ไม่อยากเป็นแค่ลุง...ขอเป็นที่รักจะได้ไหม (yaoi) - จบ
กาย หนุ่มวัย 34 ต้องมารับดูแลปอนด์หลานของหนุ แฟนเจ้านายที่เขารักอย่างกับน้องชาย เพราะความใจดีของเขาที่ต้องให้ปอนด์เข้ามาในชีวิต จากหนุ่มน้อยเป็นหนุ่มไม่น้อยกับความวุ่นวายที่เกิดขึ้นแบบที่เขาต้องกุมขมับ ไม่อยากรักก็ต้องรักแต่จะรักแบบที่ไม่เรียกลุงไหมนั้น ขอทีเถอะ ไม่อยากเป็นแค่ลุง...เปลี่ยนเป็นที่รักจะได้ไหม
เรื่องนี้แยกมาจากเรื่อง ปริศนาใจ เป็นเรื่องราวของกายกับปอนด์
เรื่องนี้แยกมาจากเรื่อง ปริศนาใจ เป็นเรื่องราวของกายกับปอนด์
Tags: นิยายรัก วาย เด็กกว่า
ตอน: ไม่อยากเป็นแค่ลุง...ขอเป็นที่รักจะได้ไหม 5
วันนี้ผมมีนัดกับแขกคนสำคัญของเจ้านาย และเจ้านายก็ไม่ว่างเพราะต้องพาแฟนไปซื้อของ ว่าไปแฟนเจ้านายออกจะเก่งงานบ้านงานเรือนแต่ทำไมหลานถึงทำอะไรไม่เป็น ต้องลำบากผมตลอด
"มัวแต่เหม่อ ดูสิเกือบจะชนเสาแล้ว" นายดึงคอเสื้อเพื่อนร่วมงานเอาไว้ก่อนที่จะทำอะไรขายหน้า
"อ๋อ ๆ ขอบใจนะ” ผมเกือบจะชนเสาจริง ๆ ดีนะที่นายดึงเอาไว้ได้ทัน
ทั้งสองมานั่งรอลูกค้าในร้านกาแฟตรงข้ามกับร้านอาหารดังในตัวเมือง
"น่าสนใจอยู่นะร้านนั้น" จู่ ๆ นายก็พูดขึ้น
"ยังไง" มองดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น
"อ้าว ไปอยู่ไหนมา ข้างในเปิดห้องให้เช่าร้องคาราโอเกะได้"
"เปิดทั้งวันเลยหรือไง" กายสงสัย
"ก็นะ ทำได้ก็ไม่มีปัญหานะสิ" นายยิ้มกวน ๆ กลับไป
ผมมองดูร้านนั้นอย่างครุ่นคิด อยากทำอะไรที่ได้เงินเยอะ ๆ เหมือนกัน ถึงครอบครัวเจ้านายให้เงินเดือนที่ดีขนาดไหน คนอย่างผมยังมีเรื่องที่ลำบากและต้องใช้เงินเกินตัวอยู่ดี
"คิดอะไรอยู่ ทำไมวันนี้ดูแปลก ๆ " นายจ้องมองเพื่อนด้วยความแปลกใจ
"กำลังคิดจะกลับไปหาแม่ อยากลางานไปดูแม่สักหน่อย"
"จะไปเมื่อไหร่ก็บอกนะ ฉันจะได้ช่วยรับงานแทนให้" นายอาสาช่วย เขาเข้าใจอยู่ว่าฐานะทางบ้านกายค่อนข้างจะลำบากนิดหน่อยเพราะต้องคอยดูแลแม่ที่ป่วย น้องสาวก็กำลังเรียน และกายก็เป็นพวกที่ไม่รับความช่วยเหลือจากใครนอกเสียจากทำงานแลกเงิน
"ลูกค้ามาแล้ว" นายสะกิดเมื่อเห็นลูกค้าของเจ้านายเดินมากับลูกสาวของเขาและกำลังตรงดิ่งมาที่โต๊ะ
ทั้งผมและนายยืนต้อนรับและเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจา
ระหว่างการสนทนา ผมเหลือบไปเห็นปอนด์มากับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ทำให้ผมต้องจับจ้อง
"มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" บ่นพึมพำเบา ๆ
"เป็นอะไรไป" นายเริ่มสะกิด จู่ ๆ กายก็หันไปมองข้างนอกจนลูกค้าเริ่มขมวดคิ้ว
"ครับ ขออภัยครับ" ผมได้สติรีบดึงกลับมาสนใจงานต่อ
ผมรู้สึกว่าตนเองไม่มีสมาธิเลยสักนิด และทำไมปอนด์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้
เมื่อวานปอนด์มาขอร้องให้ผมไปช่วยคุยกับน้าของเขาว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะไม่กลับบ้านเพราะมีงานที่คณะต้องไปทำและต้องค้างกับเพื่อน ขนาดผมยังหลงเชื่อว่าติดทำงานที่คณะ ผมเลยปล่อยให้ไปอยู่หอเพื่อน ไม่คิดว่าปอนด์จะโกหกผมได้
แบบนี้คงต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าให้คำตอบไม่ดีมีโดนกัดแน่
ผมสะกดรอยตามไอ้เด็กบ้านั่น ยอมรับว่าตกใจที่เห็นเจ้าตัวยืนห้อมล้อมด้วยหมู่เพื่อนฝูง อย่างว่ายังวัยรุ่นก็อย่างนี้แหละ
"มิน่าถึงโกหกคุณนุว่ามีงานที่คณะ" นอกจากโกหกคุณนุแล้วยังโกหกผมด้วย แบบนี้ต้องดึงตัวออกมาคุยซะแล้วสิ
ผมสะกดรอยตามปอนด์เข้าไปในร้าน ดีนะที่นายเข้าใจผม เพราะผมขอลากลับก่อนและฝากนายส่งลูกค้าให้ที
“น้องครับ พี่ขอน้ำมะพร้าวปั่นแก้วหนึ่ง” ผมเข้ามานั่งในร้านคอยสังเกตปอนด์ว่าทำอะไร ตรงโต๊ะฝั่งตรงข้าม หวังว่าปอนด์จะไม่เห็น
ปอนด์มากับเพื่อนในคณะห้าคน รุ่นพี่สาม หนึ่งในนั้นมีต้ารวมอยู่ด้วย ซึ่งผมจำต้าได้ดี ว่าไปแล้วทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบหน้ากัน
“น้องปอนด์ วันนี้พวกพี่เลี้ยง กินเยอะ ๆ นะ” รุ่นพี่ปีสี่บอก
“ปอนด์วันนี้ไม่ต้องรีบกลับหรอก อยู่ร้องคาราโอเกะกับพวกเราก่อน” เพื่อนที่เคยอยู่รุ่นเดียวกันชวน ซึ่งตอนนี้ได้ขึ้นเป็นปีสามแล้ว ส่วนปอนด์เรียนปีสองต่อเพราะดอร์ปไปหนึ่งปี
ปอนด์ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ทานอาหารที่พวกรุ่นพี่เลี้ยง เขาเหลือบมองต้าที่นั่งถัดจากเขา ยอมรับว่าไม่อยากมาแต่ต้องมาเพราะรุ่นพี่ขอ และต้าก็อยู่ในสายเดียวกับปอนด์จึงต้องเจอหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้
