แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 2 -50%
หลังจากทำงานแบบหามรุ่งหามค่ำติดต่อกันสองวัน จนแบกสังขารซอมบี้กลับบ้านในตีสามวันศุกร์ โพรโมชันที่หญิงสาวโม้ไว้ก็ประสบความสำเร็จอย่างงดงาม ตอนเปิดรายงานยอดขายประจำเดือนของเดือนนี้ บอกไว้ตรงนี้เลยว่า เธอลุ้นยิ่งกว่าสตรีตั้งครรภ์ลุ้นเพศบุตรเสียอีก!
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่องานประสบความสำเร็จอย่างน่าตกใจ เธอก็นับวันรอที่จะได้ประชุมฝ่ายกับภควัตน์แทบไม่ไหว ตั้งแต่ร่วมงานกันมาหนึ่งเดือน ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันประชุมขนาดนี้ และโอกาสนี้ก็มาถึงในอีกสามวันถัดมา เมื่อท่านรองประธานเรียกประชุมฝ่ายการตลาดประจำสัปดาห์เช่นเคย
ภควัตน์ติชม Brand Manager รายตัวด้วยการจ้องหน้านิ่งเงียบ ใช้จิตวิทยาจนผู้บริหารคายความผิดพลาดออกมาทีละคนๆ แต่สำหรับเธอ วิธีเงียบๆ จ้องกดดันจนทนไม่ได้ต้องค่อยๆ สารภาพทีละเรื่องนั้น ไม่ได้ผลเสียหรอก หึ คิดจะกดดันกันด้วยวิธีนี้น่ะเหรอ โทษที เธอหน้าหนาพอ! เขาเงียบ เธอเงียบ ไม่มีใครพูดก็จบแล้ว ความผิดพลาดที่เธอทำไว้ก็ไม่ถูกเปิดเผยด้วย
วรีวาฏิกาเกือบจะชื่นชมเขาอยู่แล้วที่หลังจากทุกคนบอกสิ่งที่ทำพลาด ภควัตน์ก็ถามถึงวิธีแก้ไขที่ทุกคนคิดไว้ ก่อนจะเสริมไอเดียแก้ปัญหาของเขาเข้าไป ซึ่งแต่ละอย่างนับว่าเจ๋งชนิดที่เธอเองก็ยังคาดไม่ถึง
แต่เมื่อการจ้องตาในวันนี้มาถึงคิวเธอ จากที่นึกชื่นชมหญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะสายตาจับผิดที่เขามองมา! แต่รอบนี้เธอไม่มีอะไรให้เขาต้องจับผิดสักหน่อย จากที่มักจะก้มหน้าหลบสายตา ประสานมือแน่นเพราะมือสั่น วันนี้เธอจึงเชิดหน้ามองเขาอย่างเต็มภาคภูมิ และแถมด้วยยิ้มอย่างมีเลศนัยประหนึ่งภาพวาดโมนาลิซาในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็ไม่ปาน และพอภควัตน์อ้าปากจะพูด หูเธอก็กางแบบอัตโนมัติเพื่อรับคำชมทันที
แต่ทว่าเธอคิดผิดอีกแล้ว!
