การเมืองอลหม่าน
แค่ถกเถียงกันในสภาก็วุ่นวายพออยู่แล้ว แต่เมื่อเธอได้เจอแม่ค้าในวัยนักศึกษาถึงขั้นสนิทจนไว้ใจกันคุยด้วยทุกเรื่อง นั่นล่ะความพังจึงบังเกิด
Tags: นิยายรัก

ตอน: ตอนที่ 1 ปัญหาลงตัว

ณ ห้องประชุมสภาแห่งหนึ่ง สถานที่กว้างขวางที่มีผู้คนเพียงแค่ไม่กี่คนเข้ามาร่วมประชุมในครั้งนี้ เพราะพรรคอื่นๆต่างเห็นว่าเรื่องที่กำลังถกเถียงกันไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการช่วยเหลือประเทศบ้านเมือง มีเพียงแค่พรรคไทยเป็นหนึ่งกับพรรคใจรวมไทยเท่านั้นที่ต้องการจะเอาชนะกันด้วยเรื่องนี้เพียงเรื่องเดียว
ในบรรยากาศที่ตึงเครียด แอร์ในห้องประชุมเย็นฉ่ำแสงไฟเปิดสว่างทั่ว ทำให้เห็นใบหน้าของแต่ละฝ่ายได้ชัดเจน พรรคใจรวมไทยนั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับพรรคไทยเป็นหนึ่ง ทั้งสองฝ่ายกำลังถกเถียงกันเรื่องที่จะเปิดให้มีการค้าขายหน้าสภา ในขณะที่พรรคไทยเป็นหนึ่งที่มีหัวหน้าพรรคคือคุณทินกรซึ่งนั่งด้านหน้าคุณนิภา ต้องการให้มีพ่อค้าแม่ค้ามาค้าขาย แต่พรรคใจรวมไทยซึ่งมีคุณอาทิตย์เป็นหน้าพรรคและคุณภูษิตานั่งอยู่ด้านหลัง ไม่อยากให้พื้นที่รอบๆสภาวุ่นวายโดยพ่อค้าแม่ค้าที่มาทำการค้าขายกัน ในขณะที่สมาชิกท่านอื่นๆในพรรคต่างก็เบื่อหน่ายเต็มทีที่จะต้องมาถกเถียงเรื่องเดียวอยู่เป็นเดือนๆ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ในเมื่อคุณอาทิตย์และคุณทินกรหัวหน้าพรรคทั้งสองฝ่ายยังเห็นว่านี่คือเรื่องสำคัญที่ควรพิจารณาให้รอบคอบ

"ผมคิดว่าถ้าเราเปิดโอกาสให้พ่อค้าแม่ค้าได้มีโอกาสทำมาหากิน เราอาจจะเข้าถึงพวกเขาได้มากขึ้นนะครับ"
คุณทินกรหัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่งกล่าวท่ามกลางความเงียบในสภาในขณะที่สส.ท่านอื่นต่างก็ลุ้นกันว่าอยากให้พรรคใจรวมไทยเห็นด้วยเสียที

"ไม่ได้นะคะคุณอาทิตย์ จะยอมให้มันเกิดขึ้นไม่ได้ ถ้ามีการค้าขายหน้าสภา ความวุ่นวายอาจจะเกิดขึ้นได้"
คุณภูษิตากระซิบบอกคุณอาทิตย์หัวหน้าพรรคของเธอจากด้านหลัง เพราะเห็นว่าเขาเริ่มจะคล้อยตามด้วยเนื่องจากปัญหานี้ผ่านมาร่วมเดือนแล้วคุณอาทิตย์เองก็เริ่มจะเบื่อหน่ายตามสมาชิกท่านอื่นแล้วเหมือนกัน

คุณอาทิตย์หันมากระซิบกลับคุณภูษิตาด้วยน้ำเสียงจริงจังแบบไม่ได้มองหน้าเธอแบบชัดๆ
"แต่เรื่องนี้เราถกเถียงกันมาเป็นเดือนแล้วนะครับ ผมว่าถ้ามีของมาขายแถวนี้ บรรยากาศแถวสภาอาจจะไม่ตึงเครียดเกินไปก็ได้นะครับ"
คุณอาทิตย์เริ่มเห็นข้อดีของการมีพ่อค้าแม่ค้ามาขายในบริเวณรอบๆสภา เขาทั้งเห็นข้อดีและอยากให้เรื่องนี้จบได้เสียที

