แรกรักพันใจ: มาสฬฎา (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
มีมารดาเลี้ยงใจร้าย บวกกับพี่สาวใจยักษ์ ชีวิตดูน่ารันทดนัก
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
แต่ ‘วรีวาฏิกา’ สาวชื่อยาวยิ่งกว่าแม่น้ำไนล์ก็หาได้แคร์ไม่
แต่พอคนที่เธอคิดว่าเป็นพี่ชาย...จากที่เคยอบอุ่นน่ารักเอาใจ กลายเป็นเย็นชาหมางเมินใส่ เธอก็เลยต้องเริ่มจะแคร์
เจอกันตอนเด็กๆ เธอคิดว่า ‘ภควัตน์’ ช่างเป็นพี่ชายที่แสนอ่อนโยนมีเมตตา
เจอกันช่วงวัยรุ่น วรีวาฏิกาก็ยังคิดว่าเขาเป็นพี่ชายที่หล่อเหลาและแสนดี
เจอกันอีกครั้งในวัยทำงาน...
ทำไมเขาถึงเปลี่ยนไปชั่วร้ายได้ขนาดนี้เล่า!
นี่ถ้าเมื่อก่อนเธอไม่ได้เข้าใจผิดไปเอง ภควัตน์ก็เสแสร้งตลบตะแลงเก่งเกินไปแล้ว!
“ชื่อเล่นผม มีไว้ให้คนสนิทกันเรียก และนั่นไม่ใช่คุณ!”
ประโยคเดียวเบิกเนตรจนวรีวาฏิกาต้องหันกลับมามองท่านรองประธานเสียใหม่
ในเมื่อเขาไม่เห็นแก่มิตรภาพเก่าก่อนก็ไม่เป็นไร
เจอกันคราวต่อไป ก็อย่าหวังให้เธอเห็นใจก็แล้วกัน!
*******************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "มาสฬฎา" และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ค่ะ ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก คอมเมดี้ ที่รับประกันเลยว่าทั้งสนุก ตลก น่ารัก และฟินมากกกกกก ได้ปาความเครียดทิ้งไปแน่นอน! เพราะพี่พาร์ค พระเอกของเรื่องแม้จะเป็นบอสสายเย็นชา แต่(แอบ)รักนางเอกสุดหัวใจ ส่วนนางเอกก็เป็นน้องมึนที่เอาตัวรอดได้ทุกสถานการณ์ 5555 #รับประกันความสนุก!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้านbooksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช และร้านBestbookSmile
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.โดย inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 458 หน้า (พร้อมตอนพิเศษ 4 ตอนรวด)
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 350฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: เลขา บอส พระเอกเย็นชา แม่เลี้ยง ลูกเลี้ยง ตลก
ตอน: บทที่ 20 -80%
คนตื่นสายรีบกระโดดผลุงลงจากเตียงไปอาบน้ำแบบลวกๆ เช็ดผมหมาดๆ คว้าเสื้อผ้าใส่เสร็จก็เดินลงไปชั้นล่างด้วยหน้าสด
ใช่ หน้าสด! เธอแคร์เสียที่ไหน โทรมกว่านี้ภควัตน์ก็เคยเห็นมาแล้ว ตอนเขาใช้งานเธอเยี่ยงทาสนั่นไง เพราะฉะนั้นตัดกระบวนการแต่งหน้าให้เสียเวลาไปได้เลย เธอจะลงไปทั้งหน้าสดๆ แบบนี้นี่แหละ
ทั้งหมดนี้หญิงสาวใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น เมื่อลงไปถึงชั้นล่างคนเพิ่งตื่นนอนก็ตรงดิ่งตามกลิ่นหอมไปยังโต๊ะกินข้าวที่ติดกับครัวแบบเปิดของเขาทันที
และเธอก็พบว่า ไข่เบเนดิกต์ (Egg Benedict) บนโต๊ะดูน่ากินมากๆ
