ผู้จัดการจำเป็นกับแม่บ้านช่างฝัน (yuri) - จบ
เมื่อคนเป็นพี่อย่างขวัญข้าวกลับไม่มาทำงานตามคำสั่งของคุณป้าข้าวสวย เธอผู้เป็นน้องจะต้องมาแทนแฝดผู้พี่ แต่คนที่คุณป้าของเธอต้องการให้ดูแลเป็นพิเศษกลับเป็นแม่บ้านที่ไม่ทำตามคำสั่งใคร
โดยทั้งสองอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณป้าข้าวสวยจอมเผด็จการ ที่บังคับให้ขวัญแก้วมาเป็นผู้จัดการแทนขวัญข้าวแฝดผู้พี่ของเธอ และฝากสาวน้อยเอรินไว้ให้ดูแล แต่ทว่าการดูแลสาวน้อยคนนี้กลับทำให้ขวัญแก้วอยากกลับบ้านซะแล้วสิ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะตกหลุมพรางของใครบางคนหรือไม่
โดยทั้งสองอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณป้าข้าวสวยจอมเผด็จการ ที่บังคับให้ขวัญแก้วมาเป็นผู้จัดการแทนขวัญข้าวแฝดผู้พี่ของเธอ และฝากสาวน้อยเอรินไว้ให้ดูแล แต่ทว่าการดูแลสาวน้อยคนนี้กลับทำให้ขวัญแก้วอยากกลับบ้านซะแล้วสิ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะตกหลุมพรางของใครบางคนหรือไม่
Tags: นิยายรัก ยูริ หญิงรักหญิง แม่บ้าน ผู้จัดการ แอบรัก พี่น้อง
ตอน: จุดนัดพบ
ในห้องพักพนักงาน
"ฮัดเช้ย...ฮัดเช้ย..."
ให้ตายสิ...ตั้งแต่กลับเข้าร้านมาก็จามไม่หยุดอย่างนี้เราป่วยหรือเปล่านะ
"ขวัญข้าว เธอไม่สบายหรือเปล่า" ทอฝันถามด้วยความเป็นห่วง
"สบายดี แล้วเธอทานอะไรหรือยัง" ขวัญแก้วยิ้มน้อยๆ ถามกลับไปบ้าง ในห้องพักพนักงานมีแต่เธอกับทอฝัน ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่เห็นตั้งแต่เช้า
"เรียบร้อยแล้วล่ะ เธอยังไม่ได้ทานอะไรสินะ" ทอฝันจ้องมองขวัญแก้วที่นั่งกุมแก้วกาแฟตั้งนานสองนาน แต่น้ำกาแฟในแก้วยังไม่พร่องลงสักที
"เธอรู้ได้ไง"
"รอแปบนะ เดี๋ยวเรามา" จู่ๆ ทอฝันก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก
เพียงเวลาไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับข้าวต้มหนึ่งถ้วย
"กินสิ"
"เอ๊ะ! ...อืม ๆ ขอบใจนะ"
ถึงจะตกใจนิดหน่อยกับน้ำใจที่เธอไม่เคยได้รับมาจากใคร ว่าไปแล้วตั้งแต่ไปเรียนถึงจะมีเพื่อนก็เหมือนไม่มี ใช้ชีวิตรอดในแต่ละวันกับคนที่ไม่รู้จักกัน มันก็รู้สึกเหงาแปลกๆ พอมาอยู่ที่นี่กลับรู้สึกไปอีกแบบหนึ่ง ถึงแม้จะมีบางอย่างคาใจอยู่ก็ตาม
"รีบกินสิ...อย่ามัวแต่เหม่อ" ทอฝันเร่งเพราะกลัวว่าจะหายร้อนแล้วอาหารจะไม่อร่อย
"อื้ม...ขอบคุณนะ"
ขวัญแก้วค่อยๆ ทานข้าวต้มหมู ฝีมือการทำอาหารใช้ได้ระดับหนึ่งถ้าเทียบกับแม่ครัวประจำบ้าน ถึงจะไม่เลิศหรูแต่ก็ทำให้เธอรู้สึกคิดถึงครอบครัวขึ้นมา
"อะไรกันแค่ข้าวต้ม เธอก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้" ทอฝันยังคงจ้องมองขวัญแก้วด้วยใบหน้าที่นิ่งๆ
"มันอร่อยมากต่างหาก...อิ่มแล้วคร๊าบ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้" ขวัญแก้วรีบยิ้มกลบทุกอย่างไม่ให้ทอฝันจับพิรุธได้