"ถ้าไม่มีใครคัดค้าน งั้นผมขอจบ...."
ท่านประธานรีบตัดจบเพราะเห็นว่าทั้งสองฝ่ายเงียบไปเป็นเวลานาน เลยตัดสินใจว่าพรรคใจรวมไทยมีความคิดเดียวกันกับพรรคไทยเป็นหนึ่งแล้วหลังจากที่ผ่านมาเป็นเดือนๆ แต่ท่านประธานยังพูดไม่จบ

จู่ๆคุณภูษิตาก็ยกมือขึ้น ท่ามกลางความงุนงงของคุณอาทิตย์และสมาชิกในพรรคต่างก็ตกใจกันยกใหญ่
"ดิฉันขอค้านไม่ให้มีการค้าขายเกิดขึ้นหน้าสภาค่ะ! ไหนจะเรื่องความปลอดภัย ความวุ่นวาย เรื่องความสะอาด ท่านประธานไม่ฉุกคิดเรื่องนี้บ้างหรือคะ!!" คุณภูษิตาทักท้วงขึ้นมาด้วยความใจร้อนเมื่อเธอเห็นว่าสมาชิคในพรรคเริ่มเห็นด้วยกับพรรคไทยเป็นหนึ่ง เธอก็ยิ่งควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่อยู่

คุณนิภายกมือเปิดไมค์บ้าง "ใจเย็นๆก่อนดีมั้ยคะคุณภูษิตา คุณควรให้เกียรติท่านประธานหน่อย ไม่ใช่ตะคอกใส่ท่านแบบเด็กไม่มีมารยาทแบบนั้น" คุณนิภากล่าวแบบเสียดสีปนๆกับสั่งสอนคุณภูษิตาไปด้วย

คุณภูษิตาเริ่มรู้ตัวว่าตัวเองใจร้อนเกินไปในขณะที่สมาชิกท่านอื่นในพรรคต่างก็หันมามองเธอด้วยสายเดียวกันคือเธอไม่เคารพท่านประธานเลย เธอจึงหันไปน้อมตัวลงให้ท่านประธานและเบาเสียงลง "ขอโทษค่ะท่านประธาน ดิฉันใจร้อนเกินไป"

ท่านประธานพยักหน้า หงึกๆ ด้วยสีหน้าเหนื่อยใจแต่ก็ไม่ได้ถือสาอะไรเพราะท่านเองก็เจอเหตุการณ์แบบนี้มาหลายครั้งหลายคราแล้ว

คุณภูษิตาหันมาตอบโต้คุณนิภาต่อ
"แต่ดิฉันเพียงแค่ออกความคิดเห็นเท่านั้น และเหตุผลของดิฉันได้คิดรอบคอบมาดีแล้ว คุณควรจะไตร่ตรองเหตุผลของดิฉันดูนะคะ ว่ามันจะวุ่นวายขนาดไหนหากมีการค้าขายเกิดขึ้นที่นี่"

คุณนิภาเลือดขึ้นหน้าเมื่อมีคนที่อายุน้อยกว่ามาพูดจาเหมือนสั่งสอนเธอ สมาชิกท่านอื่นในพรรคต่างก็พูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า ‘อย่าไปยอมเธอ’

"เสียมารยาทที่สุด! ฉันไม่เคยเห็นสส.คนไหนที่พูดจาแบบนี้กับรุ่นพี่มาก่อน ไม่รู้ว่าโตมายังไง!"

คุณภูษิตากำลังเปิดไมค์และลุกขึ้นด้วยท่าทางโมโหสุดขีดเพื่อโต้ตอบกลับคุณนิภาอีกครั้ง แต่ท่านประธานปิดไมค์ไว้ได้ทัน ในขณะเดียวกันนั้น คุณอาทิตย์หัวหน้าพรรคใจรวมไทยยกมือเปิดไมค์ขึ้น เพื่อที่จะขอเวลานอกให้ได้คุยกับคุณภูษิตาให้เข้าใจ
"ผมขอเวลานอก5นาทีนะครับท่านประธาน"

ท่านประธานกุมขมับพร้อมพยักหน้าด้วยใบหน้าที่เบื่อหน่ายเต็มที

"ใจเย็นๆก่อนนะครับคุณภูษิตา ผมว่าเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไรเลย แต่มันเลยมาเป็นเดือนแล้ว"คุณอาทิตย์หันไปโน้มน้าวคุณภูษิตาพร้อมกับกุมมือเธอไปด้วย

