ผู้จัดการจำเป็นกับแม่บ้านช่างฝัน (yuri) - จบ
เมื่อคนเป็นพี่อย่างขวัญข้าวกลับไม่มาทำงานตามคำสั่งของคุณป้าข้าวสวย เธอผู้เป็นน้องจะต้องมาแทนแฝดผู้พี่ แต่คนที่คุณป้าของเธอต้องการให้ดูแลเป็นพิเศษกลับเป็นแม่บ้านที่ไม่ทำตามคำสั่งใคร
โดยทั้งสองอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณป้าข้าวสวยจอมเผด็จการ ที่บังคับให้ขวัญแก้วมาเป็นผู้จัดการแทนขวัญข้าวแฝดผู้พี่ของเธอ และฝากสาวน้อยเอรินไว้ให้ดูแล แต่ทว่าการดูแลสาวน้อยคนนี้กลับทำให้ขวัญแก้วอยากกลับบ้านซะแล้วสิ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะตกหลุมพรางของใครบางคนหรือไม่
โดยทั้งสองอยู่ในการควบคุมดูแลของคุณป้าข้าวสวยจอมเผด็จการ ที่บังคับให้ขวัญแก้วมาเป็นผู้จัดการแทนขวัญข้าวแฝดผู้พี่ของเธอ และฝากสาวน้อยเอรินไว้ให้ดูแล แต่ทว่าการดูแลสาวน้อยคนนี้กลับทำให้ขวัญแก้วอยากกลับบ้านซะแล้วสิ งานนี้จะเกิดอะไรขึ้น หรือเธอจะตกหลุมพรางของใครบางคนหรือไม่
Tags: นิยายรัก ยูริ หญิงรักหญิง แม่บ้าน ผู้จัดการ แอบรัก พี่น้อง
ตอน: เหตุผล...หินเรืองแสง
ขวัญแก้วตื่นกลางดึกและมองเห็นคนที่หลับคุดตัวอยู่ข้างเธอ
"คงเหนื่อยสินะ" ขวัญแก้วมองเอรินนิ่งๆ คนที่พาเธอมานอนที่ห้องคงไม่ต้องคิดว่าเป็นใคร
เธอสงสัยอะไรหลายอย่างในตัวเอริน ไม่ว่าคุณป้าข้าวสวยหรือคุณเลขาต่างฝากคนตัวเล็กให้เธอต้องดูแล แต่แทนที่เธอจะต้องดูแลคนตรงหน้ากลับต้องกลายเป็นคนถูกดูแลจนได้
"เธอก็ต้องห่มด้วยเหมือนกัน" ขวัญแก้วเขยิบเข้าไปใกล้เอรินและแบ่งผ้าห่มให้ครึ่งหนึ่ง
ทำให้ทั้งสองนอนอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน ขวัญแก้วแบ่งหมอนให้คนตัวเล็กได้นอนอย่างสบาย โดยการค่อยๆ ยกศีรษะอย่างเบามือ
"นอนด้วยกันแบบนี้แหละ" ขวัญแก้วอุ่นใจทุกครั้งที่เอรินอยู่ใกล้ตัวของเธอ เธอจ้องมองคนตัวเล็กหลับอย่างกับลูกแมวน้อยที่ชอบอ้อนเจ้านาย ก่อนที่เธอจะหลับตามไปอีกคน
เอรินรู้สึกตัวตั้งแต่ขวัญแก้วขยับเข้ามาใกล้ เธอนึกย้อนกลับไปสมัยเด็กที่เธอกับขวัญแก้วช่วยกันปลูกต้นไม้และอยากให้สวนที่พวกเธอช่วยกันสร้างมีแสงสะท้อนตอนกลางคืน และแสงสะท้อนนั้นต้องเป็นสีเขียว
"ทำไมต้องเป็นสีเขียว" เอรินถาม
"ก็สีเขียวเป็นสีสดใสและสดชื่น มีแต่สิ่งดีๆ " ความคิดเด็กๆ ของขวัญแก้วมักจะมองอะไรดีไปหมด
"จะบอกว่าชอบสีเขียวก็บอกมาเถอะ แต่หนูชอบสีแดง" เอรินบอกบ้าง
