ผู้จัดการจำเป็นกับแม่บ้านช่างฝัน (yuri) - จบ
เมื่อคนเป็นพี่อย่างขวัญข้าวกลับไม่มาทำงานตามคำสั่งของคุณป้าข้าวสวย เธอผู้เป็นน้องจะต้องมาแทนแฝดผู้พี่ แต่คนที่คุณป้าของเธอต้องการให้ดูแลเป็นพิเศษกลับเป็นแม่บ้านที่ไม่ทำตามคำสั่งใคร
โดยทั้งสองอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณป้าข้าวสวยจอมเผด็จการ ที่บังคับให้ขวัญแก้วมาเป็นผู้จัดการแทนขวัญข้าวแฝดผู้พี่ของเธอ และฝากสาวน้อยเอรินไว้ให้ดูแล แต่ทว่าการดูแลสาวน้อยคนนี้กลับทำให้ขวัญแก้วอยากกลับบ้านซะแล้วสิ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะตกหลุมพรางของใครบางคนหรือไม่
โดยทั้งสองอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณป้าข้าวสวยจอมเผด็จการ ที่บังคับให้ขวัญแก้วมาเป็นผู้จัดการแทนขวัญข้าวแฝดผู้พี่ของเธอ และฝากสาวน้อยเอรินไว้ให้ดูแล แต่ทว่าการดูแลสาวน้อยคนนี้กลับทำให้ขวัญแก้วอยากกลับบ้านซะแล้วสิ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะตกหลุมพรางของใครบางคนหรือไม่
Tags: นิยายรัก ยูริ หญิงรักหญิง แม่บ้าน ผู้จัดการ แอบรัก พี่น้อง
ตอน: หินสี
"เอ๊ะ! ...ทำไมวันนี้ไม่อยู่ล่ะ" รู้สึกผิดหวังทันที เธอนึกว่าจะได้เจอหน้าคนที่ต้องการ
ขวัญแก้วพยายามมองทุกจุดบนดาดฟ้าเพื่อตามหาสาวน้อยตัวเล็กที่ชอบทำตัวแปลก พอมองดีๆ ดาดฟ้าที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้และผ่านการเอาใจใส่เป็นอย่างดี จึงเป็นคำถามว่าใครเป็นผู้ดูแล
"หรือจะเป็นเอริน"
"รินทำไมหรือคะ" น้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์และทำหน้าบึ้งตึงใส่ เป็นคำทักทายที่ขวัญแก้วอยากเดินหนีแต่พอเห็นคนตัวเล็กกำลังหิ้วบางอย่างติดมือมาด้วย เธอจึงรีบเข้าไปช่วย
"ขนอะไรมาเยอะแยะ"
"หินสี"
ขวัญแก้วมองหินสีที่อยู่ในถุงนิ่งๆ เธอไม่ถามอะไรต่อเพราะเธอกำลังนึงถึงบางสิ่ง
"ไม่ถามหรือไงว่าทำไมถึงต้องใช้หินสี"
"ไม่"
เอรินขมวดคิ้วน้อยๆ ทำไมวันนี้มาแปลก ปกติแล้วขวัญแก้วที่เธอรู้จักจะต้องตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย อยากรู้จริงๆ แล้วว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
"หินสีมีแสงในตอนกลางคืนสินะ"
จู่ๆ ขวัญแก้วก็เอ่ยขึ้นในขณะที่มือของเธอกำลังช่วยเอรินจัดสวน เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเอรินถึงชอบมาอยู่บนนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ ในร้านและที่บ้านพักพนักงาน บนดาดฟ้าเป็นจุดพักผ่อนที่ดึงความสงบได้มากที่สุด
