หนามร้ายในใจรัก (Yuri) -จบ
Tags: นิยายยูริ, รัก, เพื่อนสนิท, แอบรัก
ตอน: ไม่ใช่ความฝันจริงๆ ใช่ไหม
เช้าวันใหม่มาถึง เสียงนาฬิกาปลุกของนัทนันท์ไม่สามารถทำให้ทั้งคู่ตื่นได้ จนเลยเวลาเกือบบ่ายสอง คนที่ตื่นคนแรกจึงกลายเป็นคนที่ไม่มีเรียนในวันนี้
"เราทำอะไรลงไปเนี้ย" สติเกือบหลุดเมื่อเห็นตนเองกอดกับเพื่อนรักบนเตียงของเจ้าตัว
ภาพอันเลือนรางเมื่อคืนค่อย ๆ ผุดขึ้นมา น้ำที่รุ่นพี่ให้ดื่มทำให้เธอมีความกล้าจนเกือบจะทำให้เสียเพื่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ เธอคงไม่กล้ามองหน้าเพื่อนรักร่วมห้องได้อีกต่อไป
เมื่อวานหลังจากนัดไปกินหมูกระทะจึงต่อด้วยร้องคาราโอเกะ พอได้ร้องก็ต้องมีดื่มกันบ้างเล็กน้อย ไม่คิดว่าการดื่มเพราะเห็นนัทนันท์กำลังหัวเราะกับผู้ชายจะเป็นเหตุให้เธอต้องทำอะไรแปลกไปจากเดิม พอเห็นทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันไม่ว่ามองมุมไหนก็เหมาะสมกันอยู่ดี
"หยุดเดินทำไมแตง" ใบเฟิร์นชะงักเมื่อเดินชนแผ่นหลังของคนตรงหน้า
"เปล่าไม่มีอะไร"
"แปลกจริงๆ เธอมองไปทางเด็กศิลป์อย่างนั้นเหรอ" คนฟังไม่เชื่อคำพูดของเพื่อน พอหันไปมองกลุ่มนักศึกษารุ่นเดียวกันกำลังง่วนจัดบอร์ดและลงสีใต้ต้นไม้หน้าตึกตรงข้ามกับหอสมุด ทำเป็นไม่ตอบ แต่สายตาบ่งบอกว่าปวดใจ
"รีบไปหาข้อมูลเถอะ อีกหนึ่งชั่วโมงพวกเราต้องเข้าคณะแล้วนะ" สกาวใจรีบดึงเพื่อนให้ออกห่างจากกลุ่มของนัทนันท์ ก่อนที่จะสงสัยอะไรมากไปกว่านี้
"ยิ่งทำแบบนี้ ฉันยิ่งสงสัยเธอนะ" ใบเฟิร์นหรี่ตาลงและมองแผ่นหลังของเพื่อนด้วยความแปลกใจ ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ทำไมต้องรีบเดินหนี
"ต้องมีสักคน" หันไปมองกลุ่มเด็กศิลป์แล้วบ่นพึมพำเบาๆ ผู้ชายคนไหนทำให้เพื่อนของเธอต้องหวั่นไหว
"ยัยเฟิร์น จะไปหรือยัง" เสียงตะโกนของสกาวใจร้องเรียกแล้วกวักมือให้เดินตาม
"รู้แล้วน่า" ใบเฟิร์นทำหน้าเซ็ง จะส่องดูสักหน่อยว่ามีใครทำท่าทางผิดปกติไหม
"เดินให้ไวหน่อย ถ้างานไม่เสร็จ วันนี้คงไม่ได้ไปกินหมูกระทะหรอกนะ" สกาวใจบ่นและจับแขนเพื่อนให้เร่งเท้ามากับเธอ
"อย่าเร่งนักสิ รู้แล้วน่า" คนถูกเร่งและโดนดึงจนเหมือนกับจะลากตัวของเธอนั้น ต้องร้องและรีบไม่อย่างนั้นขาของเธอคงพันกันจนล้มแน่
เมื่อเวลาใช้สมองดำเนินไปจนทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ได้เวลานัดสำคัญของเหล่ารุ่นพี่และเพื่อนๆ ในร้านหมูกระทะ
"นี่แตง เมื่อไหร่จะมาอยู่หอเดียวกันสักที เวลาทำงานจะได้ไม่ลำบาก ไหนจะติวหนังสือสอบกันอีก นี่มันก็จะขึ้นปีสามแล้วนะ"
