ปรารถนานี้เพื่อรักนาย (Yaoi)
วรากรหรือกรหนุ่มน้อยอายุ 19 ปี สอบเข้าเรียนมหาวิทยาลัย M.I ได้ตามที่ต้องการ ซึ่งมหาวิทยาลัยนี้สร้างขึ้นเพื่อผลิตนักศึกษาให้เข้าสู่วิวัฒนาการใหม่บนโลกใบนี้ มุ่งสู่อนาคตที่มีแต่หุ่นยนต์และเครื่องอำนวยความสะดวกในการนำมาใช้ในชีวิตประจำวัน
โดยมีบริษัท M ที่ไมเคิลเป็นประธานบริษัท ชายชราที่มองเห็นพรสวรรค์ในตัวของกรตั้งแต่เด็ก จึงชักนำให้กรเข้าสู่วงการที่มีแต่การประกอบหุ่นยนต์และเทคโนโลยีทันสมัย และคิดที่จะให้กรสืบสานต่อเจตนาของตนต่อไปในอนาคต
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่ไมเคิลวางไว้ก็คงดี ถ้าไม่มีเด็กหนุ่มอายุเท่ากับกรแอบอ้างว่าตนเป็นหลานที่แท้จริง ศึกการแย่งชิงตำแหน่งว่าที่ประธานในบริษัทจึงเกิดขึ้น
การแย่งชิงธรรมดาของเด็กวัยรุ่นก็แค่เด็กแย่งชิงสิ่งของ แต่ทุกอย่างไม่ใช่แค่แย่งตำแหน่งแต่เป็นการนำชีวิตของตนเองมาแขวนบนเส้นด้าย อันตรายจึงเกิดกับหนุ่มน้อยที่ชื่อ กร โดยมีเบื้องหลังที่เป็นปริศนากับเหตุการณ์ที่กรเฉียดตายทุกครั้ง และทุกครั้งมักจะมีบางสิ่งมาช่วยเขาไว้ให้รอดชีวิตมาได้
กรมีหุ่นยนต์สุนัขอยู่ตัวหนึ่ง เขารักมันมาก รักจนหุ่นยนต์ตัวนี้กลับมีจิตใจและต้องการอยู่เคียงข้างทุกที่ที่มีกร ติดเพียงว่าไม่ใช่มนุษย์ที่มีเนื้อหนังภายในมีแต่เหล็กกับอะไหล่ มีเพียงน้ำมันหล่อเลี้ยงให้เป็นพลังงานและชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวให้ทำตามโปรแกรมของคนสร้าง
ความปรารถนาของหุ่นยนต์สุนัขที่ชื่อว่า ดุ๊กดิกจะเป็นจริงไหมแล้วกรจะรอดพ้นจากศึกการแย่งชิงบริษัทของไมเคิลหรือไม่ ติดตามต่อในเนื้อเรื่องเลยค่ะ
โดยมีบริษัท M ที่ไมเคิลเป็นประธานบริษัท ชายชราที่มองเห็นพรสวรรค์ในตัวของกรตั้งแต่เด็ก จึงชักนำให้กรเข้าสู่วงการที่มีแต่การประกอบหุ่นยนต์และเทคโนโลยีทันสมัย และคิดที่จะให้กรสืบสานต่อเจตนาของตนต่อไปในอนาคต
ทุกอย่างดำเนินไปตามแผนที่ไมเคิลวางไว้ก็คงดี ถ้าไม่มีเด็กหนุ่มอายุเท่ากับกรแอบอ้างว่าตนเป็นหลานที่แท้จริง ศึกการแย่งชิงตำแหน่งว่าที่ประธานในบริษัทจึงเกิดขึ้น
การแย่งชิงธรรมดาของเด็กวัยรุ่นก็แค่เด็กแย่งชิงสิ่งของ แต่ทุกอย่างไม่ใช่แค่แย่งตำแหน่งแต่เป็นการนำชีวิตของตนเองมาแขวนบนเส้นด้าย อันตรายจึงเกิดกับหนุ่มน้อยที่ชื่อ กร โดยมีเบื้องหลังที่เป็นปริศนากับเหตุการณ์ที่กรเฉียดตายทุกครั้ง และทุกครั้งมักจะมีบางสิ่งมาช่วยเขาไว้ให้รอดชีวิตมาได้