นอกจากเขาจะไม่ชมที่เธอทำยอดขายในเดือนนี้ได้มากกว่าที่พี่จุ๋มทำไว้ในปีที่แล้ว ไอ้เจ้านายที่ไม่รู้จักชื่นชมผลงานลูกน้องยังมีหน้ามาพูดจาข่มขู่เธออีกว่า
“คุณทำโพรโมชันหนักขนาดนี้ คิดถึงผลกระทบยอดขายในเดือนถัดไปบ้างไหม คนซื้อตุนสินค้าเพราะโพรโมชัน แล้วเดือนหน้าคุณจะขายยังไง”
ภควัตน์จ้องตรงมาที่เธออย่างจะเอาคำตอบ แต่เสียใจด้วย เรื่องนี้เธอเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดีแล้ว
“โพรโมชันรอบนี้เป็นการเพิ่มปริมาณแต่ขายราคาเดิมค่ะ สาเหตุที่ทำโพรฯ นี้ เพราะเราต้องรีบเคลียร์ของก่อนออกรุ่นใหม่ ดิฉันไม่อยากเล่นโพรฯ ราคาให้คนติดการลดราคา เลยใช้เป็นวิธีเพิ่มปริมาณแทน”
ถึงแม้เธอจะคิดว่าคำตอบที่เตรียมมานั้นดีมากแล้ว แต่ภควัตน์ก็ยังกดดันเธอด้วยคำถามเดิม
“แล้วถ้าเดือนหน้ายอดตกลง รู้ไหมว่าควรทำยังไง”
เดี๋ยวนะ นี่สรุปที่เธอทำยอดขึ้นนี่ไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทเขาเลยใช่ไหม! ? ยังมีหน้าจะมาขู่ให้เธอพิจารณาตัวเองลาออกอีก! ฝันไปเถอะย่ะ เรื่องอะไรเธอจะลาออก ขืนลาออกก็ได้ถูกเมียใหม่ของพ่อเอาไปพูดได้น่ะสิว่าไม่อดทน เช้าชามเย็นชาม ว่าแล้วว่าคนอย่างเธอจะทำได้สักกี่น้ำ!
ฮึ! ขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า ถึงตอนนี้เธอจะเกลียดเจ้านายตัวเองมากแค่ไหน แต่เธอเกลียดการเสียศักดิ์ศรีมากกว่า! ถ้าไม่โดนไล่ออก ยังไงเธอก็ไม่ลาออกไปให้คนบางคนนินทาหรอก
และถ้าเขาจะแช่งให้ยอดเดือนหน้าเธอตกละก็ มันเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะเดือนหน้าผลิตภัณฑ์ที่เธอดูแลอยู่กำลังจะออกตัวใหม่เพิ่มในไลน์สินค้าแทนที่ตัวเดิมที่เพิ่งจัดโพรโมชันออกไป พอบอกท่านรองประธานที่จ้องจับผิดไปแบบนั้น เขาก็แค่พยักหน้าแล้วหันไปไล่เบี้ยคนอื่นต่อ เป็นสัญญาณว่าเธอรอดแล้วในที่สุด
โพรเจกต์ที่เธอพูดถึงในที่ประชุม คือไลน์สินค้าตัวใหม่ซึ่งเธอและพี่จุ๋มซุ่มทำอยู่นานแล้ว โดยมีชื่อโพรเจกต์เก๋ๆ ตามที่พี่จุ๋มตั้งไว้ว่า ‘ซินเดอเรลลา!’ และเธอก็ภาคภูมิใจกับโพรเจกต์นี้มากด้วย เพราะเธอเป็นคนเลือกพรีเซนเตอร์เองกับมือ หลังจากเปลี่ยนสตอรี่บอร์ดไปสามรอบในที่สุดพรุ่งนี้ก็จะถึงวันถ่ายทำโฆษณา
ถ้าจะถามว่าอะไรที่ทำให้เธอรักในอาชีพที่ทำอยู่นี้มากที่สุด ก็บอกได้เลยว่ามันคือตอนเลือกดารามาประชาสัมพันธ์สินค้านี่แหละ! หลังจากที่เอเยนซี่คัดดาราที่เหมาะสมมาให้สามคน เธอก็ใช้อำนาจด้วยความลำเอียงเลือกดาราที่เธอมีใจผูกสมัครรักใคร่อยากได้มาเป็นพ่อของลูกมากที่สุด หาได้ดูว่าดาราที่เลือกตรงกับภาพลักษณ์สินค้าหรือไม่แม้แต่น้อย
ทำไมล่ะ นี่มันเป็นความสุขเพียงหนึ่งเดียวของเธอเลยนะ จะตามใจหน่อยไม่ได้หรือไง ถ้ามันไม่ดีขึ้นมาก็โทษเอเยนซี่ที่เป็นคนคัดเลือกมาให้แต่แรกก็สิ้นเรื่อง อย่าได้มาโทษเธอเชียว เพราะแค่มีราหูอย่างท่านรองประธานอมแผนกทั้งแผนกอยู่นี่ เธอก็ซวยจะแย่อยู่แล้ว!