เอรินไม่ได้ตอบหรือพูดสิ่งใดต่อไปอีก ถึงแม้ว่าเธอจะคาดหวังให้ขวัญแก้วจำเธอให้ได้แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิด ในฐานะที่เธอรับงานของป้าข้าวสวยและสัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หินสีพวกนี้อาจจะทำให้ขวัญแก้วนึกอะไรบางอย่างออก
"มีเสื่อมาปูไหม เราจะได้นอนเล่นกัน" ขวัญแก้วถามเอรินและทำท่าทางน่าตื่นเต้นจนเอรินเริ่มหมั่นไส้ อะไรจะเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนั้น
"จะตื่นเต้นอะไรนักหนา ก็แค่นั่งเล่น"
"โห...อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิ ถ้าพวกเราช่วยกันจัดหินรอบๆ แบบนี้นะ เวลาปิดไฟ หินที่เราจัดไว้ก็จะสว่างขึ้นทันที...ฉันคิดถูกไหม อิอิ" ขวัญแก้วมองหน้าเอรินแล้วทำตาเป็นประกายอย่างกับคาดหวังอะไรบางอย่าง
"อ๊ะๆ เดี๋ยวรินไปหยิบมาให้ รอแป็บนึงนะ" เอรินจนใจ ปกติเธอไม่เคยใช้เสื่อมาปูนอนเล่น ส่วนใหญ่จะนั่งตรงไหน นอนตรงไหน ก็เหยียดตัวนอนตรงนั้น เรื่องความเย็นกับความสกปรกไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเธอ
ระหว่างที่ขวัญแก้วรอเสื่อของเอริน เธอก็กลับมาทำหน้าตาปกติ จริงๆ แล้วเธอคิดถึงอะไรบางอย่างและคนบางคนที่เลือนรางจนแทบจะหายไปจากความทรงจำ
ในความทรงจำของขวัญแก้ว ตอนนั้นเธออายุเพียง 12 ปี มีเหตุที่ทำให้เธอกับขวัญข้าวทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนต้องแยกโรงเรียนกันอยู่
"คุณพ่อ คุณแม่ หนูไม่อยากเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ข้าวแล้ว"
"ทำไมล่ะลูก" คนเป็นพ่อแปลกใจ
"ใครๆ ก็ชอบคิดว่าแก้วเป็นพี่ขวัญข้าวตลอด แก้วไม่อยากเป็นพี่ข้าว...แก้วอยากเป็นแก้ว"
ความคิดในตอนเด็กครั้งนั้น ทั้งน้อยใจ ทั้งโมโหคนที่เข้าใจผิด เธอกับพี่สาวไม่เหมือนกันเลยสักนิดถ้ารู้จักเธอทั้งสองจริงๆ จะรู้ว่าพวกเธอไม่เหมือนกัน
"ก็ดีเหมือนกันนะคะ" คนเป็นแม่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกกังวลใจ ถ้าทั้งสองอยากแยกกันอยู่ก็คงไม่ลำบากอะไร
"อืม...ถ้าแบบนั้นพ่อจะให้เราไปอยู่กับคุณลุงที่สวิต"
การตัดสินใจในครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตขวัญแก้วไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เธอลืมแม้กระทั้งสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครบางคน
"พี่แก้วใจร้าย...พี่จะทิ้งหนูไปใช่ไหม" เด็กน้อยโวยวายเมื่อได้ข่าวจากขวัญข้าว
"แค่ไปเรียนต่างประเทศเอง ไปไม่กี่ปีพี่ก็กลับมาแล้ว" ขวัญแก้วปลอบโดยการลูบหัวเบาๆ
"ไม่จริง ใครๆ ก็มักจะพูดแบบนี้แล้วผลสุดท้ายก็ไม่เคยกลับมา...ฮื้อๆ "
"น้องลิงของพี่ อย่าร้องไห้สิคะ" ขวัญแก้วงัดท่าไม้ตายออกมาง้อ
"บอกว่าอย่าเรียกน้องลิงไง ยั่วโมโหนักเดี๋ยวลิงกัดเถอะ" เด็กน้อยแยกเขี้ยวใส่ จากกำลังซึ้งทำเอาขวัญแก้วยิ้มแล้วหัวเราะ
"ฮ่าๆ ต้องทำหน้าแบบนี้สิถึงจะเป็นน้องรัก"
"ไม่ไปไม่ได้หรือคะ ถ้าหนูคิดถึงพี่ขึ้นมาจะทำยังไง" เธอไม่ใช่ลูกคนรวยมีเงินมีทองมากมาย เทคโนโลยีบางอย่างเธอก็ใช้ไม่เป็น
"เอาแบบนี้สิ...วันที่พี่ขึ้นเครื่อง เรามาส่งพี่นะ แล้วพี่จะให้อะไรบางอย่าง"
ขวัญแก้วยืนเกาะกำแพงแล้วเหม่อมองออกไปข้างนอก เธอนึกย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น มันนานมากจริงๆ ทำไมเธอถึงลืมน้องลิงไปได้และที่สำคัญเธอนึกไม่ออกว่าให้อะไรเป็นของขวัญ แล้วเธอเป็นคนให้จริงๆ หรือ ทำไมเธอถึงนึกไม่ออก
"โอ๊ย...ปวดหัวชะมัด" ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่นี่เธอก็มักจะฝันช่วงเวลาสมัยเด็ก ทำไมถึงมานึกเรื่องอะไรออกในช่วงเวลาแบบนี้อีก มันยิ่งทำให้เธอหงุดหงิด
"มาแล้ว...มัวแต่บ่นเป็นยายแก่อยู่ได้ มานั่งเร็วเข้า" เสียงเรียกและกวักมือให้มานั่งบริเวณที่เจ้าตัวปู ทำให้ขวัญแก้วหลุดจากความเครียดทันที
ขวัญแก้วยิ้มน้อยๆ กับสาวน้อยตัวแสบที่ชอบว่าเธอ แต่เธอก็ชอบที่จะอยู่ใกล้จนทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
"งั้นพี่ปิดไฟนะ"
"อื้ม" เอรินพยักหน้ารัว จริงๆ แล้วเธอก็แอบตื่นเต้นที่จะได้เห็นเหมือนกัน
เมื่อปิดไฟทั้งสองก็ต้องอึ้งกับความสว่างของหินเรืองแสง ถึงจะไม่มากเท่าที่คาดหวังไว้เพราะยังดูดแสงไม่เต็มที่ก็ตาม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้พวกเธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ขวัญแก้วเดินมานั่งใกล้เอรินบนเสื่อที่เอรินปูให้นั่ง เธอยิ้มน้อยๆ กับบรรยากาศรอบตัว
"ถ้าเราจำใครไม่ได้ และคนคนนั้นรู้ว่าเราลืมเขาไป เป็นริน รินจะโกรธไหม"
"โกรธสิ ยิ่งสัญญาว่าจะกลับมาหาแต่ก็ลืม ยิ่งเพิ่มความโกรธเป็นทวีคูณ" เอรินยื่นกำปั้นให้ขวัญแก้วดูว่าเธอเอาจริง
ขวัญแก้วมองท่าทางที่เอรินทำให้เธอดู ไม่ได้น่ากลัวแต่เป็นท่าทางที่น่ารักมากกว่า น่ารักจนอยากหัวเราะ
"ไม่ต้องมาขำเลย ถ้าคนนั้นลืมรินจริงๆ รินจะเชือดให้ตายเลยคอยดูดิ"
