ม่านมนตกานต์: รางนาก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
‘ญาตาวี เสน่ห์จันทน์’ ดาราเจ้าบทบาทแถวหน้าของเมืองไทย
เธอประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน
แต่! กลับล้มเหลวในชีวิตรักอย่างยับเยิน
เธอหอบร่างกายบอบช้ำและหัวใจที่แหลกสลายกลับมายัง ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’
ที่นี่เธอได้พบกับ ‘นางฟ้าน้อย’ พรายกุมารที่คอยช่วยเหลือ และปลอบโยนเธอจากความเศร้า
หัวใจของเธอได้รับการเยียวยาจนได้พบกับ ‘สารวัตรเขมินทร์’
ผู้ชายที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของหญิงสาวไปตลอดกาล
ทว่า...เงื่อนงำในเรือนเสน่ห์จันทน์ยังคงเป็นปริศนา!!!
ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รอวันร่วงหล่นลงขุม ‘อวิชชา’ เลวร้าย
เธอและเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือไม่...
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย รางนาก(สะมะเรีย) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ เล่มจบของซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ค่ะ เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก, ร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อม่านมนตกานต์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ม่านมนตกานต์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(ม่านมนตกานต์ เป็นเรื่องราวของหนึ่งในหลานสาวบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
เธอประสบความสำเร็จในชีวิตการทำงาน
แต่! กลับล้มเหลวในชีวิตรักอย่างยับเยิน
เธอหอบร่างกายบอบช้ำและหัวใจที่แหลกสลายกลับมายัง ‘เรือนเสน่ห์จันทน์’
ที่นี่เธอได้พบกับ ‘นางฟ้าน้อย’ พรายกุมารที่คอยช่วยเหลือ และปลอบโยนเธอจากความเศร้า
หัวใจของเธอได้รับการเยียวยาจนได้พบกับ ‘สารวัตรเขมินทร์’
ผู้ชายที่เปลี่ยนโลกทั้งใบของหญิงสาวไปตลอดกาล
ทว่า...เงื่อนงำในเรือนเสน่ห์จันทน์ยังคงเป็นปริศนา!!!
ชีวิตของเธอแขวนอยู่บนเส้นด้าย
รอวันร่วงหล่นลงขุม ‘อวิชชา’ เลวร้าย
เธอและเขาจะก้าวผ่านมันไปได้หรือไม่...
**************
นิยายเรื่องนี้แต่งโดย รางนาก(สะมะเรีย) และตีพิมพ์โดย "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาสำนักพิมพ์จึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เรื่องนี้เป็นนิยายรัก สยองขวัญ เล่มจบของซีรีส์ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์ค่ะ เปิดเปลือยชีวิตของทุกตัวละคร เฉลยทุกปมฆาตกรรมที่ยังค้างคา และจุดจบของยายเจิมจันทร์กับเรือนเสน่ห์จันทน์ที่อาจเป็นจุดเริ่มต้นของเรื่องราวทั้งหมด ห้ามพลาดเด็ดขาด!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก, ร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
สั่งซื้อม่านมนตกานต์ ราคา 308฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 40฿ (รวมเป็น 348฿)
ค่าจัดส่ง EMS 60฿ (รวมเป็น 368฿)
ราคาสั่งซื้อแพ็ก 4 เล่ม (ม่านมนตกานต์ ราคีสีเพลิง มาลีเริงไฟ และเลื่อมลายพรายจันทร์) 1,052฿ (จากราคาเต็ม 1,174฿)
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 65฿ (รวมเป็น 1,117฿)
ค่าจัดส่ง EMS 90฿ (รวมเป็น 1,142฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket***
**************
หมายเหตุ: นิยายเรื่องนี้เป็นซีรีส์ "ร้อยเล่ห์เสน่ห์จันทน์" มีทั้งหมด 4 เรื่อง แต่งโดยนักเขียน 3 ท่าน ดังนี้
-ราคีสีเพลิง แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา) ดุจดาริน (พิมาลินย์) รางนาก (สะมะเรีย)
-มาลีเริงไฟ แต่งโดย รังสี (วิรัตต์ยา)
-เลื่อมลายพรายจันทร์ แต่งโดย ดุจดาริน (พิมาลินย์)
-ม่านมนตกานต์ แต่งโดย รางนาก (สะมะเรีย)
*******************
จุดเชื่อมโยงคือ 'ยายเจิมจันทร์ เสน่ห์จันทน์' ยายของหลานๆ ทั้ง 4 ซึ่งเป็นตัวเอกของทั้ง 4 เรื่องด้านบนเลยจ้าแต่ละเรื่องก็เป็นเรื่องราวของหลานๆ แต่ละคนแตกต่างกันไป
(ม่านมนตกานต์ เป็นเรื่องราวของหนึ่งในหลานสาวบ้านเสน่ห์จันทน์ค่ะ)
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 6 -100%
“ฉันกลัว...”
หญิงสาวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แค่เพียงนิรุชเงื้อมือขึ้นหมายจะทำร้าย ภาพสามีที่มักใช้ความรุนแรงกับเธอก็ปรากฏขึ้น ทำให้เธอหวาดกลัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอกลายเป็นคนที่กลัวการใช้ความรุนแรงแทบทุกชนิด แค่เปิดโทรทัศน์เห็นฉากทำร้ายร่างกายกัน หัวใจของเธอจะเต้นแรง มือสั่น ตัวสั่น หัวสมองขาวโพลนไปหมด
“ไม่ต้องกลัวครับ ผมเป็นตำรวจจะพาคุณกลับไปส่งที่บ้าน รับรองว่าจะไม่มีใครทำร้ายคุณได้อีก”
“ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉันไว้” หญิงสาวพิศมองใบหน้าชายหนุ่มเต็มตา เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ รูปหน้าเด่นหน้าผากกว้างเห็นสันกรามคมชัด คิ้วดำหนา จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักได้รูป คางตัดมีหนวดเคราขึ้นรำไร ผิวสีแทนอย่างคนชอบอยู่กลางแจ้ง
เขาเป็นนายตำรวจที่หล่อที่สุดเท่าที่เธอเคยพบมาเลยทีเดียว
จู่ๆ ลมหายใจของหญิงสาวก็ขาดห้วง เธอหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมไหว ร่างเธอค่อยๆ ร้อนขึ้นจนรู้สึกหายใจอึดอัด กลิ่นกำยานลอยอบอวลอยู่รอบกายโอบรัดเรือนร่างเธอเอาไว้ สติของเธอค่อยๆ ขาดหาย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง
“ดื่มน้ำหน่อยไหมครับ เผื่อว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้น”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้ม หรี่ตาข้างซ้ายเพียงนิดขณะรับน้ำดื่มจากเขา
เขมินทร์เป็นคนช่างสังเกตมาแต่ไหนแต่ไร เขารับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างในตัวหญิงสาวกำลังก่อตัวขึ้น แต่เขาก็หาคำตอบไม่ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จนกระทั่งหญิงสาวเปิดขวดน้ำแล้วยกขึ้นดื่ม เธอดื่มมันอย่างกระหาย ปล่อยให้น้ำหกจากริมฝีปากอิ่มสีแดงชาดไหลลงปลายคางก่อนจะหยดลงอกอิ่มจนเปียกชุ่ม
ชายหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นท่วงท่าเซ็กซี่ของหญิงสาว แน่นอนว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะนั่งนิ่งโดยไม่รู้สึกอะไรเลย แต่จะให้เขากลายเป็นไอ้บ้ากามลวนลามเธอ เขาก็ไม่อาจทำได้
“ทิชชูครับ” เขาเบนความสนใจด้วยการหันไปคว้าทิชชูจากเบาะหลังส่งให้หญิงสาว
“ช่วยเช็ดให้หน่อยสิคะคุณตำรวจ” เธอไม่พูดเปล่าแต่จับมือของเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะนำมือเขาที่ยังกำทิชชูอยู่วางไว้บนเนินอกอวบอิ่มอย่างจงใจ
“กรุณาปล่อยมือผมเถอะครับ” เขมินทร์พยายามดึงมือกลับ ทว่า ญาตาวีกลับกดมือเขาเอาไว้แน่น เรี่ยวแรงของเธอมากมายราวพละกำลังของผู้ชายก็ไม่ปาน จังหวะนั้นเองจู่ๆ หญิงสาวก็ลุกขึ้นโน้มเรือนกายเข้าหา
ชายหนุ่มหัวใจแทบร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อจู่ๆ เธอก็กดปรับเบาะนั่งของเขาลง ชั่ววินาทีถัดมาเธอก็คร่อมทับร่างของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“คุณ...”