ใบเฟิร์นคีบเนื้อหมูที่สุกจนได้ที่ใส่จานเพื่อเตรียมจิ้มน้ำจิ้มรสอร่อยพร้อมใส่ปาก หยิบชิ้นนั้นทีชิ้นนี้ทีแล้วบ่นเพื่อนเลขที่ติดกันจนคนได้ยินต้องส่ายหน้า
"อะไรกันน้องเฟิร์น อาหารไม่อร่อยหรือคะ" รุ่นพี่ปีสามยิ้ม
"เปล่าค่า อร่อยมากค่ะ" ใบเฟิร์นหัวเราะกลบเกลื่อนและตั้งใจกินต่อ จนลืมไปว่าตัวเองกำลังบ่นเพื่อนอยู่
ส่วนสกาวใจได้ยินใบเฟิร์นบ่น เธอได้แต่ทำเป็นไม่สนใจเสียงบ่นนั้น แม้ว่าเพื่อนของเธอจะพูดหรือโน้มน้าวให้เธอย้ายหอมาอยู่รวมกับเพื่อนๆ ก็ตาม จะผ่านไปกี่ปีเธอก็ไม่สนใจ จนกว่าจะเรียนจบหรือนัทนันท์จะขอแยกไปจากเธอ
การที่รุ่นพี่เลี้ยงก็มักจะต่อด้วยการร้องเพลงเสมอ ใครอยากต่อจนดึกกับร้านผับหลังมหาวิทยาลัยก็ตามกันมา นานๆ ทีจะได้เที่ยวเพื่อปลดปล่อยความเครียดไม่ใช่มีทุกวัน
"จะไปต่อกับพี่ฟ้าจริงๆ เหรอ" ใบเฟิร์นเป็นห่วง แต่เธอไปไม่ไหวเพราะเป็นเด็กอนามัยต้องรีบเข้านอน
"อืม รีบกลับไปเถอะ แตงไปต่อเองได้ ไม่ไหวก็ขอนอนหอข้างนอกเอา" สกาวใจตบบ่าเพื่อนเบาๆ เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นพวกเด็กคงแก่เรียน
"อืมๆ ไม่ไหวก็รีบกลับเข้าหอแล้วกัน อย่าดื่มหนักนะ ถึงพรุ่งนี้จะไม่มีเรียนแต่มันก็ไม่ดีเท่าไหร่" เหมือนเดิมกับความเป็นห่วงของใบเฟิร์น เธอมักจะกังวลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสกาวใจ เพราะรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นพวกคออ่อน
สกาวใจพยักหน้าและไล่ให้เพื่อนขี้กังวลรีบกลับ ส่วนตัวของเธอนั้นได้ไปต่อกับพวกรุ่นพี่ จนได้ดื่มสิ่งที่ทำให้คนคออ่อนอย่างเธอต้องมึนเมา แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างเป็นความตั้งใจของตัวของเธอเอง อย่างน้อยก็ได้หยุดคิดเรื่องของนัทนันท์เสียที
กลับมายังเตียงของสาวร่างสูงที่กำลังหลับ โดยมีคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเตียงกำลังขยี้หัวเพราะจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ภาพทุกอย่างถูกตัดไปจนดำมืดและสิ่งที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายคือใบหน้าสวยๆ ของนัทนันท์
"รีบไปที่เตียงดีกว่า" พูดเบาๆ แล้วค่อยๆ กลิ้งไปข้างเตียง พยายามไม่ให้เกิดเสียงมากที่สุดเพราะกลัวคนนอนอยู่จะตื่น
"จะไปไหน" เสียงของคนหลับกับมือทั้งสองที่โอบกอดสกาวใจให้ล้มลงมานอนบนเตียงอีกครั้ง
"จะ...จะทำอะไร" เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเพื่อนของเธอถึงเปลี่ยนไป ทั้งท่าทาง หน้าตาและน้ำเสียง รวมถึงรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นอีก
