ดุจจันทร์ดั้นเมฆ: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ตรีเมฆ’ ไม่ได้เกิดมามีชีวิตเลวร้าย เขาไม่ได้มีปมด้อยจนต้องสร้างจุดเด่น ตรงกันข้ามเขามีพร้อมทุกอย่าง แต่ความ ‘พร้อม’ นั้นทำให้ชายหนุ่มใช้ชีวิตอย่างประมาทจนสุดท้ายต้องถูกตราหน้าว่าเป็น ‘ไอ้ขี้คุก’ เขาผลาญทำลายชีวิตทุกคนที่รักเขา และในวันที่เขาได้รับอิสรภาพทางกาย จิตใจเขากลับถูกความรู้สึกผิดพันธนาการแน่นหนา
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
‘จันทน์กะพ้อ’ หล่อนมองโลกใบนี้สวยงามไปเสียหมด มองทุกอย่างเป็นบวกจนบางครั้งพลาดพลั้งกลายเป็นเหยื่อได้ง่ายๆ แต่หล่อนกลับไม่สิ้นหวังที่จะมองแต่แง่งามของชีวิต เมื่อก้าวเข้ามาในครอบครัวที่เว้าแหว่งของตรีเมฆ หล่อนกล้าๆ กลัวๆ ชายหนุ่มห่าม ดิบ เถื่อนที่พ่วงมากับป้าชราและเด็กน้อยผู้น่าสงสาร
เขามันต้องตำราผู้ชายที่พ่อสอนนักหนาว่าให้อยู่ห่างๆ เข้าไว้
ใจหนึ่งหล่อนก็อยากทำอย่างนั้น แต่อีกใจก็อยากเอาชนะความหยาบกระด้างของเขา อยากให้คนที่เอาแต่มองโลกตาขวาง หันมาเห็นแง่งามของชีวิตเสียบ้าง
แต่โดยที่หล่อนไม่ทันรู้ตัวด้วยซ้ำ ดวงตาคมดุคู่นั้นกลับเอาแต่จับจ้องหล่อนไม่วาง ในเมื่อหล่อนกล้ามาส่องแสงวับๆ แวมๆ ในหัวใจที่มืดดำของเขา เมฆร้ายก้อนนี้ก็จะโอบล้อม ตีประชิด กักกั้นไว้ไม่ให้หล่อนเคลื่อนคล้อยหนีหายไปทางไหนได้อีกเลย
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นแนวโรแมนติกดราม่า พาฟิน และอบอวลในหัวใจมากๆ ค่ะ นอกจากนี้ยังมีความน่ารักของครอบครัวที่มาพร้อมกับปัญหาสังคมในแง่มุมต่างๆ ด้วย หอมดึกบอกเล่าชีวิตคนรากหญ้าผ่านตัวละครได้มีมิติมากๆ #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 544 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 369฿ จากราคาปก 402฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 414฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 439฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 15 -30% + แจ้งข่าวงานหนังสือ
ก่อนต่อนิยายขอแจ้งข่าวก่อนจ้า เดี๋ยวพลาดกัน ^O^ พรุ่งนี้ปลายปากกาสำนักพิมพ์ลดจัดหนัก 2 งานด้วยกันนะคะ