"สีแดง...ร้อนแรงสินะ อิอิ" ขวัญแก้วแซว
"พี่แก้วง่ะ"
"พวกเธอมากินอาหารว่างได้แล้ว คุณป้าเรียกหา" จู่ๆ เสียงของขวัญข้าวก็ดังมาจากที่ไกลๆ ทำให้พวกเธอทั้งสองหันมายิ้มให้กัน
"ได้เวลากินขนม"
เอรินยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง เธอนึกย้อนไปยังวันที่ขวัญแก้วบินไปอยู่กับลุงที่สวิตและโกหกเธอว่าจะรอเธอมาหาที่สนามบิน แต่ตัวเองกลับส่งพี่ขวัญข้าวปลอมตัวมาหาเธอ
"ก่อนบิน พี่อยากให้ของกับเรา" ขวัญข้าวที่ปลอมมาเป็นขวัญแก้วนำของมาให้ เป็นกล่องขนาดเล็กผูกโบสวยงาม
"แล้วทำไมถึงให้ก่อน ทำไมไม่ให้หนูไปส่งที่สนามบิน"
"พี่อยากเจอเราก่อนเครื่องออก"
"ไม่ต้องมาโกหกริน...พี่ขวัญข้าว"
"ว้า...โดนจับได้จนได้"
"พี่แก้วไม่อยากเจอรินแล้วใช่ไหมคะ"
"ไม่ใช่หรอก พอดีทางผู้ใหญ่เร่งให้บินไปก่อน แก้วไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ"
"เลยส่งพี่มาหลอกรินสินะ"
"แก้วอยากให้พี่เอาของสิ่งนี้มาให้ เราก็เก็บดีๆ ด้วยล่ะ กว่าจะได้มายัยแก้วอ้อนคุณน้าแล้วอ้อนคุณน้าอีก เป็นอาทิตย์กว่าคุณน้าจะใจอ่อนเลยนะ"
"จริงเหรอ ขอบคุณค่ะ" เอรินดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ทุกวันนี้เธอไม่เคยถอดสร้อยออกจากคอเลยสักครั้งมักจะติดตัวไว้ตลอด สร้อยที่มีเพียงเส้นเดียวบนโลกใบนี้
ทางด้านคุณป้าข้าวสวยได้รับรายงานจากเลขาว่าขวัญแก้วป่วย จึงให้หมอที่รู้จักกับครอบครัวและอยู่ใกล้ที่สุดเข้าไปดูแล
ป้าข้าวสวยหมุนเก้าอี้ที่ตนเองนั่งเพื่อสามารถมองวิวตึกและแสงไฟในตัวเมืองจากที่สูงได้
เรื่องบางอย่างป้าข้าวสวยไม่สามารถบอกหลานของเธอได้มากกว่านี้ มรดกของตระกูลและงานที่หนักหน่วง ความรับผิดชอบที่ตามมามากมายของระดับผู้บริหารต้องมีและต้องทำให้สำเร็จ เพื่อความอยู่รอดของมรดกที่ถูกสืบทอดมา ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ขวัญแก้วกับขวัญข้าวต้องถูกแยกออกจากกัน ในมุมมองของผู้ใหญ่สิ่งเหล่านี้คือความปลอดภัย และประจวบเหมาะกับขวัญแก้วอยากแยกจากขวัญข้าวเพราะทะเลาะกันในเรื่องเด็กๆ
"พี่ครับ ผมจะส่งแก้วไปหาลุงของเขาที่สวิตเดือนหน้า"
"ดีๆ ให้คนทางนั้นช่วยดูแล ส่วนทางนี้ฉันกำลังดูท่าทีของมันอยู่"
"ถ้ามันจะกำจัดพวกเราให้เจ็บ มันก็จะต้องทำร้ายลูกหลานที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว"
"ครับ...ข้าวกับแก้วแยกกันนั่นแหละดี เป้าหมายจะได้แยกออกไป"
