ทัณฑ์ทวงรัก: หอมดึก (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เรื่องย่อ
'ศมา' เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนา เขาเป็นวิศวกรหนุ่มที่ทั้งเก่ง ฉลาด จริงใจ และจริงจังไปเสียทุกเรื่อง แต่ว่าชีวิตกลับเล่นตลกกับผู้ชายสายบุญอย่างเขาที่ไม่ว่าจะรักจะชอบใคร ศมาก็เป็นได้แค่พี่ชายที่แสนดีคนหนึ่งเท่านั้น แถมสวรรค์ยังใจร้ายส่งผู้หญิงที่เป็นทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ มาเป็นลูกหนี้เขา!
'ตวงทอง' หล่อนสวย หรู เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา การศึกษา และฐานะหน้าที่การงาน หญิงสาวใช้ชีวิตแบบวัตถุนิยมสุดเหวี่ยง จนวันหนึ่งชีวิตได้ให้บทเรียนกับหล่อน จากคุณหนูไฮโซ ตวงทองกลายเป็นลูกหนี้ที่ต้องหนีหนี้ หาเงินมาใช้หนี้ไปวันๆ สุดท้ายเมื่อเริ่มจนตรอกหล่อนกัดฟันสู้ หันหน้ามาขอเกาะเจ้าหนี้กินเสียดื้อๆ
“ด้านได้ อายอด และฉันจะไม่ยอมอดตาย แค่งานกรรมกรก่อสร้างทำไมฉันจะทำไม่ได้!”
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง ดุจจันทร์ดั้นเมฆ พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า พ่อแง่แม่งอน อบอุ่น ละมุนในหัวใจแน่นอน ใครที่เคยฟิน ตรีเมฆ และจันทน์กะพ้อ ใน "ดุจจันทร์ดั้นเมฆ" มาแล้ว ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้าน booksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช ร้านBestbookSmile และร้าน Julee July
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 476 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 355฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
'ศมา' เป็นผู้ชายธรรมดาคนหนึ่งที่ผู้หญิงทุกคนปรารถนา เขาเป็นวิศวกรหนุ่มที่ทั้งเก่ง ฉลาด จริงใจ และจริงจังไปเสียทุกเรื่อง แต่ว่าชีวิตกลับเล่นตลกกับผู้ชายสายบุญอย่างเขาที่ไม่ว่าจะรักจะชอบใคร ศมาก็เป็นได้แค่พี่ชายที่แสนดีคนหนึ่งเท่านั้น แถมสวรรค์ยังใจร้ายส่งผู้หญิงที่เป็นทุกอย่างที่เขาไม่ชอบ มาเป็นลูกหนี้เขา!
'ตวงทอง' หล่อนสวย หรู เพียบพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตา การศึกษา และฐานะหน้าที่การงาน หญิงสาวใช้ชีวิตแบบวัตถุนิยมสุดเหวี่ยง จนวันหนึ่งชีวิตได้ให้บทเรียนกับหล่อน จากคุณหนูไฮโซ ตวงทองกลายเป็นลูกหนี้ที่ต้องหนีหนี้ หาเงินมาใช้หนี้ไปวันๆ สุดท้ายเมื่อเริ่มจนตรอกหล่อนกัดฟันสู้ หันหน้ามาขอเกาะเจ้าหนี้กินเสียดื้อๆ
“ด้านได้ อายอด และฉันจะไม่ยอมอดตาย แค่งานกรรมกรก่อสร้างทำไมฉันจะทำไม่ได้!”
*********************
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "หอมดึก" (ผู้แต่ง ดุจจันทร์ดั้นเมฆ พนาพร่ำรัก และฝนเมษา ดอกไม้พฤษภา) และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 60-70% ของเรื่องนะคะ เป็นนิยายรักโรแมนติก ดราม่า พ่อแง่แม่งอน อบอุ่น ละมุนในหัวใจแน่นอน ใครที่เคยฟิน ตรีเมฆ และจันทน์กะพ้อ ใน "ดุจจันทร์ดั้นเมฆ" มาแล้ว ห้ามพลาดด้วยประการทั้งปวง #รับประกันความสนุกเช่นเคย!
*******************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่มนะคะ
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์ เช่น ร้านนิยายรัก ร้าน booksforfun ร้านบาร์บี้บิวตี้บุ๊ค(ฉัตรธิดา สำเฮี้ยง) ร้าน Banniyayindy(Budsara Thongrussamee) ร้านหนังสือต้นสน วังหลัง ศิริราช ร้านBestbookSmile และร้าน Julee July
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 476 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 319฿ จากราคาปก 355฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 364฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 389฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann**
Tags: ผู้แต่งยังไม่ได้กำหนด tags ของนิยายเรื่องนี้
ตอน: บทที่ 1 -100%
“นายช่างครับนายช่าง ทางโรงพยาบาลโทร.มาครับ บอกว่าให้ลูกหนี้คนสวยของนายช่างกลับบ้านได้” ช่างเอกเข้ามารายงานต่อนายช่างใหญ่ที่กำลังนั่งจมกองเอกสารอยู่ในสำนักงานก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรรแห่งใหม่ ซึ่งอยู่ใกล้ชายทะเลเมืองท่องเที่ยวชื่อดังแถบภาคตะวันออก
ศมาเงยหน้าขึ้นมองอาการตื่นอย่างไม่จำเป็นของมือขวา แล้วก้มหน้าเซ็นเอกสารต่อ “แล้วยังไง”
“ก็ค่ารักษาพยาบาลสองหมื่นบาท คุณคนนั้นไม่มีจ่ายครับ โรงพยาบาลจะเอาเรื่อง”
“เกี่ยวอะไรกับข้า”
“เห็นเจ้าหน้าที่เขาบอกว่า เธอแจ้งชื่อ นามสกุลนายช่างไว้เป็นญาติผู้ป่วย”
“ฉิบหาย...กูน่ะเหรอญาติ เหอะ เจ้าหนี้ เหยื่อคนโกงละไม่ว่า บอกทางโรงพยาบาลไปว่ากูไม่ใช่ญาติโกโหติกากับคนพรรค์นั้น สาปส่งไปพร้อมๆ กับเงินสามแสน ตัดปัญหาไป”
“เอ่อ...”