1. สำหรับสายเล่มหนังสือ จัดไป! "ปลายปากกาบุ๊กแฟร์ ครั้งที่ 1" สนพ.ขนหนังสือนิยายของปลายปากกามาลดเพียบ!!! รีดเดอร์ท่านใดสนใจไปสอยกันนะตัวเอง เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ได้แก่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์" หรือ line: plaipakkabooks หรือผ่านทาง shopee ชื่อร้าน plaipakkabooks_officialshop (ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน - 14 ตุลาคม 2563)
สำหรับดุจจันทร์ดั้นเมฆ ลดเหลือ 333฿ (จากปก 402฿)
**ช็อปครบ 400฿ รับไปเลย หน้ากากผ้าจาก Moshi Moshi 1 ลาย น่ารักมากกกกกก
นอกจากนี้ยังมีเล่มอื่นๆ อีกนะคะ ลดเหลือเล่มละ 199฿ และ 299฿ เท่านั้น อาทิ รักรออุ้ม ฝนเมษาดอกไม้พฤษภา กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า นาฏกรรมลวง
2. Meb E-book Fair 2020 หนังสือนิยายของปลายปากกาลดกระหน่ำสูงสุดถึง 60% และมี Flash Sale จำนวนจำกัด (ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน - 13 ตุลาคม 2563) สำหรับ "ดุจจันทร์ดั้นเมฆ" ลด 39% ที่เว็บไซต์ Mebmarket หรือ App Meb
ไปจัดหนัก จัดเต็มกันนะคะรีดเดอร์ อ้อน >< ทุกช่องทางได้หมดเลยจ้า จุบุๆ
***********************
“วันๆ ไม่คิดจะทำงานทำการอะไรบ้างเลยหรือไง เอาแต่เที่ยวล้างผลาญเงินฉันอยู่ได้ ไม่รู้จะกลับมาทำไม”
นายศรัณย์เอ่ย เมื่อลูกสาวคนเล็กเดินเข้ามาในบ้านในเช้าของวันใหม่ทั้งเครื่องแต่งกายที่ขนาดสาวใช้ยังไม่กล้ามองตรงๆ เพราะหมิ่นเหม่จะหลุดร่นจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนอยู่แล้ว
“ทำไมกุลต้องทำด้วยล่ะคะ คุณพ่อของกุลรวยจะตายไป กุลถลุงมากกว่านี้ยังไม่หมดเลย ต่อให้กุลมีลูกอีกสักคนมาช่วยถลุงก็ยังได้เลย จริงไหมคะ” น้ำเสียงของหล่อนยังอ้อแอ้ เดินพยุงกายมานั่งที่โต๊ะอาหารเช้าตรงข้ามกับบิดา
“หึ บุญของฉันแล้วสินะที่แกกำจัดมารหัวขนนั่นไปเสียได้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องมาทนเลี้ยงหลานเหลวแหลกไม่ต่างจากแม่ของมัน” คำพูดประโยคนั้นของผู้ให้กำเนิดทำให้ดวงตาของกุลธิดาวาวโรจน์ หล่อนกำมือแน่นก่อนจะเอ่ยช้าชัดว่า
“อย่าเพิ่งมั่นใจนักเลยค่ะคุณพ่อ วันนึงกุลอาจจะพาลูกมาช่วยผลาญสมบัติก็ได้นะคะ”
“แกมันเลวไม่มีที่ติ ไปได้เลือดสำส่อนแบบนี้มาจากไหน หา! หาดีไม่ได้ครึ่งของพี่สาวแกเลยสักนิด ทำไมแกไม่ตายๆ ไปซะ แทนที่จะเป็นยายกานต์”