"ต้องขอบคุณเจ้ารุ้ง รายนั้นชอบทำกับข้าว มีอะไรก็ไปฝากท้องได้นะ" ทอฝันกล่าวชมน้องสาวตนเองเพราะเธอทำอาหารไม่เป็น
ขวัญแก้วพยักหน้างึกๆ เธอเข้าใจแล้วว่าคนที่นี่เขาอยู่กันยังไง อย่างทอฝันเห็นเป็นคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดแต่แท้จริงแล้วเป็นคนใส่ใจทุกรายละเอียดเมื่อได้อยู่ด้วยก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
"แล้วอย่านอนดึกมากนักล่ะ" จู่ๆ ทอฝันก็พูดในสิ่งที่ไม่น่าจะมีคนรู้
"เธอรู้ได้ยังไง" ขวัญแก้วแปลกใจ
"ไฟในห้องมันเปิดนะสิ" ถึงแม้จะอยู่บ้านพักแต่หน้าต่างยังมองเห็นร้านได้หมดทุกชั้น ไม่ว่าไฟห้องไหนเปิดอยู่เธอก็เห็นหมด
"พอดีเคลียร์งานนิดหน่อย แต่คืนนี้ไม่นอนดึกแน่...แฮะๆ "
ตั้งแต่กลับมาจากดาดฟ้า เธอก็ยังไม่ได้นอนอีกเลย มันเป็นเพราะใบไม้แห้งที่ถูกยัดในเสื้อของเธอทำให้เธอต้องอาบน้ำจนตาสว่างแล้วหลับต่อไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าตัวแสบที่แกล้งกัน ถึงแม้ไม่บอกว่าเป็นใคร เธอก็รู้อยู่ดีว่าต้องเป็น เอริน
"จู่ๆ ก็ทำหน้าตาจริงจังขึ้นมาเชียว...ดื่มน้ำซะสิ" ทอรุ้งรินน้ำให้ดื่มแล้วพูดต่ออีกว่า
"ตอนกลางคืนอากาศที่นี่จะเย็นลง เธอก็ควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ ไว้ด้วยนะ"
ขวัญแก้วพยักหน้าทันที เธอรู้สึกดีอย่างประหลาดถึงแม้ทอฝันจะไม่ยิ้มหรือแสดงความรู้สึกออกมา แต่ขวัญแก้วก็รู้ว่าทอฝันเป็นห่วงเธอ
"เมื่อก่อนที่นี่ครึกครื้นมีแต่คนเดินเข้าเดินออก พึ่งเปลี่ยนไปตอนที่น้ำขิงลาออกนี่แหละ"
จู่ๆ ทอฝันก็พูดขึ้น เธอได้เล่าถึงความน่ารักของน้ำขิงรวมถึงความขยันทำงานว่าช่วงน้ำขิงอยู่นั้น ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ขวัญแก้วตั้งใจฟังและคิดตาม จากการรายงานของคุณเลขา คนที่ชื่อน้ำขิงเคยเป็นผู้จัดการร้านที่นี่ ก็คงจะจริงเรื่องความน่ารักตามที่ทอฝันกล่าวชม มีเพียงเรื่องงานเอกสารที่เธอขอปฏิเสธในใจเพราะงานที่น้ำขิงทิ้งไว้ทำให้เธอต้องปวดหัวจนต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จอย่างไว
"แล้วทำไมน้ำขิงถึงลาออกล่ะ" จู่ๆ ปากของขวัญแก้วก็ถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
"มีปัญหานิดหน่อย"
"ปัญหาอะไร กับใครหรือคะ" ขวัญแก้วรีบถามทันทีแต่ก็ต้องเบิกตากว้างที่เผลอถามหาคนที่เป็นตัวการเร็วเกินไป เธอเริ่มกังวลกับคำถามที่ชี้ประเด็น ถ้าเธอพลาดก็อาจจะโดนจับได้
ทอฝันเงียบไปสักพัก ก่อนตัดสินใจพูดต่อ
"กับเอริน"
"ห๊ะ! รินเนี่ยนะ"
ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ถึงแม้จะรู้ว่ารินชอบทำตัวแปลกๆ และเจ้าอารมณ์ แต่เธอไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวจะทำให้เกิดปัญหาถึงขนาดทำให้คนลาออกได้ และที่สำคัญ เธอเป็นเพียงแม่บ้านจะมีอิทธิพลขนาดนั้นเชียวหรือ
