เลือดรักทระนง
เด็กหญิงคนหนึ่งซ฿งถือกำเนิดมาจากโจร ปล้นฆ่า และเลือดอีกส่วนมาจากแม่ที่ไม่ยอมรับในความเป้นลูกของเธอ กระถินยังยืนหยัดที่จะอยู่อย่างทระนงในศักดิ์ศรีและค่าแห่งความเป้นคน ด้วยความรัก และซื่อสัตย์ต่อผู้มีพระคุณ
Tags: ศักดิ์ศรี คือสิ่งที่ต้องรักษา

ตอน: ชิงชัง

วังนารายณ์คือคฤหาสน์สีขาวสง่างามเป็นศิลปะยุโรปสมัยกลางมียอดโดม พระศานต์ เลิศพานิชเป็นประมุขของวัง ซึ่งวังนี้สืบทอดมาจากตระกูลทางภรรยา ซึงเป็นเชื้อพระวงศ์ได้สมบัติตกทอด แต่เป็นวังเรือนไทยไม่ใหญ่มากนัก แต่คุณพระศานต์ทำธุรกิจและมีความร่ำรวยมาจากมารดกเก่าและทรัพย์อันหามาได้จากธุรกิจกับคนต่างชาติ จึงต่อเติมสร้างวังจนไม่แหลือเค้าความเป็นไทย แต่เป็นตึกอย่างยุโรปตอนกลาง มีสง่าเป็นที่ชื่นชมกับคนที่ได้พบเห็นถึงความอลังการสมชื่อวังนารายณ์
บัดนี้ท่านเป็นพ่อม่ายเนื้อหอมมีลูกติดเพียงคนเดียว คือราม ขับรถเบ็นซ์จากยุโรปนำมาขับเชิดหน้าชูตาในสังคม คุณพระเป็นที่หมายปองของสาวแก่แม่ม่ายมากมายทีเดียว
แม่นิ่มเป็นหญิงวัยสี่สิบรูปร่างสมส่วน ท่าทางใจดีเป็นแม่นมของคุณราม บุตรชายกำพร้ามารดาของพระศานต์ รามมักแสดงพฤตติกรรมต่อต้านทุกครั้งที่บิดาพาสตรีมากหน้าหลายตาเข้ามาร่วมชายคา โดยเฉพาะ พุดกรองนักร้องไนต์คลับ แม่ม่ายลูกติด
คุณพระศานต์ติดใจพุดกรองมากจึงพามาเที่ยวที่วังบ่อย นานเข้าพุดกรองได้ย้ายเข้ามาอยู่ในวัง โดยที่คุณพระเลี้ยงดูอย่างออกหน้าออกตา รามประท้วงไม่ยอมพูดคุยกับบิดา เขาชิงชังแม่เลี้ยงผู้มีความสะคราญโฉมอย่างหาตัวจับยาก พุดกรองมีวัยเพียงยี่สิบปีเศษ

ที่ศาลาท่าน้ำเยื้องทางหลังตึกด้านข้าง เป็นที่นั่งทอดอารมณ์ของเด็กชายราม ใกล้กันนั้นเป็นเรือนไม้ยกพื้น เป็นที่อยู่ของแม่นิ่ม แม่นมของราม เวลานี้แม่นิ่มถือถาดขนมและเครื่องดื่มไปให้บุตรชายเจ้านายด้วยตัวเอง
“คุณพ่อไปไหนคะคุณราม”
เด็กชายใบหน้าเข้มคมคายจัด หันมาทางต้นเสียงแล้วเมินไป
“รามไม่เห็นครับ”
“ทานอะไรสักหน่อยนะคะรองท้อง คุณหนูไม่ยอมทานข้าวแต่เช้าแล้วนะคะ”
“ เอาไปเก็บเถอะครับนม รามอยากอยู่คนเดียว”
“อย่าทำอย่างนี้เลยค่ะคุณราม”แม่นิ่มกล่าวเสียงอ่อน นั่งลงใกล้เด็กชายที่ตนเองเฝ้าทะนุถนอมมาแต่เล็กแต่น้อย นางโอบร่างเด็กชายปลอบโยน