กรมีหุ่นยนต์สุนัขอยู่ตัวหนึ่ง เขารักมันมาก รักจนหุ่นยนต์ตัวนี้กลับมีจิตใจและต้องการอยู่เคียงข้างทุกที่ที่มีกร ติดเพียงว่าไม่ใช่มนุษย์ที่มีเนื้อหนังภายในมีแต่เหล็กกับอะไหล่ มีเพียงน้ำมันหล่อเลี้ยงให้เป็นพลังงานและชิปที่ถูกฝังอยู่ในตัวให้ทำตามโปรแกรมของคนสร้าง
ความปรารถนาของหุ่นยนต์สุนัขที่ชื่อว่า ดุ๊กดิกจะเป็นจริงไหมแล้วกรจะรอดพ้นจากศึกการแย่งชิงบริษัทของไมเคิลหรือไม่ ติดตามต่อในเนื้อเรื่องเลยค่ะ
Tags: สุนัข หุ่นยนต์ แฟนตาซี มหาวิทยาลัย อนาคต
ตอน: ซ่อมแซมคู่หู
อินกับเอกรอรับกรกลับบ้าน เพื่อฟังข่าวสำคัญหลังจากกรไปเข้าค่ายติวหนังสือสอบเข้ามหาวิทยาลัย MI โดยมีไมเคิลเป็นผู้อำนวยการโรงเรียน แล้ววันนี้เป็นวันประกาศผลสอบ
“สวัสดีครับคุณพ่ออินคุณพ่อเอก” กรรีบตรงดิ่งมาหาอินกับเอกทันทีที่เห็นพวกเขา
“เป็นยังไงบ้าง” เอกเข้าไปกอดและรอคอยฟังข่าวดีจากกร
“ผ่านครับ” กรยิ้มแก้มปริ เขาดีใจมาก ความพยายามมาตลอดหลายปีเพื่อทำให้อินกับเอกภูมิใจก็มาถึง และต้องดีใจเข้าไปอีกเมื่อเห็นแววตาแห่งความภาคภูมิใจของทั้งสอง
“เก่งมาก สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ เข้าบ้านไปฉลองความสำเร็จกัน พ่อเอกของเราตื่นตั้งแต่ตีสามทำรอเลยนะ” อินลูบหัวกรด้วยความเอ็นดู เขารู้สึกภูมิใจที่มีลูกชายน่ารักและเก่ง
ใช่แล้ว กรเป็นเด็กเรียนดีและขยัน ไม่ว่าจะเรื่องงานที่ไมเคิลให้เขาทำหรือเรื่องเรียน รวมถึงกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วมกับเพื่อนๆ เขามักจะทำออกมาดีเสมอและไม่เคยทำให้ผู้ปกครองอย่างอินกับเอกต้องเสียใจเลยสักครั้ง แม้แต่การสอบครั้งนี้ก็เช่นกันเขามีคะแนนเรียนที่สามารถเข้าได้อย่างสบายโดยที่ไม่ต้องสอบและคะแนนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นยังสูงถึงเกรด 4 ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดที่ได้เข้าเรียนระดับผู้เชี่ยวชาญ และจบได้ภายใน 1 ปีแต่เขาไม่ทำ ขออยู่เกรด 1 คือระดับพื้นฐาน เทียบเท่ากับเด็กคนอื่น ถึงไมเคิลอยากให้กรรีบจบแล้วมาช่วยดูแลบริษัทของเขาแต่กรปฏิเสธเพราะอยากให้พื้นฐานแน่นและไม่ต้องการให้ใครนินทาว่าเขาใช้เส้นสาย เขาอยากใช้ความสามารถที่มีของตนเองเท่านั้น ซึ่งไมเคิลไม่ว่าอะไรเมื่อได้ฟังเหตุผลของกร
