พิศวาสรัก จอมใจอสูร (ตีพิมพ์แล้วในชื่อ เพลิงรักมนต์สวาท)
พิศวาสรักจอมใจอสูร
เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล
ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก
เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ
++++++++++++++++++++++++++
เพียงดาว บุตรสาวคนโตของตระกูลดัง ผู้มีความสวยบวกความมั่นใจและนิสัยเย่อหยิ่ง ได้รับรู้ว่าน้องสาวของเธอ เพียงฟ้าที่แสนจะอ่อนโยนและอ่อนแอถูกพ่อบังคับให้แต่งงานกับผู้ชายวัยคราวลุงซึ่งเป็นเศรษฐีบ้านนอกไม่ใช่เพราะเงินตราแต่เป็นสัญญาใจของคนเป็นพ่อ เธอรู้สึกสงสารน้องสาวเพราะรู้ดีว่า เพียงฟ้ามีคนรักอยู่แล้วอีกทั้งรังเกียจที่เลือดไฮโซของพวกเธอจะต้องไปปะปนกับเลือดเศรษฐีบ้านนอก แต่ด้วยความที่รักน้องและก่อนตายมารดาได้ฝากฝังน้องสาวเอาไว้กับเธอให้ช่วยดูแล
ทำให้เพียงดาวตัดสินใจไปเป็นสะใภ้บ้านไร่แทนน้องสาว และส่งเพียงฟ้าไปอยู่เมืองนอกสลับตัวกันระหว่างเดินทางซึ่งเมื่อคุณศรุตผู้พ่อรู้ความจริงเข้าก็ไม่สามารถจะทำอะไรได้แล้วต้องปล่อยให้เป็นไปตามนั้นแต่ลงโทษบุตรสาวคนโตด้วยการตัดออกจากกองมรดกและบอกว่าหากเธออยู่ที่บ้านไร่ไม่ได้ก็ไม่ต้องคิดเผยอหน้าชูคอกลับมาที่คฤหาสน์อัศวเทพอีก
เพียงดาวจำต้องยอมรับในโชคชะตา ทันทีที่เธอไปถึงบ้านไร่ก็พบว่าผู้ชายแก่คราวพี่ชายพ่อคนนั้นได้ตายไปแล้วเพราะเป็นโรคหัวใจ แถมก่อนตายได้เขียนมรดกยกเธอให้เป็นภรรยาของน้องชายคนเดียวของเขาแทนนั่นคืออัศนัยเจ้าของไร่องุ่นวัยสามสิบเศษและเป็นเจ้าของทุ่งทานตะวันที่ใหญ่ที่สุดในลพบุรีด้วย นอกจากนี้เขายังมีโรงงานแปรรูปผลผลิตจากไร่ ซึ่งโดยรวมแล้วเขาไม่ได้บ้านนอกอย่างที่เธอคิด เขาทั้งหล่อ และรวยกว่าตระกูลของเธอมาก และเขาก็มองเธอเป็นแค่เพียงยัยตุ๊กตายางไฮโซเสื่อมคุณภาพที่ได้รับมรดกมาเท่านั้น
ความเย่อหยิ่งของเธอทำให้อัศนัยแอบหมั่นไสร้เขาแกล้งเธอต่างๆนาๆ แถมยังไม่ยอมบอกด้วยว่าเขารู้ความจริงแต่แรกแล้วว่าเธอคือเพียงดาว ไม่ใช่เพียงฟ้า อัศนัยให้เธอเลือกว่าจะทำงานบนเตียงหรือทำงานในไร่แต่เพียงดาวเลือกทำงานในไร่เขาจึงใช้เธอเยี่ยงทาส แต่ก็ทำให้สาวสวยไฮโซผู้เย่อหยิ่งรู้ว่าน้ำใจของคนจนๆนั้นมีมากกว่าพวกไฮโซที่เธอเคยรู้จักเพราะคนงานในไร่หลายคนทำดีต่อเธอมากโดยไม่ได้หวังสิ่งตอบแทน
เพียงดาวอยากจะแก้แค้นอัศนัยที่คอยกลั่นแกล้งเธอ หญิงสาวจึงหาที่ระบายอารมณ์ด้วยการกลั่นแกล้งแฟนสาวสุดแสนเรียบร้อยของอัศนัยแทนเธอชื่อเพลงพิณ มักจะมาหาอัศนัยที่ไร่อยู่บ่อยๆ และอัศนัยก็แสดงออกว่ารักเธอเอามากๆ จนครั้งหนึ่งเพียงดาวเกือบทำให้เพลงพิณพลาดท่าเสียทีนักเลงกลุ่มหนึ่ง ซึ่งอัศนัยโกรธมากเขาจึงลงโทษเธออย่างรุนแรงพรากความสาวของเธอไปอย่างไม่ไยดี ทำให้เธอได้รู้บ้างว่านรกมันเป็นอย่างไรแต่แล้วความโกรธเกรี้ยวทั้งหมดก็ค่อยๆมลายหายไปเมื่ออัศนัยได้ค้นพบว่าหญิงสาวไม่ได้เลวร้ายแบบที่เขาคิดและที่สำคัญเขาตกหลุมรักเธอไปตั้งแต่ตอนไหนก็ไม่รู้
แต่กว่าคนทั้งคู่จะปรับความเข้าใจกันได้ก็เล่นเอาคนรอบข้างเหนื่อยไปตามๆ กันเพราะเพียงดาวสวยน้อยเสียเมื่อไหร่เธอทำให้หัวใจชายหนุ่มหลายๆคน ไม่ว่าจะเป็นอรรณพเจ้าของห้างทองชื่อดัง หรือพีระนักวิชาการเกษตรแย่งกันแจกขนมจีบเธอจ้าละหวั่น แต่ก็ไม่มีใครเอาชนะใจเธอได้เพราะอัศนัยใช้สิทธิ์ความเป็นเจ้าของเธอ บีบให้ชายหนุ่มทั้งหลายสละสิทธิ์ไปที่ละคนจนเหลือเขาคนเดียวที่จะนั่งอยู่ภายในหัวใจของเธอ
++++++++++++++++++++++++++
Tags: ไร่ทานตะวัน
ตอน: ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
คุณศรุตเดินผ่านบุตรสาวคนสวยแล้วก็อดจะแขวะไม่ได้ ท่านรักเพียงดาวมากแต่ขัดใจกับนิสัยเย่อหยิ่ง ทนงตัวที่ดูเหมือจะ ถอดพิมพ์มาจากมารดา
“ส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาเสียเงินไปไม่น้อย พ่อไม่เห็นแกจะหางานทำได้สักทียัยดาว”
หญิงสาวหน้ารูปไข่หันหน้าสวยโดดเด่นหันมายิ้มน้อยๆและสบตาบิดา ก่อนจะวางนิตยสารลง
“คุณพ่อคะหางานทำทั้งทีคุณพ่อจะไม่ให้ดาวเลือกบ้างเลยหรือคะ ใช่ว่าจะเข้าๆออกกันได้บ่อย ดาวก็อยากจะหาบริษัทที่มั่นคงทำก็เท่านั้นเอง”
“ตามสบายเถอะแม่คนหัวสูง” จากนั้นคนเป็นพ่อก็เดินผ่านไป