“คุณพ่อรักคุณรามมากนะคะ”
“รามไม่เชื่อ”
“เชื่อเถอะค่ะ ความรักที่พ่อมีให้ลูก แตกต่างจากมีให้คนอื่นนะคะ”
“ไม่เชื่อ รามไม่เชื่อครับนม”เด็กชายเถียงอย่างคนหัวรั้น
“ คุณพ่อหลงอีนั่นมาก รามเกลียดพวกมัน”
“คุณรามพูดไม่เพราะเลยนะคะ”
“รามจะพูดถึงคนที่รามเกลียดดีได้อย่างไรครับนม รามเกลียดรามก็จะจิกเรียกรัยกอย่างนี้”
“สำเนียงส่อภาษากิริยาส่อสกุล หากเรามีวาจาไม่ดี เราเองก็ไม่ต่างจากคนข้างถนนแม้จะพูดถึงคนที่เราไม่ชอบก็ตาม”
เด็กชายทำหน้าหงุดหงิด แต่ยอมฟัง เขาลดเสียงกร้าวลงมา ก่อนเอ่ยหนักแน่นว่า
“ ถ้าบ้านนี้เป็นของราม รามจะเฉดหัวพวกมันไปให้พ้นทันที”
“คุณรามทำใจให้กว้างสิคะ เชื่อนม วังนี้กว้างมากนักหนา ให้เขาอยู่ส่วนเขาเราก็อยู่ส่วนเรา ถึงคุณพุดกรองทำให้คุณรามไม่ชอบใจ แต่คุณสร้อยสนเธอก็เป็นเด็กน่ารักดีนะคะ”
“หยุดนะนม” รามดึงตัวพ้นอ้อมกอดของพี่เลี้ยง แสดงท่าทีขึงขัง บอกให้รู้ว่ามีความโกรธเกลียดคนที่แม่นิ่มพูดพาดพิงว่าน่ารัก
“รามเกลียดพวกมันเรา เกลียดมันทั้งสองคน รามไม่อยากได้ยิน”
กล่าวจบแล้วรามประท้วงแม่นิ่มด้วยการตะบึงตะบอนจากไป
เจ้ากรรมที่วังนี้ดูเหมือนไม่กว้างขวางอย่างแม่นิ่มเอ่ยอ้างเสียแล้ว เพราะรามหนีแม่นิ่มมา แต่เจอกับคนที่เขาประกาศว่าชิงชังพอดี เด็กหญิงสร้อยสนเป็นเด็กหญิงร่างโปร่งใบหน้ามีเค้าสวยมาก เธอทักทายเมื่อเด็กชายมากวัยกว่าเดินหน้านิ่วผ่านมา
“พี่รามเล่นซ่อนหากับสร้อยมั้ยค่ะ”
“เล่นสิเล่น เล่นอย่างนี้ไง”” เขาปราดเข้าไปผลักเด็กหญิงกระเด็น
พุดกรองเดินคู่มากับพระศานต์เห็นการกระทำของเด็กชายเต็มสองลูกตา แม้แสนโกรธหากพุดกรองจำปิดปากและกลืนความเจ็บแค้นไว้แน่นอก ก่อนปรับสีหน้าท่าทางเหมือนมองไม่เห็นการกระทำอย่างเกเรของรารมราช พุดกรองปั้นเสียงเรียกลูกสาว
“ลูกสร้อยจ๋า”
“คุณแม่ขา พี่รามผลักสร้อยค่ะ”
สร้อยสนร้องไห้โฮฟ้องร้องตามประสาเด็ก พระศานต์เรียกลูกชายเข้ามาเพื่อให้รับผิด หากเขาไม่รับฟังวิ่งหนีจากไป พระศานต์ไม่พอใจจึงพาลไปถึงพี่เลี้ยง
“แม่นิ่ม แม่นิ่มอยู่ไหน ดูแลรามนี่ยังไง ชักจะเอาใหญ่เสียแล้ว”