“มีอะไรอีก” ดวงตาคมที่มักจะนุ่มนวลอ่อนโยนกับคนส่วนใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นวาววับ น่าเกรงขาม
“อุย มะ...ไม่มีครับผม ผมไปทำงานก่อนนะครับ ไซต์ใหม่ งานเยอะ”
ช่างเอกยิ้มแหะๆ แล้วก็เดินออกไปจากสำนักงานคับแคบแห่งนั้น ศมาจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ช่วงนี้ตรีเมฆสหายรักและเป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่ยื่นมือเข้ามาโอบอุ้มบริษัท พิริยะ คอนสตรักชั่นของเขาติดภารกิจเลี้ยงลูกสาววัยแรกเกิด จึงไม่ได้โผล่มาช่วยบ่อยนัก อีกทั้งโพรเจกต์นี้เป็นงานใหม่ที่เขาเพิ่งประมูลได้มาสดๆ ร้อนๆ จึงมีอะไรมากมายที่จะต้องจัดการ เขาขลุกอยู่ไซต์นี้มาร่วมสัปดาห์แล้วเพื่อเตรียมการทุกอย่างก่อนลงมือก่อสร้างอย่างรอบคอบ
ศมาอยากมีสักสิบมือเพื่อที่จะทำงานเหล่านี้ให้ได้ทัน บางครั้งเขาก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ
**********************
กลางดึกในคืนวันนั้น ที่หน้าบ้านหลังงามของวิศวกรหนุ่มผู้คลำทางกลับบ้านมาจากชลบุรีได้อย่างหน้าทึ่ง เขาเหยียบเบรกรถดังเอี๊ยดขณะที่กำลังขับเลี้ยวเข้าบ้าน หวิดเกือบชนเข้ากับร่างผอมบางสภาพกระเซอะกระเซิงที่จู่ๆ ก็กระโดดเข้ามาขวางราวกับไม่รักชีวิต
“บ้า! เสียสติไปแล้วหรือไง วิ่งมาขวางรถแบบนี้”
ศมาปิดไฟหน้ารถ ผลักประตูเปิดออกด้วยโทสะพุ่งลิ่ว เดินอ้อมไปดูร่างที่กำลังพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นอย่างยากเย็น ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บ ดวงตาวาววับ ชิงชัง
“จะฆ่าฉันหรือไง ไอ้เจ้าหนี้หน้าเลือด”
“เธอ!” ศมาร้องลั่นเมื่อเห็นใบหน้านั้นชัดเจน หล่อนผอมลงมากจนแทบเหลือแต่กระดูก แทบไม่เหลือเค้าคุณหนูเย่อหยิ่งคนเดิม มีก็แต่ดวงตาคู่นั้นที่ยังเหยียดหยันคนอื่นอย่างร้ายกาจ
“เออ ฉันเอง คนที่นายเกือบทำให้ตายทั้งเป็นไปแล้วยังไงล่ะ”
“เกี่ยวอะไรกับผม”
“เกี่ยวสิ” หล่อนร้องลั่น ย่างสามขุมเข้ามาหาเขาราวหญิงเสียสติ ศมาหรี่ตามอง เขาเหนื่อย รำคาญและหงุดหงิด หน้าไหนก็อย่าได้คิดมาหาเรื่องในยามนี้
“นายทวงหนี้ฉันอย่างหน้าเลือด ข่มขู่จะแจ้งความให้ตำรวจมาจับฉัน นายทำให้ฉันไม่มีทางเลือกจนต้อง...จนต้องคิดขายตัว เพราะนายคนเดียว ไอ้คนหน้าเลือด นายเกือบทำให้ฉันตายแล้วรู้ไหม ไอ้คนเลว” มือเล็กกระชากปกเสื้อเขาขยุ้มทึ้ง เหวี่ยงมือไม้ เท้าถีบเตะ เมื่อศมาหลบพลัน หล่อนก็เซแซ่ดๆ พลาดกระแทกเข้ากับประตูรั้วที่เปิดกว้างเสียงดังโครม
เสียงสุนัขข้างบ้านเห่าขรม ศมากัดฟันแน่น บ้านอันแสนสงบสุข สถานที่ส่วนตัวแห่งเดียวในโลกในวันแสนเหนื่อยล้าของเขาถูกผู้หญิงสิ้นคิดคนนี้คุกคามเกินไปแล้ว
“ออกไปจากบ้านผมซะ ไม่อย่างนั้นเธอได้นอนคุกแน่”
“นายมันก็ดีแต่ขู่ หลบหลังตำรวจ ไอ้หน้าตัวเมีย รังแกผู้หญิง”
“เงียบนะตวงทอง!”