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้พูดห้ามปราม หญิงสาวก็ปิดปากเขาด้วยริมฝีปากสีชาดร้อนแรง เขาเกือบจะเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวาม เกือบจะหลงไปกับเสน่ห์มารยาที่เธอใช้ยั่วยวนเขา แต่หากเขาทำเช่นนั้นเขาก็คงมีจุดจบไม่ต่างจากเดชสิทธิ์ เขาเอาตัวมาพัวพันกับเธอเพื่อต้องการรื้อคดีของย่าขวัญฤดี ไม่ใช่เพื่อให้เธอปั่นหัวเล่นราวกับเห็นเป็นเรื่องสนุก!
‘ผู้หญิงตระกูลเสน่ห์จันทน์น่ากลัวนักนะพ่อเขม ทางที่ดีหลานอย่าเข้าใกล้พวกหล่อนดีที่สุด’ คำเตือนของย่าเปรมจิตลอยเข้ามาในห้วงความคิด เขาคว้าขวดน้ำที่เหลืออยู่ ราดรดลงบนศีรษะของเธอหมายจะให้เธอได้สติ
“ว้าย!”
หญิงสาวตกใจหวีดร้องเสียงหลง กลิ่นกำยานจางหาย แทนที่ด้วยสติสัมปชัญญะที่เพิ่งกลับคืนมา เขมินทร์ผลักเธอออกจากการคร่อมทับตัวเขาก่อนจะก้าวลงจากรถอย่างรีบร้อน
“กรี๊ด!”
ญาตาวีหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าเกาะอกของตนเลื่อนลงต่ำจนทรวงอกคู่งามแทบจะทะลักออกมาทั้งเต้า เธอไม่ได้สวมบราเซียร์ ใช้เพียงแค่ซิลิโคนชิ้นเล็กปิดหัวนมเอาไว้เท่านั้น เพราะมันเหมาะกับชุดเกาะอกแบบนี้
“คุณทำอะไรฉัน” หญิงสาวรีบดึงเกาะอกขึ้น เนื้อตัวเปียกปอนจนหนาวสั่น
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลย” เขมินทร์พูดพลางถอดเสื้อแจ็กเกตหนังสีดำส่งให้เธอ “ใส่ซะจะได้ไม่โป๊ไปมากกว่านี้”
ดาราสาวใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย พยายามทบทวนความทรงจำว่าเขาทำอะไรเธอบ้าง แต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
“ผมกล้าสาบานได้เลยว่าผมไม่ได้ทำอะไรคุณ มีแต่คุณที่พยายามบังคับขืนใจผม” ชายหนุ่มชูมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“อีกแล้วเหรอเนี่ย” หญิงสาวห่อไหล่ ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับเธอ ทุกครั้งที่เธอดื่มแอลกอฮอล์เธอจะแสดงกิริยาท่าทางแปลกๆ เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำเมาทำให้เธอเปลี่ยนนิสัยกลายเป็นผู้หญิงที่ชอบยั่วยวนผู้ชาย หรือเป็นเพราะความผิดปกติอย่างอื่นในร่างกายของเธอกันแน่
หลายครั้งที่เธอออกเที่ยวกลางคืนแล้วมักไปกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก แต่เธอโชคดีแทบทุกครั้งที่มีคนรู้จักเข้าทักทาย บ้างก็หามเธอกลับไปส่งที่คอนโดฯ จึงไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น แต่หากว่าสักวันเธอไม่โชคดีเช่นครั้งนี้ ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร เธอควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาดเสียที เพราะนับวันโทษของมันยิ่งน่ากลัวจนเธอไม่อาจควบคุมร่างกายและจิตใจของตนเองได้
ดาราสาวโทษฤทธิ์ของสุรา โดยไม่รู้เลยว่า...มีบางสิ่งกำลังพยายามควบคุมเธออยู่...!