เขาเรียกหาพี่เลี้ยงเด็กชาย เด็กรับใช้ที่อยู่บริเวณใกล้รีบไปเรียกแม่นิ่ม ซึ่งมาหาประมุขวังโดยเร็ว เมื่อแม่นิ่มมาพบพระศานต์นางยืนนอบน้อม หลุบตามองพื้นอย่างรักษา กิริยาจึงไม่ทันเห็นประกายตาวาววับดังงูพิษจอมอาฆาตของพุดกรองที่ปลายตามองพี่เลี้ยงของเด็กชาย
“อบรมรามซะใหม่นะนิ่ม เกเรใหญ่แล้ว”
“เจ้าค่ะคุณพระ”
พุดกรองกล่าวแทรกราวกับเห็นใจรามว่า
“โถคุณพระขาอย่าโมโหโกรธาไปเลยค่ะ คุณรามยังเด็กจึงไม่ยั้งคิด”
“ฉันจะให้เธอช่วยอบรมดีมั้ย เพราะอีกไม่นานเธอก็เป็นคุณผู้หญิงของที่นี่แล้ว”
แม่นิ่มสะเทือนไปทั้งอก เธออดคิดถึงหัวใจของเด็กชายรามไม่ได้ เพราะนับแต่นี้ไปรามจะต้องมีแม่เลี้ยงอย่างเป็นทางการและที่สำคัญเป็นคนที่รามชิงชังอย่างจับขั้วหัวใจ การกระทำของพระศานต์ในครั้งนี้ แม่นิ่มคิดว่า เห็นแก่ตัวอย่างที่สุด เนื่องจากพระศานต์ช่างไม่คิดถึงหัวอกลูกกำพร้าอย่างรามเลยว่าต้องการใกล้ชิดกับพ่อ ไม่ใช่ให้พ่อไปใส่ใจต่อสตรีที่เขาไม่พอใจอยู่เลยแม้แต่ปลายก้อย
แล้วต่อไปจะเป็นอย่างไรกันเล่า ในเมื่อลูกเลี้ยงมีแต่ความชังเข้าใส่แม่เลี้ยงเช่นนี้ หรือแม่นิ่มอาจคาดคะเนน้ำใจของพระ ศานต์ เลิศพานิชผิดไป!!

เวลาต่อมา
การแต่งงานครั้งใหม่ของพระศานต์ขึ้นปกหนังสือพิมพ์ชื่อดัง ทำให้มีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างกว้างขวางนักว่าไม่เหมาะสม ที่ชาติสกุลของพุกกรองเทียบกันไม่ได้กับภรรยาเก่าซึ่งมีเชื้อสาย และเป็นเจ้าของวังนารายณ์ที่แท้จริง
แต่พระศานต์จะสนใจไปทำไม ในเมื่อวังเก่านั้นได้รับบูรณะมาจากเงินของตนเอง และภรรยาเก่าตายไปจากชีวิตอย่างไม่เคยคิดถึงกันด้วยซ้ำ มีลูกเพียงคนเดียวคือราม และพระศานต์ยิ่งคิดว่า รามเป็นผู้ชาย เมื่อเติบโตขึ้นทุกวัน เขาไม่ควรใส่ใจต่อเรื่องหยุมหยิมเล็กน้อยเช่นนี้ เพราะมันไม่ใช่วิสัยของลูกผู้ชายที่จะเจ้าคิดเจ้าแค้นจนไม่สามารถปรับตัว
ความคิดของพระศานต์คือความรักที่มีให้กับพุดกรองอย่างไม่ยอมฟังเสียงเตือนจากผู้ใด เขาคิดแต่เพียงว่า ตัวเขา เงินของเขา ทุกคนไม่มีสิทธิ์ก้าวก่ายทั้งสิ้นกันได้เขาจึงพาพุดกรองออกสังคมอย่างเย้ยต่อคำครหานินทาเสียด้วยซ้ำไป

ที่บ้านป่าห่างไกลความเจริญ ซึ่งแม้แต่หนังสือสักฉบับจะหาอ่านยาก หาก กาจ แก่งเสือบังเอิญเข้ามาทำธุระที่อำเภอจึงได้เห็นผู้หญิงที่เขาตามหามาตลอดหกปี