"ยัยรินนี่แหละ"
ขวัญแก้วเงียบ เธอไม่อยากพูดต่อแต่อยากรู้มากกว่าว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง
การสนทนาของทั้งสอง เอรินได้ยินเต็มสองหู เธอยืนอยู่หน้าประตูตั้งแต่ขวัญแก้วได้ทานข้าวต้ม ของทอรุ้ง
จริงๆ แล้วเธอตั้งใจทำโจ๊กร้อนๆ มาให้ขวัญแก้วเพื่อเป็นการไถ่โทษที่เมื่อคืนแกล้งเอาไว้ แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงพูดคุย ตอนแรกเธอก็คิดจะหันหลังกลับแต่พอได้ยินชื่อของเธอ เธอจึงหยุดและตั้งใจฟัง ถึงแม้จะรู้ว่าทอฝันต้องกล่าวโทษที่เธอเป็นคนก่อเหตุแต่ในใจลึกๆ ยังคาดหวังว่าคนที่ฟังอย่างขวัญแก้วจะไม่เชื่อ
"เราคงคาดหวังเกินไปสินะ" บ่นเบาๆ และปลอบตัวเองไม่ให้คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
"คาดหวังอะไรเหรอ" น้ำเสียงใสๆ ของแก้มหอมดังมาจากข้างหลังจึงทำให้เอรินสะดุ้ง
"เปล่า" เอรินตอบและก้มหน้าหันหลังกลับ
"เดี๋ยวก่อน โจ๊กของใครขอกินด้วยสิ" แก้มหอมรั้งไว้ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด เห็นแล้วอยากทานขึ้นมาทันที
"ของฉันย่ะ...ไม่ให้กิน" คนตัวเล็กหันมาแยกเขี้ยวใส่อย่างน่ากลัว ใครทำก็ต้องกินเองสิ เรื่องอะไรจะยกให้
พอเอรินเดินออกไป แก้มหอมยังยืนนิ่งค้างกับท่าทางที่น่ากลัวของสาวน้อยคนนี้
"ไม่อยากให้กินก็บอกกันดีๆ ก็ได้นิ"
ในหนึ่งวันกับงานที่ทำเสร็จแล้วของขวัญแก้ว เธอจึงนั่งเล่นในห้องทำงานไปเรื่อยเปื่อย จากการที่เธอได้พูดคุยกับทอฝันและสิ่งที่ทอฝันทำให้ จึงทำให้เธอคิดถึงครอบครัวขึ้นมาทันที
"พี่ข้าว...ทำไมปิดเครื่องอีกเนี่ย" พอคิดจะโทรหา คนเป็นพี่ก็มักจะไม่ค่อยรับสาย คงกลัวว่าจะโทรตามให้มาทำงานอีกแน่
พอโทรหาพี่สาวเพียงคนเดียวไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเปิดอีเมล เปิดไลน์ เช็กดูว่าคุณเลขาส่งอะไรมาไหม
"เฮ้อออ...งานที่ส่งไปก็ยังไม่ตอบกลับมา จะให้ฉันเครียดตายเลยใช่ไหม" บ่นกับโทรศัพท์ให้ส่งไปหาคุณเลขาสวมแว่นตาหนาแล้วทำหน้าเคร่งขรึม ขอให้เครียดตายไปเลย
บ่นเสร็จก็เช็กเฟซบุ๊กดูความเคลื่อนไหวของคุณพ่อคุณแม่ และป้าข้าวสวย ผลก็ยังนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีการอัปเดตอะไรมาหกเดือนแล้ว
"เฮอะ...ครอบครัวฉันหายไปไหนกันหมดเนี่ย" เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ
ขวัญแก้วมองนาฬิกา บ่นไปบ่นมาก็ใกล้เวลานอนอีกจนได้ ในหนึ่งวันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจริง คงไม่ต้องทำอะไรมากกว่านี้แล้วล่ะ วันนี้คงเป็นวันพักผ่อนของเรา
พอคิดได้ก็เก็บของเตรียมขึ้นนอนแต่ก่อนจะเข้าห้องนั้น เธอกลับเลี้ยวซ้ายไปดาดฟ้าเสียก่อน
"วันนี้จะมานอนเล่นอีกไหมนะ" ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเปิดประตูเพื่อหาคนที่มักจะมาทุกคืน
"ฮัดเช้ย...ฮัดเช้ย..."