"โห...โหดเหมือนกันนะเรา"
"ชิ" เอรินสะบัดหน้าหนี การที่ขวัญแก้วถามแบบนี้แสดงว่าคงนึกอะไรออกบ้างแล้ว แต่ก็ยังน่าหงุดหงิดอยู่ดีที่จำกันไม่ได้
"แต่ถ้า...คนคนนั้นมีเหตุผลมาอธิบายให้รินฟังดีๆ ล่ะก็ รินก็จะให้อภัย"
ขวัญแก้วยิ้มให้รินกับคำพูดประโยคสุดท้าย และคิดว่าถ้าน้องลิงของเธอให้อภัยแบบรินก็คงจะดี
"คืนนี้นอนที่นี่กันไหม" ขวัญแก้วล้มตัวนอนแล้วเหยียดขาและหันไปชวนคนที่กำลังนั่งอยู่
"ปกติรินก็นอนเล่นที่นี่เป็นประจำ ไม่ต้องชวนหรอก" เอรินเหล่ตามองแล้วเชิดหน่อยๆ
ทำท่าทางแบบนี้ยิ่งทำให้ขวัญแก้วอยากแกล้ง
"งั้นก็ลงมานอนด้วยกัน" ไม่พูดเปล่าดึงแขนเอรินให้ลงมานอนกับเธอ
"เอ๊ะ! "
เอรินไม่ทันตั้งตัวแทนที่จะได้ลงนอนดีๆ กลับไปนอนทับขวัญแก้วจนใบหน้าทั้งสองใกล้กัน
วินาทีที่ลมหายใจอุ่นๆ ของขวัญแก้วสัมผัสโดนแก้มของเอรินนั้น หัวใจดวงน้อยๆ ของเอรินกลับเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก
"เล่นอะไรนะ" เอรินรีบดันตัวกลับไปนั่งและจ้องมองคนทำอย่างหาเรื่อง
"เปล่านะ...ก็แค่อยากให้มานอนดูดาวด้วยกันเท่านั้นเอง" ขวัญแก้วไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เอรินเซมาล้มทับเธอ แต่คนที่ถูกทับเป็นเธอแล้วจะมาโกรธทำไม
"บอกดีๆ กันก็ได้ ไม่เห็นต้องดึงแขนเลย" เอรินล้มตัวนอนแล้วมองดูดาวไปพร้อมกับขวัญแก้ว
ทางด้านขวัญแก้วยกมือมาจับหน้าอกแล้วลูบไปมาเบาๆ เหตุการณ์เมื่อกี้ก็ทำเธอแย่เหมือนกัน
ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วยนะ!
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้และไม่มีใครมองดูเวลา ทั้งสองนอนเล่นอย่างสบายใจท่ามกลางหินสะท้อนแสงรอบๆ ตัวของพวกเขา
"ทำไมต้องเป็นหินสะท้อนแสงและทำไมต้องเป็นสีเขียว" จู่ๆ ขวัญแก้วก็อยากถาม เธอสงสัยนิดหน่อยว่าทำไมเอรินถึงเลือกหินสีเขียว
"ก็...เคยมีคนขอเอาไว้นะสิ...พี่"
เอรินหันไปหาขวัญแก้วเพื่อจะบอกว่าเธอเป็นน้องลิงคนนั้น แต่หันไปอีกทีขวัญแก้วก็หนีหลับไปก่อนแล้ว
"แล้วจะถามทำไม ถามแล้วไม่รอคำตอบอีก" เอรินเริ่มหงุดหงิดอีกครั้งกับความซื่อบื้อของพี่สาว มาเป็นแบบนี้เธอคงต้องปล่อยให้โง่ต่อไปก็แล้วกัน
ขวัญแก้วพยายามมองทุกจุดบนดาดฟ้าเพื่อตามหาสาวน้อยตัวเล็กที่ชอบทำตัวแปลก พอมองดีๆ ดาดฟ้าที่นี่เต็มไปด้วยต้นไม้และผ่านการเอาใจใส่เป็นอย่างดี จึงเป็นคำถามว่าใครเป็นผู้ดูแล
"หรือจะเป็นเอริน"