ทุกอย่างถูกจัดให้ดำเนินไปตามแผนเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน โดยเฉพาะสายตรงอย่างขวัญข้าวและขวัญแก้ว
ตลอดเวลาหลายสิบปีกับการดูแลครอบครัวและมรดกของวงตระกูลให้ดำรงอยู่ได้โดยที่ทุกคนอยู่กันอย่างสงบสุข ทุกธุรกิจที่ทางตระกูลมี ถูกเคลียร์ทางจนหมดเหลือเพียงร้านสปาแห่งนี้เพียงที่เดียว
ก่อนที่ป้าข้าวสวยจะตอบตกลงทำธุรกิจสปากับเพื่อนสนิท เธอตัดสินใจอยู่นานแต่เมื่อมาเห็นร้านเธอกลับหลงรักอย่างบอกไม่ถูก จึงเป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่เธอไม่อยากตัดทิ้งออกไป ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าหุ้นส่วนของเธอเล่นไม่ซื่อแต่หลักฐานยังคงไม่เพียงพอสำหรับการเอาผิด เธอจึงส่งเอรินที่เธอรักและไว้ใจแม้ว่าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองให้ล่วงหน้าไปแฝงตัวเป็นแม่บ้านก็ตาม จนสามารถเอาผิดคนบางคนได้และให้ลาออกไป
การลาออกอย่างกะทันหันของผู้จัดการคนก่อนยังไม่อาจเคลียร์ได้ลงตัว แต่เธอจำเป็นต้องให้เอรินถูกตำหนิจากเพื่อนร่วมงานด้วยกันเพราะความเข้าใจผิด เพื่อให้คนที่ยังไม่เปิดเผยตัวได้ออกมาในภายหลัง ถึงจะเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับเอรินก็ตามแต่เพื่อปูทางให้หลานของเธอเรียนรู้งานและรับช่วงต่อได้อย่างไม่มีปัญหา เธอก็ต้องยอม
"หลังจบงานนี้คงต้องให้รางวัล" หญิงสูงวัยยิ้มน้อยๆ กับงานที่เอรินทำให้โดยไม่มีข้อบกพร่อง
ผู้จัดการคนเก่าลาออกจากการบังคับให้เซ็นออกนั้น ก็เป็นจังหวะเดียวกับขวัญข้าวและขวัญแก้วเรียนจบและพร้อมจะมาทำงานต่อจากเธอ
แต่ไม่คิดว่าคนที่เธอคาดหวังและส่งให้ไปเรียนเพื่อได้ใบตามที่ปูทางไว้กลับหนีหายไปอยู่สักแห่งในประเทศไทย ทุกวันนี้เธอยังไม่สามารถตามหาได้เลย
"ไม่รู้เก่งเหมือนใคร" ป้าข้าวสวยยิ้มกับความคิดและการกระทำของหลานรัก
ถึงขวัญข้าวจะฉลาดแกมโกงไปบ้างแต่นั่นเป็นส่วนดีในการทำงาน ส่วนขวัญแก้วที่เป็นน้อง หน้าตาจะเหมือนกันและคลานตามกันมา ขวัญแก้วมีจุดเด่นตรงที่ซื่อจนบื้อในบางครั้ง จึงไม่เคยทันใครเขา แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนรอบตัวหลงรักแบบไม่ทันตั้งตัว
"คงได้เชื้อทางแม่มาเยอะสินะ"
ป้าข้าวสวยนั่งนิ่งๆ และคิดถึงหลานทั้งสอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ป้าคนนี้จะดูแลหลานให้เต็มที่ตามที่แม่ของพวกเขาได้สั่งเสียเอาไว้