“เหอะ! พี่กานต์คงดีมากสินะคะ คบอันธพาลค้ายาจนตัวตายข้างถนน พ่อก็ยังรักแต่พี่กานต์คนเดียว กุลอยากรู้นักว่าถ้าวันนึงพ่อเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา พี่กานต์จะฟื้นขึ้นมาดูแลพ่อไหม” กุลธิดากรีดร้องใส่หน้าบิดาด้วยน้ำเสียงแหบโหย เจ็บปวด
“ถึงฉันจะป่วยปางตาย แกก็ไม่ต้องมาดูแลฉัน จำเอาไว้!” นายห้างศรัณย์ลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแล้วรีบสาวเท้าออกจากตัวบ้านไปยังรถที่จอดรออยู่ ทิ้งลูกสาวที่อาละวาดกรีดร้องอย่างกับคนบ้าคลั่งไร้สติไว้ในบ้าน
****************
“ลุงยักษ์ ลุงยักษ์ครับ ลุงยักษ์” เสียงเล็กๆ ร้องเรียกที่ข้างหู ตรีเมฆปัดจนโดนจมูกแหลมโด่งของมัน
“หนวกหูน่า ใครวะ”
“เพชรเอง” เด็กชายกระซิบตาหยี วางใบหน้าลงบนหมอนหนุนใบใหญ่ สบดวงตาคมกล้าของคนเพิ่งตื่น
“ไม่ไปโรงเรียนเหรอวันนี้”
“โอย...ลุงยักษ์” เด็กชายร้องเสียงยาว “วันนี้วันหยุดราชการครับ ยายบอกว่าวันพระใหญ่ ตายาย คุณครูกับลุงศมาไปวัดกันตั้งแต่เช้าแล้ว”
“เหรอ” ตรีเมฆพลิกกายอย่างยากลำบาก ก่อนจะค่อยๆ ชันกายลุกขึ้น กวาดสายตาไปมาจึงได้เห็นมื้อเช้าในถาดสีเงิน พร้อมยาและน้ำดื่มชุดใหม่
“นอนขี้เซาอะลุงยักษ์ เพชรกับคุณครูเข้ามาดูสองรอบแล้วยังไม่ตื่นอีก เสื้อแสงก็ไม่ใส่ เดี๋ยวเป็นปอดบวมตาย” ตรีเพชรทำเสียงเล็กเสียงน้อยซึ่งตรีเมฆเดาว่าคงลอกเลียนคุณครูของมันมากระมัง
“ใครเก็บห้อง” เขาถามอย่างคาดหวัง
“อ้าว ก็เพชรกับคุณครูน่ะสิ ยันผ้าห่มลงไปทำไมลุงยักษ์ ไม่สบายทำไมไม่ห่มผ้า”
“ก็มันร้อนนี่หว่า” ตรีเมฆลูบท้ายทอยพลางตอบเด็กชายตาใส
“นี่เพชรไม่ไปวัดกับเขา เพราะจะอยู่ง้อลุงยักษ์หรอกนะ ไม่มีใครมาง้อเลยใช่ไหมตั้งแต่เมื่อคืน ยายก็ดุ๊ดุ เพชรอยากลงมาดูลุงยักษ์ แต่กลัวยายตี”
“เออ ดีแล้ว เชื่อฟังยายมากๆ”
“หูย ไม่ดีหรอก เชื่อฟังยายมากๆ เพชรก็อดเล่นกับลุงยักษ์พอดี ยายว่าไม่ให้มายุ่งกับลุงยักษ์ เพชรยุ่งเหรอครับ” เด็กชายเข้าใจว่าเป็นความผิดของตนเอง เพราะความไร้เดียงสา
ตรีเมฆสะอึกในอก ได้แต่ตบหัวมันเบาๆ
“ไม่ยุ่งหรอก ดูอย่างคืนนั้นสิ ถ้าไม่มีเอ็ง ป่านนี้ลุงคงเน่าไปแล้ว”