หญิงสาวส่ายหน้า “คุณพ่ออยู่ในช่วงวัยทองหรือไง อย่างว่าเรามันลูกชังโดนบ่น โดนด่าอยู่เรื่อย”หญิงสาวกระฟัดกระเฟียดน้อยๆ เพียงดาวมักจะคิดว่าคนเป็นพ่อไม่ได้รักเธอเท่ากับน้องสาว
++++++++++++++++++++++
เสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน เพียงดาวลุกขึ้นดูและพบว่าน้องสาวของเธอวันนี้กลับมาพร้อมกับแฟนหนุ่มลูกเจ้าของห้างทองชื่อดัง
“คราวนี้แหละคุณพ่อจะทำยังไงคุณอดิศรไม่ยอมปล่อยให้ยัยฟ้าถูกคลุมถุงชนง่ายๆหรอก”
เพียงดาวไม่เห็นด้วยกับการที่คุณศรุตจะส่งน้องสาวเธอไปเป็นบรรณาการให้เพื่อนรัก ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีพระคุณกับครอบครัวของเธอมากแค่ไหนก็ตาม เพราะเพียงฟ้าควรมีโอกาสเลือกว่าเธอจะฝากชีวิตเอาไว้กับใคร
เพียงฟ้าพาแฟนหนุ่มเข้ามาในบ้านและแนะนำให้พี่สาวรู้จัก ต่อจากนั้นก็ขอตัวพาอดิศรไปพบคุณศรุตที่ห้องทำงาน เพียงดาวได้แต่เอาใจช่วยขอให้คนเป็นพ่อเปลี่ยนใจทั้งสองคนจะได้สมหวังกันเสียที
แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพียงดาวก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับเสียงร้องไห้ของเพียงฟ้า
“คุณพ่อใจร้าย ฟ้าเกลียดคุณพ่อ”
“ไม่มีทาง ยังไงยัยฟ้าก็ต้องแต่งงานกับคุณอนิรุตน์ ส่วนนายกลับไปได้แล้ว”
เพียงดาวได้ยินเสียงการสนทนาดังออกมาจากภายในห้องทำงาน เธอกำลังจะเข้าไปดูแต่เมื่อผลักประตูไปร่างบางสมส่วนกับวิ่งสวนออกมาและกอดพี่สาวเอาไว้แน่น
“พี่ดาวขา คุณพ่อใจร้ายคุณพ่อไม่ยอมฟังเรา คุณพ่อจะส่งฟ้าไปให้เพื่อนคุณพ่อ หือ หือ....”
เพียงดาวมองเข้าไปภายในห้องเห็นชายสองคนต่างวัยกำลังโต้เถียงกัน พ่อของเธอมีสีหน้าโกรธจัดส่วนคุณอดิศรก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
“กลับไปที่ห้องก่อนเถอะฟ้า” เพียงดาวพยุงน้องสาวกลับมาที่ห้องนอน
จากนั้นทั้งสองสาวก็ได้ยินเสียงรถขับเคลื่อนออกไปจากหน้าบ้าน เพียงฟ้ารีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง
“พี่ดาวคุณอดิศรเขากลับไปแล้วค่ะ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นมองตามรถของแฟนหนุ่มไปจนสุดสายตา มือเรียวลูบหลังให้กำลังใจน้องสาว ใเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารและเข้าอกเข้าใจ “ใจเย็นๆนะฟ้า”
“ฟ้าจะฆ่าตัวตายหากคุณพ่อยังดึงดันที่จะบังคับฟ้า”
“อย่าทำโง่ๆ แบบนั้นเชียวนะยัยฟ้า” เพียงดาวเขย่าร่างบางของน้องสาว
“ทำไมล่ะคะพี่ดาว หากต้องอยู่แบบทุกข์ทรมานสู้ฟ้ายอมตายเสียดีกว่า”
“พี่ให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ ก่อนตายแม่ฝากเธอไว้กับพี่ ฟ้าเชื่อพี่นะหากพี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครรังแกฟ้าได้ จะไม่ยอมให้ชีวิตฟ้าต้องพบกับความทุกข์ทรมาน”
“พี่ดาว แล้วจะทำยังไงดีคะในเมื่อคุณพ่อไม่ยอมฟังอะไรเลย”
“ถ้าคุณพ่อไม่ฟังก็ช่างท่านปะไร เพราะเราจะไม่ไปขอความเห็นใจกับคุณพ่ออีก”
“แล้วถ้าอย่างนั้นพี่ดาวจะให้ฟ้าทำยังไงคะ นี่คุณพ่อกำหนดให้ฟ้าเดินทางไปหานายอนิรุตน์ที่บ้านไร่ของเขาอาทิตย์หน้าแล้วด้วย”
“ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ทำตามที่พี่บอกก็พอ”
สายตาคู่ส่วยของเพียงดาวซ่อนอะไรเอาไว้บางอย่าง เต็มไปด้วยความหนักใจ ก่อนจะทอดมองน้องสาวที่ซบหน้าร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของเธออย่างอ่อนโยน
“แม่ฝากเธอเอาไว้กับพี่ พี่สัญญาว่าฟ้าจะต้องมีความสุขถ้าใครคนนึงต้องตกไปอยู่ในนรกคนๆนั้นต้องเป็นพี่มากกว่าเธอ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
1 เดือนต่อมา
เรือนร่างได้สัดส่วนในชุดทะมัดทะแมงเสื้อเชิ้ตแบบทันสมัยสีขาวกับกางเกงยีนส์รัดรูป ยืนอยู่ทางเข้าไร่นรบดี
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใสกวาดตามองแนวทุ่งทานตะวันสีเหลืองสด บานสะพรั่งตัดกับขอบฟ้าสีน้ำเงินที่ทอดตัวยาวติดต่อกันสุดลูกหูลูกตา
“ทำไมมันกว้างแบบนี้นะ ที่นี่เหรอไร่นรบดี”
ไร่ทานตะวันแห่งนี้ไม่เหมือนที่เธอเคยไปถ่ายรูปเล่นตามข้างทางยามได้มาจังหวัดสระบุรี มันมีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าและดูเหมือนมันจะถูกปลูกขึ้นเพื่อธุรกิจการเกษตรโดยเฉพาะ