"บอสค่ะ....กาแฟร้อน" เลขาคนสนิทวางกาแฟสูตรประจำให้กับเจ้านายหญิงสูงวัย แม้จะดึกเธอก็รู้ดีว่า หญิงเก่งตรงหน้ายังคงต้องการสิ่งที่ทำให้สามารถคิดงานต่อได้
"ขอบใจเธอมากนะ"
"บอสค่ะ...คุณหนูแก้วไม่ต้องเป็นห่วงเธอแล้วค่ะ คนที่นั่นจะดูแลเธอเป็นอย่างดี อย่างน้อยก็มีหนูรินแล้วหนึ่งคน"
"แล้วหลานที่เธอส่งไปเป็นพนักงานก็ยังไม่ถูกจับได้อยู่ใช่ไหม"
"ค่ะ...หลานของดิฉันรู้งานดีว่าจะต้องทำยังไง แม้จะไม่ชอบหนูรินก็ตาม"
"ฮึ...เด็กทะเลาะกันก็ดูมีชีวิตชีวาดีนะ" ป้าข้าวสวยยิ้ม เรื่องของเด็กก็คือเรื่องของเด็ก เดี๋ยวก็รักกันเอง
"คงเหนื่อยสินะ" ขวัญแก้วมองเอรินนิ่งๆ คนที่พาเธอมานอนที่ห้องคงไม่ต้องคิดว่าเป็นใคร
เธอสงสัยอะไรหลายอย่างในตัวเอริน ไม่ว่าคุณป้าข้าวสวยหรือคุณเลขาต่างฝากคนตัวเล็กให้เธอต้องดูแล แต่แทนที่เธอจะต้องดูแลคนตรงหน้ากลับต้องกลายเป็นคนถูกดูแลจนได้
"เธอก็ต้องห่มด้วยเหมือนกัน" ขวัญแก้วเขยิบเข้าไปใกล้เอรินและแบ่งผ้าห่มให้ครึ่งหนึ่ง
ทำให้ทั้งสองนอนอยู่ในผ้าห่มผืนเดียวกัน ขวัญแก้วแบ่งหมอนให้คนตัวเล็กได้นอนอย่างสบาย โดยการค่อยๆ ยกศีรษะอย่างเบามือ
"นอนด้วยกันแบบนี้แหละ" ขวัญแก้วอุ่นใจทุกครั้งที่เอรินอยู่ใกล้ตัวของเธอ เธอจ้องมองคนตัวเล็กหลับอย่างกับลูกแมวน้อยที่ชอบอ้อนเจ้านาย ก่อนที่เธอจะหลับตามไปอีกคน
เอรินรู้สึกตัวตั้งแต่ขวัญแก้วขยับเข้ามาใกล้ เธอนึกย้อนกลับไปสมัยเด็กที่เธอกับขวัญแก้วช่วยกันปลูกต้นไม้และอยากให้สวนที่พวกเธอช่วยกันสร้างมีแสงสะท้อนตอนกลางคืน และแสงสะท้อนนั้นต้องเป็นสีเขียว
"ทำไมต้องเป็นสีเขียว" เอรินถาม
"ก็สีเขียวเป็นสีสดใสและสดชื่น มีแต่สิ่งดีๆ " ความคิดเด็กๆ ของขวัญแก้วมักจะมองอะไรดีไปหมด
"จะบอกว่าชอบสีเขียวก็บอกมาเถอะ แต่หนูชอบสีแดง" เอรินบอกบ้าง
"สีแดง...ร้อนแรงสินะ อิอิ" ขวัญแก้วแซว
"พี่แก้วง่ะ"
"พวกเธอมากินอาหารว่างได้แล้ว คุณป้าเรียกหา" จู่ๆ เสียงของขวัญข้าวก็ดังมาจากที่ไกลๆ ทำให้พวกเธอทั้งสองหันมายิ้มให้กัน
"ได้เวลากินขนม"
เอรินยิ้มน้อยๆ ก่อนที่จะหลับตาลงอีกครั้ง เธอนึกย้อนไปยังวันที่ขวัญแก้วบินไปอยู่กับลุงที่สวิตและโกหกเธอว่าจะรอเธอมาหาที่สนามบิน แต่ตัวเองกลับส่งพี่ขวัญข้าวปลอมตัวมาหาเธอ
"ก่อนบิน พี่อยากให้ของกับเรา" ขวัญข้าวที่ปลอมมาเป็นขวัญแก้วนำของมาให้ เป็นกล่องขนาดเล็กผูกโบสวยงาม