แต่ยังไม่ทันจะได้เอาส้อมจิ้มไข่แดงให้แตกอย่างที่ตั้งใจ ผ้าขนหนูก็ถูกวางแหมะลงบนหัวพอดี ตามมาด้วยเสียงสั่งแบบดุๆ
“ไปเป่าผมให้แห้ง แล้วค่อยลงมากินข้าว”
โอย เธอหิว เป่าทีหลังไม่ได้หรือไง
แต่พอจะหันไปอ้าปากแย้งก็เห็นคนออกคำสั่งจ้องมาตาเขม็ง คนตะกละเลยยอมเดินกลับไปเป่าผมที่ห้องอย่างหงอยๆ ไม่มีปากมีเสียงแต่อย่างใด นอกจากเสียงท้องที่ร้องโครกครากไปตลอดทางประกอบท่าทางซังกะตายนั้น
เมื่อกลับลงมาอีกครั้ง ลาเต้เย็นและน้ำเปล่าก็ถูกวางไว้บนโต๊ะกินข้าวรอเรียบร้อย พอนั่งเก้าอี้ปุ๊บ คนหิวจนหน้ามืดก็ลงมือซัดอาหารตรงหน้าทันที เมื่อกินไปได้ครึ่งจาน คนนั่งฝั่งตรงข้ามก็เอ่ยขึ้น
“ผมโทร.ไปเช็กกับศิลป์แล้วนะ เห็นว่าการไฟฟ้าฯ ซ่อมไฟให้เสร็จแล้ว แต่ผมดูพยากรณ์อากาศคืนนี้ฝนท่าจะตกหนักกว่าเมื่อคืน คุณจะอยู่ห้องผมต่ออีกคืนไหม คุณแม่คุณกลับมาพรุ่งนี้ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
ภควัตน์เอ่ยบอก ทว่าวรีวาฏิกานิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะปฏิเสธอย่างเรียบง่ายว่า
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ วาคิดไว้แล้วว่าคืนนี้จะไปขอนอนกับคุณย่า ไม่ได้กลับไปนอนหลายปีแล้ว ถือโอกาสนี้กลับไปค้างกับท่านเสียเลยก็ดี”
“โอเค งั้นผมจะบอกศิลป์ให้มารับคุณที่นี่”
แล้วต่างคนก็ต่างกลับไปสนใจอาหารในจานตัวเองตามเดิม จนกระทั่งกินเสร็จ และดื่มกาแฟหมดแก้ว วรีวาฏิกาถึงเอ่ยถามอย่างเกรงๆ
“คือจริงๆ ฉันมีเรื่องจะถามคุณอีกเรื่องนึงค่ะ เป็นเรื่องที่ฉันอยากรู้มากๆ”
ภควัตน์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต หญิงสาวอยากจะโพล่งถามออกไปเสียเดี๋ยวนั้นว่า ผู้หญิงที่เคยมานอนห้องที่เธอนอนเมื่อคืนคือใคร ใบ้อักษรย่อก็ได้ เพราะจะยิ่งทำให้การเมาท์ของเธอกับเพื่อนในวันนี้สนุกยิ่งกว่าเดิม
แต่เธอกล้าถามไหม...ก็ไม่
วรีวาฏิกาเลยถามสิ่งที่อยากรู้รองลงมาแทน
“เตียงที่ห้องยี่ห้ออะไรเหรอคะ นอนสบายมากเลย นี่อยากจะไปซื้อตามเลยค่ะ”
พอเขาบอกยี่ห้อมา รวมถึงสนนราคา คนถามก็เปลี่ยนไปหน้าตาห่อเหี่ยว ก่อนจะเอ่ยปิดบทสนทนาอย่างปลงๆ ว่า
“แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้สินะคะ ชาตินี้วาคงไม่มีปัญญาซื้อเตียงยี่ห้อเดียวกับคุณแน่ๆ”
“ก็ไม่แน่”
เจ้าของห้องตอบพร้อมยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย ทำให้คนที่เพิ่งทำท่าหมดอาลัยตายอยากอยู่เมื่อครู่คิดขึ้นมาได้ว่า จริงๆ แล้วถ้าเธอได้สมบัติคุณย่าเมื่อไร เธอก็จะเป็นถึงเศรษฐีนีเมืองไทยเลยนี่นา...! ถึงจะอีกหลายสิบปีก็เถอะ ถึงตอนนั้น แก่ตัวไปมีเตียงนอนสบายก็ถือเป็นกำไรของชีวิตแล้ว
โอ้หนอ วรีวาฏิกา ทำไมเธอช่างเห็นเรื่องนอนเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้!
