วานวาสนา: ร่มเกศ (ปลายปากกาสำนักพิมพ์)
เรื่องย่อ:
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
เมื่อทุกอย่างสูญสิ้น ‘น้อย’ ชายหนุ่มชีวิตอาภัพ จำต้องออกเดินทางจากบ้านสู่พระนครที่ห่างไกล เพื่อตามหาหญิงสาวอันเป็นที่รัก แต่ก็ต้องพบเจอกับอุปสรรคและความผิดหวังซ้ำๆ ‘เพชราวสี’ คือนิยามของคำว่าสมบูรณ์แบบ เป็นแก้วมณีที่ผู้ชายทุกคนใฝ่ฝัน แต่ก็ต้องฝันสลาย เพราะแก้วมณีดวงนี้ได้ถูกจองให้แก่ ‘หม่อมเจ้าภาณุมาศ’ เพียงผู้เดียวเท่านั้น
ทุกอย่างคงจะเป็นไปอย่างที่ควรจะเป็น หากโลกไม่หมุนคนที่แตกต่างทั้งสองคนให้มาพบเจอกัน
หนึ่งรอยยิ้มพิมพ์ใจ กับแววตาอ่อนหวานละไมของเธอ เป็นดั่งแสงสว่างนำพาชายหนุ่มที่สิ้นหวังก้าวไปสู่โลกอีกใบที่ไม่เคยค้นพบ จากความประทับใจ ก็เริ่มแปรเปลี่ยนไปเป็นความรัก
ใครจะไปคิดว่าชายหนุ่มอ่อนแอ จะลุกขึ้นมาต่อสู้กับโชคชะตาเพื่อเอาชนะคำดูถูกของทุกคน การหาคำตอบว่าตัวเองเป็นใครจึงเริ่มต้นขึ้น ท่ามกลางปริศนา ปมความรักต่างชนชั้น เรื่องราวเลวร้ายมากมายที่เขาจะต้องเผชิญและจับมือฝ่าฝันอุปสรรคไปพร้อมกันกับเธอ
. . . . . . . . . . . . . .
นิยายเรื่องนี้เขียนโดย "ร่มเกศ" เป็นหนึ่งในนิยายจากโครงการ "ช่องวันอ่านเอา" ที่ได้รับการสร้างเป็นละครโทรทัศน์ทางช่อง One31 และได้ตีพิมพ์กับ "ปลายปากกาสำนักพิมพ์ (Plaipakka Publishing)" ทีมงานปลายปากกาจึงนำมาลงให้ได้อ่านกัน ประมาณ 50% ของเรื่องนะคะ
***************************
นักอ่านท่านใดสนใจมีทั้งแบบ eBook และแบบรูปเล่ม
***สำหรับแบบรูปเล่มวางจำหน่าย 4 ช่องทาง***
1.ศูนย์หนังสือจุฬาฯ
2.ร้านออนไลน์
3.สั่งซื้อโดยตรงกับสนพ.ผ่าน www.plaipakkabooks.com หรือ inbox หาแอดมินเพจปลายปากกาสำนักพิมพ์ หรือผ่าน Line: plaipakkabooks
4.ซื้อผ่าน plaipakkabooks_officialshop ใน shopee
หนังสือพร้อมส่ง
คุ้มสุดด้วยจำนวน 600 หน้า
สั่งซื้อออนไลน์ราคาเพียง 409฿ จากราคาปก 454฿
ค่าจัดส่งลงทะเบียน 45฿ (รวมเป็น 454฿)
ค่าจัดส่ง EMS 70฿ (รวมเป็น 479฿)
ค่าจัดส่ง Kerry 65฿ (รวมเป็น 474฿)
หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ เพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
***แบบ eBook วางจำหน่ายที่เว็บ Mebmarket และ NaiinPann***
Tags: พีเรียด โรแมนติก ดราม่า ละคร ช่องวัน อ่านเอา
ตอน: บทที่ 9 ความสัมพันธ์ที่ต้องซ่อน (100%)
วันศุกร์นี้จะมี "ปลายปากกาบุ๊กแฟร์ (ครั้งที่ 3)" นะคะนักอ่านทุกท่าน จัดโปรฯ ออนไลน์ลดกระหน่ำ + ส่งฟรีทุกเล่ม ใครเล็งวานวาสนาไว้ เตรียมสอยได้นะคะ ที่เฟซบุ๊กเพจ "ปลายปากกา สำนักพิมพ์"
**************
ช่วงเวลาพลบค่ำ น้อยที่กำลังนั่งหว่านเศษข้าวให้เป็ดไก่ได้จิกกิน เหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีส้มยามสนธยา เมื่อดวงตะวันใกล้ลาลับขอบฟ้า ดวงจันทร์ก็จะเคลื่อนขึ้นมาแทนที่ ท้องฟ้าก็เป็นแบบนี้เสมอ ไม่เคยเปลี่ยน แปลงไป ไม่เหมือนกับใจคนที่ยากจะหยั่งถึง...