โฮ่งๆๆๆ
“ทำไมอายเหรอ” หล่อนแสยะยิ้ม ใบหน้างามบิดเบี้ยวด้วยความชอกช้ำทางจิตใจ หล่อนเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลมาอย่างทุลักทุเล เพียงเพื่อจะมาพบว่าห้องพักที่เช่าไว้มีคนอื่นเข้าครอบครองแล้ว ข้าวของของหล่อนถูกขายทิ้งที่ใต้ถุนอพาร์ตเมนต์นั่นเอง ส่วนที่เหลือก็กองซุกๆ กันอยู่ข้างกองขยะอย่างไร้ค่า
“คนชั้นนายยังรู้จักอายเป็นแล้วฉันล่ะ ฉันเป็นใคร นายทำแบบนี้ไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างหรือไง นายมันหน้าเลือด”
ศมากัดฟันกรอด เขาเกลียดนักพวกชอบเหยียดชนชั้น
“ไปซะ แล้วผมจะถือเสียว่าเงินสามแสนทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร จะได้ไม่ต้องตามมารังควานกันอีก”
“นาย...ฉันไม่ใช่ขอทานนะ! หนี้นายฉันจะใช้คืนให้ แต่นายต้องช่วยฉันก่อน” ตวงทองกัดฟันข่มความอายระคนเกลียดชังเมื่อเอ่ยประโยคนั้น
“ช่วยเธอ ช่วยเรื่องอะไร แล้วทำไมผมต้องช่วยคนขี้โกงด้วย”
“ฉันไม่มีที่อยู่ ไม่มีเงิน ไม่มีแม้เสื้อผ้าจะใส่ นายเห็นไหม ฉันสภาพเหมือนคนจรจัด แต่ฉันทำงานได้ ฉันทำงานให้นาย แลกกับที่อยู่ที่กินและชดใช้หนี้ให้นายทั้งหมด” เป็นครั้งแรกที่ดวงตาวาววับคู่นั้นอ่อนแสงลง ใบหน้าหมองคล้ำโศกสลด
“งานที่พวกผมทำมันงานใช้แรงงาน พวกงานกรรมกร จำที่เธอพูดไม่ได้หรือไง”
“นายจะดุด่าเหยียดหยามยังไงก็ตามใจ ฉันขอแค่งานทำ ฉันรู้ว่านายมีงานให้คนงานทำเยอะแยะ ใช่ไหม”
“บอกตรงๆ นะว่ามันฟังดูไม่เข้าท่าเลย ผมยอมหนี้สูญเสียยังจะดีกว่า” ศมากอดอกมองหล่อน ตวงทองสูดลมหายใจเข้าลึกล้ำ ข่มอารมณ์อดสูใจไว้ภายใต้ดวงตาที่แน่วแน่...คลอด้วยหยาดน้ำใสปานแก้วมณี
“คุณศมา ฉันถูกไอ้แก่นั่นข่มขืน” คำพูดของหล่อนราวกับฟ้าผ่าลงมาระหว่างทั้งสอง ศมายืนนิ่งขึงราวถูกสาป
ตวงทองสูดลมหายใจเข้าลึกล้ำก่อนจะเอ่ยต่อว่า “หมอบอกว่าทางกายฉันอาจจะติดโรคอะไรจากมันมาก็ไม่รู้ ทางใจฉันคงต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ฉันขอแค่งานทำเพื่อแลกกับที่กินที่อยู่ เก็บเงินไว้รักษาตัวนิดหน่อย นอกนั้นคุณหักเงินไว้ใช้หนี้ที่แม่ฉันค้างคุณไว้ได้เลย”
“ผมไม่รู้ว่า...”
“ฉันไหว้คุณก็ได้...”
หัวเข่าบางทรุดลงกับพื้นซีเมนต์แข็งดังกึก ศมานิ่งงัน เขาทำท่าจะถลันเข้าไปประคองให้อีกฝ่ายลุกแต่แล้วก็ยั้งตัวเองไว้ มองร่างเล็กที่ก้มหน้างุดอยู่ต่อหน้าเขาแล้วก็เบือนหน้าหนี ใจพลันนึกถึงน้องสาวคนเล็ก
หากเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับศศิบ้างเขาคงแทบคลั่ง
“ลุกขึ้นเถอะ กลับไปก่อน พรุ่งนี้จะให้ที่บริษัทติดต่อไป”
“ตะ...แต่ เอ่อ”
“ยังมีข้อต่อรองอะไรอีกหรือ” เสียงเขาเข้ม ดวงตาสีนิลวาวดุ ตวงทองหน้าแหย
“ฉันไม่มีที่อยู่แล้ว คืนนี้ยังไม่รู้จะนอนที่ไหน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีกระเป๋าใบนี้ใบเดียว” หล่อนหมายถึงกระเป๋าสะพายใบเดียวกับที่ถือเข้าไปในอุ้งมือมารในคืนนั้น ศมาทำสีหน้าลำบากใจ เวลาล่วงเข้าเที่ยงคืนแล้ว จะเอาเจ้าหล่อนไปฝากไว้เรือนตรีเนตรก็เกรงใจ อีกอย่างหล่อนก็เคยก่อเรื่องใส่ร้ายป้ายสีจันทน์กะพ้อสะใภ้ของบ้านนั้นไว้อย่างร้ายแรงอีกด้วย