****************
บ่ายวันนั้น ศิลป์รับหน้าที่เป็นคนขับไปส่งเธอที่คาเฟ่ในย่านสุขุมวิท เมื่อเจอเพื่อนปุ๊บ วรีวาฏิกาก็ปฏิบัติการถ่ายทอดสิ่งที่ไปเห็นมาทันที แต่ใครจะไปคิดว่ามะลิเพื่อนเธอจะจริงจังกับการสอดรู้สอดเห็นห้องน้ำชาวบ้านเป็นอย่างมาก
“แกบอกว่ามีครบเลยใช่ไหม แล้วจำยี่ห้อได้หรือเปล่า แม้แต่ยี่ห้อแชมพูก็นำมาประกอบการวิเคราะห์ได้นะแกว่า เป็นผู้หญิงบุคลิกแบบไหน รายได้เท่าไร ฉะนั้นแกต้องร่ายยี่ห้อของใช้แต่ละอย่างมาให้หมดเดี๋ยวนี้”
เออ นี่เพื่อนเธอหรือโคนันอวตารลงมา พูด!
หลังจากที่วรีวาฏิกาแจกแจงบรรดายี่ห้อของใช้ทั้งหลายให้ฟังเสร็จ มะลิก็ทำการวิเคราะห์ลักษณะของผู้หญิงปริศนาในมโนจิตทันที ได้ความว่า
“น่าจะเป็นผู้หญิงแมสๆ นะแก ของใช้ส่วนตัวก็ธรรมดา หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เพราะฉะนั้นฉันว่าไม่น่าจะเป็นไฮโซแน่นอน แถมยังชอบใช้ของที่เป็นยี่ห้อสำหรับเด็ก แสดงว่าต้องมีปัญหาผิวแพ้ง่าย กลัวระคายเคือง แล้วแชมพูนี่ต้องเป็นคนผมยาวแน่เลยแกเพราะเป็นสูตรสำหรับผมยาว เงางาม แข็งแรง และฉันว่าต้องเป็นคนไทย เพราะมันยี่ห้อที่นิยมในเมืองไทยทั้งนั้น แกว่าเป็นไปได้ไหมว่าเป็นสาวออฟฟิศทั่วไป!”
โห ถ้าจะวิเคราะห์ละเอียดขนาดนี้ เธอขอให้มะลิไปอยู่หน่วยสืบสวนสอบสวนของตำรวจน่าจะดีกว่า
ถึงแม้จะวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งแบบเพื่อนไม่ได้ แต่วรีวาฏิกาก็ยังไม่วายอยากมีส่วนร่วม เสริมข้อสันนิษฐานของตัวเองเข้าไปว่า
“ฉันว่าต้องอายุประมาณสิบเก้าถึงยี่สิบเอ็ดปี ไม่แน่อาจเป็นเด็กมหา’ ลัย...หรือคุณภควัตน์เลี้ยงเด็กไว้! ต้องใช่แน่ๆ เลยแก!”
