เพลิงแค้นภูวดล
"ภูวดล" ชายหนุ่มรูปงาม ด้วยความโกรธจากสาเหตุมาจากแม่เลี้ยงและเพื่อนสนิท และวันหนึ่งใครคนหนึ่งได้มอบพลังวิเศษให้กับเขา เขาจะใช้พลังวิเศษในทางชั่วร้ายหรือไม่ ความรักจะหยุดความร้ายกาจของเขาได้หรือไม่ โปรดติดตาม
Tags: ความรักจะหยุดความโกรธแค้นของเขาได้หรือไม่?

ตอน: บทที่ 2 (50%)

บทที่ 2
“จ้า ดลอยู่ไหน เกิดเรื่องใหญ่แล้วนะ” วรรณพรพูดอย่างรีบร้อน

“มีไรเหรอ ว่ามาจ๊ะ” ปลายสายพูดด้วยน้ำเสียงหวานเยิ้มกับแฟนสาว

“ก็พวกธงชัย!”

“ไอ้ธงชัยมันทำไม” ปลายสายเริ่มเสียงเข้มขึ้น

“พวกมันมาพังซุ้มชมรมธอร์ปีโด ตอนนี้ซุ้มพังยับเยินเลย” วรรณพรพูดพลางสีหน้าดูรีบร้อน

พอวรรณพรพูดจบปลายสายก็รีบตัดสายไป โดยที่ไม่พูดอะไรต่อ วรรณพรได้แต่อึ้งเล็กน้อย พลางครุ่นคิดว่าภูวดลจะทำอะไรต่อไป อาจเกิดเรื่องไม่ดีแน่

ณ โรงอาหารกลางของมหาวิทยาลัย บรรยากาศเต็มไปด้วยนักศึกษาหลายคนที่มากินข้าวมื้อเที่ยงที่โรงอาหาร ประกอบกับเสียงจ๊อกแจ๊กคุยกันของพวกเขาเหล่านั้น

ที่โต๊ะกินข้าวของแก๊งธอร์ปีโด ทุกคนต่างไม่พูดไม่จาอะไรหลังจากที่ภูวดลวางสายวรรณพร ได้แต่จ้องหน้านิ่วคิ้วขมวดของเขา

“เป็นอะไรไปดล บอกพวกเราซิ” สุเมธเปรยขึ้น

“นั่นสิ มีอะไรก็บอกกันนะจ๊ะ จะได้ช่วยกันคิด” มัทนพรพูดบ้าง

“ก็ไอ้ธงชัยอะดิ มันไปพังซุ้มชมรมพวกเรา” ภูวดลพูดออกไปด้วยความแค้นใจ

“เลวมาก มันกล้าทำแบบนี้ได้ยังไง พวกเราต้องไปสั่งสอนพวกมัน ไอ้บ้า สารเลวเนี่ย” สุเมธแสดงความไม่พอใจมาก พลางเธอลุกขึ้นกำกำหมัดแน่น

“เมทตี้ ใจเย็นๆนะ” มัทนพรเตือนเพื่อนด้วยความหวังดี

“ไม่เย็นแล้ว พวกเราต้องไปจัดการพวกมัน” ภูวดลพูดจบก็ลุกขึ้น พร้อมกับขว้างจานข้าวที่กินไม่หมดลงกับพื้น

เพล้งง!!

เสียงจานกระทบกับพื้นจนสายตาทุกคู่ในโรงอาหารหันมามองด้วยความตกตะลึง แต่เขาทำเหมือนไม่ใส่ใจเลย ว่าคนอื่นจะมองเขาอย่างไร

มัทนพร มัญชุพร และ วรยศได้แต่ส่ายหน้าไปมา พลางสีหน้ารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาทันที เพราะอาจมีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นต่อจากนี้อีกเป็นแน่

ภูวดลถอนหายใจกระฟัดกระเฟียดแล้วอย่างแรง แล้วรีบเดินจากตรงนั้นไปด้วยความคับแค้นใจ ตามด้วยสุเมธที่เดินตามกันไปติดๆ

