ร้อยเล่ห์เสน่นารายณ์
เรื่องราวของ นารายณ์ น้องชายของนลิน นางเอกจาก ร้อยเล่ห์...นายเหมันต์ นายรายน์เป็นหนุ่มเมืองจันทบุรีที่เคยเกเร และกลับตัวกลับใจเป็นคนดีเพราะพ่อป่วย จนต้องมาช่วยดูแลสวนผลไม้ทั้งๆ ที่ยังเรียนอยู่ เวลาผ่านไปหลายปี นารายณ์เติบโตขึ้นเกินอายุ ตอนนี้เขาสามารถดูแลครอบครัวได้เป็นอย่างดี มีชีวิตที่ปกติสุข...จนกระทั่งวันหนึ่ง เขาได้รับการขอร้องให้ทำอะไรบางอย่างที่...ทำให้ชีวิตธรรมดาๆ ของเขาเปลี่ยนไปตลอดกาล
ตัวละครหลัก
นารายณ์ ชายหนุ่ม อายุ 25 ปี เจ้าของสวนผลไม้ที่มีแนวคิดทำสวนยังไงให้สบายและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
ปานดาว นางแบบ เน็ตไอดอล อายุ 19 ปี ลูกสาวคนเล็กของ ดร.วิทยา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่ง เป็นลูกหลงที่อายุห่างจากพี่สาว (ที่เสียชีวิตไปแล้ว) หลายปี
ชานนท์ อายุ 20 ปี รุ่นพี่และคนรักของปานดาว ลูกชายนายทหารใหญ่ เป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก
เหมัตน์ ชายหนุ่มอายุ 27 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการจัดการการเกษตรจากประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของบริษัททำ plant factory ที่ต้นทุนต่ำที่สุดของประเทศในปัจจุบัน เป็นประธานชมรมการพัฒนามาตรฐานพืชโรงเรือนแบบปิดของประเทศ
นลิน ดร.อายุ 32 ปี ภรรยาของเหมันต์ ปัจจุบันผันตัวมาเป็นผู้ดูแลระบบหลังบ้าน และการประสานงานกับลูกค้าต่างประเทศให้บริษัทของเหมันต์
ตัวละครหลัก
นารายณ์ ชายหนุ่ม อายุ 25 ปี เจ้าของสวนผลไม้ที่มีแนวคิดทำสวนยังไงให้สบายและได้ประสิทธิภาพมากที่สุด
ปานดาว นางแบบ เน็ตไอดอล อายุ 19 ปี ลูกสาวคนเล็กของ ดร.วิทยา อธิการบดีมหาวิทยาลัยอาชีวะศึกษาแห่งหนึ่ง เป็นลูกหลงที่อายุห่างจากพี่สาว (ที่เสียชีวิตไปแล้ว) หลายปี
ชานนท์ อายุ 20 ปี รุ่นพี่และคนรักของปานดาว ลูกชายนายทหารใหญ่ เป็นคนไม่ค่อยมั่นใจในตัวเองนัก
เหมัตน์ ชายหนุ่มอายุ 27 ปี จบการศึกษาระดับปริญญาโทด้านเทคโนโลยีการจัดการการเกษตรจากประเทศญี่ปุ่น เป็นเจ้าของบริษัททำ plant factory ที่ต้นทุนต่ำที่สุดของประเทศในปัจจุบัน เป็นประธานชมรมการพัฒนามาตรฐานพืชโรงเรือนแบบปิดของประเทศ
นลิน ดร.อายุ 32 ปี ภรรยาของเหมันต์ ปัจจุบันผันตัวมาเป็นผู้ดูแลระบบหลังบ้าน และการประสานงานกับลูกค้าต่างประเทศให้บริษัทของเหมันต์