จบการสันนิษฐานแบบมั่วๆ นั่นปุ๊บ มะลิก็รีบเบรกเพื่อนทันที
“เดี๋ยวๆๆๆๆ อะไรที่ทำให้แกคิดว่าเมียเก็บของคุณพาร์คต้องอายุราวๆ นั้นไม่ทราบ จะวิเคราะห์อะไรต้องมีที่มาที่ไปเหมือนฉันนี่ ข้อสังเกตแกคืออะไร แจกแจงมา”
“ก็เทียบกับตัวฉันเองไง ยี่ห้อพวกนั้นฉันเคยใช้สมัยเรียนมหา’ ลัย เคยใช้มาหมดทุกยี่ห้อแล้วด้วย ตั้งแต่แชมพู ครีมอาบน้ำ ยันยาสีฟันเลยล่ะแก ฉันว่าเขาเลี้ยงเด็กมหา’ ลัยชัวร์ เชื่อฉัน!”
วรีวาฏิกาสรุปเช่นนั้น มะลิก็มองมาด้วยสายตาทึ่งแกมเลื่อมใสทันที หลังจากนั้นสองสาวก็นั่งพูดเรื่องชาวบ้านกันอย่างเมามันต่อ ลากยาวไปจนถึงการคาดเดาว่าภควัตน์ให้เงินสาวมหาวิทยาลัยคนนั้นเดือนละเท่าไร พร้อมสวัสดิการอย่างอื่นอะไรอีกบ้างอย่างสนุกสนาน
ใช่ หน้าสด! เธอแคร์เสียที่ไหน โทรมกว่านี้ภควัตน์ก็เคยเห็นมาแล้ว ตอนเขาใช้งานเธอเยี่ยงทาสนั่นไง เพราะฉะนั้นตัดกระบวนการแต่งหน้าให้เสียเวลาไปได้เลย เธอจะลงไปทั้งหน้าสดๆ แบบนี้นี่แหละ
ทั้งหมดนี้หญิงสาวใช้เวลาเพียงสิบนาทีเท่านั้น เมื่อลงไปถึงชั้นล่างคนเพิ่งตื่นนอนก็ตรงดิ่งตามกลิ่นหอมไปยังโต๊ะกินข้าวที่ติดกับครัวแบบเปิดของเขาทันที
และเธอก็พบว่า ไข่เบเนดิกต์ (Egg Benedict) บนโต๊ะดูน่ากินมากๆ
แต่ยังไม่ทันจะได้เอาส้อมจิ้มไข่แดงให้แตกอย่างที่ตั้งใจ ผ้าขนหนูก็ถูกวางแหมะลงบนหัวพอดี ตามมาด้วยเสียงสั่งแบบดุๆ
“ไปเป่าผมให้แห้ง แล้วค่อยลงมากินข้าว”
โอย เธอหิว เป่าทีหลังไม่ได้หรือไง
แต่พอจะหันไปอ้าปากแย้งก็เห็นคนออกคำสั่งจ้องมาตาเขม็ง คนตะกละเลยยอมเดินกลับไปเป่าผมที่ห้องอย่างหงอยๆ ไม่มีปากมีเสียงแต่อย่างใด นอกจากเสียงท้องที่ร้องโครกครากไปตลอดทางประกอบท่าทางซังกะตายนั้น
เมื่อกลับลงมาอีกครั้ง ลาเต้เย็นและน้ำเปล่าก็ถูกวางไว้บนโต๊ะกินข้าวรอเรียบร้อย พอนั่งเก้าอี้ปุ๊บ คนหิวจนหน้ามืดก็ลงมือซัดอาหารตรงหน้าทันที เมื่อกินไปได้ครึ่งจาน คนนั่งฝั่งตรงข้ามก็เอ่ยขึ้น
“ผมโทร.ไปเช็กกับศิลป์แล้วนะ เห็นว่าการไฟฟ้าฯ ซ่อมไฟให้เสร็จแล้ว แต่ผมดูพยากรณ์อากาศคืนนี้ฝนท่าจะตกหนักกว่าเมื่อคืน คุณจะอยู่ห้องผมต่ออีกคืนไหม คุณแม่คุณกลับมาพรุ่งนี้ท่านจะได้ไม่ต้องเป็นห่วง”