“คืนนี้ฉลองทำงานเสร็จเรียบร้อย ปอนด์ ไหน ๆ แกก็หายไปเป็นปีกลับมาก็ต้องดื่มจริงไหม” น็อตเพื่อนร่วมคณะกอดคอและชวนให้นอนค้างห้องของเขาด้วย
ปอนด์ไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าตามน้ำไป ใจหนึ่งก็กังวลว่ากายจะเป็นห่วง แต่อีกใจก็ยังไม่อยากกลับเพราะบอกว่ามาทำงานที่คณะและไม่คิดว่างานช่วยทำป้ายจะเสร็จไวกว่ากำหนด พวกพี่ ๆ เลยพามาเลี้ยง แต่สิ่งที่ไม่อยากเจอก็คือ หน้าไอ้ต้า เพราะไม่มีใครรู้ว่าปอนด์กับต้ามีเรื่องอะไรกัน
กลับมาทางผมที่คอยจ้องมองพวกปอนด์ไม่วางตาและเดินตามไปข้างบน โดยลืมไปว่าไม่ได้จองห้องไว้เหมือนเด็กพวกนี้ จึงได้แต่ทำเนียน ๆ เดินผ่าน
“ลุง” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำเอาผมตัวแข็งทื่อในท่ายืนจับกำแพง ผมจำได้ดีว่านั่นคือเสียงปอนด์
“ลุง แอบสะกดรอยตามผมมาหรือครับ” ปอนด์ขมวดคิ้วและเดินเข้ามาประชิดตัวผม
ผมต้องจำใจยิ้มและส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่สักหน่อย พอดีพาลูกค้ามานั่งแถวนี้” โกหกไปอีก
“งั้นเหรอ ผมคงไม่กลับนะ วันนี้จะดื่มกับเพื่อน” ปอนด์นิ่งมากจนผมสงสัย
“ดื่มเป็นหรือไง แบบนี้คุณนุรู้หรือเปล่าว่านายแอบมาดื่มเหล้า” ผมดุกลับไปทันที อายุยังน้อยคิดดื่มของมึนเมา อยากรู้จริง ๆ ว่าจะโดนมอมเหล้าไหม ถ้าเมาไม่รู้เรื่องจะจับตีก้นให้เข็ด
“อ้า...ลุงหัวโบราณชะมัด ผมเซียนน่า ไม่ต้องเป็นห่วง”
“หน๋อย...แกว่าใครว่าหัวโบราณ” ผมเริ่มเคือง จู่ ๆ ก็มาว่ากัน คนเขาอู่ซ่าเป็นห่วง
“ก็ลุงนั่นแหละ จะตามเข้ามานั่งกับผมไหม ผมอนุญาตแล้วตามมา” ปอนด์พูดนิ่ง ๆ และเดินผ่านผมไป จนผมต้องเม้มปาก
เดี๋ยวนี้ทำเป็นอวดเก่งแล้วสินะ...
ผลสุดท้ายผมก็ต้องมารวมกับพวกเด็ก ๆ จนได้ และที่แน่ ๆ คนที่ชื่อต้าไม่ยอมลุกไปไหน มานั่งข้าง ๆ ผม จนผมเริ่มจะรำคาญ
“ไอ้ต้า มึงไปไกล ๆ นี่ลุงกู” ปอนด์ก็คงคิดเหมือนผม
“อ้าว ลุงมึงยังไม่ว่าเลย” สองสายตาฟาดฟันกัน นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดที่สะกดรอยตามปอนด์มากันแน่
ผลสุดท้ายผมก็ต้องมาเข้าห้องน้ำ หนีการเถียงกันของปอนด์กับต้า ทำไมมันปวดหัวแบบนี้กันนะ
“นี่ เห็นปอนด์ไหม”
“อืม ทำไม”
