว่าเดิม ทุกภาพที่มึงถ่ายไม่มีใครเลย มีแต่มึงและสถานที่ว่างเปล่ากูเลยสงสัย จากนั้นกูเลยโทรไปหาร้านที่พวกเราแวะระหว่างทาง กูเลยรู้ว่าต้นไม้ที่มึงถ่ายติดไปนั้นเคยมีนักท่องเที่ยวคนไทยนี่แหละ เกิดอุบัติเหตุรถชนกันร่างกระเด็นมาอยู่ใต้ต้นไม้ที่แกถ่าย ขนลุกโว้ย!!..."
พอแชมป์เล่าทุกอย่างที่ไปสืบมาให้ผมฟัง ทำให้ผมรู้ว่าตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่ผมไม่ได้อยู่กับมนุษย์แต่เป็นวิญญาณคนที่ต้องการเที่ยวแต่ไม่ได้ตามที่ต้องการ จนผมนึกย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ผมจะถ่ายรูปสถานที่นั้น ผมเคยพูดว่า
"ว้าว! เป็นต้นไม้ที่มีเสน่ห์จริงๆ สถานที่และมุม องค์ประกอบได้หมด อยากมีภาพเพิ่มจัง" ตอนนั้นนั่นเองที่ผมเผลอพูดออกมา คัตเตอร์คงเข้าใจผมผิดเลยตามมาอยู่ด้วย พอผมเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆ จึงฟันธงว่าคัตเตอร์อยากให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อน อาจจะอยากให้ไปถ่ายรูปให้มั้ง ขำๆ นะ ให้ตายสิผมคิดอะไรอยู่กันแน่
บทสรุปการตัดสินใจที่เด็ดขาดของผม หลังจากอึ้งอยู่นาน ผมจึงลากไอ้แชมป์ไปในเมืองเพื่อให้ร้านทำรูปออกมาเป็นอัลบั้มตั้งแต่มาเที่ยว
ภาพแต่ละภาพมักจะมีแสงและเงาแปลกๆ ที่ไม่น่าจะอยู่ในภาพจนทางร้านสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร นำอัลบั้มที่ได้เก็บใส่กระเป๋าพร้อมกับแวะสถานที่นั้นก่อนกลับกรุงเทพ
"มึงแน่ใจนะ ว่าจะทำแบบนี้จริง"
"อื้ม...กูแน่ใจ" ผมตอบไอ้แชมป์ ผมไม่เคยตัดสินใจอะไรได้จริงจังขนาดนี้มาก่อนเลย
"แต่กูอยู่ไม่ได้วะ มึง...มึงจัดการเองแล้วกัน กูไปแล้ว" พูดจบแชมป์ก็รีบเดินไปรวมกับเพื่อนๆ ที่รถทันที ทิ้งให้ผมกลืนน้ำลายลงไปหลายอึก
"ไอ้แชมป์...มึง...เอาวะ" ถึงผมจะเจ็บใจที่เพื่อนทิ้งแต่ผมก็ทำใจสู้ อย่างน้อยผมก็หวังว่าคัตเตอร์จะไม่มีห่วงและหวังว่าคัตเตอร์จะไม่ชวนใครถ่ายภาพอีก
การตัดสินใจที่ผมได้ทำนั้น คือการนำอัลบั้มภาพที่มีคัตเตอร์อยู่ถึงแม้จะไม่เป็นหน้าตารูปร่างให้เห็นแต่ผมจำได้ทุกภาพว่ามีเขา จึงนำมาฝังใต้ต้นไม้ที่ผมเคยบอกว่ามีเสน่ห์ ผมคิดว่าอย่างน้อยก็เคยเป็นเพื่อนกันมาสามวันและขอบคุณที่จะเอาผมไปอยู่ด้วยแต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากไป จริงๆ แล้วแชมป์ต่างหากที่คอยช่วยผมแต่วินาทีนั้นผมคงไม่อยากขัดใจผีคัตเตอร์ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรักไอ้เพื่อนแชมป์มากกว่าเดิม คิดแล้วก็อยากไปกอดมันสักที
แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่อย่างนั้นเลยสักนิด ไม่ว่าใครเห็นผมก็ต้องหนีทั้งนั้นเพราะผมหน้าตาไม่หล่อ
แต่นั้นไม่ใช่ประเด็น เรื่องที่ผมจะเล่าต่อไปนี้ทำให้ผมและเพื่อนต้องขวัญผวา
ผมและพวกเพื่อนๆ ได้ไปเที่ยวกับทางบริษัท เจ้าของบริษัทมีนโยบายให้ลูกน้องทุกคนมีช่วงเวลาพักผ่อน ส่วนตัวผมนั้นพึ่งเข้ามาอยู่ใหม่จึงได้อานิสงส์ไปเที่ยวด้วย
บริษัทใหญ่โตให้จัดท่องเที่ยวเดือนละครั้ง โดยไปครั้งนี้มีจำนวนคนรวมๆ แล้ว 3 คันรถทัวร์
ผมได้พบเพื่อนร่วมงานแต่ต่างแผนกมากมายมีแต่คนที่ไม่รู้จักแต่มีคนหนึ่งเข้ามาหาผม
"สวัสดีเราชื่อ คัตเตอร์" ชายหนุ่มรูปร่างผอมเพรียว มีดวงตาสดใส เดินเข้ามานั่งและแนะนำตัวกับผม
"ครับ ผมชื่อ จงรัก นะ"
"แล้วให้รักหรือเปล่า" คัตเตอร์ถามกลับทำเอาผมแทบเงิบ ขนลุกซู่
"ล้อเล่น" คำพูดต่อมาของคัตเตอร์ทำผมค่อยยังชั่ว นึกว่าจะมาจีบซะแล้ว ผมไม่ใช่คนชอบไม้ป่าเดียวกันนะ ถึงแม้หน้าตาของผมสาวๆ จะไม่มองก็ตาม
การทักทายต้องสิ้นสุดลงเมื่อพวกเขาแจกกระดาษให้ดูห้องพักของแต่ละคน ว่าเราจะได้พักร่วมกับใครและไม่น่าเชื่อ ผมได้พักกับ คัตเตอร์
"เราพักด้วยกัน" รอยยิ้มของคัตเตอร์ส่งมาให้ยิ่งทำให้ผมมั่นใจว่าเพื่อนร่วมห้องคนนี้อันตราย
"แชะ แชะ" มาถึงห้องพักผมก็เริ่มถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ว่าครั้งหนึ่งผมเคยมาพักที่โรงแรมแห่งนี้ และเป็นการเที่ยวทะเลครั้งแรกในชีวิตผมเลยก็ว่าได้
"นายชอบถ่ายรูปเหรอ ถ่ายด้วยกันไหม" คัตเตอร์มาชวนผมแล้วยังขยับมานั่งชิดบนเตียงนอนของผมอีก แต่ผมก็ตามใจเพื่อนร่วมห้อง
ขณะที่ผมกำลังตั้งกล้องเพื่อถ่ายรูป สายตาของผมก็เหลือบไปเห็นเงาดำๆ แวบไปแวบมาแถวหน้าห้องน้ำ
"เฮ้ย...อะไร" ใช่สิ สิ่งที่เห็นคืออะไร ใจผมนี่เต้น ตึกตัก ตึกตัก หวังว่าห้องพักนี้จะไม่มีผีมาหลอกกันใช่ไหม
"เป็นอะไรหรือเปล่า" คัตเตอร์เดินมาใกล้ขณะที่ผมกำลังจะเปิดประตูห้องน้ำเพื่อพิสูจน์สิ่งที่เห็น แต่คนที่ทำผมสะดุ้งคงเป็นคัตเตอร์มากกว่า
ตกดึกคืนนั้นผมนอนตั้งแต่หัวค่ำส่วนคัตเตอร์นั่งจัดของและเล่นโทรศัพท์ ซึ่งผมก็ไม่รู้ว่าเขาหลับตอนไหนแต่ผมตื่นมากลางดึก ผมจึงเห็นว่าไฟในห้องน้ำกำลังเปิดอยู่และผมก็ไม่ชอบให้เปิดไฟทิ้งไว้ ถ้าไม่ใช้ก็ต้องปิด
ขณะที่ผมจะไปที่สวิตช์ไฟต้องชะงักเท้าเพราะว่ามีคนอยู่ในห้องน้ำ ผมจึงหันกลับไปดูที่เตียงของคัตเตอร์ก็ยังเห็นคัตเตอร์นอนอยู่
"แล้ว...แล้วใครวะ" ตอนนี้ผมขาแข็งจนก้าวไม่ได้แล้ว และแล้วห้องน้ำก็เปิดออก
แต่...แต่ไม่มีใครออกมา และที่ทำให้ผมต้องกระโดดขึ้นเตียงทันทีเมื่อไฟในห้องน้ำได้ถูกปิดลง
คำถาม...ใคร...ถ้าไม่ใช่ผี!!