การกลับมาของกรนอกจากเอกได้แสดงฝีมือการทำอาหารแล้วยังได้กอดและหอมให้หายคิดถึงอีกด้วย ถึงกรจะโตเป็นหนุ่มตามวัยแต่เอกยังคงมองกรว่าเป็นเด็กเสมอ แม้แต่อินยังคงมองกรว่าอ่อนต่อโลกมากเพราะวันหนึ่งๆ กรมักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม และหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ จึงไม่ค่อยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตและต้องคอยสอนเพราะต่อจากนี้กรจะต้องพบกับโลกของความจริงที่ไม่ใช่สิ่งที่เขาได้สัมผัสอยู่ทุกวัน ถึงอย่างนั้นกรก็ไม่เคยคิดหวั่นเพราะเขามีคนทั้งสองอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ทุกวินาทีและลมหายใจ เขาจึงมีเป้าหมายเพื่อตอบแทนคนที่คอยเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เล็ก
แต่กรหารู้ไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งสิ่งที่รอคอยกรกลับมาตั้งแต่เขาจากบ้านนี้ไป โดยทิ้งให้สิ่งนี้รอคอยทุกวันจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ เมื่อรับรู้ว่ากรจะกลับมา พลังงานในร่างกายพลุ่งพล่านจนทนไม่ไหว อยากกระโดดเข้าไปหา อยากทำทุกอย่างให้กรมาสนใจเขา เมื่อไหร่จะมาเปิดห้องแล้วมาลูบกอดขนนิ่มๆ ของเขาเสียที
ไฟในห้องส่องสว่างขาเล็กของชายหนุ่มเดินมาเก็บของในบ้านจิ๋วของตน ที่ถูกสร้างและตบแต่งใหม่ให้กว้างกว่าเดิม เพราะต้องมีพื้นที่ไว้สำหรับวางอุปกรณ์ที่กรขนมาจากบริษัทไมเคิลเพื่อมาดูต้นแบบในการจัดทำสินค้า อินจึงจ้างคนมาต่อเติมให้ใหม่ทำให้มีหลังใหญ่กว่าเดิมเท่าหนึ่งและกินพื้นที่จนติดกับบ้านที่อินกับเอกอยู่ และเป็นผลดีต่อเอกเนื่องจากหน้าต่างห้องนอนของพวกเขาติดกับหน้าต่างห้องนอนของกร โดยหลังบ้านที่เป็นห้องน้ำถูกยุบมาอยู่ข้างในตัวบ้าน เลยทำให้ภายนอกมองดูเหมือนต่อห้องออกไป แต่จริงๆ แล้วมีสองหลังที่ติดกันนั่นเอง
“กร กรได้ยินไหม” เอกตะโกนข้ามฝั่งจากห้องของเขา ดังเข้ามาหากรที่กำลังเก็บของเข้าที่
“ครับ”
“รู้ใช่ไหมกฎของบ้านคืออะไร หายไปครึ่งปีความจำคงไม่เสื่อมหรอกนะ” เอกจ้องเขม็งส่งสายตาดุกรข้ามฝั่งมาหา ทำเอากรสะดุ้งกลัวทันที
“ผะ...ผมรู้แล้วครับ ไม่ลืมแน่นอน” เขาฉีกยิ้มกว้างเอาใจเอก ทั้งที่คิดว่าจะเปิดหนังสือเตรียมตัวไปเรียนพรุ่งนี้เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะโดนดุ
“เก็บของแล้วรีบนอน พรุ่งนี้พวกเราจะไปห้างซื้อของที่กรขาด อย่าลืมนะกร” สิ้นคำสั่งเหมือนสายฟ้าฟาดให้กรนอนตรงเวลา ตอนนี้หกโมงเย็นจะให้เขารีบนอนไปไหน เขาไม่เข้าใจ
ตั้งแต่ป่วยเพราะนอนดึกติดต่อกันหลายวันคราวนั้น เอกก็เข้มงวดเรื่องการนอนแทบทุกวัน ถึงขนาดติดป้ายเป็นกฎเหล็กของบ้านห้ามนอนเกินสี่ทุ่ม เดี๋ยวนี้ดีมากขนาดไหนเมื่อก่อนเอกเข้มงวดกับเขามาก ให้เขานอนตั้งแต่สองทุ่ม ทั้งๆ ที่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ จนอินต้องร้องขอและบอกอย่าเข้มงวดเกินไปนักเพราะต้องอ่านหนังสือดึกและทำงาน เรื่องนอนดึกจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถห้ามได้เลย
กรถอนหายใจเฮือกโต เขารู้ว่าเอกเป็นห่วงแต่ถ้าต้องนอนตั้งแต่หัววันและทุกวัน สงสัยเขาจะแย่ งานที่ไมเคิลสั่งยังกองเท่าหัว ไหนจะหนังสือที่ต้องอ่านเตรียมตัวอีก
เพราะกลุ้มใจจึงเดินจากห้องนอนตรงไปยังห้องทำงานแล้วไปเปิดตู้เก็บของเพื่อหยิบโต๊ะญี่ปุ่นออกมา เขาอยากรีบประกอบอะไหล่ตัวอย่างที่ไมเคิลส่งมาให้เขาดูทางอีเมลเมื่อวาน และอะไหล่ก็มาถึงรอให้เขาประกอบอยู่
กุกกั๊ก...
เสียงของในตู้กำลังทำเสียงให้กรหันไปสนใจและก็สำเร็จ กรเปิดตู้เก็บของอีกใบออกเพื่อดูสาเหตุของเสียงนั่น
ตุ๊บ...
"เอ๊ะ!"
ร้องอุทานออกมาเสียงดังเมื่อเห็นหุ่นยนต์สุนัขที่เขาทิ้งไว้ก่อนไปเข้าค่ายเรียน
สภาพของคู่หูไม่ต่างจากเศษเหล็ก ถึงแม้ว่าขนที่ใช้ทำจะเหมือนจริงก็ตาม
"ขนยุ่งจัง" กรจับขนสีน้ำตาลอ่อนแล้วลูบไปมาเบาๆ ถ้าเราใส่ใจมากกว่านี้ก็คงดี
"ขอโทษนะ"
จากที่เขาตั้งใจจะประกอบอะไหล่ ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนมาซ่อมแซมเพื่อนรักของเขาเสียก่อน ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล สิ่งสำคัญต้องมาก่อนเสมอ
“สวัสดีครับคุณพ่ออินคุณพ่อเอก” กรรีบตรงดิ่งมาหาอินกับเอกทันทีที่เห็นพวกเขา
“เป็นยังไงบ้าง” เอกเข้าไปกอดและรอคอยฟังข่าวดีจากกร
“ผ่านครับ” กรยิ้มแก้มปริ เขาดีใจมาก ความพยายามมาตลอดหลายปีเพื่อทำให้อินกับเอกภูมิใจก็มาถึง และต้องดีใจเข้าไปอีกเมื่อเห็นแววตาแห่งความภาคภูมิใจของทั้งสอง
“เก่งมาก สมแล้วที่เป็นลูกพ่อ เข้าบ้านไปฉลองความสำเร็จกัน พ่อเอกของเราตื่นตั้งแต่ตีสามทำรอเลยนะ” อินลูบหัวกรด้วยความเอ็นดู เขารู้สึกภูมิใจที่มีลูกชายน่ารักและเก่ง