หญิงสาวมองไปในทุ่งทานตะวันกว้างมุมหนึ่งเกือบจะสุดไร่ ซึ่งทานตะวันในส่วนนั้นแห้งเหี่ยวและแก่จัดจนเก็บเกี่ยวได้แล้ว มีคนงานหลายสิบคนแต่งกายรัดกุมส่วนมากสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว มีหมวกไหมพรหมคลุมใบหน้าเพื่อกันความร้อนจากแดด กำลังช่วยกันตัดดอกทานตะวันที่แห้งแล้ว หญิงสาวลากกระเป๋าล้อเลื่อนสีดำไปตามเส้นทางเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะถูกใช้เป็นทางเดินมันขรุขระบ้างทำให้ลากกระเป๋าได้ลำบาก แต่จะให้ถือเธอก็คงทำได้ยากเพราะน้ำหนักของมัน เพียงดาวคิดว่าตนเองคงต้องอยู่ที่นี่ไปสักระยะ
คนงานหลายคนหยุดทำงาน ภายใต้หมวกไหมพรหมที่ใช้คลุมหน้าเพื่อกันแสงแดด แต่เพียงดาวรู้ดีว่าคนเหล่านั้นจ้องเธอแทบจะเป็นตาเดียวกัน
“คือว่าฉันต้องการมาพบคุณอนิรุตน์ค่ะ ไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนคะ”
คนงานหลายคนหันไปมองหน้ากัน
เสียงทุ้มลึกของชายร่างสูงที่สุดในกลุ่มคนงาน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สนใจมองหญิงสาวตั้งแต่ทีแรกเอ่ยถามขึ้น
“มาหาคุณอนิรุตน์ทำไม” น้ำเสียงกระด้าง ทั้งๆที่เขารู้จุดประสงค์ของเธออยู่แล้ว
เพียงดาวรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ นายคนงานคนนี้นึกว่าตัวเองเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาซักไซร้เธอ
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณ แค่บอกฉันมาว่าคุณอนิรุตน์อยู่ที่ไหนก็พอ”
“ก็ได้ถ้าคุณอยากพบคุณอนิรุตน์ใช่ไหม ผมจะพาไปเอง”
ชายหนุ่มหันไปพูดอะไรกับคนงานคนอื่นหญิงสาวฟังไม่ถนัด แต่สักพักพวกคนงานเหล่านั้นก็แยกกันไปทำงานตามเดิน
“ตามมาสิ แล้วนี่จะลากกระเป๋าไปเมืองนอกหรือไง” คนตัวสูงพูดประชด และเดินนำทางไปโดยไม่ได้เอ่ยปากช่วยหญิงสาวถือกระเป๋าแต่อย่างใด ภายใต้หมวกไหมพรหมสีน้ำเงินใบหน้าคมสันเหยียดยิ้มอย่างดูถูก
“ นี่นายเดินช้าๆ หน่อยสิ ฉันเดินไม่ทันนะ” เพียงดาวบ่นและรีบเดินตาม เพราะนายคนงานตัวสูงเดินเร็ว อีกทั้งยังไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด อันที่จริงเพียงดาวคิดว่าเขาน่าจะอาสาช่วยเธอถือกระเป๋า
“ร้อนจะตาย ถ้าเดินอ้อยอิ่งแบบคุณกว่าจะถึงตัวคงจะไหม้กันพอดี”
“แหม..เป็นแค่คนงานในไร่ยังจะห่วงตัวดำอีก” หญิงสาวไหวไหล่และเหยียดยิ้มนิดหน่อย
แต่แล้วสักพักเพียงดาวเองต่างหากที่เป็นฝ่ายเดินเร็วเกือบจะเปลี่ยนเป็นวิ่ง
“ไร่อะไรทำไมมันกว้างขนาดนี้ เมื่อไหร่จะถึงเนื่ย ร้อนๆๆ”
หญิงสาวเริ่มบ่นเธอมองด้วยสายตาก็รู้ว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ยามเธอต้องมาเดินอยู่ในไร่ยิ่งรู้สึกว่ามันกว้างใหญ่กว่าที่ตามองเห็นมาก นี่ก็เดินตัดทุ่งดอกทานตะวันมาตั้งนานแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงเลย
“นี่นายคนงาน อีกนานไหมกว่าจะถึง ฉันเมื่อยขาจะแย่แล้ว ร้อนก็ร้อน”
เขาหันมามองเธอและไหวไหล่
“แล้วใครใช้ให้คุณใส่รองเท้าส้นสูงมาล่ะครับ คิดว่ามาเดินเที่ยวหรือไง ”
“สูงตรงไหน นี่มันแค่สองนิ้วเองนะ” เพียงดาวเถียง “ตกลงมันอีกไกลไหม”
“เฮ้อ! ก็สุดทุ่งทานตะวันนี่ แล้วก็เดินลัดผ่านไร่องุ่นไปอีกราวๆ สองกิโลเมตรก็ถึงแล้ว”
“อะไรนะ ต้องเดินอีกไกลขนาดนั้นเชียวเหรอ” เพียงดาวรู้สึกหมดแรง อีกทั้งยังรู้สึกหิวน้ำ ตอนนี้ดอกทานตะวันที่แสนสวยรายรอบตัวเธออยู่ แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจในความงามของมันเลยเธออยากจะถึงบ้านนายอนิรุตน์ให้เร็วที่สุด
อันที่จริงหากอัศนัยจะพาเธอนั่งรถที่เขาขับมาตรวจงานซึ่งจอดทิ้งไว้ท้ายไร่เพียงไม่ถึงห้านาทีก็คงจะถึงบ้านแล้ว แต่ด้วยความรู้สึกไม่ชอบส่วนตัว ที่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้มาหาพี่ชายเขาด้วยเรื่องอะไรก็ทำให้เขาคิดจะแกล้งเธอเล่น ให้ต้องออกกำลังขามากๆเสียหน่อยเพื่อความสะใจ
เพียงดาวเดินมาอีกไม่นานก็ผ่านไร่องุ่นกว้างที่กำลังออกลูกเป็นพวงดกดูน่ากินมีคนงานหลายคนกำลังทำค้างอันใหม่สำหรับให้องุ่นเกาะอยู่อีกด้านหนึ่งของไร่ และมองเห็นคนงานหญิงหลายคนกำลังตกแต่งพวงองุ่น ทุกคนค้อมศีรษะให้ยามที่เธอเดินผ่าน
“แหม...คนงานไร่นี้ นี่มารยาทดีกันจัง ไม่เหมือน...”