"อืม...ทำอะไรกันดี ไหนๆ นัดก็เข้าคณะไม่ทันแล้ว วันนี้แตงต้องอยู่กับนัดห้ามไปไหน" แรงกอดยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนสกาวใจไม่สามารถดิ้นได้ ใบหน้าของเราทั้งคู่ใกล้กันมาก มากจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นของอีกฝ่าย
"นัดกอดแตงทำไม"
คำถามของสกาวใจทำให้นัทนันท์ยิ้มเล็กน้อย
"เรามาทำต่อจากเมื่อคืนกันดีไหม"
"ทะ...ทำอะ...อื้อ"
เจ้าของเตียงไม่ยอมให้สกาวใจพูดจนจบ ริมฝีปากนุ่มและนิ่มกับบรรยากาศที่มีเพียงแค่คนสองคน โดยมีไออุ่นที่แลกเปลี่ยนกัน
เวลากำลังทำหน้าที่ของมัน ความหิวก็เริ่มเล่นงานพวกเธอทั้งสอง
"หิวไหม" นัทนันท์เกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเธอให้ออกจากใบหน้าเนียนเพื่อที่จะได้มองจนเต็มตา
"ไม่หิว" สกาวใจหน้ายู่น้อยๆ แล้วส่ายหน้าเบาๆ ทุกอย่างเหมือนฝัน บรรยากาศรอบตัวทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของตัวเองได้
"อิ่มทิพย์หรือไง ลงไปหาอะไรกินกันเถอะ นัดหิวแล้ว"
ท่าทางเอาแต่ใจของคนร่างสูงกำลังบังคับให้สกาวใจทำในสิ่งที่เธอต้องการ
"งั้น แตงไปอาบน้ำก่อนนะ" สกาวใจมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง รู้ตัวอีกทีชุดนอนของเธอก็ลงไปกองข้างล่าง
"ไปอาบด้วยกันเถอะ"
คนขี้แกล้งรวบตัวคนตัวเล็กกว่าจากทางข้างหลัง ผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวคนทั้งสองแทบจะร่วงหล่น
"อย่าเล่นสิ โป๊หมดแล้ว" ยิ่งโดนแกล้งก็ยิ่งร้อนไปทั้งตัว
"กลัวอะไร ก็เห็นจนหมดแล้วนะ แค่อาบน้ำเอง"
สกาวใจหันไปมองนัทนันท์ที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีวันได้สัมผัสริมฝีปากได้รูปนั่น จินตนาการของเธอกับการได้ลูบไล้บนตัวคนขาวเรียวสูง กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดนั่นเพื่อนตัวดีแย่ไปเสียหมด บนตัวเธอมีแต่ร่องรอยทำรัก
"คิดอะไรอยู่ นัดหิวข้าวแล้วนะ" ลูกอ้อนของคนเอาแต่ใจ กำลังพ่นลมใส่ต้นคอเนียนจนอดใจขบกัดใบหูไม่ได้
"ทะ..ทำอะไร จั๊กจี้" เสียงหัวเราะของร่างเล็กได้แต่หันหน้าหลบริมฝีปากของคนข้างหลัง ยิ่งดิ้นยิ่งน่าแกล้ง
"ถ้าไม่อยากให้นัดทำ ก็ต้องไปอาบน้ำด้วยกัน" พ่นลมอีกนิดจะได้ยอมทำตาม
พอสกาวใจนิ่งคนรอฟังก็เริ่มใจร้อน จึงฉวยโอกาสอุ้มคนตัวเบาไปอาบน้ำพร้อมกันเสียเลย
"ทำอะไร...จะตกแล้ว"
"อย่าดิ้นสิ รีบอาบน้ำกันเถอะ นัดหิวแล้ว"
สกาวใจกอดคอของคนเอาแต่ใจแน่นเพราะกลัวตก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนความฝันที่ไม่มีวันตื่นจริงๆ
"นัด"
"อะไร" นัทนันท์ขานตอบแบบไม่ใส่ใจ เมื่อปล่อยคนตัวเบาให้เท้าเหยียบพื้นห้องน้ำ
"แบบ...แบบนี้คือ..."