หญิงสาวตอบออกไปด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ แค่เพียงนิรุชเงื้อมือขึ้นหมายจะทำร้าย ภาพสามีที่มักใช้ความรุนแรงกับเธอก็ปรากฏขึ้น ทำให้เธอหวาดกลัวจนควบคุมตัวเองไม่ได้ เธอกลายเป็นคนที่กลัวการใช้ความรุนแรงแทบทุกชนิด แค่เปิดโทรทัศน์เห็นฉากทำร้ายร่างกายกัน หัวใจของเธอจะเต้นแรง มือสั่น ตัวสั่น หัวสมองขาวโพลนไปหมด
“ไม่ต้องกลัวครับ ผมเป็นตำรวจจะพาคุณกลับไปส่งที่บ้าน รับรองว่าจะไม่มีใครทำร้ายคุณได้อีก”
“ขอบคุณค่ะที่ช่วยฉันไว้” หญิงสาวพิศมองใบหน้าชายหนุ่มเต็มตา เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ รูปหน้าเด่นหน้าผากกว้างเห็นสันกรามคมชัด คิ้วดำหนา จมูกโด่ง ริมฝีปากหยักได้รูป คางตัดมีหนวดเคราขึ้นรำไร ผิวสีแทนอย่างคนชอบอยู่กลางแจ้ง
เขาเป็นนายตำรวจที่หล่อที่สุดเท่าที่เธอเคยพบมาเลยทีเดียว
จู่ๆ ลมหายใจของหญิงสาวก็ขาดห้วง เธอหายใจแรงจนหน้าอกกระเพื่อมไหว ร่างเธอค่อยๆ ร้อนขึ้นจนรู้สึกหายใจอึดอัด กลิ่นกำยานลอยอบอวลอยู่รอบกายโอบรัดเรือนร่างเธอเอาไว้ สติของเธอค่อยๆ ขาดหาย ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบลง
“ดื่มน้ำหน่อยไหมครับ เผื่อว่าคุณจะรู้สึกดีขึ้น”
“ค่ะ” หญิงสาวยิ้ม หรี่ตาข้างซ้ายเพียงนิดขณะรับน้ำดื่มจากเขา
เขมินทร์เป็นคนช่างสังเกตมาแต่ไหนแต่ไร เขารับรู้ได้ว่ามีบางสิ่งบางอย่างในตัวหญิงสาวกำลังก่อตัวขึ้น แต่เขาก็หาคำตอบไม่ได้ว่าสิ่งนั้นคืออะไร จนกระทั่งหญิงสาวเปิดขวดน้ำแล้วยกขึ้นดื่ม เธอดื่มมันอย่างกระหาย ปล่อยให้น้ำหกจากริมฝีปากอิ่มสีแดงชาดไหลลงปลายคางก่อนจะหยดลงอกอิ่มจนเปียกชุ่ม
ชายหนุ่มเผลอกลืนน้ำลายลงคอเมื่อเห็นท่วงท่าเซ็กซี่ของหญิงสาว แน่นอนว่าเขาไม่ใช่พระอิฐพระปูนที่จะนั่งนิ่งโดยไม่รู้สึกอะไรเลย แต่จะให้เขากลายเป็นไอ้บ้ากามลวนลามเธอ เขาก็ไม่อาจทำได้
“ทิชชูครับ” เขาเบนความสนใจด้วยการหันไปคว้าทิชชูจากเบาะหลังส่งให้หญิงสาว
“ช่วยเช็ดให้หน่อยสิคะคุณตำรวจ” เธอไม่พูดเปล่าแต่จับมือของเขาเอาไว้แน่น ก่อนจะนำมือเขาที่ยังกำทิชชูอยู่วางไว้บนเนินอกอวบอิ่มอย่างจงใจ
“กรุณาปล่อยมือผมเถอะครับ” เขมินทร์พยายามดึงมือกลับ ทว่า ญาตาวีกลับกดมือเขาเอาไว้แน่น เรี่ยวแรงของเธอมากมายราวพละกำลังของผู้ชายก็ไม่ปาน จังหวะนั้นเองจู่ๆ หญิงสาวก็ลุกขึ้นโน้มเรือนกายเข้าหา
ชายหนุ่มหัวใจแทบร่วงลงไปอยู่ตาตุ่ม เมื่อจู่ๆ เธอก็กดปรับเบาะนั่งของเขาลง ชั่ววินาทีถัดมาเธอก็คร่อมทับร่างของเขาเอาไว้อย่างรวดเร็ว
“คุณ...”
ยังไม่ทันที่ชายหนุ่มจะได้พูดห้ามปราม หญิงสาวก็ปิดปากเขาด้วยริมฝีปากสีชาดร้อนแรง เขาเกือบจะเคลิ้มไปกับสัมผัสวาบหวาม เกือบจะหลงไปกับเสน่ห์มารยาที่เธอใช้ยั่วยวนเขา แต่หากเขาทำเช่นนั้นเขาก็คงมีจุดจบไม่ต่างจากเดชสิทธิ์ เขาเอาตัวมาพัวพันกับเธอเพื่อต้องการรื้อคดีของย่าขวัญฤดี ไม่ใช่เพื่อให้เธอปั่นหัวเล่นราวกับเห็นเป็นเรื่องสนุก!