และแน่นอนบริษัทอุตส่าห์เสียเงินทั้งที ก็ต้องใช้ให้คุ้ม วันที่มีกองถ่ายโฆษณา วรีวาฏิกาเลยถือโอกาสไปคุมการถ่ายทำด้วยตัวเอง ถึงแม้พี่ๆ ในบริษัทจะบอกว่าไปดูแป๊บๆ ก็พอ ไม่ต้องอยู่นาน แต่เธอน่ะอยากอยู่นานใจจะขาด เพราะพรีเซนเตอร์โฆษณาตัวนี้คือคุณเควิน คุณเควิน และคุณเควิน ดาราชายสุดฮอต สุดหล่อ สุดเซ็กซี่ ที่แค่มองก็น้ำลายจะไหล แต่เพื่อไม่ให้ผู้กำกับกดดัน พอไปถึงกองถ่ายเธอเลยรีบแจ้นไปหาผู้กำกับเพื่อบอกจุดประสงค์ทันทีว่าเธอไม่ได้มาคุม หรือมาเจ้ากี้เจ้าการว่าต้องโชว์สินค้าเธอให้เห็นชัดๆ เยอะๆ หรืออะไรทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องการก็แค่ได้มานั่งเฝ้า นอนเฝ้า ยืนเฝ้าเควิน ผู้กำกับอยากถ่ายอะไรก็ถ่ายไปเลยเธอไม่แคร์ ขอแค่ฉากให้เควินได้เปียกน้ำ ได้ถอดเสื้อโชว์ซิกแพคบ้างก็เท่านั้น และมันจะดีมากถ้าต้องถ่ายฉากนั้นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เธออยากให้ผู้กำกับสั่งคัตและก็สั่งคัตอย่างไม่ต้องเกรงใจ เพราะเธอจะปลื้มใจมากถ้าได้เห็นลอนกล้ามอันงดงามของเควินนานๆ
หลังจากเธอบอกผู้กำกับเสร็จ แล้วถูกผู้กำกับมองมาอย่างตกตะลึงกับความไม่เอาใจใส่ เอ๊ย! อย่างทึ่งกับความไม่เรื่องมากของเธอ วรีวาฏิกาก็เดินจากไปทันทีที่หมดธุระ ก่อนจะตรงดิ่งไปหาเควินเพื่อไปหาเรื่องแนะนำตัวและตีสนิท ถึงแม้จะไม่ได้อะไร ขอแค่ได้มีอาหารตาให้ชื่นใจก็โอเค
เควินนั้นน่ารักจนใจหาย เพราะนอกจากจะทักทายเธอเป็นอย่างดีแล้ว ดาราหนุ่มที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงยังยิ้มให้เธออีกต่างหาก อยากจะเอากล้องมาถ่ายเก็บรอยยิ้มนี้ไว้จัง นี่เป็นรอยยิ้มของคุณเควินที่ให้เธอเพียงคนเดียว โถ...สตรีในโลกหล้า จะมีใครโชคดีเท่าวรีวาฏิกาอีกเป็นไม่มี!
พอเธอได้แทะโลมเควินพอหอมปากหอมคอ ได้ถ่ายรูปคู่เขาสักสองสามแชะ ก็ถึงเวลาที่ผู้กำกับสั่งเริ่มกอง ทว่าในขณะที่เธอกำลังฝันหวานอยู่นั้น สายตากลับเหลือบไปเห็นสาวนางหนึ่งเข้ามาในเฟรมอย่างที่ไม่ควรจะมี นางมาได้อย่างไร จะสะเหล่อเข้ามาทำไมไม่ทราบ!
