แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 13 -75%
เมื่อครบทีม ‘อยู่เพื่อกิน’ ทั้งสี่ก็มุ่งหน้าสู่เยาวราชด้วยรถคันเดียว แน่นอนว่าไปรถของวรีวาฏิกา เพราะต้องมีบอดี้การ์ดติดสอยห้อยตามไปด้วย ไมเคิลนั่งเบาะหลังกับสองสาว ส่วนสตีเฟนนั่งเบาะหน้าข้างบอดี้การ์ดหนุ่มซึ่งเป็นคนขับ เมื่อไปถึงเยาวราชราวๆ เกือบสองทุ่ม มะลิก็พาทั้งกลุ่มตระเวนเข้าร้านนั้นออกร้านนี้ ไล่ตั้งแต่กวยจั๊บชื่อดัง ก๋วยเตี๋ยวคั่วไก่ หอยทอดกระทะร้อน แวะกินน้ำส้มเช้งระหว่างทาง ก่อนจะปิดท้ายด้วยของหวานอย่างลอดช่องสิงคโปร์
ระหว่างกินลอดช่องกันอยู่นั้นเอง มะลิก็เริ่มเมาท์ต่อ
“นี่ แกรู้หรือยังว่าในที่สุด แผนกฉันก็หาเลขาให้คุณพาร์คได้แล้ว”
มะลิพูดแค่นั้น ทั้งกลุ่มก็เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของวรีวาฏิกา หญิงสาวยิ้มเหมือนคนโง่งม แถมตาเป็นประกายอย่างกับยกดาวทั้งจักรวาลมารวมกัน พร้อมพูดดังลั่นด้วยความดีใจ
“ในที่สุด ในที่สุดสวรรค์ก็เมตตาฉันแล้ว เขาจะมาเมื่อไหร่ๆๆ” ไม่พูดเปล่า วรีวาฏิกายังเขย่าตัวมะลิไปด้วย
“อาทิตย์หน้า คนนี้น่ะเส้นล้วนๆ แกต้องระวังให้ดี ฉันแอบไปอ่านประวัติมาแล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทคุณแม่คุณพาร์คฝากให้มาทำงาน นี่ฉันได้ข่าวมาว่าปกติคุณพาร์คจะปฏิเสธ แต่คนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณแม่ถึงขนาดมาขอร้องด้วยตัวเอง เลยต้องรับมาทำงานอย่างเสียมิได้ แกก็ระวังๆ ไว้หน่อยแล้วกัน ฉันเห็นแค่ภาพถ่ายยังไม่ถูกชะตา หน้าตาน่ารักคุณหนู แต่รอยยิ้มในภาพนั่นนางมารชัดๆ!”
เพื่อนหาได้ฟังคำเตือนนั้นไม่ เพราะเพียงแค่ได้ยินประโยคแรกว่าเริ่มงานอาทิตย์หน้า ความคิดของวรีวาฏิกาก็ล่องลอยไปไกล แถมยังยิ้มจนแก้มปริจนคนสาระแนอย่างไมเคิลอดไม่ได้ที่จะถามทะลุกลางปล้องขึ้นมาว่า
“นี่วาไม่อยากทำงานกับไอ้พาร์คขนาดนั้นเลยเหรอครับ มันใจร้ายกับวามากนักเหรอ”
เท่านั้น ก็ได้รับคำตอบจากสองสาวแทบจะประสานเสียงกันว่า
“มากกกกกกกกค่ะ!”
ก่อนที่มะลิจะอาสาเป็นคนร่ายความใจร้ายของภควัตน์ให้ไมเคิลฟังเองว่า
“ตั้งแต่มะลิทำงานที่นี่มาสามปีนะคะ รู้กันอยู่ว่าคุณพาร์คใจร้าย เย็นชา แต่พอเห็นที่คุณพาร์คทำกับวาเนี่ย โห เป็นมะลิ มะลิลาออกไปนานแล้ว คุณพาร์คโคตรจะใจร้ายเลยค่ะคุณไมค์ ด่าโหดๆ ต่อหน้าพนักงานเป็นสิบ ทำเป็นไม่รู้จักต่อหน้าพนักงานเป็นร้อย แถมทั้งดุทั้งว่า ทำดีไม่เคยชม พลาดเมื่อไหร่แทบจะเหยียบจมดิน แล้วพอไปเป็นเลขา โอ๊ย มะลิไม่อยากจะพูด เห็นวาโดนใช้งานอย่างกับทาสค่ะ เลขาคนเก่าคุณพาร์คไม่เห็นใช้เยอะขนาดนี้เลย นี่ไม่รู้ทำไมเพื่อนมะลิถึกขนาดนี้นะคะ”
สาธยายจบมะลิก็ถูกเพื่อนมองหน้า ก่อนจะเริ่มเอะอะโวยวายว่า
“ไม่เห็นแกเคยบอกฉันเลยว่า ขนาดแกยังดูออกว่าคุณภควัตน์ชั่วผิดมนุษย์มนากับฉัน!! แล้วก็ไม่เคยบอกด้วยว่า ถ้าเป็นแก แกลาออกไปแล้ว! แกมันเพื่อนทรยศ!”