“เดินเข้าบ้านไปก่อน ผมจะเอารถไปจอด” เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเรียบ เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยและมองเห็นแผ่นหลังบางผ่ายผอมเดินเข้าไปภายในรั้วบ้าน เขาก็ได้แต่สบถให้กับความใจอ่อนซ้ำๆ ซากๆ ของตนเองอยู่เพียงลำพัง ก่อนจะกดรีโมตปิดประตูใหญ่ไล่หลังตัวเองช้าๆ
“ห้องนี้ยังไม่ได้ตกแต่งอะไร เพราะไม่มีใครอยู่ แต่มีที่นอนอยู่มุมนั้น นี่ผ้าห่ม เสื้อผ้าพวกนี้เธอน่าจะพอใส่ได้ ใช้ไปก่อน”
“ขอบคุณ” หล่อนพึมพำเบาๆ ทันทีที่ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องใหม่เอี่ยม แม้จะโล่งและไร้เครื่องเรือนใดๆ ทั้งสิ้น แต่หล่อนก็รู้สึกปลอดภัยมากโข โล่งใจที่ไม่ต้องไปนอนใต้สะพานหรือข้างกองขยะสักมุมหนึ่งในกรุงเทพฯ ในคืนนี้
ศมามองร่างผอมบางที่ยืนคว้างอยู่กลางห้องราวกับเด็กหลงทางแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ
“คุณหาบ้านผมเจอได้ยังไง”
“ตอนที่รู้ว่ายังติดหนี้คุณ ฉันเคยพยายามติดต่อคุณอยู่พักหนึ่ง ฉันไม่ได้คิดจะเบี้ยวหนี้คุณเลยนะ แต่พอขายบ้านได้ฉันกลับพบว่าเจ้าหนี้รายใหญ่ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว เงินที่จะเอามาให้คุณเลยหมด”
“อืม คุณพักเถอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยเรื่องงานกันอีกที”
“ขอบคุณมากค่ะ” หล่อนประนมมือไหว้เขา
ศมาหันหลังให้ ปิดประตูให้หล่อนแล้วก็ก้าวขึ้นชั้นสองของบ้านไปอย่างเงียบๆ คล้อยหลังชายหนุ่มเจ้าของบ้านออกไปแล้วนั่นแหละ ตวงทองก็ทรุดลงกับพื้นห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง หล่อนร้องไห้ออกมาเบาๆ เนิ่นนาน
วันนี้ตวงทองผู้ไม่เคยชายตามองคนระดับเขา กลับต้องคุกเข่าขอร้อง และก็เป็นผู้ชายคนนี้ที่ยอมต่อลมหายใจให้หล่อน วินาทีนี้หญิงสาวจึงได้วางสิ้นซึ่งศักดิ์ศรีทั้งหมดของการเป็นนักเรียนนอก อดีตอาจารย์สาว ทายาทผู้บริหารสถานศึกษา สวย สูงส่ง และร่ำรวย สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นมายา สำหรับหล่อนในตอนนี้ขอแค่รอดเท่านั้นก็เป็นพอ...
**********************
เช้าแล้วศมาคนตื่นเช้าเป็นประจำลุกขึ้นบิดกายไปมา สมองไม่ได้ลืมว่ามีหญิงสาวกึ่งแปลกหน้ามาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย เขาได้ยินเสียงน้ำดังมาจากสนามหญ้าเล็กๆ หลังบ้าน จึงแหวกผ้าม่านดู
ผู้หญิงผอมแห้งคนนั้นสวมเสื้อยืดของน้องสาวเขาได้ค่อนข้างหลวม หล่อนสูงกว่าศศิมากกางเกงขาสั้นของน้องสาวเขาจึงดูสั้นไปนิดสำหรับเรียวขายาวสลักเสลานั่น
ดูเหมือนหล่อนจะรู้ว่ามีใครแอบมองอยู่จึงได้แหงนหน้าขึ้นมองตอบ ศมาปิดม่านแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ พร้อมเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง
“ฉันถือวิสาสะกวาดบ้านให้คุณแล้วหนึ่งรอบ นี่ว่าจะถูอีกทีค่ะ ฝุ่นเยอะไปหน่อย”
หล่อนเหมือนจะนึกได้ว่าเผลอตำหนิเจ้าของบ้านหน้านิ่งออกไป เขาแต่งกายเรียบร้อยแล้วในชุดวิศวกรบริษัทของตน ตวงทองจึงเสมองอาหารเช้าตรงหน้าเขาแทน
“ขนมปังหมดอายุแล้วนะคะ ฉันเลยทอดไส้กรอก ไข่ดาว กาแฟร้อนๆ ได้เท่านี้”
“ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก อีกอย่างที่ทำงานของเธอไม่ใช่ที่บ้านหลังนี้หรอก เดี๋ยวหัวหน้าช่างจะมารับไปที่ไซต์ก่อสร้างที่ชลบุรี ไปช่วยงานเอกสารหรืออะไรก็ได้ที่เขาขาดคนทางนั้นก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ” ตวงทองก้มหน้า ฝืนอายจัดการกับอาหารเช้าที่ถือวิสาสะจัดให้ตัวเองด้วยหนึ่งที่ เรื่องหน้าบางเอาไว้ก่อนเถอะ ขอให้ท้องอิ่มไว้ก่อน เผื่อเขาเกิดเปลี่ยนใจไล่หล่อนขึ้นมาจะได้ไม่ต้องหิวโซอยู่ข้างนอกนั่น