พุดกรองในชุดไทยแสนสวย ยืนคู่กับชายวัยกลางคนในชุดเสื้อราชประแตน ผ้าจูงกระเบน ในหัวข้อข่าวการแต่งงานของคุณพระคหบดี
กาจ แก่งเสือ บดกรามจนเป็นสันนูน ดวงตาแข็งกร้าว จ้องมองภาพสวยงามของพุดกรองราวกับว่าอีกฝ่ายมายืนมีชีวิตชีวาอยู่ตรงหน้า ความหลังที่เขาแสนเจ็บจำคือ พุดกรองเป็นเมียของเขา คลอดลูกสาวไว้ให้เขาดูต่างหน้า แล้วหนีไปพร้อมกับลูกติดผัวเก่า กาจตามหาพุกกรองแทบพลิกแผ่นดินแต่ก็ไม่พบ
บัดนี้ได้พบแล้ว กาจ แก่งเสือ จึงกำหนังสือพิมพ์ฉบับนั้นกลับบ้านอันแร้นแค้นของตน
กาจ แก่งเสือกลับมายังบ้านญาติในอีกจังหวัดหนึ่ง เพราะเขาเองไม่สามารถไปใช้ชีวิตตามปกติที่บ้านของตนเองได้ เนื่องจากมีคดีร้ายแรงเป็นชนักปักหลังอยู่ เขามีที่พึ่งเดียวคือ พี่สาวผู้เป็นญาติแสนห่าง แต่นางให้การดูแล และไม่รังเกียจเด็กน้อยที่กาจนำไปฝากให้เลี้ยงดู ลูกสาวที่พุดกรองทอดทิ้งไปอย่างไม่ไยดี ด้วยความรู้สึกรังเกียจที่เกิดจากโจรที่ฉุดคร่าเธอไปปู้ยี้ปู้ยำ
กาจ แก่งเสือ เข้ามาหยุดมองภาพนางกุเลาผู้เป็นญาติกำลังนั่งสานตะกร้า โดยมีเด็กหญิงวัยหกขวบผมฟูกระเซิงเป็นสังกะตัง นั่งเล่นเล่นขี้ดินขี้โคลนอยู่ในบักควายใกล้ ๆ เนื้อตัวของเด็กน้อยมอมแมมจนดูเหมือนไม่ใช่เด็กธรรมดา แต่เป็นเด็กที่เกิดมาจากตรมกระนั้น กาจเห็นเพียงแต่เพียงดวงตากลมโต ฉลาดแกมโกงในที กาจก้าวพรวด ๆ ไปที่นางกุเลา นางตกใจเมื่อพบญาติห่าง จึงอุทานเสียงดัง
“ไอ้กาจ มึง มึงไปอยู่ที่ไหนมา กูได้ข่าวมึงเป็นเสือเป็นสาง คิดว่ามึงติดตารางตายโหงตายห่าไปแล้วเสียอีก แล้วนี่ไปไงมาไง”
“ฉันไม่ได้ติดคุกหรอก หนีไปซ่อนตัวอยู่ไม่เป็นที่เป็นทางหรอก”
“แล้วมึงไปฆ่าไอ้ขาวมันทำไม”
“ฉันคิดว่ามันเอาพุดกรองไปซ่อน”
“นี่มึงยังตามหาอีนั่นไม่เลิกอีกหรือไง มันไปแล้วก็ปล่อยมันไปสิ มึงไปฉุดเมียคนอื่นมาทำเมีย แล้วจะให้มันมาอยู่กับมึง มันก็ไม่ถูกนะไอ้กาจ”
“แต่มันก็น่าคิดถึงกระถินบ้าง กระถินเป็นลูกมัน”
“ลูกที่มันไม่ได้อยากให้เกิดมันจะคิดทำไม แล้วยิ่งเกิดจากมึงด้วย มันไม่มีทางรับได้หรอก”นางกุเลากล่าวโพล่งๆ ซึ่งหากเป็นคนอื่นมาพูดใส่หน้ากาจอย่างนี้เขาอาจจะโกรธจนระงับใจไม่อยู่ยิงทิ้งด้วยปืนที่พกติดต่อมาก็เป็นได้