“แหม...ลุงยักษ์” ตรีเพชรทำท่าขวยเขินได้น่าหยิก ก่อนจะทำตาโตราวกับเพิ่งนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ “แล้วทำไมเราไม่เล่าให้ยายฟังล่ะลุงยักษ์”
“เล่าไม่ได้” ตรีเมฆค่อยๆ อธิบาย “เล่าไปยายก็ตกใจเปล่าๆ ยิ่งไม่สบายอยู่ เอ็งอยากให้ยายช็อกหรือไง มาช่วยพยุงลุงไปเข้าห้องน้ำหน่อย...เสื้อลุงหายไปไหนแล้วล่ะ”
“คุณครูเก็บไปซักแล้ว ตกพื้นสกปรก” เด็กชายพ่นคำพูด สองมือก็จะช่วยพยุง ตรีเมฆอดไม่ได้โยกหัวมันไปมาจนผมดกดำยุ่งเหยิง
“เออ ไอ้คุณสะอาด งั้นรู้ไว้ด้วยนะเว้ยว่าผู้ชายอย่างเราน่ะมีหน้าที่ทำสกปรกไว้สักหน่อย ผู้หญิงเขาจะได้ตามเก็บกวาดให้ ขืนเอ็งมัวแต่เป็นคุณสะอาด ทำให้เขาหมด เขาจะมาสนใจเอ็งเรอะ”
“โอย ไม่ไหวหรอกลุงยักษ์ ขืนเพชรทำรกอย่างลุงยักษ์นะ คุณครูตีตายเลย ลุงยักษ์ระวังไว้เถอะ มือครูเล็กๆ อย่างนั้นน่ะนะ หวดก้นเพชรทีนี่แดงเถือกเลยล่ะ”
“เออ อยากให้มาตีดูสักทีเหมือนกัน หึๆ”
ตรีเมฆพูดตาวาวอย่างมีเลศนัย เสียงพูดคุยของสองลุงหลานดังแว่วออกไปด้านนอก ลุงเกิดกับช่างเอกที่เงี่ยหูฟังอยู่ได้ยินก็เบาใจ ต่างแยกย้ายกันไปทำงานที่ยังคั่งค้างอยู่อย่างเร่งรีบ
1. สำหรับสายเล่มหนังสือ จัดไป! "ปลายปากกาบุ๊กแฟร์ ครั้งที่ 1" สนพ.ขนหนังสือนิยายของปลายปากกามาลดเพียบ!!! รีดเดอร์ท่านใดสนใจไปสอยกันนะตัวเอง เฉพาะช่องทางออนไลน์เท่านั้น ได้แก่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์" หรือ line: plaipakkabooks หรือผ่านทาง shopee ชื่อร้าน plaipakkabooks_officialshop (ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน - 14 ตุลาคม 2563)
สำหรับดุจจันทร์ดั้นเมฆ ลดเหลือ 333฿ (จากปก 402฿)
**ช็อปครบ 400฿ รับไปเลย หน้ากากผ้าจาก Moshi Moshi 1 ลาย น่ารักมากกกกกก
นอกจากนี้ยังมีเล่มอื่นๆ อีกนะคะ ลดเหลือเล่มละ 199฿ และ 299฿ เท่านั้น อาทิ รักรออุ้ม ฝนเมษาดอกไม้พฤษภา กระซิบรักฝากหัวใจที่ปลายฟ้า นาฏกรรมลวง
2. Meb E-book Fair 2020 หนังสือนิยายของปลายปากกาลดกระหน่ำสูงสุดถึง 60% และมี Flash Sale จำนวนจำกัด (ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน - 13 ตุลาคม 2563) สำหรับ "ดุจจันทร์ดั้นเมฆ" ลด 39% ที่เว็บไซต์ Mebmarket หรือ App Meb
ไปจัดหนัก จัดเต็มกันนะคะรีดเดอร์ อ้อน >< ทุกช่องทางได้หมดเลยจ้า จุบุๆ