อีกราวๆ สิบนาทีหลังจากนั้น หัวหน้าช่างที่เขาพูดถึงก็ขับรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน สิบนาทีต่อมาหล่อนก็นั่งอยู่บนรถคันนั้นพร้อมกับหัวหน้าช่างที่หล่อนเองก็ยังไม่รู้จักมากไปกว่าชื่อของเขา...ช่างเอก ท้ายกระบะใส่ที่นอนที่หล่อนอาศัยนอนเมื่อคืนพร้อมผ้าห่มและของที่หล่อนใช้ไปแล้วจากบ้านเขาราวสามสี่อย่าง อัดแน่นปะปนอยู่กับพวกเครื่องมือช่างนานาชนิด
ด้านหน้าห่างออกไปไม่มากนักคือยานพาหนะใหม่เอี่ยมของศมาที่หล่อนเคยค่อนแคะว่าเป็นแค่รถขนกรรมกรวิ่งนำอยู่ สถานะของหล่อนตอนนี้คือคนงานคนหนึ่งในไซต์ก่อสร้างของเขาเท่านั้น แต่จะสำคัญอะไรล่ะ ไม่ต่างกับที่มันไม่สำคัญว่าหล่อนถูกไอ้แก่นั่นพรากพรหมจรรย์ไปหรือไม่ แค่มันเฆี่ยนตีราวกับหล่อนเป็นสัตว์จนเลือดโทรมกายมันก็เลวร้ายพออยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนั้นคือหล่อนรอดตายมาได้ และในตอนนี้มันคือการที่หล่อนมีที่ซุกหัวนอนมีที่อยู่ที่กินก็เท่านั้นเอง
เจ็ดเดือน เพียงเจ็ดเดือนเท่านั้นที่หล่อนเผชิญกับเรื่องเหล่านี้ ตวงทองรู้สึกว่าตนเองทั้งกล้าและกร้านเสียจนไม่เหลือเค้าคนเดิมแม้แต่น้อย
ศมาเงยหน้าขึ้นมองอาการตื่นอย่างไม่จำเป็นของมือขวา แล้วก้มหน้าเซ็นเอกสารต่อ “แล้วยังไง”
“ก็ค่ารักษาพยาบาลสองหมื่นบาท คุณคนนั้นไม่มีจ่ายครับ โรงพยาบาลจะเอาเรื่อง”
“เกี่ยวอะไรกับข้า”
“เห็นเจ้าหน้าที่เขาบอกว่า เธอแจ้งชื่อ นามสกุลนายช่างไว้เป็นญาติผู้ป่วย”
“ฉิบหาย...กูน่ะเหรอญาติ เหอะ เจ้าหนี้ เหยื่อคนโกงละไม่ว่า บอกทางโรงพยาบาลไปว่ากูไม่ใช่ญาติโกโหติกากับคนพรรค์นั้น สาปส่งไปพร้อมๆ กับเงินสามแสน ตัดปัญหาไป”
“เอ่อ...”
“มีอะไรอีก” ดวงตาคมที่มักจะนุ่มนวลอ่อนโยนกับคนส่วนใหญ่แปรเปลี่ยนเป็นวาววับ น่าเกรงขาม
“อุย มะ...ไม่มีครับผม ผมไปทำงานก่อนนะครับ ไซต์ใหม่ งานเยอะ”
ช่างเอกยิ้มแหะๆ แล้วก็เดินออกไปจากสำนักงานคับแคบแห่งนั้น ศมาจึงก้มหน้าก้มตาทำงานต่อ ช่วงนี้ตรีเมฆสหายรักและเป็นหุ้นส่วนธุรกิจที่ยื่นมือเข้ามาโอบอุ้มบริษัท พิริยะ คอนสตรักชั่นของเขาติดภารกิจเลี้ยงลูกสาววัยแรกเกิด จึงไม่ได้โผล่มาช่วยบ่อยนัก อีกทั้งโพรเจกต์นี้เป็นงานใหม่ที่เขาเพิ่งประมูลได้มาสดๆ ร้อนๆ จึงมีอะไรมากมายที่จะต้องจัดการ เขาขลุกอยู่ไซต์นี้มาร่วมสัปดาห์แล้วเพื่อเตรียมการทุกอย่างก่อนลงมือก่อสร้างอย่างรอบคอบ
ศมาอยากมีสักสิบมือเพื่อที่จะทำงานเหล่านี้ให้ได้ทัน บางครั้งเขาก็เหนื่อยจนแทบขาดใจ
**********************
กลางดึกในคืนวันนั้น ที่หน้าบ้านหลังงามของวิศวกรหนุ่มผู้คลำทางกลับบ้านมาจากชลบุรีได้อย่างหน้าทึ่ง เขาเหยียบเบรกรถดังเอี๊ยดขณะที่กำลังขับเลี้ยวเข้าบ้าน หวิดเกือบชนเข้ากับร่างผอมบางสภาพกระเซอะกระเซิงที่จู่ๆ ก็กระโดดเข้ามาขวางราวกับไม่รักชีวิต
“บ้า! เสียสติไปแล้วหรือไง วิ่งมาขวางรถแบบนี้”
ศมาปิดไฟหน้ารถ ผลักประตูเปิดออกด้วยโทสะพุ่งลิ่ว เดินอ้อมไปดูร่างที่กำลังพยุงตัวเองขึ้นจากพื้นอย่างยากเย็น ใบหน้าบิดเบี้ยวเหยเกด้วยความเจ็บ ดวงตาวาววับ ชิงชัง