แต่สำหรับนางกุเลาแล้ว กาจต้องยกเว้น เพราะเขานับถืออีกฝ่ายเป็นเหมือนมารดาบังเกิดเกล้าดังนั้น นางจะพูดสิ่งใดจึงเหมือนให้ข้อคิดกับเขา เพียงแต่ความลุ่มหลง และความอยากเอาชนะทำให้กาจ หูตาบอด ไม่ยอมรับเป็นข้อคิดได้
“แล้วนี่มาทำไม”
“ฉันเจออีพุดแล้ว มันเปลี่ยนเป็นชื่อพุดกรอง มันหนีเข้ากรุงเทพ ไปเป็นนักร้องในบาร์”
“ไปเจอมันที่ไหน”
“มันแต่งงานใหม่กับเศรษฐี เป็นถึงคุณพระคุณเจ้า บัเอิญฉีนเจอรูปมันในหนังสือพิมพ์”
“หามันแต่งงานกับพระได้ด้วยรึไอ้กาจ อุบาทว์จัญไร นรกกินกบาลแล้วคนเอาพระมาเป็นผัว ไอ้พวกสึกพระสึกเถรนี่”
“ไม่ใช่หรอกพี่กุเลา พุดกรองไม่ได้เอาพระมาเป็นผัว แต่มันเป็นขุนนางเก่าแก่ มีตำแหน่งคุณพระ มีผัวใหม่อยู่กรุงเทพฯ ดูสิพี่มันนั่งตอแหลอยู่นี่”
กาจส่งหนังสือพิมพ์สีขาวดำอมเหลืองให้กับกุเลาได้ดู
นางกุเลาเพ่งตามองตามนางเห็นภาพแล้วแต่จำพุดกรองไม่ได้ และอ่านหนังสือไม่ออก กาจมีท่าทีมุ่งมั่นและคิดการณ์ไกล นางกุเลาผู้เป็นญาติห่างแต่ห่วงอีกฝ่ายรู้ทันจึงดักความคิดของอีกฝ่ายว่า
“เอ็งอย่าไปก่อเวรสร้างกรรมกับมันอีกเลย แต่แรกมันก็มีผัวของมันอยู่แล้ว แต่ไปพรากมันจากผัวเก่าของมัน”
“ฉันต่างหากเป็นผัวแรกของมัน แต่ฉันแค่ไปติดคุกสองปี มันเสือกมีผัวใหม่ทำไม”
“มันแต่งงานกับคนรักคนเดิมของมัน แต่เอ็งต่างหากที่ไปฉุดมันอย่าลืมสิกาจ เมื่อเอ็งติดคุกติตามรางพูดกรองมันกลับไปหาคนรักของมัน ก็ไม่ใช่ความผิด”
“ผิดสิพี่”เสือกาจตะคอกกลับ โต้เถียงอย่างดื้อรั้น”
“ผัวกับคนรักจะเอามาเปรียบได้ไง ฉันเป็นผัว แต่ไอ้สินมันเป็นแค่คนรัก พุดกรองมันต้องรอฉันออกจากคุกไม่ใช่ฉันเข้าคุกแล้วมันไปแต่งงานจนมีลูกมีเต้ากัน มันหยามหน้าเกินไป”
“อ๋อแล้วเอ็งไปฉุดมันมาจากคนรัก เอ็งไม่หยามใจใครเลยสินะไอ้กาจ”กุเลาทนความดันทุรังของอีกฝ่ายไม่ได้จึงยอกย้อนอย่างเจ็บแสบ
“มันแต่งงานใหม่ มีลูกกับเจ้าสิน เอ็งออกจากคุกแล้วยังตามไปฉุดมันมาเป็นเมีย แล้วฆ่าเจ้าสินได้ลงคออีก เอ็งจะไม่ให้มันหนีจากคนโหดร้ายอย่างเอ็งได้อย่างไรกาจ”
“ฉันอาจจะเลวกับคนทั้งโลก แต่ฉันไม่มีทางเลวกับพี่ กับพุดกรอง มันมีอีกระถินเป็นลูก เป็นสายเลือดเกี่ยวพันมันไว้กับฉัน แล้วทำไมมันยังใจดำทิ้งกระถินไป นี่ถ้ามันเอากระถินไปเหมือนที่มันเอาอีสร้อยไปฉันอาจจะทำใจได้”