ให้ตายสิ...ตั้งแต่กลับเข้าร้านมาก็จามไม่หยุดอย่างนี้เราป่วยหรือเปล่านะ
"ขวัญข้าว เธอไม่สบายหรือเปล่า" ทอฝันถามด้วยความเป็นห่วง
"สบายดี แล้วเธอทานอะไรหรือยัง" ขวัญแก้วยิ้มน้อยๆ ถามกลับไปบ้าง ในห้องพักพนักงานมีแต่เธอกับทอฝัน ส่วนคนอื่นๆ ยังไม่เห็นตั้งแต่เช้า
"เรียบร้อยแล้วล่ะ เธอยังไม่ได้ทานอะไรสินะ" ทอฝันจ้องมองขวัญแก้วที่นั่งกุมแก้วกาแฟตั้งนานสองนาน แต่น้ำกาแฟในแก้วยังไม่พร่องลงสักที
"เธอรู้ได้ไง"
"รอแปบนะ เดี๋ยวเรามา" จู่ๆ ทอฝันก็ลุกขึ้นแล้วเดินออกไปข้างนอก
เพียงเวลาไม่นานเธอก็กลับมาพร้อมกับข้าวต้มหนึ่งถ้วย
"กินสิ"
"เอ๊ะ! ...อืม ๆ ขอบใจนะ"
ถึงจะตกใจนิดหน่อยกับน้ำใจที่เธอไม่เคยได้รับมาจากใคร ว่าไปแล้วตั้งแต่ไปเรียนถึงจะมีเพื่อนก็เหมือนไม่มี ใช้ชีวิตรอดในแต่ละวันกับคนที่ไม่รู้จักกัน มันก็รู้สึกเหงาแปลกๆ พอมาอยู่ที่นี่กลับรู้สึกไปอีกแบบหนึ่ง ถึงแม้จะมีบางอย่างคาใจอยู่ก็ตาม
"รีบกินสิ...อย่ามัวแต่เหม่อ" ทอฝันเร่งเพราะกลัวว่าจะหายร้อนแล้วอาหารจะไม่อร่อย
"อื้ม...ขอบคุณนะ"
ขวัญแก้วค่อยๆ ทานข้าวต้มหมู ฝีมือการทำอาหารใช้ได้ระดับหนึ่งถ้าเทียบกับแม่ครัวประจำบ้าน ถึงจะไม่เลิศหรูแต่ก็ทำให้เธอรู้สึกคิดถึงครอบครัวขึ้นมา
"อะไรกันแค่ข้าวต้ม เธอก็ทำหน้าเหมือนจะร้องไห้" ทอฝันยังคงจ้องมองขวัญแก้วด้วยใบหน้าที่นิ่งๆ
"มันอร่อยมากต่างหาก...อิ่มแล้วคร๊าบ ขอบคุณสำหรับอาหารมื้อนี้" ขวัญแก้วรีบยิ้มกลบทุกอย่างไม่ให้ทอฝันจับพิรุธได้
"ต้องขอบคุณเจ้ารุ้ง รายนั้นชอบทำกับข้าว มีอะไรก็ไปฝากท้องได้นะ" ทอฝันกล่าวชมน้องสาวตนเองเพราะเธอทำอาหารไม่เป็น
ขวัญแก้วพยักหน้างึกๆ เธอเข้าใจแล้วว่าคนที่นี่เขาอยู่กันยังไง อย่างทอฝันเห็นเป็นคนนิ่งเงียบไม่ค่อยพูดแต่แท้จริงแล้วเป็นคนใส่ใจทุกรายละเอียดเมื่อได้อยู่ด้วยก็รู้สึกอบอุ่นอย่างประหลาด
"แล้วอย่านอนดึกมากนักล่ะ" จู่ๆ ทอฝันก็พูดในสิ่งที่ไม่น่าจะมีคนรู้
"เธอรู้ได้ยังไง" ขวัญแก้วแปลกใจ
"ไฟในห้องมันเปิดนะสิ" ถึงแม้จะอยู่บ้านพักแต่หน้าต่างยังมองเห็นร้านได้หมดทุกชั้น ไม่ว่าไฟห้องไหนเปิดอยู่เธอก็เห็นหมด
"พอดีเคลียร์งานนิดหน่อย แต่คืนนี้ไม่นอนดึกแน่...แฮะๆ "