ด่ายังไม่ทันจะจบ สตีเฟนซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบๆ ก็หน้าซีด เอ่ยถามขัดจังหวะขึ้นมา “นี่คุณภควัตน์ไม่โอเคกับวาเหรอครับ ตอนผมมาทำงานใหม่ๆ แล้วฝ่ายบุคคลขอตัวคุณไป ผมก็นึกว่าเพราะทำงานเข้าขากันได้ดี ผม...ผมขอโทษนะครับ”
‘ขอโทษตอนนี้ก็สายไปแล้วเฟ้ย!’
วรีวาฏิกาอยากจะตอกกลับไปแบบนั้นชะมัด แต่ยังไงสตีเฟนก็เป็นเจ้านายอีกคน เธอทำไม่ได้! วรีวาฏิกาเลยเอ่ยแบบถนอมน้ำใจไปแทน ทั้งๆ ที่ตายังขวาง
“ไม่ใช่ความผิดคุณสตีเฟนหรอกค่ะ เพราะคุณไม่รู้ แต่ตอนนี้คุณก็รู้แล้วนะคะ ฉะนั้นรอบหน้าถ้ามีใครโดนยืมตัวไปแผนกอื่นอีกละก็ วาขอร้องนะคะว่าให้คุณช่วยถามความสมัครใจเขาก่อน อย่าอนุมัติไปเลยเหมือนอย่างคราววา”
ถึงไม่ได้ด่า แต่ก็แอบแขวะไปหลายประโยคจนเจ้านายฝรั่งยิ้มเจื่อน
ทว่าไมเคิลกลับหัวเราะก๊าก พร้อมส่ายหัวด้วยความระอาแล้วพูดเสียงไม่เบาสักนิดว่า
“ไอ้พาร์ค นะไอ้พาร์ค”
ก่อนจะขำต่อไปอยู่คนเดียว ทำเอาคนที่ตกเป็นเหยื่อเพื่อนเขาอย่าง วรีวาฏิกามองมาตาเขียวปัดด้วยความโมโหขึ้นทุกที
ตลอดหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น...ไม่รู้มะลิไปทำอะไรให้ภควัตน์ไม่พอใจ รู้แต่ว่าเพื่อนสาวโทร.มาบ่นกระปอดกระแปดว่างานงอก งานเข้า ก่อนจะโดนวรีวาฏิกาซ้ำเติม
“ทีนี้แกเข้าใจฉันแล้วใช่ไหม เข้าใจแล้วใช่ไหม! วันหลังอย่ามาหาว่าฉันโอดครวญ แกแค่งานงอก ฉันโดนด่าประจานตลอด แกยังมีหน้ามาบอกให้ฉันอย่าไปถือสา เพราะคุณพาร์คของแกหล่อ เพราะฉะนั้นที่แกโดนอยู่นี่แกก็ปลอบใจตัวเองไปแล้วกันว่าอย่าถือสาคนหล่อ!”
จบประโยค วรีวาฏิกาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องมาตามสาย และสุดท้ายเพื่อนตัวดีจบบทสนทนาว่า
“เออ ก็บอกตัวเองอยู่ทุกวันเนี่ย โอ๊ย! ชีวิตฉัน ชีวิตส่วนตัววันเสาร์อาทิตย์ฉัน! คุณพาร์คทำพังหมดแล้ว!!!!”