"คืออะไร" หันไปหาคนตัวเตี้ยแล้วเอียงคอน้อยๆ สงสัยสิ่งที่กำลังจะถูกถาม
"คือ...พวกเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม" รวบรวมความกล้าเพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน ช่วยบอกเธอทีว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน
นัทนันท์ยิ้มและดันตัวคนตัวเล็กให้ติดกำแพงใต้ฝักบัว มือข้างหนึ่งล็อกตัวคนของเธอให้อยู่ในสายตา ส่วนมืออีกข้างเปิดน้ำให้ไหลจนเปียกทั้งตัวเธอและคนที่อยู่ตรงหน้า
"แบบนี้คิดว่าเป็นแฟนกันหรือยัง" เสียงกระซิบข้างใบหูของสกาวใจ กับริมฝีปากเรียวค่อยๆ ประกบคนถาม ความเร่าร้อนถูกส่งผ่านทางลิ้นเป็นคำตอบและยิ่งแน่ใจเมื่อทั้งสองตอบรับกัน
"เราทำอะไรลงไปเนี้ย" สติเกือบหลุดเมื่อเห็นตนเองกอดกับเพื่อนรักบนเตียงของเจ้าตัว
ภาพอันเลือนรางเมื่อคืนค่อย ๆ ผุดขึ้นมา น้ำที่รุ่นพี่ให้ดื่มทำให้เธอมีความกล้าจนเกือบจะทำให้เสียเพื่อน ถ้าเกิดอะไรขึ้นจริง ๆ เธอคงไม่กล้ามองหน้าเพื่อนรักร่วมห้องได้อีกต่อไป
เมื่อวานหลังจากนัดไปกินหมูกระทะจึงต่อด้วยร้องคาราโอเกะ พอได้ร้องก็ต้องมีดื่มกันบ้างเล็กน้อย ไม่คิดว่าการดื่มเพราะเห็นนัทนันท์กำลังหัวเราะกับผู้ชายจะเป็นเหตุให้เธอต้องทำอะไรแปลกไปจากเดิม พอเห็นทั้งคู่ยืนอยู่ด้วยกันไม่ว่ามองมุมไหนก็เหมาะสมกันอยู่ดี
"หยุดเดินทำไมแตง" ใบเฟิร์นชะงักเมื่อเดินชนแผ่นหลังของคนตรงหน้า
"เปล่าไม่มีอะไร"
"แปลกจริงๆ เธอมองไปทางเด็กศิลป์อย่างนั้นเหรอ" คนฟังไม่เชื่อคำพูดของเพื่อน พอหันไปมองกลุ่มนักศึกษารุ่นเดียวกันกำลังง่วนจัดบอร์ดและลงสีใต้ต้นไม้หน้าตึกตรงข้ามกับหอสมุด ทำเป็นไม่ตอบ แต่สายตาบ่งบอกว่าปวดใจ
"รีบไปหาข้อมูลเถอะ อีกหนึ่งชั่วโมงพวกเราต้องเข้าคณะแล้วนะ" สกาวใจรีบดึงเพื่อนให้ออกห่างจากกลุ่มของนัทนันท์ ก่อนที่จะสงสัยอะไรมากไปกว่านี้
"ยิ่งทำแบบนี้ ฉันยิ่งสงสัยเธอนะ" ใบเฟิร์นหรี่ตาลงและมองแผ่นหลังของเพื่อนด้วยความแปลกใจ ถ้าไม่มีอะไรจริงๆ ทำไมต้องรีบเดินหนี
"ต้องมีสักคน" หันไปมองกลุ่มเด็กศิลป์แล้วบ่นพึมพำเบาๆ ผู้ชายคนไหนทำให้เพื่อนของเธอต้องหวั่นไหว