หญิงสาวพูดเบาๆแต่คนเดินนำหน้าได้ยิน เขาหัวเราะเบาๆ เช่นกัน แต่น้ำเสียงเย้ยหยัน เธอช่างไม่รู้อะไรเลยว่าเดินตามใครอยู่ คนงานพวกนั้นทำความเคารพเขาต่างหาก
“นี่นาย นายทำงานที่นี่มานานหรือยังแล้วคุณอนิรุตน์เขามีนิสัยยังไงพอจะบอกได้ไหม”
เพียงดาวพยายามชวนคนนำทางคุย อย่างน้อยการมาแปลกถิ่น ก็ควรจะผูกมิตรเอาไว้ดีกว่าสร้างศัตรู “นิสัยยังไงเหรอ คุณไม่รู้ว่าเขานิสัยเป็นยังไงยังอุตสาห์ดั้นด้นมาหาเขาอีกผมล่ะเชื่อเลย”เขาหัวเราะหึหึในลำคอ
“ฉันถามนายดีๆ จะพูดดีๆกับฉันบ้างไม่ได้เลยเหรอ” เพียงดาวไม่เข้าใจทำไมนายคนนี้ดูเหมือนจะไม่ชอบหน้าเธอนัก ทั้งๆที่เพิ่งจะพบกันเป็นครั้งแรก
“ผมก็พูดของผมแบบนี้ ฟังได้ก็ฟังฟังไม่ได้ก็ไม่ต้องฟัง” น้ำเสียงห้วน
“รอให้ฉันเป็นคุณนายไร่นี้เสียก่อนเถอะ จะไล่นายออกคนแรกเลย” หญิงสาวรู้สึกหมั่นไซร้จึงพูดคาดโทษเบาๆ แต่คนหูดีอย่างอัศนัยก็ได้ยิน
อย่างเธอมันก็คงเป็นได้แค่ตุ๊กตายาง ที่พี่อนิรุตน์ทิ้งเอาไว้ให้เป็นมรดกของเขา ทั้งๆที่เขาเองไม่ได้อยากจะได้อัศนัยตอบเธออยู่ภายในใจ
++++++++++++++++++++
“ถึงแล้วนี่ไงบ้านคุณอนิรุตน์” คนนำทางบอกแก่เพียงดาว จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในบ้านอย่างกับเป็นเจ้าของเสียเอง
“นี่นายเข้าไปในบ้านได้ด้วยเหรอ”
“เข้ามาได้รึเปล่าผมก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมก็เดินเข้ามาแล้วล่ะ”
“กวน....ทีน”หญิงสาวสบถเบาๆ แบบตั้งใจไม่ให้เขาได้ยิน
แต่คนหูดีหันมาส่งสายตาดุใส่ทัน
เพียงดาวมองบ้านที่น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์กลางไร่เสียมากกว่า เธอไม่คิดว่านายอนิรุตน์จะร่ำรวยขนาดนี้ อย่างนี้สินะพ่อถึงอยากให้น้องส่าวเธอแต่งงานกับนายอนิรุตน์นักหนา แต่เพียงดาวรู้ดีว่าเพียงฟ้าคงไม่มีความสุขหากต้องฝืนใจแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก ดีแล้วที่แผนการสลับตัวครั้งนี้สำเร็จป่านนี้ยัยฟ้าคงถึงอังกฤษเรียบร้อยดีแล้ว แต่เธอนี่สิทำยังไงได้ก็เธออยากสวมบทพี่สาวที่แสนดีเองนี่จะโทษใคร
“แล้วไหนล่ะคุณอนิรุตน์” หญิงสาวกวาดตามองแต่ไม่มีใครสักคน
ภายในคฤหาสน์โอ่โถง แม่บ้านวัยกลางเดินเข้ามาหาคนงานที่นำทางให้เพียงดาว แถมยังถามอย่างดิบดีว่า
“คุณอั๊ดจะรับน้ำอะไรดีคะ น้ำเปล่าหรือน้ำส้มดีคะ” และมองเพียงดาวด้วยสายตาแปลกๆ
“ผมขอน้ำเปล่าละกันครับป้าแก้ว และขอน้ำส้มคั้นให้คุณผู้หญิงคนนี้ด้วยเธอเดินมาไกลจากทุ่งทานตะวันป่านนี้คงขอแห้งจนน้ำลายเหนียวแล้วล่ะ”
“ได้ค่ะ เอ..แต่ทำไมต้องเดินมารถในไร่ก็มี” แม่บ้านเดินเข้าครัวและบ่นพรึมพรำจากหน้าไร่มาถึงนี่ใครๆเขาก็ใช้รถกันทั้งนั้นแม้แต่คนงานในไร่ยังมีรถรับส่งเข้าออกเลย
เพียงดาวมองเขา นายคนนี้ทำไมชอบว่ากระทบเธอนัก แต่เอ...ทำไมแม่บ้านคนนั้นถึงพูดจากับเขาราวกับว่าเขาไม่ใช่คนงานในไร่ธรรมดา
อัศนัยรู้สึกอึดอัดกับหมวกไหมพรหม เขาถอดมันออกเผยให้เห็นใบหน้าขาว หล่อคมเข้ม จนเพียงดาวมองค้างอย่างไม่เชื่อสายตา
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีเหรอครับ” เขาพูดจากวนๆ แต่หน้าไม่ยิ้ม
“ฉัน...เอ่อ...เปล่าสักหน่อย”
เพียงดาวยอมรับว่าเธอเห็นผู้ชายหน้าตาดีมามากก็จริง แต่นายคนงานคนนี้หน้าตาหล่อดูดีอย่างกับโป๊บ ธนวรรธน์ ดาราที่เธอแอบปลื้ม จะว่าไปหุ่นก็เหมือนนายแบบยิ่งถ้าได้แต่งตัวดีๆ สงสัยจะหล่อกว่านี้อีกหลายเท่าแล้วทำไมถึงมาเป็นลูกจ้างในไร่ได้
“เลิกมองผมตาค้างได้แล้ว และนั่งลงตรงโซฟานั่นเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
เพียงดาวมองตามปลายนิ้วที่เขาชี้ โซฟารับแขกหนังอย่างดีสีน้ำตาลอมทองดูเหมือนจะเป็นงานสั่งทำ ดูจากสายตาเพียงดาวคิดว่าราคาของมันคงเป็นหลักแสน เฟอร์นิเจอร์ที่นี่ดูหรูหราเกินกว่าจะเป็นบ้านไร่ในแบบที่เธอคิดเอาไว้
“นายอย่ามาชี้นิ้วสั่งแบบนี้นะ นายไม่ใช่เจ้าของบ้าน อีกอย่างเจ้าของบ้านเขายังไม่ได้ออกมาต้อนรับจะให้ฉันนั่งได้ยังไง แล้วนี่นายให้แม่บ้านไปบอกคุณอนิรุตน์หรือยังว่าฉันต้องการพบเขา”
“ฮึๆๆ คงไม่มีใครไปบอกให้คุณหรอก ถ้าเขาออกมาต้อนรับคุณจริงๆ ผมก็คงวิ่งเหมือนกัน”
“หมายความว่ายังไง” เพียงดาวเริ่มโมโห
“ตามมานี่สิ” อัศนัยเดินผ่านห้องโถงลึกเข้าไปในตัวบ้านทางปลีกซ้าย เขาไปหยุดหน้าห้องสุดท้ายและเปิดประตูเข้าไปในนั้น
เพียงดาวเริ่มรู้สึกแล้วว่าเขาคงไม่ใช่คนงานธรรมดาอย่างที่เธอเคยเข้าใจ ดูเหมือนเขาจะรู้จักบ้านหลังนี้ดี
“อยากพบเขามากไม่ใช่เหรอเข้ามาสิยืนเอ๋ออยู่ทำไม” อัศนัยผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวเดินตามเข้าไป
หญิงสาวแทบผงะ รูปที่ฝาผนังในกรอบรูปขนาดใหญ่ทำจากไม้สักทองเนื้อดีระบุชื่อ อนิรุตน์ นรบดี ใต้รูปซึ่งเป็นโต๊ะไม้สักมีโกศลวดลายวิจิตรตั้งเอาไว้ ข้างๆมีพวงมาลัยดอกไม้สดวางอยูในพาน