**************
สัปดาห์ถัดไป เลขาคนใหม่ที่จะช่วยชีวิตก็มาถึง วันนี้จึงเป็นวันที่วรีวาฏิการะริกระรี้อารมณ์ดีจนออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัด แถมยังมาก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เลขาคนใหม่ของภควัตน์ชื่อ เมย์ หรือ เมทิยา...สาวน้อยหน้าใส จบปริญญาโทมาจากต่างประเทศหมาดๆ แถมยังเป็นถึงลูกสาวเพื่อนสนิทของมารดาภควัตน์ วรีวาฏิกามองสาวผู้มาใหม่ดุจตัวช่วยที่จะทำให้เธอได้ปลดระวางกลับไปทำหน้าที่เดิมอย่างตื่นเต้น ก่อนจะเข้าไปแนะนำตัวด้วยความยินดีอย่างออกนอกหน้า
เมทิยาเป็นสาวขี้อาย เรียบร้อย อันนี้ก็ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ต่อหน้าเธอดูเป็นอย่างนั้น หลังจากหาที่นั่งให้สักพักวรีวาฏิกาก็ตัดสินใจยกเก้าอี้เธอให้นั่งไปเลย อีกทั้งยังเตรียมคอมพิวเตอร์ไว้ให้เรียบร้อยพร้อมงานที่ต้องโอนให้ทำต่อก็จัดรวมโฟลเดอร์เป็นระเบียบ รวมถึงโน้ต Tutorial ที่หญิงสาวทำไว้ให้ด้วยความหวังดี
แต่แล้วเมื่อเธอเดินไปเคาะห้องภควัตน์เพื่อที่จะลากลับแผนกเดิม ปรากฏท่านรองประธานกลับออกคำสั่งว่า
“คุณต้องอยู่เป็นพี่เลี้ยงให้คุณเมย์ก่อน เธอยังไม่เคยทำงาน จะได้รู้ว่าระบบเป็นยังไง”
ไม่อะ ไม่จริง! เธออยากไปใจจะขาดแล้ว
ทีตอนเธอถูกย้ายมาทำงานเป็นเลขาทาสให้เขาใหม่ๆ ไม่เห็นจะมีคนสอนงานสักคน แถมยังโดนด่าเช้าด่าเย็น ถ้าอยากอยู่ช่วยต่อก็บ้าเต็มที
คิดดังนั้นคนไม่อยากอยู่ต่อก็รีบหาทางลงให้ตัวเองด้วยการโบ้ยงานหน้าตาเฉย
“คุณภควัตน์ให้พี่จิตตาเป็นคนสอนดีกว่าค่ะ งานที่แผนกวาตอนนี้ก็กองสุมหัวเยอะแล้ว ขอกลับไปเคลียร์งานนะคะ”
“ไม่ได้! ที่แผนกคุณก็มีคุณจุ๋มแล้วนี่ งานแผนกโน้นก็ควรจะน้อยลงกว่าเดิม ถูกไหม เพราะฉะนั้นคุณต้องสอนเมทิยาจนกว่าจะเป็นงาน และหยุด ไม่มีข้อโต้แย้ง!”
เออ ไม่โต้แย้ง ก็ไม่โต้แย้ง!
ระหว่างกินลอดช่องกันอยู่นั้นเอง มะลิก็เริ่มเมาท์ต่อ
“นี่ แกรู้หรือยังว่าในที่สุด แผนกฉันก็หาเลขาให้คุณพาร์คได้แล้ว”
มะลิพูดแค่นั้น ทั้งกลุ่มก็เห็นท่าทีที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็วของวรีวาฏิกา หญิงสาวยิ้มเหมือนคนโง่งม แถมตาเป็นประกายอย่างกับยกดาวทั้งจักรวาลมารวมกัน พร้อมพูดดังลั่นด้วยความดีใจ
“ในที่สุด ในที่สุดสวรรค์ก็เมตตาฉันแล้ว เขาจะมาเมื่อไหร่ๆๆ” ไม่พูดเปล่า วรีวาฏิกายังเขย่าตัวมะลิไปด้วย
“อาทิตย์หน้า คนนี้น่ะเส้นล้วนๆ แกต้องระวังให้ดี ฉันแอบไปอ่านประวัติมาแล้ว เป็นลูกสาวของเพื่อนสนิทคุณแม่คุณพาร์คฝากให้มาทำงาน นี่ฉันได้ข่าวมาว่าปกติคุณพาร์คจะปฏิเสธ แต่คนนี้ทำแบบนั้นไม่ได้ เพราะคุณแม่ถึงขนาดมาขอร้องด้วยตัวเอง เลยต้องรับมาทำงานอย่างเสียมิได้ แกก็ระวังๆ ไว้หน่อยแล้วกัน ฉันเห็นแค่ภาพถ่ายยังไม่ถูกชะตา หน้าตาน่ารักคุณหนู แต่รอยยิ้มในภาพนั่นนางมารชัดๆ!”