Tags: ร้อยเล่ห์, นารายณ์, เหมันต์, นิยายรัก
ตอน: คุณจะได้รู้จักนารายณ์ตัวจริงเสียที
สวนของครอบครัวนารายณ์มีชื่อเสียงขึ้นมาเพราะสามารถผลิตมังคุดนอกฤดูได้รสดีและมีผลผลิตที่ดีกว่าในฤดู ราคาของมังคุดที่ได้สูงมากในขณะที่เขาสามารถลดต้นทุนปุ๋ย ยา และการบริหารจัดการอื่นๆ ได้ แถมมีแพ็กเกจสุดเก๋ที่ส่งตรงถึงลูกค้าโดยตรง จนทำให้สวนอื่นๆ ขอเข้ามาดูงาน แต่เขาขอเปิดให้ดูงานในปีหน้าเพราะอยากเตรียมการต่างๆ และมั่นใจก่อนว่าผลผลิตนอกฤดูจะดีแบบนี้ติดต่อกันในปีที่สาม
'ทำไมเราต้องกินมังคุดได้เฉพาะเดือนมีนา-เมษา' เหมันต์เคยถามนารายณ์เมื่อปีแรกๆ ที่เขามาช่วยติดตั้งระบบในสวน
'ทำให้ออกนอกฤดูยาก' นารายณ์จำได้ว่าตอบแบบนั้น 'ต้องใช้ทั้งคนทั้งเงิน ไม่คุ้มเสี่ยงหรอก'
'แสดงว่ามีวิธี'
'มี ปกติก็จะมีหลงมานอกฤดูบ้าง แต่ก็ตามมีตามเกิด ได้ตามดินฟ้าอากาศ'
'งั้นไปหาวิธีที่มันชนะโชคชะตากัน'
การทำมังคุดนอกฤดูให้ได้ดีเริ่มจากคำถามง่ายๆ แบบนั้น เหมันต์เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยอย่างแท้จริง เมื่อเขาสงสัยเขาต้องได้ข้อมูลเพื่ออธิบาย ส่วนนารายณ์เป็นคนที่ชอบความท้าทาย พอเหมันต์ชวนและรู้สึกว่ามันดูท้าทายดี เขาก็เลยอยากทำ
การทำอะไรที่เริ่มมาจากการนึกสนุก สนใจใคร่รู้ ไม่คาดหวัง แต่ทำจริงจัง มันได้ผลตอบแทนที่แตกต่างในทางที่ดีเสมอ
นอกจากเอกสารข้อมูลต่างๆ นารายณ์ยังพาเหมันต์ไปดูสวนต่างๆ ที่ทำมังคุดนอกฤดูได้ ซึ่งมีไม่กี่สวนนักที่ทำได้ดี แต่ก็ยังไม่ดีมากเท่ามังคุดในฤดูกาล
หลังจากพูดคุยกับเหมันต์และหาข้อมูลอย่างรอบคอบ นารายณ์ตัดสินใจเริ่มทำมังคุดนอกฤดู เขาเริ่มจากไม่กี่สิบต้น และขยายเพิ่มทีละนิด การคุมน้ำ ปุ๋ย มีส่วนสนับสนุนให้ผลไม้ออกนอกฤดู แต่ต้องใช้ร่วมกับพันธุ์ของมังคุดด้วย สำหรับต้นเก่าได้ผลผลิตไม่มาก แต่ชุดใหม่นารายณ์หวังว่าจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่มังคุดต้นหนึ่งก็ใช้เวลาหลายปีจึงจะออกดอก เขาจึงจัดการกับสวนที่มีต้นเก่าไปก่อน
สามปีกับการทุ่มเท ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัว
พอเริ่มลงตัวก็มีเรื่องใหม่มาให้คิด...ปานดาว
แม่ของเขาโทรมา และอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ดอกเตอร์วิทยา ก็โทรมาหาเขาด้วยตัวเอง