ตั้งแต่กลับมาจากดาดฟ้า เธอก็ยังไม่ได้นอนอีกเลย มันเป็นเพราะใบไม้แห้งที่ถูกยัดในเสื้อของเธอทำให้เธอต้องอาบน้ำจนตาสว่างแล้วหลับต่อไม่ได้ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษเจ้าตัวแสบที่แกล้งกัน ถึงแม้ไม่บอกว่าเป็นใคร เธอก็รู้อยู่ดีว่าต้องเป็น เอริน
"จู่ๆ ก็ทำหน้าตาจริงจังขึ้นมาเชียว...ดื่มน้ำซะสิ" ทอรุ้งรินน้ำให้ดื่มแล้วพูดต่ออีกว่า
"ตอนกลางคืนอากาศที่นี่จะเย็นลง เธอก็ควรใส่เสื้อผ้าหนาๆ ไว้ด้วยนะ"
ขวัญแก้วพยักหน้าทันที เธอรู้สึกดีอย่างประหลาดถึงแม้ทอฝันจะไม่ยิ้มหรือแสดงความรู้สึกออกมา แต่ขวัญแก้วก็รู้ว่าทอฝันเป็นห่วงเธอ
"เมื่อก่อนที่นี่ครึกครื้นมีแต่คนเดินเข้าเดินออก พึ่งเปลี่ยนไปตอนที่น้ำขิงลาออกนี่แหละ"
จู่ๆ ทอฝันก็พูดขึ้น เธอได้เล่าถึงความน่ารักของน้ำขิงรวมถึงความขยันทำงานว่าช่วงน้ำขิงอยู่นั้น ทุกอย่างเรียบร้อยไม่มีปัญหาแต่อย่างใด
ขวัญแก้วตั้งใจฟังและคิดตาม จากการรายงานของคุณเลขา คนที่ชื่อน้ำขิงเคยเป็นผู้จัดการร้านที่นี่ ก็คงจะจริงเรื่องความน่ารักตามที่ทอฝันกล่าวชม มีเพียงเรื่องงานเอกสารที่เธอขอปฏิเสธในใจเพราะงานที่น้ำขิงทิ้งไว้ทำให้เธอต้องปวดหัวจนต้องรีบเคลียร์ให้เสร็จอย่างไว
"แล้วทำไมน้ำขิงถึงลาออกล่ะ" จู่ๆ ปากของขวัญแก้วก็ถามออกไปโดยไม่รู้ตัว
"มีปัญหานิดหน่อย"
"ปัญหาอะไร กับใครหรือคะ" ขวัญแก้วรีบถามทันทีแต่ก็ต้องเบิกตากว้างที่เผลอถามหาคนที่เป็นตัวการเร็วเกินไป เธอเริ่มกังวลกับคำถามที่ชี้ประเด็น ถ้าเธอพลาดก็อาจจะโดนจับได้
ทอฝันเงียบไปสักพัก ก่อนตัดสินใจพูดต่อ
"กับเอริน"
"ห๊ะ! รินเนี่ยนะ"
ตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน ถึงแม้จะรู้ว่ารินชอบทำตัวแปลกๆ และเจ้าอารมณ์ แต่เธอไม่คิดว่าผู้หญิงตัวเล็กๆ คนเดียวจะทำให้เกิดปัญหาถึงขนาดทำให้คนลาออกได้ และที่สำคัญ เธอเป็นเพียงแม่บ้านจะมีอิทธิพลขนาดนั้นเชียวหรือ
"ยัยรินนี่แหละ"
ขวัญแก้วเงียบ เธอไม่อยากพูดต่อแต่อยากรู้มากกว่าว่าอะไรเป็นสาเหตุที่แท้จริง
การสนทนาของทั้งสอง เอรินได้ยินเต็มสองหู เธอยืนอยู่หน้าประตูตั้งแต่ขวัญแก้วได้ทานข้าวต้ม ของทอรุ้ง
จริงๆ แล้วเธอตั้งใจทำโจ๊กร้อนๆ มาให้ขวัญแก้วเพื่อเป็นการไถ่โทษที่เมื่อคืนแกล้งเอาไว้ แต่ยังไม่ทันจะเปิดประตูเข้าไปก็ได้ยินเสียงพูดคุย ตอนแรกเธอก็คิดจะหันหลังกลับแต่พอได้ยินชื่อของเธอ เธอจึงหยุดและตั้งใจฟัง ถึงแม้จะรู้ว่าทอฝันต้องกล่าวโทษที่เธอเป็นคนก่อเหตุแต่ในใจลึกๆ ยังคาดหวังว่าคนที่ฟังอย่างขวัญแก้วจะไม่เชื่อ