"รินทำไมหรือคะ" น้ำเสียงไม่ค่อยสบอารมณ์และทำหน้าบึ้งตึงใส่ เป็นคำทักทายที่ขวัญแก้วอยากเดินหนีแต่พอเห็นคนตัวเล็กกำลังหิ้วบางอย่างติดมือมาด้วย เธอจึงรีบเข้าไปช่วย
"ขนอะไรมาเยอะแยะ"
"หินสี"
ขวัญแก้วมองหินสีที่อยู่ในถุงนิ่งๆ เธอไม่ถามอะไรต่อเพราะเธอกำลังนึงถึงบางสิ่ง
"ไม่ถามหรือไงว่าทำไมถึงต้องใช้หินสี"
"ไม่"
เอรินขมวดคิ้วน้อยๆ ทำไมวันนี้มาแปลก ปกติแล้วขวัญแก้วที่เธอรู้จักจะต้องตั้งคำถามในสิ่งที่ตนเองสงสัย อยากรู้จริงๆ แล้วว่าคิดอะไรอยู่กันแน่
"หินสีมีแสงในตอนกลางคืนสินะ"
จู่ๆ ขวัญแก้วก็เอ่ยขึ้นในขณะที่มือของเธอกำลังช่วยเอรินจัดสวน เธอเข้าใจแล้วว่าทำไมเอรินถึงชอบมาอยู่บนนี้ ถ้าเปรียบเทียบกับที่อื่นๆ ในร้านและที่บ้านพักพนักงาน บนดาดฟ้าเป็นจุดพักผ่อนที่ดึงความสงบได้มากที่สุด
เอรินไม่ได้ตอบหรือพูดสิ่งใดต่อไปอีก ถึงแม้ว่าเธอจะคาดหวังให้ขวัญแก้วจำเธอให้ได้แต่นั่นก็เป็นเพียงแค่ความคิด ในฐานะที่เธอรับงานของป้าข้าวสวยและสัญญากับเขาไว้แล้วว่าจะทำหน้าที่ให้ดีที่สุด หินสีพวกนี้อาจจะทำให้ขวัญแก้วนึกอะไรบางอย่างออก
"มีเสื่อมาปูไหม เราจะได้นอนเล่นกัน" ขวัญแก้วถามเอรินและทำท่าทางน่าตื่นเต้นจนเอรินเริ่มหมั่นไส้ อะไรจะเปลี่ยนอารมณ์ได้เร็วขนาดนั้น
"จะตื่นเต้นอะไรนักหนา ก็แค่นั่งเล่น"
"โห...อย่าเพิ่งหงุดหงิดสิ ถ้าพวกเราช่วยกันจัดหินรอบๆ แบบนี้นะ เวลาปิดไฟ หินที่เราจัดไว้ก็จะสว่างขึ้นทันที...ฉันคิดถูกไหม อิอิ" ขวัญแก้วมองหน้าเอรินแล้วทำตาเป็นประกายอย่างกับคาดหวังอะไรบางอย่าง
"อ๊ะๆ เดี๋ยวรินไปหยิบมาให้ รอแป็บนึงนะ" เอรินจนใจ ปกติเธอไม่เคยใช้เสื่อมาปูนอนเล่น ส่วนใหญ่จะนั่งตรงไหน นอนตรงไหน ก็เหยียดตัวนอนตรงนั้น เรื่องความเย็นกับความสกปรกไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเธอ
ระหว่างที่ขวัญแก้วรอเสื่อของเอริน เธอก็กลับมาทำหน้าตาปกติ จริงๆ แล้วเธอคิดถึงอะไรบางอย่างและคนบางคนที่เลือนรางจนแทบจะหายไปจากความทรงจำ
ในความทรงจำของขวัญแก้ว ตอนนั้นเธออายุเพียง 12 ปี มีเหตุที่ทำให้เธอกับขวัญข้าวทะเลาะกันอย่างรุนแรงจนต้องแยกโรงเรียนกันอยู่
"คุณพ่อ คุณแม่ หนูไม่อยากเรียนโรงเรียนเดียวกับพี่ข้าวแล้ว"
"ทำไมล่ะลูก" คนเป็นพ่อแปลกใจ
"ใครๆ ก็ชอบคิดว่าแก้วเป็นพี่ขวัญข้าวตลอด แก้วไม่อยากเป็นพี่ข้าว...แก้วอยากเป็นแก้ว"
ความคิดในตอนเด็กครั้งนั้น ทั้งน้อยใจ ทั้งโมโหคนที่เข้าใจผิด เธอกับพี่สาวไม่เหมือนกันเลยสักนิดถ้ารู้จักเธอทั้งสองจริงๆ จะรู้ว่าพวกเธอไม่เหมือนกัน