********************
มาต่อให้แล้วค่ะ^^ หวังว่าจะคลายเครียดกันน้าาา ช่วงนี้มีแต่เรื่องหนักสมอง มาฮากับพี่พาร์คและน้องวากันเถอะ จุ๊บๆ
ซึ่งแน่นอนว่าเมื่องานประสบความสำเร็จอย่างน่าตกใจ เธอก็นับวันรอที่จะได้ประชุมฝ่ายกับภควัตน์แทบไม่ไหว ตั้งแต่ร่วมงานกันมาหนึ่งเดือน ไม่มีครั้งไหนเลยที่เธอจะตั้งหน้าตั้งตารอคอยวันประชุมขนาดนี้ และโอกาสนี้ก็มาถึงในอีกสามวันถัดมา เมื่อท่านรองประธานเรียกประชุมฝ่ายการตลาดประจำสัปดาห์เช่นเคย
ภควัตน์ติชม Brand Manager รายตัวด้วยการจ้องหน้านิ่งเงียบ ใช้จิตวิทยาจนผู้บริหารคายความผิดพลาดออกมาทีละคนๆ แต่สำหรับเธอ วิธีเงียบๆ จ้องกดดันจนทนไม่ได้ต้องค่อยๆ สารภาพทีละเรื่องนั้น ไม่ได้ผลเสียหรอก หึ คิดจะกดดันกันด้วยวิธีนี้น่ะเหรอ โทษที เธอหน้าหนาพอ! เขาเงียบ เธอเงียบ ไม่มีใครพูดก็จบแล้ว ความผิดพลาดที่เธอทำไว้ก็ไม่ถูกเปิดเผยด้วย
วรีวาฏิกาเกือบจะชื่นชมเขาอยู่แล้วที่หลังจากทุกคนบอกสิ่งที่ทำพลาด ภควัตน์ก็ถามถึงวิธีแก้ไขที่ทุกคนคิดไว้ ก่อนจะเสริมไอเดียแก้ปัญหาของเขาเข้าไป ซึ่งแต่ละอย่างนับว่าเจ๋งชนิดที่เธอเองก็ยังคาดไม่ถึง
แต่เมื่อการจ้องตาในวันนี้มาถึงคิวเธอ จากที่นึกชื่นชมหญิงสาวก็ต้องเปลี่ยนใจเพราะสายตาจับผิดที่เขามองมา! แต่รอบนี้เธอไม่มีอะไรให้เขาต้องจับผิดสักหน่อย จากที่มักจะก้มหน้าหลบสายตา ประสานมือแน่นเพราะมือสั่น วันนี้เธอจึงเชิดหน้ามองเขาอย่างเต็มภาคภูมิ และแถมด้วยยิ้มอย่างมีเลศนัยประหนึ่งภาพวาดโมนาลิซาในพิพิธภัณฑ์ลูฟวร์ก็ไม่ปาน และพอภควัตน์อ้าปากจะพูด หูเธอก็กางแบบอัตโนมัติเพื่อรับคำชมทันที
แต่ทว่าเธอคิดผิดอีกแล้ว!
นอกจากเขาจะไม่ชมที่เธอทำยอดขายในเดือนนี้ได้มากกว่าที่พี่จุ๋มทำไว้ในปีที่แล้ว ไอ้เจ้านายที่ไม่รู้จักชื่นชมผลงานลูกน้องยังมีหน้ามาพูดจาข่มขู่เธออีกว่า
“คุณทำโพรโมชันหนักขนาดนี้ คิดถึงผลกระทบยอดขายในเดือนถัดไปบ้างไหม คนซื้อตุนสินค้าเพราะโพรโมชัน แล้วเดือนหน้าคุณจะขายยังไง”
ภควัตน์จ้องตรงมาที่เธออย่างจะเอาคำตอบ แต่เสียใจด้วย เรื่องนี้เธอเตรียมตัวไว้เป็นอย่างดีแล้ว
“โพรโมชันรอบนี้เป็นการเพิ่มปริมาณแต่ขายราคาเดิมค่ะ สาเหตุที่ทำโพรฯ นี้ เพราะเราต้องรีบเคลียร์ของก่อนออกรุ่นใหม่ ดิฉันไม่อยากเล่นโพรฯ ราคาให้คนติดการลดราคา เลยใช้เป็นวิธีเพิ่มปริมาณแทน”
ถึงแม้เธอจะคิดว่าคำตอบที่เตรียมมานั้นดีมากแล้ว แต่ภควัตน์ก็ยังกดดันเธอด้วยคำถามเดิม
“แล้วถ้าเดือนหน้ายอดตกลง รู้ไหมว่าควรทำยังไง”
เดี๋ยวนะ นี่สรุปที่เธอทำยอดขึ้นนี่ไม่ได้เข้าไปในโสตประสาทเขาเลยใช่ไหม! ? ยังมีหน้าจะมาขู่ให้เธอพิจารณาตัวเองลาออกอีก! ฝันไปเถอะย่ะ เรื่องอะไรเธอจะลาออก ขืนลาออกก็ได้ถูกเมียใหม่ของพ่อเอาไปพูดได้น่ะสิว่าไม่อดทน เช้าชามเย็นชาม ว่าแล้วว่าคนอย่างเธอจะทำได้สักกี่น้ำ!