ในระหว่างนั้นธงชัย วงศกรและวิชุดาก็กำลังเดินเข้าโรงอาหารกลางมาพอดี พวกเขาจึงต้องเผชิญหน้ากับภูวดลและสุเมธ

“กล้าดียังไงมาพังซุ้มชมรมของพวกฉัน แกนี่มันเลวมากนะ ไอ้ชัย” ภูวดลต่อว่าเสียงดังลั่นโรงอาหารพลางชี้หน้าคู่อริ มืออีกข้างกำหมัดแน่น

ขณะเดียวกันก็เกิดเสียงฮือฮาขึ้นในโรงอาหาร พลางสายตาทุกคู่ก็หันมามองตามเสียงที่เต็มไปด้วยความไม่พอใจนั่น

“ใช่ สารเลว เลวกว่าหมา ผีห่าซาตาน ไม่มีใครสั่งสอนมาหรือไง” สุเมธด่าและชี้หน้าคู่อริ พลางเบ้ปากใส่ และส่งสายตามองด้วยความดูถูกเหยียดหยาม

“หยุดนะนังกะเทย แกน่ะสิเลว เกิดมาผิดเพศ ผิดธรรมชาติ”

เพี๊ยะ เพี๊ยะ!!!

ธงชัยพูดยังไม่จบก็ถูกคนที่เขาเรียก “นังกะเทย” ตบเข้าไปสองฉาด จนเขาเจ็บแสบหน้าไปหมด แต่ก็ทำได้เพียงเอามือขึ้นมาลูบใบหน้า

กรี๊ดดดด!!!

“อร๊ายยย!! กล้าตบชัยของฉันเหรอ นังเมทตี้” วิชุดากะจะเข้ามาตบสุเมธ แต่กลับเจอสุเมธใช้เท้าถีบที่หน้าท้องจนต้องกระเด็นลงไปนอนกลับพื้น

“แก...นังกะเทย” วิชุดาได้แต่แค้นใจมาก พลางวงศกรก็ประคองเธอขึ้นมา

“รู้ฤทธิ์ฉันหรือยัง พวกสารเลว” สุเมธยังด่าจบก็หัวเราะระรื่น

“แค่นี้มันยังน้อยไปกับการที่ไอ้ดลด่าแม่ฉันกับฉันเมื่อเช้านี้ แกอย่าคิดนะดล ว่าฉันจะกลัวแก น้ำหน้าอย่างแกฉันจะเหยียบให้จมดินซักวัน” ธงชัยพูดออกมาอย่างดังพลางชี้หน้าภูวดล

ผลั๊ว!!!

ภูวดลต่อยปากธงชัยเข้าไปอย่างจังจนคู่อริกระเด็นลงไปนอนกับพื้นอย่างราบคาบ พลันเขาก็เดินเข้าไปกระชากคอเสื้อคู่อริขึ้นมา จนคู่อริอยู่ในท่ากึ่งลุกกึ่งนอน

“แล้วแกคิดเหรอว่าคนอย่างฉันจะยอมให้แกเหยียบอยู่ฝ่ายเดียว ถ้าแม่แกกับแกไม่มาทำร้ายฉันกับน้องชายฉันก่อน ฉันไม่มีทางทำร้ายพวกแกแบบนี้หรอกโว้ย” ภูวดลต่อว่าคู่อริเสียงดัง พร้อมถลึงตาอันเต็มไปด้วยความอำมหิตใส่

เสียงและปฏิกิริยาต่างๆของภูวดลทำให้วงศกรกับวิชุดายืนตัวเกร็งไม่กล้ากระดุกกระดิกไปไหน ราวกับว่าปฏิกิริยาของเขามีพลังอำนาจมากมาย

“พวกแกมันก็หน้าตัวเมีย ที่คอยรอบกัดพวกฉัน ถ้าแน่จริงมาทำกันซึ่งๆหน้าเลยสิวะ” สุเมธได้ทีพล่ามพูดต่อไปอีก