“ไอ้น้อย เอ็งมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ เหลือเอ็งคนเดียวนะที่ยังไม่ได้กินข้าวน่ะ” เสียงของพวงดังขึ้นจากด้านหลัง
“ฉันไม่หิวหรอกจ้ะ...แต่ฉันมีเรื่องข้องใจอยากจะถามลุงมากกว่า”
“ว่ามาสิ” พวงว่าพลางนั่งลงขอนไม้เตี้ยๆ ข้างกัน
“คนที่ชื่อท่านชายภาส เขาเป็นใครหรือลุง”
พวงมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามนั้น เขาเป็นเพียงคนสวน อยู่แต่กับต้นไม้ดอกไม้ไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องเจ้านายมากนักหรอก แต่ด้วยความที่อยู่มานานและเคยได้ยินพวกในครัวเล่าให้ฟังจึงรู้...
“อ๋อ ท่านชายภาส ท่านเป็นพระคู่หมั้นของท่านหญิงวสี”
น้อยตกใจ เพราะตอนที่กำลังทำงานอยู่ในสวน เขาบังเอิญเห็นท่านชายยืนคุยกับพิมอย่างสนิทสนม ไม่เพียงแค่นั้นยังแสดงท่าทางเชิงชู้สาวใส่พิม โดยการสวมสร้อยคอให้พิม ดูก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่มาก กว่าคำว่าคนรู้จัก... น้อยได้แต่เห็นใจเพชราวสี เธอจะทำอย่างไรถ้ารู้ว่าคนในปกครองมีสัมพันธ์กับพระคู่หมั้นของตน
************************
ในขณะเดียวกัน เพชราวสีนั้นกำลังง่วนอยู่กับการคัดเลือกเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่แล้ว หรือบางตัวก็ไม่ได้ใส่เลย ออกมาวางเรียงรายบนเตียงนอนมากมาย ส่วนหนึ่งหญิงสาวก็คิดจะเอาไปบริจาค แต่พอคิดไปคิดมาเธอเคยได้ยินพิมบ่นเรื่องเสื้อผ้าที่ถูกหนูกัดขาดไปหลายตัว ซ้ำเสื้อผ้าที่พิมเตรียมมาจากบ้านก็มีแต่ผ้าถุงกับเสื้อท่อนบน ไม่มีชุดกระโปรงดีๆ ใส่เลยสักตัว เพชราวสีเห็นใจ เธอนึกภาพรูปร่างของพิมก็ใกล้เคียงกับเธออยู่พอดี
“พิมมานี่สิจ๊ะ”
พิมที่นั่งทำความสะอาดแจกันอยู่ภายในห้องรับรอง พอได้ยินเสียงเจ้านายสาวเรียกใช้สอยจากข้างบน หล่อนก็รีบกุลีกุจอขึ้นมาบนห้องนอนของเพชราวสีทันที
“ท่านหญิงมีอะไรให้พิมรับใช้หรือคะ”
“ไม่มีหรอกจ้ะ ฉันบังเอิญได้ยินพิมบ่นเรื่องเสื้อผ้าเมื่อวันก่อน ฉันมีเสื้อผ้าเยอะแยะเต็มตู้ไปหมด บางตัวก็ยังไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ ชอบชุดไหนก็เอาไปได้เลยนะจ๊ะ ฉันยกให้”
พิมมองไปที่ชุดกระโปรงสีสันสวยงาม ก็ตาลุกวาว ตื่นตาตื่นใจราวกับได้เห็นถ้ำสมบัติ มีแต่ชุดสวยๆ เนื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น และแต่ละชุดคงจะแพงน่าดู
“มันจะดีหรือคะ ถ้าหม่อมรู้เข้า ต้องไม่พอใจแน่ๆ เลยค่ะ” ใจจริง เธอก็อยากจะกวาดเสื้อผ้าทั้งที่แขวนอยู่ที่ราวและวางอยู่บนเตียงไปให้หมด แต่กลัวจะเสียมารยาท จึงแสร้งพูดเกรงใจให้ดูดีไปตามประสา