"รายณ์รู้เรื่องที่อาจารย์ขอให้ช่วยแล้วใช่ไหม" ผู้ชายสูงวัยใจดีที่มีพระคุณอย่างมากต่อพี่สาวและพี่เขยของเขาเอ่ยเสียงเบา
"ครับ" นารายณ์ตอบเสียงเบาพอกัน
"ฉันหมดจนหนทางจริงๆ ทางครอบครัวโน้นยื่นข้อเสนอมา ไม่เช่นนั้นยัยดาวจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วยจำนวนเงินที่ฉันเองก็...คิดว่าสู้ไม่ไหว แถมทางนั้นจะเอาคลิปที่ถูกแอบถ่ายไว้มาประจาน" คนที่อยู่เมืองจันท์ได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย
"คลิปเหรอครับ"
ข้อมูลใหม่...แย่งแฟนชาวบ้าน เมาอาละวาด คลิป...คุณเอาทุกอย่างเลยนะคุณดาว
"ใช่...ดาวทำอะไรที่ เอ่อ...อาจทำให้แกไม่สามารถมีหน้ากลับมาอยู่ในสังคมได้อีกเลย" เสียงผู้เป็นพ่อสั่นเครือ "เรื่องเงินฉันไม่เกี่ยงแต่...รับไม่ไหวจริงๆ กับเรื่องนี้ สงสารลูก"
"ข้อเสนอทางโน้นแค่แต่งงานหรือครับ" นารายณ์ถาม "ง่ายๆ แค่นั้นเองเหรอครับ"
"ข้อตกลงทั้งหมดที่ทนายต่อรองมาได้คือ ดาวต้องแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ไม่เข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างน้อยห้าปี พร้อมจ่ายค่าเสียหายอีกห้าล้าน"
นารายณ์ถอนหายใจ
"นี่ต่อรองแล้วนะ"
"ครับ" เขาพูดได้แค่นั้น
"อย่างน้อยก็ต้องเอาดาวให้อยู่สักหกเดือน ให้ข่าวเงียบและแฟนของดาวแต่งงานเรียบร้อยก่อน รายณ์ไหวไหม"
ชายหนุ่มเหม่อมองสวนผลไม้ของครอบครัว มองคนงานหลายสิบคนที่กำลังทำงานอยู่ไกล ๆ มันใช่เรื่องของเขาที่จะตอบว่าไหวหรือไม่ไหวไหมล่ะ แม่ตัวดีนั่นทำตัวเองแท้ๆ
ถ้าเป็นลูกของเขา จะจับตีก้นแรง ๆ สักสิบที
"ผม..."
"ไม่เป็นไร" เสียงอาจารย์วิทยาแผ่วเศร้า "ฉันเข้าใจ"
"...อาจารย์ครับ ผมไม่ได้ปฏิเสธ" ชายหนุ่มรีบตอบกลับ "แต่...ผมไม่รู้ว่าจะเอาคุณดาวอยู่หรือเปล่า ช่วงนี้งานสวนก็ยุ่งมาก พ่อก็ป่วยหนัก...ผมว่าแค่สามวันเธอก็อยู่ที่นี่ไม่ไหวแล้ว"
เขาจำเป็นต้องพูดเรื่องจริง ผู้หญิงผิวบาง ที่ไม่เคยทำอะไรจริงจัง คุ้นเคยกับการอยู่ท่ามกลางแสงไฟ แอร์คอนดิชัน มากกว่าแสงอาทิตย์แบบนั้นจะอยู่เมืองจันทบุรีได้สักกี่วัน
"..."
นารายณ์ได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจบางเบา
ความจริงที่เจ็บปวด ผู้หญิงคนนั้นถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ เอาแต่ใจ ไม่เคยต้องจับต้องอะไรที่เป็นงานหนัก
"ฉัน...เลี้ยงลูกได้ไม่ดีสักคน เป็นฉันเอง..."