ฮึ! ขอประกาศไว้ตรงนี้เลยว่า ถึงตอนนี้เธอจะเกลียดเจ้านายตัวเองมากแค่ไหน แต่เธอเกลียดการเสียศักดิ์ศรีมากกว่า! ถ้าไม่โดนไล่ออก ยังไงเธอก็ไม่ลาออกไปให้คนบางคนนินทาหรอก
และถ้าเขาจะแช่งให้ยอดเดือนหน้าเธอตกละก็ มันเป็นเรื่องที่ยากยิ่ง เพราะเดือนหน้าผลิตภัณฑ์ที่เธอดูแลอยู่กำลังจะออกตัวใหม่เพิ่มในไลน์สินค้าแทนที่ตัวเดิมที่เพิ่งจัดโพรโมชันออกไป พอบอกท่านรองประธานที่จ้องจับผิดไปแบบนั้น เขาก็แค่พยักหน้าแล้วหันไปไล่เบี้ยคนอื่นต่อ เป็นสัญญาณว่าเธอรอดแล้วในที่สุด
โพรเจกต์ที่เธอพูดถึงในที่ประชุม คือไลน์สินค้าตัวใหม่ซึ่งเธอและพี่จุ๋มซุ่มทำอยู่นานแล้ว โดยมีชื่อโพรเจกต์เก๋ๆ ตามที่พี่จุ๋มตั้งไว้ว่า ‘ซินเดอเรลลา!’ และเธอก็ภาคภูมิใจกับโพรเจกต์นี้มากด้วย เพราะเธอเป็นคนเลือกพรีเซนเตอร์เองกับมือ หลังจากเปลี่ยนสตอรี่บอร์ดไปสามรอบในที่สุดพรุ่งนี้ก็จะถึงวันถ่ายทำโฆษณา
ถ้าจะถามว่าอะไรที่ทำให้เธอรักในอาชีพที่ทำอยู่นี้มากที่สุด ก็บอกได้เลยว่ามันคือตอนเลือกดารามาประชาสัมพันธ์สินค้านี่แหละ! หลังจากที่เอเยนซี่คัดดาราที่เหมาะสมมาให้สามคน เธอก็ใช้อำนาจด้วยความลำเอียงเลือกดาราที่เธอมีใจผูกสมัครรักใคร่อยากได้มาเป็นพ่อของลูกมากที่สุด หาได้ดูว่าดาราที่เลือกตรงกับภาพลักษณ์สินค้าหรือไม่แม้แต่น้อย
ทำไมล่ะ นี่มันเป็นความสุขเพียงหนึ่งเดียวของเธอเลยนะ จะตามใจหน่อยไม่ได้หรือไง ถ้ามันไม่ดีขึ้นมาก็โทษเอเยนซี่ที่เป็นคนคัดเลือกมาให้แต่แรกก็สิ้นเรื่อง อย่าได้มาโทษเธอเชียว เพราะแค่มีราหูอย่างท่านรองประธานอมแผนกทั้งแผนกอยู่นี่ เธอก็ซวยจะแย่อยู่แล้ว!