“จะฆ่าฉันหรือไง ไอ้เจ้าหนี้หน้าเลือด”
“เธอ!” ศมาร้องลั่นเมื่อเห็นใบหน้านั้นชัดเจน หล่อนผอมลงมากจนแทบเหลือแต่กระดูก แทบไม่เหลือเค้าคุณหนูเย่อหยิ่งคนเดิม มีก็แต่ดวงตาคู่นั้นที่ยังเหยียดหยันคนอื่นอย่างร้ายกาจ
“เออ ฉันเอง คนที่นายเกือบทำให้ตายทั้งเป็นไปแล้วยังไงล่ะ”
“เกี่ยวอะไรกับผม”
“เกี่ยวสิ” หล่อนร้องลั่น ย่างสามขุมเข้ามาหาเขาราวหญิงเสียสติ ศมาหรี่ตามอง เขาเหนื่อย รำคาญและหงุดหงิด หน้าไหนก็อย่าได้คิดมาหาเรื่องในยามนี้
“นายทวงหนี้ฉันอย่างหน้าเลือด ข่มขู่จะแจ้งความให้ตำรวจมาจับฉัน นายทำให้ฉันไม่มีทางเลือกจนต้อง...จนต้องคิดขายตัว เพราะนายคนเดียว ไอ้คนหน้าเลือด นายเกือบทำให้ฉันตายแล้วรู้ไหม ไอ้คนเลว” มือเล็กกระชากปกเสื้อเขาขยุ้มทึ้ง เหวี่ยงมือไม้ เท้าถีบเตะ เมื่อศมาหลบพลัน หล่อนก็เซแซ่ดๆ พลาดกระแทกเข้ากับประตูรั้วที่เปิดกว้างเสียงดังโครม
เสียงสุนัขข้างบ้านเห่าขรม ศมากัดฟันแน่น บ้านอันแสนสงบสุข สถานที่ส่วนตัวแห่งเดียวในโลกในวันแสนเหนื่อยล้าของเขาถูกผู้หญิงสิ้นคิดคนนี้คุกคามเกินไปแล้ว
“ออกไปจากบ้านผมซะ ไม่อย่างนั้นเธอได้นอนคุกแน่”
“นายมันก็ดีแต่ขู่ หลบหลังตำรวจ ไอ้หน้าตัวเมีย รังแกผู้หญิง”
“เงียบนะตวงทอง!”
โฮ่งๆๆๆ
“ทำไมอายเหรอ” หล่อนแสยะยิ้ม ใบหน้างามบิดเบี้ยวด้วยความชอกช้ำทางจิตใจ หล่อนเพิ่งหนีออกจากโรงพยาบาลมาอย่างทุลักทุเล เพียงเพื่อจะมาพบว่าห้องพักที่เช่าไว้มีคนอื่นเข้าครอบครองแล้ว ข้าวของของหล่อนถูกขายทิ้งที่ใต้ถุนอพาร์ตเมนต์นั่นเอง ส่วนที่เหลือก็กองซุกๆ กันอยู่ข้างกองขยะอย่างไร้ค่า
“คนชั้นนายยังรู้จักอายเป็นแล้วฉันล่ะ ฉันเป็นใคร นายทำแบบนี้ไม่คิดว่าฉันจะอายบ้างหรือไง นายมันหน้าเลือด”
ศมากัดฟันกรอด เขาเกลียดนักพวกชอบเหยียดชนชั้น
“ไปซะ แล้วผมจะถือเสียว่าเงินสามแสนทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร จะได้ไม่ต้องตามมารังควานกันอีก”
“นาย...ฉันไม่ใช่ขอทานนะ! หนี้นายฉันจะใช้คืนให้ แต่นายต้องช่วยฉันก่อน” ตวงทองกัดฟันข่มความอายระคนเกลียดชังเมื่อเอ่ยประโยคนั้น
“ช่วยเธอ ช่วยเรื่องอะไร แล้วทำไมผมต้องช่วยคนขี้โกงด้วย”
“ฉันไม่มีที่อยู่ ไม่มีเงิน ไม่มีแม้เสื้อผ้าจะใส่ นายเห็นไหม ฉันสภาพเหมือนคนจรจัด แต่ฉันทำงานได้ ฉันทำงานให้นาย แลกกับที่อยู่ที่กินและชดใช้หนี้ให้นายทั้งหมด” เป็นครั้งแรกที่ดวงตาวาววับคู่นั้นอ่อนแสงลง ใบหน้าหมองคล้ำโศกสลด
“งานที่พวกผมทำมันงานใช้แรงงาน พวกงานกรรมกร จำที่เธอพูดไม่ได้หรือไง”
“นายจะดุด่าเหยียดหยามยังไงก็ตามใจ ฉันขอแค่งานทำ ฉันรู้ว่านายมีงานให้คนงานทำเยอะแยะ ใช่ไหม”
“บอกตรงๆ นะว่ามันฟังดูไม่เข้าท่าเลย ผมยอมหนี้สูญเสียยังจะดีกว่า” ศมากอดอกมองหล่อน ตวงทองสูดลมหายใจเข้าลึกล้ำ ข่มอารมณ์อดสูใจไว้ภายใต้ดวงตาที่แน่วแน่...คลอด้วยหยาดน้ำใสปานแก้วมณี
“คุณศมา ฉันถูกไอ้แก่นั่นข่มขืน” คำพูดของหล่อนราวกับฟ้าผ่าลงมาระหว่างทั้งสอง ศมายืนนิ่งขึงราวถูกสาป
ตวงทองสูดลมหายใจเข้าลึกล้ำก่อนจะเอ่ยต่อว่า “หมอบอกว่าทางกายฉันอาจจะติดโรคอะไรจากมันมาก็ไม่รู้ ทางใจฉันคงต้องเข้ารับการรักษาอย่างต่อเนื่อง ฉันขอแค่งานทำเพื่อแลกกับที่กินที่อยู่ เก็บเงินไว้รักษาตัวนิดหน่อย นอกนั้นคุณหักเงินไว้ใช้หนี้ที่แม่ฉันค้างคุณไว้ได้เลย”
“ผมไม่รู้ว่า...”