คราวนี้นารายณ์เป็นฝ่ายถอนหายใจ การได้ไปอยู่กับอาจารย์วิทยาช่วงสั้นๆ ทำให้เขาได้รู้ว่า ผู้ชายที่กำลังโทษตัวเองเป็นคนดี แต่ใจอ่อนและมักยอมตามใจคนอื่นโดยเฉพาะลูกกับเมียมากเกินไป มันก็เลยทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น
"ไม่ใช่เวลาที่จะมาโทษตัวเองแล้วครับ" เด็กหนุ่มพูดตรง ถ้าเป็นเมื่อห้าปีก่อนเขาคงเงียบ ฟังอย่างเดียว เวลาที่ผ่านไป การที่เขาต้องรับผิดชอบอะไรมากขึ้นจนแทบจะเป็นรับผิดชอบครอบครัวทั้งหมดแทนพ่อซึ่งป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเป็นคนกล้าตัดสินใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
"เสาร์อาทิตย์นี้อาจารย์สะดวกมาเมืองจันท์ไหมครับ ช่วงนั้นน่าจะพอว่าง เดี๋ยวจะให้พี่ลินช่วยเรื่องจัดเตรียมงานและเตรียมของส่วนของเจ้าสาว แม่คงช่วยเรื่อง..."
"รายณ์..." เสียงดังสวนมาทางโทรศัพท์ทั้งๆ ที่เขายังพูดไม่จบ
"ครับ"
"ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอก แค่รับปากจะช่วย...ฉันก็ดีใจเหลือเกินแล้ว"
"ครับ" นารายณ์รับคำเสียงเบา คิดในใจว่า อาจารย์ดีใจ แต่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ที่บ้าน และได้ข่าวว่าป่วนพี่นุจไปหลายเรื่องจะพอใจ หรือรู้สึกอย่างไรกับข่าวนี้
แต่ใครล่ะจะสนว่าเธอคิดยังไง
คุณดาว...จู่ๆ คุณก็ลอยมาให้ผมจัดการเอาง่ายๆ ด้วยข้อผูกมัดที่คุณทำให้มันเกิดขึ้นเอง
ถึงเวลาเช็กบิลเรื่องที่คุณทำไว้เมื่อห้าปีก่อนแล้วนะ...
คราวนี้ คุณจะได้รู้จักนารายณ์ตัวจริงเสียที!
'ทำไมเราต้องกินมังคุดได้เฉพาะเดือนมีนา-เมษา' เหมันต์เคยถามนารายณ์เมื่อปีแรกๆ ที่เขามาช่วยติดตั้งระบบในสวน
'ทำให้ออกนอกฤดูยาก' นารายณ์จำได้ว่าตอบแบบนั้น 'ต้องใช้ทั้งคนทั้งเงิน ไม่คุ้มเสี่ยงหรอก'
'แสดงว่ามีวิธี'
'มี ปกติก็จะมีหลงมานอกฤดูบ้าง แต่ก็ตามมีตามเกิด ได้ตามดินฟ้าอากาศ'
'งั้นไปหาวิธีที่มันชนะโชคชะตากัน'
การทำมังคุดนอกฤดูให้ได้ดีเริ่มจากคำถามง่ายๆ แบบนั้น เหมันต์เป็นนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยอย่างแท้จริง เมื่อเขาสงสัยเขาต้องได้ข้อมูลเพื่ออธิบาย ส่วนนารายณ์เป็นคนที่ชอบความท้าทาย พอเหมันต์ชวนและรู้สึกว่ามันดูท้าทายดี เขาก็เลยอยากทำ
การทำอะไรที่เริ่มมาจากการนึกสนุก สนใจใคร่รู้ ไม่คาดหวัง แต่ทำจริงจัง มันได้ผลตอบแทนที่แตกต่างในทางที่ดีเสมอ