"แล้วทำไมถึงให้ก่อน ทำไมไม่ให้หนูไปส่งที่สนามบิน"
"พี่อยากเจอเราก่อนเครื่องออก"
"ไม่ต้องมาโกหกริน...พี่ขวัญข้าว"
"ว้า...โดนจับได้จนได้"
"พี่แก้วไม่อยากเจอรินแล้วใช่ไหมคะ"
"ไม่ใช่หรอก พอดีทางผู้ใหญ่เร่งให้บินไปก่อน แก้วไปตั้งแต่เมื่อวานแล้วล่ะ"
"เลยส่งพี่มาหลอกรินสินะ"
"แก้วอยากให้พี่เอาของสิ่งนี้มาให้ เราก็เก็บดีๆ ด้วยล่ะ กว่าจะได้มายัยแก้วอ้อนคุณน้าแล้วอ้อนคุณน้าอีก เป็นอาทิตย์กว่าคุณน้าจะใจอ่อนเลยนะ"
"จริงเหรอ ขอบคุณค่ะ" เอรินดีใจอย่างบอกไม่ถูก
ทุกวันนี้เธอไม่เคยถอดสร้อยออกจากคอเลยสักครั้งมักจะติดตัวไว้ตลอด สร้อยที่มีเพียงเส้นเดียวบนโลกใบนี้
ทางด้านคุณป้าข้าวสวยได้รับรายงานจากเลขาว่าขวัญแก้วป่วย จึงให้หมอที่รู้จักกับครอบครัวและอยู่ใกล้ที่สุดเข้าไปดูแล
ป้าข้าวสวยหมุนเก้าอี้ที่ตนเองนั่งเพื่อสามารถมองวิวตึกและแสงไฟในตัวเมืองจากที่สูงได้
เรื่องบางอย่างป้าข้าวสวยไม่สามารถบอกหลานของเธอได้มากกว่านี้ มรดกของตระกูลและงานที่หนักหน่วง ความรับผิดชอบที่ตามมามากมายของระดับผู้บริหารต้องมีและต้องทำให้สำเร็จ เพื่อความอยู่รอดของมรดกที่ถูกสืบทอดมา ดังนั้นจึงเป็นเหตุผลหนึ่งที่ขวัญแก้วกับขวัญข้าวต้องถูกแยกออกจากกัน ในมุมมองของผู้ใหญ่สิ่งเหล่านี้คือความปลอดภัย และประจวบเหมาะกับขวัญแก้วอยากแยกจากขวัญข้าวเพราะทะเลาะกันในเรื่องเด็กๆ
"พี่ครับ ผมจะส่งแก้วไปหาลุงของเขาที่สวิตเดือนหน้า"
"ดีๆ ให้คนทางนั้นช่วยดูแล ส่วนทางนี้ฉันกำลังดูท่าทีของมันอยู่"
"ถ้ามันจะกำจัดพวกเราให้เจ็บ มันก็จะต้องทำร้ายลูกหลานที่ไม่รู้เรื่องรู้ราว"
"ครับ...ข้าวกับแก้วแยกกันนั่นแหละดี เป้าหมายจะได้แยกออกไป"
ทุกอย่างถูกจัดให้ดำเนินไปตามแผนเพื่อความปลอดภัยของลูกหลาน โดยเฉพาะสายตรงอย่างขวัญข้าวและขวัญแก้ว
ตลอดเวลาหลายสิบปีกับการดูแลครอบครัวและมรดกของวงตระกูลให้ดำรงอยู่ได้โดยที่ทุกคนอยู่กันอย่างสงบสุข ทุกธุรกิจที่ทางตระกูลมี ถูกเคลียร์ทางจนหมดเหลือเพียงร้านสปาแห่งนี้เพียงที่เดียว
ก่อนที่ป้าข้าวสวยจะตอบตกลงทำธุรกิจสปากับเพื่อนสนิท เธอตัดสินใจอยู่นานแต่เมื่อมาเห็นร้านเธอกลับหลงรักอย่างบอกไม่ถูก จึงเป็นเหตุผลอีกอย่างหนึ่งที่เธอไม่อยากตัดทิ้งออกไป ถึงแม้ว่าจะรู้ว่าหุ้นส่วนของเธอเล่นไม่ซื่อแต่หลักฐานยังคงไม่เพียงพอสำหรับการเอาผิด เธอจึงส่งเอรินที่เธอรักและไว้ใจแม้ว่าไม่ใช่เลือดเนื้อเชื้อไขของตนเองให้ล่วงหน้าไปแฝงตัวเป็นแม่บ้านก็ตาม จนสามารถเอาผิดคนบางคนได้และให้ลาออกไป