“ฉันไหว้คุณก็ได้...”
หัวเข่าบางทรุดลงกับพื้นซีเมนต์แข็งดังกึก ศมานิ่งงัน เขาทำท่าจะถลันเข้าไปประคองให้อีกฝ่ายลุกแต่แล้วก็ยั้งตัวเองไว้ มองร่างเล็กที่ก้มหน้างุดอยู่ต่อหน้าเขาแล้วก็เบือนหน้าหนี ใจพลันนึกถึงน้องสาวคนเล็ก
หากเกิดเรื่องเลวร้ายแบบนี้กับศศิบ้างเขาคงแทบคลั่ง
“ลุกขึ้นเถอะ กลับไปก่อน พรุ่งนี้จะให้ที่บริษัทติดต่อไป”
“ตะ...แต่ เอ่อ”
“ยังมีข้อต่อรองอะไรอีกหรือ” เสียงเขาเข้ม ดวงตาสีนิลวาวดุ ตวงทองหน้าแหย
“ฉันไม่มีที่อยู่แล้ว คืนนี้ยังไม่รู้จะนอนที่ไหน ทั้งเนื้อทั้งตัวมีกระเป๋าใบนี้ใบเดียว” หล่อนหมายถึงกระเป๋าสะพายใบเดียวกับที่ถือเข้าไปในอุ้งมือมารในคืนนั้น ศมาทำสีหน้าลำบากใจ เวลาล่วงเข้าเที่ยงคืนแล้ว จะเอาเจ้าหล่อนไปฝากไว้เรือนตรีเนตรก็เกรงใจ อีกอย่างหล่อนก็เคยก่อเรื่องใส่ร้ายป้ายสีจันทน์กะพ้อสะใภ้ของบ้านนั้นไว้อย่างร้ายแรงอีกด้วย
“เดินเข้าบ้านไปก่อน ผมจะเอารถไปจอด” เขานิ่งคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะเอ่ยบอกเสียงเรียบ เมื่อนั่งอยู่หลังพวงมาลัยและมองเห็นแผ่นหลังบางผ่ายผอมเดินเข้าไปภายในรั้วบ้าน เขาก็ได้แต่สบถให้กับความใจอ่อนซ้ำๆ ซากๆ ของตนเองอยู่เพียงลำพัง ก่อนจะกดรีโมตปิดประตูใหญ่ไล่หลังตัวเองช้าๆ
“ห้องนี้ยังไม่ได้ตกแต่งอะไร เพราะไม่มีใครอยู่ แต่มีที่นอนอยู่มุมนั้น นี่ผ้าห่ม เสื้อผ้าพวกนี้เธอน่าจะพอใส่ได้ ใช้ไปก่อน”
“ขอบคุณ” หล่อนพึมพำเบาๆ ทันทีที่ได้ก้าวเข้ามาอยู่ในห้องใหม่เอี่ยม แม้จะโล่งและไร้เครื่องเรือนใดๆ ทั้งสิ้น แต่หล่อนก็รู้สึกปลอดภัยมากโข โล่งใจที่ไม่ต้องไปนอนใต้สะพานหรือข้างกองขยะสักมุมหนึ่งในกรุงเทพฯ ในคืนนี้
ศมามองร่างผอมบางที่ยืนคว้างอยู่กลางห้องราวกับเด็กหลงทางแล้วก็ถอนหายใจเบาๆ
“คุณหาบ้านผมเจอได้ยังไง”
“ตอนที่รู้ว่ายังติดหนี้คุณ ฉันเคยพยายามติดต่อคุณอยู่พักหนึ่ง ฉันไม่ได้คิดจะเบี้ยวหนี้คุณเลยนะ แต่พอขายบ้านได้ฉันกลับพบว่าเจ้าหนี้รายใหญ่ไม่ได้มีแค่คุณคนเดียว เงินที่จะเอามาให้คุณเลยหมด”
“อืม คุณพักเถอะ ไว้พรุ่งนี้ค่อยคุยเรื่องงานกันอีกที”
“ขอบคุณมากค่ะ” หล่อนประนมมือไหว้เขา
ศมาหันหลังให้ ปิดประตูให้หล่อนแล้วก็ก้าวขึ้นชั้นสองของบ้านไปอย่างเงียบๆ คล้อยหลังชายหนุ่มเจ้าของบ้านออกไปแล้วนั่นแหละ ตวงทองก็ทรุดลงกับพื้นห้องอย่างไร้เรี่ยวแรง หล่อนร้องไห้ออกมาเบาๆ เนิ่นนาน
วันนี้ตวงทองผู้ไม่เคยชายตามองคนระดับเขา กลับต้องคุกเข่าขอร้อง และก็เป็นผู้ชายคนนี้ที่ยอมต่อลมหายใจให้หล่อน วินาทีนี้หญิงสาวจึงได้วางสิ้นซึ่งศักดิ์ศรีทั้งหมดของการเป็นนักเรียนนอก อดีตอาจารย์สาว ทายาทผู้บริหารสถานศึกษา สวย สูงส่ง และร่ำรวย สิ่งเหล่านั้นล้วนเป็นมายา สำหรับหล่อนในตอนนี้ขอแค่รอดเท่านั้นก็เป็นพอ...