นอกจากเอกสารข้อมูลต่างๆ นารายณ์ยังพาเหมันต์ไปดูสวนต่างๆ ที่ทำมังคุดนอกฤดูได้ ซึ่งมีไม่กี่สวนนักที่ทำได้ดี แต่ก็ยังไม่ดีมากเท่ามังคุดในฤดูกาล
หลังจากพูดคุยกับเหมันต์และหาข้อมูลอย่างรอบคอบ นารายณ์ตัดสินใจเริ่มทำมังคุดนอกฤดู เขาเริ่มจากไม่กี่สิบต้น และขยายเพิ่มทีละนิด การคุมน้ำ ปุ๋ย มีส่วนสนับสนุนให้ผลไม้ออกนอกฤดู แต่ต้องใช้ร่วมกับพันธุ์ของมังคุดด้วย สำหรับต้นเก่าได้ผลผลิตไม่มาก แต่ชุดใหม่นารายณ์หวังว่าจะได้เต็มเม็ดเต็มหน่วย แต่มังคุดต้นหนึ่งก็ใช้เวลาหลายปีจึงจะออกดอก เขาจึงจัดการกับสวนที่มีต้นเก่าไปก่อน
สามปีกับการทุ่มเท ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มลงตัว
พอเริ่มลงตัวก็มีเรื่องใหม่มาให้คิด...ปานดาว
แม่ของเขาโทรมา และอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ดอกเตอร์วิทยา ก็โทรมาหาเขาด้วยตัวเอง
"รายณ์รู้เรื่องที่อาจารย์ขอให้ช่วยแล้วใช่ไหม" ผู้ชายสูงวัยใจดีที่มีพระคุณอย่างมากต่อพี่สาวและพี่เขยของเขาเอ่ยเสียงเบา
"ครับ" นารายณ์ตอบเสียงเบาพอกัน
"ฉันหมดจนหนทางจริงๆ ทางครอบครัวโน้นยื่นข้อเสนอมา ไม่เช่นนั้นยัยดาวจะถูกฟ้องเรียกค่าเสียหายด้วยจำนวนเงินที่ฉันเองก็...คิดว่าสู้ไม่ไหว แถมทางนั้นจะเอาคลิปที่ถูกแอบถ่ายไว้มาประจาน" คนที่อยู่เมืองจันท์ได้ยินเสียงถอนหายใจของอีกฝ่าย
"คลิปเหรอครับ"
ข้อมูลใหม่...แย่งแฟนชาวบ้าน เมาอาละวาด คลิป...คุณเอาทุกอย่างเลยนะคุณดาว
"ใช่...ดาวทำอะไรที่ เอ่อ...อาจทำให้แกไม่สามารถมีหน้ากลับมาอยู่ในสังคมได้อีกเลย" เสียงผู้เป็นพ่อสั่นเครือ "เรื่องเงินฉันไม่เกี่ยงแต่...รับไม่ไหวจริงๆ กับเรื่องนี้ สงสารลูก"
"ข้อเสนอทางโน้นแค่แต่งงานหรือครับ" นารายณ์ถาม "ง่ายๆ แค่นั้นเองเหรอครับ"
"ข้อตกลงทั้งหมดที่ทนายต่อรองมาได้คือ ดาวต้องแต่งงานเป็นเรื่องเป็นราว ไม่เข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างน้อยห้าปี พร้อมจ่ายค่าเสียหายอีกห้าล้าน"
นารายณ์ถอนหายใจ
"นี่ต่อรองแล้วนะ"
"ครับ" เขาพูดได้แค่นั้น
"อย่างน้อยก็ต้องเอาดาวให้อยู่สักหกเดือน ให้ข่าวเงียบและแฟนของดาวแต่งงานเรียบร้อยก่อน รายณ์ไหวไหม"
ชายหนุ่มเหม่อมองสวนผลไม้ของครอบครัว มองคนงานหลายสิบคนที่กำลังทำงานอยู่ไกล ๆ มันใช่เรื่องของเขาที่จะตอบว่าไหวหรือไม่ไหวไหมล่ะ แม่ตัวดีนั่นทำตัวเองแท้ๆ
ถ้าเป็นลูกของเขา จะจับตีก้นแรง ๆ สักสิบที
"ผม..."