"ยัยเฟิร์น จะไปหรือยัง" เสียงตะโกนของสกาวใจร้องเรียกแล้วกวักมือให้เดินตาม
"รู้แล้วน่า" ใบเฟิร์นทำหน้าเซ็ง จะส่องดูสักหน่อยว่ามีใครทำท่าทางผิดปกติไหม
"เดินให้ไวหน่อย ถ้างานไม่เสร็จ วันนี้คงไม่ได้ไปกินหมูกระทะหรอกนะ" สกาวใจบ่นและจับแขนเพื่อนให้เร่งเท้ามากับเธอ
"อย่าเร่งนักสิ รู้แล้วน่า" คนถูกเร่งและโดนดึงจนเหมือนกับจะลากตัวของเธอนั้น ต้องร้องและรีบไม่อย่างนั้นขาของเธอคงพันกันจนล้มแน่
เมื่อเวลาใช้สมองดำเนินไปจนทุกอย่างเสร็จสิ้นก็ได้เวลานัดสำคัญของเหล่ารุ่นพี่และเพื่อนๆ ในร้านหมูกระทะ
"นี่แตง เมื่อไหร่จะมาอยู่หอเดียวกันสักที เวลาทำงานจะได้ไม่ลำบาก ไหนจะติวหนังสือสอบกันอีก นี่มันก็จะขึ้นปีสามแล้วนะ"
ใบเฟิร์นคีบเนื้อหมูที่สุกจนได้ที่ใส่จานเพื่อเตรียมจิ้มน้ำจิ้มรสอร่อยพร้อมใส่ปาก หยิบชิ้นนั้นทีชิ้นนี้ทีแล้วบ่นเพื่อนเลขที่ติดกันจนคนได้ยินต้องส่ายหน้า
"อะไรกันน้องเฟิร์น อาหารไม่อร่อยหรือคะ" รุ่นพี่ปีสามยิ้ม
"เปล่าค่า อร่อยมากค่ะ" ใบเฟิร์นหัวเราะกลบเกลื่อนและตั้งใจกินต่อ จนลืมไปว่าตัวเองกำลังบ่นเพื่อนอยู่
ส่วนสกาวใจได้ยินใบเฟิร์นบ่น เธอได้แต่ทำเป็นไม่สนใจเสียงบ่นนั้น แม้ว่าเพื่อนของเธอจะพูดหรือโน้มน้าวให้เธอย้ายหอมาอยู่รวมกับเพื่อนๆ ก็ตาม จะผ่านไปกี่ปีเธอก็ไม่สนใจ จนกว่าจะเรียนจบหรือนัทนันท์จะขอแยกไปจากเธอ
การที่รุ่นพี่เลี้ยงก็มักจะต่อด้วยการร้องเพลงเสมอ ใครอยากต่อจนดึกกับร้านผับหลังมหาวิทยาลัยก็ตามกันมา นานๆ ทีจะได้เที่ยวเพื่อปลดปล่อยความเครียดไม่ใช่มีทุกวัน
"จะไปต่อกับพี่ฟ้าจริงๆ เหรอ" ใบเฟิร์นเป็นห่วง แต่เธอไปไม่ไหวเพราะเป็นเด็กอนามัยต้องรีบเข้านอน
"อืม รีบกลับไปเถอะ แตงไปต่อเองได้ ไม่ไหวก็ขอนอนหอข้างนอกเอา" สกาวใจตบบ่าเพื่อนเบาๆ เธอรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นพวกเด็กคงแก่เรียน
"อืมๆ ไม่ไหวก็รีบกลับเข้าหอแล้วกัน อย่าดื่มหนักนะ ถึงพรุ่งนี้จะไม่มีเรียนแต่มันก็ไม่ดีเท่าไหร่" เหมือนเดิมกับความเป็นห่วงของใบเฟิร์น เธอมักจะกังวลทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับสกาวใจ เพราะรู้ว่าเพื่อนของเธอเป็นพวกคออ่อน