การสนทนาในห้องน้ำ ทำให้ผมต้องแนบหูฟังที่ประตูอย่างระวังแม้จะอยู่ในห้องส้วมก็ตาม
“ครั้งนี้มันกลับมาเรียน ไม่คิดว่าจะหล่อและหุ่นดีขึ้น”
“อย่าบอกนะว่าแกชอบมัน”
“หึ อย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่สเปควะ เสียดายไอ้ปัง ย้ายไปเรียนที่ญี่ปุ่น นึกว่าจะกลับมาเรียนด้วยกันซะอีก จะจีบซะหน่อยได้ข่าวว่า มันแซ่บใช่ย่อย”
“ออ ใช่ข่าวลือเมื่อปีก่อน แต่ฉันได้ยินมาว่าปังมันเป็นแฟนกับไอ้ต้าไม่ใช่หรือไง”
“ไม่รู้สิ เห็นปังมันก็ไปไหนมาไหนกับปอนด์ตลอด แล้วไอ้ต้ามันก็เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น อย่างมันคงไม่สนใจปังหรอกมั้ง”
ผมแอบฟังการสนทนาของเพื่อนในคณะปอนด์ เมื่อปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมปอนด์ถึงไม่เคยเล่าให้ผมฟัง หรือว่าปังกับปอนด์จะมีอะไรกัน ปอนด์อาจจะโกหกผมก็ได้ที่บอกว่าปังเคยเป็นแฟนกับต้า
พอสองคนนั้นออกจากห้องน้ำไปแล้ว ผมก็ออกไปนั่งข้าง ๆ ปอนด์
“รบกวนด้วยครับพี่ พอดีลุงผมเขามาอยู่แถวนี้ ก็เลยจะกลับพร้อมกับลุงครับ” จู่ ๆ ปอนด์ก็บอกรุ่นพี่ที่ชวนมา
“ไม่เป็นไร จะกลับก่อนก็ได้แต่ต้องอยู่กับพวกเราจนร้านปิดนะ”
ให้อยู่จนร้านปิดก็พอดีเมาไม่ได้กลับบ้านกันพอดี กายคิด
งานฉลองเล็ก ๆ ของหนุ่ม ๆ ในคณะของปอนด์ ก็ผ่านไปได้อย่างดี ถ้าปอนด์ไม่ดื่มจนผมคิดว่ามันมากเกินไป
“ปอนด์ พอเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ได้นะ”
“แค่นี้เอง ผมไม่เป็นอะไรหรอก อีกอย่างพรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน ลุงสบายใจได้” ปอนด์พูดอย่างกับเป็นเรื่องปกติ
ผมมองปอนด์ที่ดื่มแก้วนั้นแก้วนี้ผ่านไปหลายแก้วจนกังวล ทำไมดูเหมือนยังชิวอยู่เลย
“ปอนด์ ดื่มซิ ถือว่าเป็นมิตรภาพ” ชายหนุ่มรุ่นเดียวกับปอนด์ยื่นแก้วใส่น้ำแห่งมิตรภาพมาให้ พร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
แต่เดี๋ยวก่อน ผมจำเสียงนี้ได้ เสียงนี้มันคนที่อยู่ในห้องน้ำ ไอ้คนนี้มันไม่ชอบปอนด์ไม่ใช่หรือไง ผมคิดว่าแก้วที่เขายื่นมาไม่น่าจะใช่แก้วแห่งมิตรภาพซะแล้ว
จู่ ๆ มือของผมก็ยื่นไปหยิบแก้วในมือของหนุ่มน้อยที่ไม่น่าไว้ใจทันทีแบบไม่รู้ตัวและดื่มน้ำแห่งมิตรภาพแทน