ใช่แล้ว กรเป็นเด็กเรียนดีและขยัน ไม่ว่าจะเรื่องงานที่ไมเคิลให้เขาทำหรือเรื่องเรียน รวมถึงกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วมกับเพื่อนๆ เขามักจะทำออกมาดีเสมอและไม่เคยทำให้ผู้ปกครองอย่างอินกับเอกต้องเสียใจเลยสักครั้ง แม้แต่การสอบครั้งนี้ก็เช่นกันเขามีคะแนนเรียนที่สามารถเข้าได้อย่างสบายโดยที่ไม่ต้องสอบและคะแนนที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยนั้นยังสูงถึงเกรด 4 ซึ่งเป็นเกรดสูงสุดที่ได้เข้าเรียนระดับผู้เชี่ยวชาญ และจบได้ภายใน 1 ปีแต่เขาไม่ทำ ขออยู่เกรด 1 คือระดับพื้นฐาน เทียบเท่ากับเด็กคนอื่น ถึงไมเคิลอยากให้กรรีบจบแล้วมาช่วยดูแลบริษัทของเขาแต่กรปฏิเสธเพราะอยากให้พื้นฐานแน่นและไม่ต้องการให้ใครนินทาว่าเขาใช้เส้นสาย เขาอยากใช้ความสามารถที่มีของตนเองเท่านั้น ซึ่งไมเคิลไม่ว่าอะไรเมื่อได้ฟังเหตุผลของกร
การกลับมาของกรนอกจากเอกได้แสดงฝีมือการทำอาหารแล้วยังได้กอดและหอมให้หายคิดถึงอีกด้วย ถึงกรจะโตเป็นหนุ่มตามวัยแต่เอกยังคงมองกรว่าเป็นเด็กเสมอ แม้แต่อินยังคงมองกรว่าอ่อนต่อโลกมากเพราะวันหนึ่งๆ กรมักจะหมกตัวอยู่แต่ในห้องสี่เหลี่ยม และหน้าจอคอมพิวเตอร์ขนาดใหญ่ จึงไม่ค่อยมีประสบการณ์การใช้ชีวิตและต้องคอยสอนเพราะต่อจากนี้กรจะต้องพบกับโลกของความจริงที่ไม่ใช่สิ่งที่เขาได้สัมผัสอยู่ทุกวัน ถึงอย่างนั้นกรก็ไม่เคยคิดหวั่นเพราะเขามีคนทั้งสองอยู่เคียงข้างเขาเสมอ ทุกวินาทีและลมหายใจ เขาจึงมีเป้าหมายเพื่อตอบแทนคนที่คอยเลี้ยงดูเขาตั้งแต่เล็ก
แต่กรหารู้ไม่ว่ายังมีอีกหนึ่งสิ่งที่รอคอยกรกลับมาตั้งแต่เขาจากบ้านนี้ไป โดยทิ้งให้สิ่งนี้รอคอยทุกวันจนไม่สามารถขยับไปไหนได้ เมื่อรับรู้ว่ากรจะกลับมา พลังงานในร่างกายพลุ่งพล่านจนทนไม่ไหว อยากกระโดดเข้าไปหา อยากทำทุกอย่างให้กรมาสนใจเขา เมื่อไหร่จะมาเปิดห้องแล้วมาลูบกอดขนนิ่มๆ ของเขาเสียที
ไฟในห้องส่องสว่างขาเล็กของชายหนุ่มเดินมาเก็บของในบ้านจิ๋วของตน ที่ถูกสร้างและตบแต่งใหม่ให้กว้างกว่าเดิม เพราะต้องมีพื้นที่ไว้สำหรับวางอุปกรณ์ที่กรขนมาจากบริษัทไมเคิลเพื่อมาดูต้นแบบในการจัดทำสินค้า อินจึงจ้างคนมาต่อเติมให้ใหม่ทำให้มีหลังใหญ่กว่าเดิมเท่าหนึ่งและกินพื้นที่จนติดกับบ้านที่อินกับเอกอยู่ และเป็นผลดีต่อเอกเนื่องจากหน้าต่างห้องนอนของพวกเขาติดกับหน้าต่างห้องนอนของกร โดยหลังบ้านที่เป็นห้องน้ำถูกยุบมาอยู่ข้างในตัวบ้าน เลยทำให้ภายนอกมองดูเหมือนต่อห้องออกไป แต่จริงๆ แล้วมีสองหลังที่ติดกันนั่นเอง