“คุณแม่จะว่าอะไรได้ ฉันเป็นคนให้เธอเอง เธอไม่ได้ขโมยไปเสียหน่อย ทุกๆ เดือน คุณแม่ก็จะเรียกช่างมาตัดให้ใหม่อยู่แล้ว สำหรับฉัน เสื้อผ้ามีมากไปก็ปวดหัวเปล่า อะไรที่พอใส่ได้ฉันก็ใส่ ตัวไหนที่ไม่จำเป็น ต้องใช้แล้วก็ส่งต่อให้คนที่เขาไม่มี ทำอย่างนี้มีประโยชน์กว่าตั้งเยอะ”
“พิมขอบคุณท่านหญิงมากๆ เลยนะคะ” พิมยิ้มกริ่ม ไม่รอช้า รีบเดินไปเลือกชุดที่แขวนอยู่ที่ราว สับไม้แขวนเสื้อไปมาวุ่นวาย
เพชราวสีเห็นอาการตื่นเต้นของพิม ก็ยิ้มตาม ดูเพื่อนสาวของเธอจะมีความสุขมากเหลือเกินกับสิ่งของที่เธอมอบให้ เธอจึงเข้าไปช่วยเลือกว่าชุดไหนที่เหมาะกับพิม และให้คำวิจารณ์ว่าใส่ออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งสองสาวพูดคุยกัน หัวเราะกันสนุกสนานอย่างเพื่อนสาวที่กำลังช่วยกันแต่งตัว
ระหว่างนั้นเอง เพชราวสีก็เหลือบไปเห็นสร้อยทองคำขาวบนลำคอของพิม เธออมยิ้ม เมื่อนึกถึงอาการใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของพิมในช่วงสองสามวันมานี้ เป็นเพราะหัวใจของเพื่อนเธอเป็นสีชมพูนี่เอง
“เอ...มีสร้อยคอรูปหัวใจด้วย ใครให้มาหรือจ๊ะ” เพชราวสีแกล้งถามอย่างอารมณ์ดี
“เอ่อ...” พิมทำหน้าไม่ถูก เลื่อนมือขึ้นมากุมสร้อยไว้อย่างหวงแหน
“ฉันเดาว่าต้องเป็นคนรักของพิม”
“เอ่อ...คือ...”
เพชราวสีเห็นพิมหน้าแดงแจ๋ก็เขินแทน
“ไม่ต้องอายหรอกน่า ผู้ชายคนนั้นเป็นใครหรือจ๊ะ เขาดีกับพิมหรือเปล่า”
“ดีค่ะ เขาสุภาพ อ่อนโยน และเป็นกันเองกับพิม” พิมตอบเบาๆ
“เป็นกันเอง! แสดงว่าจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา เป็นใครรึ...ฉันรู้จักหรือเปล่า” เพชราวสีถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เธอคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม และดีใจที่เห็นเพื่อนของเธอมีความสุข
พิมมองเพชราวสี ชั่งใจว่าจะบอกเรื่องของหม่อมเจ้าภาณุมาศดีหรือไม่...
“ท่านหญิงไม่รู้จักเขาหรอกค่ะ”
“อ้าวเหรอ...” เพชราวสีทำหน้าผิดหวัง “แต่ถ้าว่างๆ ก็พาเขามาเยี่ยมฉันบ้างนะ จะได้รู้จักหน้าค่าตากันเอาไว้”
พิมพยักหน้าไปตามน้ำ เธอไม่รู้ว่ามันจะมีวันนั้นไหม วันที่เธอกับเขาได้คบหากันอย่างเปิดเผย เหมือนอย่างคู่รักคู่อื่นอย่างที่ควรจะเป็น...
ลงให้อ่านทุกวันอังคาร พฤหัส และเสาร์นะคะ ^_^
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
**************
ช่วงเวลาพลบค่ำ น้อยที่กำลังนั่งหว่านเศษข้าวให้เป็ดไก่ได้จิกกิน เหม่อมองขึ้นไปบนท้องฟ้าสีส้มยามสนธยา เมื่อดวงตะวันใกล้ลาลับขอบฟ้า ดวงจันทร์ก็จะเคลื่อนขึ้นมาแทนที่ ท้องฟ้าก็เป็นแบบนี้เสมอ ไม่เคยเปลี่ยน แปลงไป ไม่เหมือนกับใจคนที่ยากจะหยั่งถึง...