***********************
“วันๆ ไม่คิดจะทำงานทำการอะไรบ้างเลยหรือไง เอาแต่เที่ยวล้างผลาญเงินฉันอยู่ได้ ไม่รู้จะกลับมาทำไม”
นายศรัณย์เอ่ย เมื่อลูกสาวคนเล็กเดินเข้ามาในบ้านในเช้าของวันใหม่ทั้งเครื่องแต่งกายที่ขนาดสาวใช้ยังไม่กล้ามองตรงๆ เพราะหมิ่นเหม่จะหลุดร่นจนเห็นไปถึงไหนต่อไหนอยู่แล้ว
“ทำไมกุลต้องทำด้วยล่ะคะ คุณพ่อของกุลรวยจะตายไป กุลถลุงมากกว่านี้ยังไม่หมดเลย ต่อให้กุลมีลูกอีกสักคนมาช่วยถลุงก็ยังได้เลย จริงไหมคะ” น้ำเสียงของหล่อนยังอ้อแอ้ เดินพยุงกายมานั่งที่โต๊ะอาหารเช้าตรงข้ามกับบิดา
“หึ บุญของฉันแล้วสินะที่แกกำจัดมารหัวขนนั่นไปเสียได้ ไม่อย่างนั้นก็ต้องมาทนเลี้ยงหลานเหลวแหลกไม่ต่างจากแม่ของมัน” คำพูดประโยคนั้นของผู้ให้กำเนิดทำให้ดวงตาของกุลธิดาวาวโรจน์ หล่อนกำมือแน่นก่อนจะเอ่ยช้าชัดว่า
“อย่าเพิ่งมั่นใจนักเลยค่ะคุณพ่อ วันนึงกุลอาจจะพาลูกมาช่วยผลาญสมบัติก็ได้นะคะ”
“แกมันเลวไม่มีที่ติ ไปได้เลือดสำส่อนแบบนี้มาจากไหน หา! หาดีไม่ได้ครึ่งของพี่สาวแกเลยสักนิด ทำไมแกไม่ตายๆ ไปซะ แทนที่จะเป็นยายกานต์”
“เหอะ! พี่กานต์คงดีมากสินะคะ คบอันธพาลค้ายาจนตัวตายข้างถนน พ่อก็ยังรักแต่พี่กานต์คนเดียว กุลอยากรู้นักว่าถ้าวันนึงพ่อเจ็บไข้ได้ป่วยขึ้นมา พี่กานต์จะฟื้นขึ้นมาดูแลพ่อไหม” กุลธิดากรีดร้องใส่หน้าบิดาด้วยน้ำเสียงแหบโหย เจ็บปวด
“ถึงฉันจะป่วยปางตาย แกก็ไม่ต้องมาดูแลฉัน จำเอาไว้!” นายห้างศรัณย์ลุกจากเก้าอี้อย่างรวดเร็วแล้วรีบสาวเท้าออกจากตัวบ้านไปยังรถที่จอดรออยู่ ทิ้งลูกสาวที่อาละวาดกรีดร้องอย่างกับคนบ้าคลั่งไร้สติไว้ในบ้าน
****************
“ลุงยักษ์ ลุงยักษ์ครับ ลุงยักษ์” เสียงเล็กๆ ร้องเรียกที่ข้างหู ตรีเมฆปัดจนโดนจมูกแหลมโด่งของมัน
“หนวกหูน่า ใครวะ”
“เพชรเอง” เด็กชายกระซิบตาหยี วางใบหน้าลงบนหมอนหนุนใบใหญ่ สบดวงตาคมกล้าของคนเพิ่งตื่น
“ไม่ไปโรงเรียนเหรอวันนี้”
“โอย...ลุงยักษ์” เด็กชายร้องเสียงยาว “วันนี้วันหยุดราชการครับ ยายบอกว่าวันพระใหญ่ ตายาย คุณครูกับลุงศมาไปวัดกันตั้งแต่เช้าแล้ว”
“เหรอ” ตรีเมฆพลิกกายอย่างยากลำบาก ก่อนจะค่อยๆ ชันกายลุกขึ้น กวาดสายตาไปมาจึงได้เห็นมื้อเช้าในถาดสีเงิน พร้อมยาและน้ำดื่มชุดใหม่