“คุณอนิรุตน์ เสียแล้วเหรอคะ” เพียงดาวถึงกับอึ้ง
“ใช่ ก็คุณมาช้ากว่ากำหนดเกือบเดือน พี่อนิรุตน์คงรอคุณไม่ไหว เขาเสียชีวิตด้วยโรคไตวาย”
“พี่เหรอ”
“ใช่ผม อัศนัย นรบดี เป็นน้องชายคนเดียวของพี่อนิรุตน์”
“ฉันเสียใจด้วยค่ะ เรื่องคุณอนิรุตน์แต่ทำไมคุณถึงไม่แจ้งไปทางบ้านดิฉันเราจะได้มาร่วมงานศพ”
“ผมไม่รู้ที่อยู่พวกคุณไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของพวกคุณ รู้แต่เพียงพี่อนิรุตน์เขาคอยคุณ เขาบอกผมว่าเจ้าสาวจะเดินทางมาที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว
“ฉันไม่เข้าใจ”
เพียงดาวยิ่งสับสนพ่อสั่งให้เพียงฟ้าเดินทางมาหานายอนิรุตน์ แล้วทำไมพ่อไม่รู้ว่านายอนิรุตน์ตายแล้ว เรื่องราวมันชักจะยังไง แต่จะว่าไปถึงเธอจะรู้สึกเห็นใจที่นายอนิรุตน์ต้องมาจากไปด้วยโรคไตวาย แต่ทว่าถ้านายอนิรุตน์ตายไปแล้วเท่ากับว่าเพียงฟ้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับนายอนิรุตน์ ทีนี้เพียงฟ้าตัวปลอมอย่างเธอก็กลับบ้านได้ล่ะสิ เธอไม่ต้องทนอยู่ที่นี่ ไม่ต้องขอร้องให้นายอนิรุตน์ยกเลิกการแต่งงาน นับว่าการเดินทางมาวันนี้ได้รับทั้งข่าวร้ายและข่าวดีพร้อมๆกัน +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
คุณศรุตเดินผ่านบุตรสาวคนสวยแล้วก็อดจะแขวะไม่ได้ ท่านรักเพียงดาวมากแต่ขัดใจกับนิสัยเย่อหยิ่ง ทนงตัวที่ดูเหมือจะ ถอดพิมพ์มาจากมารดา
“ส่งไปเรียนเมืองนอกเมืองนาเสียเงินไปไม่น้อย พ่อไม่เห็นแกจะหางานทำได้สักทียัยดาว”
หญิงสาวหน้ารูปไข่หันหน้าสวยโดดเด่นหันมายิ้มน้อยๆและสบตาบิดา ก่อนจะวางนิตยสารลง
“คุณพ่อคะหางานทำทั้งทีคุณพ่อจะไม่ให้ดาวเลือกบ้างเลยหรือคะ ใช่ว่าจะเข้าๆออกกันได้บ่อย ดาวก็อยากจะหาบริษัทที่มั่นคงทำก็เท่านั้นเอง”
“ตามสบายเถอะแม่คนหัวสูง” จากนั้นคนเป็นพ่อก็เดินผ่านไป
หญิงสาวส่ายหน้า “คุณพ่ออยู่ในช่วงวัยทองหรือไง อย่างว่าเรามันลูกชังโดนบ่น โดนด่าอยู่เรื่อย”หญิงสาวกระฟัดกระเฟียดน้อยๆ เพียงดาวมักจะคิดว่าคนเป็นพ่อไม่ได้รักเธอเท่ากับน้องสาว
++++++++++++++++++++++
เสียงรถยนต์มาจอดหน้าบ้าน เพียงดาวลุกขึ้นดูและพบว่าน้องสาวของเธอวันนี้กลับมาพร้อมกับแฟนหนุ่มลูกเจ้าของห้างทองชื่อดัง
“คราวนี้แหละคุณพ่อจะทำยังไงคุณอดิศรไม่ยอมปล่อยให้ยัยฟ้าถูกคลุมถุงชนง่ายๆหรอก”
เพียงดาวไม่เห็นด้วยกับการที่คุณศรุตจะส่งน้องสาวเธอไปเป็นบรรณาการให้เพื่อนรัก ไม่ว่าผู้ชายคนนั้นจะมีพระคุณกับครอบครัวของเธอมากแค่ไหนก็ตาม เพราะเพียงฟ้าควรมีโอกาสเลือกว่าเธอจะฝากชีวิตเอาไว้กับใคร
เพียงฟ้าพาแฟนหนุ่มเข้ามาในบ้านและแนะนำให้พี่สาวรู้จัก ต่อจากนั้นก็ขอตัวพาอดิศรไปพบคุณศรุตที่ห้องทำงาน เพียงดาวได้แต่เอาใจช่วยขอให้คนเป็นพ่อเปลี่ยนใจทั้งสองคนจะได้สมหวังกันเสียที
แต่เวลาผ่านไปไม่ถึงครึ่งชั่วโมงเพียงดาวก็ได้ยินเสียงดังออกมาจากห้องทำงานพร้อมกับเสียงร้องไห้ของเพียงฟ้า
“คุณพ่อใจร้าย ฟ้าเกลียดคุณพ่อ”
“ไม่มีทาง ยังไงยัยฟ้าก็ต้องแต่งงานกับคุณอนิรุตน์ ส่วนนายกลับไปได้แล้ว”
เพียงดาวได้ยินเสียงการสนทนาดังออกมาจากภายในห้องทำงาน เธอกำลังจะเข้าไปดูแต่เมื่อผลักประตูไปร่างบางสมส่วนกับวิ่งสวนออกมาและกอดพี่สาวเอาไว้แน่น
“พี่ดาวขา คุณพ่อใจร้ายคุณพ่อไม่ยอมฟังเรา คุณพ่อจะส่งฟ้าไปให้เพื่อนคุณพ่อ หือ หือ....”
เพียงดาวมองเข้าไปภายในห้องเห็นชายสองคนต่างวัยกำลังโต้เถียงกัน พ่อของเธอมีสีหน้าโกรธจัดส่วนคุณอดิศรก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
“กลับไปที่ห้องก่อนเถอะฟ้า” เพียงดาวพยุงน้องสาวกลับมาที่ห้องนอน
จากนั้นทั้งสองสาวก็ได้ยินเสียงรถขับเคลื่อนออกไปจากหน้าบ้าน เพียงฟ้ารีบวิ่งไปดูที่หน้าต่าง
“พี่ดาวคุณอดิศรเขากลับไปแล้วค่ะ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นมองตามรถของแฟนหนุ่มไปจนสุดสายตา มือเรียวลูบหลังให้กำลังใจน้องสาว ใเต็มไปด้วยความรู้สึกสงสารและเข้าอกเข้าใจ “ใจเย็นๆนะฟ้า”
“ฟ้าจะฆ่าตัวตายหากคุณพ่อยังดึงดันที่จะบังคับฟ้า”
“อย่าทำโง่ๆ แบบนั้นเชียวนะยัยฟ้า” เพียงดาวเขย่าร่างบางของน้องสาว
“ทำไมล่ะคะพี่ดาว หากต้องอยู่แบบทุกข์ทรมานสู้ฟ้ายอมตายเสียดีกว่า”
“พี่ให้เธอทำแบบนั้นไม่ได้ ก่อนตายแม่ฝากเธอไว้กับพี่ ฟ้าเชื่อพี่นะหากพี่ยังอยู่จะไม่ยอมให้ใครรังแกฟ้าได้ จะไม่ยอมให้ชีวิตฟ้าต้องพบกับความทุกข์ทรมาน”
“พี่ดาว แล้วจะทำยังไงดีคะในเมื่อคุณพ่อไม่ยอมฟังอะไรเลย”
“ถ้าคุณพ่อไม่ฟังก็ช่างท่านปะไร เพราะเราจะไม่ไปขอความเห็นใจกับคุณพ่ออีก”
“แล้วถ้าอย่างนั้นพี่ดาวจะให้ฟ้าทำยังไงคะ นี่คุณพ่อกำหนดให้ฟ้าเดินทางไปหานายอนิรุตน์ที่บ้านไร่ของเขาอาทิตย์หน้าแล้วด้วย”