สกาวใจพยักหน้าและไล่ให้เพื่อนขี้กังวลรีบกลับ ส่วนตัวของเธอนั้นได้ไปต่อกับพวกรุ่นพี่ จนได้ดื่มสิ่งที่ทำให้คนคออ่อนอย่างเธอต้องมึนเมา แต่ถึงอย่างนั้นทุกอย่างเป็นความตั้งใจของตัวของเธอเอง อย่างน้อยก็ได้หยุดคิดเรื่องของนัทนันท์เสียที
กลับมายังเตียงของสาวร่างสูงที่กำลังหลับ โดยมีคนที่ไม่ได้เป็นเจ้าของเตียงกำลังขยี้หัวเพราะจำไม่ได้ว่าตัวเองทำอะไรลงไปบ้าง ภาพทุกอย่างถูกตัดไปจนดำมืดและสิ่งที่เธอเห็นครั้งสุดท้ายคือใบหน้าสวยๆ ของนัทนันท์
"รีบไปที่เตียงดีกว่า" พูดเบาๆ แล้วค่อยๆ กลิ้งไปข้างเตียง พยายามไม่ให้เกิดเสียงมากที่สุดเพราะกลัวคนนอนอยู่จะตื่น
"จะไปไหน" เสียงของคนหลับกับมือทั้งสองที่โอบกอดสกาวใจให้ล้มลงมานอนบนเตียงอีกครั้ง
"จะ...จะทำอะไร" เมื่อคืนมันเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ทำไมเพื่อนของเธอถึงเปลี่ยนไป ทั้งท่าทาง หน้าตาและน้ำเสียง รวมถึงรอยยิ้มที่ไม่เคยเห็นอีก
"อืม...ทำอะไรกันดี ไหนๆ นัดก็เข้าคณะไม่ทันแล้ว วันนี้แตงต้องอยู่กับนัดห้ามไปไหน" แรงกอดยิ่งมากขึ้นเรื่อยๆ จนสกาวใจไม่สามารถดิ้นได้ ใบหน้าของเราทั้งคู่ใกล้กันมาก มากจนรู้สึกถึงลมหายใจอุ่นของอีกฝ่าย
"นัดกอดแตงทำไม"
คำถามของสกาวใจทำให้นัทนันท์ยิ้มเล็กน้อย
"เรามาทำต่อจากเมื่อคืนกันดีไหม"
"ทะ...ทำอะ...อื้อ"
เจ้าของเตียงไม่ยอมให้สกาวใจพูดจนจบ ริมฝีปากนุ่มและนิ่มกับบรรยากาศที่มีเพียงแค่คนสองคน โดยมีไออุ่นที่แลกเปลี่ยนกัน
เวลากำลังทำหน้าที่ของมัน ความหิวก็เริ่มเล่นงานพวกเธอทั้งสอง
"หิวไหม" นัทนันท์เกลี่ยปอยผมที่ปรกหน้าของคนตัวเล็กในอ้อมแขนของเธอให้ออกจากใบหน้าเนียนเพื่อที่จะได้มองจนเต็มตา
"ไม่หิว" สกาวใจหน้ายู่น้อยๆ แล้วส่ายหน้าเบาๆ ทุกอย่างเหมือนฝัน บรรยากาศรอบตัวทำให้เธอไม่สามารถปฏิเสธความต้องการของตัวเองได้
"อิ่มทิพย์หรือไง ลงไปหาอะไรกินกันเถอะ นัดหิวแล้ว"
ท่าทางเอาแต่ใจของคนร่างสูงกำลังบังคับให้สกาวใจทำในสิ่งที่เธอต้องการ
"งั้น แตงไปอาบน้ำก่อนนะ" สกาวใจมองหาเสื้อผ้าของตัวเอง รู้ตัวอีกทีชุดนอนของเธอก็ลงไปกองข้างล่าง