“เอ็งอย่างพูดเลยกาจ เรื่องทำใจอะไรของเอ็งนี่ ขนาดกระถินเอ็งยังห่อมาให้ข้าเลี้ยงตั้งแต่มันแบเบาะ แล้วเอ็งก็เที่ยวปล้นเขากิน ชีวิตเอ็งมันร้อนอย่างนี้ เอ็งไม่สมควรเป็นพ่อเป็นผัวใครหรอก”
กาจนิ่งเงียบกัดกรามกรอก ใจสั่น มือสั่น คอยแต่จะแตะปืน หากว่า เขาเป็นเสือที่ลั่นวาจาคำไหนคำนั้น เขานับถือกุเลา เขาจึงยอมฟังโดยไม่ยิงนางสักเปรี้ยงอย่างที่คิด นี่หากเป็นคนอื่นมาพูดขัดหู ขัดใจคงโดนเสือกาจทำร้ายไปแล้ว
เขาเป็นคนโหดร้าย แต่เขาไม่เคยทำร้ายพุดกรอง ความรักทำให้กาจตาบอด เขาเห็นแต่ว่าตนทำดีกับพุดกรอง ดังนั้นควรได้ความซื่อสัตย์ตอบแทน แต่...เขาได้รับแต่ความชิงชังเท่านั้น
ระหว่างที่ฉุดพุดกรองมาเป็นเมีย เขาต้องปล้ำ ขืนใจอีกฝ่ายทุกครั้งที่เขาต้องการเธอ แต่ไม่สี่เดือนเท่านั้นเขาเข้าคุก พุดกรองกลับไปหาคนรัก เพียงสองเดือนพุดกรองมีลูก ทำให้กาจแค้นแสนแค้นนัก เพราะกับเขาเธอไม่มีสายเลือดให้ ดังนั้นเมื่อออกจากคุกเขากลับไปฉุกคร่าพุดกรองโดยยิงสามีของเธอตาย จากนั้นจึงพาอีกฝ่ายระหกระเหิน และได้ลูกสาวคือกระถิน
แต่...พุดกรองทิ้งสายเลือดโจรไปอย่างไม่มีเยื่อใย กลับไปรับสร้อยสนจากบ้านแม่ของเธอและหนีจากไป หลายปีกาจจึงได้ข่าวจากหน้าหนังสือพิมพ์
กุเลารู้เรื่องรักคุดของกาจมาตลอด และไม่เคยเห็นว่าพุดกรองทำผิด ดังนั้นเมื่อพุดกรองไปดีมีใหม่นางจึงเตือนกาจว่า
“คนที่เขารักกัน เขามีแต่ความเสียสละอยากเห็นคนรักมีความสุขทั้งนั้น แต่เอ็งมันจ้องเอาชนะทั้งที่แพ้ตลอดอย่างนี้ เอ็งควรเลิกเสียที”
“ฉันแค่อยากให้มันรับนางกระถินเป็นลูกของมันอีกคน”
“ทำไมต้องทำอย่างนั้น ทำไมต้องเอาเลือดที่ผิดสีอย่างกระถินไปให้พูดกรองมันรับด้วยกาจ”
“พี่พูดอะไร ฉันไม่เข้าใจ”
“มันเกลียดเอ็งยังไงมันก็เกลียดนังกระถินอย่างนั้น เอ็งเอานังกระถินไปให้มัน เอ็งเท่ากับทำร้ายกระถินรู้มั้ย”
“ไม่จริงหรอกพี่ ฉันไม่ให้พุดกรองทำร้ายกระถินแน่ เพราะกระถินมันเป็นลูกฉัน ถึงจะเป็นลูกโจรก็เถอะ”
“พูดกับคนดื้อด้านมันป่วยการเสียจริงๆ ข้าอยากเตือนว่า อย่าไปทำลายชีวิตพุดกรองมันอีกเลย มันตั้งต้นชีวิตใหม่แล้ว เอ็งปล่อยมันไปเถอะกาจ เอาเวลามาดูแลใส่ใจลูกเอ็งไม่ดีหรือนั่นไง มันรู้จักผู้คนเสียที่ไหน เล่นอยู่กับวัวกับควาย ไม่เรียก ไม่ขาน มันไม่อือ ไม่แอะกับใครทั้งนั้น อีเด็กคนนี้มันใจดำ”