“ไม่ต้องทำอะไรเลย แค่ทำตามที่พี่บอกก็พอ”
สายตาคู่ส่วยของเพียงดาวซ่อนอะไรเอาไว้บางอย่าง เต็มไปด้วยความหนักใจ ก่อนจะทอดมองน้องสาวที่ซบหน้าร้องไห้อยู่ในอ้อมอกของเธออย่างอ่อนโยน
“แม่ฝากเธอเอาไว้กับพี่ พี่สัญญาว่าฟ้าจะต้องมีความสุขถ้าใครคนนึงต้องตกไปอยู่ในนรกคนๆนั้นต้องเป็นพี่มากกว่าเธอ”
+++++++++++++++++++++++++++++++++++
1 เดือนต่อมา
เรือนร่างได้สัดส่วนในชุดทะมัดทะแมงเสื้อเชิ้ตแบบทันสมัยสีขาวกับกางเกงยีนส์รัดรูป ยืนอยู่ทางเข้าไร่นรบดี
ดวงตาสีน้ำตาลเข้มสดใสกวาดตามองแนวทุ่งทานตะวันสีเหลืองสด บานสะพรั่งตัดกับขอบฟ้าสีน้ำเงินที่ทอดตัวยาวติดต่อกันสุดลูกหูลูกตา
“ทำไมมันกว้างแบบนี้นะ ที่นี่เหรอไร่นรบดี”
ไร่ทานตะวันแห่งนี้ไม่เหมือนที่เธอเคยไปถ่ายรูปเล่นตามข้างทางยามได้มาจังหวัดสระบุรี มันมีขนาดใหญ่กว่าหลายเท่าและดูเหมือนมันจะถูกปลูกขึ้นเพื่อธุรกิจการเกษตรโดยเฉพาะ
หญิงสาวมองไปในทุ่งทานตะวันกว้างมุมหนึ่งเกือบจะสุดไร่ ซึ่งทานตะวันในส่วนนั้นแห้งเหี่ยวและแก่จัดจนเก็บเกี่ยวได้แล้ว มีคนงานหลายสิบคนแต่งกายรัดกุมส่วนมากสวมเสื้อแขนยาว กางเกงขายาว มีหมวกไหมพรหมคลุมใบหน้าเพื่อกันความร้อนจากแดด กำลังช่วยกันตัดดอกทานตะวันที่แห้งแล้ว หญิงสาวลากกระเป๋าล้อเลื่อนสีดำไปตามเส้นทางเล็กๆ ที่ดูเหมือนจะถูกใช้เป็นทางเดินมันขรุขระบ้างทำให้ลากกระเป๋าได้ลำบาก แต่จะให้ถือเธอก็คงทำได้ยากเพราะน้ำหนักของมัน เพียงดาวคิดว่าตนเองคงต้องอยู่ที่นี่ไปสักระยะ
คนงานหลายคนหยุดทำงาน ภายใต้หมวกไหมพรหมที่ใช้คลุมหน้าเพื่อกันแสงแดด แต่เพียงดาวรู้ดีว่าคนเหล่านั้นจ้องเธอแทบจะเป็นตาเดียวกัน
“คือว่าฉันต้องการมาพบคุณอนิรุตน์ค่ะ ไม่ทราบว่าเขาอยู่ที่ไหนคะ”
คนงานหลายคนหันไปมองหน้ากัน
เสียงทุ้มลึกของชายร่างสูงที่สุดในกลุ่มคนงาน ซึ่งเป็นคนเดียวที่ไม่ได้สนใจมองหญิงสาวตั้งแต่ทีแรกเอ่ยถามขึ้น
“มาหาคุณอนิรุตน์ทำไม” น้ำเสียงกระด้าง ทั้งๆที่เขารู้จุดประสงค์ของเธออยู่แล้ว
เพียงดาวรู้สึกไม่พอใจอยู่ลึกๆ นายคนงานคนนี้นึกว่าตัวเองเป็นใครถึงมีสิทธิ์มาซักไซร้เธอ
“ฉันไม่จำเป็นต้องบอกคุณ แค่บอกฉันมาว่าคุณอนิรุตน์อยู่ที่ไหนก็พอ”
“ก็ได้ถ้าคุณอยากพบคุณอนิรุตน์ใช่ไหม ผมจะพาไปเอง”
ชายหนุ่มหันไปพูดอะไรกับคนงานคนอื่นหญิงสาวฟังไม่ถนัด แต่สักพักพวกคนงานเหล่านั้นก็แยกกันไปทำงานตามเดิน
“ตามมาสิ แล้วนี่จะลากกระเป๋าไปเมืองนอกหรือไง” คนตัวสูงพูดประชด และเดินนำทางไปโดยไม่ได้เอ่ยปากช่วยหญิงสาวถือกระเป๋าแต่อย่างใด ภายใต้หมวกไหมพรหมสีน้ำเงินใบหน้าคมสันเหยียดยิ้มอย่างดูถูก
“ นี่นายเดินช้าๆ หน่อยสิ ฉันเดินไม่ทันนะ” เพียงดาวบ่นและรีบเดินตาม เพราะนายคนงานตัวสูงเดินเร็ว อีกทั้งยังไม่มีความเป็นสุภาพบุรุษสักนิด อันที่จริงเพียงดาวคิดว่าเขาน่าจะอาสาช่วยเธอถือกระเป๋า
“ร้อนจะตาย ถ้าเดินอ้อยอิ่งแบบคุณกว่าจะถึงตัวคงจะไหม้กันพอดี”
“แหม..เป็นแค่คนงานในไร่ยังจะห่วงตัวดำอีก” หญิงสาวไหวไหล่และเหยียดยิ้มนิดหน่อย
แต่แล้วสักพักเพียงดาวเองต่างหากที่เป็นฝ่ายเดินเร็วเกือบจะเปลี่ยนเป็นวิ่ง
“ไร่อะไรทำไมมันกว้างขนาดนี้ เมื่อไหร่จะถึงเนื่ย ร้อนๆๆ”
หญิงสาวเริ่มบ่นเธอมองด้วยสายตาก็รู้ว่ามันกว้างใหญ่แค่ไหน แต่ยามเธอต้องมาเดินอยู่ในไร่ยิ่งรู้สึกว่ามันกว้างใหญ่กว่าที่ตามองเห็นมาก นี่ก็เดินตัดทุ่งดอกทานตะวันมาตั้งนานแล้วยังไม่มีทีท่าว่าจะถึงเลย
“นี่นายคนงาน อีกนานไหมกว่าจะถึง ฉันเมื่อยขาจะแย่แล้ว ร้อนก็ร้อน”
เขาหันมามองเธอและไหวไหล่
“แล้วใครใช้ให้คุณใส่รองเท้าส้นสูงมาล่ะครับ คิดว่ามาเดินเที่ยวหรือไง ”
“สูงตรงไหน นี่มันแค่สองนิ้วเองนะ” เพียงดาวเถียง “ตกลงมันอีกไกลไหม”
“เฮ้อ! ก็สุดทุ่งทานตะวันนี่ แล้วก็เดินลัดผ่านไร่องุ่นไปอีกราวๆ สองกิโลเมตรก็ถึงแล้ว”
“อะไรนะ ต้องเดินอีกไกลขนาดนั้นเชียวเหรอ” เพียงดาวรู้สึกหมดแรง อีกทั้งยังรู้สึกหิวน้ำ ตอนนี้ดอกทานตะวันที่แสนสวยรายรอบตัวเธออยู่ แต่หญิงสาวไม่ได้สนใจในความงามของมันเลยเธออยากจะถึงบ้านนายอนิรุตน์ให้เร็วที่สุด
อันที่จริงหากอัศนัยจะพาเธอนั่งรถที่เขาขับมาตรวจงานซึ่งจอดทิ้งไว้ท้ายไร่เพียงไม่ถึงห้านาทีก็คงจะถึงบ้านแล้ว แต่ด้วยความรู้สึกไม่ชอบส่วนตัว ที่รู้ว่าหญิงสาวคนนี้มาหาพี่ชายเขาด้วยเรื่องอะไรก็ทำให้เขาคิดจะแกล้งเธอเล่น ให้ต้องออกกำลังขามากๆเสียหน่อยเพื่อความสะใจ
เพียงดาวเดินมาอีกไม่นานก็ผ่านไร่องุ่นกว้างที่กำลังออกลูกเป็นพวงดกดูน่ากินมีคนงานหลายคนกำลังทำค้างอันใหม่สำหรับให้องุ่นเกาะอยู่อีกด้านหนึ่งของไร่ และมองเห็นคนงานหญิงหลายคนกำลังตกแต่งพวงองุ่น ทุกคนค้อมศีรษะให้ยามที่เธอเดินผ่าน
“แหม...คนงานไร่นี้ นี่มารยาทดีกันจัง ไม่เหมือน...”