ทั้งคืนนั้นผมนอนไม่หลับได้แต่นอนสั่นอยู่บนเตียงและคลุมโปงจนเช้า จนคัตเตอร์ต้องมาเขย่าผมให้ตื่นจากภวังค์ของความกลัว
"นายเป็นอะไร" คัตเตอร์ถาม
ผมนี่พูดไม่ออกได้แต่กลอกตาไปมาในห้อง เพื่อว่าผีตัวนั้นจะออกมาแกล้งผมอีก
"ไปอาบน้ำ แล้วลงไปทานข้าวกัน" คัตเตอร์เสียงใสแต่ผมนี่สิเสียงสั่น แล้วการมาเที่ยวครั้งนี้ของผมจะรอดไหม
จนแล้วจนรอดผมต้องกลั้นใจอาบน้ำและออกไปรวมกับคนอื่นๆ เพื่อทำกิจกรรม การดำเนินกิจกรรมเป็นความน่าเบื่อสำหรับผมเพราะตลอดทั้งวันผมแทบจะหัวทิ่มพื้น ก็ผมมัวแต่กลัวผีจนไม่ได้หลับเลยทั้งคืน แล้วผมจะไปเอาแรงจากไหนมาเล่น
"มาถ่ายรูปเล่นกัน" คัตเตอร์เดินเข้ามาทักและให้ผมไปกับเขา
ผมจึงตามใจและถ่ายภาพให้เขาจนผมลืมไปเสียสนิทว่าตนเองเจอกับอะไรมาบ้าง จนกระทั่งค่ำ พวกเราจึงเดินกลับห้องกันและในคืนนี้แหละที่ทำให้ผมเสียวสันหลัง
แต่ก็กลั้นใจรีบนอนไปเพราะยังไงพรุ่งนี้ก็เป็นวันสุดท้ายของพักผ่อน เป็นการเที่ยวที่แย่ที่สุดเลยก็ว่าได้
"เอาวะ แค่คืนนี้คืนเดียว"
และแล้วผมก็ผ่านช่วงเวลานั้นมาได้ เช้าวันนี้จึงฉลองให้ตนเองก่อนเดินทางกลับด้วยการลงเล่นน้ำในสระแล้วนั่งบ่อจากุซซี่นวดเพลินๆ
ขณะผมหลับตาจู่ๆ ผมก็รู้สึกว่ามีบางสิ่งกำลังดึงขาผมแล้วลากผมลงไป ผมจึงรีบตะเกียกตะกายเพื่อเอาตัวรอดและไม่คิดว่าอ่างจากุซซี่ที่ผมนั่งจะกลายเป็นสระน้ำที่มีระดับความลึกเป็นเมตรๆ ได้ ใครก็ได้ช่วยผมที!!
ในความฝันอันมืดมิด มีชายหนุ่มคนหนึ่งกำลังยืนมองผมจากในน้ำ ปากพูดบอกบางสิ่ง มือก็ยื่นมาหาผม
"เฮือก!"
"เฮ้ย...มึงตื่นแล้ว พวกเราตกใจมากเลยนะที่มึงจมน้ำในสระ หมอบอกเป็นตะคริว"
คนที่พูดกับผมไม่ใช่คัตเตอร์ที่ติดตามผมตลอดเวลาแต่เป็นไอ้แชมป์เพื่อนในแผนกผมนั่นเอง แล้วทำไมมันถึงพึ่งโผล่หน้ามานะ ตลอดสามวันมานี้ไม่เห็นมันเลย
"มึงเป็นยังไงบ้างวะ" แชมป์ถามผม ซึ่งตอนนี้ผมกำลังมึนๆ อยู่
"คัตเตอร์อยู่ไหน" สิ่งที่ผมสงสัยตั้งแต่แรกคือตั้งแต่ลืมตามานี่ ยังไม่เห็นคัตเตอร์เลย
"ใครวะ" คำถามย้อนกลับมาที่ผม ทำให้ผมยิ่งงง
"ก็คัตเตอร์ที่พักอยู่กับฉันไง คัตเตอร์ที่หน้าตาดีๆ อยู่กับฉันตลอดเวลาไง" ผมอธิบายแต่ใจเริ่มรู้สึกแปลกๆ แล้วสิ เพราะสีหน้าเพื่อนแต่ละคนงงกันหนักมาก
"ไอ้จงรัก มึงฟังกู คนที่อยู่กับมึงตลอดเวลา นอนกับมึง ใช้ห้องเดียวกับมึง คือกูนะเว้ย มึงตั้งสติหน่อยสิวะ" แชมป์เขย่าตัวผมจนผมงงไปหมด
"แล้วคัตเตอร์คือใครวะ คนที่กูคุยด้วยตลอดสองสามวันมานี่นะ"ผมมองคนในห้องที่ทำหน้ามึนงงหันมองกันไปกันมา หรือว่าผมจะฝันไป
"กูเห็นมึงแปลกๆ มาตั้งแต่ที่มึงไปถ่ายรูปต้นไม้วันนั้นแล้ว กูก็ไม่ได้สนใจ พอเห็นมึงหัวเราะกับตัวเอง บางทีก็ชอบคุยคนเดียวจนกูขนลุกชัน" ไอ้แชมป์พูดไปลูบแขนตัวเองไปแล้วพูดต่ออีกว่า
"แล้วกูก็เลยไปดูกล้องที่มึงถ่าย กูยิ่งขนลุกกว่าเดิม ทุกภาพที่มึงถ่ายไม่มีใครเลย มีแต่มึงและสถานที่ว่างเปล่ากูเลยสงสัย จากนั้นกูเลยโทรไปหาร้านที่พวกเราแวะระหว่างทาง กูเลยรู้ว่าต้นไม้ที่มึงถ่ายติดไปนั้นเคยมีนักท่องเที่ยวคนไทยนี่แหละ เกิดอุบัติเหตุรถชนกันร่างกระเด็นมาอยู่ใต้ต้นไม้ที่แกถ่าย ขนลุกโว้ย!!..."