นิดเดียวเองคงไม่เป็นไร เผลอดื่มไปแล้วก็มานั่งหน้าซีดแค่แก้วเดียวคงไม่ตายหรอกมั้ง และต้องกลับห้องก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น
“ปอนด์กลับกัน” ผมรีบดึงปอนด์กลับหอพัก ท่ามกลางสายตาของพวกเพื่อน ๆ ที่นั่งมองไม่กะพริบตา
“เดี๋ยวก่อนลุง กลับเลยเหรอ” ปอนด์งง
“ใช่ กลับเลย” ผมไม่สนใจแล้วว่าจะยังไง แต่ปอนด์อยู่ในอันตรายเกินไป ถ้าเกิดโดนมอมเหล้าขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง
“ผมไปก่อนนะครับ” ปอนด์รีบบอกและตามกายไปติด ๆ
“ลุง รอผมด้วย ทำไมถึงกินแทนผม ผมบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร”
ปอนด์รั้งกายไว้ให้หันมาหาเขา แต่ต้องชะงักกับหน้าของกาย
“ลุง”
"มัวแต่เหม่อ ดูสิเกือบจะชนเสาแล้ว" นายดึงคอเสื้อเพื่อนร่วมงานเอาไว้ก่อนที่จะทำอะไรขายหน้า
"อ๋อ ๆ ขอบใจนะ” ผมเกือบจะชนเสาจริง ๆ ดีนะที่นายดึงเอาไว้ได้ทัน
ทั้งสองมานั่งรอลูกค้าในร้านกาแฟตรงข้ามกับร้านอาหารดังในตัวเมือง
"น่าสนใจอยู่นะร้านนั้น" จู่ ๆ นายก็พูดขึ้น
"ยังไง" มองดูแล้วก็ไม่เห็นมีอะไรน่าตื่นเต้น
"อ้าว ไปอยู่ไหนมา ข้างในเปิดห้องให้เช่าร้องคาราโอเกะได้"
"เปิดทั้งวันเลยหรือไง" กายสงสัย
"ก็นะ ทำได้ก็ไม่มีปัญหานะสิ" นายยิ้มกวน ๆ กลับไป
ผมมองดูร้านนั้นอย่างครุ่นคิด อยากทำอะไรที่ได้เงินเยอะ ๆ เหมือนกัน ถึงครอบครัวเจ้านายให้เงินเดือนที่ดีขนาดไหน คนอย่างผมยังมีเรื่องที่ลำบากและต้องใช้เงินเกินตัวอยู่ดี
"คิดอะไรอยู่ ทำไมวันนี้ดูแปลก ๆ " นายจ้องมองเพื่อนด้วยความแปลกใจ
"กำลังคิดจะกลับไปหาแม่ อยากลางานไปดูแม่สักหน่อย"
"จะไปเมื่อไหร่ก็บอกนะ ฉันจะได้ช่วยรับงานแทนให้" นายอาสาช่วย เขาเข้าใจอยู่ว่าฐานะทางบ้านกายค่อนข้างจะลำบากนิดหน่อยเพราะต้องคอยดูแลแม่ที่ป่วย น้องสาวก็กำลังเรียน และกายก็เป็นพวกที่ไม่รับความช่วยเหลือจากใครนอกเสียจากทำงานแลกเงิน
"ลูกค้ามาแล้ว" นายสะกิดเมื่อเห็นลูกค้าของเจ้านายเดินมากับลูกสาวของเขาและกำลังตรงดิ่งมาที่โต๊ะ
ทั้งผมและนายยืนต้อนรับและเตรียมพร้อมสำหรับการเจรจา
ระหว่างการสนทนา ผมเหลือบไปเห็นปอนด์มากับเพื่อนกลุ่มหนึ่ง ทำให้ผมต้องจับจ้อง
"มาอยู่ที่นี่ได้ยังไง" บ่นพึมพำเบา ๆ
"เป็นอะไรไป" นายเริ่มสะกิด จู่ ๆ กายก็หันไปมองข้างนอกจนลูกค้าเริ่มขมวดคิ้ว