กาจเหลือบสายตามองกระถิน แล้วยิ่งเจ็บใจ
“นี่ถ้านังพุดกรองเอาไปด้วย นังกระถินมันต้องดีกว่านี้”
“ข้าก็เลี้ยงมันได้แค่นี้ละลูกข้าก็โขยงหนึ่ง นี่ตามพ่อมันไปหากินกัน นังกระถินมันดื้อมันไม่เคยห่างข้า มันถึงได้เป็นอย่างนี้”
“ฉันทำใจไม่ได้เลยพี่”ในที่สุดกาจสารภาพความจริงออกมา
“ใครได้เป็นผัวพุดกรองก็ต้องหลงมันทั้งนั้น ฉันเองยังรักและต้องการมันเหลือเกินพี่”
“อ้อหลงรูกู่ไม่กลับว่าอย่างนั้นเถอะ”กุเลากระแทกใส่หน้า
“เอ็งไปฉุดคร่ามันมาเป็นเมียมันไม่ได้รักเอ็งทำใจซะเถอะ ปล่อยมัน ปล่อยคนยิ่งได้บุญกว่าปล่อยนกปล่อยปลามากนัก”
“ฉันจะเอากระถินไปให้นังพุดกรอง”
กุเลาถอนใจยาว อดคิดถึงพระพุทธเจ้าเสียไม่ได้ เพราะพระองค์ท่านสอนองคุลีมาลผู้มีปัญญาเพียงประโยคเดียวก็ได้คิด แต่นางบกแม่น้ำ และเรื่องบาปบุญมาให้กาจฟัง แต่คนมีไม่มีปัญญาคิด ไม่มีบุญมากพอจะเปิดรับทางสว่าง จึงไม่รับฟังใคร ได้แต่ฝังความแค้นเป็นที่ตั้ง นางจึงอ่อนใจในการโน้มน้าวจิตใจอีกฝ่ายอีก
ก่อนตะโกนเรียกกระถิน
“กระถิน ขึ้นมาอาบน้ำได้แล้ว จะเล่นจนพ่อเอ้งกลับมาเลยหรือไง”
กระถินได้ยินเสียงเรียกจึงได้ขึ้นจากบ่อโคลนซึ่งมีน้ำไม่มากนัก แต่เด็กน้อยดูมีความสุขเสียเต็มประดา
“ฉันจะเอากระถินไปด้วยนะพี่”
“อะไรนะ”นางกุเลาอุทาน
“นี่ข้าฟังผิดไปหรือเปล่า”
“ฉันฝากพี่ดูแลมันมานานแล้วลุกพี่ก็หลายคน วันนี้ฉันตั้งใจมารับมันไปด้วย พี่อย่าว่าฉันใจดำเลยนะพี่” นี่เงินที่พี่เลี้ยงกระถินมันมาหลายปี”




นางแก้ว
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 เม.ย. 2554, 19:49:29 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 เม.ย. 2554, 19:49:29 น.

จำนวนการเข้าชม : 4239





   ลูกเสือลูกจระเข้ >>
จิงโกะ 8 เม.ย. 2554, 20:24:27 น.
แหะ นึกว่าเอาตอนใหม่มาลง


ก้อนอิฐ 8 เม.ย. 2554, 22:59:39 น.
แง๊...ลงตอนเดิม..ต้องลงให้เป็นปัจจุบันเร็วๆ นะคะ รอแย่แล้ว

T____T


นางแก้ว 9 เม.ย. 2554, 21:47:34 น.
จ้าจ้า แต่ลองอ่านดูจะเห็นว่าเป้นต้นฉบับรีไรท์นะจ๊ะ มีเพิ่มเนื้อหาด้วยจ้ะ


เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account