‘ผู้หญิงตระกูลเสน่ห์จันทน์น่ากลัวนักนะพ่อเขม ทางที่ดีหลานอย่าเข้าใกล้พวกหล่อนดีที่สุด’ คำเตือนของย่าเปรมจิตลอยเข้ามาในห้วงความคิด เขาคว้าขวดน้ำที่เหลืออยู่ ราดรดลงบนศีรษะของเธอหมายจะให้เธอได้สติ
“ว้าย!”
หญิงสาวตกใจหวีดร้องเสียงหลง กลิ่นกำยานจางหาย แทนที่ด้วยสติสัมปชัญญะที่เพิ่งกลับคืนมา เขมินทร์ผลักเธอออกจากการคร่อมทับตัวเขาก่อนจะก้าวลงจากรถอย่างรีบร้อน
“กรี๊ด!”
ญาตาวีหวีดร้องด้วยความตกใจ เมื่อเห็นว่าเกาะอกของตนเลื่อนลงต่ำจนทรวงอกคู่งามแทบจะทะลักออกมาทั้งเต้า เธอไม่ได้สวมบราเซียร์ ใช้เพียงแค่ซิลิโคนชิ้นเล็กปิดหัวนมเอาไว้เท่านั้น เพราะมันเหมาะกับชุดเกาะอกแบบนี้
“คุณทำอะไรฉัน” หญิงสาวรีบดึงเกาะอกขึ้น เนื้อตัวเปียกปอนจนหนาวสั่น
“ผมไม่ได้ทำอะไรคุณเลย” เขมินทร์พูดพลางถอดเสื้อแจ็กเกตหนังสีดำส่งให้เธอ “ใส่ซะจะได้ไม่โป๊ไปมากกว่านี้”
ดาราสาวใบหน้าแดงก่ำด้วยความอับอาย พยายามทบทวนความทรงจำว่าเขาทำอะไรเธอบ้าง แต่ก็จำอะไรไม่ได้เลยสักอย่างเดียว
“ผมกล้าสาบานได้เลยว่าผมไม่ได้ทำอะไรคุณ มีแต่คุณที่พยายามบังคับขืนใจผม” ชายหนุ่มชูมือขึ้นทั้งสองข้างเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“อีกแล้วเหรอเนี่ย” หญิงสาวห่อไหล่ ใบหน้าซีดขาวราวกระดาษ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ขึ้นกับเธอ ทุกครั้งที่เธอดื่มแอลกอฮอล์เธอจะแสดงกิริยาท่าทางแปลกๆ เธอไม่รู้ว่าเป็นเพราะน้ำเมาทำให้เธอเปลี่ยนนิสัยกลายเป็นผู้หญิงที่ชอบยั่วยวนผู้ชาย หรือเป็นเพราะความผิดปกติอย่างอื่นในร่างกายของเธอกันแน่
หลายครั้งที่เธอออกเที่ยวกลางคืนแล้วมักไปกับผู้ชายที่ไม่รู้จัก แต่เธอโชคดีแทบทุกครั้งที่มีคนรู้จักเข้าทักทาย บ้างก็หามเธอกลับไปส่งที่คอนโดฯ จึงไม่มีเหตุการณ์เลวร้ายเกิดขึ้น แต่หากว่าสักวันเธอไม่โชคดีเช่นครั้งนี้ ชีวิตเธอจะเป็นอย่างไร เธอควรงดดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์อย่างเด็ดขาดเสียที เพราะนับวันโทษของมันยิ่งน่ากลัวจนเธอไม่อาจควบคุมร่างกายและจิตใจของตนเองได้
ดาราสาวโทษฤทธิ์ของสุรา โดยไม่รู้เลยว่า...มีบางสิ่งกำลังพยายามควบคุมเธออยู่...!
ปลายปากกาสำนักพิมพ์ เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 13 พ.ย. 2563, 15:05:10 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 13 พ.ย. 2563, 15:05:11 น.
จำนวนการเข้าชม : 490
| << บทที่ 6 -60% | บทที่ 7 -30% + วางขายศูนย์หนังสือจุฬาฯ >> |