"ครับ ขออภัยครับ" ผมได้สติรีบดึงกลับมาสนใจงานต่อ
ผมรู้สึกว่าตนเองไม่มีสมาธิเลยสักนิด และทำไมปอนด์ถึงมาอยู่ที่นี่ได้
เมื่อวานปอนด์มาขอร้องให้ผมไปช่วยคุยกับน้าของเขาว่าเสาร์อาทิตย์นี้จะไม่กลับบ้านเพราะมีงานที่คณะต้องไปทำและต้องค้างกับเพื่อน ขนาดผมยังหลงเชื่อว่าติดทำงานที่คณะ ผมเลยปล่อยให้ไปอยู่หอเพื่อน ไม่คิดว่าปอนด์จะโกหกผมได้
แบบนี้คงต้องคุยกันให้รู้เรื่อง ถ้าให้คำตอบไม่ดีมีโดนกัดแน่
ผมสะกดรอยตามไอ้เด็กบ้านั่น ยอมรับว่าตกใจที่เห็นเจ้าตัวยืนห้อมล้อมด้วยหมู่เพื่อนฝูง อย่างว่ายังวัยรุ่นก็อย่างนี้แหละ
"มิน่าถึงโกหกคุณนุว่ามีงานที่คณะ" นอกจากโกหกคุณนุแล้วยังโกหกผมด้วย แบบนี้ต้องดึงตัวออกมาคุยซะแล้วสิ
ผมสะกดรอยตามปอนด์เข้าไปในร้าน ดีนะที่นายเข้าใจผม เพราะผมขอลากลับก่อนและฝากนายส่งลูกค้าให้ที
“น้องครับ พี่ขอน้ำมะพร้าวปั่นแก้วหนึ่ง” ผมเข้ามานั่งในร้านคอยสังเกตปอนด์ว่าทำอะไร ตรงโต๊ะฝั่งตรงข้าม หวังว่าปอนด์จะไม่เห็น
ปอนด์มากับเพื่อนในคณะห้าคน รุ่นพี่สาม หนึ่งในนั้นมีต้ารวมอยู่ด้วย ซึ่งผมจำต้าได้ดี ว่าไปแล้วทำไมถึงมาอยู่ด้วยกันได้ ทั้ง ๆ ที่ไม่ชอบหน้ากัน
“น้องปอนด์ วันนี้พวกพี่เลี้ยง กินเยอะ ๆ นะ” รุ่นพี่ปีสี่บอก
“ปอนด์วันนี้ไม่ต้องรีบกลับหรอก อยู่ร้องคาราโอเกะกับพวกเราก่อน” เพื่อนที่เคยอยู่รุ่นเดียวกันชวน ซึ่งตอนนี้ได้ขึ้นเป็นปีสามแล้ว ส่วนปอนด์เรียนปีสองต่อเพราะดอร์ปไปหนึ่งปี
ปอนด์ไม่ได้ตอบอะไรได้แต่นั่งนิ่ง ๆ ทานอาหารที่พวกรุ่นพี่เลี้ยง เขาเหลือบมองต้าที่นั่งถัดจากเขา ยอมรับว่าไม่อยากมาแต่ต้องมาเพราะรุ่นพี่ขอ และต้าก็อยู่ในสายเดียวกับปอนด์จึงต้องเจอหน้ากันอย่างช่วยไม่ได้
“คืนนี้ฉลองทำงานเสร็จเรียบร้อย ปอนด์ ไหน ๆ แกก็หายไปเป็นปีกลับมาก็ต้องดื่มจริงไหม” น็อตเพื่อนร่วมคณะกอดคอและชวนให้นอนค้างห้องของเขาด้วย
ปอนด์ไม่ได้พูดอะไรได้แต่ยิ้มน้อย ๆ พยักหน้าตามน้ำไป ใจหนึ่งก็กังวลว่ากายจะเป็นห่วง แต่อีกใจก็ยังไม่อยากกลับเพราะบอกว่ามาทำงานที่คณะและไม่คิดว่างานช่วยทำป้ายจะเสร็จไวกว่ากำหนด พวกพี่ ๆ เลยพามาเลี้ยง แต่สิ่งที่ไม่อยากเจอก็คือ หน้าไอ้ต้า เพราะไม่มีใครรู้ว่าปอนด์กับต้ามีเรื่องอะไรกัน