สมาชิกท่านอื่นหันมามองและแซวผ่านทางสายตา อย่างกับว่าทั่งคู่เป็นคู่รักกัน

"แต่เรื่องความปลอดภัยไม่มีใครรับประกันได้นะคะ จะให้คนนอกแบบนั้นมาอยู่รอบๆสภาได้ยังไง ยิ่งเฉพาะพ่อค้าแม่ค้าพวกนั้น.." คุณภูษิตาพูดด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนหวังจะให้คุณอาทิตย์เห็นด้วยกับเธอ

"ถ้าเป็นเรื่องนั้น ควรมีตำรวจสภาเพิ่มขึ้นมั้ยครับคุณอาทิตย์คุณภูษิตา เพื่อรองรับความปลอดภัย"
สมาชิกท่านหนึ่งที่นั่งห่างออกไปเพียงโต๊ะเดียวออกความคิดเห็นเพราะอยากให้เรื่องนี้จบโดยเร็ว

"นั่นสิครับ ถ้ามีตำรวจสภารอบด้าน คงจะเกิดเหตุฉุกเฉินได้ยาก คุณว่ายังไงครับ" คุณอาทิตย์พึ่งจะฉุกคิดขึ้นได้และถามคุณภูษิตา

คุณภูษิตายกมือขึ้นท้าวคาง ทำท่าครุ่นคิดอยู่พักหนึ่งด้วยใบหน้าเคร่งเครียด "อืม......แบบนั้นก็โอเคนะคะ แต่ฉันว่าให้มีถึง20ร้านค้านั้นมันเยอะเกินไป ควรจะลดให้เหลือแค่5ร้านค้าก็พอนะคะ เผื่อเกิดเหตุอะไร ตำรวจสภาจะได้รับมือทัน"
คุณภูษิตาเริ่มเห็นด้วย แต่ถึงอย่างนั้นเงื่อนไขของเธอก็ไม่ใช่เรื่องเล็กน้อยเลย

"โห 5ร้าน! จาก20จะให้เหลือ5ร้านเลยหรอครับ ผมเกรงว่าฝั่งนู้นจะมีปัญหาขึ้นมาอีก"
คุณอาทิตย์ตกใจในคำตอบ เขาหันหน้าไปยังสมาชิกท่านอื่นที่กำลังพยักหน้าเพื่อบอกเป็นนัยๆว่าให้ลองเสนอดู แต่เมื่อเห็นว่าเวลาเริ่มเหลือน้อย เขาจึงได้แต่ถอนหายใจและพูดว่า
"งั้นเราลองเสนอเงื่อนไขนี้ดูนะครับ"

เมื่อครบ5นาที ท่านประธานเปิดไมค์ขึ้น "หมดเวลาแล้วนะครับ ทางฝั่งพรรคใจรวมไทยว่ายังไงบ้างครับ"
ท่านประธานกล่าวถามหาคำตอบ

"ผมเห็นด้วยกับอีกฝั่งนะครับที่จะให้มีการค้าขายเกิดขึ้น"
คุณอาทิตย์ยืนขึ้นตอบท่านประธานด้วยความเคารพ

คุณภูษิตานั่งนิ่งเงียบสายตามองไปยังคุณนิภา ในขณะที่คุณนิภามองไปยังเธอด้วยสีหน้าเยาะเย้ย อย่างกับฉันเป็นผู้ชนะ

"แต่ผมอยากให้มีตำรวจสภารอบด้านมากกว่านี้ และลดจำนวนร้านค้าลงให้เหลือเพียง5ร้านครับ" คุณอาทิตย์กล่าวถึงเงื่อนไขหวังจะให้พรรคไทยเป็นหนึ่งยอมรับข้อเสนอ

ในขณะเดียวกันพรรคไทยเป็นหนึ่งก็เริ่มมีเสียงแตกอีกครั้ง สมาชิกท่านอื่นหันมามองหน้ากันด้วยสีหน้าที่บอกเป็นนัยๆว่า เป็นไปไม่ได้หรอก โดยเฉพาะคุณนิภา
"นี่น่าจะเป็นความเห็นของคุณภูษิตาอีกสินะคะ"
คุณนิภากล่าวแบบเสียดสีในขณะที่คุณภูษิตามีสีหน้าเรียบเฉย

"ใช่ค่ะ ดิฉันยืดหยุ่นให้ได้เท่านี้ แล้วแต่พวกคุณนะคะว่ายอมรับเงื่อนไขตรงนี้หรือไม่ หรือจะปล่อยให้ปัญหานี้มันล่วงเลยไปถึงปีหน้า"
คุณภูษิตากล่าวด้วยน้ำเสียงเรียบๆ ในขณะที่สมาชิกท่านอื่นในพรรคชูนิ้วโป้งขึ้นมาเพื่อแสดงความพอใจในสิ่งที่คุณภูษิตาพูด