"ก็ดีเหมือนกันนะคะ" คนเป็นแม่ได้ฟังแล้วก็รู้สึกกังวลใจ ถ้าทั้งสองอยากแยกกันอยู่ก็คงไม่ลำบากอะไร
"อืม...ถ้าแบบนั้นพ่อจะให้เราไปอยู่กับคุณลุงที่สวิต"
การตัดสินใจในครั้งนั้นเปลี่ยนชีวิตขวัญแก้วไปอย่างสิ้นเชิง ทำให้เธอลืมแม้กระทั้งสัญญาที่เคยให้ไว้กับใครบางคน
"พี่แก้วใจร้าย...พี่จะทิ้งหนูไปใช่ไหม" เด็กน้อยโวยวายเมื่อได้ข่าวจากขวัญข้าว
"แค่ไปเรียนต่างประเทศเอง ไปไม่กี่ปีพี่ก็กลับมาแล้ว" ขวัญแก้วปลอบโดยการลูบหัวเบาๆ
"ไม่จริง ใครๆ ก็มักจะพูดแบบนี้แล้วผลสุดท้ายก็ไม่เคยกลับมา...ฮื้อๆ "
"น้องลิงของพี่ อย่าร้องไห้สิคะ" ขวัญแก้วงัดท่าไม้ตายออกมาง้อ
"บอกว่าอย่าเรียกน้องลิงไง ยั่วโมโหนักเดี๋ยวลิงกัดเถอะ" เด็กน้อยแยกเขี้ยวใส่ จากกำลังซึ้งทำเอาขวัญแก้วยิ้มแล้วหัวเราะ
"ฮ่าๆ ต้องทำหน้าแบบนี้สิถึงจะเป็นน้องรัก"
"ไม่ไปไม่ได้หรือคะ ถ้าหนูคิดถึงพี่ขึ้นมาจะทำยังไง" เธอไม่ใช่ลูกคนรวยมีเงินมีทองมากมาย เทคโนโลยีบางอย่างเธอก็ใช้ไม่เป็น
"เอาแบบนี้สิ...วันที่พี่ขึ้นเครื่อง เรามาส่งพี่นะ แล้วพี่จะให้อะไรบางอย่าง"
ขวัญแก้วยืนเกาะกำแพงแล้วเหม่อมองออกไปข้างนอก เธอนึกย้อนกลับไปช่วงเวลานั้น มันนานมากจริงๆ ทำไมเธอถึงลืมน้องลิงไปได้และที่สำคัญเธอนึกไม่ออกว่าให้อะไรเป็นของขวัญ แล้วเธอเป็นคนให้จริงๆ หรือ ทำไมเธอถึงนึกไม่ออก
"โอ๊ย...ปวดหัวชะมัด" ตั้งแต่กลับมาอยู่ที่นี่เธอก็มักจะฝันช่วงเวลาสมัยเด็ก ทำไมถึงมานึกเรื่องอะไรออกในช่วงเวลาแบบนี้อีก มันยิ่งทำให้เธอหงุดหงิด
"มาแล้ว...มัวแต่บ่นเป็นยายแก่อยู่ได้ มานั่งเร็วเข้า" เสียงเรียกและกวักมือให้มานั่งบริเวณที่เจ้าตัวปู ทำให้ขวัญแก้วหลุดจากความเครียดทันที
ขวัญแก้วยิ้มน้อยๆ กับสาวน้อยตัวแสบที่ชอบว่าเธอ แต่เธอก็ชอบที่จะอยู่ใกล้จนทำให้รู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
"งั้นพี่ปิดไฟนะ"
"อื้ม" เอรินพยักหน้ารัว จริงๆ แล้วเธอก็แอบตื่นเต้นที่จะได้เห็นเหมือนกัน
เมื่อปิดไฟทั้งสองก็ต้องอึ้งกับความสว่างของหินเรืองแสง ถึงจะไม่มากเท่าที่คาดหวังไว้เพราะยังดูดแสงไม่เต็มที่ก็ตาม แต่เพียงเท่านี้ก็ทำให้พวกเธอรู้สึกดีอย่างบอกไม่ถูก
ขวัญแก้วเดินมานั่งใกล้เอรินบนเสื่อที่เอรินปูให้นั่ง เธอยิ้มน้อยๆ กับบรรยากาศรอบตัว
"ถ้าเราจำใครไม่ได้ และคนคนนั้นรู้ว่าเราลืมเขาไป เป็นริน รินจะโกรธไหม"
"โกรธสิ ยิ่งสัญญาว่าจะกลับมาหาแต่ก็ลืม ยิ่งเพิ่มความโกรธเป็นทวีคูณ" เอรินยื่นกำปั้นให้ขวัญแก้วดูว่าเธอเอาจริง