“นอนขี้เซาอะลุงยักษ์ เพชรกับคุณครูเข้ามาดูสองรอบแล้วยังไม่ตื่นอีก เสื้อแสงก็ไม่ใส่ เดี๋ยวเป็นปอดบวมตาย” ตรีเพชรทำเสียงเล็กเสียงน้อยซึ่งตรีเมฆเดาว่าคงลอกเลียนคุณครูของมันมากระมัง
“ใครเก็บห้อง” เขาถามอย่างคาดหวัง
“อ้าว ก็เพชรกับคุณครูน่ะสิ ยันผ้าห่มลงไปทำไมลุงยักษ์ ไม่สบายทำไมไม่ห่มผ้า”
“ก็มันร้อนนี่หว่า” ตรีเมฆลูบท้ายทอยพลางตอบเด็กชายตาใส
“นี่เพชรไม่ไปวัดกับเขา เพราะจะอยู่ง้อลุงยักษ์หรอกนะ ไม่มีใครมาง้อเลยใช่ไหมตั้งแต่เมื่อคืน ยายก็ดุ๊ดุ เพชรอยากลงมาดูลุงยักษ์ แต่กลัวยายตี”
“เออ ดีแล้ว เชื่อฟังยายมากๆ”
“หูย ไม่ดีหรอก เชื่อฟังยายมากๆ เพชรก็อดเล่นกับลุงยักษ์พอดี ยายว่าไม่ให้มายุ่งกับลุงยักษ์ เพชรยุ่งเหรอครับ” เด็กชายเข้าใจว่าเป็นความผิดของตนเอง เพราะความไร้เดียงสา
ตรีเมฆสะอึกในอก ได้แต่ตบหัวมันเบาๆ
“ไม่ยุ่งหรอก ดูอย่างคืนนั้นสิ ถ้าไม่มีเอ็ง ป่านนี้ลุงคงเน่าไปแล้ว”
“แหม...ลุงยักษ์” ตรีเพชรทำท่าขวยเขินได้น่าหยิก ก่อนจะทำตาโตราวกับเพิ่งนึกอะไรดีๆ ขึ้นมาได้ “แล้วทำไมเราไม่เล่าให้ยายฟังล่ะลุงยักษ์”
“เล่าไม่ได้” ตรีเมฆค่อยๆ อธิบาย “เล่าไปยายก็ตกใจเปล่าๆ ยิ่งไม่สบายอยู่ เอ็งอยากให้ยายช็อกหรือไง มาช่วยพยุงลุงไปเข้าห้องน้ำหน่อย...เสื้อลุงหายไปไหนแล้วล่ะ”
“คุณครูเก็บไปซักแล้ว ตกพื้นสกปรก” เด็กชายพ่นคำพูด สองมือก็จะช่วยพยุง ตรีเมฆอดไม่ได้โยกหัวมันไปมาจนผมดกดำยุ่งเหยิง
“เออ ไอ้คุณสะอาด งั้นรู้ไว้ด้วยนะเว้ยว่าผู้ชายอย่างเราน่ะมีหน้าที่ทำสกปรกไว้สักหน่อย ผู้หญิงเขาจะได้ตามเก็บกวาดให้ ขืนเอ็งมัวแต่เป็นคุณสะอาด ทำให้เขาหมด เขาจะมาสนใจเอ็งเรอะ”
“โอย ไม่ไหวหรอกลุงยักษ์ ขืนเพชรทำรกอย่างลุงยักษ์นะ คุณครูตีตายเลย ลุงยักษ์ระวังไว้เถอะ มือครูเล็กๆ อย่างนั้นน่ะนะ หวดก้นเพชรทีนี่แดงเถือกเลยล่ะ”
“เออ อยากให้มาตีดูสักทีเหมือนกัน หึๆ”
ตรีเมฆพูดตาวาวอย่างมีเลศนัย เสียงพูดคุยของสองลุงหลานดังแว่วออกไปด้านนอก ลุงเกิดกับช่างเอกที่เงี่ยหูฟังอยู่ได้ยินก็เบาใจ ต่างแยกย้ายกันไปทำงานที่ยังคั่งค้างอยู่อย่างเร่งรีบ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 29 ก.ย. 2563, 19:11:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 29 ก.ย. 2563, 19:11:41 น.
จำนวนการเข้าชม : 436
<< บทที่ 14 -100% |