"เราคงคาดหวังเกินไปสินะ" บ่นเบาๆ และปลอบตัวเองไม่ให้คิดในสิ่งที่เป็นไปไม่ได้
"คาดหวังอะไรเหรอ" น้ำเสียงใสๆ ของแก้มหอมดังมาจากข้างหลังจึงทำให้เอรินสะดุ้ง
"เปล่า" เอรินตอบและก้มหน้าหันหลังกลับ
"เดี๋ยวก่อน โจ๊กของใครขอกินด้วยสิ" แก้มหอมรั้งไว้ ตั้งแต่เช้ายังไม่มีอะไรตกถึงท้องเลยสักนิด เห็นแล้วอยากทานขึ้นมาทันที
"ของฉันย่ะ...ไม่ให้กิน" คนตัวเล็กหันมาแยกเขี้ยวใส่อย่างน่ากลัว ใครทำก็ต้องกินเองสิ เรื่องอะไรจะยกให้
พอเอรินเดินออกไป แก้มหอมยังยืนนิ่งค้างกับท่าทางที่น่ากลัวของสาวน้อยคนนี้
"ไม่อยากให้กินก็บอกกันดีๆ ก็ได้นิ"
ในหนึ่งวันกับงานที่ทำเสร็จแล้วของขวัญแก้ว เธอจึงนั่งเล่นในห้องทำงานไปเรื่อยเปื่อย จากการที่เธอได้พูดคุยกับทอฝันและสิ่งที่ทอฝันทำให้ จึงทำให้เธอคิดถึงครอบครัวขึ้นมาทันที
"พี่ข้าว...ทำไมปิดเครื่องอีกเนี่ย" พอคิดจะโทรหา คนเป็นพี่ก็มักจะไม่ค่อยรับสาย คงกลัวว่าจะโทรตามให้มาทำงานอีกแน่
พอโทรหาพี่สาวเพียงคนเดียวไม่ได้ เธอจึงตัดสินใจเปิดอีเมล เปิดไลน์ เช็กดูว่าคุณเลขาส่งอะไรมาไหม
"เฮ้อออ...งานที่ส่งไปก็ยังไม่ตอบกลับมา จะให้ฉันเครียดตายเลยใช่ไหม" บ่นกับโทรศัพท์ให้ส่งไปหาคุณเลขาสวมแว่นตาหนาแล้วทำหน้าเคร่งขรึม ขอให้เครียดตายไปเลย
บ่นเสร็จก็เช็กเฟซบุ๊กดูความเคลื่อนไหวของคุณพ่อคุณแม่ และป้าข้าวสวย ผลก็ยังนิ่งอยู่ที่เดิมไม่มีการอัปเดตอะไรมาหกเดือนแล้ว
"เฮอะ...ครอบครัวฉันหายไปไหนกันหมดเนี่ย" เริ่มจะหงุดหงิดขึ้นมาแล้วสิ
ขวัญแก้วมองนาฬิกา บ่นไปบ่นมาก็ใกล้เวลานอนอีกจนได้ ในหนึ่งวันช่างผ่านไปรวดเร็วเสียจริง คงไม่ต้องทำอะไรมากกว่านี้แล้วล่ะ วันนี้คงเป็นวันพักผ่อนของเรา
พอคิดได้ก็เก็บของเตรียมขึ้นนอนแต่ก่อนจะเข้าห้องนั้น เธอกลับเลี้ยวซ้ายไปดาดฟ้าเสียก่อน
"วันนี้จะมานอนเล่นอีกไหมนะ" ยิ้มน้อยๆ ก่อนจะเปิดประตูเพื่อหาคนที่มักจะมาทุกคืน
HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2563, 07:46:43 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ค. 2563, 07:46:47 น.
จำนวนการเข้าชม : 386
<< ความฝัน | จุดนัดพบ >> |