หมู่บ้านเฮอร์ดิวาน
คุณเชื่อหรือไม่ว่า ในแผนที่ประเทศไทยอาจมีบางส่วนหลบซ่อนอยู่ก็ได้ เหมือนอย่างหมู่บ้านเฮอร์ดิวาน
พ.ศ. 2540 หมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นชื่อเป็นหมู่บ้านที่รักษาโรคด้วยยาสมุนไพร ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากรักษาด้วยพืชสมุนไพรที่ไม่เหมือนใคร ยังมีหมอยาที่พิเศษแตกต่างจากคนทั่วไป เพราะวิธีการรักษาของเขา ผสมพลังบางอย่างจากกายและสายเลือดที่ถูกตกทอดกันมา
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทำให้หมู่บ้านถูกลบจากแผนที่และเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คนบริเวณนั้น แล้วทำไมถึงเกิดเหตุเช่นนี้ คงต้องค้นหาคำตอบจากเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เลยค่ะ
เนื้อหาทั้งหมดเขียนขึ้นเพื่อประกอบ นิยายเรื่อง อุบัติรักใต้คำสาปร้าย เป็นเรื่องราวของระวงหนุ่มน้อยที่มาจาก หมู่บ้านในความเงียบที่ถูกเปลี่ยนชื่อในภายหลัง ก่อนที่จะมาเจอกับดอกเตอร์เขามีเรื่องราวมาก่อนหน้านั้น
สุดท้ายนี้ เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ดังนั้นชื่อตัวละครและสถานที่ทุกอย่างในเรื่อง เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ไม่มีจริงแต่ประการใด
พ.ศ. 2540 หมู่บ้านแห่งนี้ขึ้นชื่อเป็นหมู่บ้านที่รักษาโรคด้วยยาสมุนไพร ที่มีเฉพาะที่นี่เท่านั้น นอกจากรักษาด้วยพืชสมุนไพรที่ไม่เหมือนใคร ยังมีหมอยาที่พิเศษแตกต่างจากคนทั่วไป เพราะวิธีการรักษาของเขา ผสมพลังบางอย่างจากกายและสายเลือดที่ถูกตกทอดกันมา
แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดคิดก็เกิดขึ้น ทำให้หมู่บ้านถูกลบจากแผนที่และเลือนหายไปจากความทรงจำของผู้คนบริเวณนั้น แล้วทำไมถึงเกิดเหตุเช่นนี้ คงต้องค้นหาคำตอบจากเรื่องราวที่จะเล่าต่อไปนี้เลยค่ะ
เนื้อหาทั้งหมดเขียนขึ้นเพื่อประกอบ นิยายเรื่อง อุบัติรักใต้คำสาปร้าย เป็นเรื่องราวของระวงหนุ่มน้อยที่มาจาก หมู่บ้านในความเงียบที่ถูกเปลี่ยนชื่อในภายหลัง ก่อนที่จะมาเจอกับดอกเตอร์เขามีเรื่องราวมาก่อนหน้านั้น
สุดท้ายนี้ เนื้อหาทั้งหมดเกิดจากจินตนาการของผู้เขียน ดังนั้นชื่อตัวละครและสถานที่ทุกอย่างในเรื่อง เป็นเรื่องแต่งขึ้นเพื่อเพิ่มอรรถรสในการอ่าน ไม่มีจริงแต่ประการใด
Tags: นิยายรัก หมู่บ้าน แฟนตาซี นิยายวาย
ตอน: ระวง
สามปีผ่านไป ตูยุได้ให้กำเนิดเด็กน้อย สร้างความดีใจให้กับทุกคนในหมู่บ้าน แต่ในเวลาเดียวกันนั้นก็เกิดเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นกับตูยุ
”พ่อหมอเธอเสียแล้ว" หมอตำแยทำคลอดไม่สามารถช่วยเหลือคนเป็นแม่ได้ เหลือเพียงแต่ลูกชายของพ่อหมอกาจิงเท่านั้น
"ไม่จริง" กาจิงไม่รอช้ารีบเข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของภรรยาทันที
เสียงร้องอย่างทรมานของเด็กดังก้องไปทั่ว ทำให้กาจิงทำอะไรไม่ถูก เขารีบอุ้มลูกชายและดูว่าเป็นอะไร
หน้าอกมีปานประจำเผ่าปรากฏขึ้นและลักษณะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังก่อกวนอยู่