ร่างของธงชัยยังเกร็งและถูกภูวดลจับคอเสื้อไว้แน่น เพราะเขาตัวเล็กกว่าภูวดลพอสมควร ขณะที่ปากมีเลือดค่อยๆไหลซึมออกมา ซึ่งเขาได้แต่ทำหน้าตายเพราะไม่คิดว่าจะถูกภูวดลทำร้ายซะอยู่หมัด พลางในใจก็เต็มไปด้วยความกลัวที่จะถูกทำร้ายอีก

“แกมีอะไรจะพูดกับฉันอีกไหมชัย มีอะไรก็พูดกับฉันตรงนี้” ภูวดลยังพูดด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าวน่ากลัว

“ดล ปล่อยเขาไปเถอะ” เสียงวรยศดังขึ้นข้างหลังภูวดลและสุเมธ แต่ทั้งคู่ก็ไม่ได้หันกลับไปมองแต่อย่างใด

ฉับพลัน วรยศ มัทนพร และ มัญชุพรก็เดินเข้ามาประกบข้างหลังเพื่อนร่วมแก๊งทั้งสองคน

“พวกแกนี่มันชอบหาเรื่องพวกฉันประจำเลยนะ” มัญชุพรแสดงท่าทีสาวห้าวออกมาอย่างชัดเจน

“หุบปากไปเลยนะ นังทอม” วงศกรพูดเชิงปรามออกไปด้วยน้ำเสียงกล้าๆกลัวๆ

“ใครทอมพูดดีๆนะกร อย่าหาว่าฉันไม่เตือนนะ” มัญชุพรพูดเสียงกร้าวออกไปอีก

“หยุดซะทีเถอะนะจ๊ะ เดี๋ยวเรื่องจะไปกันใหญ่ ค่อยๆพูดค่อยจากันก็ได้นะจ๊ะ” มัทนพรพยายามจะหยุดสถานการณ์

ภูวดลปล่อยคอเสื้อคู่อริแล้วผลักออกไปอย่างแรง จนร่างของคู่อริลงไปนอนราบกับพื้น พลันเขาก็เดินไปเตะสะโพกคู่อริเข้าไปอีกสองครั้ง จนธงชัยร้องครวญครางด้วยความเจ็บปวด จากนั้นเขาก็เดินออกจากโรงอาหารไปด้วยความภาคภูมิใจที่เป็นผู้ชนะ

“รอฉันด้วยสิ ดล” สุเมธเอ่ยตามหลังภูวดลพลางรีบวิ่งตามภูวดลไป

วรยศ มัญชุพร และ มัทนพรก็รีบวิ่งตามหัวหน้าแก๊งไปเหมือนกัน โดยที่มีสายตาอาฆาตแค้นของธงชัยมองตามหลังไป

“เป็นอะไรมากไหมชัย เจ็บมากไหม” วิชุดารีบทรุดตัวพยุงธงชัยให้ลุกขึ้น

“แกไม่เห็นทำอะไรเลยนะ ไอ้กร ปล่อยให้ฉันถูกไอ้ดลมันทำร้ายอยู่ได้” ธงชัยพูดขณะที่เจ็บระบมไปทั้งตัว

วงศกรสีหน้าซีด “เออ..คือฉันกลัว ไอ้ภูวดลมันโหดมาก แกก็รู้”

“เออ! ฉันต้องแก้แค้นมันคืนแน่ ไอ้ภูวดล” ธงชัยพูดอย่างคับแค้นใจ

วิชุดาพยุงธงชัยมานั่งที่โต๊ะกินข้าว พลางพูดขึ้นว่า “ฉันเองก็กลัวไอ้ดลนั่นมากนะ ดูสีหน้า ท่าทาง และ คำพูดมันสิ น่ากลัวมาก ไม่คิดเลยนะว่าคนหน้าตาหล่อๆแบบมัน พออารมณ์ร้ายจะน่ากลัวได้ขนาดนี้”

ธงชัยถอนหายใจกระฟัดกระเฟียด แล้วพูดออกมาด้วยความคับแค้นใจ “ ใครจะกลัวแต่ฉันไม่กลัวมันหรอก ฉันจะต้องชนะมัน และแย่งมรดกแห่งตระกูลเพชรธารามาเป็นของฉันให้ได้” พูดจบเขาก็กำหมัดแน่น จนวงศกรและวิชุดามองด้วยสีหน้าอาฆาตแค้นตาม