หญิงสาวพูดเบาๆแต่คนเดินนำหน้าได้ยิน เขาหัวเราะเบาๆ เช่นกัน แต่น้ำเสียงเย้ยหยัน เธอช่างไม่รู้อะไรเลยว่าเดินตามใครอยู่ คนงานพวกนั้นทำความเคารพเขาต่างหาก
“นี่นาย นายทำงานที่นี่มานานหรือยังแล้วคุณอนิรุตน์เขามีนิสัยยังไงพอจะบอกได้ไหม”
เพียงดาวพยายามชวนคนนำทางคุย อย่างน้อยการมาแปลกถิ่น ก็ควรจะผูกมิตรเอาไว้ดีกว่าสร้างศัตรู “นิสัยยังไงเหรอ คุณไม่รู้ว่าเขานิสัยเป็นยังไงยังอุตสาห์ดั้นด้นมาหาเขาอีกผมล่ะเชื่อเลย”เขาหัวเราะหึหึในลำคอ
“ฉันถามนายดีๆ จะพูดดีๆกับฉันบ้างไม่ได้เลยเหรอ” เพียงดาวไม่เข้าใจทำไมนายคนนี้ดูเหมือนจะไม่ชอบหน้าเธอนัก ทั้งๆที่เพิ่งจะพบกันเป็นครั้งแรก
“ผมก็พูดของผมแบบนี้ ฟังได้ก็ฟังฟังไม่ได้ก็ไม่ต้องฟัง” น้ำเสียงห้วน
“รอให้ฉันเป็นคุณนายไร่นี้เสียก่อนเถอะ จะไล่นายออกคนแรกเลย” หญิงสาวรู้สึกหมั่นไซร้จึงพูดคาดโทษเบาๆ แต่คนหูดีอย่างอัศนัยก็ได้ยิน
อย่างเธอมันก็คงเป็นได้แค่ตุ๊กตายาง ที่พี่อนิรุตน์ทิ้งเอาไว้ให้เป็นมรดกของเขา ทั้งๆที่เขาเองไม่ได้อยากจะได้อัศนัยตอบเธออยู่ภายในใจ
++++++++++++++++++++
“ถึงแล้วนี่ไงบ้านคุณอนิรุตน์” คนนำทางบอกแก่เพียงดาว จากนั้นเขาก็เดินเข้าไปในบ้านอย่างกับเป็นเจ้าของเสียเอง
“นี่นายเข้าไปในบ้านได้ด้วยเหรอ”
“เข้ามาได้รึเปล่าผมก็ไม่รู้ แต่ตอนนี้ผมก็เดินเข้ามาแล้วล่ะ”
“กวน....ทีน”หญิงสาวสบถเบาๆ แบบตั้งใจไม่ให้เขาได้ยิน
แต่คนหูดีหันมาส่งสายตาดุใส่ทัน
เพียงดาวมองบ้านที่น่าจะเรียกว่าคฤหาสน์กลางไร่เสียมากกว่า เธอไม่คิดว่านายอนิรุตน์จะร่ำรวยขนาดนี้ อย่างนี้สินะพ่อถึงอยากให้น้องส่าวเธอแต่งงานกับนายอนิรุตน์นักหนา แต่เพียงดาวรู้ดีว่าเพียงฟ้าคงไม่มีความสุขหากต้องฝืนใจแต่งงานกับคนที่ตัวเองไม่ได้รัก ดีแล้วที่แผนการสลับตัวครั้งนี้สำเร็จป่านนี้ยัยฟ้าคงถึงอังกฤษเรียบร้อยดีแล้ว แต่เธอนี่สิทำยังไงได้ก็เธออยากสวมบทพี่สาวที่แสนดีเองนี่จะโทษใคร
“แล้วไหนล่ะคุณอนิรุตน์” หญิงสาวกวาดตามองแต่ไม่มีใครสักคน
ภายในคฤหาสน์โอ่โถง แม่บ้านวัยกลางเดินเข้ามาหาคนงานที่นำทางให้เพียงดาว แถมยังถามอย่างดิบดีว่า
“คุณอั๊ดจะรับน้ำอะไรดีคะ น้ำเปล่าหรือน้ำส้มดีคะ” และมองเพียงดาวด้วยสายตาแปลกๆ
“ผมขอน้ำเปล่าละกันครับป้าแก้ว และขอน้ำส้มคั้นให้คุณผู้หญิงคนนี้ด้วยเธอเดินมาไกลจากทุ่งทานตะวันป่านนี้คงขอแห้งจนน้ำลายเหนียวแล้วล่ะ”
“ได้ค่ะ เอ..แต่ทำไมต้องเดินมารถในไร่ก็มี” แม่บ้านเดินเข้าครัวและบ่นพรึมพรำจากหน้าไร่มาถึงนี่ใครๆเขาก็ใช้รถกันทั้งนั้นแม้แต่คนงานในไร่ยังมีรถรับส่งเข้าออกเลย
เพียงดาวมองเขา นายคนนี้ทำไมชอบว่ากระทบเธอนัก แต่เอ...ทำไมแม่บ้านคนนั้นถึงพูดจากับเขาราวกับว่าเขาไม่ใช่คนงานในไร่ธรรมดา
อัศนัยรู้สึกอึดอัดกับหมวกไหมพรหม เขาถอดมันออกเผยให้เห็นใบหน้าขาว หล่อคมเข้ม จนเพียงดาวมองค้างอย่างไม่เชื่อสายตา
“มองอะไร ไม่เคยเห็นคนหน้าตาดีเหรอครับ” เขาพูดจากวนๆ แต่หน้าไม่ยิ้ม
“ฉัน...เอ่อ...เปล่าสักหน่อย”
เพียงดาวยอมรับว่าเธอเห็นผู้ชายหน้าตาดีมามากก็จริง แต่นายคนงานคนนี้หน้าตาหล่อดูดีอย่างกับโป๊บ ธนวรรธน์ ดาราที่เธอแอบปลื้ม จะว่าไปหุ่นก็เหมือนนายแบบยิ่งถ้าได้แต่งตัวดีๆ สงสัยจะหล่อกว่านี้อีกหลายเท่าแล้วทำไมถึงมาเป็นลูกจ้างในไร่ได้
“เลิกมองผมตาค้างได้แล้ว และนั่งลงตรงโซฟานั่นเรามีเรื่องต้องคุยกัน”
เพียงดาวมองตามปลายนิ้วที่เขาชี้ โซฟารับแขกหนังอย่างดีสีน้ำตาลอมทองดูเหมือนจะเป็นงานสั่งทำ ดูจากสายตาเพียงดาวคิดว่าราคาของมันคงเป็นหลักแสน เฟอร์นิเจอร์ที่นี่ดูหรูหราเกินกว่าจะเป็นบ้านไร่ในแบบที่เธอคิดเอาไว้