“ไอ้น้อย เอ็งมานั่งทำอะไรอยู่ตรงนี้ เหลือเอ็งคนเดียวนะที่ยังไม่ได้กินข้าวน่ะ” เสียงของพวงดังขึ้นจากด้านหลัง
“ฉันไม่หิวหรอกจ้ะ...แต่ฉันมีเรื่องข้องใจอยากจะถามลุงมากกว่า”
“ว่ามาสิ” พวงว่าพลางนั่งลงขอนไม้เตี้ยๆ ข้างกัน
“คนที่ชื่อท่านชายภาส เขาเป็นใครหรือลุง”
พวงมีสีหน้าแปลกใจเล็กน้อยเมื่อได้ยินคำถามนั้น เขาเป็นเพียงคนสวน อยู่แต่กับต้นไม้ดอกไม้ไม่ค่อยได้เข้าไปยุ่งวุ่นวายเรื่องเจ้านายมากนักหรอก แต่ด้วยความที่อยู่มานานและเคยได้ยินพวกในครัวเล่าให้ฟังจึงรู้...
“อ๋อ ท่านชายภาส ท่านเป็นพระคู่หมั้นของท่านหญิงวสี”
น้อยตกใจ เพราะตอนที่กำลังทำงานอยู่ในสวน เขาบังเอิญเห็นท่านชายยืนคุยกับพิมอย่างสนิทสนม ไม่เพียงแค่นั้นยังแสดงท่าทางเชิงชู้สาวใส่พิม โดยการสวมสร้อยคอให้พิม ดูก็รู้ว่าความสัมพันธ์ระหว่างคนทั้งคู่มาก กว่าคำว่าคนรู้จัก... น้อยได้แต่เห็นใจเพชราวสี เธอจะทำอย่างไรถ้ารู้ว่าคนในปกครองมีสัมพันธ์กับพระคู่หมั้นของตน
************************
ในขณะเดียวกัน เพชราวสีนั้นกำลังง่วนอยู่กับการคัดเลือกเสื้อผ้าที่ไม่ได้ใส่แล้ว หรือบางตัวก็ไม่ได้ใส่เลย ออกมาวางเรียงรายบนเตียงนอนมากมาย ส่วนหนึ่งหญิงสาวก็คิดจะเอาไปบริจาค แต่พอคิดไปคิดมาเธอเคยได้ยินพิมบ่นเรื่องเสื้อผ้าที่ถูกหนูกัดขาดไปหลายตัว ซ้ำเสื้อผ้าที่พิมเตรียมมาจากบ้านก็มีแต่ผ้าถุงกับเสื้อท่อนบน ไม่มีชุดกระโปรงดีๆ ใส่เลยสักตัว เพชราวสีเห็นใจ เธอนึกภาพรูปร่างของพิมก็ใกล้เคียงกับเธออยู่พอดี
“พิมมานี่สิจ๊ะ”
พิมที่นั่งทำความสะอาดแจกันอยู่ภายในห้องรับรอง พอได้ยินเสียงเจ้านายสาวเรียกใช้สอยจากข้างบน หล่อนก็รีบกุลีกุจอขึ้นมาบนห้องนอนของเพชราวสีทันที
“ท่านหญิงมีอะไรให้พิมรับใช้หรือคะ”
“ไม่มีหรอกจ้ะ ฉันบังเอิญได้ยินพิมบ่นเรื่องเสื้อผ้าเมื่อวันก่อน ฉันมีเสื้อผ้าเยอะแยะเต็มตู้ไปหมด บางตัวก็ยังไม่ได้ใส่ด้วยซ้ำ ชอบชุดไหนก็เอาไปได้เลยนะจ๊ะ ฉันยกให้”
พิมมองไปที่ชุดกระโปรงสีสันสวยงาม ก็ตาลุกวาว ตื่นตาตื่นใจราวกับได้เห็นถ้ำสมบัติ มีแต่ชุดสวยๆ เนื้อผ้าดีๆ ทั้งนั้น และแต่ละชุดคงจะแพงน่าดู
“มันจะดีหรือคะ ถ้าหม่อมรู้เข้า ต้องไม่พอใจแน่ๆ เลยค่ะ” ใจจริง เธอก็อยากจะกวาดเสื้อผ้าทั้งที่แขวนอยู่ที่ราวและวางอยู่บนเตียงไปให้หมด แต่กลัวจะเสียมารยาท จึงแสร้งพูดเกรงใจให้ดูดีไปตามประสา