ขวัญแก้วมองท่าทางที่เอรินทำให้เธอดู ไม่ได้น่ากลัวแต่เป็นท่าทางที่น่ารักมากกว่า น่ารักจนอยากหัวเราะ
"ไม่ต้องมาขำเลย ถ้าคนนั้นลืมรินจริงๆ รินจะเชือดให้ตายเลยคอยดูดิ"
"โห...โหดเหมือนกันนะเรา"
"ชิ" เอรินสะบัดหน้าหนี การที่ขวัญแก้วถามแบบนี้แสดงว่าคงนึกอะไรออกบ้างแล้ว แต่ก็ยังน่าหงุดหงิดอยู่ดีที่จำกันไม่ได้
"แต่ถ้า...คนคนนั้นมีเหตุผลมาอธิบายให้รินฟังดีๆ ล่ะก็ รินก็จะให้อภัย"
ขวัญแก้วยิ้มให้รินกับคำพูดประโยคสุดท้าย และคิดว่าถ้าน้องลิงของเธอให้อภัยแบบรินก็คงจะดี
"คืนนี้นอนที่นี่กันไหม" ขวัญแก้วล้มตัวนอนแล้วเหยียดขาและหันไปชวนคนที่กำลังนั่งอยู่
"ปกติรินก็นอนเล่นที่นี่เป็นประจำ ไม่ต้องชวนหรอก" เอรินเหล่ตามองแล้วเชิดหน่อยๆ
ทำท่าทางแบบนี้ยิ่งทำให้ขวัญแก้วอยากแกล้ง
"งั้นก็ลงมานอนด้วยกัน" ไม่พูดเปล่าดึงแขนเอรินให้ลงมานอนกับเธอ
"เอ๊ะ! "
เอรินไม่ทันตั้งตัวแทนที่จะได้ลงนอนดีๆ กลับไปนอนทับขวัญแก้วจนใบหน้าทั้งสองใกล้กัน
วินาทีที่ลมหายใจอุ่นๆ ของขวัญแก้วสัมผัสโดนแก้มของเอรินนั้น หัวใจดวงน้อยๆ ของเอรินกลับเต้นรัวอย่างบอกไม่ถูก
"เล่นอะไรนะ" เอรินรีบดันตัวกลับไปนั่งและจ้องมองคนทำอย่างหาเรื่อง
"เปล่านะ...ก็แค่อยากให้มานอนดูดาวด้วยกันเท่านั้นเอง" ขวัญแก้วไม่ได้ตั้งใจจะทำให้เอรินเซมาล้มทับเธอ แต่คนที่ถูกทับเป็นเธอแล้วจะมาโกรธทำไม
"บอกดีๆ กันก็ได้ ไม่เห็นต้องดึงแขนเลย" เอรินล้มตัวนอนแล้วมองดูดาวไปพร้อมกับขวัญแก้ว
ทางด้านขวัญแก้วยกมือมาจับหน้าอกแล้วลูบไปมาเบาๆ เหตุการณ์เมื่อกี้ก็ทำเธอแย่เหมือนกัน
ทำไมใจต้องเต้นแรงด้วยนะ!
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่มีใครรู้และไม่มีใครมองดูเวลา ทั้งสองนอนเล่นอย่างสบายใจท่ามกลางหินสะท้อนแสงรอบๆ ตัวของพวกเขา
"ทำไมต้องเป็นหินสะท้อนแสงและทำไมต้องเป็นสีเขียว" จู่ๆ ขวัญแก้วก็อยากถาม เธอสงสัยนิดหน่อยว่าทำไมเอรินถึงเลือกหินสีเขียว
"ก็...เคยมีคนขอเอาไว้นะสิ...พี่"
เอรินหันไปหาขวัญแก้วเพื่อจะบอกว่าเธอเป็นน้องลิงคนนั้น แต่หันไปอีกทีขวัญแก้วก็หนีหลับไปก่อนแล้ว
"แล้วจะถามทำไม ถามแล้วไม่รอคำตอบอีก" เอรินเริ่มหงุดหงิดอีกครั้งกับความซื่อบื้อของพี่สาว มาเป็นแบบนี้เธอคงต้องปล่อยให้โง่ต่อไปก็แล้วกัน

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2563, 07:48:38 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ค. 2563, 07:48:43 น.
จำนวนการเข้าชม : 414
<< จุดนัดพบ | เปื่อยจนได้ >> |