ภควัตน์เอ่ยบอก ทว่าวรีวาฏิกานิ่วหน้าเล็กน้อยก่อนจะปฏิเสธอย่างเรียบง่ายว่า
“ไม่รบกวนดีกว่าค่ะ วาคิดไว้แล้วว่าคืนนี้จะไปขอนอนกับคุณย่า ไม่ได้กลับไปนอนหลายปีแล้ว ถือโอกาสนี้กลับไปค้างกับท่านเสียเลยก็ดี”
“โอเค งั้นผมจะบอกศิลป์ให้มารับคุณที่นี่”
แล้วต่างคนก็ต่างกลับไปสนใจอาหารในจานตัวเองตามเดิม จนกระทั่งกินเสร็จ และดื่มกาแฟหมดแก้ว วรีวาฏิกาถึงเอ่ยถามอย่างเกรงๆ
“คือจริงๆ ฉันมีเรื่องจะถามคุณอีกเรื่องนึงค่ะ เป็นเรื่องที่ฉันอยากรู้มากๆ”
ภควัตน์พยักหน้าเป็นเชิงอนุญาต หญิงสาวอยากจะโพล่งถามออกไปเสียเดี๋ยวนั้นว่า ผู้หญิงที่เคยมานอนห้องที่เธอนอนเมื่อคืนคือใคร ใบ้อักษรย่อก็ได้ เพราะจะยิ่งทำให้การเมาท์ของเธอกับเพื่อนในวันนี้สนุกยิ่งกว่าเดิม
แต่เธอกล้าถามไหม...ก็ไม่
วรีวาฏิกาเลยถามสิ่งที่อยากรู้รองลงมาแทน
“เตียงที่ห้องยี่ห้ออะไรเหรอคะ นอนสบายมากเลย นี่อยากจะไปซื้อตามเลยค่ะ”
พอเขาบอกยี่ห้อมา รวมถึงสนนราคา คนถามก็เปลี่ยนไปหน้าตาห่อเหี่ยว ก่อนจะเอ่ยปิดบทสนทนาอย่างปลงๆ ว่า
“แข่งอะไรก็แข่งได้ แต่แข่งบุญแข่งวาสนามันแข่งกันไม่ได้สินะคะ ชาตินี้วาคงไม่มีปัญญาซื้อเตียงยี่ห้อเดียวกับคุณแน่ๆ”
“ก็ไม่แน่”
เจ้าของห้องตอบพร้อมยิ้มกริ่มอย่างมีเลศนัย ทำให้คนที่เพิ่งทำท่าหมดอาลัยตายอยากอยู่เมื่อครู่คิดขึ้นมาได้ว่า จริงๆ แล้วถ้าเธอได้สมบัติคุณย่าเมื่อไร เธอก็จะเป็นถึงเศรษฐีนีเมืองไทยเลยนี่นา...! ถึงจะอีกหลายสิบปีก็เถอะ ถึงตอนนั้น แก่ตัวไปมีเตียงนอนสบายก็ถือเป็นกำไรของชีวิตแล้ว
โอ้หนอ วรีวาฏิกา ทำไมเธอช่างเห็นเรื่องนอนเป็นเรื่องใหญ่เช่นนี้!
****************
บ่ายวันนั้น ศิลป์รับหน้าที่เป็นคนขับไปส่งเธอที่คาเฟ่ในย่านสุขุมวิท เมื่อเจอเพื่อนปุ๊บ วรีวาฏิกาก็ปฏิบัติการถ่ายทอดสิ่งที่ไปเห็นมาทันที แต่ใครจะไปคิดว่ามะลิเพื่อนเธอจะจริงจังกับการสอดรู้สอดเห็นห้องน้ำชาวบ้านเป็นอย่างมาก
“แกบอกว่ามีครบเลยใช่ไหม แล้วจำยี่ห้อได้หรือเปล่า แม้แต่ยี่ห้อแชมพูก็นำมาประกอบการวิเคราะห์ได้นะแกว่า เป็นผู้หญิงบุคลิกแบบไหน รายได้เท่าไร ฉะนั้นแกต้องร่ายยี่ห้อของใช้แต่ละอย่างมาให้หมดเดี๋ยวนี้”
เออ นี่เพื่อนเธอหรือโคนันอวตารลงมา พูด!