“กร กรได้ยินไหม” เอกตะโกนข้ามฝั่งจากห้องของเขา ดังเข้ามาหากรที่กำลังเก็บของเข้าที่
“ครับ”
“รู้ใช่ไหมกฎของบ้านคืออะไร หายไปครึ่งปีความจำคงไม่เสื่อมหรอกนะ” เอกจ้องเขม็งส่งสายตาดุกรข้ามฝั่งมาหา ทำเอากรสะดุ้งกลัวทันที
“ผะ...ผมรู้แล้วครับ ไม่ลืมแน่นอน” เขาฉีกยิ้มกว้างเอาใจเอก ทั้งที่คิดว่าจะเปิดหนังสือเตรียมตัวไปเรียนพรุ่งนี้เสียหน่อย ไม่คิดว่าจะโดนดุ
“เก็บของแล้วรีบนอน พรุ่งนี้พวกเราจะไปห้างซื้อของที่กรขาด อย่าลืมนะกร” สิ้นคำสั่งเหมือนสายฟ้าฟาดให้กรนอนตรงเวลา ตอนนี้หกโมงเย็นจะให้เขารีบนอนไปไหน เขาไม่เข้าใจ
ตั้งแต่ป่วยเพราะนอนดึกติดต่อกันหลายวันคราวนั้น เอกก็เข้มงวดเรื่องการนอนแทบทุกวัน ถึงขนาดติดป้ายเป็นกฎเหล็กของบ้านห้ามนอนเกินสี่ทุ่ม เดี๋ยวนี้ดีมากขนาดไหนเมื่อก่อนเอกเข้มงวดกับเขามาก ให้เขานอนตั้งแต่สองทุ่ม ทั้งๆ ที่ต้องอ่านหนังสือเตรียมสอบ จนอินต้องร้องขอและบอกอย่าเข้มงวดเกินไปนักเพราะต้องอ่านหนังสือดึกและทำงาน เรื่องนอนดึกจึงเป็นเรื่องที่ไม่สามารถห้ามได้เลย
กรถอนหายใจเฮือกโต เขารู้ว่าเอกเป็นห่วงแต่ถ้าต้องนอนตั้งแต่หัววันและทุกวัน สงสัยเขาจะแย่ งานที่ไมเคิลสั่งยังกองเท่าหัว ไหนจะหนังสือที่ต้องอ่านเตรียมตัวอีก
เพราะกลุ้มใจจึงเดินจากห้องนอนตรงไปยังห้องทำงานแล้วไปเปิดตู้เก็บของเพื่อหยิบโต๊ะญี่ปุ่นออกมา เขาอยากรีบประกอบอะไหล่ตัวอย่างที่ไมเคิลส่งมาให้เขาดูทางอีเมลเมื่อวาน และอะไหล่ก็มาถึงรอให้เขาประกอบอยู่
กุกกั๊ก...
เสียงของในตู้กำลังทำเสียงให้กรหันไปสนใจและก็สำเร็จ กรเปิดตู้เก็บของอีกใบออกเพื่อดูสาเหตุของเสียงนั่น
ตุ๊บ...
"เอ๊ะ!"
ร้องอุทานออกมาเสียงดังเมื่อเห็นหุ่นยนต์สุนัขที่เขาทิ้งไว้ก่อนไปเข้าค่ายเรียน
สภาพของคู่หูไม่ต่างจากเศษเหล็ก ถึงแม้ว่าขนที่ใช้ทำจะเหมือนจริงก็ตาม
"ขนยุ่งจัง" กรจับขนสีน้ำตาลอ่อนแล้วลูบไปมาเบาๆ ถ้าเราใส่ใจมากกว่านี้ก็คงดี
"ขอโทษนะ"
จากที่เขาตั้งใจจะประกอบอะไหล่ ตอนนี้คงต้องเปลี่ยนมาซ่อมแซมเพื่อนรักของเขาเสียก่อน ค่ำคืนนี้ยังอีกยาวไกล สิ่งสำคัญต้องมาก่อนเสมอ
HM06
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 17 ธ.ค. 2563, 20:50:19 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 17 ธ.ค. 2563, 20:50:19 น.
จำนวนการเข้าชม : 507
ก่อนเปิดเทอม >> |