การลาออกอย่างกะทันหันของผู้จัดการคนก่อนยังไม่อาจเคลียร์ได้ลงตัว แต่เธอจำเป็นต้องให้เอรินถูกตำหนิจากเพื่อนร่วมงานด้วยกันเพราะความเข้าใจผิด เพื่อให้คนที่ยังไม่เปิดเผยตัวได้ออกมาในภายหลัง ถึงจะเป็นเรื่องเสี่ยงสำหรับเอรินก็ตามแต่เพื่อปูทางให้หลานของเธอเรียนรู้งานและรับช่วงต่อได้อย่างไม่มีปัญหา เธอก็ต้องยอม
"หลังจบงานนี้คงต้องให้รางวัล" หญิงสูงวัยยิ้มน้อยๆ กับงานที่เอรินทำให้โดยไม่มีข้อบกพร่อง
ผู้จัดการคนเก่าลาออกจากการบังคับให้เซ็นออกนั้น ก็เป็นจังหวะเดียวกับขวัญข้าวและขวัญแก้วเรียนจบและพร้อมจะมาทำงานต่อจากเธอ
แต่ไม่คิดว่าคนที่เธอคาดหวังและส่งให้ไปเรียนเพื่อได้ใบตามที่ปูทางไว้กลับหนีหายไปอยู่สักแห่งในประเทศไทย ทุกวันนี้เธอยังไม่สามารถตามหาได้เลย
"ไม่รู้เก่งเหมือนใคร" ป้าข้าวสวยยิ้มกับความคิดและการกระทำของหลานรัก
ถึงขวัญข้าวจะฉลาดแกมโกงไปบ้างแต่นั่นเป็นส่วนดีในการทำงาน ส่วนขวัญแก้วที่เป็นน้อง หน้าตาจะเหมือนกันและคลานตามกันมา ขวัญแก้วมีจุดเด่นตรงที่ซื่อจนบื้อในบางครั้ง จึงไม่เคยทันใครเขา แต่นั่นก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งที่ทำให้คนรอบตัวหลงรักแบบไม่ทันตั้งตัว
"คงได้เชื้อทางแม่มาเยอะสินะ"
ป้าข้าวสวยนั่งนิ่งๆ และคิดถึงหลานทั้งสอง ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้น ป้าคนนี้จะดูแลหลานให้เต็มที่ตามที่แม่ของพวกเขาได้สั่งเสียเอาไว้
"บอสค่ะ....กาแฟร้อน" เลขาคนสนิทวางกาแฟสูตรประจำให้กับเจ้านายหญิงสูงวัย แม้จะดึกเธอก็รู้ดีว่า หญิงเก่งตรงหน้ายังคงต้องการสิ่งที่ทำให้สามารถคิดงานต่อได้
"ขอบใจเธอมากนะ"
"บอสค่ะ...คุณหนูแก้วไม่ต้องเป็นห่วงเธอแล้วค่ะ คนที่นั่นจะดูแลเธอเป็นอย่างดี อย่างน้อยก็มีหนูรินแล้วหนึ่งคน"
"แล้วหลานที่เธอส่งไปเป็นพนักงานก็ยังไม่ถูกจับได้อยู่ใช่ไหม"
"ค่ะ...หลานของดิฉันรู้งานดีว่าจะต้องทำยังไง แม้จะไม่ชอบหนูรินก็ตาม"
"ฮึ...เด็กทะเลาะกันก็ดูมีชีวิตชีวาดีนะ" ป้าข้าวสวยยิ้ม เรื่องของเด็กก็คือเรื่องของเด็ก เดี๋ยวก็รักกันเอง

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 ก.ค. 2563, 07:50:31 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 ก.ค. 2563, 07:50:36 น.
จำนวนการเข้าชม : 426
<< เปื่อยจนได้ |