กลับมาทางผมที่คอยจ้องมองพวกปอนด์ไม่วางตาและเดินตามไปข้างบน โดยลืมไปว่าไม่ได้จองห้องไว้เหมือนเด็กพวกนี้ จึงได้แต่ทำเนียน ๆ เดินผ่าน
“ลุง” เสียงเรียกจากทางด้านหลังทำเอาผมตัวแข็งทื่อในท่ายืนจับกำแพง ผมจำได้ดีว่านั่นคือเสียงปอนด์
“ลุง แอบสะกดรอยตามผมมาหรือครับ” ปอนด์ขมวดคิ้วและเดินเข้ามาประชิดตัวผม
ผมต้องจำใจยิ้มและส่ายหน้าไปมา
“ไม่ใช่สักหน่อย พอดีพาลูกค้ามานั่งแถวนี้” โกหกไปอีก
“งั้นเหรอ ผมคงไม่กลับนะ วันนี้จะดื่มกับเพื่อน” ปอนด์นิ่งมากจนผมสงสัย
“ดื่มเป็นหรือไง แบบนี้คุณนุรู้หรือเปล่าว่านายแอบมาดื่มเหล้า” ผมดุกลับไปทันที อายุยังน้อยคิดดื่มของมึนเมา อยากรู้จริง ๆ ว่าจะโดนมอมเหล้าไหม ถ้าเมาไม่รู้เรื่องจะจับตีก้นให้เข็ด
“อ้า...ลุงหัวโบราณชะมัด ผมเซียนน่า ไม่ต้องเป็นห่วง”
“หน๋อย...แกว่าใครว่าหัวโบราณ” ผมเริ่มเคือง จู่ ๆ ก็มาว่ากัน คนเขาอู่ซ่าเป็นห่วง
“ก็ลุงนั่นแหละ จะตามเข้ามานั่งกับผมไหม ผมอนุญาตแล้วตามมา” ปอนด์พูดนิ่ง ๆ และเดินผ่านผมไป จนผมต้องเม้มปาก
เดี๋ยวนี้ทำเป็นอวดเก่งแล้วสินะ...
ผลสุดท้ายผมก็ต้องมารวมกับพวกเด็ก ๆ จนได้ และที่แน่ ๆ คนที่ชื่อต้าไม่ยอมลุกไปไหน มานั่งข้าง ๆ ผม จนผมเริ่มจะรำคาญ
“ไอ้ต้า มึงไปไกล ๆ นี่ลุงกู” ปอนด์ก็คงคิดเหมือนผม
“อ้าว ลุงมึงยังไม่ว่าเลย” สองสายตาฟาดฟันกัน นี่ผมคิดถูกหรือคิดผิดที่สะกดรอยตามปอนด์มากันแน่
ผลสุดท้ายผมก็ต้องมาเข้าห้องน้ำ หนีการเถียงกันของปอนด์กับต้า ทำไมมันปวดหัวแบบนี้กันนะ
“นี่ เห็นปอนด์ไหม”
“อืม ทำไม”
การสนทนาในห้องน้ำ ทำให้ผมต้องแนบหูฟังที่ประตูอย่างระวังแม้จะอยู่ในห้องส้วมก็ตาม
“ครั้งนี้มันกลับมาเรียน ไม่คิดว่าจะหล่อและหุ่นดีขึ้น”
“อย่าบอกนะว่าแกชอบมัน”
“หึ อย่าเข้าใจผิด ไม่ใช่สเปควะ เสียดายไอ้ปัง ย้ายไปเรียนที่ญี่ปุ่น นึกว่าจะกลับมาเรียนด้วยกันซะอีก จะจีบซะหน่อยได้ข่าวว่า มันแซ่บใช่ย่อย”
“ออ ใช่ข่าวลือเมื่อปีก่อน แต่ฉันได้ยินมาว่าปังมันเป็นแฟนกับไอ้ต้าไม่ใช่หรือไง”
“ไม่รู้สิ เห็นปังมันก็ไปไหนมาไหนกับปอนด์ตลอด แล้วไอ้ต้ามันก็เปลี่ยนแฟนเป็นว่าเล่น อย่างมันคงไม่สนใจปังหรอกมั้ง”