“คุณแม่จะว่าอะไรได้ ฉันเป็นคนให้เธอเอง เธอไม่ได้ขโมยไปเสียหน่อย ทุกๆ เดือน คุณแม่ก็จะเรียกช่างมาตัดให้ใหม่อยู่แล้ว สำหรับฉัน เสื้อผ้ามีมากไปก็ปวดหัวเปล่า อะไรที่พอใส่ได้ฉันก็ใส่ ตัวไหนที่ไม่จำเป็น ต้องใช้แล้วก็ส่งต่อให้คนที่เขาไม่มี ทำอย่างนี้มีประโยชน์กว่าตั้งเยอะ”
“พิมขอบคุณท่านหญิงมากๆ เลยนะคะ” พิมยิ้มกริ่ม ไม่รอช้า รีบเดินไปเลือกชุดที่แขวนอยู่ที่ราว สับไม้แขวนเสื้อไปมาวุ่นวาย
เพชราวสีเห็นอาการตื่นเต้นของพิม ก็ยิ้มตาม ดูเพื่อนสาวของเธอจะมีความสุขมากเหลือเกินกับสิ่งของที่เธอมอบให้ เธอจึงเข้าไปช่วยเลือกว่าชุดไหนที่เหมาะกับพิม และให้คำวิจารณ์ว่าใส่ออกมาแล้วจะเป็นอย่างไรบ้าง ทั้งสองสาวพูดคุยกัน หัวเราะกันสนุกสนานอย่างเพื่อนสาวที่กำลังช่วยกันแต่งตัว
ระหว่างนั้นเอง เพชราวสีก็เหลือบไปเห็นสร้อยทองคำขาวบนลำคอของพิม เธออมยิ้ม เมื่อนึกถึงอาการใจลอยไม่อยู่กับเนื้อกับตัวของพิมในช่วงสองสามวันมานี้ เป็นเพราะหัวใจของเพื่อนเธอเป็นสีชมพูนี่เอง
“เอ...มีสร้อยคอรูปหัวใจด้วย ใครให้มาหรือจ๊ะ” เพชราวสีแกล้งถามอย่างอารมณ์ดี
“เอ่อ...” พิมทำหน้าไม่ถูก เลื่อนมือขึ้นมากุมสร้อยไว้อย่างหวงแหน
“ฉันเดาว่าต้องเป็นคนรักของพิม”
“เอ่อ...คือ...”
เพชราวสีเห็นพิมหน้าแดงแจ๋ก็เขินแทน
“ไม่ต้องอายหรอกน่า ผู้ชายคนนั้นเป็นใครหรือจ๊ะ เขาดีกับพิมหรือเปล่า”
“ดีค่ะ เขาสุภาพ อ่อนโยน และเป็นกันเองกับพิม” พิมตอบเบาๆ
“เป็นกันเอง! แสดงว่าจะต้องไม่ใช่คนธรรมดา เป็นใครรึ...ฉันรู้จักหรือเปล่า” เพชราวสีถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น เธอคิดว่าความรักเป็นสิ่งที่สวยงาม และดีใจที่เห็นเพื่อนของเธอมีความสุข
พิมมองเพชราวสี ชั่งใจว่าจะบอกเรื่องของหม่อมเจ้าภาณุมาศดีหรือไม่...
“ท่านหญิงไม่รู้จักเขาหรอกค่ะ”
“อ้าวเหรอ...” เพชราวสีทำหน้าผิดหวัง “แต่ถ้าว่างๆ ก็พาเขามาเยี่ยมฉันบ้างนะ จะได้รู้จักหน้าค่าตากันเอาไว้”
พิมพยักหน้าไปตามน้ำ เธอไม่รู้ว่ามันจะมีวันนั้นไหม วันที่เธอกับเขาได้คบหากันอย่างเปิดเผย เหมือนอย่างคู่รักคู่อื่นอย่างที่ควรจะเป็น...
ลงให้อ่านทุกวันอังคาร พฤหัส และเสาร์นะคะ ^_^
หมายเหตุ: เนื่องจากมีการจัดหน้าไว้ในรูปแบบหนังสือเล่มขนาด A5 อาจมีคำฉีกหรือเว้นวรรคมากกว่าปกติเมื่อนำลงเว็บเลิฟ
ปลายปากกาสำนักพิมพ์
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 22 มี.ค. 2565, 17:43:41 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 22 มี.ค. 2565, 17:43:41 น.
จำนวนการเข้าชม : 307
<< บทที่ 9 ความสัมพันธ์ที่ต้องซ่อน (50%) | บทที่ 10 แจกันลายดอกโบตั๋น (50%) >> |