เพื่อนหาได้ฟังคำเตือนนั้นไม่ เพราะเพียงแค่ได้ยินประโยคแรกว่าเริ่มงานอาทิตย์หน้า ความคิดของวรีวาฏิกาก็ล่องลอยไปไกล แถมยังยิ้มจนแก้มปริจนคนสาระแนอย่างไมเคิลอดไม่ได้ที่จะถามทะลุกลางปล้องขึ้นมาว่า
“นี่วาไม่อยากทำงานกับไอ้พาร์คขนาดนั้นเลยเหรอครับ มันใจร้ายกับวามากนักเหรอ”
เท่านั้น ก็ได้รับคำตอบจากสองสาวแทบจะประสานเสียงกันว่า
“มากกกกกกกกค่ะ!”
ก่อนที่มะลิจะอาสาเป็นคนร่ายความใจร้ายของภควัตน์ให้ไมเคิลฟังเองว่า
“ตั้งแต่มะลิทำงานที่นี่มาสามปีนะคะ รู้กันอยู่ว่าคุณพาร์คใจร้าย เย็นชา แต่พอเห็นที่คุณพาร์คทำกับวาเนี่ย โห เป็นมะลิ มะลิลาออกไปนานแล้ว คุณพาร์คโคตรจะใจร้ายเลยค่ะคุณไมค์ ด่าโหดๆ ต่อหน้าพนักงานเป็นสิบ ทำเป็นไม่รู้จักต่อหน้าพนักงานเป็นร้อย แถมทั้งดุทั้งว่า ทำดีไม่เคยชม พลาดเมื่อไหร่แทบจะเหยียบจมดิน แล้วพอไปเป็นเลขา โอ๊ย มะลิไม่อยากจะพูด เห็นวาโดนใช้งานอย่างกับทาสค่ะ เลขาคนเก่าคุณพาร์คไม่เห็นใช้เยอะขนาดนี้เลย นี่ไม่รู้ทำไมเพื่อนมะลิถึกขนาดนี้นะคะ”
สาธยายจบมะลิก็ถูกเพื่อนมองหน้า ก่อนจะเริ่มเอะอะโวยวายว่า
“ไม่เห็นแกเคยบอกฉันเลยว่า ขนาดแกยังดูออกว่าคุณภควัตน์ชั่วผิดมนุษย์มนากับฉัน!! แล้วก็ไม่เคยบอกด้วยว่า ถ้าเป็นแก แกลาออกไปแล้ว! แกมันเพื่อนทรยศ!”
ด่ายังไม่ทันจะจบ สตีเฟนซึ่งนั่งฟังอยู่เงียบๆ ก็หน้าซีด เอ่ยถามขัดจังหวะขึ้นมา “นี่คุณภควัตน์ไม่โอเคกับวาเหรอครับ ตอนผมมาทำงานใหม่ๆ แล้วฝ่ายบุคคลขอตัวคุณไป ผมก็นึกว่าเพราะทำงานเข้าขากันได้ดี ผม...ผมขอโทษนะครับ”
‘ขอโทษตอนนี้ก็สายไปแล้วเฟ้ย!’
วรีวาฏิกาอยากจะตอกกลับไปแบบนั้นชะมัด แต่ยังไงสตีเฟนก็เป็นเจ้านายอีกคน เธอทำไม่ได้! วรีวาฏิกาเลยเอ่ยแบบถนอมน้ำใจไปแทน ทั้งๆ ที่ตายังขวาง
“ไม่ใช่ความผิดคุณสตีเฟนหรอกค่ะ เพราะคุณไม่รู้ แต่ตอนนี้คุณก็รู้แล้วนะคะ ฉะนั้นรอบหน้าถ้ามีใครโดนยืมตัวไปแผนกอื่นอีกละก็ วาขอร้องนะคะว่าให้คุณช่วยถามความสมัครใจเขาก่อน อย่าอนุมัติไปเลยเหมือนอย่างคราววา”
ถึงไม่ได้ด่า แต่ก็แอบแขวะไปหลายประโยคจนเจ้านายฝรั่งยิ้มเจื่อน
ทว่าไมเคิลกลับหัวเราะก๊าก พร้อมส่ายหัวด้วยความระอาแล้วพูดเสียงไม่เบาสักนิดว่า
“ไอ้พาร์ค นะไอ้พาร์ค”
ก่อนจะขำต่อไปอยู่คนเดียว ทำเอาคนที่ตกเป็นเหยื่อเพื่อนเขาอย่าง วรีวาฏิกามองมาตาเขียวปัดด้วยความโมโหขึ้นทุกที
ตลอดหนึ่งสัปดาห์หลังจากนั้น...ไม่รู้มะลิไปทำอะไรให้ภควัตน์ไม่พอใจ รู้แต่ว่าเพื่อนสาวโทร.มาบ่นกระปอดกระแปดว่างานงอก งานเข้า ก่อนจะโดนวรีวาฏิกาซ้ำเติม
“ทีนี้แกเข้าใจฉันแล้วใช่ไหม เข้าใจแล้วใช่ไหม! วันหลังอย่ามาหาว่าฉันโอดครวญ แกแค่งานงอก ฉันโดนด่าประจานตลอด แกยังมีหน้ามาบอกให้ฉันอย่าไปถือสา เพราะคุณพาร์คของแกหล่อ เพราะฉะนั้นที่แกโดนอยู่นี่แกก็ปลอบใจตัวเองไปแล้วกันว่าอย่าถือสาคนหล่อ!”