และแน่นอนบริษัทอุตส่าห์เสียเงินทั้งที ก็ต้องใช้ให้คุ้ม วันที่มีกองถ่ายโฆษณา วรีวาฏิกาเลยถือโอกาสไปคุมการถ่ายทำด้วยตัวเอง ถึงแม้พี่ๆ ในบริษัทจะบอกว่าไปดูแป๊บๆ ก็พอ ไม่ต้องอยู่นาน แต่เธอน่ะอยากอยู่นานใจจะขาด เพราะพรีเซนเตอร์โฆษณาตัวนี้คือคุณเควิน คุณเควิน และคุณเควิน ดาราชายสุดฮอต สุดหล่อ สุดเซ็กซี่ ที่แค่มองก็น้ำลายจะไหล แต่เพื่อไม่ให้ผู้กำกับกดดัน พอไปถึงกองถ่ายเธอเลยรีบแจ้นไปหาผู้กำกับเพื่อบอกจุดประสงค์ทันทีว่าเธอไม่ได้มาคุม หรือมาเจ้ากี้เจ้าการว่าต้องโชว์สินค้าเธอให้เห็นชัดๆ เยอะๆ หรืออะไรทั้งนั้น สิ่งที่เธอต้องการก็แค่ได้มานั่งเฝ้า นอนเฝ้า ยืนเฝ้าเควิน ผู้กำกับอยากถ่ายอะไรก็ถ่ายไปเลยเธอไม่แคร์ ขอแค่ฉากให้เควินได้เปียกน้ำ ได้ถอดเสื้อโชว์ซิกแพคบ้างก็เท่านั้น และมันจะดีมากถ้าต้องถ่ายฉากนั้นซ้ำๆ หลายๆ ครั้ง เธออยากให้ผู้กำกับสั่งคัตและก็สั่งคัตอย่างไม่ต้องเกรงใจ เพราะเธอจะปลื้มใจมากถ้าได้เห็นลอนกล้ามอันงดงามของเควินนานๆ
หลังจากเธอบอกผู้กำกับเสร็จ แล้วถูกผู้กำกับมองมาอย่างตกตะลึงกับความไม่เอาใจใส่ เอ๊ย! อย่างทึ่งกับความไม่เรื่องมากของเธอ วรีวาฏิกาก็เดินจากไปทันทีที่หมดธุระ ก่อนจะตรงดิ่งไปหาเควินเพื่อไปหาเรื่องแนะนำตัวและตีสนิท ถึงแม้จะไม่ได้อะไร ขอแค่ได้มีอาหารตาให้ชื่นใจก็โอเค
เควินนั้นน่ารักจนใจหาย เพราะนอกจากจะทักทายเธอเป็นอย่างดีแล้ว ดาราหนุ่มที่กำลังเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงยังยิ้มให้เธออีกต่างหาก อยากจะเอากล้องมาถ่ายเก็บรอยยิ้มนี้ไว้จัง นี่เป็นรอยยิ้มของคุณเควินที่ให้เธอเพียงคนเดียว โถ...สตรีในโลกหล้า จะมีใครโชคดีเท่าวรีวาฏิกาอีกเป็นไม่มี!
พอเธอได้แทะโลมเควินพอหอมปากหอมคอ ได้ถ่ายรูปคู่เขาสักสองสามแชะ ก็ถึงเวลาที่ผู้กำกับสั่งเริ่มกอง ทว่าในขณะที่เธอกำลังฝันหวานอยู่นั้น สายตากลับเหลือบไปเห็นสาวนางหนึ่งเข้ามาในเฟรมอย่างที่ไม่ควรจะมี นางมาได้อย่างไร จะสะเหล่อเข้ามาทำไมไม่ทราบ!
********************
มาต่อให้แล้วค่ะ^^ หวังว่าจะคลายเครียดกันน้าาา ช่วงนี้มีแต่เรื่องหนักสมอง มาฮากับพี่พาร์คและน้องวากันเถอะ จุ๊บๆ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 30 พ.ย. 2563, 08:50:30 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 30 พ.ย. 2563, 08:50:30 น.
จำนวนการเข้าชม : 321
<< บทที่ 1 -100% | บทที่ 2 -100% >> |