หลังจากที่วรีวาฏิกาแจกแจงบรรดายี่ห้อของใช้ทั้งหลายให้ฟังเสร็จ มะลิก็ทำการวิเคราะห์ลักษณะของผู้หญิงปริศนาในมโนจิตทันที ได้ความว่า
“น่าจะเป็นผู้หญิงแมสๆ นะแก ของใช้ส่วนตัวก็ธรรมดา หาซื้อได้ตามซูเปอร์มาร์เก็ตทั่วไป เพราะฉะนั้นฉันว่าไม่น่าจะเป็นไฮโซแน่นอน แถมยังชอบใช้ของที่เป็นยี่ห้อสำหรับเด็ก แสดงว่าต้องมีปัญหาผิวแพ้ง่าย กลัวระคายเคือง แล้วแชมพูนี่ต้องเป็นคนผมยาวแน่เลยแกเพราะเป็นสูตรสำหรับผมยาว เงางาม แข็งแรง และฉันว่าต้องเป็นคนไทย เพราะมันยี่ห้อที่นิยมในเมืองไทยทั้งนั้น แกว่าเป็นไปได้ไหมว่าเป็นสาวออฟฟิศทั่วไป!”
โห ถ้าจะวิเคราะห์ละเอียดขนาดนี้ เธอขอให้มะลิไปอยู่หน่วยสืบสวนสอบสวนของตำรวจน่าจะดีกว่า
ถึงแม้จะวิเคราะห์อย่างลึกซึ้งแบบเพื่อนไม่ได้ แต่วรีวาฏิกาก็ยังไม่วายอยากมีส่วนร่วม เสริมข้อสันนิษฐานของตัวเองเข้าไปว่า
“ฉันว่าต้องอายุประมาณสิบเก้าถึงยี่สิบเอ็ดปี ไม่แน่อาจเป็นเด็กมหา’ ลัย...หรือคุณภควัตน์เลี้ยงเด็กไว้! ต้องใช่แน่ๆ เลยแก!”
จบการสันนิษฐานแบบมั่วๆ นั่นปุ๊บ มะลิก็รีบเบรกเพื่อนทันที
“เดี๋ยวๆๆๆๆ อะไรที่ทำให้แกคิดว่าเมียเก็บของคุณพาร์คต้องอายุราวๆ นั้นไม่ทราบ จะวิเคราะห์อะไรต้องมีที่มาที่ไปเหมือนฉันนี่ ข้อสังเกตแกคืออะไร แจกแจงมา”
“ก็เทียบกับตัวฉันเองไง ยี่ห้อพวกนั้นฉันเคยใช้สมัยเรียนมหา’ ลัย เคยใช้มาหมดทุกยี่ห้อแล้วด้วย ตั้งแต่แชมพู ครีมอาบน้ำ ยันยาสีฟันเลยล่ะแก ฉันว่าเขาเลี้ยงเด็กมหา’ ลัยชัวร์ เชื่อฉัน!”
วรีวาฏิกาสรุปเช่นนั้น มะลิก็มองมาด้วยสายตาทึ่งแกมเลื่อมใสทันที หลังจากนั้นสองสาวก็นั่งพูดเรื่องชาวบ้านกันอย่างเมามันต่อ ลากยาวไปจนถึงการคาดเดาว่าภควัตน์ให้เงินสาวมหาวิทยาลัยคนนั้นเดือนละเท่าไร พร้อมสวัสดิการอย่างอื่นอะไรอีกบ้างอย่างสนุกสนาน
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 9 มี.ค. 2564, 09:52:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 9 มี.ค. 2564, 09:52:41 น.
จำนวนการเข้าชม : 426
<< บทที่ 20 -60% | บทที่ 20 -100% >> |