"ไม่เป็นไร" เสียงอาจารย์วิทยาแผ่วเศร้า "ฉันเข้าใจ"
"...อาจารย์ครับ ผมไม่ได้ปฏิเสธ" ชายหนุ่มรีบตอบกลับ "แต่...ผมไม่รู้ว่าจะเอาคุณดาวอยู่หรือเปล่า ช่วงนี้งานสวนก็ยุ่งมาก พ่อก็ป่วยหนัก...ผมว่าแค่สามวันเธอก็อยู่ที่นี่ไม่ไหวแล้ว"
เขาจำเป็นต้องพูดเรื่องจริง ผู้หญิงผิวบาง ที่ไม่เคยทำอะไรจริงจัง คุ้นเคยกับการอยู่ท่ามกลางแสงไฟ แอร์คอนดิชัน มากกว่าแสงอาทิตย์แบบนั้นจะอยู่เมืองจันทบุรีได้สักกี่วัน
"..."
นารายณ์ได้ยินเสียงอีกฝ่ายถอนหายใจบางเบา
ความจริงที่เจ็บปวด ผู้หญิงคนนั้นถูกเลี้ยงมาอย่างตามใจ เอาแต่ใจ ไม่เคยต้องจับต้องอะไรที่เป็นงานหนัก
"ฉัน...เลี้ยงลูกได้ไม่ดีสักคน เป็นฉันเอง..."
คราวนี้นารายณ์เป็นฝ่ายถอนหายใจ การได้ไปอยู่กับอาจารย์วิทยาช่วงสั้นๆ ทำให้เขาได้รู้ว่า ผู้ชายที่กำลังโทษตัวเองเป็นคนดี แต่ใจอ่อนและมักยอมตามใจคนอื่นโดยเฉพาะลูกกับเมียมากเกินไป มันก็เลยทำให้เรื่องทั้งหมดเกิดขึ้น
"ไม่ใช่เวลาที่จะมาโทษตัวเองแล้วครับ" เด็กหนุ่มพูดตรง ถ้าเป็นเมื่อห้าปีก่อนเขาคงเงียบ ฟังอย่างเดียว เวลาที่ผ่านไป การที่เขาต้องรับผิดชอบอะไรมากขึ้นจนแทบจะเป็นรับผิดชอบครอบครัวทั้งหมดแทนพ่อซึ่งป่วยหนักขึ้นเรื่อยๆ ทำให้เขาเป็นคนกล้าตัดสินใจและมั่นใจในตัวเองมากขึ้นเรื่อยๆ
"เสาร์อาทิตย์นี้อาจารย์สะดวกมาเมืองจันท์ไหมครับ ช่วงนั้นน่าจะพอว่าง เดี๋ยวจะให้พี่ลินช่วยเรื่องจัดเตรียมงานและเตรียมของส่วนของเจ้าสาว แม่คงช่วยเรื่อง..."
"รายณ์..." เสียงดังสวนมาทางโทรศัพท์ทั้งๆ ที่เขายังพูดไม่จบ
"ครับ"
"ไม่ต้องเตรียมอะไรมากหรอก แค่รับปากจะช่วย...ฉันก็ดีใจเหลือเกินแล้ว"
"ครับ" นารายณ์รับคำเสียงเบา คิดในใจว่า อาจารย์ดีใจ แต่ไม่รู้ว่าคนที่อยู่ที่บ้าน และได้ข่าวว่าป่วนพี่นุจไปหลายเรื่องจะพอใจ หรือรู้สึกอย่างไรกับข่าวนี้
แต่ใครล่ะจะสนว่าเธอคิดยังไง
คุณดาว...จู่ๆ คุณก็ลอยมาให้ผมจัดการเอาง่ายๆ ด้วยข้อผูกมัดที่คุณทำให้มันเกิดขึ้นเอง
ถึงเวลาเช็กบิลเรื่องที่คุณทำไว้เมื่อห้าปีก่อนแล้วนะ...
คราวนี้ คุณจะได้รู้จักนารายณ์ตัวจริงเสียที!
สิรินดา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 7 ก.พ. 2564, 15:41:02 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 7 ก.พ. 2564, 15:41:02 น.
จำนวนการเข้าชม : 566
<< แม่ว่าอะไรนะ! |