**********************
เช้าแล้วศมาคนตื่นเช้าเป็นประจำลุกขึ้นบิดกายไปมา สมองไม่ได้ลืมว่ามีหญิงสาวกึ่งแปลกหน้ามาอาศัยอยู่ในบ้านด้วย เขาได้ยินเสียงน้ำดังมาจากสนามหญ้าเล็กๆ หลังบ้าน จึงแหวกผ้าม่านดู
ผู้หญิงผอมแห้งคนนั้นสวมเสื้อยืดของน้องสาวเขาได้ค่อนข้างหลวม หล่อนสูงกว่าศศิมากกางเกงขาสั้นของน้องสาวเขาจึงดูสั้นไปนิดสำหรับเรียวขายาวสลักเสลานั่น
ดูเหมือนหล่อนจะรู้ว่ามีใครแอบมองอยู่จึงได้แหงนหน้าขึ้นมองตอบ ศมาปิดม่านแล้วเดินไปเข้าห้องน้ำ พร้อมเริ่มเช้าวันใหม่ด้วยความรู้สึกหนักอึ้ง
“ฉันถือวิสาสะกวาดบ้านให้คุณแล้วหนึ่งรอบ นี่ว่าจะถูอีกทีค่ะ ฝุ่นเยอะไปหน่อย”
หล่อนเหมือนจะนึกได้ว่าเผลอตำหนิเจ้าของบ้านหน้านิ่งออกไป เขาแต่งกายเรียบร้อยแล้วในชุดวิศวกรบริษัทของตน ตวงทองจึงเสมองอาหารเช้าตรงหน้าเขาแทน
“ขนมปังหมดอายุแล้วนะคะ ฉันเลยทอดไส้กรอก ไข่ดาว กาแฟร้อนๆ ได้เท่านี้”
“ไม่ต้องทำขนาดนี้หรอก อีกอย่างที่ทำงานของเธอไม่ใช่ที่บ้านหลังนี้หรอก เดี๋ยวหัวหน้าช่างจะมารับไปที่ไซต์ก่อสร้างที่ชลบุรี ไปช่วยงานเอกสารหรืออะไรก็ได้ที่เขาขาดคนทางนั้นก็แล้วกัน”
“ได้ค่ะ” ตวงทองก้มหน้า ฝืนอายจัดการกับอาหารเช้าที่ถือวิสาสะจัดให้ตัวเองด้วยหนึ่งที่ เรื่องหน้าบางเอาไว้ก่อนเถอะ ขอให้ท้องอิ่มไว้ก่อน เผื่อเขาเกิดเปลี่ยนใจไล่หล่อนขึ้นมาจะได้ไม่ต้องหิวโซอยู่ข้างนอกนั่น
อีกราวๆ สิบนาทีหลังจากนั้น หัวหน้าช่างที่เขาพูดถึงก็ขับรถกระบะกลางเก่ากลางใหม่คันหนึ่งเข้ามาจอดหน้าบ้าน สิบนาทีต่อมาหล่อนก็นั่งอยู่บนรถคันนั้นพร้อมกับหัวหน้าช่างที่หล่อนเองก็ยังไม่รู้จักมากไปกว่าชื่อของเขา...ช่างเอก ท้ายกระบะใส่ที่นอนที่หล่อนอาศัยนอนเมื่อคืนพร้อมผ้าห่มและของที่หล่อนใช้ไปแล้วจากบ้านเขาราวสามสี่อย่าง อัดแน่นปะปนอยู่กับพวกเครื่องมือช่างนานาชนิด
ด้านหน้าห่างออกไปไม่มากนักคือยานพาหนะใหม่เอี่ยมของศมาที่หล่อนเคยค่อนแคะว่าเป็นแค่รถขนกรรมกรวิ่งนำอยู่ สถานะของหล่อนตอนนี้คือคนงานคนหนึ่งในไซต์ก่อสร้างของเขาเท่านั้น แต่จะสำคัญอะไรล่ะ ไม่ต่างกับที่มันไม่สำคัญว่าหล่อนถูกไอ้แก่นั่นพรากพรหมจรรย์ไปหรือไม่ แค่มันเฆี่ยนตีราวกับหล่อนเป็นสัตว์จนเลือดโทรมกายมันก็เลวร้ายพออยู่แล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนั้นคือหล่อนรอดตายมาได้ และในตอนนี้มันคือการที่หล่อนมีที่ซุกหัวนอนมีที่อยู่ที่กินก็เท่านั้นเอง
เจ็ดเดือน เพียงเจ็ดเดือนเท่านั้นที่หล่อนเผชิญกับเรื่องเหล่านี้ ตวงทองรู้สึกว่าตนเองทั้งกล้าและกร้านเสียจนไม่เหลือเค้าคนเดิมแม้แต่น้อย
![](/images/icons/guest.jpg)
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 พ.ค. 2564, 11:05:09 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 พ.ค. 2564, 11:05:09 น.
จำนวนการเข้าชม : 401
<< บทที่ 1 -70% | บทที่ 2 -50% >> |