ผมแอบฟังการสนทนาของเพื่อนในคณะปอนด์ เมื่อปีก่อนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมปอนด์ถึงไม่เคยเล่าให้ผมฟัง หรือว่าปังกับปอนด์จะมีอะไรกัน ปอนด์อาจจะโกหกผมก็ได้ที่บอกว่าปังเคยเป็นแฟนกับต้า
พอสองคนนั้นออกจากห้องน้ำไปแล้ว ผมก็ออกไปนั่งข้าง ๆ ปอนด์
“รบกวนด้วยครับพี่ พอดีลุงผมเขามาอยู่แถวนี้ ก็เลยจะกลับพร้อมกับลุงครับ” จู่ ๆ ปอนด์ก็บอกรุ่นพี่ที่ชวนมา
“ไม่เป็นไร จะกลับก่อนก็ได้แต่ต้องอยู่กับพวกเราจนร้านปิดนะ”
ให้อยู่จนร้านปิดก็พอดีเมาไม่ได้กลับบ้านกันพอดี กายคิด
งานฉลองเล็ก ๆ ของหนุ่ม ๆ ในคณะของปอนด์ ก็ผ่านไปได้อย่างดี ถ้าปอนด์ไม่ดื่มจนผมคิดว่ามันมากเกินไป
“ปอนด์ พอเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ไปเรียนไม่ได้นะ”
“แค่นี้เอง ผมไม่เป็นอะไรหรอก อีกอย่างพรุ่งนี้ผมไม่มีเรียน ลุงสบายใจได้” ปอนด์พูดอย่างกับเป็นเรื่องปกติ
ผมมองปอนด์ที่ดื่มแก้วนั้นแก้วนี้ผ่านไปหลายแก้วจนกังวล ทำไมดูเหมือนยังชิวอยู่เลย
“ปอนด์ ดื่มซิ ถือว่าเป็นมิตรภาพ” ชายหนุ่มรุ่นเดียวกับปอนด์ยื่นแก้วใส่น้ำแห่งมิตรภาพมาให้ พร้อมรอยยิ้มเป็นมิตร
แต่เดี๋ยวก่อน ผมจำเสียงนี้ได้ เสียงนี้มันคนที่อยู่ในห้องน้ำ ไอ้คนนี้มันไม่ชอบปอนด์ไม่ใช่หรือไง ผมคิดว่าแก้วที่เขายื่นมาไม่น่าจะใช่แก้วแห่งมิตรภาพซะแล้ว
จู่ ๆ มือของผมก็ยื่นไปหยิบแก้วในมือของหนุ่มน้อยที่ไม่น่าไว้ใจทันทีแบบไม่รู้ตัวและดื่มน้ำแห่งมิตรภาพแทน
นิดเดียวเองคงไม่เป็นไร เผลอดื่มไปแล้วก็มานั่งหน้าซีดแค่แก้วเดียวคงไม่ตายหรอกมั้ง และต้องกลับห้องก่อนที่จะเกิดอะไรขึ้น
“ปอนด์กลับกัน” ผมรีบดึงปอนด์กลับหอพัก ท่ามกลางสายตาของพวกเพื่อน ๆ ที่นั่งมองไม่กะพริบตา
“เดี๋ยวก่อนลุง กลับเลยเหรอ” ปอนด์งง
“ใช่ กลับเลย” ผมไม่สนใจแล้วว่าจะยังไง แต่ปอนด์อยู่ในอันตรายเกินไป ถ้าเกิดโดนมอมเหล้าขึ้นมาจริง ๆ จะทำยังไง
“ผมไปก่อนนะครับ” ปอนด์รีบบอกและตามกายไปติด ๆ
“ลุง รอผมด้วย ทำไมถึงกินแทนผม ผมบอกแล้วว่าไม่เป็นอะไร”
ปอนด์รั้งกายไว้ให้หันมาหาเขา แต่ต้องชะงักกับหน้าของกาย
“ลุง”
HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ก.ย. 2563, 20:16:21 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 25 พ.ย. 2563, 23:14:58 น.
จำนวนการเข้าชม : 361
<< ไม่อยากเป็นแค่ลุง...ขอเป็นที่รักจะได้ไหม 4 |