"ไปอาบด้วยกันเถอะ"
คนขี้แกล้งรวบตัวคนตัวเล็กกว่าจากทางข้างหลัง ผ้าห่มที่ห่อหุ้มตัวคนทั้งสองแทบจะร่วงหล่น
"อย่าเล่นสิ โป๊หมดแล้ว" ยิ่งโดนแกล้งก็ยิ่งร้อนไปทั้งตัว
"กลัวอะไร ก็เห็นจนหมดแล้วนะ แค่อาบน้ำเอง"
สกาวใจหันไปมองนัทนันท์ที่กำลังยิ้มกรุ้มกริ่ม ไม่เคยคาดคิดเลยว่าจะมีวันได้สัมผัสริมฝีปากได้รูปนั่น จินตนาการของเธอกับการได้ลูบไล้บนตัวคนขาวเรียวสูง กลับกลายเป็นว่าทั้งหมดนั่นเพื่อนตัวดีแย่ไปเสียหมด บนตัวเธอมีแต่ร่องรอยทำรัก
"คิดอะไรอยู่ นัดหิวข้าวแล้วนะ" ลูกอ้อนของคนเอาแต่ใจ กำลังพ่นลมใส่ต้นคอเนียนจนอดใจขบกัดใบหูไม่ได้
"ทะ..ทำอะไร จั๊กจี้" เสียงหัวเราะของร่างเล็กได้แต่หันหน้าหลบริมฝีปากของคนข้างหลัง ยิ่งดิ้นยิ่งน่าแกล้ง
"ถ้าไม่อยากให้นัดทำ ก็ต้องไปอาบน้ำด้วยกัน" พ่นลมอีกนิดจะได้ยอมทำตาม
พอสกาวใจนิ่งคนรอฟังก็เริ่มใจร้อน จึงฉวยโอกาสอุ้มคนตัวเบาไปอาบน้ำพร้อมกันเสียเลย
"ทำอะไร...จะตกแล้ว"
"อย่าดิ้นสิ รีบอาบน้ำกันเถอะ นัดหิวแล้ว"
สกาวใจกอดคอของคนเอาแต่ใจแน่นเพราะกลัวตก ทุกอย่างที่เกิดขึ้นเหมือนความฝันที่ไม่มีวันตื่นจริงๆ
"นัด"
"อะไร" นัทนันท์ขานตอบแบบไม่ใส่ใจ เมื่อปล่อยคนตัวเบาให้เท้าเหยียบพื้นห้องน้ำ
"แบบ...แบบนี้คือ..."
"คืออะไร" หันไปหาคนตัวเตี้ยแล้วเอียงคอน้อยๆ สงสัยสิ่งที่กำลังจะถูกถาม
"คือ...พวกเราเป็นแฟนกันแล้วใช่ไหม" รวบรวมความกล้าเพื่อให้ทุกอย่างชัดเจน ช่วยบอกเธอทีว่าทุกอย่างไม่ใช่ความฝัน
นัทนันท์ยิ้มและดันตัวคนตัวเล็กให้ติดกำแพงใต้ฝักบัว มือข้างหนึ่งล็อกตัวคนของเธอให้อยู่ในสายตา ส่วนมืออีกข้างเปิดน้ำให้ไหลจนเปียกทั้งตัวเธอและคนที่อยู่ตรงหน้า
"แบบนี้คิดว่าเป็นแฟนกันหรือยัง" เสียงกระซิบข้างใบหูของสกาวใจ กับริมฝีปากเรียวค่อยๆ ประกบคนถาม ความเร่าร้อนถูกส่งผ่านทางลิ้นเป็นคำตอบและยิ่งแน่ใจเมื่อทั้งสองตอบรับกัน

เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 ส.ค. 2564, 21:59:58 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 ส.ค. 2564, 22:00:09 น.
จำนวนการเข้าชม : 405
<< เริ่มต้นจากตรงไหนกัน |