"พลังงานในร่างกายไม่สมดุล" เสียงแม่เฒ่าดังจากทางข้างหลัง เธอมาพร้อมกับไม้เท้าประจำตัว
"แม่เฒ่าช่วยลูกข้าด้วย" แม้จะมีความสามารถเพียงใดก็ตาม บางอย่างที่เกิดกำลังก็ไม่สามารถทำได้
แม่เฒ่ามองเด็กน้อยในอ้อมกอดของกาจิง เธอนำหัวไม้เท้าที่มีหินพิเศษแตะเบาๆ ตรงสัญลักษณ์บนหน้าอกที่ถูกเปลี่ยนรูปร่างไปมา เพื่อสะกดพลังงานเอาไว้ก่อนที่จะถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด และนำมืออีกข้างแตะเบาๆ บนหน้าผาก เขาก็เงียบลงทันที
"ข้าให้ชื่อว่า ระวง" แม่เฒ่าเอ่ยขึ้น
บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป หลังจากจัดพิธีร่างไร้วิญญาณของตูยุเรียบร้อยแล้ว ทุกคนในหมู่บ้านไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติของหญิงสาวต่างเผ่าสายเลือดก็ไม่พิเศษอันใด จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ให้กำเนิดเด็กแล้วจะสิ้นใจเสียก่อน
มีเพียงพ่อหมอกาจิงที่ยอมรับกับเรื่องนี้ไม่ได้ เขาเปลี่ยนไปตั้งแต่สูญเสียภรรยาที่รักยิ่ง แม้จะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม พ่อหมอกาจิงก็ไม่สามารถลืมเธอ
"พ่อหมอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ"
"เขาเงียบและนิ่งมาก ดูเหมือนคนไม่มีความรู้สึก"
"นั่นสิ บรรยากาศรอบตัวก็มืดมนแปลก ๆ ไม่อยากเข้าใกล้เลย"
เสียงสนทนาของเหล่าญาติคนป่วยที่เดินทางพาคนสำคัญมารักษาอาการผิดปกติ พูดกันไปต่างๆ นานา ว่าพ่อหมอกาจิงอาจจะโดนเวทมนตร์ดำของใครเข้า บ้างก็ว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว น้อยคนนักที่จะพูดหรือถามถึงภรรยาของเขา แม้แต่คนในหมู่บ้านก็ไม่เอ่ยถึงค่ำคืนนั้น
อีกด้านหนึ่งเด็กน้อยอายุ 4 ขวบสองคนกำลังนั่งเล่นดอกหญ้ากับหินแก้วข้างบ่อน้ำหลังสวนสมุนไพรกันอย่างสนุก
"รับไปสิ ดอกไม้" ดอกไม้กำเล็กๆ กำลังลอยมาอยู่ตรงหน้าลางิ
เด็กชายตัวเล็กยิ้มอย่างดีใจ รีบทิ้งหินแก้วสีเขียวทันใด
"ทำได้ไง" ลางิถาม ดวงตาแวววาวเป็นประกายอยากรู้
”ไม่รู้เหมือนกัน สะเตแค่คิดว่าจะทำแบบนี้ มันก็ไปเอง" ปากพูดไปมือก็โบกน้อยๆ ในอากาศ ให้ดอกไม้รอบตัวหลุดจากต้นแล้วลอยมาอยู่รอบตัวของลางิ
"ว้าว" ลางิลุกยืนทำตาโตไม่เคยเห็นมาก่อน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ทั้งสองยังคงนั่งเล่นกันเหมือนเดิมจนกระทั่งบายูมารับลูก
"ไปกันยัง" บายูยิ้มและยื่นมือมาหาลูกสาว เด็กน้อยพยักหน้ารัวแล้วยื่นมือจับฝ่ามือใหญ่ของผู้เป็นพ่อ
"ไปก่อนนะ ลางิ" เด็กน้อยโบกมือลา พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกันใหม่
ตั้งแต่เด็กน้อยทั้งสองอายุครบ 3 ปี แม่เฒ่าบอกให้สะเลพาลูกกลับไปบ้านของตัวเองได้ เพราะทั้งคู่โตพอที่จะดูแลร่างกายของตนเองได้แล้ว แม้จะอายุยังน้อยก็ตาม
บายูกับสะเลจึงตกลงกันว่า ช่วงไหนว่างจากการหาของป่าจะพาสะเตไปเล่นกับลางิ
”พ่อหมอเธอเสียแล้ว" หมอตำแยทำคลอดไม่สามารถช่วยเหลือคนเป็นแม่ได้ เหลือเพียงแต่ลูกชายของพ่อหมอกาจิงเท่านั้น
"ไม่จริง" กาจิงไม่รอช้ารีบเข้าไปกอดร่างไร้วิญญาณของภรรยาทันที