แก๊งธอร์ปีโดกลับมาดูซุ้มชมรมที่อาคารพละศึกษา สิ่งที่พวกเขาเห็นทำให้พวกเขาไม่พอใจมาก ทำไมถึงกล้าทำถึงเพียงนี้ เหยียดหยามกฎระเบียบของมหาวิทยาลัยเป็นอย่างมาก

แต่สังคมในมหาวิทยาลัยก็เป็นสังคมที่มีอิสระเสรี สังคมเปิดกว้างมากขึ้น อาจารย์ก็ไม่มาคุม ระเบียบวินัยเหมือนจะเยอะแต่ก็เหมือนไม่สามารถควบคุมนักศึกษาได้ทั้งหมด

“มันเลวมาก สมแล้วที่ดลทำกับมันถึงขนาดนั้น” มัญชุพรพูดอย่างเหลืออด

“ดลทำอะไรใครเหรอ มัญ” วรรณพรถามออกไปด้วยความสงสัย โดยมีโสภิดาทำสีหน้าอยากรู้อยากเห็นตาม

“ก็พวกฉันไปตบตีกับพวกไอ้ชัยมาอ่าสิ” สุเมธตอบแทนภูวดล

“ทำไมอารมณ์ร้อนแบบนี้ก็ไม่รู้ ดลอ่า ฉันล่ะกลัวว่าดลจะถูกพวกมันต่อยเอา”มัทนพรพูดพลางถอนหายใจยาว

“ตายจริง ฉันว่าแล้วเชียว ฉันไม่น่ารีบโทร.บอกดลเลยอ่า” วรรณพรพูดเหมือนตัวเองเป็นคนผิด

“ไม่เป็นไรหรอก ถึงฉันรู้ทีหลังก็ต้องจัดการมันอยู่ดีแหละ วรรณ” ภูวดลพูดพลางมองซุ้มชมรมแบบเซ็งๆ

ในขณะที่บริเวณรอบๆพวกเขาก็ยังมีคนเดินผ่านไปผ่านมาและซุ้มของชมรมอื่นๆ และมีเสียงเพลงอันไพเราะบนเวทีเหมือนช่วงเช้าที่ผ่านมา

“นี่มีเรียนกันกี่โมงนี่วันนี้” โสภิดาพูดเปลี่ยนประเด็นการสนทนา

“อ๋อ บ่ายสามจ่ะ โสกับวรรณเรียนเสร็จยังจ๊ะ” มัทนพรตอบด้วยน้ำเสียงหวานแหวว

“เสร็จแล้วจ่ะ อือ... นี่ใกล้จะถึงเวลาเรียนแล้วนะไปเรียนกันได้แล้ว” โสภิดาพูดพลางก้มดูนาฬิกาที่ข้อมือ

“งั้นซุ้มที่พังอะไรที่ใช้ได้ก็ค่อยมาเก็บตอนเย็นๆละกันนะ” วรยศเสนอ

“ก็ดีเหมือนกัน ฉันว่า” สุเมธกล่าวสนับสนุนแล้วเดินนำหน้าเพื่อนๆไป

“งั้นฉันไปเรียนก่อนนะ แล้วเจอกันนะวรรณ” ภูวดลพูดเสียงหวานกับแฟนสาว

“จ๊ะตะเอง ตั้งใจเรียนนะ” วรรณพรลาแฟนหนุ่มแล้วแอบยิ้มระรื่น

โสภิดาที่ยืนอยู่ข้างๆวรรณพรได้แต่รู้สึกอิจฉาวรรณพรและคับแค้นใจ ที่เธอไม่สามารถเปิดเผยความรู้สึกของเธอที่มีต่อภูวดลได้



ภูเขา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 5 ก.ย. 2554, 02:02:42 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 5 ก.ย. 2554, 22:20:04 น.

จำนวนการเข้าชม : 1263





<< บทที่ 1 (100%)   บทที่ 2 (100%) >>
เข้าระบบ เพื่อแสดงความคิดเห็นด้วย weblove account