พอแชมป์เล่าทุกอย่างที่ไปสืบมาให้ผมฟัง ทำให้ผมรู้ว่าตลอดเวลาที่มาอยู่ที่นี่ผมไม่ได้อยู่กับมนุษย์แต่เป็นวิญญาณคนที่ต้องการเที่ยวแต่ไม่ได้ตามที่ต้องการ จนผมนึกย้อนกลับไปก่อนหน้าที่ผมจะถ่ายรูปสถานที่นั้น ผมเคยพูดว่า
"ว้าว! เป็นต้นไม้ที่มีเสน่ห์จริงๆ สถานที่และมุม องค์ประกอบได้หมด อยากมีภาพเพิ่มจัง" ตอนนั้นนั่นเองที่ผมเผลอพูดออกมา คัตเตอร์คงเข้าใจผมผิดเลยตามมาอยู่ด้วย พอผมเล่าให้เพื่อนๆ ฟัง เพื่อนๆ จึงฟันธงว่าคัตเตอร์อยากให้ผมไปอยู่เป็นเพื่อน อาจจะอยากให้ไปถ่ายรูปให้มั้ง ขำๆ นะ ให้ตายสิผมคิดอะไรอยู่กันแน่
บทสรุปการตัดสินใจที่เด็ดขาดของผม หลังจากอึ้งอยู่นาน ผมจึงลากไอ้แชมป์ไปในเมืองเพื่อให้ร้านทำรูปออกมาเป็นอัลบั้มตั้งแต่มาเที่ยว
ภาพแต่ละภาพมักจะมีแสงและเงาแปลกๆ ที่ไม่น่าจะอยู่ในภาพจนทางร้านสงสัยแต่ผมก็ไม่ได้พูดอะไร นำอัลบั้มที่ได้เก็บใส่กระเป๋าพร้อมกับแวะสถานที่นั้นก่อนกลับกรุงเทพ
"มึงแน่ใจนะ ว่าจะทำแบบนี้จริง"
"อื้ม...กูแน่ใจ" ผมตอบไอ้แชมป์ ผมไม่เคยตัดสินใจอะไรได้จริงจังขนาดนี้มาก่อนเลย
"แต่กูอยู่ไม่ได้วะ มึง...มึงจัดการเองแล้วกัน กูไปแล้ว" พูดจบแชมป์ก็รีบเดินไปรวมกับเพื่อนๆ ที่รถทันที ทิ้งให้ผมกลืนน้ำลายลงไปหลายอึก
"ไอ้แชมป์...มึง...เอาวะ" ถึงผมจะเจ็บใจที่เพื่อนทิ้งแต่ผมก็ทำใจสู้ อย่างน้อยผมก็หวังว่าคัตเตอร์จะไม่มีห่วงและหวังว่าคัตเตอร์จะไม่ชวนใครถ่ายภาพอีก
การตัดสินใจที่ผมได้ทำนั้น คือการนำอัลบั้มภาพที่มีคัตเตอร์อยู่ถึงแม้จะไม่เป็นหน้าตารูปร่างให้เห็นแต่ผมจำได้ทุกภาพว่ามีเขา จึงนำมาฝังใต้ต้นไม้ที่ผมเคยบอกว่ามีเสน่ห์ ผมคิดว่าอย่างน้อยก็เคยเป็นเพื่อนกันมาสามวันและขอบคุณที่จะเอาผมไปอยู่ด้วยแต่ตอนนี้ผมยังไม่อยากไป จริงๆ แล้วแชมป์ต่างหากที่คอยช่วยผมแต่วินาทีนั้นผมคงไม่อยากขัดใจผีคัตเตอร์ เหตุการณ์ครั้งนี้ทำให้ผมรักไอ้เพื่อนแชมป์มากกว่าเดิม คิดแล้วก็อยากไปกอดมันสักที
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 เม.ย. 2563, 08:25:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 เม.ย. 2563, 08:25:21 น.
จำนวนการเข้าชม : 418
<< ตามติด | อาถรรพ์ในโรงเรียน >> |