“นายอย่ามาชี้นิ้วสั่งแบบนี้นะ นายไม่ใช่เจ้าของบ้าน อีกอย่างเจ้าของบ้านเขายังไม่ได้ออกมาต้อนรับจะให้ฉันนั่งได้ยังไง แล้วนี่นายให้แม่บ้านไปบอกคุณอนิรุตน์หรือยังว่าฉันต้องการพบเขา”
“ฮึๆๆ คงไม่มีใครไปบอกให้คุณหรอก ถ้าเขาออกมาต้อนรับคุณจริงๆ ผมก็คงวิ่งเหมือนกัน”
“หมายความว่ายังไง” เพียงดาวเริ่มโมโห
“ตามมานี่สิ” อัศนัยเดินผ่านห้องโถงลึกเข้าไปในตัวบ้านทางปลีกซ้าย เขาไปหยุดหน้าห้องสุดท้ายและเปิดประตูเข้าไปในนั้น
เพียงดาวเริ่มรู้สึกแล้วว่าเขาคงไม่ใช่คนงานธรรมดาอย่างที่เธอเคยเข้าใจ ดูเหมือนเขาจะรู้จักบ้านหลังนี้ดี
“อยากพบเขามากไม่ใช่เหรอเข้ามาสิยืนเอ๋ออยู่ทำไม” อัศนัยผายมือเชื้อเชิญให้หญิงสาวเดินตามเข้าไป
หญิงสาวแทบผงะ รูปที่ฝาผนังในกรอบรูปขนาดใหญ่ทำจากไม้สักทองเนื้อดีระบุชื่อ อนิรุตน์ นรบดี ใต้รูปซึ่งเป็นโต๊ะไม้สักมีโกศลวดลายวิจิตรตั้งเอาไว้ ข้างๆมีพวงมาลัยดอกไม้สดวางอยูในพาน
“คุณอนิรุตน์ เสียแล้วเหรอคะ” เพียงดาวถึงกับอึ้ง
“ใช่ ก็คุณมาช้ากว่ากำหนดเกือบเดือน พี่อนิรุตน์คงรอคุณไม่ไหว เขาเสียชีวิตด้วยโรคไตวาย”
“พี่เหรอ”
“ใช่ผม อัศนัย นรบดี เป็นน้องชายคนเดียวของพี่อนิรุตน์”
“ฉันเสียใจด้วยค่ะ เรื่องคุณอนิรุตน์แต่ทำไมคุณถึงไม่แจ้งไปทางบ้านดิฉันเราจะได้มาร่วมงานศพ”
“ผมไม่รู้ที่อยู่พวกคุณไม่มีแม้แต่เบอร์โทรศัพท์ของพวกคุณ รู้แต่เพียงพี่อนิรุตน์เขาคอยคุณ เขาบอกผมว่าเจ้าสาวจะเดินทางมาที่นี่เมื่อเดือนที่แล้ว
“ฉันไม่เข้าใจ”
เพียงดาวยิ่งสับสนพ่อสั่งให้เพียงฟ้าเดินทางมาหานายอนิรุตน์ แล้วทำไมพ่อไม่รู้ว่านายอนิรุตน์ตายแล้ว เรื่องราวมันชักจะยังไง แต่จะว่าไปถึงเธอจะรู้สึกเห็นใจที่นายอนิรุตน์ต้องมาจากไปด้วยโรคไตวาย แต่ทว่าถ้านายอนิรุตน์ตายไปแล้วเท่ากับว่าเพียงฟ้าก็ไม่ต้องแต่งงานกับนายอนิรุตน์ ทีนี้เพียงฟ้าตัวปลอมอย่างเธอก็กลับบ้านได้ล่ะสิ เธอไม่ต้องทนอยู่ที่นี่ ไม่ต้องขอร้องให้นายอนิรุตน์ยกเลิกการแต่งงาน นับว่าการเดินทางมาวันนี้ได้รับทั้งข่าวร้ายและข่าวดีพร้อมๆกัน +++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
อัปสรา
เผยแพร่ครั้งแรกเมื่อ : 8 ก.ย. 2554, 13:18:56 น.
แก้ไขครั้งล่าสุด : 8 ก.ย. 2554, 13:26:52 น.
จำนวนการเข้าชม : 3642
ตอนที่ 3 >> |
ยุพากร 8 ก.ย. 2554, 15:19:46 น.
มาเร็วดีจริงๆ ค่ะ อิอิ...คิดเหมือนกันเลยค่ะ คุณanOO
มาเร็วดีจริงๆ ค่ะ อิอิ...คิดเหมือนกันเลยค่ะ คุณanOO
lovemuay 8 ก.ย. 2554, 15:33:05 น.
แหม ที่จริงคุณพ่อคงวางแผนกับอนิรุตน์จับคู่ยัยฟ้ากับนายอัศนัยเสียมากกว่า แต่งานนี้ผิดฝาผิดตัว อิอิ
แหม ที่จริงคุณพ่อคงวางแผนกับอนิรุตน์จับคู่ยัยฟ้ากับนายอัศนัยเสียมากกว่า แต่งานนี้ผิดฝาผิดตัว อิอิ
อัปสรา 8 ก.ย. 2554, 20:16:22 น.
เดากันได้เลยค่ะ
เดากันได้เลยค่ะ
กาซะลองพลัดถิ่น 8 ก.ย. 2554, 20:53:50 น.
ว่าแต่ไรเตอร์หรือเพียงดาวกันแน่นะ ที่ชอบ โป๊บ ....แหะ แหะ คนอ่านคนนี้ก็ชอบเหมือนกันคะ
ว่าแต่ไรเตอร์หรือเพียงดาวกันแน่นะ ที่ชอบ โป๊บ ....แหะ แหะ คนอ่านคนนี้ก็ชอบเหมือนกันคะ
อัปสรา 8 ก.ย. 2554, 21:20:25 น.
แหม ถูกคนรู้ทัน
แหม ถูกคนรู้ทัน
อัปสรา 9 ก.ย. 2554, 07:55:24 น.
รัยทราบค่ะ เดี๋ยวรีบจัดให้
รัยทราบค่ะ เดี๋ยวรีบจัดให้
kaero 9 ก.ย. 2554, 15:03:12 น.
อัพต่อ อยากรู้ๆๆๆๆๆ
อัพต่อ อยากรู้ๆๆๆๆๆ