จบประโยค วรีวาฏิกาก็ได้ยินเสียงกรีดร้องมาตามสาย และสุดท้ายเพื่อนตัวดีจบบทสนทนาว่า
“เออ ก็บอกตัวเองอยู่ทุกวันเนี่ย โอ๊ย! ชีวิตฉัน ชีวิตส่วนตัววันเสาร์อาทิตย์ฉัน! คุณพาร์คทำพังหมดแล้ว!!!!”
**************
สัปดาห์ถัดไป เลขาคนใหม่ที่จะช่วยชีวิตก็มาถึง วันนี้จึงเป็นวันที่วรีวาฏิการะริกระรี้อารมณ์ดีจนออกนอกหน้าอย่างเห็นได้ชัด แถมยังมาก่อนเวลาเกือบครึ่งชั่วโมง เลขาคนใหม่ของภควัตน์ชื่อ เมย์ หรือ เมทิยา...สาวน้อยหน้าใส จบปริญญาโทมาจากต่างประเทศหมาดๆ แถมยังเป็นถึงลูกสาวเพื่อนสนิทของมารดาภควัตน์ วรีวาฏิกามองสาวผู้มาใหม่ดุจตัวช่วยที่จะทำให้เธอได้ปลดระวางกลับไปทำหน้าที่เดิมอย่างตื่นเต้น ก่อนจะเข้าไปแนะนำตัวด้วยความยินดีอย่างออกนอกหน้า
เมทิยาเป็นสาวขี้อาย เรียบร้อย อันนี้ก็ไม่รู้จริงหรือเปล่า แต่ต่อหน้าเธอดูเป็นอย่างนั้น หลังจากหาที่นั่งให้สักพักวรีวาฏิกาก็ตัดสินใจยกเก้าอี้เธอให้นั่งไปเลย อีกทั้งยังเตรียมคอมพิวเตอร์ไว้ให้เรียบร้อยพร้อมงานที่ต้องโอนให้ทำต่อก็จัดรวมโฟลเดอร์เป็นระเบียบ รวมถึงโน้ต Tutorial ที่หญิงสาวทำไว้ให้ด้วยความหวังดี
แต่แล้วเมื่อเธอเดินไปเคาะห้องภควัตน์เพื่อที่จะลากลับแผนกเดิม ปรากฏท่านรองประธานกลับออกคำสั่งว่า
“คุณต้องอยู่เป็นพี่เลี้ยงให้คุณเมย์ก่อน เธอยังไม่เคยทำงาน จะได้รู้ว่าระบบเป็นยังไง”
ไม่อะ ไม่จริง! เธออยากไปใจจะขาดแล้ว
ทีตอนเธอถูกย้ายมาทำงานเป็นเลขาทาสให้เขาใหม่ๆ ไม่เห็นจะมีคนสอนงานสักคน แถมยังโดนด่าเช้าด่าเย็น ถ้าอยากอยู่ช่วยต่อก็บ้าเต็มที
คิดดังนั้นคนไม่อยากอยู่ต่อก็รีบหาทางลงให้ตัวเองด้วยการโบ้ยงานหน้าตาเฉย
“คุณภควัตน์ให้พี่จิตตาเป็นคนสอนดีกว่าค่ะ งานที่แผนกวาตอนนี้ก็กองสุมหัวเยอะแล้ว ขอกลับไปเคลียร์งานนะคะ”
“ไม่ได้! ที่แผนกคุณก็มีคุณจุ๋มแล้วนี่ งานแผนกโน้นก็ควรจะน้อยลงกว่าเดิม ถูกไหม เพราะฉะนั้นคุณต้องสอนเมทิยาจนกว่าจะเป็นงาน และหยุด ไม่มีข้อโต้แย้ง!”
เออ ไม่โต้แย้ง ก็ไม่โต้แย้ง!
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 15 ม.ค. 2564, 14:42:53 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 15 ม.ค. 2564, 14:42:53 น.
จำนวนการเข้าชม : 406
<< บทที่ 13 -50% + เล่มตัวอย่าง | บทที่ 13 -100% >> |