คุณนิภาเจ็บใจพูดไม่ออก เธอกำมือแน่น ริมฝีปากบนล่างกระทบกันเธออยากจะเถียงกลับแต่ก็คิดอะไรไม่ออก

"แบบนั้นก็ได้ครับ ผมยอมรับข้อเสนอนี้"
คุณทินกรหัวหน้าพรรคไทยเป็นหนึ่งกล่าว

"งั้นผมขอจบการประชุมเท่านี้นะครับ ส่วนเรื่องการรับสมัครร้านค้า ผมจะให้เจ้าหน้าที่ด้านโซเชียลเน็ตเวิร์คเป็นฝ่ายจัดการ" ท่านประธานกล่าวจบประชุม ทุกคนต่างก็มีเสียงเฮกันออกมาเพราะดีใจที่เรื่องนี้ได้ข้อสรุปเสียที และทุกคนก็เริ่มทยอยเดินออกมาจากห้องประชุมสภา

คุณภูษิตาและคุณอาทิตย์เดินออกจากห้องประชุมพร้อมกัน เธอค่อนข้างพอใจกับข้อสรุปนี้ เพราะห่วงความปลอดภัยของตัวเองและสมาชิกท่านอื่น แต่เมื่อมีการรองรับเหตุฉุกเฉินไว้ได้ เธอจึงสบายใจขึ้น

ในขณะที่คุณภูษิตาเดินออกมายังที่รถเพื่อที่จะไปรอรับลูกจากโรงเรียน คุณอาทิตย์ได้เดินเข้ามาทักทายชวนเธอพูดคุยด้วยจากเรื่องอื่นที่นอกเหนือการทำงาน
"คุณภูษิตาครับ” คุณอาทิตย์เรียกคุณภูษิตาจากด้านหลัง “ไหนๆเรื่องร้านค้าก็ได้ข้อสรุปแล้ว เราไปรับน้องจ้ะจ๋าไปทานเสต็กด้วยกันมั้ยครับ ได้ข่าวว่ามีร้านเสต็กเปิดใหม่หน้าโรงเรียน"

คุณภูษิตาหันมาตอบคุณอาทิตย์ด้วยใบหน้ายิ้มแย้มดีใจแทนลูกสาว "ได้สิคะ จ๊ะจ๋าชอบทานเสต็กมาก นางต้องดีใจแน่เลยค่ะ"

ในขณะเดียวกันนั้น คุณนิภาก็ได้เดินเข้ามามีทีท่าไม่พอใจกับข้อสรุปที่เกิดขึ้น และพูดแทรกขึ้น "แหมๆ กำลังจะไปฉลองกันเหรอคะ คงดีใจน่าดูที่ข้อเสนอในสภาจบลงด้วยดี ว่าแต่..ถ้าฉันขอร่วมแจมด้วยจะเป็นการขัดจังหวะของคู่รักรึเปล่าคะ" คุณนิภาพูดจาและทำสีหน้าประชดเพราะเธอไม่พอใจที่ทุกคนยอมรับเงื่อนไขของคุณภูษิตา

"ฉันว่าคุณควรเอาเวลานี้ไปดูแลลูกชายดีกว่ามั้ยคะ ได้ข่าวว่าโดนเรียกผู้ปกครองหลายครั้งแล้ว" คุณภูษิตาพูดด้วยใบหน้าเรียบเฉย พร้อมกับเดินไปเปิดประตูและขึ้นรถทันทีด้วยความโมโห เพราะกลัวจะทะเลาะกันบานปลายอีก

คุณภูษิตาขับรถออกมาในขณะที่คุณนิภาด่าเธอตามหลัง เธอหันมามองคุณอาทิตย์แว็บหนึ่ง และกลับไปขึ้นรถของตัวเองทันที คุณอาทิตย์ที่ยืนอยู่ตรงนั้นยังยืนอยู่ที่เดิมด้วยใบหน้าเซ็งๆ ในขณะที่รถของสมาชิกท่านอื่นๆกำลังทยอยขับออกไปจนหมด


-----โปรดติดตามตอนต่อไป------



ปากกาทองแดง
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ต.ค. 2563, 00:48:13 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ต.ค. 2563, 00:48:13 น.

จำนวนการเข้าชม : 184





<< แนะนำ   ตอนที่ 2 เปลี่ยนวิกฤติให้เป็นโอกาส >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account