เสียงร้องอย่างทรมานของเด็กดังก้องไปทั่ว ทำให้กาจิงทำอะไรไม่ถูก เขารีบอุ้มลูกชายและดูว่าเป็นอะไร
หน้าอกมีปานประจำเผ่าปรากฏขึ้นและลักษณะเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาเหมือนกับว่ามีบางอย่างกำลังก่อกวนอยู่
"พลังงานในร่างกายไม่สมดุล" เสียงแม่เฒ่าดังจากทางข้างหลัง เธอมาพร้อมกับไม้เท้าประจำตัว
"แม่เฒ่าช่วยลูกข้าด้วย" แม้จะมีความสามารถเพียงใดก็ตาม บางอย่างที่เกิดกำลังก็ไม่สามารถทำได้
แม่เฒ่ามองเด็กน้อยในอ้อมกอดของกาจิง เธอนำหัวไม้เท้าที่มีหินพิเศษแตะเบาๆ ตรงสัญลักษณ์บนหน้าอกที่ถูกเปลี่ยนรูปร่างไปมา เพื่อสะกดพลังงานเอาไว้ก่อนที่จะถูกปลดปล่อยออกมาจนหมด และนำมืออีกข้างแตะเบาๆ บนหน้าผาก เขาก็เงียบลงทันที
"ข้าให้ชื่อว่า ระวง" แม่เฒ่าเอ่ยขึ้น
บรรยากาศเริ่มเปลี่ยนไป หลังจากจัดพิธีร่างไร้วิญญาณของตูยุเรียบร้อยแล้ว ทุกคนในหมู่บ้านไม่มีการพูดถึงเรื่องนี้อีกเลย เหมือนกับว่าเป็นเรื่องปกติของหญิงสาวต่างเผ่าสายเลือดก็ไม่พิเศษอันใด จึงเป็นเรื่องธรรมดาที่ให้กำเนิดเด็กแล้วจะสิ้นใจเสียก่อน
มีเพียงพ่อหมอกาจิงที่ยอมรับกับเรื่องนี้ไม่ได้ เขาเปลี่ยนไปตั้งแต่สูญเสียภรรยาที่รักยิ่ง แม้จะผ่านไปนานเท่าไหร่ก็ตาม พ่อหมอกาจิงก็ไม่สามารถลืมเธอ
"พ่อหมอเปลี่ยนไปเยอะเลยนะ"
"เขาเงียบและนิ่งมาก ดูเหมือนคนไม่มีความรู้สึก"
"นั่นสิ บรรยากาศรอบตัวก็มืดมนแปลก ๆ ไม่อยากเข้าใกล้เลย"
เสียงสนทนาของเหล่าญาติคนป่วยที่เดินทางพาคนสำคัญมารักษาอาการผิดปกติ พูดกันไปต่างๆ นานา ว่าพ่อหมอกาจิงอาจจะโดนเวทมนตร์ดำของใครเข้า บ้างก็ว่าวิญญาณหลุดออกจากร่างไปแล้ว น้อยคนนักที่จะพูดหรือถามถึงภรรยาของเขา แม้แต่คนในหมู่บ้านก็ไม่เอ่ยถึงค่ำคืนนั้น
อีกด้านหนึ่งเด็กน้อยอายุ 4 ขวบสองคนกำลังนั่งเล่นดอกหญ้ากับหินแก้วข้างบ่อน้ำหลังสวนสมุนไพรกันอย่างสนุก
"รับไปสิ ดอกไม้" ดอกไม้กำเล็กๆ กำลังลอยมาอยู่ตรงหน้าลางิ
เด็กชายตัวเล็กยิ้มอย่างดีใจ รีบทิ้งหินแก้วสีเขียวทันใด
"ทำได้ไง" ลางิถาม ดวงตาแวววาวเป็นประกายอยากรู้
”ไม่รู้เหมือนกัน สะเตแค่คิดว่าจะทำแบบนี้ มันก็ไปเอง" ปากพูดไปมือก็โบกน้อยๆ ในอากาศ ให้ดอกไม้รอบตัวหลุดจากต้นแล้วลอยมาอยู่รอบตัวของลางิ
"ว้าว" ลางิลุกยืนทำตาโตไม่เคยเห็นมาก่อน
เวลาผ่านไปนานเท่าไหร่ไม่รู้ แต่ทั้งสองยังคงนั่งเล่นกันเหมือนเดิมจนกระทั่งบายูมารับลูก
"ไปกันยัง" บายูยิ้มและยื่นมือมาหาลูกสาว เด็กน้อยพยักหน้ารัวแล้วยื่นมือจับฝ่ามือใหญ่ของผู้เป็นพ่อ
"ไปก่อนนะ ลางิ" เด็กน้อยโบกมือลา พรุ่งนี้ค่อยมาเล่นกันใหม่
ตั้งแต่เด็กน้อยทั้งสองอายุครบ 3 ปี แม่เฒ่าบอกให้สะเลพาลูกกลับไปบ้านของตัวเองได้ เพราะทั้งคู่โตพอที่จะดูแลร่างกายของตนเองได้แล้ว แม้จะอายุยังน้อยก็ตาม
บายูกับสะเลจึงตกลงกันว่า ช่วงไหนว่างจากการหาของป่าจะพาสะเตไปเล่นกับลางิ

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 23 ก.ค. 2564, 20:59:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 23 ก.ค. 2564, 20:59:56 น.
จำนวนการเข้าชม : 437
<< ความจริงที่ไม่พูดถึง |